แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ขายหมา

766
สุนัขสายพันธุ์ แอร์เดล เทอร์เรียร์ (Airedale Terrier)

          แอร์เดล เทอร์เรีย (Airedale Terrier) เป็นหมาน้อยสายพันธุ์หนึ่งที่ในเมืองไทยเรา ยังมีเลี้ยงกันค่อนข้างน้อยมาก เพราะมันเป็นหมาในโหมดนำเข้าที่ว่ากันว่ามีสนนราคาที่แพงพอตัวทีเดียว น้องๆ หลักแสนบาทนับว่าเป็นน้องหมาที่มีราคาแพงมาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว



          แอร์เดล เทอร์เรีย มีบ้านเกิดในแดนอังกฤษ ที่มีประวัติเก่าแก่พันธุ์หนึ่งซึ่งในอดีตนิยมฝึกพวกมันเป็นสุนัขใช้งาน ทว่าประเทศในแถบอัฟริกา อินเดีย แคนาดา ฯลฯ นิยมนำมาฝึกเป็นสุนัขกีฬา ส่วนในเยอรมันเคยนำมาฝึกใช้งานในกิจการของตำรวจ

ลักษณะทั่วไป

          เป็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำหนักโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 23 กิโลกรัม สีขนมักเป็นสีดำและสีน้ำตาล ขนจะหนาและแข็งภายนอก ภายในจะนิ่มนวลกว่า เมื่อโตขึ้นขนของเขาจะมีลักษณะค่อนข้างหยิก สีของเขาจะสวยที่สุดหากมีการดูแล โดยดึงขนที่ตายออกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้รับการตัดขน จะมีสีค่อนข้างเทาและน้ำตาล หรือไม่ก็จะเป็นสีแทนกับสีเทาเข้ม มีอายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

          หัวคล้าย ๆ กับเทอร์เรียคลาสสิก ส่วนหัวจะยาวและแบน หูเป็นรูปตัววีและหลังเหยียดตรง หางสั้นตั้งตรงไม่ม้วนหางตั้งตรง ลักษณะลำตัวคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเป็นพันธุ์ที่อดทนแข็งแรง



ลักษณะนิสัย

          มีลักษณะนิสัยที่ใจดีเข้ากันได้ดีกับเด็กแต่อาจควบคุมยากหากอยู่กับเด็กเล็ก แอร์ริเดลจะไม่ค่อยไว้ใจ และเข้าหาคนแปลกหน้า เป็นหมาที่ฉลาดมาก ซื่อสัตย์และรักเจ้าของ ชอบให้เจ้าของกอดและสัมผัส แอร์ริเดลส่วนมากจะไม่เห่าเยอะ แต่ชอบเคี้ยวและขุด ชอบวิ่งเล่น ว่ายน้ำ ชอบเคลื่อนไหวตลอดไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จึงไม่เหมาะเอาไว้เฝ้าบ้าน
         
          หากพูดถึงความเหมาะสม แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และคนสูงอายุ แต่น้องหมาสายพันธุ์นี้นั้นเหมาะสำหรับคนชอบสุนัขตัวใหญ่ ที่ต้องการอยากได้สุนัขใจดี

การดูแล

          โดยทั่วไปพวก แอร์เดล เทอร์เรีย เป็นน้องหมาที่มีสุขภาพดี สิ่งที่เจ้าของจะต้องทำคือ ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดขน แปรงขน เช็ดขนให้บ่อยๆ และดูแลความสะอาดผิวหนัง เแอร์เดลมักมีปัญหากับโรคผิวหนังอยู่บ้างในส่วนนี้ และควรจะตัดเล็มขนของมันทุกๆ 4 เดือน

          อย่างไรก็ตาม แม้ดูว่ามีสุขภาพดี แต่ก็ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเสมอไป ฉะนั้นคนเลี้ยงหรือเจ้าของควรนำมันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายให้เป็นประจำด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง เพื่อน้องหมาแอร์เดล เทอร์เรียร์ จะอยู่กับเราตลอดไปจนสิ้นอายุขัย



767
สุนัขสายพันธุ์ แอร์เดล เทอร์เรียร์ (Airedale Terrier)

          แอร์เดล เทอร์เรีย (Airedale Terrier) เป็นหมาน้อยสายพันธุ์หนึ่งที่ในเมืองไทยเรา ยังมีเลี้ยงกันค่อนข้างน้อยมาก เพราะมันเป็นหมาในโหมดนำเข้าที่ว่ากันว่ามีสนนราคาที่แพงพอตัวทีเดียว น้องๆ หลักแสนบาทนับว่าเป็นน้องหมาที่มีราคาแพงมาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว



          แอร์เดล เทอร์เรีย มีบ้านเกิดในแดนอังกฤษ ที่มีประวัติเก่าแก่พันธุ์หนึ่งซึ่งในอดีตนิยมฝึกพวกมันเป็นสุนัขใช้งาน ทว่าประเทศในแถบอัฟริกา อินเดีย แคนาดา ฯลฯ นิยมนำมาฝึกเป็นสุนัขกีฬา ส่วนในเยอรมันเคยนำมาฝึกใช้งานในกิจการของตำรวจ

ลักษณะทั่วไป

          เป็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำหนักโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 23 กิโลกรัม สีขนมักเป็นสีดำและสีน้ำตาล ขนจะหนาและแข็งภายนอก ภายในจะนิ่มนวลกว่า เมื่อโตขึ้นขนของเขาจะมีลักษณะค่อนข้างหยิก สีของเขาจะสวยที่สุดหากมีการดูแล โดยดึงขนที่ตายออกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้รับการตัดขน จะมีสีค่อนข้างเทาและน้ำตาล หรือไม่ก็จะเป็นสีแทนกับสีเทาเข้ม มีอายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

          หัวคล้าย ๆ กับเทอร์เรียคลาสสิก ส่วนหัวจะยาวและแบน หูเป็นรูปตัววีและหลังเหยียดตรง หางสั้นตั้งตรงไม่ม้วนหางตั้งตรง ลักษณะลำตัวคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเป็นพันธุ์ที่อดทนแข็งแรง



ลักษณะนิสัย

          มีลักษณะนิสัยที่ใจดีเข้ากันได้ดีกับเด็กแต่อาจควบคุมยากหากอยู่กับเด็กเล็ก แอร์ริเดลจะไม่ค่อยไว้ใจ และเข้าหาคนแปลกหน้า เป็นหมาที่ฉลาดมาก ซื่อสัตย์และรักเจ้าของ ชอบให้เจ้าของกอดและสัมผัส แอร์ริเดลส่วนมากจะไม่เห่าเยอะ แต่ชอบเคี้ยวและขุด ชอบวิ่งเล่น ว่ายน้ำ ชอบเคลื่อนไหวตลอดไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จึงไม่เหมาะเอาไว้เฝ้าบ้าน
         
          หากพูดถึงความเหมาะสม แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และคนสูงอายุ แต่น้องหมาสายพันธุ์นี้นั้นเหมาะสำหรับคนชอบสุนัขตัวใหญ่ ที่ต้องการอยากได้สุนัขใจดี

การดูแล

          โดยทั่วไปพวก แอร์เดล เทอร์เรีย เป็นน้องหมาที่มีสุขภาพดี สิ่งที่เจ้าของจะต้องทำคือ ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดขน แปรงขน เช็ดขนให้บ่อยๆ และดูแลความสะอาดผิวหนัง เแอร์เดลมักมีปัญหากับโรคผิวหนังอยู่บ้างในส่วนนี้ และควรจะตัดเล็มขนของมันทุกๆ 4 เดือน

          อย่างไรก็ตาม แม้ดูว่ามีสุขภาพดี แต่ก็ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเสมอไป ฉะนั้นคนเลี้ยงหรือเจ้าของควรนำมันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายให้เป็นประจำด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง เพื่อน้องหมาแอร์เดล เทอร์เรียร์ จะอยู่กับเราตลอดไปจนสิ้นอายุขัย



768
สุนัขสายพันธุ์ แอร์เดล เทอร์เรียร์ (Airedale Terrier)

          แอร์เดล เทอร์เรีย (Airedale Terrier) เป็นหมาน้อยสายพันธุ์หนึ่งที่ในเมืองไทยเรา ยังมีเลี้ยงกันค่อนข้างน้อยมาก เพราะมันเป็นหมาในโหมดนำเข้าที่ว่ากันว่ามีสนนราคาที่แพงพอตัวทีเดียว น้องๆ หลักแสนบาทนับว่าเป็นน้องหมาที่มีราคาแพงมาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว



          แอร์เดล เทอร์เรีย มีบ้านเกิดในแดนอังกฤษ ที่มีประวัติเก่าแก่พันธุ์หนึ่งซึ่งในอดีตนิยมฝึกพวกมันเป็นสุนัขใช้งาน ทว่าประเทศในแถบอัฟริกา อินเดีย แคนาดา ฯลฯ นิยมนำมาฝึกเป็นสุนัขกีฬา ส่วนในเยอรมันเคยนำมาฝึกใช้งานในกิจการของตำรวจ

ลักษณะทั่วไป

          เป็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำหนักโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 23 กิโลกรัม สีขนมักเป็นสีดำและสีน้ำตาล ขนจะหนาและแข็งภายนอก ภายในจะนิ่มนวลกว่า เมื่อโตขึ้นขนของเขาจะมีลักษณะค่อนข้างหยิก สีของเขาจะสวยที่สุดหากมีการดูแล โดยดึงขนที่ตายออกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้รับการตัดขน จะมีสีค่อนข้างเทาและน้ำตาล หรือไม่ก็จะเป็นสีแทนกับสีเทาเข้ม มีอายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

          หัวคล้าย ๆ กับเทอร์เรียคลาสสิก ส่วนหัวจะยาวและแบน หูเป็นรูปตัววีและหลังเหยียดตรง หางสั้นตั้งตรงไม่ม้วนหางตั้งตรง ลักษณะลำตัวคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเป็นพันธุ์ที่อดทนแข็งแรง



ลักษณะนิสัย

          มีลักษณะนิสัยที่ใจดีเข้ากันได้ดีกับเด็กแต่อาจควบคุมยากหากอยู่กับเด็กเล็ก แอร์ริเดลจะไม่ค่อยไว้ใจ และเข้าหาคนแปลกหน้า เป็นหมาที่ฉลาดมาก ซื่อสัตย์และรักเจ้าของ ชอบให้เจ้าของกอดและสัมผัส แอร์ริเดลส่วนมากจะไม่เห่าเยอะ แต่ชอบเคี้ยวและขุด ชอบวิ่งเล่น ว่ายน้ำ ชอบเคลื่อนไหวตลอดไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จึงไม่เหมาะเอาไว้เฝ้าบ้าน
         
          หากพูดถึงความเหมาะสม แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และคนสูงอายุ แต่น้องหมาสายพันธุ์นี้นั้นเหมาะสำหรับคนชอบสุนัขตัวใหญ่ ที่ต้องการอยากได้สุนัขใจดี

การดูแล

          โดยทั่วไปพวก แอร์เดล เทอร์เรีย เป็นน้องหมาที่มีสุขภาพดี สิ่งที่เจ้าของจะต้องทำคือ ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดขน แปรงขน เช็ดขนให้บ่อยๆ และดูแลความสะอาดผิวหนัง เแอร์เดลมักมีปัญหากับโรคผิวหนังอยู่บ้างในส่วนนี้ และควรจะตัดเล็มขนของมันทุกๆ 4 เดือน

          อย่างไรก็ตาม แม้ดูว่ามีสุขภาพดี แต่ก็ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเสมอไป ฉะนั้นคนเลี้ยงหรือเจ้าของควรนำมันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายให้เป็นประจำด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง เพื่อน้องหมาแอร์เดล เทอร์เรียร์ จะอยู่กับเราตลอดไปจนสิ้นอายุขัย



769
อันตราย! 5 โรคน้องหมายอดฮิตที่มากับหน้าร้อน

          ช่วงนี้นั้นอากาศร้อนๆ ถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีฝนลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนนี้นั้นยังทำให้ไม่ว่าจะคนเท่านั้นที่จะความหงุดหงิด สุนัขก็ยังหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่ไม่เพียงแค่นั้น โรคร้ายของสุนัขยังชอบแอบแฝงอยู่ในอากาศร้อนเช่นกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่า โรคยอดฮิตที่มากับฤดูร้อนนั้น จะมีโรคอะไรบ้าง




โรคพิษสุนัขบ้า

          มีอีกหนึ่งชื่อว่าโรคกลัวน้ำ โรคนี้ไม่ได้เป็นแค่สุนัขเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถเป็นได้ทั้งในแมว หนู กระต่าย สามารถติดต่อได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเป็นโรคประจำที่มาหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ เป็นโรคที่อันตราย ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อมายังคนได้อีกด้วย โดยเจ้าเชื้อไวรัสนี้มีชื่อว่า Rabies Virus  ทิ่ติดต่อผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อ โดยจะก่อให้เกิดอาการที่เป็นผลจากการอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและสมอง โดยสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถแสดงอาการได้ทั้งแบบดุร้ายและเซื่องซึม ถ้าแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ให้หายขาด รักษาได้ตามอาการเท่านั้น วีการป้องกันคือการฉีดวัคซีนให้สุนัขทุกปี

โรคไข้หัดสุนัข

          โรคไข้หัดสุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์ โรคไข้หัดสุนัขนี้มีทั้งแบบไม่แสดงอาการ และแสดงอาการ พบมากในสุนัขอายุน้อยๆ เราสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เจ้าหมาน้อยได้  สำหรับอาการโดยทั่วไปเมื่อเป็นไข้หัดสุนัขคือ เบื่ออาหาร มีไข้ มีน้ำมูก ท้องเสีย กล้ามเนื้อกระตุก และร้ายแรงสุดนั้นคืออาจทำให้สุนัขเป็นอัมพาตได้ มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวใดเป็นต้องแยกเลี้ยงเพราะโรคนี้เป็นโรคติดต่อได้ผ่านทางระบบทางเดินหายใจ

ลมแดด

          หรือ ฮีตสโตรก เกิดจากที่สุนัขนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมที่สูงจนเกินไป และสุนัขไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลับ การป้องกันสามารถทำได้โดย หลีกกเลี่ยงการพาสุนัขไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในเวลาที่แดดจัด และควรที่จะมีจัดน้ำไว้ให้กับสุนัขได้ดื่ม เพื่อคลายความร้อน

โรคลำไส้อักเสบในสุนัข


          เกิดจากเชื้อไวรัส Parvovirus นับเป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเป็นจะอาการเบื้องต้นคือจะซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย และถ้าเป็นขั้นรุนแรงจะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ และตอนนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาแต่สิ่งที่ทำได้คือ เมื่อพบสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นให้แยกออก และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง รวมถึงโรยปูนขาว และฉีดยาฆ่าเชื้อ




โรคพยาธิหนอนหัวใจ

          พยาธิหนอนหัวใจเป็นโรคที่เกิดจากยุง สุนัขที่โดนยุงกัดมักจะเสี่ยงเป็นโรคนี้ เมื่อตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจหลุดรอดเข้าไป ก็จะเติบโตอยู่ในกระแสเลือด แพร่พันธุ์มากขึ้น จนทำให้อุดตัดเส้นเลือดหัวใจ ช่วงแรกนั้นจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อจำนวนพยาธิเพิ่มขึ้นสุนัขจะเกิดอาการหอบจนทำให้หัวใจวายได้

          เดี๋ยวนี้นั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์ ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการค้นคว้าวัคซีนเพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาสุนัขเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของจึงควรใส่ใจและควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับวัคซีนให้ครบตามที่ควรจะเป็นเสมอเพื่อสุขภาพของสุนัขที่เรารักนั่นเอง

770
อันตราย! 5 โรคน้องหมายอดฮิตที่มากับหน้าร้อน

          ช่วงนี้นั้นอากาศร้อนๆ ถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีฝนลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนนี้นั้นยังทำให้ไม่ว่าจะคนเท่านั้นที่จะความหงุดหงิด สุนัขก็ยังหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่ไม่เพียงแค่นั้น โรคร้ายของสุนัขยังชอบแอบแฝงอยู่ในอากาศร้อนเช่นกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่า โรคยอดฮิตที่มากับฤดูร้อนนั้น จะมีโรคอะไรบ้าง




โรคพิษสุนัขบ้า

          มีอีกหนึ่งชื่อว่าโรคกลัวน้ำ โรคนี้ไม่ได้เป็นแค่สุนัขเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถเป็นได้ทั้งในแมว หนู กระต่าย สามารถติดต่อได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเป็นโรคประจำที่มาหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ เป็นโรคที่อันตราย ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อมายังคนได้อีกด้วย โดยเจ้าเชื้อไวรัสนี้มีชื่อว่า Rabies Virus  ทิ่ติดต่อผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อ โดยจะก่อให้เกิดอาการที่เป็นผลจากการอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและสมอง โดยสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถแสดงอาการได้ทั้งแบบดุร้ายและเซื่องซึม ถ้าแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ให้หายขาด รักษาได้ตามอาการเท่านั้น วีการป้องกันคือการฉีดวัคซีนให้สุนัขทุกปี

โรคไข้หัดสุนัข

          โรคไข้หัดสุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์ โรคไข้หัดสุนัขนี้มีทั้งแบบไม่แสดงอาการ และแสดงอาการ พบมากในสุนัขอายุน้อยๆ เราสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เจ้าหมาน้อยได้  สำหรับอาการโดยทั่วไปเมื่อเป็นไข้หัดสุนัขคือ เบื่ออาหาร มีไข้ มีน้ำมูก ท้องเสีย กล้ามเนื้อกระตุก และร้ายแรงสุดนั้นคืออาจทำให้สุนัขเป็นอัมพาตได้ มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวใดเป็นต้องแยกเลี้ยงเพราะโรคนี้เป็นโรคติดต่อได้ผ่านทางระบบทางเดินหายใจ

ลมแดด

          หรือ ฮีตสโตรก เกิดจากที่สุนัขนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมที่สูงจนเกินไป และสุนัขไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลับ การป้องกันสามารถทำได้โดย หลีกกเลี่ยงการพาสุนัขไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในเวลาที่แดดจัด และควรที่จะมีจัดน้ำไว้ให้กับสุนัขได้ดื่ม เพื่อคลายความร้อน

โรคลำไส้อักเสบในสุนัข


          เกิดจากเชื้อไวรัส Parvovirus นับเป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเป็นจะอาการเบื้องต้นคือจะซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย และถ้าเป็นขั้นรุนแรงจะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ และตอนนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาแต่สิ่งที่ทำได้คือ เมื่อพบสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นให้แยกออก และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง รวมถึงโรยปูนขาว และฉีดยาฆ่าเชื้อ




โรคพยาธิหนอนหัวใจ

          พยาธิหนอนหัวใจเป็นโรคที่เกิดจากยุง สุนัขที่โดนยุงกัดมักจะเสี่ยงเป็นโรคนี้ เมื่อตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจหลุดรอดเข้าไป ก็จะเติบโตอยู่ในกระแสเลือด แพร่พันธุ์มากขึ้น จนทำให้อุดตัดเส้นเลือดหัวใจ ช่วงแรกนั้นจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อจำนวนพยาธิเพิ่มขึ้นสุนัขจะเกิดอาการหอบจนทำให้หัวใจวายได้

          เดี๋ยวนี้นั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์ ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการค้นคว้าวัคซีนเพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาสุนัขเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของจึงควรใส่ใจและควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับวัคซีนให้ครบตามที่ควรจะเป็นเสมอเพื่อสุขภาพของสุนัขที่เรารักนั่นเอง

771
อันตราย! 5 โรคน้องหมายอดฮิตที่มากับหน้าร้อน

          ช่วงนี้นั้นอากาศร้อนๆ ถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีฝนลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนนี้นั้นยังทำให้ไม่ว่าจะคนเท่านั้นที่จะความหงุดหงิด สุนัขก็ยังหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่ไม่เพียงแค่นั้น โรคร้ายของสุนัขยังชอบแอบแฝงอยู่ในอากาศร้อนเช่นกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่า โรคยอดฮิตที่มากับฤดูร้อนนั้น จะมีโรคอะไรบ้าง




โรคพิษสุนัขบ้า

          มีอีกหนึ่งชื่อว่าโรคกลัวน้ำ โรคนี้ไม่ได้เป็นแค่สุนัขเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถเป็นได้ทั้งในแมว หนู กระต่าย สามารถติดต่อได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเป็นโรคประจำที่มาหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ เป็นโรคที่อันตราย ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อมายังคนได้อีกด้วย โดยเจ้าเชื้อไวรัสนี้มีชื่อว่า Rabies Virus  ทิ่ติดต่อผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อ โดยจะก่อให้เกิดอาการที่เป็นผลจากการอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและสมอง โดยสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถแสดงอาการได้ทั้งแบบดุร้ายและเซื่องซึม ถ้าแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ให้หายขาด รักษาได้ตามอาการเท่านั้น วีการป้องกันคือการฉีดวัคซีนให้สุนัขทุกปี

โรคไข้หัดสุนัข

          โรคไข้หัดสุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์ โรคไข้หัดสุนัขนี้มีทั้งแบบไม่แสดงอาการ และแสดงอาการ พบมากในสุนัขอายุน้อยๆ เราสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เจ้าหมาน้อยได้  สำหรับอาการโดยทั่วไปเมื่อเป็นไข้หัดสุนัขคือ เบื่ออาหาร มีไข้ มีน้ำมูก ท้องเสีย กล้ามเนื้อกระตุก และร้ายแรงสุดนั้นคืออาจทำให้สุนัขเป็นอัมพาตได้ มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวใดเป็นต้องแยกเลี้ยงเพราะโรคนี้เป็นโรคติดต่อได้ผ่านทางระบบทางเดินหายใจ

ลมแดด

          หรือ ฮีตสโตรก เกิดจากที่สุนัขนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมที่สูงจนเกินไป และสุนัขไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลับ การป้องกันสามารถทำได้โดย หลีกกเลี่ยงการพาสุนัขไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในเวลาที่แดดจัด และควรที่จะมีจัดน้ำไว้ให้กับสุนัขได้ดื่ม เพื่อคลายความร้อน

โรคลำไส้อักเสบในสุนัข


          เกิดจากเชื้อไวรัส Parvovirus นับเป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเป็นจะอาการเบื้องต้นคือจะซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย และถ้าเป็นขั้นรุนแรงจะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ และตอนนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาแต่สิ่งที่ทำได้คือ เมื่อพบสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นให้แยกออก และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง รวมถึงโรยปูนขาว และฉีดยาฆ่าเชื้อ




โรคพยาธิหนอนหัวใจ

          พยาธิหนอนหัวใจเป็นโรคที่เกิดจากยุง สุนัขที่โดนยุงกัดมักจะเสี่ยงเป็นโรคนี้ เมื่อตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจหลุดรอดเข้าไป ก็จะเติบโตอยู่ในกระแสเลือด แพร่พันธุ์มากขึ้น จนทำให้อุดตัดเส้นเลือดหัวใจ ช่วงแรกนั้นจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อจำนวนพยาธิเพิ่มขึ้นสุนัขจะเกิดอาการหอบจนทำให้หัวใจวายได้

          เดี๋ยวนี้นั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์ ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการค้นคว้าวัคซีนเพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาสุนัขเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของจึงควรใส่ใจและควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับวัคซีนให้ครบตามที่ควรจะเป็นเสมอเพื่อสุขภาพของสุนัขที่เรารักนั่นเอง

772
อันตราย! 5 โรคน้องหมายอดฮิตที่มากับหน้าร้อน

          ช่วงนี้นั้นอากาศร้อนๆ ถึงแม้ว่าบางพื้นที่จะมีฝนลงมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ด้วยอากาศที่ร้อนนี้นั้นยังทำให้ไม่ว่าจะคนเท่านั้นที่จะความหงุดหงิด สุนัขก็ยังหงุดหงิดไม่แพ้กัน แต่ไม่เพียงแค่นั้น โรคร้ายของสุนัขยังชอบแอบแฝงอยู่ในอากาศร้อนเช่นกัน ลองมาดูกันดีกว่าว่า โรคยอดฮิตที่มากับฤดูร้อนนั้น จะมีโรคอะไรบ้าง




โรคพิษสุนัขบ้า

          มีอีกหนึ่งชื่อว่าโรคกลัวน้ำ โรคนี้ไม่ได้เป็นแค่สุนัขเท่านั้นนะคะ แต่ยังสามารถเป็นได้ทั้งในแมว หนู กระต่าย สามารถติดต่อได้กับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหลายชนิดได้อีกด้วย และแน่นอนว่าเป็นโรคประจำที่มาหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ เป็นโรคที่อันตราย ไม่เพียงแต่สุนัขเท่านั้น แต่ยังสามารถติดต่อมายังคนได้อีกด้วย โดยเจ้าเชื้อไวรัสนี้มีชื่อว่า Rabies Virus  ทิ่ติดต่อผ่านทางน้ำลายของสัตว์ที่มีเชื้อ โดยจะก่อให้เกิดอาการที่เป็นผลจากการอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและสมอง โดยสุนัขที่ป่วยเป็นโรคนี้สามารถแสดงอาการได้ทั้งแบบดุร้ายและเซื่องซึม ถ้าแสดงอาการแล้วจะเสียชีวิต ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีทางรักษาโรคนี้ให้หายขาด รักษาได้ตามอาการเท่านั้น วีการป้องกันคือการฉีดวัคซีนให้สุนัขทุกปี

โรคไข้หัดสุนัข

          โรคไข้หัดสุนัขมีหลากหลายสายพันธุ์ โรคไข้หัดสุนัขนี้มีทั้งแบบไม่แสดงอาการ และแสดงอาการ พบมากในสุนัขอายุน้อยๆ เราสามารถป้องกันได้โดยการฉีดวัคซีนเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้เจ้าหมาน้อยได้  สำหรับอาการโดยทั่วไปเมื่อเป็นไข้หัดสุนัขคือ เบื่ออาหาร มีไข้ มีน้ำมูก ท้องเสีย กล้ามเนื้อกระตุก และร้ายแรงสุดนั้นคืออาจทำให้สุนัขเป็นอัมพาตได้ มีสุนัขที่เลี้ยงไว้ตัวใดเป็นต้องแยกเลี้ยงเพราะโรคนี้เป็นโรคติดต่อได้ผ่านทางระบบทางเดินหายใจ

ลมแดด

          หรือ ฮีตสโตรก เกิดจากที่สุนัขนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมที่สูงจนเกินไป และสุนัขไม่สามารถระบายความร้อนได้ทัน จนทำให้อวัยวะภายในล้มเหลวเฉียบพลับ การป้องกันสามารถทำได้โดย หลีกกเลี่ยงการพาสุนัขไปทำกิจกรรมกลางแจ้งในเวลาที่แดดจัด และควรที่จะมีจัดน้ำไว้ให้กับสุนัขได้ดื่ม เพื่อคลายความร้อน

โรคลำไส้อักเสบในสุนัข


          เกิดจากเชื้อไวรัส Parvovirus นับเป็นโรคติดต่อที่ร้ายแรง มักจะเกิดขึ้นกับสุนัขที่อาศัยอยู่รวมกันเป็นจำนวนมาก เมื่อเป็นจะอาการเบื้องต้นคือจะซึม เบื่ออาหาร ท้องเสีย และถ้าเป็นขั้นรุนแรงจะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ และตอนนี้ยังไม่มีวิธีการรักษาแต่สิ่งที่ทำได้คือ เมื่อพบสุนัขที่เลี้ยงไว้เป็นให้แยกออก และทำความสะอาดพื้นที่เลี้ยง รวมถึงโรยปูนขาว และฉีดยาฆ่าเชื้อ




โรคพยาธิหนอนหัวใจ

          พยาธิหนอนหัวใจเป็นโรคที่เกิดจากยุง สุนัขที่โดนยุงกัดมักจะเสี่ยงเป็นโรคนี้ เมื่อตัวอ่อนของพยาธิหนอนหัวใจหลุดรอดเข้าไป ก็จะเติบโตอยู่ในกระแสเลือด แพร่พันธุ์มากขึ้น จนทำให้อุดตัดเส้นเลือดหัวใจ ช่วงแรกนั้นจะยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ แต่เมื่อจำนวนพยาธิเพิ่มขึ้นสุนัขจะเกิดอาการหอบจนทำให้หัวใจวายได้

          เดี๋ยวนี้นั้นวิวัฒนาการทางการแพทย์ ได้มีการพัฒนาเพิ่มมากขึ้น ทำให้มีการค้นคว้าวัคซีนเพื่อใช้ในการป้องกันและรักษาสุนัขเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นเจ้าของจึงควรใส่ใจและควรพาสุนัขไปหาสัตวแพทย์เพื่อรับวัคซีนให้ครบตามที่ควรจะเป็นเสมอเพื่อสุขภาพของสุนัขที่เรารักนั่นเอง

773
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) น้องหมาผู้มีขนยาวและสวยงาม

          บนโลกนี้มีสุนัขอยู่หลายสายพันธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอาจจะไม่เคยเห็นสุนัขบางสายพันธุ์มาก่อน ซึ่งพวกมันก็เป็นสุนัขที่แปลกแต่น่ารักมาก อัฟกัน ฮาวนด์ สุนัขสายพันธุ์หนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นตัวจริงของมันมาก่อน แต่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับสายพันธุ์ที่เราคุ้นเคย แต่มันก็น่ารักไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นเลย



          อัฟกัน ฮาวนด์ เป็นน้องหมาที่ท่วงท่าสง่างาม ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งประกอบกับขนที่ยาวสลวยเหมือนกับผมของผู้หญิง   น้องหมาสายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1907 เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในอดีตถือเป็นนักล่าด้วยสายตา โดยล่าสัตว์จำพวกกวาง หมาป่า และหมาจิ้งจอก นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการดูแลฝูงแกะ แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้อวดความสวยงาม

ลักษณะทั่วไป


          อัฟกาน ฮาวน์ เป็นสุนัขที่มีความสวยงามพวกมันมีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 27 กิโลกรัม มีรูปร่างสง่างานเพราะขนที่ยาว คอที่แข็งและโค้ง สะโพกที่โดดเด่น และอุ้งเท้าขนาดใหญ่ หัวเข่าที่ดูโค้งงอ และหางสิ้นสุดในโค้ง
มีปากยาวแคบ หูมีความยาวและปกคลุมไปด้วยขนที่ยาวสลวย ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายตั้งแต่กระหม่อม หน้าอก ปีกขาและขาทั้งสี่ ถูกปกคลุมไปด้วยขนที่หนาและยาว ขนบนใบหน้าและหลัง สั้นและเงางาม สีขนของ อัฟกัน ฮาวนด์ที่พบมากที่สุดคือสีดำ สีดำและสีน้ำตาล สีแดง สีครีม สีฟ้า ลายจุดหรือสีขาว อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ปี



ลักษณะนิสัย

          อัฟกาน ฮาวน์ นั้นมีต้นกำเนิดจากการเป็นสุนัขนักล่าเหยื่อ จึงมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และอาจยังมีสัญชาติญานของนักล่า จึงต้องฝึกให้อ่อนโยน แต่จริงแล้วพวกมันมีนิสัยดี รักสันโดษ มีความจงรักภักดี และเชื่อฟังคำสั่งมากเมื่อโตเต็มที่แล้ว สามารถปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรภายในบ้านได้อย่างไม่ขัดเขิน

การดูแล

          สำหรับสุนัข อัฟกาน ฮาวน์ ผู้เลี้ยงจำเป็นมากที่อาบน้ำทุกสัปดาห์และการแปรงขนเพื่อที่จะเอาผมตายออกไปและป้องกันไม่ให้พันกัน และเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็ต้องเช็ดขนให้แห้ง เพื่อป้องการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราที่ผิวหนัง ความถึงควรพาไปร้านอาบน้ำเพื่อตกแต่งขน  การเลือกให้อาหารก็ต้องเหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต้องการการออกกำลังกายเพื่อปัดความเบื่อหน่าย

          ในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเลี้ยงน้องอัฟกาน ฮาวน์ กันสักเท่าไร เพราะด้วยเป็นสุนัขที่จัดได้ว่าติดอันดับที่มีค่าตัวแพงระยับเลยทีเดียวถ้าไม่รักกันจริงก็คงต้องคิดหนักพอสมควรเลย




774
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) น้องหมาผู้มีขนยาวและสวยงาม

          บนโลกนี้มีสุนัขอยู่หลายสายพันธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอาจจะไม่เคยเห็นสุนัขบางสายพันธุ์มาก่อน ซึ่งพวกมันก็เป็นสุนัขที่แปลกแต่น่ารักมาก อัฟกัน ฮาวนด์ สุนัขสายพันธุ์หนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นตัวจริงของมันมาก่อน แต่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับสายพันธุ์ที่เราคุ้นเคย แต่มันก็น่ารักไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นเลย



          อัฟกัน ฮาวนด์ เป็นน้องหมาที่ท่วงท่าสง่างาม ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งประกอบกับขนที่ยาวสลวยเหมือนกับผมของผู้หญิง   น้องหมาสายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1907 เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในอดีตถือเป็นนักล่าด้วยสายตา โดยล่าสัตว์จำพวกกวาง หมาป่า และหมาจิ้งจอก นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการดูแลฝูงแกะ แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้อวดความสวยงาม

ลักษณะทั่วไป


          อัฟกาน ฮาวน์ เป็นสุนัขที่มีความสวยงามพวกมันมีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 27 กิโลกรัม มีรูปร่างสง่างานเพราะขนที่ยาว คอที่แข็งและโค้ง สะโพกที่โดดเด่น และอุ้งเท้าขนาดใหญ่ หัวเข่าที่ดูโค้งงอ และหางสิ้นสุดในโค้ง
มีปากยาวแคบ หูมีความยาวและปกคลุมไปด้วยขนที่ยาวสลวย ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายตั้งแต่กระหม่อม หน้าอก ปีกขาและขาทั้งสี่ ถูกปกคลุมไปด้วยขนที่หนาและยาว ขนบนใบหน้าและหลัง สั้นและเงางาม สีขนของ อัฟกัน ฮาวนด์ที่พบมากที่สุดคือสีดำ สีดำและสีน้ำตาล สีแดง สีครีม สีฟ้า ลายจุดหรือสีขาว อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ปี



ลักษณะนิสัย

          อัฟกาน ฮาวน์ นั้นมีต้นกำเนิดจากการเป็นสุนัขนักล่าเหยื่อ จึงมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และอาจยังมีสัญชาติญานของนักล่า จึงต้องฝึกให้อ่อนโยน แต่จริงแล้วพวกมันมีนิสัยดี รักสันโดษ มีความจงรักภักดี และเชื่อฟังคำสั่งมากเมื่อโตเต็มที่แล้ว สามารถปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรภายในบ้านได้อย่างไม่ขัดเขิน

การดูแล

          สำหรับสุนัข อัฟกาน ฮาวน์ ผู้เลี้ยงจำเป็นมากที่อาบน้ำทุกสัปดาห์และการแปรงขนเพื่อที่จะเอาผมตายออกไปและป้องกันไม่ให้พันกัน และเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็ต้องเช็ดขนให้แห้ง เพื่อป้องการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราที่ผิวหนัง ความถึงควรพาไปร้านอาบน้ำเพื่อตกแต่งขน  การเลือกให้อาหารก็ต้องเหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต้องการการออกกำลังกายเพื่อปัดความเบื่อหน่าย

          ในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเลี้ยงน้องอัฟกาน ฮาวน์ กันสักเท่าไร เพราะด้วยเป็นสุนัขที่จัดได้ว่าติดอันดับที่มีค่าตัวแพงระยับเลยทีเดียวถ้าไม่รักกันจริงก็คงต้องคิดหนักพอสมควรเลย




775
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) น้องหมาผู้มีขนยาวและสวยงาม

          บนโลกนี้มีสุนัขอยู่หลายสายพันธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอาจจะไม่เคยเห็นสุนัขบางสายพันธุ์มาก่อน ซึ่งพวกมันก็เป็นสุนัขที่แปลกแต่น่ารักมาก อัฟกัน ฮาวนด์ สุนัขสายพันธุ์หนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นตัวจริงของมันมาก่อน แต่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับสายพันธุ์ที่เราคุ้นเคย แต่มันก็น่ารักไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นเลย



          อัฟกัน ฮาวนด์ เป็นน้องหมาที่ท่วงท่าสง่างาม ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งประกอบกับขนที่ยาวสลวยเหมือนกับผมของผู้หญิง   น้องหมาสายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1907 เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในอดีตถือเป็นนักล่าด้วยสายตา โดยล่าสัตว์จำพวกกวาง หมาป่า และหมาจิ้งจอก นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการดูแลฝูงแกะ แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้อวดความสวยงาม

ลักษณะทั่วไป


          อัฟกาน ฮาวน์ เป็นสุนัขที่มีความสวยงามพวกมันมีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 27 กิโลกรัม มีรูปร่างสง่างานเพราะขนที่ยาว คอที่แข็งและโค้ง สะโพกที่โดดเด่น และอุ้งเท้าขนาดใหญ่ หัวเข่าที่ดูโค้งงอ และหางสิ้นสุดในโค้ง
มีปากยาวแคบ หูมีความยาวและปกคลุมไปด้วยขนที่ยาวสลวย ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายตั้งแต่กระหม่อม หน้าอก ปีกขาและขาทั้งสี่ ถูกปกคลุมไปด้วยขนที่หนาและยาว ขนบนใบหน้าและหลัง สั้นและเงางาม สีขนของ อัฟกัน ฮาวนด์ที่พบมากที่สุดคือสีดำ สีดำและสีน้ำตาล สีแดง สีครีม สีฟ้า ลายจุดหรือสีขาว อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ปี



ลักษณะนิสัย

          อัฟกาน ฮาวน์ นั้นมีต้นกำเนิดจากการเป็นสุนัขนักล่าเหยื่อ จึงมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และอาจยังมีสัญชาติญานของนักล่า จึงต้องฝึกให้อ่อนโยน แต่จริงแล้วพวกมันมีนิสัยดี รักสันโดษ มีความจงรักภักดี และเชื่อฟังคำสั่งมากเมื่อโตเต็มที่แล้ว สามารถปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรภายในบ้านได้อย่างไม่ขัดเขิน

การดูแล

          สำหรับสุนัข อัฟกาน ฮาวน์ ผู้เลี้ยงจำเป็นมากที่อาบน้ำทุกสัปดาห์และการแปรงขนเพื่อที่จะเอาผมตายออกไปและป้องกันไม่ให้พันกัน และเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็ต้องเช็ดขนให้แห้ง เพื่อป้องการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราที่ผิวหนัง ความถึงควรพาไปร้านอาบน้ำเพื่อตกแต่งขน  การเลือกให้อาหารก็ต้องเหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต้องการการออกกำลังกายเพื่อปัดความเบื่อหน่าย

          ในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเลี้ยงน้องอัฟกาน ฮาวน์ กันสักเท่าไร เพราะด้วยเป็นสุนัขที่จัดได้ว่าติดอันดับที่มีค่าตัวแพงระยับเลยทีเดียวถ้าไม่รักกันจริงก็คงต้องคิดหนักพอสมควรเลย




776
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) น้องหมาผู้มีขนยาวและสวยงาม

          บนโลกนี้มีสุนัขอยู่หลายสายพันธุ์ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เราอาจจะไม่เคยเห็นสุนัขบางสายพันธุ์มาก่อน ซึ่งพวกมันก็เป็นสุนัขที่แปลกแต่น่ารักมาก อัฟกัน ฮาวนด์ สุนัขสายพันธุ์หนึ่ง ที่คนส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้จักหรือไม่เคยเห็นตัวจริงของมันมาก่อน แต่ถึงแม้ว่ามันอาจจะไม่ได้รับความนิยมมากเท่ากับสายพันธุ์ที่เราคุ้นเคย แต่มันก็น่ารักไม่แพ้สุนัขพันธุ์อื่นเลย



          อัฟกัน ฮาวนด์ เป็นน้องหมาที่ท่วงท่าสง่างาม ด้วยรูปร่างที่สูงโปร่งประกอบกับขนที่ยาวสลวยเหมือนกับผมของผู้หญิง   น้องหมาสายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1907 เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในอดีตถือเป็นนักล่าด้วยสายตา โดยล่าสัตว์จำพวกกวาง หมาป่า และหมาจิ้งจอก นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการดูแลฝูงแกะ แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้อวดความสวยงาม

ลักษณะทั่วไป


          อัฟกาน ฮาวน์ เป็นสุนัขที่มีความสวยงามพวกมันมีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว มีน้ำหนักที่ประมาณ 27 กิโลกรัม มีรูปร่างสง่างานเพราะขนที่ยาว คอที่แข็งและโค้ง สะโพกที่โดดเด่น และอุ้งเท้าขนาดใหญ่ หัวเข่าที่ดูโค้งงอ และหางสิ้นสุดในโค้ง
มีปากยาวแคบ หูมีความยาวและปกคลุมไปด้วยขนที่ยาวสลวย ส่วนอื่น ๆ ในร่างกายตั้งแต่กระหม่อม หน้าอก ปีกขาและขาทั้งสี่ ถูกปกคลุมไปด้วยขนที่หนาและยาว ขนบนใบหน้าและหลัง สั้นและเงางาม สีขนของ อัฟกัน ฮาวนด์ที่พบมากที่สุดคือสีดำ สีดำและสีน้ำตาล สีแดง สีครีม สีฟ้า ลายจุดหรือสีขาว อายุขัยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 12-14 ปี



ลักษณะนิสัย

          อัฟกาน ฮาวน์ นั้นมีต้นกำเนิดจากการเป็นสุนัขนักล่าเหยื่อ จึงมีความเชื่อมั่นในตัวเองสูง และอาจยังมีสัญชาติญานของนักล่า จึงต้องฝึกให้อ่อนโยน แต่จริงแล้วพวกมันมีนิสัยดี รักสันโดษ มีความจงรักภักดี และเชื่อฟังคำสั่งมากเมื่อโตเต็มที่แล้ว สามารถปรับตัวให้เข้ากับกิจวัตรภายในบ้านได้อย่างไม่ขัดเขิน

การดูแล

          สำหรับสุนัข อัฟกาน ฮาวน์ ผู้เลี้ยงจำเป็นมากที่อาบน้ำทุกสัปดาห์และการแปรงขนเพื่อที่จะเอาผมตายออกไปและป้องกันไม่ให้พันกัน และเมื่ออาบน้ำเรียบร้อยแล้วก็ต้องเช็ดขนให้แห้ง เพื่อป้องการเกิดกลิ่นอับและเชื้อราที่ผิวหนัง ความถึงควรพาไปร้านอาบน้ำเพื่อตกแต่งขน  การเลือกให้อาหารก็ต้องเหมาะสมกับลักษณะการเจริญเติบโตตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ต้องการการออกกำลังกายเพื่อปัดความเบื่อหน่าย

          ในบ้านเราอาจไม่ค่อยนิยมเลี้ยงน้องอัฟกาน ฮาวน์ กันสักเท่าไร เพราะด้วยเป็นสุนัขที่จัดได้ว่าติดอันดับที่มีค่าตัวแพงระยับเลยทีเดียวถ้าไม่รักกันจริงก็คงต้องคิดหนักพอสมควรเลย




777
ซาลูกิ (Saluki)

          ซาลูกิเป็นชื่อสายพันธุ์สุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่ออาจไม่คุ้นนัก แต่เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจ คิดว่าหลายคนที่ยังไม่รู้จักคงอยากทำความรู้จักกับน้องหมา ซาลูกิ กันบ้างแล้วนะคะ วันนี้จึงขอหยิบเรื่องราวของน้องหมา ซาลูกิมาฝากค่ะ
ซาลูกิ  นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า กาเซล ฮาวนด์ สุนัขพันธุ์ที่รูปร่างผอมบาง สะโอดสะองและยกขาสูงในขณะก้าวเดิน ขนค่อนข้างสั้น ยกเว้นบริเวณใบหูและหางซึ่งมีขนยาวกว่ามาก ขนบริเวณต้นขาหลังและด้านหลังของขาหน้ายาวปานกลาง แม้ว่าจะดูสำอาง แต่สามารถวิ่งได้เร็วกว่ากวางกาเซลที่วิ่งเร็วที่สุดในแอฟริกาและเอเชีย ถือว่าเป็นสุนัขที่มีความพิเศษเเละน่าสนใจอย่างยิ่งอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยทีเดียว



ความเป็นมาของ ซาลูกิ


          ซาลูกิ เเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าเเก่เป็นอย่างมาก ชื่อพันธุ์ ซาลูกิ คาดว่าตั้งตามชื่อเมืองซาลุก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยเมน เเต่ปัจจุบันนั้นพวกมันอยู่ในดินเเดนของประเทศอิหร่าน เเละเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์โดยการเป็นสุนัขเพื่อการล่าสัตว์ โดยพวกมันจะล่ากวางกาเซล ด้วยฝีเท้าที่มีความเร็วสูงเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นสุนัขที่ได้รับการยอมรับว่าน่าจะวิ่งได้เร็วอีกหนึ่งสายพันธุ์ของโลกเลยทีเดียว โดยมีข้อเตือนกันไว้ว่าในขณะจูงเดินหรือพาออกกำลังกายควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นแมวหรือสุนัขที่เล็กกว่า เพราะพวกมันมีความตื่นตัวเเละว่องไวสูงเป็นอย่างยิ่ง



ลักษณะเด่นของสุนัขสายพันธุ์ ซาลูกิ

          สำหรับสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีช่วงชีวิตประมาณ 14 ปี  มีส่วนสูงประมาณ 71 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม  เป็นสุนัขที่มีความพิเศษคือ มีฝีเท้าที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีส่วนหัวยาวและแคบ  ใบหูยาวห้อยแนบกับหัวและกระดิกได้ ส่วนทางด้านของจมูกสีดำหรือสีน้ำตาลอมแดง  ขนเรียบและอ่อนนุ่ม  สะโพกแข็งแรงมาก เเละมีลำคอยาว มีกล้ามเนื้อ แข็งแรง เอี้ยวคอได้ไกล  ขาหน้าตรง กระดูกแข็งแรง  ด้านหลังขาหน้ามีขนยาว  นิ้วเท้าด้านในยาวกว่าด้านนอก  หางยาวและโค้ง โดยที่สีของขนนั้นมีสีขาว, สีฟอน, สีครีม, สีแทน, สีแดง เเละสีทอง



ลักษณะนิสัย

          สุนัขพันธุ์ซาลูกิ มีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน ชอบออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันชอบที่จะวิ่งในแนววงกลมและมักจะวิ่งไล่วัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหรือสัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งอย่างรวดเร็ว และจะมีอารสงวนท่าทีต่อคนแปลกหน้า

การดูแล

          ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่ก็สามารถอยู่ได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่นเ




778
ซาลูกิ (Saluki)

          ซาลูกิเป็นชื่อสายพันธุ์สุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่ออาจไม่คุ้นนัก แต่เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจ คิดว่าหลายคนที่ยังไม่รู้จักคงอยากทำความรู้จักกับน้องหมา ซาลูกิ กันบ้างแล้วนะคะ วันนี้จึงขอหยิบเรื่องราวของน้องหมา ซาลูกิมาฝากค่ะ
ซาลูกิ  นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า กาเซล ฮาวนด์ สุนัขพันธุ์ที่รูปร่างผอมบาง สะโอดสะองและยกขาสูงในขณะก้าวเดิน ขนค่อนข้างสั้น ยกเว้นบริเวณใบหูและหางซึ่งมีขนยาวกว่ามาก ขนบริเวณต้นขาหลังและด้านหลังของขาหน้ายาวปานกลาง แม้ว่าจะดูสำอาง แต่สามารถวิ่งได้เร็วกว่ากวางกาเซลที่วิ่งเร็วที่สุดในแอฟริกาและเอเชีย ถือว่าเป็นสุนัขที่มีความพิเศษเเละน่าสนใจอย่างยิ่งอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยทีเดียว



ความเป็นมาของ ซาลูกิ


          ซาลูกิ เเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าเเก่เป็นอย่างมาก ชื่อพันธุ์ ซาลูกิ คาดว่าตั้งตามชื่อเมืองซาลุก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยเมน เเต่ปัจจุบันนั้นพวกมันอยู่ในดินเเดนของประเทศอิหร่าน เเละเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์โดยการเป็นสุนัขเพื่อการล่าสัตว์ โดยพวกมันจะล่ากวางกาเซล ด้วยฝีเท้าที่มีความเร็วสูงเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นสุนัขที่ได้รับการยอมรับว่าน่าจะวิ่งได้เร็วอีกหนึ่งสายพันธุ์ของโลกเลยทีเดียว โดยมีข้อเตือนกันไว้ว่าในขณะจูงเดินหรือพาออกกำลังกายควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นแมวหรือสุนัขที่เล็กกว่า เพราะพวกมันมีความตื่นตัวเเละว่องไวสูงเป็นอย่างยิ่ง



ลักษณะเด่นของสุนัขสายพันธุ์ ซาลูกิ

          สำหรับสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีช่วงชีวิตประมาณ 14 ปี  มีส่วนสูงประมาณ 71 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม  เป็นสุนัขที่มีความพิเศษคือ มีฝีเท้าที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีส่วนหัวยาวและแคบ  ใบหูยาวห้อยแนบกับหัวและกระดิกได้ ส่วนทางด้านของจมูกสีดำหรือสีน้ำตาลอมแดง  ขนเรียบและอ่อนนุ่ม  สะโพกแข็งแรงมาก เเละมีลำคอยาว มีกล้ามเนื้อ แข็งแรง เอี้ยวคอได้ไกล  ขาหน้าตรง กระดูกแข็งแรง  ด้านหลังขาหน้ามีขนยาว  นิ้วเท้าด้านในยาวกว่าด้านนอก  หางยาวและโค้ง โดยที่สีของขนนั้นมีสีขาว, สีฟอน, สีครีม, สีแทน, สีแดง เเละสีทอง



ลักษณะนิสัย

          สุนัขพันธุ์ซาลูกิ มีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน ชอบออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันชอบที่จะวิ่งในแนววงกลมและมักจะวิ่งไล่วัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหรือสัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งอย่างรวดเร็ว และจะมีอารสงวนท่าทีต่อคนแปลกหน้า

การดูแล

          ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่ก็สามารถอยู่ได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่นเ




779
ซาลูกิ (Saluki)

          ซาลูกิเป็นชื่อสายพันธุ์สุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่ออาจไม่คุ้นนัก แต่เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจ คิดว่าหลายคนที่ยังไม่รู้จักคงอยากทำความรู้จักกับน้องหมา ซาลูกิ กันบ้างแล้วนะคะ วันนี้จึงขอหยิบเรื่องราวของน้องหมา ซาลูกิมาฝากค่ะ
ซาลูกิ  นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า กาเซล ฮาวนด์ สุนัขพันธุ์ที่รูปร่างผอมบาง สะโอดสะองและยกขาสูงในขณะก้าวเดิน ขนค่อนข้างสั้น ยกเว้นบริเวณใบหูและหางซึ่งมีขนยาวกว่ามาก ขนบริเวณต้นขาหลังและด้านหลังของขาหน้ายาวปานกลาง แม้ว่าจะดูสำอาง แต่สามารถวิ่งได้เร็วกว่ากวางกาเซลที่วิ่งเร็วที่สุดในแอฟริกาและเอเชีย ถือว่าเป็นสุนัขที่มีความพิเศษเเละน่าสนใจอย่างยิ่งอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยทีเดียว



ความเป็นมาของ ซาลูกิ


          ซาลูกิ เเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าเเก่เป็นอย่างมาก ชื่อพันธุ์ ซาลูกิ คาดว่าตั้งตามชื่อเมืองซาลุก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยเมน เเต่ปัจจุบันนั้นพวกมันอยู่ในดินเเดนของประเทศอิหร่าน เเละเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์โดยการเป็นสุนัขเพื่อการล่าสัตว์ โดยพวกมันจะล่ากวางกาเซล ด้วยฝีเท้าที่มีความเร็วสูงเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นสุนัขที่ได้รับการยอมรับว่าน่าจะวิ่งได้เร็วอีกหนึ่งสายพันธุ์ของโลกเลยทีเดียว โดยมีข้อเตือนกันไว้ว่าในขณะจูงเดินหรือพาออกกำลังกายควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นแมวหรือสุนัขที่เล็กกว่า เพราะพวกมันมีความตื่นตัวเเละว่องไวสูงเป็นอย่างยิ่ง



ลักษณะเด่นของสุนัขสายพันธุ์ ซาลูกิ

          สำหรับสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีช่วงชีวิตประมาณ 14 ปี  มีส่วนสูงประมาณ 71 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม  เป็นสุนัขที่มีความพิเศษคือ มีฝีเท้าที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีส่วนหัวยาวและแคบ  ใบหูยาวห้อยแนบกับหัวและกระดิกได้ ส่วนทางด้านของจมูกสีดำหรือสีน้ำตาลอมแดง  ขนเรียบและอ่อนนุ่ม  สะโพกแข็งแรงมาก เเละมีลำคอยาว มีกล้ามเนื้อ แข็งแรง เอี้ยวคอได้ไกล  ขาหน้าตรง กระดูกแข็งแรง  ด้านหลังขาหน้ามีขนยาว  นิ้วเท้าด้านในยาวกว่าด้านนอก  หางยาวและโค้ง โดยที่สีของขนนั้นมีสีขาว, สีฟอน, สีครีม, สีแทน, สีแดง เเละสีทอง



ลักษณะนิสัย

          สุนัขพันธุ์ซาลูกิ มีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน ชอบออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันชอบที่จะวิ่งในแนววงกลมและมักจะวิ่งไล่วัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหรือสัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งอย่างรวดเร็ว และจะมีอารสงวนท่าทีต่อคนแปลกหน้า

การดูแล

          ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่ก็สามารถอยู่ได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่นเ




780
ซาลูกิ (Saluki)

          ซาลูกิเป็นชื่อสายพันธุ์สุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชื่ออาจไม่คุ้นนัก แต่เป็นสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจ คิดว่าหลายคนที่ยังไม่รู้จักคงอยากทำความรู้จักกับน้องหมา ซาลูกิ กันบ้างแล้วนะคะ วันนี้จึงขอหยิบเรื่องราวของน้องหมา ซาลูกิมาฝากค่ะ
ซาลูกิ  นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า กาเซล ฮาวนด์ สุนัขพันธุ์ที่รูปร่างผอมบาง สะโอดสะองและยกขาสูงในขณะก้าวเดิน ขนค่อนข้างสั้น ยกเว้นบริเวณใบหูและหางซึ่งมีขนยาวกว่ามาก ขนบริเวณต้นขาหลังและด้านหลังของขาหน้ายาวปานกลาง แม้ว่าจะดูสำอาง แต่สามารถวิ่งได้เร็วกว่ากวางกาเซลที่วิ่งเร็วที่สุดในแอฟริกาและเอเชีย ถือว่าเป็นสุนัขที่มีความพิเศษเเละน่าสนใจอย่างยิ่งอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยทีเดียว



ความเป็นมาของ ซาลูกิ


          ซาลูกิ เเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีอายุเก่าเเก่เป็นอย่างมาก ชื่อพันธุ์ ซาลูกิ คาดว่าตั้งตามชื่อเมืองซาลุก เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยเมน เเต่ปัจจุบันนั้นพวกมันอยู่ในดินเเดนของประเทศอิหร่าน เเละเริ่มเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมนุษย์โดยการเป็นสุนัขเพื่อการล่าสัตว์ โดยพวกมันจะล่ากวางกาเซล ด้วยฝีเท้าที่มีความเร็วสูงเป็นอย่างมาก จนกลายเป็นสุนัขที่ได้รับการยอมรับว่าน่าจะวิ่งได้เร็วอีกหนึ่งสายพันธุ์ของโลกเลยทีเดียว โดยมีข้อเตือนกันไว้ว่าในขณะจูงเดินหรือพาออกกำลังกายควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นแมวหรือสุนัขที่เล็กกว่า เพราะพวกมันมีความตื่นตัวเเละว่องไวสูงเป็นอย่างยิ่ง



ลักษณะเด่นของสุนัขสายพันธุ์ ซาลูกิ

          สำหรับสุนัขสายพันธุ์นี้จะมีช่วงชีวิตประมาณ 14 ปี  มีส่วนสูงประมาณ 71 เซนติเมตร น้ำหนักประมาณ 30 กิโลกรัม  เป็นสุนัขที่มีความพิเศษคือ มีฝีเท้าที่สามารถทำความเร็วได้ถึง 69 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีส่วนหัวยาวและแคบ  ใบหูยาวห้อยแนบกับหัวและกระดิกได้ ส่วนทางด้านของจมูกสีดำหรือสีน้ำตาลอมแดง  ขนเรียบและอ่อนนุ่ม  สะโพกแข็งแรงมาก เเละมีลำคอยาว มีกล้ามเนื้อ แข็งแรง เอี้ยวคอได้ไกล  ขาหน้าตรง กระดูกแข็งแรง  ด้านหลังขาหน้ามีขนยาว  นิ้วเท้าด้านในยาวกว่าด้านนอก  หางยาวและโค้ง โดยที่สีของขนนั้นมีสีขาว, สีฟอน, สีครีม, สีแทน, สีแดง เเละสีทอง



ลักษณะนิสัย

          สุนัขพันธุ์ซาลูกิ มีนิสัยรักอิสระเหมือนแมว ฉลาดหลักแหลม กล้าหาญ ซื่อสัตย์ แต่มีอ่อนไหวบ้าง เป็นมิตรกับผู้คน โดยเฉพาะกับคนในครอบครัว ไม่ก้าวร้าว ซาลูกิมีเชื่อสายของสุนัขล่าเนื้อ จึงเป็นสุนัขที่สามารถฝึกสอนให้เชื่อฟังได้ดี แต่ต้องอาศัยความอดทน ชอบออกกำลังกายเป็นประจำทุกวันชอบที่จะวิ่งในแนววงกลมและมักจะวิ่งไล่วัตถุที่มีการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วหรือสัตว์ตัวเล็กๆที่วิ่งอย่างรวดเร็ว และจะมีอารสงวนท่าทีต่อคนแปลกหน้า

การดูแล

          ซาลูกิชอบอยู่ในอากาศอบอุ่น แต่ก็สามารถอยู่ได้ทุกที่ ควรแปรงขนให้อย่างน้อย 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากขนแล้วยังต้องดูแลความสะอาดบริเวณตา หู และเท้า 1 ครั้งต่อสัปดาห์ ไม่ควรอาบน้ำเป็นประจำทุกสัปดาห์ ผิวหนังพวกเขาบอบบาควรใช้ยาสระขนชนิดอ่อน ควรปล่อยให้แห้งโดยแสงแดดตามธรรมชาติ และหมั่นดูแลดูบาดแผลที่เล็บซึ่งอาจเกิดขึ้นเวลาวิ่งเล่นเ