THAI PEDIGREE คือ แพลตฟอร์มคนรักสัตว์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับสายพันธุ์ของต้นสายของสัตว์เลี้ยงของตนเอง ซื้อขายสัตว์เลี้ยง ของใช้สัตว์เลี้ยง



THAI PEDIGREE ใบเพ็ดดีกรี ออนไลน์ สำหรับสัตว์เลี้ยงทุกสายพันธุ์ เราเป็นกลุ่มคนรักสัตว์ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีมาตรฐานการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง และทุกคนสามารถตรวจสอบสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง และสามารถเก็บบันทึกข้อมูลประวัติสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงของตัวเองได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ข้อดีของ THAI PEDIGREE

1. สามารถเพิ่มข้อมูลสัตว์เลี้ยงได้
2. สามารถโพสซื้อขายสัตว์เลี้ยงได้
3. มีระบบจัดการ การขายสัตว์เลี้ยงที่ใช้งานสะดวก
4. สามารถแชทติดต่อผู้ซื้อขายสัตว์เลี้ยงได้อย่างง่ายดาย
5. มีการยืนยันตนของผู้ขายสัตว์เลี้ยง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าไม่โดนโกง
6. เป็นสังคมของคนรักสัตว์
7. มีการประกวดสัตว์เลี้ยงแต่ล่ะสายพันธุ์
8. มีการให้ตะแนนรีวิวสินค้าสัตว์เลี้ยง
9. สามารถตรวจสอบข้อมูลสัตว์เลี้ยงได้ง่าย
10. เชื่อมต่อข้อมูล [url=http://www.thaipedigree.com]www.thaipedigree.com[/url] อัตโนมัติ

Download ได้เเล้วที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

THAI PEDIGREE คือ แพลตฟอร์มคนรักสัตว์ สามารถตรวจสอบย้อนกลับสายพันธุ์ของต้นสายของสัตว์เลี้ยงของตนเอง ซื้อขายสัตว์เลี้ยง ของใช้สัตว์เลี้ยง



THAI PEDIGREE ใบเพ็ดดีกรี ออนไลน์ สำหรับสัตว์เลี้ยงทุกสายพันธุ์ เราเป็นกลุ่มคนรักสัตว์ที่ต้องการเห็นประเทศไทยมีมาตรฐานการพัฒนาสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง และทุกคนสามารถตรวจสอบสายพันธุ์สัตว์เลี้ยง และสามารถเก็บบันทึกข้อมูลประวัติสายพันธุ์สัตว์เลี้ยงของตัวเองได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

ข้อดีของ THAI PEDIGREE

1. สามารถเพิ่มข้อมูลสัตว์เลี้ยงได้
2. สามารถโพสซื้อขายสัตว์เลี้ยงได้
3. มีระบบจัดการ การขายสัตว์เลี้ยงที่ใช้งานสะดวก
4. สามารถแชทติดต่อผู้ซื้อขายสัตว์เลี้ยงได้อย่างง่ายดาย
5. มีการยืนยันตนของผู้ขายสัตว์เลี้ยง ทำให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าไม่โดนโกง
6. เป็นสังคมของคนรักสัตว์
7. มีการประกวดสัตว์เลี้ยงแต่ล่ะสายพันธุ์
8. มีการให้ตะแนนรีวิวสินค้าสัตว์เลี้ยง
9. สามารถตรวจสอบข้อมูลสัตว์เลี้ยงได้ง่าย
10. เชื่อมต่อข้อมูล [url=http://www.thaipedigree.com]www.thaipedigree.com[/url] อัตโนมัติ

Download ได้เเล้วที่ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

ชิสุ เจ้าหมาน้อยขี้ประจบ

          ชิสุ (Shih Tzu) เป็นสุนัขที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนสุนัขสายพันธุ์เล็กทั่วไปสักเท่าไหร่ ชิสุ นั้นเป็นสุนัขที่ได้รับตำแหน่งครองใจผู้เลี้ยงมานานตั้งแต่ระดับจักรพรรดิจีนโบราณไปจนถึงเหล่าดาราฮอลลีวู้ด ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม จึงตกหลุมรักน้องได้โดยไม่ยาก



ลักษณะทั่วไปของสุนัขชิสุ

          ชิสุ เป็น สุนัขขนาดเล็ก หนักประมาณ 7 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ  27 ซม. ลำตัวจะยาวกว่าความสูงของตัว ขนมีสองชั้นเต็มทั้งตัว แน่น ขนตรงยาวลงมาถึงเท้า หูและหางจะมีขนเต็มและยาว ขนที่หางมีลักษณะเป็นพู่และโค้งมาบริเวณกลางหลัง ชิสุ เป็นกลุ่มสุนัขหน้าสั้น บริเวณปากและจมูกจะแบน แต่ไม่แบนเท่าสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ดวงตากลมโต อายุยืนยาวถึง 14 - 15 ปี

ลักษณะนิสัย

          ชิสุ สดใสร่าเริง และเป็นมิตร สดใส น่ารักขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัวรักความสะอาด ปากที่สั้นชิสุจึงไม่ใช่นักแทะหรือเคี้ยว แต่ว่าเขาจะชื่นชอบการขุดและการเห่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบที่จะอยู่กับคน ไม่ว่าจะเป็นนั่งเฉยๆ บนตัก ชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กับเจ้าของในทุกเรื่อง




อาหารและการเลี้ยงดูสุนัขชิสุ

          ชิสุ เป็นสุนัขที่มีอายุค่อนข้างยืนยาวแต่ก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ เช่น อาหาร และการเลี้ยงดู โรคที่มักเกิดขึ้นกับ ชิสุ คือโรคตาแห้ง จึงควรหมั่นทำความสะอาดตาและหู อย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของมันโดยเฉพาะ

          ด้วยขนที่ยาว เส้นเล็กและพันกันได้ง่าย จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ หากไม่รู้จักวิธีการรักษาขนให้ดี ขนของ ชิสุ จะพันกันและมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายๆ การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอทุกวันจะช่วยให้ผิวหนังและขนสะอาด

          อาหารที่เหมาะกับ ชิสุ ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะหนวดเครา เหม็นคาว ทำให้ต้องทำความสะอาดกันทุกครั้งไป และหากล้างออกไม่หมดก็จะกลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรค

          สุนัขชิสุ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่น้อย คนที่อยู่อพาร์ตเม้นต์หรือคอนโด มีความเป็นมิตรสูงจึงสามารถเลี้ยงรวมกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้เป็นอย่างดี สามารถเข้ากับสมาชิกในครอบครัวได้ทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุและเด็กเป็นอย่างมาก
สำหรับใครที่กำลังมองหาเพื่อนหรือสมาชิกใหม่ในบ้าน ชิสุก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ ราคาก็ไม่สูงเกินไปด้วยนะคะ

ชิสุ เจ้าหมาน้อยขี้ประจบ

          ชิสุ (Shih Tzu) เป็นสุนัขที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Toy Group เป็นสุนัขที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนสุนัขสายพันธุ์เล็กทั่วไปสักเท่าไหร่ ชิสุ นั้นเป็นสุนัขที่ได้รับตำแหน่งครองใจผู้เลี้ยงมานานตั้งแต่ระดับจักรพรรดิจีนโบราณไปจนถึงเหล่าดาราฮอลลีวู้ด ด้วยขนที่ฟูดูนุ่มน่ากอด หน้าตาจิ้มลิ้ม จึงตกหลุมรักน้องได้โดยไม่ยาก



ลักษณะทั่วไปของสุนัขชิสุ

          ชิสุ เป็น สุนัขขนาดเล็ก หนักประมาณ 7 กิโลกรัม ส่วนสูงประมาณ  27 ซม. ลำตัวจะยาวกว่าความสูงของตัว ขนมีสองชั้นเต็มทั้งตัว แน่น ขนตรงยาวลงมาถึงเท้า หูและหางจะมีขนเต็มและยาว ขนที่หางมีลักษณะเป็นพู่และโค้งมาบริเวณกลางหลัง ชิสุ เป็นกลุ่มสุนัขหน้าสั้น บริเวณปากและจมูกจะแบน แต่ไม่แบนเท่าสุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ดวงตากลมโต อายุยืนยาวถึง 14 - 15 ปี

ลักษณะนิสัย

          ชิสุ สดใสร่าเริง และเป็นมิตร สดใส น่ารักขี้ประจบ มีความสง่าอยู่ในตัวรักความสะอาด ปากที่สั้นชิสุจึงไม่ใช่นักแทะหรือเคี้ยว แต่ว่าเขาจะชื่นชอบการขุดและการเห่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งชอบที่จะอยู่กับคน ไม่ว่าจะเป็นนั่งเฉยๆ บนตัก ชอบที่จะมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ กับเจ้าของในทุกเรื่อง




อาหารและการเลี้ยงดูสุนัขชิสุ

          ชิสุ เป็นสุนัขที่มีอายุค่อนข้างยืนยาวแต่ก็ขึ้นกับปัจจัยต่างๆ เช่น อาหาร และการเลี้ยงดู โรคที่มักเกิดขึ้นกับ ชิสุ คือโรคตาแห้ง จึงควรหมั่นทำความสะอาดตาและหู อย่างสม่ำเสมอด้วยผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดของมันโดยเฉพาะ

          ด้วยขนที่ยาว เส้นเล็กและพันกันได้ง่าย จึงต้องดูแลมากเป็นพิเศษ หากไม่รู้จักวิธีการรักษาขนให้ดี ขนของ ชิสุ จะพันกันและมีโอกาสเป็นโรคผิวหนังได้ง่ายๆ การแปรงขนอย่างสม่ำเสมอทุกวันจะช่วยให้ผิวหนังและขนสะอาด

          อาหารที่เหมาะกับ ชิสุ ควรเป็นอาหารเม็ดมากกว่าอาหารกระป๋อง เพราะอาหารกระป๋องจะทำให้เลอะหนวดเครา เหม็นคาว ทำให้ต้องทำความสะอาดกันทุกครั้งไป และหากล้างออกไม่หมดก็จะกลายเป็นที่สะสมของเชื้อโรค

          สุนัขชิสุ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่น้อย คนที่อยู่อพาร์ตเม้นต์หรือคอนโด มีความเป็นมิตรสูงจึงสามารถเลี้ยงรวมกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นได้เป็นอย่างดี สามารถเข้ากับสมาชิกในครอบครัวได้ทุกวัย โดยเฉพาะกับผู้สูงอายุและเด็กเป็นอย่างมาก
สำหรับใครที่กำลังมองหาเพื่อนหรือสมาชิกใหม่ในบ้าน ชิสุก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่ดีนะคะ ราคาก็ไม่สูงเกินไปด้วยนะคะ

5 ประโยชน์การเลี้ยงสุนัข ที่คุณรู้แล้วต้องอึ้ง    

          ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นที่นิยมมากนะคะ ทั้งเลี้ยงสัตว์แปลก สัตว์หายาก หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยงปกติทั้งไป และการเลี้ยงสัตว์ประเภทสุนัข ซึ่งการเลี้ยงสุนัขนั้นก็เป็นสัตว์ที่นิยมนำมาเลี้ยงกันเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
และทราบหรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสุนัขนั้นนอกจากจะทำให้คลายเหงา หรือเพื่อเฝ้าบ้านแล้วนั้น การเลี้ยงสุนัขนั้นยังมีประโยชน์มากกว่านั้นอีกนะคะ แต่จะมีอะไรบ้างมาดูกัน



1. ช่วยลดความเครียด

          สุนัขนั้นได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปว่า มีส่วนช่วยในเรื่องของจิตใจ โดยมีผลการวิจัยว่าคนที่มีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงจะมีความรู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสุนัข เพราะเมื่อยามที่เครียดนั้นย่อมต้องการที่จะต้องการพูดระบายความรู้สึกอัดอั้นให้ใครบางคนฟัง

          สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือการ ระบายกับสุนัขที่เลี้ยงนั่นเอง เพราะทำให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย ไม่ต้องวิตกว่าจะถูกนำไปถ่ายทอดให้กับคนอื่น แม้จะไม่ได้รับการโต้ตอบกลับมาหรือคำปรึกษา แต่ด้วยแววตาที่แสดงถึงความรัก ความห่วงใย ความซื่อสัตย์ที่สุนัขมีนั้นก็ช่วยลดความเครียดให้กับผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างด

2. ฝึกความรับผิดชอบ

          จะสังเกตได้ว่าพ่อแม่ เด็ก บางคนนั้นเลือกให้ลูก ๆ เลี้ยงสุนัข โดยหวังให้เป็นการฝึกให้เด็ก ๆ มีความรับผิดชอบนั่นเอง ไม่ใช่ว่าให้อาหารแล้วก็จบ แต่ต้องเอาใจใส่ ตั้งแต่การให้อาหาร การพาไปเดินเล่น การเก็บอุจจาระและการอาบน้ำทำความสะอาดพื้นที่บ้านและพื้นที่ขับถ่ายของสุนัข ล้วนต้องได้รับการดูแลทำความสะอาดทุกวัน หากไม่ทำความสะอาดทุกวันแล้ว บ้านจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นที่ไม่น่าพิสมัยเลยแม้แต่น้อย ซึ่งจะทำให้เด็ก ๆ นั้นเกิดเป็นนิสัยมีความรับผิดชอบ ไม่ห่วงแต่เล่นมือถือ หรือติดเกมส์นั่นเอง



3. สร้างสุขภาพที่ดี

          ในต่างประเทศมีการวิจัยถึงข้อดีในการเลี้ยงสุนัข พบว่าบ้านที่เลี้ยงสุนัขและนำสุนัขเข้าไปนอนด้วยในห้องนอน จะนอนหลับสนิทมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื่องจากไม่ต้องกังวลถึงอันตรายที่จะเข้ามาทำร้ายในช่วงเวลานอน เพราะคิดว่าหากมีอันตรายเกิดขึ้นสุนัขที่อยู่ด้วยจะช่วยเหลือและเตือนภัยได้ จึงทำให้หลับสนิทตลอดทั้งคืน



4. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

          แต่เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ชอบที่จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนเลี้ยงต้องพาไปออกกำลังและเล่นด้วยเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้คนเลี้ยงมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น มีการสูบฉีดเลือดผ่านหัวใจในอัตราที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป หัวใจจึงมีความแข็งแรง ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจทุกชนิดได้เป็นอย่างดี



5. รู้จักวางแผน

          การเลี้ยงดูสุนัขจะต้องมีการวางแผน รวมถึงการตระเตรียมเรื่องต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า จึงให้สร้างนิสัย ในการเตรียมพร้อม และวางแผนการไว้ ในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะการดูแล การเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมค่าใช้จ่าย จึงเป็นการฝึกวางแผนอีกแบบหนึ่งที่ดีนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์จากการเลี้ยงสุนัขที่มีนอกเหนือจากแค่ไว้คลายเหงา หรือเป็นยามเฝ้าบ้านนะคะ ซึ่งบางเรื่องนั้นเราเองก็ไม่คิดได้ว่าจะได้รับจากการเลี้ยงสุนัขเลย

5 ประโยชน์การเลี้ยงสุนัข ที่คุณรู้แล้วต้องอึ้ง    

          ปัจจุบันการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นเป็นที่นิยมมากนะคะ ทั้งเลี้ยงสัตว์แปลก สัตว์หายาก หรือจะเป็นสัตว์เลี้ยงปกติทั้งไป และการเลี้ยงสัตว์ประเภทสุนัข ซึ่งการเลี้ยงสุนัขนั้นก็เป็นสัตว์ที่นิยมนำมาเลี้ยงกันเป็นอันดับต้น ๆ เลยทีเดียว
และทราบหรือไม่ว่า จริง ๆ แล้วการเลี้ยงสุนัขนั้นนอกจากจะทำให้คลายเหงา หรือเพื่อเฝ้าบ้านแล้วนั้น การเลี้ยงสุนัขนั้นยังมีประโยชน์มากกว่านั้นอีกนะคะ แต่จะมีอะไรบ้างมาดูกัน



1. ช่วยลดความเครียด

          สุนัขนั้นได้รับการยอมรับกันโดยทั่วไปว่า มีส่วนช่วยในเรื่องของจิตใจ โดยมีผลการวิจัยว่าคนที่มีสุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงจะมีความรู้สึกผ่อนคลายความเครียดได้ดีกว่าคนที่ไม่ได้เลี้ยงสุนัข เพราะเมื่อยามที่เครียดนั้นย่อมต้องการที่จะต้องการพูดระบายความรู้สึกอัดอั้นให้ใครบางคนฟัง

          สิ่งหนึ่งที่ทำได้คือการ ระบายกับสุนัขที่เลี้ยงนั่นเอง เพราะทำให้รู้สึกปลอดภัยและผ่อนคลาย ไม่ต้องวิตกว่าจะถูกนำไปถ่ายทอดให้กับคนอื่น แม้จะไม่ได้รับการโต้ตอบกลับมาหรือคำปรึกษา แต่ด้วยแววตาที่แสดงถึงความรัก ความห่วงใย ความซื่อสัตย์ที่สุนัขมีนั้นก็ช่วยลดความเครียดให้กับผู้เลี้ยงได้เป็นอย่างด

2. ฝึกความรับผิดชอบ

          จะสังเกตได้ว่าพ่อแม่ เด็ก บางคนนั้นเลือกให้ลูก ๆ เลี้ยงสุนัข โดยหวังให้เป็นการฝึกให้เด็ก ๆ มีความรับผิดชอบนั่นเอง ไม่ใช่ว่าให้อาหารแล้วก็จบ แต่ต้องเอาใจใส่ ตั้งแต่การให้อาหาร การพาไปเดินเล่น การเก็บอุจจาระและการอาบน้ำทำความสะอาดพื้นที่บ้านและพื้นที่ขับถ่ายของสุนัข ล้วนต้องได้รับการดูแลทำความสะอาดทุกวัน หากไม่ทำความสะอาดทุกวันแล้ว บ้านจะเต็มไปด้วยกลิ่นเหม็นที่ไม่น่าพิสมัยเลยแม้แต่น้อย ซึ่งจะทำให้เด็ก ๆ นั้นเกิดเป็นนิสัยมีความรับผิดชอบ ไม่ห่วงแต่เล่นมือถือ หรือติดเกมส์นั่นเอง



3. สร้างสุขภาพที่ดี

          ในต่างประเทศมีการวิจัยถึงข้อดีในการเลี้ยงสุนัข พบว่าบ้านที่เลี้ยงสุนัขและนำสุนัขเข้าไปนอนด้วยในห้องนอน จะนอนหลับสนิทมากขึ้นกว่าเดิม ทำให้มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ เนื่องจากไม่ต้องกังวลถึงอันตรายที่จะเข้ามาทำร้ายในช่วงเวลานอน เพราะคิดว่าหากมีอันตรายเกิดขึ้นสุนัขที่อยู่ด้วยจะช่วยเหลือและเตือนภัยได้ จึงทำให้หลับสนิทตลอดทั้งคืน



4. ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคหัวใจ

          แต่เนื่องจากสุนัขเป็นสัตว์ที่มีความกระตือรือร้นอยู่ตลอดเวลา ชอบที่จะเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ทำให้คนเลี้ยงต้องพาไปออกกำลังและเล่นด้วยเป็นประจำ ซึ่งจะทำให้คนเลี้ยงมีอัตราการเต้นของหัวใจสูงขึ้น มีการสูบฉีดเลือดผ่านหัวใจในอัตราที่เหมาะสมไม่มากหรือน้อยเกินไป หัวใจจึงมีความแข็งแรง ลดความเสี่ยงเป็นโรคหัวใจทุกชนิดได้เป็นอย่างดี



5. รู้จักวางแผน

          การเลี้ยงดูสุนัขจะต้องมีการวางแผน รวมถึงการตระเตรียมเรื่องต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้า จึงให้สร้างนิสัย ในการเตรียมพร้อม และวางแผนการไว้ ในเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะการดูแล การเตรียมอุปกรณ์ การเตรียมค่าใช้จ่าย จึงเป็นการฝึกวางแผนอีกแบบหนึ่งที่ดีนั่นเอง
ทั้งหมดนี้เป็นประโยชน์จากการเลี้ยงสุนัขที่มีนอกเหนือจากแค่ไว้คลายเหงา หรือเป็นยามเฝ้าบ้านนะคะ ซึ่งบางเรื่องนั้นเราเองก็ไม่คิดได้ว่าจะได้รับจากการเลี้ยงสุนัขเลย

ปูลิ (Puli)

          เคยได้ยินชื่อน้องหมาสายพันธุ์ ปูลิ ไหมค่ะ น่าจะไม่ค่อยคุ้นหูมากใช่ไหม และเชื่ออีกว่าถ้าใครเจอน้องก็คงต้องเกิดความสับสนระหว่าง เจ้าหมาสายพันธุ์ปูลิ กับ โคมอนดอร์  แน่นอนเพราะทั้งสองสายพันธุ์นี้หน้าตาคล้ายกันมากจนเหมือนฝาแฝดกันทีเดียว วันนี้เรามาทำความรู้จักน้องหมาปูลิ กันดีกว่าว่าเป็นอย่างไร



          ปูลิ เป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฮังการี คอยทำหน้าที่ต้อนแกะตลอดทั้งช่วงวันและคืน โดยเจ้าของฟาร์มแกะส่วนใหญ่จะเลือกเลี้ยงปูลิตัวสีดำเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย ตัดกับสีขาวของตัวแกะ ปูลิจะได้รับหน้าที่เห่าเตือนภัยให้เจ้านายรู้และต้อนแกะกลับเข้าคอกอย่างปลอดภัย

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 น้องหมาสายพันธุ์ปูลิถูกสังหารไปกับไฟสงครามจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่หลังจากนั้นมีผู้ผสมพันธุ์สุนัขได้เข้ามาช่วยเหลือให้สายพันธุ์นี้อยู่รอดต่อไป และได้รับการขึ้นทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขในปีค.ศ. 1936

ลักษณะทั่วไปของปูลิ

        ปูลิ เป็นสุนัขขนาดกลาง มีความสูงที่ประมาณ 17 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 35 ปอนด์ ขนของสุนัขสายพันธุ์ พูลิ จะมีลักษณะบิดเป็นเกลียวเช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์โคมอนดอร์แต่จะมีขนาดเกลียวที่เล็กและละเอียดกว่า ผู้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พูลิมักไม่นิยมใช้แปรงแปรงขนให้สุนัข เพราะจะทำลายลักษณะเฉพาะตัว และจะทำให้สุนัขเจ็บเมื่อต้องถูกดึงกระชากขนที่พันกันอยู่ให้แยกออกจากกัน ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขอักเสบได้

การดูแลขนของ

        ปูลิจำเป็นต้องได้รับการดูแลขนที่พิถีพิถันมากจึงเหมาะที่จะพาเข้าร้าน กรูมมิ่งเพื่ออาบน้ำตกแต่งทรงขนน่าจะวิธีที่ดีที่สุดในเพราะร้านกรูมมิ่งก็จะมีเทคนิคในการดูแลและเป่าขนสุนัขจนแห้งสนิทเพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งจะใช้เวลาในการดูแลอาบน้ำทำความสะอาดขนของพูลิจนแห้งสนิทประมาณ 2-3 ชั่วโมง สำหรับความถี่ในการอาบน้ำที่เหมาะสมอยู่ที่เดือนละ 1-2 ครั้ง



        เพราะว่าความหนาของเส้นขน ดั้งนั้นขนพวกนั้นต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ พูลิค ร้อนเกินไป ถ้า คุณควรจะคอยระวังเจ้า พูลิ ถ้าว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือบ่อและช่วยมันขึ้นจากน้ำ เมื่อมันเหนื่อย

ลักษณะนิสัย

        สำหรับนิสัยนั้น จะมีความกระตือรือร้น ฉลาด, มั่นใจในตัวเอง สุขุม และเชื่อฟัง พูลิ เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี แต่มักจะไม่เห่าโดยไม่มีเหตุผล เพราะด้วยสัญตญาณที่คอยระวังตัวอยู่เสมอนั่นเอง

        เห็นแบบนี้แล้ว น้องหมาที่บ้านที่บอกว่า ดูแลยากกลับกลายเป็นดูแลได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ และถึงอย่างไรเสียก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนน้องหมาให้มีสุขภาพดี ให้น้องหมามีขนสวยน่ารักน่ากอดตลอดไป

ปูลิ (Puli)

          เคยได้ยินชื่อน้องหมาสายพันธุ์ ปูลิ ไหมค่ะ น่าจะไม่ค่อยคุ้นหูมากใช่ไหม และเชื่ออีกว่าถ้าใครเจอน้องก็คงต้องเกิดความสับสนระหว่าง เจ้าหมาสายพันธุ์ปูลิ กับ โคมอนดอร์  แน่นอนเพราะทั้งสองสายพันธุ์นี้หน้าตาคล้ายกันมากจนเหมือนฝาแฝดกันทีเดียว วันนี้เรามาทำความรู้จักน้องหมาปูลิ กันดีกว่าว่าเป็นอย่างไร



          ปูลิ เป็นน้องหมาที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศฮังการี คอยทำหน้าที่ต้อนแกะตลอดทั้งช่วงวันและคืน โดยเจ้าของฟาร์มแกะส่วนใหญ่จะเลือกเลี้ยงปูลิตัวสีดำเพื่อให้มองเห็นได้ง่าย ตัดกับสีขาวของตัวแกะ ปูลิจะได้รับหน้าที่เห่าเตือนภัยให้เจ้านายรู้และต้อนแกะกลับเข้าคอกอย่างปลอดภัย

        อย่างไรก็ตาม ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 น้องหมาสายพันธุ์ปูลิถูกสังหารไปกับไฟสงครามจนเกือบสูญพันธุ์ โชคดีที่หลังจากนั้นมีผู้ผสมพันธุ์สุนัขได้เข้ามาช่วยเหลือให้สายพันธุ์นี้อยู่รอดต่อไป และได้รับการขึ้นทะเบียนของสมาคมพัฒนาพันธุ์สุนัขในปีค.ศ. 1936

ลักษณะทั่วไปของปูลิ

        ปูลิ เป็นสุนัขขนาดกลาง มีความสูงที่ประมาณ 17 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 35 ปอนด์ ขนของสุนัขสายพันธุ์ พูลิ จะมีลักษณะบิดเป็นเกลียวเช่นเดียวกับสุนัขสายพันธุ์โคมอนดอร์แต่จะมีขนาดเกลียวที่เล็กและละเอียดกว่า ผู้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์พูลิมักไม่นิยมใช้แปรงแปรงขนให้สุนัข เพราะจะทำลายลักษณะเฉพาะตัว และจะทำให้สุนัขเจ็บเมื่อต้องถูกดึงกระชากขนที่พันกันอยู่ให้แยกออกจากกัน ซึ่งอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขอักเสบได้

การดูแลขนของ

        ปูลิจำเป็นต้องได้รับการดูแลขนที่พิถีพิถันมากจึงเหมาะที่จะพาเข้าร้าน กรูมมิ่งเพื่ออาบน้ำตกแต่งทรงขนน่าจะวิธีที่ดีที่สุดในเพราะร้านกรูมมิ่งก็จะมีเทคนิคในการดูแลและเป่าขนสุนัขจนแห้งสนิทเพื่อป้องกันการเกิดความอับชื้นที่เป็นสาเหตุของโรคผิวหนังต่าง ๆ ซึ่งจะใช้เวลาในการดูแลอาบน้ำทำความสะอาดขนของพูลิจนแห้งสนิทประมาณ 2-3 ชั่วโมง สำหรับความถี่ในการอาบน้ำที่เหมาะสมอยู่ที่เดือนละ 1-2 ครั้ง



        เพราะว่าความหนาของเส้นขน ดั้งนั้นขนพวกนั้นต้องการการดูแลเป็นพิเศษเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ พูลิค ร้อนเกินไป ถ้า คุณควรจะคอยระวังเจ้า พูลิ ถ้าว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำหรือบ่อและช่วยมันขึ้นจากน้ำ เมื่อมันเหนื่อย

ลักษณะนิสัย

        สำหรับนิสัยนั้น จะมีความกระตือรือร้น ฉลาด, มั่นใจในตัวเอง สุขุม และเชื่อฟัง พูลิ เป็นสุนัขเฝ้าบ้านที่ดี แต่มักจะไม่เห่าโดยไม่มีเหตุผล เพราะด้วยสัญตญาณที่คอยระวังตัวอยู่เสมอนั่นเอง

        เห็นแบบนี้แล้ว น้องหมาที่บ้านที่บอกว่า ดูแลยากกลับกลายเป็นดูแลได้ง่ายมาก ๆ เลยใช่มั้ยล่ะ และถึงอย่างไรเสียก็อย่าลืมที่จะดูแลสุขภาพผิวหนังและเส้นขนน้องหมาให้มีสุขภาพดี ให้น้องหมามีขนสวยน่ารักน่ากอดตลอดไป