แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

736
ปูลิ (Puli)

          เคยได้ยินชื่อน้องหมาสายพันธุ์ ปูลิ ไหมค่ะ น่าจะไม่ค่อยคุ้นหูมากใช่ไหม และเชื่ออีกว่าถ้าใครเจอน้องก็คงต้องเกิดความสับสนระหว่าง เจ้าหมาสายพันธุ์ปูลิ กับ โคมอนดอร์  แน่นอนเพราะทั้งสองสายพันธุ์นี้หน้าตาคล้ายกันมากจนเหมือนฝาแฝดกันทีเดียว วันนี้เรามาทำความรู้จักน้องหมาปูลิ กันดีกว่าว่าเป็นอย่างไร



          ปูลิ เป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฮังการี คอยทำหน้าที่ต้อนแกะตลอดทั้งช่วงวันและคืน โดยเจ้าของฟาร์มแกะส่วนใหญ่จะเลือกเลี้ยงปูลิตัวสีดำเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย ตัดกับสีขาวของตัวแกะ ปูลิจะได้รับหน้าที่เห่าเตือนภัยให้เจ้านายรู้และต้อนแกะกลับเข้าคอกอย่างปลอดภัย

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 น้องหมาสายพันธุ์ปูลิถูกสังหารไปกับไฟสงครามจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่หลังจากนั้นมีผู้ผสมพันธุ์สุนัขได้เข้ามาช่วยเหลือให้สายพันธุ์นี้อยู่รอดต่อไป และได้รับการขึ้นทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขในปีค.ศ. 1936

ลักษณะทั่วไปของปูลิ

        ปูลิ เป็นสุนัขขนาดกลาง มีความสูงที่ประมาณ 17 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 35 ปอนด์ ขนของสุนัขสายพันธุ์ พูลิ จะมีลักษณะบิดเป็นเกลียวเช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์โคมอนดอร์แต่จะมีขนาดเกลียวที่เล็กและละเอียดกว่า ผู้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พูลิมักไม่นิยมใช้แปรงแปรงขนให้สุนัข เพราะจะทำลายลักษณะเฉพาะตัว และจะทำให้สุนัขเจ็บเมื่อต้องถูกดึงกระชากขนที่พันกันอยู่ให้แยกออกจากกัน ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขอักเสบได้

การดูแลขนของ

        ปูลิจำเป็นต้องได้รับการดูแลขนที่พิถีพิถันมากจึงเหมาะที่จะพาเข้าร้าน กรูมมิ่งเพื่ออาบน้ำตกแต่งทรงขนน่าจะวิธีที่ดีที่สุดในเพราะร้านกรูมมิ่งก็จะมีเทคนิคในการดูแลและเป่าขนสุนัขจนแห้งสนิทเพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งจะใช้เวลาในการดูแลอาบน้ำทำความสะอาดขนของพูลิจนแห้งสนิทประมาณ 2-3 ชั่วโมง สำหรับความถี่ในการอาบน้ำที่เหมาะสมอยู่ที่เดือนละ 1-2 ครั้ง



        เพราะว่าความหนาของเส้นขน ดั้งนั้นขนพวกนั้นต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ พูลิค ร้อนเกินไป ถ้า คุณควรจะคอยระวังเจ้า พูลิ ถ้าว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือบ่อและช่วยมันขึ้นจากน้ำ เมื่อมันเหนื่อย

ลักษณะนิสัย

        สำหรับนิสัยนั้น จะมีความกระตือรือร้น ฉลาด, มั่นใจในตัวเอง สุขุม และเชื่อฟัง พูลิ เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี แต่มักจะไม่เห่าโดยไม่มีเหตุผล เพราะด้วยสัญตญาณที่คอยระวังตัวอยู่เสมอนั่นเอง

        เห็นแบบนี้แล้ว น้องหมาที่บ้านที่บอกว่า ดูแลยากกลับกลายเป็นดูแลได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ และถึงอย่างไรเสียก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนน้องหมาให้มีสุขภาพดี ให้น้องหมามีขนสวยน่ารักน่ากอดตลอดไป



737
เมนูที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารโปรดหมาแต่จริง ๆ แล้วทำลายสุขภาพ

          เคยสงสัยบ้างว่าอาหารที่เราเห็นว่าน้องหมานั้นชอบกิน ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ขนมกรุบกรอบ นั้นมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับตัวน้องหรือไม่ วันนี้เรามาลองดูกันว่า เจ้าของที่น้องหมานั้นชอบกินนั้นจริง ๆ แล้วมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับสุขภาพน้องบ้างหรือป่าว 
อาหารโปรดน้องหมา



1. ไก่ย่าง

          ไก่ย่างอาหารโปรดที่เหล่าน้องหมาสุดเลิฟ เลยก็ว่าได้ เพราะรสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ ที่ชวนกิน ไม่ว่าคนหรือน้องหมา น้ำลายสอยามหิว  ไก่ย่างเป็นอาหารที่หาได้ทั่วไปตามตลาด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเลือกไก่ย่างเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการคลุกข้าวให้กับน้องหมา

           แต่คุณรู้หรือเปล่า รสชาติที่แสนอร่อยของไก่ย่างที่นั้นส่งผลอันตรายต่อน้องหมามาก โดยเฉพาะไก่ย่างที่ผ่านการปรุงรสอย่างเข้มข้น เครื่องปรุงรสเหล่านี้แหละที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพน้องหมาเอามากๆ  น้องหมาที่ชอบกินไก่ย่างนั้นไม่ได้เป็นที่รสชาติ แต่เป็นเพราะกลิ่นที่เยายวนมากกว่า ดังนั้นไก่ย่างที่ดีต่อสุขภาพน้องหมา ถ้าเลือกได้ควรไม่ต้องปรุงรส หรือไม่ก็ควรจืดที่สุด เพราะเครื่องปรุงบางอย่างจะมีรสชาติที่เค็มจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดโรคไตขึ้นได้



2. ขนมคบเคี้ยว

          ขนมขบเคี้ยวเป็นพิษต่อน้องหมา เพราะระบบย่อยอาหารของน้องหมาไม่เหมือนกับคน อาหารที่คนอย่างเราๆ กินจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้สุนัขทางที่ดีควรเลือกเป็นขนมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับน้องหมาจะดีกว่านะครับ เพราะตัวขนมขบเคี้ยวเหล่านี้มีทั้งน้ำตาล ทั้งแป้ง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และยังสามารถทำลายตับ ได้



3. ทุเรียน

          น้องหมาบางบ้านนั้นช่างโปรดปรานทุเรียนมา เพราะของทุเรียนนั้นมักจะดึงดูดเจ้าตูบของคุณให้เข้าหาด้วยท่าทางสงสัย และอยากจะลิ้มลองรสชาติของทุเรียนสักครั้ง ด้วยความที่ไม่รู้ของผู้เลี้ยงหลายคนก็มักจะแบ่งให้น้องหมากินจนน้องหมาบางตัวแอบติดใจและอยากกินอีก บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ จริงอยู่ที่น้องหมาเป็นสัตว์กินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ แต่ผลไม้บางชนิดอย่างทุเรียนนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องหมา  ในทุเรียนนั้นเต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และโพแทสเซียมสูงมาก ซึ่งอะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังผลไม้ชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ร้อนอาจทำให้น้องหมาระบายความร้อนไม่ทัน จนเกิดอาการฮีทสโตรก อาจจะส่งผลอันตรายต่อชีวิตของน้องหมาได้ทันทีเลย เพราะฉะนั้นห้ามโดยเด็ดขาดสำหรับผลไม้ชนิดนี้



4. ช็อคโกแลต

          ช็อคโกแลต นั้นอันตรายต่อน้องหมามาก จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากินโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตแบบแท่งหรือแบบของเหลวล้วนแล้ว เพราะในตัวช็อคโกแลตนั้นมีสารที่เรียกว่า Theobromine ซึ่งถ้าน้องหมาได้รับเข้าไปจะมีอาการเกร็ง หัวใจเต้นถี่ขึ้น ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติทำให้ขับถ่ายบ่อย หรืออาจจะทำให้หัวใจวายฉับพลันได้ สารตัวนี้จะส่งผลเหมือนกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆ อย่างเช่น ชา และกาแฟนั่นเอง



5. ลูกชิ้น

          อาหารสุดโปรดของน้องหมาที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใครหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า ลูกชิ้นปิ้งที่ขายอยู่ตามตลาดทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีการผสมแป้งไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ 100 เปอร์เซนต์ อาจมีสารบอแรกซ์ ถ้าเกิดน้องหมารับสารตัวนี้เข้าไปในปริมาณที่มากๆ จะส่งผลไม่ดีต่อไต เนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำคัญในการขับถ่ายสารต่างๆ ออกจากร่างกายน้องหมาได้ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีกับหมาแน่นอน แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถให้กินได้ซะดีเดียว แต่ไม่ควรให้กินเป็นประจำหรือบ่อยครั้งจนเกินไป

          เมื่อทราบแล้วว่าของชอบที่เจ้าหมาน้อยของเราชอบกินนั้นมีผลต่อสุขภาพแค่ไหน จากนี้ไปถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็ลดปริมาณลงเพื่อความปลอดภัย และเพื่อสุขภาพของเจ้าหมาน้อยนั่นเอง
 



738
เมนูที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารโปรดหมาแต่จริง ๆ แล้วทำลายสุขภาพ

          เคยสงสัยบ้างว่าอาหารที่เราเห็นว่าน้องหมานั้นชอบกิน ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ขนมกรุบกรอบ นั้นมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับตัวน้องหรือไม่ วันนี้เรามาลองดูกันว่า เจ้าของที่น้องหมานั้นชอบกินนั้นจริง ๆ แล้วมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับสุขภาพน้องบ้างหรือป่าว 
อาหารโปรดน้องหมา



1. ไก่ย่าง

          ไก่ย่างอาหารโปรดที่เหล่าน้องหมาสุดเลิฟ เลยก็ว่าได้ เพราะรสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ ที่ชวนกิน ไม่ว่าคนหรือน้องหมา น้ำลายสอยามหิว  ไก่ย่างเป็นอาหารที่หาได้ทั่วไปตามตลาด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเลือกไก่ย่างเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการคลุกข้าวให้กับน้องหมา

           แต่คุณรู้หรือเปล่า รสชาติที่แสนอร่อยของไก่ย่างที่นั้นส่งผลอันตรายต่อน้องหมามาก โดยเฉพาะไก่ย่างที่ผ่านการปรุงรสอย่างเข้มข้น เครื่องปรุงรสเหล่านี้แหละที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพน้องหมาเอามากๆ  น้องหมาที่ชอบกินไก่ย่างนั้นไม่ได้เป็นที่รสชาติ แต่เป็นเพราะกลิ่นที่เยายวนมากกว่า ดังนั้นไก่ย่างที่ดีต่อสุขภาพน้องหมา ถ้าเลือกได้ควรไม่ต้องปรุงรส หรือไม่ก็ควรจืดที่สุด เพราะเครื่องปรุงบางอย่างจะมีรสชาติที่เค็มจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดโรคไตขึ้นได้



2. ขนมคบเคี้ยว

          ขนมขบเคี้ยวเป็นพิษต่อน้องหมา เพราะระบบย่อยอาหารของน้องหมาไม่เหมือนกับคน อาหารที่คนอย่างเราๆ กินจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้สุนัขทางที่ดีควรเลือกเป็นขนมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับน้องหมาจะดีกว่านะครับ เพราะตัวขนมขบเคี้ยวเหล่านี้มีทั้งน้ำตาล ทั้งแป้ง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และยังสามารถทำลายตับ ได้



3. ทุเรียน

          น้องหมาบางบ้านนั้นช่างโปรดปรานทุเรียนมา เพราะของทุเรียนนั้นมักจะดึงดูดเจ้าตูบของคุณให้เข้าหาด้วยท่าทางสงสัย และอยากจะลิ้มลองรสชาติของทุเรียนสักครั้ง ด้วยความที่ไม่รู้ของผู้เลี้ยงหลายคนก็มักจะแบ่งให้น้องหมากินจนน้องหมาบางตัวแอบติดใจและอยากกินอีก บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ จริงอยู่ที่น้องหมาเป็นสัตว์กินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ แต่ผลไม้บางชนิดอย่างทุเรียนนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องหมา  ในทุเรียนนั้นเต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และโพแทสเซียมสูงมาก ซึ่งอะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังผลไม้ชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ร้อนอาจทำให้น้องหมาระบายความร้อนไม่ทัน จนเกิดอาการฮีทสโตรก อาจจะส่งผลอันตรายต่อชีวิตของน้องหมาได้ทันทีเลย เพราะฉะนั้นห้ามโดยเด็ดขาดสำหรับผลไม้ชนิดนี้



4. ช็อคโกแลต

          ช็อคโกแลต นั้นอันตรายต่อน้องหมามาก จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากินโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตแบบแท่งหรือแบบของเหลวล้วนแล้ว เพราะในตัวช็อคโกแลตนั้นมีสารที่เรียกว่า Theobromine ซึ่งถ้าน้องหมาได้รับเข้าไปจะมีอาการเกร็ง หัวใจเต้นถี่ขึ้น ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติทำให้ขับถ่ายบ่อย หรืออาจจะทำให้หัวใจวายฉับพลันได้ สารตัวนี้จะส่งผลเหมือนกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆ อย่างเช่น ชา และกาแฟนั่นเอง



5. ลูกชิ้น

          อาหารสุดโปรดของน้องหมาที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใครหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า ลูกชิ้นปิ้งที่ขายอยู่ตามตลาดทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีการผสมแป้งไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ 100 เปอร์เซนต์ อาจมีสารบอแรกซ์ ถ้าเกิดน้องหมารับสารตัวนี้เข้าไปในปริมาณที่มากๆ จะส่งผลไม่ดีต่อไต เนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำคัญในการขับถ่ายสารต่างๆ ออกจากร่างกายน้องหมาได้ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีกับหมาแน่นอน แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถให้กินได้ซะดีเดียว แต่ไม่ควรให้กินเป็นประจำหรือบ่อยครั้งจนเกินไป

          เมื่อทราบแล้วว่าของชอบที่เจ้าหมาน้อยของเราชอบกินนั้นมีผลต่อสุขภาพแค่ไหน จากนี้ไปถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็ลดปริมาณลงเพื่อความปลอดภัย และเพื่อสุขภาพของเจ้าหมาน้อยนั่นเอง
 



739
เมนูที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารโปรดหมาแต่จริง ๆ แล้วทำลายสุขภาพ

          เคยสงสัยบ้างว่าอาหารที่เราเห็นว่าน้องหมานั้นชอบกิน ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ขนมกรุบกรอบ นั้นมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับตัวน้องหรือไม่ วันนี้เรามาลองดูกันว่า เจ้าของที่น้องหมานั้นชอบกินนั้นจริง ๆ แล้วมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับสุขภาพน้องบ้างหรือป่าว 
อาหารโปรดน้องหมา



1. ไก่ย่าง

          ไก่ย่างอาหารโปรดที่เหล่าน้องหมาสุดเลิฟ เลยก็ว่าได้ เพราะรสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ ที่ชวนกิน ไม่ว่าคนหรือน้องหมา น้ำลายสอยามหิว  ไก่ย่างเป็นอาหารที่หาได้ทั่วไปตามตลาด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเลือกไก่ย่างเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการคลุกข้าวให้กับน้องหมา

           แต่คุณรู้หรือเปล่า รสชาติที่แสนอร่อยของไก่ย่างที่นั้นส่งผลอันตรายต่อน้องหมามาก โดยเฉพาะไก่ย่างที่ผ่านการปรุงรสอย่างเข้มข้น เครื่องปรุงรสเหล่านี้แหละที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพน้องหมาเอามากๆ  น้องหมาที่ชอบกินไก่ย่างนั้นไม่ได้เป็นที่รสชาติ แต่เป็นเพราะกลิ่นที่เยายวนมากกว่า ดังนั้นไก่ย่างที่ดีต่อสุขภาพน้องหมา ถ้าเลือกได้ควรไม่ต้องปรุงรส หรือไม่ก็ควรจืดที่สุด เพราะเครื่องปรุงบางอย่างจะมีรสชาติที่เค็มจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดโรคไตขึ้นได้



2. ขนมคบเคี้ยว

          ขนมขบเคี้ยวเป็นพิษต่อน้องหมา เพราะระบบย่อยอาหารของน้องหมาไม่เหมือนกับคน อาหารที่คนอย่างเราๆ กินจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้สุนัขทางที่ดีควรเลือกเป็นขนมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับน้องหมาจะดีกว่านะครับ เพราะตัวขนมขบเคี้ยวเหล่านี้มีทั้งน้ำตาล ทั้งแป้ง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และยังสามารถทำลายตับ ได้



3. ทุเรียน

          น้องหมาบางบ้านนั้นช่างโปรดปรานทุเรียนมา เพราะของทุเรียนนั้นมักจะดึงดูดเจ้าตูบของคุณให้เข้าหาด้วยท่าทางสงสัย และอยากจะลิ้มลองรสชาติของทุเรียนสักครั้ง ด้วยความที่ไม่รู้ของผู้เลี้ยงหลายคนก็มักจะแบ่งให้น้องหมากินจนน้องหมาบางตัวแอบติดใจและอยากกินอีก บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ จริงอยู่ที่น้องหมาเป็นสัตว์กินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ แต่ผลไม้บางชนิดอย่างทุเรียนนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องหมา  ในทุเรียนนั้นเต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และโพแทสเซียมสูงมาก ซึ่งอะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังผลไม้ชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ร้อนอาจทำให้น้องหมาระบายความร้อนไม่ทัน จนเกิดอาการฮีทสโตรก อาจจะส่งผลอันตรายต่อชีวิตของน้องหมาได้ทันทีเลย เพราะฉะนั้นห้ามโดยเด็ดขาดสำหรับผลไม้ชนิดนี้



4. ช็อคโกแลต

          ช็อคโกแลต นั้นอันตรายต่อน้องหมามาก จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากินโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตแบบแท่งหรือแบบของเหลวล้วนแล้ว เพราะในตัวช็อคโกแลตนั้นมีสารที่เรียกว่า Theobromine ซึ่งถ้าน้องหมาได้รับเข้าไปจะมีอาการเกร็ง หัวใจเต้นถี่ขึ้น ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติทำให้ขับถ่ายบ่อย หรืออาจจะทำให้หัวใจวายฉับพลันได้ สารตัวนี้จะส่งผลเหมือนกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆ อย่างเช่น ชา และกาแฟนั่นเอง



5. ลูกชิ้น

          อาหารสุดโปรดของน้องหมาที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใครหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า ลูกชิ้นปิ้งที่ขายอยู่ตามตลาดทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีการผสมแป้งไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ 100 เปอร์เซนต์ อาจมีสารบอแรกซ์ ถ้าเกิดน้องหมารับสารตัวนี้เข้าไปในปริมาณที่มากๆ จะส่งผลไม่ดีต่อไต เนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำคัญในการขับถ่ายสารต่างๆ ออกจากร่างกายน้องหมาได้ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีกับหมาแน่นอน แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถให้กินได้ซะดีเดียว แต่ไม่ควรให้กินเป็นประจำหรือบ่อยครั้งจนเกินไป

          เมื่อทราบแล้วว่าของชอบที่เจ้าหมาน้อยของเราชอบกินนั้นมีผลต่อสุขภาพแค่ไหน จากนี้ไปถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็ลดปริมาณลงเพื่อความปลอดภัย และเพื่อสุขภาพของเจ้าหมาน้อยนั่นเอง
 



740
เมนูที่คนเข้าใจผิดว่าเป็นอาหารโปรดหมาแต่จริง ๆ แล้วทำลายสุขภาพ

          เคยสงสัยบ้างว่าอาหารที่เราเห็นว่าน้องหมานั้นชอบกิน ไม่ว่าจะเป็นไก่ย่าง ขนมกรุบกรอบ นั้นมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับตัวน้องหรือไม่ วันนี้เรามาลองดูกันว่า เจ้าของที่น้องหมานั้นชอบกินนั้นจริง ๆ แล้วมีผลดีหรือว่ามีผลเสียกับสุขภาพน้องบ้างหรือป่าว 
อาหารโปรดน้องหมา



1. ไก่ย่าง

          ไก่ย่างอาหารโปรดที่เหล่าน้องหมาสุดเลิฟ เลยก็ว่าได้ เพราะรสชาติเค็ม ๆ หวาน ๆ ที่ชวนกิน ไม่ว่าคนหรือน้องหมา น้ำลายสอยามหิว  ไก่ย่างเป็นอาหารที่หาได้ทั่วไปตามตลาด ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่มักเลือกไก่ย่างเป็นตัวเลือกแรกๆ ในการคลุกข้าวให้กับน้องหมา

           แต่คุณรู้หรือเปล่า รสชาติที่แสนอร่อยของไก่ย่างที่นั้นส่งผลอันตรายต่อน้องหมามาก โดยเฉพาะไก่ย่างที่ผ่านการปรุงรสอย่างเข้มข้น เครื่องปรุงรสเหล่านี้แหละที่ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพน้องหมาเอามากๆ  น้องหมาที่ชอบกินไก่ย่างนั้นไม่ได้เป็นที่รสชาติ แต่เป็นเพราะกลิ่นที่เยายวนมากกว่า ดังนั้นไก่ย่างที่ดีต่อสุขภาพน้องหมา ถ้าเลือกได้ควรไม่ต้องปรุงรส หรือไม่ก็ควรจืดที่สุด เพราะเครื่องปรุงบางอย่างจะมีรสชาติที่เค็มจนเกินไป อาจจะทำให้เกิดโรคไตขึ้นได้



2. ขนมคบเคี้ยว

          ขนมขบเคี้ยวเป็นพิษต่อน้องหมา เพราะระบบย่อยอาหารของน้องหมาไม่เหมือนกับคน อาหารที่คนอย่างเราๆ กินจึงไม่สมควรอย่างยิ่งที่จะให้สุนัขทางที่ดีควรเลือกเป็นขนมที่ผลิตขึ้นมาสำหรับน้องหมาจะดีกว่านะครับ เพราะตัวขนมขบเคี้ยวเหล่านี้มีทั้งน้ำตาล ทั้งแป้ง ซึ่งจะทำให้เกิดโรคอ้วนได้ และยังสามารถทำลายตับ ได้



3. ทุเรียน

          น้องหมาบางบ้านนั้นช่างโปรดปรานทุเรียนมา เพราะของทุเรียนนั้นมักจะดึงดูดเจ้าตูบของคุณให้เข้าหาด้วยท่าทางสงสัย และอยากจะลิ้มลองรสชาติของทุเรียนสักครั้ง ด้วยความที่ไม่รู้ของผู้เลี้ยงหลายคนก็มักจะแบ่งให้น้องหมากินจนน้องหมาบางตัวแอบติดใจและอยากกินอีก บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ผิดมากๆ จริงอยู่ที่น้องหมาเป็นสัตว์กินได้ทั้งพืชและเนื้อสัตว์ แต่ผลไม้บางชนิดอย่างทุเรียนนี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพน้องหมา  ในทุเรียนนั้นเต็มไปด้วยแป้ง น้ำตาล และโพแทสเซียมสูงมาก ซึ่งอะไรที่มากเกินไปย่อมไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ อีกทั้งยังผลไม้ชนิดนี้ยังมีฤทธิ์ร้อนอาจทำให้น้องหมาระบายความร้อนไม่ทัน จนเกิดอาการฮีทสโตรก อาจจะส่งผลอันตรายต่อชีวิตของน้องหมาได้ทันทีเลย เพราะฉะนั้นห้ามโดยเด็ดขาดสำหรับผลไม้ชนิดนี้



4. ช็อคโกแลต

          ช็อคโกแลต นั้นอันตรายต่อน้องหมามาก จึงเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้น้องหมากินโดยเด็ดขาดไม่ว่าจะเป็นช็อคโกแลตแบบแท่งหรือแบบของเหลวล้วนแล้ว เพราะในตัวช็อคโกแลตนั้นมีสารที่เรียกว่า Theobromine ซึ่งถ้าน้องหมาได้รับเข้าไปจะมีอาการเกร็ง หัวใจเต้นถี่ขึ้น ระบบทางเดินอาหารทำงานผิดปกติทำให้ขับถ่ายบ่อย หรืออาจจะทำให้หัวใจวายฉับพลันได้ สารตัวนี้จะส่งผลเหมือนกับคนที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมากๆ อย่างเช่น ชา และกาแฟนั่นเอง



5. ลูกชิ้น

          อาหารสุดโปรดของน้องหมาที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพใครหลายคนอาจจะคิดไม่ถึงว่า ลูกชิ้นปิ้งที่ขายอยู่ตามตลาดทั่วไปส่วนใหญ่มักจะมีการผสมแป้งไม่ได้ใช้เนื้อสัตว์ 100 เปอร์เซนต์ อาจมีสารบอแรกซ์ ถ้าเกิดน้องหมารับสารตัวนี้เข้าไปในปริมาณที่มากๆ จะส่งผลไม่ดีต่อไต เนื่องจากไตเป็นอวัยวะสำคัญในการขับถ่ายสารต่างๆ ออกจากร่างกายน้องหมาได้ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีกับหมาแน่นอน แต่ใช่ว่าจะไม่สามารถให้กินได้ซะดีเดียว แต่ไม่ควรให้กินเป็นประจำหรือบ่อยครั้งจนเกินไป

          เมื่อทราบแล้วว่าของชอบที่เจ้าหมาน้อยของเราชอบกินนั้นมีผลต่อสุขภาพแค่ไหน จากนี้ไปถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง หรือไม่ก็ลดปริมาณลงเพื่อความปลอดภัย และเพื่อสุขภาพของเจ้าหมาน้อยนั่นเอง
 



741
ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

          น้องหมาสายพันธุ์เล็ก ๆ ที่มองผ่าน ๆ  หลายคนคงคิดว่ามันคือสายพันธุ์ชิสุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกติดปากสั้นๆ ว่า "ยอร์คกี้"  เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดจากเหมืองถ่านหินอ้างว้างห่างไกลเมือง ยอร์คเชียร์ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขใช้งาน รับหน้าที่ในการตามล่าและไล่จับเจ้าหนูตัวร้ายจอมป่วน



ลักษณะทั่วไปของยอร์คเชียร์เทอร์เรีย

          ยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขประเภททอย มีลักษณะตัวที่เล็กที่มีรูปร่างสมส่วน มีขนยาวปกคลุมตลอดลำตัว ขนนั้นจะนุ่ม เรียบ ละเอียด สลวยและเงางาม มีขนยาวที่ สีขนเป็นสีเน้ำตาลและสีดำ หางมักจะกุดอยู่ครึ่งของความยาวตามธรรมชาติ

ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี มีประสาทหูที่ดีมากสามารถได้ยินในระยะไกล ๆ ได้ ไม่ใช่สุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อไม่มีสาเหตุ รักเจ้าของ ขี้อ้อน ชอบประจบเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉง มีพลังงานเยอะ ชอบเล่น อยากรู้ อยากเห็น ฉลาด กระตือรือร้น นอกจากนั้น ยังชอบผจญภัย รักอิสระ และไม่ค่อยรู้จักความกลัว เมื่อเจอคนแปลกหน้าจึงพร้อมที่จะเห่าเตือนเจ้าของเสมอ



การดูแล

          อาหาร สุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ มีความไวต่อการแพ้อาหาร ควรเลือกอาหารหลายๆยี่ห้อให้สุนัขกินเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเลือกอาหารยี่ห้อที่สุนัขไม่แพ้เป็นหลัก ควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง และปริมาณอาหารที่แนะนำสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คือ 1/2-1 ถ้วยต่อวัน แบ่งให้ 2 มื้อ

          การอาบน้ำให้ยอร์คเชียร์ อาจทำแค่ 2 ครั้ง/เดือนก็เพียงพอ การอาบน้ำควร ต้องระวังอย่าให้แชมพูเข้าปากและตา จากนั้นล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนูก่อนจะนำไปเป่าขนให้แห้งด้วยไดร์เป่าเพือป้องกันการเกิดเชื้อรา เสร็จแล้วจึงใช้แปรงหวีขนเบา ๆ 



          ขนของ ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ โดยทั่วไปจะยาวถึงพื้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนประมาณ 1 ชั่วโมงทุก ๆ 2 วันเพื่อไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ควรผูกรวบขนบนหัวไว้ไม่ให้ตกมาบริเวณตาของสุนัข แต่ถ้าขี้เกียจที่ต้องทำทุกวันก็ ตัดหน้าม้าให้น้องก็ได้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ และหมั่นเดินเล่นหรือปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกายไปในตัว

โรคประจำพันธุ์

          เจ้าหมาสายพันธุ์นี้นั้นมีโอกาสเกิดโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมได้มาก โดยโรคที่มักพบได้ในสายพันธุ์นี้คือโรคผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปริทันต์ โรคตา ซึ่งเจ้าของต้องจำเป็นและใส่ใจเรื่องเหล่านี้เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมา ยอร์คกี้ของเรา




742
ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

          น้องหมาสายพันธุ์เล็ก ๆ ที่มองผ่าน ๆ  หลายคนคงคิดว่ามันคือสายพันธุ์ชิสุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกติดปากสั้นๆ ว่า "ยอร์คกี้"  เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดจากเหมืองถ่านหินอ้างว้างห่างไกลเมือง ยอร์คเชียร์ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขใช้งาน รับหน้าที่ในการตามล่าและไล่จับเจ้าหนูตัวร้ายจอมป่วน



ลักษณะทั่วไปของยอร์คเชียร์เทอร์เรีย

          ยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขประเภททอย มีลักษณะตัวที่เล็กที่มีรูปร่างสมส่วน มีขนยาวปกคลุมตลอดลำตัว ขนนั้นจะนุ่ม เรียบ ละเอียด สลวยและเงางาม มีขนยาวที่ สีขนเป็นสีเน้ำตาลและสีดำ หางมักจะกุดอยู่ครึ่งของความยาวตามธรรมชาติ

ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี มีประสาทหูที่ดีมากสามารถได้ยินในระยะไกล ๆ ได้ ไม่ใช่สุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อไม่มีสาเหตุ รักเจ้าของ ขี้อ้อน ชอบประจบเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉง มีพลังงานเยอะ ชอบเล่น อยากรู้ อยากเห็น ฉลาด กระตือรือร้น นอกจากนั้น ยังชอบผจญภัย รักอิสระ และไม่ค่อยรู้จักความกลัว เมื่อเจอคนแปลกหน้าจึงพร้อมที่จะเห่าเตือนเจ้าของเสมอ



การดูแล

          อาหาร สุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ มีความไวต่อการแพ้อาหาร ควรเลือกอาหารหลายๆยี่ห้อให้สุนัขกินเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเลือกอาหารยี่ห้อที่สุนัขไม่แพ้เป็นหลัก ควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง และปริมาณอาหารที่แนะนำสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คือ 1/2-1 ถ้วยต่อวัน แบ่งให้ 2 มื้อ

          การอาบน้ำให้ยอร์คเชียร์ อาจทำแค่ 2 ครั้ง/เดือนก็เพียงพอ การอาบน้ำควร ต้องระวังอย่าให้แชมพูเข้าปากและตา จากนั้นล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนูก่อนจะนำไปเป่าขนให้แห้งด้วยไดร์เป่าเพือป้องกันการเกิดเชื้อรา เสร็จแล้วจึงใช้แปรงหวีขนเบา ๆ 



          ขนของ ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ โดยทั่วไปจะยาวถึงพื้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนประมาณ 1 ชั่วโมงทุก ๆ 2 วันเพื่อไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ควรผูกรวบขนบนหัวไว้ไม่ให้ตกมาบริเวณตาของสุนัข แต่ถ้าขี้เกียจที่ต้องทำทุกวันก็ ตัดหน้าม้าให้น้องก็ได้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ และหมั่นเดินเล่นหรือปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกายไปในตัว

โรคประจำพันธุ์

          เจ้าหมาสายพันธุ์นี้นั้นมีโอกาสเกิดโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมได้มาก โดยโรคที่มักพบได้ในสายพันธุ์นี้คือโรคผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปริทันต์ โรคตา ซึ่งเจ้าของต้องจำเป็นและใส่ใจเรื่องเหล่านี้เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมา ยอร์คกี้ของเรา




743
ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

          น้องหมาสายพันธุ์เล็ก ๆ ที่มองผ่าน ๆ  หลายคนคงคิดว่ามันคือสายพันธุ์ชิสุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกติดปากสั้นๆ ว่า "ยอร์คกี้"  เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดจากเหมืองถ่านหินอ้างว้างห่างไกลเมือง ยอร์คเชียร์ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขใช้งาน รับหน้าที่ในการตามล่าและไล่จับเจ้าหนูตัวร้ายจอมป่วน



ลักษณะทั่วไปของยอร์คเชียร์เทอร์เรีย

          ยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขประเภททอย มีลักษณะตัวที่เล็กที่มีรูปร่างสมส่วน มีขนยาวปกคลุมตลอดลำตัว ขนนั้นจะนุ่ม เรียบ ละเอียด สลวยและเงางาม มีขนยาวที่ สีขนเป็นสีเน้ำตาลและสีดำ หางมักจะกุดอยู่ครึ่งของความยาวตามธรรมชาติ

ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี มีประสาทหูที่ดีมากสามารถได้ยินในระยะไกล ๆ ได้ ไม่ใช่สุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อไม่มีสาเหตุ รักเจ้าของ ขี้อ้อน ชอบประจบเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉง มีพลังงานเยอะ ชอบเล่น อยากรู้ อยากเห็น ฉลาด กระตือรือร้น นอกจากนั้น ยังชอบผจญภัย รักอิสระ และไม่ค่อยรู้จักความกลัว เมื่อเจอคนแปลกหน้าจึงพร้อมที่จะเห่าเตือนเจ้าของเสมอ



การดูแล

          อาหาร สุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ มีความไวต่อการแพ้อาหาร ควรเลือกอาหารหลายๆยี่ห้อให้สุนัขกินเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเลือกอาหารยี่ห้อที่สุนัขไม่แพ้เป็นหลัก ควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง และปริมาณอาหารที่แนะนำสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คือ 1/2-1 ถ้วยต่อวัน แบ่งให้ 2 มื้อ

          การอาบน้ำให้ยอร์คเชียร์ อาจทำแค่ 2 ครั้ง/เดือนก็เพียงพอ การอาบน้ำควร ต้องระวังอย่าให้แชมพูเข้าปากและตา จากนั้นล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนูก่อนจะนำไปเป่าขนให้แห้งด้วยไดร์เป่าเพือป้องกันการเกิดเชื้อรา เสร็จแล้วจึงใช้แปรงหวีขนเบา ๆ 



          ขนของ ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ โดยทั่วไปจะยาวถึงพื้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนประมาณ 1 ชั่วโมงทุก ๆ 2 วันเพื่อไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ควรผูกรวบขนบนหัวไว้ไม่ให้ตกมาบริเวณตาของสุนัข แต่ถ้าขี้เกียจที่ต้องทำทุกวันก็ ตัดหน้าม้าให้น้องก็ได้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ และหมั่นเดินเล่นหรือปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกายไปในตัว

โรคประจำพันธุ์

          เจ้าหมาสายพันธุ์นี้นั้นมีโอกาสเกิดโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมได้มาก โดยโรคที่มักพบได้ในสายพันธุ์นี้คือโรคผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปริทันต์ โรคตา ซึ่งเจ้าของต้องจำเป็นและใส่ใจเรื่องเหล่านี้เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมา ยอร์คกี้ของเรา




744
ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย (Yorkshire Terrier)

          น้องหมาสายพันธุ์เล็ก ๆ ที่มองผ่าน ๆ  หลายคนคงคิดว่ามันคือสายพันธุ์ชิสุ แต่ความจริงแล้วไม่ใช่ ยอร์คเชียร์เทอร์เรีย หรืออีกชื่อที่นิยมเรียกติดปากสั้นๆ ว่า "ยอร์คกี้"  เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดจากเหมืองถ่านหินอ้างว้างห่างไกลเมือง ยอร์คเชียร์ ทางตอนเหนือของประเทศอังกฤษ เป็นสุนัขใช้งาน รับหน้าที่ในการตามล่าและไล่จับเจ้าหนูตัวร้ายจอมป่วน



ลักษณะทั่วไปของยอร์คเชียร์เทอร์เรีย

          ยอร์คเชียร์เทอร์เรียเป็นสุนัขประเภททอย มีลักษณะตัวที่เล็กที่มีรูปร่างสมส่วน มีขนยาวปกคลุมตลอดลำตัว ขนนั้นจะนุ่ม เรียบ ละเอียด สลวยและเงางาม มีขนยาวที่ สีขนเป็นสีเน้ำตาลและสีดำ หางมักจะกุดอยู่ครึ่งของความยาวตามธรรมชาติ

ลักษณะนิสัย

          เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี มีประสาทหูที่ดีมากสามารถได้ยินในระยะไกล ๆ ได้ ไม่ใช่สุนัขที่เห่าพร่ำเพรื่อไม่มีสาเหตุ รักเจ้าของ ขี้อ้อน ชอบประจบเป็นสุนัขที่กระฉับกระเฉง มีพลังงานเยอะ ชอบเล่น อยากรู้ อยากเห็น ฉลาด กระตือรือร้น นอกจากนั้น ยังชอบผจญภัย รักอิสระ และไม่ค่อยรู้จักความกลัว เมื่อเจอคนแปลกหน้าจึงพร้อมที่จะเห่าเตือนเจ้าของเสมอ



การดูแล

          อาหาร สุนัขพันธุ์ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ มีความไวต่อการแพ้อาหาร ควรเลือกอาหารหลายๆยี่ห้อให้สุนัขกินเป็นครั้งแรก ก่อนที่จะเลือกอาหารยี่ห้อที่สุนัขไม่แพ้เป็นหลัก ควรให้อาหารที่มีคุณภาพสูง และปริมาณอาหารที่แนะนำสำหรับสุนัขพันธุ์นี้ คือ 1/2-1 ถ้วยต่อวัน แบ่งให้ 2 มื้อ

          การอาบน้ำให้ยอร์คเชียร์ อาจทำแค่ 2 ครั้ง/เดือนก็เพียงพอ การอาบน้ำควร ต้องระวังอย่าให้แชมพูเข้าปากและตา จากนั้นล้างแชมพูออกด้วยน้ำสะอาด แล้วเช็ดด้วยผ้าขนหนูก่อนจะนำไปเป่าขนให้แห้งด้วยไดร์เป่าเพือป้องกันการเกิดเชื้อรา เสร็จแล้วจึงใช้แปรงหวีขนเบา ๆ 



          ขนของ ยอร์กเชียร์ เทอร์เรียร์ โดยทั่วไปจะยาวถึงพื้นจึงจำเป็นต้องแปรงขนประมาณ 1 ชั่วโมงทุก ๆ 2 วันเพื่อไม่ให้ขนพันกันยุ่ง ควรผูกรวบขนบนหัวไว้ไม่ให้ตกมาบริเวณตาของสุนัข แต่ถ้าขี้เกียจที่ต้องทำทุกวันก็ ตัดหน้าม้าให้น้องก็ได้ ก็ดูน่ารักไปอีกแบบ และหมั่นเดินเล่นหรือปล่อยให้วิ่งเล่นในสวนบ้างเพื่อเป็นการผ่อนคลาย และออกกำลังกายไปในตัว

โรคประจำพันธุ์

          เจ้าหมาสายพันธุ์นี้นั้นมีโอกาสเกิดโรคความผิดปกติทางพันธุกรรมได้มาก โดยโรคที่มักพบได้ในสายพันธุ์นี้คือโรคผิวหนัง
โรคภูมิแพ้ผิวหนัง โรคระบบทางเดินหายใจ โรคหลอดลมอักเสบ โรคปริทันต์ โรคตา ซึ่งเจ้าของต้องจำเป็นและใส่ใจเรื่องเหล่านี้เพิ่มขึ้นเพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมา ยอร์คกี้ของเรา




745
เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย 

          เจ้าของสุนัขหลายคนอาจต้องเสียเงินไปกับการพาสุนัขของตัวเอง ไปตัดแต่งขนที่ร้านดูแลสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อต้องการให้สุนัขที่เลี้ยงมีสขนฟูนิ่มเป็นเงาสวย เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของสุนัข รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูเป็นอย่างดีด้วย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงน้องหมาหรือคนที่เลี้ยงไว้แล้วแต่ขนน้องหมาไม่นุ่มฟูสวย เรามีเคล็ดลับดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย มาแนะนำ



เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย   

1. การดูแลทำความสะอาดขน

          ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดโดยการอาบน้ำและแปรงขนให้สุนัข ไม่ว่าจะขนสั้นหรือขนยาว โดยควรที่จะทำประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับอากาศและมอมแมมของน้องหมา แต่ถ้าอากาศเย็นก็อาจใช้วิธีเช็ดขน เช็ดอุ้งเท้า หรือเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่ออาการระคายเคือง ซึ่งสามารถอาบได้บ่อยครั้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาด เช็ดและเป่าแห้ง

          ในจุดที่อาจเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะกับน้องหมาขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ ควรเช็ดตัวน้องหมาให้แห้งที่สุดก่อนจะลงมือเป่าไดร์ที่มีความร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ขนแห้งได้

2. แปรงขน

          เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ขนนุ่มและเงางามคือการแปรงขน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังขับ ‘ไขมัน’ ออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน นอกจากนี้การแปรงขนยังทำให้ขนที่หมดอายุหลุดร่วงออกมา ช่วยลดปัญหาการเกิดขนพันกันได้เป็นอย่างดี
โดยควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยทุก 2 – 3 วันครั้ง โดยเฉพาะหมาที่มีขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ และควรเลือกแปรงให้เหมาะกับสภาพขนน้องหมา อาทิ

•   หวีซี่ ส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะ เหมาะสำหรับน้องหมาขนยาวหรือขนปานกลางถึงยาวมาก ใช้สำหรับสางขนเพื่อกำจัดขนพันกัน และหวีจัดแต่งขนน้องหมา

•   หวีสางสังกะตัง หวีแบบนี้จะมีใบมีดอยู่ตรงซี่หวีด้วย ให้สำหรับสางขนที่เป็นสังกะตังมาก โดยใบมีดจะช่วยตัดขนที่พันกันออกไป



3. กำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ

          ผู้เลี้ยงควรที่จะต้องขยันหรือมีเวลาจัดการกับ เห็บหมัด เป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมา การมีเห็บหมัดเกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของน้องหมา เป็นสาเหตุทำให้ผิวเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตาม ซึ่งเป็นผลทำให้ขนของน้องหมาหลุดร่วงและไม่สวย ด้วยการโรยแป้งกำจัดเห็บหมัด การใส่ยาฆ่าหมัด เป็นต้น

4. อาหารเสริมบำรุงขน

          อาหารเสริมสำหรับน้องหมาจะมี ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของน้องหมามีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเลือกที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เพราะจำเป็นต่อสุขภาพทำให้ขนของน้องหมานุ่มและฟูสวย
นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราสามารถดูแลเจ้าหมาน้อยให้มีขนนุ่มหอม ดูดีมีสุขภาพแข็งแรง น่าอุ้มและหน้ากอดโดยไม่ยากเลยวันหยุดนี้ลองเริ่มทำกันดูได้นะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมาน้อยของคุณ


746
เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย 

          เจ้าของสุนัขหลายคนอาจต้องเสียเงินไปกับการพาสุนัขของตัวเอง ไปตัดแต่งขนที่ร้านดูแลสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อต้องการให้สุนัขที่เลี้ยงมีสขนฟูนิ่มเป็นเงาสวย เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของสุนัข รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูเป็นอย่างดีด้วย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงน้องหมาหรือคนที่เลี้ยงไว้แล้วแต่ขนน้องหมาไม่นุ่มฟูสวย เรามีเคล็ดลับดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย มาแนะนำ



เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย   

1. การดูแลทำความสะอาดขน

          ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดโดยการอาบน้ำและแปรงขนให้สุนัข ไม่ว่าจะขนสั้นหรือขนยาว โดยควรที่จะทำประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับอากาศและมอมแมมของน้องหมา แต่ถ้าอากาศเย็นก็อาจใช้วิธีเช็ดขน เช็ดอุ้งเท้า หรือเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่ออาการระคายเคือง ซึ่งสามารถอาบได้บ่อยครั้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาด เช็ดและเป่าแห้ง

          ในจุดที่อาจเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะกับน้องหมาขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ ควรเช็ดตัวน้องหมาให้แห้งที่สุดก่อนจะลงมือเป่าไดร์ที่มีความร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ขนแห้งได้

2. แปรงขน

          เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ขนนุ่มและเงางามคือการแปรงขน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังขับ ‘ไขมัน’ ออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน นอกจากนี้การแปรงขนยังทำให้ขนที่หมดอายุหลุดร่วงออกมา ช่วยลดปัญหาการเกิดขนพันกันได้เป็นอย่างดี
โดยควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยทุก 2 – 3 วันครั้ง โดยเฉพาะหมาที่มีขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ และควรเลือกแปรงให้เหมาะกับสภาพขนน้องหมา อาทิ

•   หวีซี่ ส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะ เหมาะสำหรับน้องหมาขนยาวหรือขนปานกลางถึงยาวมาก ใช้สำหรับสางขนเพื่อกำจัดขนพันกัน และหวีจัดแต่งขนน้องหมา

•   หวีสางสังกะตัง หวีแบบนี้จะมีใบมีดอยู่ตรงซี่หวีด้วย ให้สำหรับสางขนที่เป็นสังกะตังมาก โดยใบมีดจะช่วยตัดขนที่พันกันออกไป



3. กำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ

          ผู้เลี้ยงควรที่จะต้องขยันหรือมีเวลาจัดการกับ เห็บหมัด เป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมา การมีเห็บหมัดเกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของน้องหมา เป็นสาเหตุทำให้ผิวเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตาม ซึ่งเป็นผลทำให้ขนของน้องหมาหลุดร่วงและไม่สวย ด้วยการโรยแป้งกำจัดเห็บหมัด การใส่ยาฆ่าหมัด เป็นต้น

4. อาหารเสริมบำรุงขน

          อาหารเสริมสำหรับน้องหมาจะมี ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของน้องหมามีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเลือกที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เพราะจำเป็นต่อสุขภาพทำให้ขนของน้องหมานุ่มและฟูสวย
นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราสามารถดูแลเจ้าหมาน้อยให้มีขนนุ่มหอม ดูดีมีสุขภาพแข็งแรง น่าอุ้มและหน้ากอดโดยไม่ยากเลยวันหยุดนี้ลองเริ่มทำกันดูได้นะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมาน้อยของคุณ


747
เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย 

          เจ้าของสุนัขหลายคนอาจต้องเสียเงินไปกับการพาสุนัขของตัวเอง ไปตัดแต่งขนที่ร้านดูแลสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อต้องการให้สุนัขที่เลี้ยงมีสขนฟูนิ่มเป็นเงาสวย เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของสุนัข รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูเป็นอย่างดีด้วย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงน้องหมาหรือคนที่เลี้ยงไว้แล้วแต่ขนน้องหมาไม่นุ่มฟูสวย เรามีเคล็ดลับดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย มาแนะนำ



เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย   

1. การดูแลทำความสะอาดขน

          ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดโดยการอาบน้ำและแปรงขนให้สุนัข ไม่ว่าจะขนสั้นหรือขนยาว โดยควรที่จะทำประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับอากาศและมอมแมมของน้องหมา แต่ถ้าอากาศเย็นก็อาจใช้วิธีเช็ดขน เช็ดอุ้งเท้า หรือเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่ออาการระคายเคือง ซึ่งสามารถอาบได้บ่อยครั้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาด เช็ดและเป่าแห้ง

          ในจุดที่อาจเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะกับน้องหมาขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ ควรเช็ดตัวน้องหมาให้แห้งที่สุดก่อนจะลงมือเป่าไดร์ที่มีความร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ขนแห้งได้

2. แปรงขน

          เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ขนนุ่มและเงางามคือการแปรงขน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังขับ ‘ไขมัน’ ออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน นอกจากนี้การแปรงขนยังทำให้ขนที่หมดอายุหลุดร่วงออกมา ช่วยลดปัญหาการเกิดขนพันกันได้เป็นอย่างดี
โดยควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยทุก 2 – 3 วันครั้ง โดยเฉพาะหมาที่มีขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ และควรเลือกแปรงให้เหมาะกับสภาพขนน้องหมา อาทิ

•   หวีซี่ ส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะ เหมาะสำหรับน้องหมาขนยาวหรือขนปานกลางถึงยาวมาก ใช้สำหรับสางขนเพื่อกำจัดขนพันกัน และหวีจัดแต่งขนน้องหมา

•   หวีสางสังกะตัง หวีแบบนี้จะมีใบมีดอยู่ตรงซี่หวีด้วย ให้สำหรับสางขนที่เป็นสังกะตังมาก โดยใบมีดจะช่วยตัดขนที่พันกันออกไป



3. กำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ

          ผู้เลี้ยงควรที่จะต้องขยันหรือมีเวลาจัดการกับ เห็บหมัด เป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมา การมีเห็บหมัดเกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของน้องหมา เป็นสาเหตุทำให้ผิวเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตาม ซึ่งเป็นผลทำให้ขนของน้องหมาหลุดร่วงและไม่สวย ด้วยการโรยแป้งกำจัดเห็บหมัด การใส่ยาฆ่าหมัด เป็นต้น

4. อาหารเสริมบำรุงขน

          อาหารเสริมสำหรับน้องหมาจะมี ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของน้องหมามีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเลือกที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เพราะจำเป็นต่อสุขภาพทำให้ขนของน้องหมานุ่มและฟูสวย
นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราสามารถดูแลเจ้าหมาน้อยให้มีขนนุ่มหอม ดูดีมีสุขภาพแข็งแรง น่าอุ้มและหน้ากอดโดยไม่ยากเลยวันหยุดนี้ลองเริ่มทำกันดูได้นะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมาน้อยของคุณ


748
เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย 

          เจ้าของสุนัขหลายคนอาจต้องเสียเงินไปกับการพาสุนัขของตัวเอง ไปตัดแต่งขนที่ร้านดูแลสุนัขโดยเฉพาะ เพื่อต้องการให้สุนัขที่เลี้ยงมีสขนฟูนิ่มเป็นเงาสวย เพราะนั่นจะบ่งบอกถึงการมีสุขภาพที่ดีของสุนัข รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่จากคนเลี้ยงที่ดูเป็นอย่างดีด้วย สำหรับมือใหม่หัดเลี้ยงน้องหมาหรือคนที่เลี้ยงไว้แล้วแต่ขนน้องหมาไม่นุ่มฟูสวย เรามีเคล็ดลับดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย มาแนะนำ



เคล็ดลับ ดูแลขนสุนัขให้ฟูสวย   

1. การดูแลทำความสะอาดขน

          ต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดโดยการอาบน้ำและแปรงขนให้สุนัข ไม่ว่าจะขนสั้นหรือขนยาว โดยควรที่จะทำประมาณ 2 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออาจขึ้นอยู่กับอากาศและมอมแมมของน้องหมา แต่ถ้าอากาศเย็นก็อาจใช้วิธีเช็ดขน เช็ดอุ้งเท้า หรือเช็ดตัวให้สุนัขแทนการอาบน้ำได้ และควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อาบน้ำที่เป็นสูตรอ่อนโยน ไม่มีสารก่ออาการระคายเคือง ซึ่งสามารถอาบได้บ่อยครั้ง เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วควรทำความสะอาด เช็ดและเป่าแห้ง

          ในจุดที่อาจเกิดการอับชื้น โดยเฉพาะกับน้องหมาขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ ควรเช็ดตัวน้องหมาให้แห้งที่สุดก่อนจะลงมือเป่าไดร์ที่มีความร้อน เพราะความร้อนอาจทำให้ขนแห้งได้

2. แปรงขน

          เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้ขนนุ่มและเงางามคือการแปรงขน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังขับ ‘ไขมัน’ ออกมาเคลือบผิวหนังและเส้นขน นอกจากนี้การแปรงขนยังทำให้ขนที่หมดอายุหลุดร่วงออกมา ช่วยลดปัญหาการเกิดขนพันกันได้เป็นอย่างดี
โดยควรแปรงขนเป็นประจำทุกวัน หรืออย่างน้อยทุก 2 – 3 วันครั้ง โดยเฉพาะหมาที่มีขนยาวต้องดูแลเป็นพิเศษ และควรเลือกแปรงให้เหมาะกับสภาพขนน้องหมา อาทิ

•   หวีซี่ ส่วนใหญ่ทำมาจากโลหะ เหมาะสำหรับน้องหมาขนยาวหรือขนปานกลางถึงยาวมาก ใช้สำหรับสางขนเพื่อกำจัดขนพันกัน และหวีจัดแต่งขนน้องหมา

•   หวีสางสังกะตัง หวีแบบนี้จะมีใบมีดอยู่ตรงซี่หวีด้วย ให้สำหรับสางขนที่เป็นสังกะตังมาก โดยใบมีดจะช่วยตัดขนที่พันกันออกไป



3. กำจัดเห็บหมัดและตรวจสุขภาพผิวหนังเป็นประจำ

          ผู้เลี้ยงควรที่จะต้องขยันหรือมีเวลาจัดการกับ เห็บหมัด เป็นปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะน้องหมา การมีเห็บหมัดเกาะกินเลือดอยู่ตามผิวหนังของน้องหมา เป็นสาเหตุทำให้ผิวเป็นแผลและเกิดโรคผิวหนังตาม ซึ่งเป็นผลทำให้ขนของน้องหมาหลุดร่วงและไม่สวย ด้วยการโรยแป้งกำจัดเห็บหมัด การใส่ยาฆ่าหมัด เป็นต้น

4. อาหารเสริมบำรุงขน

          อาหารเสริมสำหรับน้องหมาจะมี ช่วยทำให้ขนและผิวหนังของน้องหมามีสุขภาพดี การเลือกซื้ออาหารเสริมควรเลือกที่มีสารอาหารประเภทโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 เพราะจำเป็นต่อสุขภาพทำให้ขนของน้องหมานุ่มและฟูสวย
นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่เราสามารถดูแลเจ้าหมาน้อยให้มีขนนุ่มหอม ดูดีมีสุขภาพแข็งแรง น่าอุ้มและหน้ากอดโดยไม่ยากเลยวันหยุดนี้ลองเริ่มทำกันดูได้นะ เพื่อสุขภาพที่ดีของเจ้าหมาน้อยของคุณ


749
รู้จักกับสุนัขพันธุ์ ‘สวีดิช วาลฮุนด์’ เตี้ยล่ำน่ารัก

          สุนัขที่มนุษย์นำมาใช้งานนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ ที่เเม้ว่าไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรือรู้จักกันในวงกว้างนัก เเต่พวกมันก็มีความสามารถเเละมีความน่าสนใจอยู่และเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่น่าเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียว



ลักษณะทั่วไป

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) เป็นสุนัขขนาดกลาง ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก หางม้วนขึ้นมาบนหลังแบบสายพันธุ์สปิตซ์ มีขนสองชั้นหนาแน่นช่วยป้องกันอากาศหนาวเย็น ถือว่าเป็นสุนัขที่โดยรวมเเล้วมีความน่ารักและสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดีอีกหนึ่งสายพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มันได้รับความนิยมในการเลี้ยงตามบ้านเรือนมาเป็นอย่างดี

          สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) นั้นก็คือน้ำหนักประมาณอยู่ที่ 19-21 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณที่ 44-49 เซนติเมตร

          มีใบหูสั้นและตั้งตรงส่วนตาจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม โดยที่มีหางเป็นพวงม้วนกลับมาด้านหน้า เเละมีขนยาวบริเวณลำตัวและขา ขนหนาและหยาบ ส่วนมากจะมีขนสีเดียวกันตลอดทั้งตัว แต่อาจพบขนขาวแซมบ้างก็ได้ซึ่งไม่ถือว่าเป็นลักษณะด้อย

ที่มาของ สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์

          ต้นกำเนิดมาของพวกมันนั้น มาจากประเทศสวีเดน เชื่อกันว่ามาจากช่วงยุคไวกิ้งประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว โดยเริ่มแรกชนเผ่าเร่ร่อนแลพพ์ในแถบสแกนดิเนเวียใช้สุนัขพันธุ์นี้ต้อนฝูงกวางเรนเดียร์ แต่ต่อมาใช้ต้อนฝูงแกะ และทำหน้าที่ในการต้อนปศุสัตว์และสัตว์อื่น ๆ รวมทั้งเป็นสุนัขเฝ้าบ้านระวังภัย แต่ ณ ปัจจุบันด้วยความหายากของสุนัขพันธุ์นี้ ก็ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงไปแล้วแม้ว่าจะมีไม่กี่ประเทศก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่น่าสนใจและมีความนิยมเลี้ยงกันพอสมควร



ลักษณะนิสัย

          นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพราะมีความเป็นมิตร นิสัยดีร่าเริงติดการเข้าสังคมและต้องอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ชอบการถูกทิ้งไว้ลำพัง หากเขาถูกทิ้งไว้นาน ๆ จะส่งเสียงเห่าเรียก ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหมาะกับคนอยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายความเหงา ไม่ชื่นชอบการอยู่คนเดียว ค่อนข้างใจเย็นเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน อาจจะระแวงคนแปลกหน้าแต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าวหรือดุร้าย จะมีเพียงเห่าใส่คนแปลกหน้าเท่านั้น

การดูแล

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ มีขนยาวและหนาจึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดบ่อย ๆ ควรใช้หวีในการแปรงขนวันละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ขนที่ตายแล้วหลุดออกมา การอาบน้ำก็จะยิ่งช่วยให้ผลัดขนได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องไม่ลืมที่จะเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง นอกจากนี้ควรมีการตัดเล็บและทำความสะอาดหูอยู่เสมออาบน้ำทุกครั้ง ควรพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างเพราะโดยนิสัยแล้วเขาจะชื่นชอบการขยับตัว


750
รู้จักกับสุนัขพันธุ์ ‘สวีดิช วาลฮุนด์’ เตี้ยล่ำน่ารัก

          สุนัขที่มนุษย์นำมาใช้งานนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ ที่เเม้ว่าไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรือรู้จักกันในวงกว้างนัก เเต่พวกมันก็มีความสามารถเเละมีความน่าสนใจอยู่และเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่น่าเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียว



ลักษณะทั่วไป

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) เป็นสุนัขขนาดกลาง ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก หางม้วนขึ้นมาบนหลังแบบสายพันธุ์สปิตซ์ มีขนสองชั้นหนาแน่นช่วยป้องกันอากาศหนาวเย็น ถือว่าเป็นสุนัขที่โดยรวมเเล้วมีความน่ารักและสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดีอีกหนึ่งสายพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มันได้รับความนิยมในการเลี้ยงตามบ้านเรือนมาเป็นอย่างดี

          สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) นั้นก็คือน้ำหนักประมาณอยู่ที่ 19-21 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณที่ 44-49 เซนติเมตร

          มีใบหูสั้นและตั้งตรงส่วนตาจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม โดยที่มีหางเป็นพวงม้วนกลับมาด้านหน้า เเละมีขนยาวบริเวณลำตัวและขา ขนหนาและหยาบ ส่วนมากจะมีขนสีเดียวกันตลอดทั้งตัว แต่อาจพบขนขาวแซมบ้างก็ได้ซึ่งไม่ถือว่าเป็นลักษณะด้อย

ที่มาของ สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์

          ต้นกำเนิดมาของพวกมันนั้น มาจากประเทศสวีเดน เชื่อกันว่ามาจากช่วงยุคไวกิ้งประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว โดยเริ่มแรกชนเผ่าเร่ร่อนแลพพ์ในแถบสแกนดิเนเวียใช้สุนัขพันธุ์นี้ต้อนฝูงกวางเรนเดียร์ แต่ต่อมาใช้ต้อนฝูงแกะ และทำหน้าที่ในการต้อนปศุสัตว์และสัตว์อื่น ๆ รวมทั้งเป็นสุนัขเฝ้าบ้านระวังภัย แต่ ณ ปัจจุบันด้วยความหายากของสุนัขพันธุ์นี้ ก็ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงไปแล้วแม้ว่าจะมีไม่กี่ประเทศก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่น่าสนใจและมีความนิยมเลี้ยงกันพอสมควร



ลักษณะนิสัย

          นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพราะมีความเป็นมิตร นิสัยดีร่าเริงติดการเข้าสังคมและต้องอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ชอบการถูกทิ้งไว้ลำพัง หากเขาถูกทิ้งไว้นาน ๆ จะส่งเสียงเห่าเรียก ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหมาะกับคนอยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายความเหงา ไม่ชื่นชอบการอยู่คนเดียว ค่อนข้างใจเย็นเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน อาจจะระแวงคนแปลกหน้าแต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าวหรือดุร้าย จะมีเพียงเห่าใส่คนแปลกหน้าเท่านั้น

การดูแล

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ มีขนยาวและหนาจึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดบ่อย ๆ ควรใช้หวีในการแปรงขนวันละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ขนที่ตายแล้วหลุดออกมา การอาบน้ำก็จะยิ่งช่วยให้ผลัดขนได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องไม่ลืมที่จะเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง นอกจากนี้ควรมีการตัดเล็บและทำความสะอาดหูอยู่เสมออาบน้ำทุกครั้ง ควรพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างเพราะโดยนิสัยแล้วเขาจะชื่นชอบการขยับตัว