แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Smile Smile

1786


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนั้งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เขาชื่อว่า Acuña เหนื่อยจากการทำงานมามากแล้ว และเขาไม่อยากทำอะไรให้เหนื่อยเพิ่มอีก จึงตัดสินขับรถผ่านแมวน้อยตัวนั้นไปแต่ขณะที่ขับรถต่อไปนั้น ภาพของแมวตัวนั้นยังคิดติดอยู่ในใจของเขา พลันคิดไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแมวตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่?หลังจากคิดวนไปวนมาหลายรอบ Acuña ก็ตัดสินใจกลับรถเพื่อไปตรวจสอบแมวตัวนั้นอีกครั้ง เขาขับไปตามสะพานลอยอย่างช้าๆ พร้อมเปิดไฟขอทาง



และด้านล่างนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใดเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด
ผ่านไปประมาณ 2-3 วัน Pepper ก็ดูผ่อนคลายลง มันเริ่มออกจากที่ซ่อน คลายความหวาดกลัว และทำให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆ แล้ว มันเป็นแมวที่มีนิสัยร่าเริง



เจ้าแมวน้อยดูมีความสุขซะจนไม่อยากเชื่อว่าก่อนหน้านี้มันเจอเรื่องแย่ๆ มาสำหรับ Acuña และครอบครัวนั้น พวกเขาไม่ใช่คนหน้าใหม่ที่ให้การช่วยเหลือสัตว์ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขามักจะให้การช่วยเหลือสัตว์จรจัด แถมยังหาบ้านให้พวกมันด้วยจึงนับว่าเป็นความโชคดีของ Pepper ที่ได้มาอยู่ในการดูแลของครอบครัวนี้ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวของ Pepper ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ มีคนจำนวนมากขอรับเลี้ยงมัน แต่ Acuña ยังไม่ตัดสินใจส่งมอบให้ใครคนใดคนหนึ่งทันที เพราะเขาอยากให้แน่ใจว่าก่อนว่า Pepper จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด








1787


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนั้งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เขาชื่อว่า Acuña เหนื่อยจากการทำงานมามากแล้ว และเขาไม่อยากทำอะไรให้เหนื่อยเพิ่มอีก จึงตัดสินขับรถผ่านแมวน้อยตัวนั้นไปแต่ขณะที่ขับรถต่อไปนั้น ภาพของแมวตัวนั้นยังคิดติดอยู่ในใจของเขา พลันคิดไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแมวตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่?หลังจากคิดวนไปวนมาหลายรอบ Acuña ก็ตัดสินใจกลับรถเพื่อไปตรวจสอบแมวตัวนั้นอีกครั้ง เขาขับไปตามสะพานลอยอย่างช้าๆ พร้อมเปิดไฟขอทาง



และด้านล่างนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใดเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด
ผ่านไปประมาณ 2-3 วัน Pepper ก็ดูผ่อนคลายลง มันเริ่มออกจากที่ซ่อน คลายความหวาดกลัว และทำให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆ แล้ว มันเป็นแมวที่มีนิสัยร่าเริง



เจ้าแมวน้อยดูมีความสุขซะจนไม่อยากเชื่อว่าก่อนหน้านี้มันเจอเรื่องแย่ๆ มาสำหรับ Acuña และครอบครัวนั้น พวกเขาไม่ใช่คนหน้าใหม่ที่ให้การช่วยเหลือสัตว์ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขามักจะให้การช่วยเหลือสัตว์จรจัด แถมยังหาบ้านให้พวกมันด้วยจึงนับว่าเป็นความโชคดีของ Pepper ที่ได้มาอยู่ในการดูแลของครอบครัวนี้ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวของ Pepper ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ มีคนจำนวนมากขอรับเลี้ยงมัน แต่ Acuña ยังไม่ตัดสินใจส่งมอบให้ใครคนใดคนหนึ่งทันที เพราะเขาอยากให้แน่ใจว่าก่อนว่า Pepper จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด








1788


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนั้งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เขาชื่อว่า Acuña เหนื่อยจากการทำงานมามากแล้ว และเขาไม่อยากทำอะไรให้เหนื่อยเพิ่มอีก จึงตัดสินขับรถผ่านแมวน้อยตัวนั้นไปแต่ขณะที่ขับรถต่อไปนั้น ภาพของแมวตัวนั้นยังคิดติดอยู่ในใจของเขา พลันคิดไปว่าจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าแมวตัวนั้นยังมีชีวิตอยู่?หลังจากคิดวนไปวนมาหลายรอบ Acuña ก็ตัดสินใจกลับรถเพื่อไปตรวจสอบแมวตัวนั้นอีกครั้ง เขาขับไปตามสะพานลอยอย่างช้าๆ พร้อมเปิดไฟขอทาง



และด้านล่างนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นต่อจากนั้นเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใดเมื่อเห็นแมวน้อยตัวนั้นใกล้ๆ เขารู้ทันทีว่ามันถูกทิ้งอย่างน่าเวทนา และเขาจะต้องพามันไปยังที่ปลอดภัย Acuña จึงอุ้มมันเข้ามาในรถ โดยที่มิ้วน้อยก็ไม่มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด
ผ่านไปประมาณ 2-3 วัน Pepper ก็ดูผ่อนคลายลง มันเริ่มออกจากที่ซ่อน คลายความหวาดกลัว และทำให้ทุกคนเห็นว่าจริงๆ แล้ว มันเป็นแมวที่มีนิสัยร่าเริง



เจ้าแมวน้อยดูมีความสุขซะจนไม่อยากเชื่อว่าก่อนหน้านี้มันเจอเรื่องแย่ๆ มาสำหรับ Acuña และครอบครัวนั้น พวกเขาไม่ใช่คนหน้าใหม่ที่ให้การช่วยเหลือสัตว์ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเขามักจะให้การช่วยเหลือสัตว์จรจัด แถมยังหาบ้านให้พวกมันด้วยจึงนับว่าเป็นความโชคดีของ Pepper ที่ได้มาอยู่ในการดูแลของครอบครัวนี้ทั้งนี้ หลังจากเรื่องราวของ Pepper ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ มีคนจำนวนมากขอรับเลี้ยงมัน แต่ Acuña ยังไม่ตัดสินใจส่งมอบให้ใครคนใดคนหนึ่งทันที เพราะเขาอยากให้แน่ใจว่าก่อนว่า Pepper จะได้รับสิ่งที่ดีที่สุด








1789


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารัก เมื่อ เจ้าตูบสี่ขามาพร้อมกับ The Avengers ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากจริงๆ ทำให้ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบตัวละครจากหนังชุดนี้จนเอามาแต่งคอสเพลย์ สัตว์เลี้ยงเองก็พลอยได้แต่งคอสเพลย์กับเขาไปด้วย เจ้าหมาเจ้าแมวพวกนี้ก็เลยได้มีโอกาสแปลงร่างจากสัตว์ธรรมดาๆ กลายเป็น The Avengers ฉบับขนปุย แล้วถึงพวกมันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนในหนัง แต่ถ้าเป็นเรื่องความน่ารักเป็นอย่างมากกก เอาเป็นว่าวันนี่เรามีภาพน่ารักๆมาฝากกันจ้าาา


































1790


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารัก เมื่อ เจ้าตูบสี่ขามาพร้อมกับ The Avengers ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากจริงๆ ทำให้ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบตัวละครจากหนังชุดนี้จนเอามาแต่งคอสเพลย์ สัตว์เลี้ยงเองก็พลอยได้แต่งคอสเพลย์กับเขาไปด้วย เจ้าหมาเจ้าแมวพวกนี้ก็เลยได้มีโอกาสแปลงร่างจากสัตว์ธรรมดาๆ กลายเป็น The Avengers ฉบับขนปุย แล้วถึงพวกมันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนในหนัง แต่ถ้าเป็นเรื่องความน่ารักเป็นอย่างมากกก เอาเป็นว่าวันนี่เรามีภาพน่ารักๆมาฝากกันจ้าาา


































1791


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารัก เมื่อ เจ้าตูบสี่ขามาพร้อมกับ The Avengers ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากจริงๆ ทำให้ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบตัวละครจากหนังชุดนี้จนเอามาแต่งคอสเพลย์ สัตว์เลี้ยงเองก็พลอยได้แต่งคอสเพลย์กับเขาไปด้วย เจ้าหมาเจ้าแมวพวกนี้ก็เลยได้มีโอกาสแปลงร่างจากสัตว์ธรรมดาๆ กลายเป็น The Avengers ฉบับขนปุย แล้วถึงพวกมันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนในหนัง แต่ถ้าเป็นเรื่องความน่ารักเป็นอย่างมากกก เอาเป็นว่าวันนี่เรามีภาพน่ารักๆมาฝากกันจ้าาา


































1792


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารัก เมื่อ เจ้าตูบสี่ขามาพร้อมกับ The Avengers ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากจริงๆ ทำให้ไม่ได้มีแค่มนุษย์เท่านั้นที่ชื่นชอบตัวละครจากหนังชุดนี้จนเอามาแต่งคอสเพลย์ สัตว์เลี้ยงเองก็พลอยได้แต่งคอสเพลย์กับเขาไปด้วย เจ้าหมาเจ้าแมวพวกนี้ก็เลยได้มีโอกาสแปลงร่างจากสัตว์ธรรมดาๆ กลายเป็น The Avengers ฉบับขนปุย แล้วถึงพวกมันจะไม่ได้ทรงพลังเหมือนในหนัง แต่ถ้าเป็นเรื่องความน่ารักเป็นอย่างมากกก เอาเป็นว่าวันนี่เรามีภาพน่ารักๆมาฝากกันจ้าาา


































1793


เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวประทับใจในโลกโซเชียล เมื่อคุณครูสาวเผยแพร่ภาพขณะทำการสอน โดยมีนักเรียน 4 ขา เข้ามาเรียนด้วย
นี่เป็นเรื่องจากครูสาวที่ชื่อ หนุ่ย เธอเล่าให้ฟังว่าตนเองเป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว เนื่องจากโตมากับมะหมา และครอบครัวเธอเองก็รักหมาเช่นกันสำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จะเล่านี้ เริ่มขึ้นเมื่อครูหนุ่ยสอบบรรจุได้ที่โรงเรียนบ้านเชียงดา ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ. อุดรธานี (สพป.อด1)ที่นั่นเธอได้พบกับสุนัขตัวเมียชื่อ กะเพรา เป็นหมาของอดีตภารโรงโรงเรียนแห่งนี้ เจ้าตูบชอบมาหาครูหนุ่ย เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เอาอาหารและขนมให้มันเป็นประจำ



นอกจากเอาอาหารให้แล้ว เวลาว่างเธอก็จะนั่งหาเห็บ หาหมัดให้มัน ทั้งยังทำแผลให้ เวลาที่มันได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เจ้ากะเพราจึงผูกพันกับครูหนุ่ยอย่างรวดเร็วต่อมา มีสุนัขตัวผู้พันธุ์ลาบราดอร์ชื่อ ออสก้า เข้ามาติดพันเจ้ากะเพราจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แน่นอนว่าครูหนุ่ยก็ต้องเป็นคนคอยให้น้ำ ให้อาหารมันด้วยเช่นกันเจ้าออสก้าอยู่กับแฟนสาวจนกระทั่งกะเพราตั้งท้องและคลอดลูก ทั้งนี้ครูหนุ่ยได้หาคนใจบุญรับเลี้ยงลูกหมาจนหมดทุกตัว เหลือเพียงเจ้านมสด ซึ่งเป็นลูกหมาตัวเมียเมื่อหาบ้านไม่ได้ ทางโรงเรียนจึงรับเลี้ยงเจ้านมสดไว้เอง และเตรียมพาไปทำหมัน เมื่อมันโตพอสำหรับผ่าตัดได้ ส่วนกะเพรา แม่ของมัน หลังจากคลอดได้ไม่นาน ทางโรงเรียนก็ได้พาไปทำหมันเรียบร้อยแล้ว



นั่นหมายความว่าตอนนี้มีสุนัขที่อยู่ในการดูแลของครูหนุ่ย 3 ตัว คือ กะเพรา ออสก้า และนมสด เธอพยายามดูแลพวกมันอย่างดีที่สุดเท่าที่ครูคนหนึ่งจะทำได้เนื่องจากเหล่ามะหมาสามารถขึ้นห้องเรียนได้อย่างอิสระ และนักเรียนเองก็ชอบเล่นกับพวกมันด้วย ดังนั้น ครูหนุ่ยจึงพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีหมัด และสะอาดพอที่จะปล่อยให้นักเรียนเล่นด้วยได้นอกจากนี้ ครูหนุ่ยยังฉีดวัคซีน 6 โรครวมทั้งโรคพิษสุนัขด้วยตัวเอง และได้ทำประวัติให้พวกมันด้วย ปัจจุบัน เธอดูแลและคลุกคลีอยู่กับเจ้าตูบ 3 ตัวนี้มา 4 ปีแล้ว



ทุกๆ เช้า 3 ตูบจะวิ่งมารอครูหนุ่ยที่หน้าโรงเรียน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกมันก็จะตามไปส่งเธอถึงบ้าน ส่วนระหว่างวัน พวกมันจะตามติดเธอตลอดเวลาเหล่ามะหมาไม่ยอมอยู่ห่างคุณครูแม้แต่วินาทีเดียว แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ พวกมันก็จะตามเธอไปด้วย เวลาไปสอนเวียนห้องไหน อาคารไหน พวกมันก็จะไปนอนในห้องเรียนนั้นๆ ด้วยตลอดจากพฤติกรรมของ 3 ตูบ ครูหนุ่ยและนักเรียนทุกคนรู้ว่าพวกมันมีความสุขและสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณครู ส่วนเด็กนักเรียนก็รักหมา 3 ตัวนี้ทุกคน เพราะพวกมันน่ารักกับเด็กๆ ขี้เล่น และไม่เคยกัดใคร



เมื่อถึงวันหยุด วันปิดเทอม ครูหนุ่ยก็จะเอาอาหารกระป๋องและอาหารเม็ด ไปฝากเพื่อนบ้านข้างโรงเรียนให้เอาอาหารให้พวกมันแทนเธอในช่วงที่ครูหนุ่ยกลับบ้าน เจ้าตูบทั้ง 3 จะไปอยู่ที่โรงเรียน ไม่ไปไหน และเฝ้ารอวันที่ครูคนโปรดกลับมาหา
เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน ทันทีที่เห็นครูหนุ่ยเดินเข้ามาโรงเรียนมา เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวก็จะวิ่งไปหาเธอ และทำเสียงเหมือนบ่นๆ พึมพำ ราวกับจะบอกเธอว่าพวกมันคิดถึงเธอมากแม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ชนบท แต่ครูหนุ่ยรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มาบรรจุที่นี่ แน่นอนว่าผู้ที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นคือ เหล่ามะหมาทั้ง 3 ตัวนี้แหละ










url=https://pic.marketdogs.com/image/HMywF][/iurl]






















1794


เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวประทับใจในโลกโซเชียล เมื่อคุณครูสาวเผยแพร่ภาพขณะทำการสอน โดยมีนักเรียน 4 ขา เข้ามาเรียนด้วย
นี่เป็นเรื่องจากครูสาวที่ชื่อ หนุ่ย เธอเล่าให้ฟังว่าตนเองเป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว เนื่องจากโตมากับมะหมา และครอบครัวเธอเองก็รักหมาเช่นกันสำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จะเล่านี้ เริ่มขึ้นเมื่อครูหนุ่ยสอบบรรจุได้ที่โรงเรียนบ้านเชียงดา ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ. อุดรธานี (สพป.อด1)ที่นั่นเธอได้พบกับสุนัขตัวเมียชื่อ กะเพรา เป็นหมาของอดีตภารโรงโรงเรียนแห่งนี้ เจ้าตูบชอบมาหาครูหนุ่ย เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เอาอาหารและขนมให้มันเป็นประจำ



นอกจากเอาอาหารให้แล้ว เวลาว่างเธอก็จะนั่งหาเห็บ หาหมัดให้มัน ทั้งยังทำแผลให้ เวลาที่มันได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เจ้ากะเพราจึงผูกพันกับครูหนุ่ยอย่างรวดเร็วต่อมา มีสุนัขตัวผู้พันธุ์ลาบราดอร์ชื่อ ออสก้า เข้ามาติดพันเจ้ากะเพราจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แน่นอนว่าครูหนุ่ยก็ต้องเป็นคนคอยให้น้ำ ให้อาหารมันด้วยเช่นกันเจ้าออสก้าอยู่กับแฟนสาวจนกระทั่งกะเพราตั้งท้องและคลอดลูก ทั้งนี้ครูหนุ่ยได้หาคนใจบุญรับเลี้ยงลูกหมาจนหมดทุกตัว เหลือเพียงเจ้านมสด ซึ่งเป็นลูกหมาตัวเมียเมื่อหาบ้านไม่ได้ ทางโรงเรียนจึงรับเลี้ยงเจ้านมสดไว้เอง และเตรียมพาไปทำหมัน เมื่อมันโตพอสำหรับผ่าตัดได้ ส่วนกะเพรา แม่ของมัน หลังจากคลอดได้ไม่นาน ทางโรงเรียนก็ได้พาไปทำหมันเรียบร้อยแล้ว



นั่นหมายความว่าตอนนี้มีสุนัขที่อยู่ในการดูแลของครูหนุ่ย 3 ตัว คือ กะเพรา ออสก้า และนมสด เธอพยายามดูแลพวกมันอย่างดีที่สุดเท่าที่ครูคนหนึ่งจะทำได้เนื่องจากเหล่ามะหมาสามารถขึ้นห้องเรียนได้อย่างอิสระ และนักเรียนเองก็ชอบเล่นกับพวกมันด้วย ดังนั้น ครูหนุ่ยจึงพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีหมัด และสะอาดพอที่จะปล่อยให้นักเรียนเล่นด้วยได้นอกจากนี้ ครูหนุ่ยยังฉีดวัคซีน 6 โรครวมทั้งโรคพิษสุนัขด้วยตัวเอง และได้ทำประวัติให้พวกมันด้วย ปัจจุบัน เธอดูแลและคลุกคลีอยู่กับเจ้าตูบ 3 ตัวนี้มา 4 ปีแล้ว



ทุกๆ เช้า 3 ตูบจะวิ่งมารอครูหนุ่ยที่หน้าโรงเรียน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกมันก็จะตามไปส่งเธอถึงบ้าน ส่วนระหว่างวัน พวกมันจะตามติดเธอตลอดเวลาเหล่ามะหมาไม่ยอมอยู่ห่างคุณครูแม้แต่วินาทีเดียว แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ พวกมันก็จะตามเธอไปด้วย เวลาไปสอนเวียนห้องไหน อาคารไหน พวกมันก็จะไปนอนในห้องเรียนนั้นๆ ด้วยตลอดจากพฤติกรรมของ 3 ตูบ ครูหนุ่ยและนักเรียนทุกคนรู้ว่าพวกมันมีความสุขและสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณครู ส่วนเด็กนักเรียนก็รักหมา 3 ตัวนี้ทุกคน เพราะพวกมันน่ารักกับเด็กๆ ขี้เล่น และไม่เคยกัดใคร



เมื่อถึงวันหยุด วันปิดเทอม ครูหนุ่ยก็จะเอาอาหารกระป๋องและอาหารเม็ด ไปฝากเพื่อนบ้านข้างโรงเรียนให้เอาอาหารให้พวกมันแทนเธอในช่วงที่ครูหนุ่ยกลับบ้าน เจ้าตูบทั้ง 3 จะไปอยู่ที่โรงเรียน ไม่ไปไหน และเฝ้ารอวันที่ครูคนโปรดกลับมาหา
เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน ทันทีที่เห็นครูหนุ่ยเดินเข้ามาโรงเรียนมา เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวก็จะวิ่งไปหาเธอ และทำเสียงเหมือนบ่นๆ พึมพำ ราวกับจะบอกเธอว่าพวกมันคิดถึงเธอมากแม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ชนบท แต่ครูหนุ่ยรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มาบรรจุที่นี่ แน่นอนว่าผู้ที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นคือ เหล่ามะหมาทั้ง 3 ตัวนี้แหละ










url=https://pic.marketdogs.com/image/HMywF][/iurl]






















1795


เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวประทับใจในโลกโซเชียล เมื่อคุณครูสาวเผยแพร่ภาพขณะทำการสอน โดยมีนักเรียน 4 ขา เข้ามาเรียนด้วย
นี่เป็นเรื่องจากครูสาวที่ชื่อ หนุ่ย เธอเล่าให้ฟังว่าตนเองเป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว เนื่องจากโตมากับมะหมา และครอบครัวเธอเองก็รักหมาเช่นกันสำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จะเล่านี้ เริ่มขึ้นเมื่อครูหนุ่ยสอบบรรจุได้ที่โรงเรียนบ้านเชียงดา ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ. อุดรธานี (สพป.อด1)ที่นั่นเธอได้พบกับสุนัขตัวเมียชื่อ กะเพรา เป็นหมาของอดีตภารโรงโรงเรียนแห่งนี้ เจ้าตูบชอบมาหาครูหนุ่ย เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เอาอาหารและขนมให้มันเป็นประจำ



นอกจากเอาอาหารให้แล้ว เวลาว่างเธอก็จะนั่งหาเห็บ หาหมัดให้มัน ทั้งยังทำแผลให้ เวลาที่มันได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เจ้ากะเพราจึงผูกพันกับครูหนุ่ยอย่างรวดเร็วต่อมา มีสุนัขตัวผู้พันธุ์ลาบราดอร์ชื่อ ออสก้า เข้ามาติดพันเจ้ากะเพราจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แน่นอนว่าครูหนุ่ยก็ต้องเป็นคนคอยให้น้ำ ให้อาหารมันด้วยเช่นกันเจ้าออสก้าอยู่กับแฟนสาวจนกระทั่งกะเพราตั้งท้องและคลอดลูก ทั้งนี้ครูหนุ่ยได้หาคนใจบุญรับเลี้ยงลูกหมาจนหมดทุกตัว เหลือเพียงเจ้านมสด ซึ่งเป็นลูกหมาตัวเมียเมื่อหาบ้านไม่ได้ ทางโรงเรียนจึงรับเลี้ยงเจ้านมสดไว้เอง และเตรียมพาไปทำหมัน เมื่อมันโตพอสำหรับผ่าตัดได้ ส่วนกะเพรา แม่ของมัน หลังจากคลอดได้ไม่นาน ทางโรงเรียนก็ได้พาไปทำหมันเรียบร้อยแล้ว



นั่นหมายความว่าตอนนี้มีสุนัขที่อยู่ในการดูแลของครูหนุ่ย 3 ตัว คือ กะเพรา ออสก้า และนมสด เธอพยายามดูแลพวกมันอย่างดีที่สุดเท่าที่ครูคนหนึ่งจะทำได้เนื่องจากเหล่ามะหมาสามารถขึ้นห้องเรียนได้อย่างอิสระ และนักเรียนเองก็ชอบเล่นกับพวกมันด้วย ดังนั้น ครูหนุ่ยจึงพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีหมัด และสะอาดพอที่จะปล่อยให้นักเรียนเล่นด้วยได้นอกจากนี้ ครูหนุ่ยยังฉีดวัคซีน 6 โรครวมทั้งโรคพิษสุนัขด้วยตัวเอง และได้ทำประวัติให้พวกมันด้วย ปัจจุบัน เธอดูแลและคลุกคลีอยู่กับเจ้าตูบ 3 ตัวนี้มา 4 ปีแล้ว



ทุกๆ เช้า 3 ตูบจะวิ่งมารอครูหนุ่ยที่หน้าโรงเรียน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกมันก็จะตามไปส่งเธอถึงบ้าน ส่วนระหว่างวัน พวกมันจะตามติดเธอตลอดเวลาเหล่ามะหมาไม่ยอมอยู่ห่างคุณครูแม้แต่วินาทีเดียว แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ พวกมันก็จะตามเธอไปด้วย เวลาไปสอนเวียนห้องไหน อาคารไหน พวกมันก็จะไปนอนในห้องเรียนนั้นๆ ด้วยตลอดจากพฤติกรรมของ 3 ตูบ ครูหนุ่ยและนักเรียนทุกคนรู้ว่าพวกมันมีความสุขและสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณครู ส่วนเด็กนักเรียนก็รักหมา 3 ตัวนี้ทุกคน เพราะพวกมันน่ารักกับเด็กๆ ขี้เล่น และไม่เคยกัดใคร



เมื่อถึงวันหยุด วันปิดเทอม ครูหนุ่ยก็จะเอาอาหารกระป๋องและอาหารเม็ด ไปฝากเพื่อนบ้านข้างโรงเรียนให้เอาอาหารให้พวกมันแทนเธอในช่วงที่ครูหนุ่ยกลับบ้าน เจ้าตูบทั้ง 3 จะไปอยู่ที่โรงเรียน ไม่ไปไหน และเฝ้ารอวันที่ครูคนโปรดกลับมาหา
เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน ทันทีที่เห็นครูหนุ่ยเดินเข้ามาโรงเรียนมา เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวก็จะวิ่งไปหาเธอ และทำเสียงเหมือนบ่นๆ พึมพำ ราวกับจะบอกเธอว่าพวกมันคิดถึงเธอมากแม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ชนบท แต่ครูหนุ่ยรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มาบรรจุที่นี่ แน่นอนว่าผู้ที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นคือ เหล่ามะหมาทั้ง 3 ตัวนี้แหละ










url=https://pic.marketdogs.com/image/HMywF][/iurl]






















1796


เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวประทับใจในโลกโซเชียล เมื่อคุณครูสาวเผยแพร่ภาพขณะทำการสอน โดยมีนักเรียน 4 ขา เข้ามาเรียนด้วย
นี่เป็นเรื่องจากครูสาวที่ชื่อ หนุ่ย เธอเล่าให้ฟังว่าตนเองเป็นคนรักสุนัขอยู่แล้ว เนื่องจากโตมากับมะหมา และครอบครัวเธอเองก็รักหมาเช่นกันสำหรับจุดเริ่มต้นของเรื่องที่จะเล่านี้ เริ่มขึ้นเมื่อครูหนุ่ยสอบบรรจุได้ที่โรงเรียนบ้านเชียงดา ต.เชียงดา อ.สร้างคอม จ. อุดรธานี (สพป.อด1)ที่นั่นเธอได้พบกับสุนัขตัวเมียชื่อ กะเพรา เป็นหมาของอดีตภารโรงโรงเรียนแห่งนี้ เจ้าตูบชอบมาหาครูหนุ่ย เพราะเธอเป็นคนเดียวที่เอาอาหารและขนมให้มันเป็นประจำ



นอกจากเอาอาหารให้แล้ว เวลาว่างเธอก็จะนั่งหาเห็บ หาหมัดให้มัน ทั้งยังทำแผลให้ เวลาที่มันได้รับบาดเจ็บอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ เจ้ากะเพราจึงผูกพันกับครูหนุ่ยอย่างรวดเร็วต่อมา มีสุนัขตัวผู้พันธุ์ลาบราดอร์ชื่อ ออสก้า เข้ามาติดพันเจ้ากะเพราจนไม่ยอมกลับบ้านกลับช่อง แน่นอนว่าครูหนุ่ยก็ต้องเป็นคนคอยให้น้ำ ให้อาหารมันด้วยเช่นกันเจ้าออสก้าอยู่กับแฟนสาวจนกระทั่งกะเพราตั้งท้องและคลอดลูก ทั้งนี้ครูหนุ่ยได้หาคนใจบุญรับเลี้ยงลูกหมาจนหมดทุกตัว เหลือเพียงเจ้านมสด ซึ่งเป็นลูกหมาตัวเมียเมื่อหาบ้านไม่ได้ ทางโรงเรียนจึงรับเลี้ยงเจ้านมสดไว้เอง และเตรียมพาไปทำหมัน เมื่อมันโตพอสำหรับผ่าตัดได้ ส่วนกะเพรา แม่ของมัน หลังจากคลอดได้ไม่นาน ทางโรงเรียนก็ได้พาไปทำหมันเรียบร้อยแล้ว



นั่นหมายความว่าตอนนี้มีสุนัขที่อยู่ในการดูแลของครูหนุ่ย 3 ตัว คือ กะเพรา ออสก้า และนมสด เธอพยายามดูแลพวกมันอย่างดีที่สุดเท่าที่ครูคนหนึ่งจะทำได้เนื่องจากเหล่ามะหมาสามารถขึ้นห้องเรียนได้อย่างอิสระ และนักเรียนเองก็ชอบเล่นกับพวกมันด้วย ดังนั้น ครูหนุ่ยจึงพยายามทำให้แน่ใจว่าพวกมันไม่มีหมัด และสะอาดพอที่จะปล่อยให้นักเรียนเล่นด้วยได้นอกจากนี้ ครูหนุ่ยยังฉีดวัคซีน 6 โรครวมทั้งโรคพิษสุนัขด้วยตัวเอง และได้ทำประวัติให้พวกมันด้วย ปัจจุบัน เธอดูแลและคลุกคลีอยู่กับเจ้าตูบ 3 ตัวนี้มา 4 ปีแล้ว



ทุกๆ เช้า 3 ตูบจะวิ่งมารอครูหนุ่ยที่หน้าโรงเรียน เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกมันก็จะตามไปส่งเธอถึงบ้าน ส่วนระหว่างวัน พวกมันจะตามติดเธอตลอดเวลาเหล่ามะหมาไม่ยอมอยู่ห่างคุณครูแม้แต่วินาทีเดียว แม้แต่ตอนเข้าห้องน้ำ พวกมันก็จะตามเธอไปด้วย เวลาไปสอนเวียนห้องไหน อาคารไหน พวกมันก็จะไปนอนในห้องเรียนนั้นๆ ด้วยตลอดจากพฤติกรรมของ 3 ตูบ ครูหนุ่ยและนักเรียนทุกคนรู้ว่าพวกมันมีความสุขและสบายใจที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณครู ส่วนเด็กนักเรียนก็รักหมา 3 ตัวนี้ทุกคน เพราะพวกมันน่ารักกับเด็กๆ ขี้เล่น และไม่เคยกัดใคร



เมื่อถึงวันหยุด วันปิดเทอม ครูหนุ่ยก็จะเอาอาหารกระป๋องและอาหารเม็ด ไปฝากเพื่อนบ้านข้างโรงเรียนให้เอาอาหารให้พวกมันแทนเธอในช่วงที่ครูหนุ่ยกลับบ้าน เจ้าตูบทั้ง 3 จะไปอยู่ที่โรงเรียน ไม่ไปไหน และเฝ้ารอวันที่ครูคนโปรดกลับมาหา
เมื่อถึงเวลาเปิดเรียน ทันทีที่เห็นครูหนุ่ยเดินเข้ามาโรงเรียนมา เจ้าตูบทั้ง 3 ตัวก็จะวิ่งไปหาเธอ และทำเสียงเหมือนบ่นๆ พึมพำ ราวกับจะบอกเธอว่าพวกมันคิดถึงเธอมากแม้ว่าโรงเรียนแห่งนี้จะอยู่ในพื้นที่ชนบท แต่ครูหนุ่ยรู้สึกโชคดีมากๆ ที่ได้มาบรรจุที่นี่ แน่นอนว่าผู้ที่ทำให้เธอรู้สึกเช่นนั้นคือ เหล่ามะหมาทั้ง 3 ตัวนี้แหละ










url=https://pic.marketdogs.com/image/HMywF][/iurl]






















1797


ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่อเจอสิ่งที่รัก เช่นลูก สิ่งแรกก็คงดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อแม่เจอได้เห็นน่าลูกครั้งแรกนั้น มันน่าประทับใจเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ดังนั้น เราจะไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อแทนและพ่อที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ พ่อนุ้งหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ มาดูกันว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเจอลูกน้อยทั้ง 9 ตัวเป็นครั้งแรกอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าลูกหมาแรกเกิดมักจะอยู่แต่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ และจะถูกแยกกับพ่อ เพราะเกรงว่าพ่อจะทำให้พวกมันบาดเจ็บได้เมื่อหมาน้อยโตในระดับหนึ่งแล้ว มันถึงจะได้เจอกับพ่อ และช่วงเวลานั้นแหละที่จะกลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดสำหรับพี่น้องฮัสกี้กลุ่มนี้



เมื่อพวกมันอายุได้ 6 สัปดาห์ ครอบครัวเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้พวกมันได้เจอกับพ่อ ซึ่งพ่อฮัสกี้เองก็เฝ้ารอลูกๆ ด้วยความตื่นเต้นมาตลอดตอนแรกครอบครัวฮัสกี้ถูกปล่อยให้อยู่ให้น้องเดียวกัน ดูเหมือนลูกๆ ไม่ค่อยสนใจพ่อสักเท่าไหร่ เพราะพวกมันจริงจังกับการกินนมแม่ขณะที่พ่อฮัสกี้นั้น ดูตื่นเต้นมากจนเก็บอาการไม่อยู่ มันพยายามจะเข้าไปทักทายลูกๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เลยวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่พักใหญ่กระทั่งลูกฮัสกี้น้อยตัวหนึ่งปลีกตัวออกมาจากแม่ และไปอยู่ที่มุมห้องอีกมุมหนึ่ง พ่อฮัสกี้คิดว่านี่แหละ เป็นโอกาสที่มันจะได้สัมผัสลูกสักที



แต่เอาเข้าใจจริงๆ มันก็ไม่กล้าเข้าไปหาลูกเหมือนเดิมนั่นแหละ ได้แต่วิ่งไปวิ่งมา จนเจ้าฮัสกี้น้อยถึงกับหันมาจ้องพ่อด้วยสายตางุนงงว่าพ่อทำอะไรเนี่ยอย่างไรก็ตาม หลังจากลูกๆ กินนมจนอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเล่น และตอนนั้นแหละ ที่พ่อฮัสกี้ถึงได้เล่นกับลูกๆ สักที มันพยายามอ่อนโยนกับลูก เล่นกับตัวนั้นที ตัวนี้ ดูมันมีความสุขมากๆและถ้าไม่ได้ดูที่ขนาดตัว จะแยกไม่ออกเลยว่าไหนพ่อไหนลูก เพราะพ่อลูกขี้เล่นพอกันลูกฮัสกี้น้อยรู้อยู่แล้วว่าตัวไหนคือแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าพวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าตัวไหนเป็นพ่อ เพราะพ่อดันเล่นกับพวกมันเหมือนเพื่อนเลย












1798


ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่อเจอสิ่งที่รัก เช่นลูก สิ่งแรกก็คงดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อแม่เจอได้เห็นน่าลูกครั้งแรกนั้น มันน่าประทับใจเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ดังนั้น เราจะไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อแทนและพ่อที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ พ่อนุ้งหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ มาดูกันว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเจอลูกน้อยทั้ง 9 ตัวเป็นครั้งแรกอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าลูกหมาแรกเกิดมักจะอยู่แต่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ และจะถูกแยกกับพ่อ เพราะเกรงว่าพ่อจะทำให้พวกมันบาดเจ็บได้เมื่อหมาน้อยโตในระดับหนึ่งแล้ว มันถึงจะได้เจอกับพ่อ และช่วงเวลานั้นแหละที่จะกลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดสำหรับพี่น้องฮัสกี้กลุ่มนี้



เมื่อพวกมันอายุได้ 6 สัปดาห์ ครอบครัวเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้พวกมันได้เจอกับพ่อ ซึ่งพ่อฮัสกี้เองก็เฝ้ารอลูกๆ ด้วยความตื่นเต้นมาตลอดตอนแรกครอบครัวฮัสกี้ถูกปล่อยให้อยู่ให้น้องเดียวกัน ดูเหมือนลูกๆ ไม่ค่อยสนใจพ่อสักเท่าไหร่ เพราะพวกมันจริงจังกับการกินนมแม่ขณะที่พ่อฮัสกี้นั้น ดูตื่นเต้นมากจนเก็บอาการไม่อยู่ มันพยายามจะเข้าไปทักทายลูกๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เลยวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่พักใหญ่กระทั่งลูกฮัสกี้น้อยตัวหนึ่งปลีกตัวออกมาจากแม่ และไปอยู่ที่มุมห้องอีกมุมหนึ่ง พ่อฮัสกี้คิดว่านี่แหละ เป็นโอกาสที่มันจะได้สัมผัสลูกสักที



แต่เอาเข้าใจจริงๆ มันก็ไม่กล้าเข้าไปหาลูกเหมือนเดิมนั่นแหละ ได้แต่วิ่งไปวิ่งมา จนเจ้าฮัสกี้น้อยถึงกับหันมาจ้องพ่อด้วยสายตางุนงงว่าพ่อทำอะไรเนี่ยอย่างไรก็ตาม หลังจากลูกๆ กินนมจนอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเล่น และตอนนั้นแหละ ที่พ่อฮัสกี้ถึงได้เล่นกับลูกๆ สักที มันพยายามอ่อนโยนกับลูก เล่นกับตัวนั้นที ตัวนี้ ดูมันมีความสุขมากๆและถ้าไม่ได้ดูที่ขนาดตัว จะแยกไม่ออกเลยว่าไหนพ่อไหนลูก เพราะพ่อลูกขี้เล่นพอกันลูกฮัสกี้น้อยรู้อยู่แล้วว่าตัวไหนคือแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าพวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าตัวไหนเป็นพ่อ เพราะพ่อดันเล่นกับพวกมันเหมือนเพื่อนเลย












1799


ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่อเจอสิ่งที่รัก เช่นลูก สิ่งแรกก็คงดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อแม่เจอได้เห็นน่าลูกครั้งแรกนั้น มันน่าประทับใจเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ดังนั้น เราจะไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อแทนและพ่อที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ พ่อนุ้งหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ มาดูกันว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเจอลูกน้อยทั้ง 9 ตัวเป็นครั้งแรกอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าลูกหมาแรกเกิดมักจะอยู่แต่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ และจะถูกแยกกับพ่อ เพราะเกรงว่าพ่อจะทำให้พวกมันบาดเจ็บได้เมื่อหมาน้อยโตในระดับหนึ่งแล้ว มันถึงจะได้เจอกับพ่อ และช่วงเวลานั้นแหละที่จะกลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดสำหรับพี่น้องฮัสกี้กลุ่มนี้



เมื่อพวกมันอายุได้ 6 สัปดาห์ ครอบครัวเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้พวกมันได้เจอกับพ่อ ซึ่งพ่อฮัสกี้เองก็เฝ้ารอลูกๆ ด้วยความตื่นเต้นมาตลอดตอนแรกครอบครัวฮัสกี้ถูกปล่อยให้อยู่ให้น้องเดียวกัน ดูเหมือนลูกๆ ไม่ค่อยสนใจพ่อสักเท่าไหร่ เพราะพวกมันจริงจังกับการกินนมแม่ขณะที่พ่อฮัสกี้นั้น ดูตื่นเต้นมากจนเก็บอาการไม่อยู่ มันพยายามจะเข้าไปทักทายลูกๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เลยวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่พักใหญ่กระทั่งลูกฮัสกี้น้อยตัวหนึ่งปลีกตัวออกมาจากแม่ และไปอยู่ที่มุมห้องอีกมุมหนึ่ง พ่อฮัสกี้คิดว่านี่แหละ เป็นโอกาสที่มันจะได้สัมผัสลูกสักที



แต่เอาเข้าใจจริงๆ มันก็ไม่กล้าเข้าไปหาลูกเหมือนเดิมนั่นแหละ ได้แต่วิ่งไปวิ่งมา จนเจ้าฮัสกี้น้อยถึงกับหันมาจ้องพ่อด้วยสายตางุนงงว่าพ่อทำอะไรเนี่ยอย่างไรก็ตาม หลังจากลูกๆ กินนมจนอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเล่น และตอนนั้นแหละ ที่พ่อฮัสกี้ถึงได้เล่นกับลูกๆ สักที มันพยายามอ่อนโยนกับลูก เล่นกับตัวนั้นที ตัวนี้ ดูมันมีความสุขมากๆและถ้าไม่ได้ดูที่ขนาดตัว จะแยกไม่ออกเลยว่าไหนพ่อไหนลูก เพราะพ่อลูกขี้เล่นพอกันลูกฮัสกี้น้อยรู้อยู่แล้วว่าตัวไหนคือแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าพวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าตัวไหนเป็นพ่อ เพราะพ่อดันเล่นกับพวกมันเหมือนเพื่อนเลย












1800


ไม่ว่าจะคนหรือสัตว์ เมื่อเจอสิ่งที่รัก เช่นลูก สิ่งแรกก็คงดีใจเป็นอย่างมาก เมื่อแม่เจอได้เห็นน่าลูกครั้งแรกนั้น มันน่าประทับใจเกินกว่าจะบรรยายเป็นคำพูดได้ ดังนั้น เราจะไม่พูดถึง แต่จะพูดถึงปฏิกิริยาของผู้เป็นพ่อแทนและพ่อที่เราจะพูดถึงวันนี้คือ พ่อนุ้งหมาไซบีเรียน ฮัสกี้ มาดูกันว่ามันจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เมื่อเจอลูกน้อยทั้ง 9 ตัวเป็นครั้งแรกอย่างที่รู้กันอยู่แล้วว่าลูกหมาแรกเกิดมักจะอยู่แต่กับแม่เป็นส่วนใหญ่ และจะถูกแยกกับพ่อ เพราะเกรงว่าพ่อจะทำให้พวกมันบาดเจ็บได้เมื่อหมาน้อยโตในระดับหนึ่งแล้ว มันถึงจะได้เจอกับพ่อ และช่วงเวลานั้นแหละที่จะกลายเป็นโมเมนต์ที่น่าจดจำที่สุดสำหรับพี่น้องฮัสกี้กลุ่มนี้



เมื่อพวกมันอายุได้ 6 สัปดาห์ ครอบครัวเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะให้พวกมันได้เจอกับพ่อ ซึ่งพ่อฮัสกี้เองก็เฝ้ารอลูกๆ ด้วยความตื่นเต้นมาตลอดตอนแรกครอบครัวฮัสกี้ถูกปล่อยให้อยู่ให้น้องเดียวกัน ดูเหมือนลูกๆ ไม่ค่อยสนใจพ่อสักเท่าไหร่ เพราะพวกมันจริงจังกับการกินนมแม่ขณะที่พ่อฮัสกี้นั้น ดูตื่นเต้นมากจนเก็บอาการไม่อยู่ มันพยายามจะเข้าไปทักทายลูกๆ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง เลยวิ่งเข้าวิ่งออกอยู่พักใหญ่กระทั่งลูกฮัสกี้น้อยตัวหนึ่งปลีกตัวออกมาจากแม่ และไปอยู่ที่มุมห้องอีกมุมหนึ่ง พ่อฮัสกี้คิดว่านี่แหละ เป็นโอกาสที่มันจะได้สัมผัสลูกสักที



แต่เอาเข้าใจจริงๆ มันก็ไม่กล้าเข้าไปหาลูกเหมือนเดิมนั่นแหละ ได้แต่วิ่งไปวิ่งมา จนเจ้าฮัสกี้น้อยถึงกับหันมาจ้องพ่อด้วยสายตางุนงงว่าพ่อทำอะไรเนี่ยอย่างไรก็ตาม หลังจากลูกๆ กินนมจนอิ่มแล้ว ก็ถึงเวลาเล่น และตอนนั้นแหละ ที่พ่อฮัสกี้ถึงได้เล่นกับลูกๆ สักที มันพยายามอ่อนโยนกับลูก เล่นกับตัวนั้นที ตัวนี้ ดูมันมีความสุขมากๆและถ้าไม่ได้ดูที่ขนาดตัว จะแยกไม่ออกเลยว่าไหนพ่อไหนลูก เพราะพ่อลูกขี้เล่นพอกันลูกฮัสกี้น้อยรู้อยู่แล้วว่าตัวไหนคือแม่ แต่ไม่แน่ใจว่าพวกมันจะรู้หรือเปล่าว่าตัวไหนเป็นพ่อ เพราะพ่อดันเล่นกับพวกมันเหมือนเพื่อนเลย