มารู้จักกับน้องหมา สายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย แสนรู้ รักเด็ก!!

น้องหมานั้นนับได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเป็นเวลานานคนได้ใช้ประโยชน์จากหมาเริ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการต้อนและล่าสัตว์ นอกจากนั้นหมายังสามารถเยียวยาจิตใจของคนได้ คนทั่วไปจึงนิยมเลี้ยงน้องหมาไว้เป็นเพื่อนข้างกายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในหลายครอบครัวที่มีเด็ก ก็เลือกที่จะเลี้ยงหมาไว้เป็นสมาชิกด้วย แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวที่ยังลังเลและกังวลใจที่จะมีหมาไว้ในครอบครัว การเลือกเลี้ยงน้องหมาสักตัวเข้ามาเป็นสมาชิกของครอบครัว จึงต้องคิดหนักกันสักหน่อย เพราะหลายคนมักจะกังวลว่า การเลี้ยงน้องหมาร่วมกับเด็กๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหา ได้ แต่ทราบหรือไม่ค่ะ

มีน้องหมาที่มีนิสัยดี รักเด็ก และสามารถเลี้ยงร่วมกันกับเด็กๆ ได้แบบไม่ต้องกังวลเลยค่ะ อย่างที่ในวันนี้ที่ได้รวบรวมน้องหมาที่สามารถเลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็กได้ มาฝากกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง



1.บีเกิล (Beagle)
 บีเกิลนั้นเป็นน้องหมาที่ขึ้นชื่อว่าจอมซนมากชอบที่จะเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ จึงเหมาะที่จะเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ในบ้านเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเป็นพันธุ์สุนัขที่ปรับตัวได้ง่ายกับทุกสถานการณ์ สามารถวางตัวได้เป็นอย่างดีในแต่ละบทบาทหน้าที่ ทั้งสัตว์เลี้ยงแสนภักดี พี่เลี้ยงเด็ก รึแม้แต่ยามเฝ้าบ้านที่จะคอยส่งเสียงเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ



2. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หนึ่งในสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงไปทั่วโลก ซึ่งติดอันดับเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวตลอดกาลเพราะนอกจากจะมีนิสัยเป็นมิตร น่ารัก อ่อนโยนแล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ



3. บอสตัน เทอร์เรียร์ (Boston Terrier)

บอสตัน เทอร์เรียร์ บรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์  บอสตัน เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่เป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์อื่น ๆ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ร่าเริง และพร้อมจะมอบความรัก ทุ่มเทให้แก่คนในครอบครัว รักการทำกิจกรรมเกือบทุกชนิด อีกทั้งยังรักความสะอาด ชอบอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ เจ้าของ ไม่ไฮเปอร์ ซนและวุ่นวายให้ปวดหัวอีกด้วยค่ะ



4. ปั๊ก (pugs)
น้องหมาหน้าย่นไซส์กลาง ๆ นิสัยซุกซน ขี้สงสัย ปั๊กจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลาย ๆ คนให้ความเอ็นดูและอยากจับจองเป็นเจ้าของ ปั๊กเป็นสุนัขสะอาด แทบไม่ส่งเสียงเห่า อยู่ได้แม้พื้นที่ของบ้านจะเล็กหรือคับก็ไม่ใช่ปัญหาเลยเพราะเขาอยู่ได้กับภาพทุกรูปแบบแถมยังเข้ากับเด็กได้ดีอีกด้วย



5. เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)

เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก น้องหมาที่มีขนยาวสลวยราวแพรไหม ฉลาดหลักแหลม มีความ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร อ่อนโยน ใจดีมีเมตตาเข้ากับสัตว์อื่น ๆ ได้ง่าย ใจดีกับเด็ก ๆ ไม่ก้าวร้าว แต่มีข้อเสียที่จะพลัดขนบ่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนให้เขาอย่างสม่ำเสมอนะคะ ถ้ามีสมาชิกที่เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์ ก็ควรจัดให้เป็นช้อยถัดไปค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะยังมีน้องหมาอีกหลายสายพันธุ์นะคะที่สามารถเลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวที่มีเด็กได้แต่ที่นำเสนอในวันนี้นั้นเป็นเพียงแค่น้องหมาสายพันธุ์ที่รู้จักและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายอย่างไรก็ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในสายพันูธุ์ที่ชอบก่อนที่จะนำมาเลี้ยงด้วยนะคะ เพื่อจะได้ดูแลน้องได้อย่างเหมาะสมค่ะ

มารู้จักกับน้องหมา สายพันธุ์ที่เลี้ยงง่าย แสนรู้ รักเด็ก!!

น้องหมานั้นนับได้ว่าเป็นสัตว์ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนเป็นเวลานานคนได้ใช้ประโยชน์จากหมาเริ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์ในการต้อนและล่าสัตว์ นอกจากนั้นหมายังสามารถเยียวยาจิตใจของคนได้ คนทั่วไปจึงนิยมเลี้ยงน้องหมาไว้เป็นเพื่อนข้างกายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

ในหลายครอบครัวที่มีเด็ก ก็เลือกที่จะเลี้ยงหมาไว้เป็นสมาชิกด้วย แต่ก็มีอีกหลายครอบครัวที่ยังลังเลและกังวลใจที่จะมีหมาไว้ในครอบครัว การเลือกเลี้ยงน้องหมาสักตัวเข้ามาเป็นสมาชิกของครอบครัว จึงต้องคิดหนักกันสักหน่อย เพราะหลายคนมักจะกังวลว่า การเลี้ยงน้องหมาร่วมกับเด็กๆ อาจจะทำให้เกิดปัญหา ได้ แต่ทราบหรือไม่ค่ะ

มีน้องหมาที่มีนิสัยดี รักเด็ก และสามารถเลี้ยงร่วมกันกับเด็กๆ ได้แบบไม่ต้องกังวลเลยค่ะ อย่างที่ในวันนี้ที่ได้รวบรวมน้องหมาที่สามารถเลี้ยงในครอบครัวที่มีเด็กได้ มาฝากกันค่ะ ไปดูกันดีกว่าค่ะว่ามีสายพันธุ์อะไรบ้าง



1.บีเกิล (Beagle)
 บีเกิลนั้นเป็นน้องหมาที่ขึ้นชื่อว่าจอมซนมากชอบที่จะเล่นและทำกิจกรรมต่าง ๆ จึงเหมาะที่จะเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กๆ ในบ้านเป็นอย่างมาก ที่สำคัญเป็นพันธุ์สุนัขที่ปรับตัวได้ง่ายกับทุกสถานการณ์ สามารถวางตัวได้เป็นอย่างดีในแต่ละบทบาทหน้าที่ ทั้งสัตว์เลี้ยงแสนภักดี พี่เลี้ยงเด็ก รึแม้แต่ยามเฝ้าบ้านที่จะคอยส่งเสียงเมื่อเกิดสิ่งผิดปกติ



2. โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
น้องหมาพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ หนึ่งในสายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยงไปทั่วโลก ซึ่งติดอันดับเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวตลอดกาลเพราะนอกจากจะมีนิสัยเป็นมิตร น่ารัก อ่อนโยนแล้ว ยังสามารถเข้ากับเด็ก ๆ และผู้สูงอายุ



3. บอสตัน เทอร์เรียร์ (Boston Terrier)

บอสตัน เทอร์เรียร์ บรรพบุรุษของเขาคือสายพันธ์อิงลิช บูลด็อก และอิงลิช ไวท์ เทอร์เรียร์  บอสตัน เทอร์เรีย เป็นสุนัขที่เป็นมิตรทั้งกับคนและสัตว์อื่น ๆ โดยเฉพาะกับเด็ก ๆ ร่าเริง และพร้อมจะมอบความรัก ทุ่มเทให้แก่คนในครอบครัว รักการทำกิจกรรมเกือบทุกชนิด อีกทั้งยังรักความสะอาด ชอบอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ เจ้าของ ไม่ไฮเปอร์ ซนและวุ่นวายให้ปวดหัวอีกด้วยค่ะ



4. ปั๊ก (pugs)
น้องหมาหน้าย่นไซส์กลาง ๆ นิสัยซุกซน ขี้สงสัย ปั๊กจึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่หลาย ๆ คนให้ความเอ็นดูและอยากจับจองเป็นเจ้าของ ปั๊กเป็นสุนัขสะอาด แทบไม่ส่งเสียงเห่า อยู่ได้แม้พื้นที่ของบ้านจะเล็กหรือคับก็ไม่ใช่ปัญหาเลยเพราะเขาอยู่ได้กับภาพทุกรูปแบบแถมยังเข้ากับเด็กได้ดีอีกด้วย



5. เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)

เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก น้องหมาที่มีขนยาวสลวยราวแพรไหม ฉลาดหลักแหลม มีความ กล้าหาญ ซื่อสัตย์ ตื่นตัว ฉลาด เป็นมิตร อ่อนโยน ใจดีมีเมตตาเข้ากับสัตว์อื่น ๆ ได้ง่าย ใจดีกับเด็ก ๆ ไม่ก้าวร้าว แต่มีข้อเสียที่จะพลัดขนบ่อยเป็นพิเศษ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนให้เขาอย่างสม่ำเสมอนะคะ ถ้ามีสมาชิกที่เป็นภูมิแพ้ขนสัตว์ ก็ควรจัดให้เป็นช้อยถัดไปค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างค่ะยังมีน้องหมาอีกหลายสายพันธุ์นะคะที่สามารถเลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัวที่มีเด็กได้แต่ที่นำเสนอในวันนี้นั้นเป็นเพียงแค่น้องหมาสายพันธุ์ที่รู้จักและเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายอย่างไรก็ลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมในสายพันูธุ์ที่ชอบก่อนที่จะนำมาเลี้ยงด้วยนะคะ เพื่อจะได้ดูแลน้องได้อย่างเหมาะสมค่ะ

แจ็ครัสเซล เจ้าหมาน้อยตัวแสบ

แจ็ครัสเซล เจ้าหมาตัวเล็ก ท่าทางเฉลียวฉลาด ชอบวิ่งเล่นซนแบบไม่หยุดยั้ง และน้องก็เป็นหมาที่รักและซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ใครที่อยากรู้ว่าน้องมีนิสัยเป็นอย่างไร เหมาะกับผู้เลี้ยงแบบไหน วันนี้ จะพามาหาคำตอบกัน



ลักษณะของแจ็ครัสเซล

แจ็ครัสเซล  เป็นสุนัขขนาดเล็ก มีน้ำตัวที่ประมาณ  6 – 8 กิโลกรัม ไม่สูงมากโดยมีความสูงโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 25 – 38 เซนติเมตร ลักษณะของขนนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ขนเรียบและ ขนหยาบ ทั้งสองประเภทนี้จะมีขนหนาสองชั้น และเรียบตรง สีขนที่สามารถพบกันได้บ่อย ๆ  สีขาว, สีขาวดำ หรือมีสามสี คือ ขาว-ดำ-น้ำตาล สำหรับลักษณะเด่นของแจ็ครัสเซล คือจะมีหน้าอกตื้นและแคบ ขาหน้าห่างกันเล็กน้อย ค่าอายุโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 15 ปี

นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

แจ็ครัสเซล เป็นสุนัขจิตใจดี ร่าเริง และชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความฉลาดและกล้าหาญ แต่บางทีน้องก็มีความดื้อรั้นอยู่บ้าง เหมาะกับเจ้าของที่มีอดทน มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัข ไม่ยอมตามใจเจ้าจอมซนเป็นอันขาด เพราะมิฉะนั้นเจ้าแจ็ครัสเซลนั้นจะได้ใจ และมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวออกมา



การฝึกนั้น อาจจะค่อนข้างยากสักหน่อย เพราะด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ น้องแจ็ครัสเซลจจึงมีความซน และก้าวร้าวอยู่บ้าง ชอบวิ่งไล่ ขุดสมบัติหาของ หรือแม้แต่ทำลายข้าวของต่างๆ ที่สำคัญเห่าเก่งมาก ใครที่จะรับเลี้ยงต้องทำใจรับกับเรื่องพวกนี้ให้ได้นะคะ

วิธีการเลี้ยงและดูแลแจ็ครัสเซล

สำหรับสถานที่เหมาะกับ แจ็ครัสเซล ควรเป็นบ้านที่มีพื้นที่ให้นางได้วิ่งป่วน กระโดดออกกำลังกาย และขุดหาของต่างๆ ควรพาน้องออกไปข้างนอกบ้างแต่ต้องใช้สายจูงน้องไว้เสมอ

อาหารของแจ็ครัสเซล

แจ็ครัสเซลเป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง อาหารที่เหมาะกับน้องคืออาหารแบบเม็ด ซึ่งความกรอบของอาหารเม็ดนี้จะช่วยลดปัญหาคราบหินปูนและแบคทีเรียในช่องปากได้ ปริมาณอาหารที่แนะนำ:ในการแบ่งอาหารให้น้องควรแบ่งเป็น 2-3 มื้อ เพราะแจ็ครัสเซลเป็นสุนัขที่มีกระเพาะที่เล็กงไม่สามารถรับอาหารปริมาณมากในคราวเดียว
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง: อาหารที่มีส่วนผสมของข้าวสาลี, ข้าวโพด และหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้สารกันบูด

การดูแลรักษาขน

การดูแลรักษาขน ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่แปรงขนให้อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น เพื่อกำจัดขนร่วงที่ตายไปแล้ว สำหรับแจ็ครัสเซลที่มีขนแบบหัก ควรได้รับการตัด ตกแต่งขนปีละครั้ง และห้ามอาบน้ำก่อนพาน้องไปตัดขนเด็ดขาด เพราะสบู่และน้ำจะเป็นเหตุให้ขนหยักศก ยากต่อการตัดแต่งขน  หลังจากอาบน้ำให้น้องแล้วไม่ควรใช้ไดร์เป่าขนน้องให้แห้ง เพราะไดร์จะทำให้ขนน้องฟู ซึ่งมันจะทำให้น้องดูไม่สวยสง่างาม แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง จะทำให้ขนของน้องเรียบสวย

โดยปกติแล้ว แจ็ครัสเซล จะเป็นมิตรและใจดีกับเด็ก แต่น้องจะเหมาะกับเด็กที่โตแล้วมากกว่า แจ็ครัสเซล บางตัวจะมีสัญตญาณนักล่าไม่ควรพาน้องไปใกล้กับสัตว์ตัวเล็กกว่า เพราะน้องสามารถทำร้ายสัตว์เหล่านั้นได้

แจ็ครัสเซล เจ้าหมาน้อยตัวแสบ

แจ็ครัสเซล เจ้าหมาตัวเล็ก ท่าทางเฉลียวฉลาด ชอบวิ่งเล่นซนแบบไม่หยุดยั้ง และน้องก็เป็นหมาที่รักและซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ใครที่อยากรู้ว่าน้องมีนิสัยเป็นอย่างไร เหมาะกับผู้เลี้ยงแบบไหน วันนี้ จะพามาหาคำตอบกัน



ลักษณะของแจ็ครัสเซล

แจ็ครัสเซล  เป็นสุนัขขนาดเล็ก มีน้ำตัวที่ประมาณ  6 – 8 กิโลกรัม ไม่สูงมากโดยมีความสูงโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 25 – 38 เซนติเมตร ลักษณะของขนนั้นแบ่งออกเป็นสองประเภทคือ ขนเรียบและ ขนหยาบ ทั้งสองประเภทนี้จะมีขนหนาสองชั้น และเรียบตรง สีขนที่สามารถพบกันได้บ่อย ๆ  สีขาว, สีขาวดำ หรือมีสามสี คือ ขาว-ดำ-น้ำตาล สำหรับลักษณะเด่นของแจ็ครัสเซล คือจะมีหน้าอกตื้นและแคบ ขาหน้าห่างกันเล็กน้อย ค่าอายุโดยเฉลี่ยที่ประมาณ 15 ปี

นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

แจ็ครัสเซล เป็นสุนัขจิตใจดี ร่าเริง และชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีความฉลาดและกล้าหาญ แต่บางทีน้องก็มีความดื้อรั้นอยู่บ้าง เหมาะกับเจ้าของที่มีอดทน มีประสบการณ์ในการเลี้ยงสุนัข ไม่ยอมตามใจเจ้าจอมซนเป็นอันขาด เพราะมิฉะนั้นเจ้าแจ็ครัสเซลนั้นจะได้ใจ และมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวออกมา



การฝึกนั้น อาจจะค่อนข้างยากสักหน่อย เพราะด้วยสัญชาตญาณนักล่าที่ได้รับมาจากบรรพบุรุษ น้องแจ็ครัสเซลจจึงมีความซน และก้าวร้าวอยู่บ้าง ชอบวิ่งไล่ ขุดสมบัติหาของ หรือแม้แต่ทำลายข้าวของต่างๆ ที่สำคัญเห่าเก่งมาก ใครที่จะรับเลี้ยงต้องทำใจรับกับเรื่องพวกนี้ให้ได้นะคะ

วิธีการเลี้ยงและดูแลแจ็ครัสเซล

สำหรับสถานที่เหมาะกับ แจ็ครัสเซล ควรเป็นบ้านที่มีพื้นที่ให้นางได้วิ่งป่วน กระโดดออกกำลังกาย และขุดหาของต่างๆ ควรพาน้องออกไปข้างนอกบ้างแต่ต้องใช้สายจูงน้องไว้เสมอ

อาหารของแจ็ครัสเซล

แจ็ครัสเซลเป็นสุนัขที่มีพลังงานสูง อาหารที่เหมาะกับน้องคืออาหารแบบเม็ด ซึ่งความกรอบของอาหารเม็ดนี้จะช่วยลดปัญหาคราบหินปูนและแบคทีเรียในช่องปากได้ ปริมาณอาหารที่แนะนำ:ในการแบ่งอาหารให้น้องควรแบ่งเป็น 2-3 มื้อ เพราะแจ็ครัสเซลเป็นสุนัขที่มีกระเพาะที่เล็กงไม่สามารถรับอาหารปริมาณมากในคราวเดียว
อาหารที่ควรหลีกเลี่ยง: อาหารที่มีส่วนผสมของข้าวสาลี, ข้าวโพด และหลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้สารกันบูด

การดูแลรักษาขน

การดูแลรักษาขน ก็ไม่มีอะไรยุ่งยาก เพียงแค่แปรงขนให้อาทิตย์ละครั้งเท่านั้น เพื่อกำจัดขนร่วงที่ตายไปแล้ว สำหรับแจ็ครัสเซลที่มีขนแบบหัก ควรได้รับการตัด ตกแต่งขนปีละครั้ง และห้ามอาบน้ำก่อนพาน้องไปตัดขนเด็ดขาด เพราะสบู่และน้ำจะเป็นเหตุให้ขนหยักศก ยากต่อการตัดแต่งขน  หลังจากอาบน้ำให้น้องแล้วไม่ควรใช้ไดร์เป่าขนน้องให้แห้ง เพราะไดร์จะทำให้ขนน้องฟู ซึ่งมันจะทำให้น้องดูไม่สวยสง่างาม แนะนำให้ใช้ผ้าขนหนูเช็ดให้แห้ง จะทำให้ขนของน้องเรียบสวย

โดยปกติแล้ว แจ็ครัสเซล จะเป็นมิตรและใจดีกับเด็ก แต่น้องจะเหมาะกับเด็กที่โตแล้วมากกว่า แจ็ครัสเซล บางตัวจะมีสัญตญาณนักล่าไม่ควรพาน้องไปใกล้กับสัตว์ตัวเล็กกว่า เพราะน้องสามารถทำร้ายสัตว์เหล่านั้นได้

มอลทีส (Maltese) น้องหมาขี้อ้อน ชอบเอาอกเอาใจ

วันนี้จะมาพูดถึงน้องหมาสายพันธุ์ มอลทีส  สายพันธุ์เก่าแก่ในกลุ่ม Toy  มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเกาะมอลต้า ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ มอลทีส เป็นสุนัขพันธ์เล็กที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในชนชั้นระดับผู้นำในยุคสมัยของกรีกและ โรมัน โดยเฉพาะในยุคของอริสโตเติ้ล  ปัจจุบันยังเป็นที่นิยมเลี้ยงทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐ อเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี



ลักษณะทั่วไปของมอลทีส (Maltese)

มอลทีส หรือ มัลทีส เป็นสุนัขขนาดเล็กจิ๋วเล็กกระทัดรัดมีน้ำหนักเพียง 2-3 กิโลกรัมเท่านั้น หัวของมันดูสมส่วนกับรูปร่าง กระโหลกทรงค่อนข้างกลม หูตกอยู่ในแนวต่ำ ตาสีดำและมีสีดำที่ปลายจมูก จมูกยาวปานกลาง รูปร่างเรียว ขนยาวและอ่อนนุ่มจะยาวลากพื้นหรือยาวเกือบถึงพื้น มีช่วงชีวิตประมาณ 12-15 ปี

นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

มอลทีส  เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง อ่อนโยน น้องชอบอยู่กับผู้คน น้องเป็นมิตรกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์อื่นๆร่าเริงแจ่มใส เรียบร้อย และเชื่อฟังคำสั่ง ชอบที่จะให้อุ้มหรือกอดอยู่เสมอ ในบางครั้งอาจจะเกรี้ยวกราดบ้างกับสุนัขด้วยกัน ชอบประจบเจ้าของ รักเจ้าของมาก ชอบปกป้องเจ้านาย ฉลาดแสนรู้ แต่จิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวไม่ยอมใคร ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงรวมไว้กับสุนัขตัวโตๆ เพราะจะมีโอกาสรอดไม่ถึง



การเลี้ยงดู สุนัข มอลทีส

น้องมอลทิสจะสกปรกง่าย  ควรหมั่นอาบน้ำทำความสะอาดให้น้องทุกๆสัปดาห์ หมั่นเช็คหูของน้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า เพื่อเป็นการป้องกันหรือลดคราบน้ำตา ด้วยน้ำอุ่นทำความสะอาดรอบๆดวงตาทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำตา แล้วต้องอย่าลืมที่จะล้างหนวดเคราของน้องหลังทานอาหารทุกครั้ง
ขน ควรหมั่นแปรงขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน ควรใช้มือสางขนอย่างเบาๆอาจจะใช้สเปรย์หรือน้ำมันช่วยถ้าหากขนพันกันมาก แล้วใช้ปลายซี่หวีหวีขนแต่ละเส้นอย่าพยายามดึงขนทั้งแผงออกพร้อมกัน และควรแน่ใจว่าขนทั้งหมดเรียบตรงดีแล้วก่อนจะพาน้องอาบน้ำ เพราะขนของน้องมักจะติดพันกันแน่นตอนน้องเปียก  สำหรับการให้อาหาร อาหารที่ ควรจะให้อาหารวันละ 2 มื้อ

ข้อควรจำ

มอลทีส ต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดูแลเรื่องการให้อาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อ้วนเกินไป เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพได้นั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจพามอลทิสมาเลี้ยงในครอบครัว คงไม่ต้องคิดมากเท่าไรค่ะ เพราะเจ้ามอลทิสนั้นสามารถเข้ากับสุนัขและแมวได้ดีอีกด้วย

มอลทีส (Maltese) น้องหมาขี้อ้อน ชอบเอาอกเอาใจ

วันนี้จะมาพูดถึงน้องหมาสายพันธุ์ มอลทีส  สายพันธุ์เก่าแก่ในกลุ่ม Toy  มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเกาะมอลต้า ประเทศในเครือจักรภพอังกฤษ มอลทีส เป็นสุนัขพันธ์เล็กที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในชนชั้นระดับผู้นำในยุคสมัยของกรีกและ โรมัน โดยเฉพาะในยุคของอริสโตเติ้ล  ปัจจุบันยังเป็นที่นิยมเลี้ยงทั้งในประเทศอังกฤษ สหรัฐ อเมริกา แคนาดา เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี



ลักษณะทั่วไปของมอลทีส (Maltese)

มอลทีส หรือ มัลทีส เป็นสุนัขขนาดเล็กจิ๋วเล็กกระทัดรัดมีน้ำหนักเพียง 2-3 กิโลกรัมเท่านั้น หัวของมันดูสมส่วนกับรูปร่าง กระโหลกทรงค่อนข้างกลม หูตกอยู่ในแนวต่ำ ตาสีดำและมีสีดำที่ปลายจมูก จมูกยาวปานกลาง รูปร่างเรียว ขนยาวและอ่อนนุ่มจะยาวลากพื้นหรือยาวเกือบถึงพื้น มีช่วงชีวิตประมาณ 12-15 ปี

นิสัยและพฤติกรรมทั่วไป

มอลทีส  เป็นสุนัขที่มีนิสัยร่าเริง อ่อนโยน น้องชอบอยู่กับผู้คน น้องเป็นมิตรกับทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนหรือสัตว์อื่นๆร่าเริงแจ่มใส เรียบร้อย และเชื่อฟังคำสั่ง ชอบที่จะให้อุ้มหรือกอดอยู่เสมอ ในบางครั้งอาจจะเกรี้ยวกราดบ้างกับสุนัขด้วยกัน ชอบประจบเจ้าของ รักเจ้าของมาก ชอบปกป้องเจ้านาย ฉลาดแสนรู้ แต่จิตใจกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวไม่ยอมใคร ดังนั้นจึงไม่เหมาะที่จะเลี้ยงรวมไว้กับสุนัขตัวโตๆ เพราะจะมีโอกาสรอดไม่ถึง



การเลี้ยงดู สุนัข มอลทีส

น้องมอลทิสจะสกปรกง่าย  ควรหมั่นอาบน้ำทำความสะอาดให้น้องทุกๆสัปดาห์ หมั่นเช็คหูของน้องอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และควรเช็ดคราบน้ำตาบนใบหน้า เพื่อเป็นการป้องกันหรือลดคราบน้ำตา ด้วยน้ำอุ่นทำความสะอาดรอบๆดวงตาทุกวัน เพื่อป้องกันการเกิดคราบน้ำตา แล้วต้องอย่าลืมที่จะล้างหนวดเคราของน้องหลังทานอาหารทุกครั้ง
ขน ควรหมั่นแปรงขนให้น้องเป็นประจำทุกวัน ควรใช้มือสางขนอย่างเบาๆอาจจะใช้สเปรย์หรือน้ำมันช่วยถ้าหากขนพันกันมาก แล้วใช้ปลายซี่หวีหวีขนแต่ละเส้นอย่าพยายามดึงขนทั้งแผงออกพร้อมกัน และควรแน่ใจว่าขนทั้งหมดเรียบตรงดีแล้วก่อนจะพาน้องอาบน้ำ เพราะขนของน้องมักจะติดพันกันแน่นตอนน้องเปียก  สำหรับการให้อาหาร อาหารที่ ควรจะให้อาหารวันละ 2 มื้อ

ข้อควรจำ

มอลทีส ต้องการการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และดูแลเรื่องการให้อาหารอย่างเหมาะสมเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาจะไม่อ้วนเกินไป เพื่อป้องกันไม่เกิดปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพได้นั่นเองค่ะ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจพามอลทิสมาเลี้ยงในครอบครัว คงไม่ต้องคิดมากเท่าไรค่ะ เพราะเจ้ามอลทิสนั้นสามารถเข้ากับสุนัขและแมวได้ดีอีกด้วย

GOOD TO KNOW ทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนกันเถอะ !

ประวัติความเป็นมาของสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

   สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน มีบรรพบุรุษมาจากสุนัขในกลุ่มสายพันธุ์สปิตซ์ (Spitz) ซึ่งจะมีลักษณะหลายอย่างเพื่อป้องกันความหนาวเย็นเช่นเดียวกับสายพันธุ์สปิตซ์ ที่จะมีขนหนาและยาว ใบหูขนาดเล็ก หางม้วนเป็นพวงเพื่อเพิ่มความอบอุ่นเมื่อนอนขดตัว ไม่มีการบันทึกแน่ชัดว่ามีการพัฒนาสายพันธุ์จากสปิตซ์มาเป็นสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนได้อย่างไร แต่พบว่าปอมเมอเรียนที่เลี้ยงอยู่ในปัจจุบันขนาดตัวเล็กลง ก่อนหน้านี้พบว่ามีน้ำหนักตัวประมาณ 10-13 กิโลกรัมซึ่งชื่อปอมเมอเรเนียนมาจาก ปอมเมอเรเนีย (Pomerania) ซึ่งเป็นชื่อเมืองหนึ่งที่ประเทศโปแลนด์ตอนเหนือและประเทศเยอรมันนี มีการเลี้ยงแพร่หลายในยุโรป และมีคนดังในอดีตมากมายเป็นเจ้าของปอมเมอเรียนไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล แองเจิลโล, โมสาร์ท และเซอร์ไอแซคนิวตัน สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรียนเป็นสุนัขตัวแรกของราชวงศ์อังกฤษ ณ พระราชวังบักกิงแฮม (Buckingham Palace) ในปี 1761 โดยพระราชินีชาร์ลอต นอกจากนั้นในปี 1888 พระราชินีวิคตอเรียผู้ชื่นชอบสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนได้นำเข้าสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรียนที่ตัวเล็ก น้ำหนักเพียง 5 กิโลกรัม จึงเกิดเป็นค่านิยมในการเลี้ยงสุนัขปอมเมอเรเนียนที่ตัวเล็กลง และเป็นที่นิยมเลี้ยงในประเทศแถบยุโรปเรื่อยมา



ลักษณะนิสัยของสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียน

-   เป็นสุนัขที่ร่าเริง ชอบเล่น มีพลังงานเยอะ

-   เป็นสุนัขที่เข้ากับเด็กได้ แต่ควรอยู่ในความดูแลของผู้ใหญ่เนื่องจากเป็นสุนัขตัวเล็ก

-    มีลักษณะนิสัยที่หลงเหลือจากสายพันธุ์สปอตซ์คือ เป็นสุนัขที่มีความใจกล้า และชอบความตื่นเต้น การผจญภัย

-   ถ้าเป็นสุนัขตัวเดียวในบ้านมีแนวโน้มที่จะไม่ค่อยคุ้นเคยกับคนแปลกหน้า ควรฝึกให้เข้าสังคม พบเจอผู้คนใหม่ๆตั้งแต่ๆยังอายุน้อย

-   บางตัวอาจจะมีนิสัยก้าวร้าว อวดเก่ง ไม่กลัวใคร

-   เป็นคนที่เรียนรู้ได้ไว แต่อาจจะแอบดื้อ

-   สามารถฝึกได้ด้วยการให้รางวัลเป็นขนมหรือการเล่นสนุกๆ

-   บางตัวอาจจะมีพฤติกรรมเห่าเก่ง ซึ่งควรสอนตั้งแต่อายุน้อยๆ

การดูแลสุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรียน

-   ลักษณะขนจะเป็นขน 2 ชั้น ซึ่งขนชั้นนอกจะมีลักษณะแข็งกว่ายาวกว่าขนด้านใน ควรแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และเพิ่มความถี่ในการแปรงหากอยู่ในช่วงผลัดขน เพื่อป้องกันไม่ให้ขนร่วง จะมีการผลัดขนมากกว่าสุนัขสายพันธุ์อื่น

-   เนื่องจากขนยาวมากจึงควรดูแลทำความสะอาดขนบริเวณรอบๆก้นหลังการขับถ่าย หรืออาจจะตัดให้สั้น

-   จำเป็นต้องแปรงฟันเป็นประจำเพื่อป้องกันโรคเหงือกอักเสบ ซึ่งพบมาในสุนัขพันธุ์ปอมเมอเรียน

-   สุนัขสายพันธุ์ปอมเมอเรเนียนส่วนมากจะมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ แต่เจ้าของสัตว์เลี้ยงอาจจะต้องระวังการให้ขนมต่างๆ เนื่องจากเขาตัวเล็ก การให้ขนมเกินปริมาณเพียงเล็กน้อยก็อาจจะทำให้น้ำหนักเกินเกณฑ์

-   ระวงัภาวะน้ำตาลต่ำลูกสันขพันธุ์ปอมเมอเรียน ควรให้อาหารที่มีโภชนการเหมาะสม และบ่อยครั้ง เลือกอาหารที่โปรตีนสูง ไขมันสูง มีคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน

แหล่งที่มา

https://vcahospitals.com/know-your-pet/dog-breeds/pomeranian