แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ขายหมา

436
โรคต่อมลูกหมากโตในสุนัข  (Benign  Prostatic Hyperplasia in dogs)

ต่อมลูกหมากคืออะไร ?

   ต่อมลูกหมากเป็นต่อมที่อยู่บริเวณคอกระเพาะปัสสาวะในสุนัขเพศผู้ ซึ่งจะพบท่อปัสสาวะพาดผ่านต่อมลูกหมากจากกระเพาะปัสสาวะและออกสู่ภายนอก  หน้าที่ของต่อมลูกหมากคือเพื่อสร้างน้ำเลี้ยงน้ำเชื้อให้กับอสุจิ และต่อมลูกหมากจะได้รับการกระตุ้นการทำงานจากฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน (testosterone)
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง   



   โรคต่อมลูกหมากโตในสุนัข เป็นหนึ่งในโรคที่พบได้บ่อยที่สุดของโรคที่เกิดกับต่อมลูกหมากของสุนัขเพศผู้ ซึ่งเกิดจากตอบสนองของฮอร์โมนเทสโทสเทอโรน โดยพบว่าสุนัขบางตัวก็เกิดอาการบางตัวก็ไม่เกิดอาการ โดยมากมักพบในสุนัขเพศผู้ที่ยังไม่ทำหมันแบะเริ่มมีอายุมากขึ้น หรือมากกว่า 4 ปีขึ้นไป
อาการ

   ในระยะแรกอาจจะไม่แสดงอาการอะไรเลย ต่อมาอาจจะเกิดอาการปัสสาวะกระปริบกระปรอย หรือปัสสาวะเป็นหยด กองเล็กๆ สีปัสสาวะผิดไปจากปกติ อาจจะมีสีเข้มขึ้น ขุ่น หรือมีเลือดปน หรือบางตัวพบว่ามีน้ำปัสสาวะปนเลือดติดอยู่ที่ปลายอวัยวะเพศ หรือบางรายอาจจะมีด้วยอาการท้องผูก ถ่ายไม่ออก พยายามเบ่งถ่าย ถ้าเจ้าของสังเกตุอาการช้า สุนัขอาจจะมีอาการปวดตามมาได้ อาจจะทำให้เกิดอาการซึม ไม่ทานอาหาร หรือมีไข้ตามมาได้ อาจจะพบการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะ หรือการติดเชื้อที่ต่อมลูกหมากร่วมด้วยหรือไม่ก็ได้
การวินิจฉัย

   สัตวแพทย์จะคลำตรวจต่อมลูกหมากผ่านทางช่องทวารหนัก จะพบว่ามีการขยายขนาดเท่ากันทั้งสองฝั่ง ในระยะแรกจะอาจจะไม่พบการอักเสบ กดแล้วจะไม่เจ็บ สามารถตรวจยืนยันได้ด้วยการเอ๊กเรยช่องท้อง และการอัลตราซษวด์สามารถใช้เพื่อตรวจดูคามผิดปกติของเนื้อเยื่อในต่อมลูกหมากได้ ว่ามีลักษณะผิดปกติอื่นๆหรือไม่ เช่น ถุงน้ำ หรือก้อนเนื้องอก เป็นต้น หากมีการตรวจดูน้ำเชื้ออาจจะพบว่ามีเซลล์อักเสบหรือมีเซลล์เม็ดเลือดแดงได้
การรักษา

   การรักษา รวมทั้งการป้องกันไม่ให้เกิดโรคนี้ คือการให้สุนัขทำหมันโดยการผ่าตัดเอาอัณฑะออก ภายหลังการทำหมันจะทำให้การทำงานของต่อมลูกหมากลดลง และอาการจะดีขึ้นภายในระยะเวลา 2-3 เดือน แต่ถ้าหากเป็นสุนัขที่ต้องเป็นพ่อพันธุ์ หรือมีปัญหาสุขภาพบางอย่างทำให้ไม่สามารถผ่าตัดทำหมันได้ สัตวแพทย์อาจจะแนะนำให้ใช้ฮอร์โมน (finasteride) รักษาได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันโรคเกี่ยวกับต่อมลูกหมาก จึงควรทำหมันในสุนัขเมื่ออายุยังไม่มาก

ที่มา :
https://www.akc.org/expert-advice/health/pancreatitis-in-dogs/
https://www.msdvetmanual.com/reproductive-system/prostatic-diseases/benign-prostatic-hyperplasia-in-dogs-and-cats


437
โรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข (Canine pancreatitis)

   โรคตับอ่อนอักเสบ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่กลับพบสุนัขเริ่มเป็นโรคนี้กันมากขึ้น เนื่องจากการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงมักจะชอบเลี้ยงให้สุนัขหรือแมวมีน้ำหนักตัวเยอะ อ้วนๆ เจ้าของอาจจะมองเห็นความน่ารัก แต่กลับเป็นภัยเงียบที่รุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว
อาการ



   อาจจะพบอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยอาการที่พบ เช่น สุนัขจะซึม เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินอาหารที่เคยกินแม้ว่าจะเป็นของโปรดก็ตาม สุนัขจะมีอาการปวดท้องอย่างมาก โดยมากมักจะปวดบริเวณท้องส่วนหน้า บางตัวพบว่าช่องท้องขยายขนาดร่วมกับปวดเกร็ง มีอาการอาเจียนหลายครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะพบน้ำย่อยสีเหลืองออกมากับอาเจียนด้วย บางตัวพบอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย และหากไม่ได้รับน้ำรับอาหารหลายวันจะส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และอ่อนเพลีย บางตัวพบว่ามีไข้สูง ถ้าเจ้าของสังเกตุอาการได้ช้า สุนัขอาจจะจะเกิดภาวะช็อคจากความปวดรุนแรงหรือจากภาวะขาดน้ำได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

   มีหลายปัจจัที่เป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบ เช่น
-   การที่สุนัขได้รับอาหารไขมันสูง การให้สุนัขกินอาหารคน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
-   โรคอ้วนในสุนัข
-   โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ
-   ได้รับอุบัติเหตุ กระทบกระแทกบริเวณช่องท้อง
-   โรคเบาหวาน
-   การได้รับยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาระงับชักบางชนิด (phenobarbital) ยากดภูมิบางชนิด (azathioprine) ยาลดอักเสบชนิดเสตียรอยด์ (prednisolone) เป็นต้น
-   สุนัขสายพันธุ์เล็ก สายพันธุ์เทอร์เรีย สายพันธุ์ชเนาเซอร์ มีแนวโน้มเป็นโรคนี้ได้มากกว่า (breed predisposing disease)
การวินิจฉัย

   สัตวแพทย์จะสอบถามประวัติ ร่วมกับการตรวจเลือด อาจจะพบว่ามีค่าเม็ดเลือดที่บ่งบอกการอักเสบสูงขึ้นกว่าปกติ  ตรวจค่าเคมีในเลือด เช่นค่าตับ ค่าไต มักพบความผิดร่วมด้วย และจะตรวจค่าเอนไซม์ (canine pancreatitis lipase) จะพบว่าค่ามีความผิดปกติ การเอ๊กเรย์และอัลตราซาวด์ช่องท้อง อาจจะพบการอักเสบของเนื้อเยื่อตับอ่อนได้ แต่บางรายก็ไม่พบความผิดปกติจากการอัลตราซาวด์
การรักษา

   การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข เป็นการรักษาตามอาการ หากมีสาเหตุจากการได้รับยาจนเหนี่ยวนำให้เป็นตับอ่อนอักเสบ จำเป็นท่จะต้องหยุดยาหือลดขนาดการใช้ยาลงก่อน โรคนี้จะทำให้สุนัขปวดท้องอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในการรักษาหลักคือการควบคุมระดับความเจ็บปวด และป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ (เช่น เบาหวาน) โดยมักจะมีการให้สารน้ำทดแทน (intravenous fluid) เพื่อช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปจากการอาเจียน และไม่ได้กินอาหาร และสัตวแพทย์จะเลือกให้ยาระงับการอาเจียนตามอาการ ถ้ามีอาการมากก็อาจจะต้องเพิ่มความถี่การให้ยา หรือเลือกใช้ยาระงับอาเจียนที่มีประสิทธิภาพสูง มักแนะนำให้งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการทำงานของตับอ่อน หลังจากนั้นแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และค่อยๆแบ่งให้ครั้งละน้อยๆบ่อยครั้ง งดให้อาหารหรือขนมที่มีไขมันสูงเด็ดขาด

ที่มา : https://www.akc.org/expert-advice/health/pancreatitis-in-dogs/


438
โรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข (Canine pancreatitis)

   โรคตับอ่อนอักเสบ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่กลับพบสุนัขเริ่มเป็นโรคนี้กันมากขึ้น เนื่องจากการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงมักจะชอบเลี้ยงให้สุนัขหรือแมวมีน้ำหนักตัวเยอะ อ้วนๆ เจ้าของอาจจะมองเห็นความน่ารัก แต่กลับเป็นภัยเงียบที่รุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว
อาการ



   อาจจะพบอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยอาการที่พบ เช่น สุนัขจะซึม เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินอาหารที่เคยกินแม้ว่าจะเป็นของโปรดก็ตาม สุนัขจะมีอาการปวดท้องอย่างมาก โดยมากมักจะปวดบริเวณท้องส่วนหน้า บางตัวพบว่าช่องท้องขยายขนาดร่วมกับปวดเกร็ง มีอาการอาเจียนหลายครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะพบน้ำย่อยสีเหลืองออกมากับอาเจียนด้วย บางตัวพบอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย และหากไม่ได้รับน้ำรับอาหารหลายวันจะส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และอ่อนเพลีย บางตัวพบว่ามีไข้สูง ถ้าเจ้าของสังเกตุอาการได้ช้า สุนัขอาจจะจะเกิดภาวะช็อคจากความปวดรุนแรงหรือจากภาวะขาดน้ำได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

   มีหลายปัจจัที่เป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบ เช่น
-   การที่สุนัขได้รับอาหารไขมันสูง การให้สุนัขกินอาหารคน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
-   โรคอ้วนในสุนัข
-   โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ
-   ได้รับอุบัติเหตุ กระทบกระแทกบริเวณช่องท้อง
-   โรคเบาหวาน
-   การได้รับยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาระงับชักบางชนิด (phenobarbital) ยากดภูมิบางชนิด (azathioprine) ยาลดอักเสบชนิดเสตียรอยด์ (prednisolone) เป็นต้น
-   สุนัขสายพันธุ์เล็ก สายพันธุ์เทอร์เรีย สายพันธุ์ชเนาเซอร์ มีแนวโน้มเป็นโรคนี้ได้มากกว่า (breed predisposing disease)
การวินิจฉัย

   สัตวแพทย์จะสอบถามประวัติ ร่วมกับการตรวจเลือด อาจจะพบว่ามีค่าเม็ดเลือดที่บ่งบอกการอักเสบสูงขึ้นกว่าปกติ  ตรวจค่าเคมีในเลือด เช่นค่าตับ ค่าไต มักพบความผิดร่วมด้วย และจะตรวจค่าเอนไซม์ (canine pancreatitis lipase) จะพบว่าค่ามีความผิดปกติ การเอ๊กเรย์และอัลตราซาวด์ช่องท้อง อาจจะพบการอักเสบของเนื้อเยื่อตับอ่อนได้ แต่บางรายก็ไม่พบความผิดปกติจากการอัลตราซาวด์
การรักษา

   การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข เป็นการรักษาตามอาการ หากมีสาเหตุจากการได้รับยาจนเหนี่ยวนำให้เป็นตับอ่อนอักเสบ จำเป็นท่จะต้องหยุดยาหือลดขนาดการใช้ยาลงก่อน โรคนี้จะทำให้สุนัขปวดท้องอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในการรักษาหลักคือการควบคุมระดับความเจ็บปวด และป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ (เช่น เบาหวาน) โดยมักจะมีการให้สารน้ำทดแทน (intravenous fluid) เพื่อช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปจากการอาเจียน และไม่ได้กินอาหาร และสัตวแพทย์จะเลือกให้ยาระงับการอาเจียนตามอาการ ถ้ามีอาการมากก็อาจจะต้องเพิ่มความถี่การให้ยา หรือเลือกใช้ยาระงับอาเจียนที่มีประสิทธิภาพสูง มักแนะนำให้งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการทำงานของตับอ่อน หลังจากนั้นแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และค่อยๆแบ่งให้ครั้งละน้อยๆบ่อยครั้ง งดให้อาหารหรือขนมที่มีไขมันสูงเด็ดขาด

ที่มา : https://www.akc.org/expert-advice/health/pancreatitis-in-dogs/


439
โรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข (Canine pancreatitis)

   โรคตับอ่อนอักเสบ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่กลับพบสุนัขเริ่มเป็นโรคนี้กันมากขึ้น เนื่องจากการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงมักจะชอบเลี้ยงให้สุนัขหรือแมวมีน้ำหนักตัวเยอะ อ้วนๆ เจ้าของอาจจะมองเห็นความน่ารัก แต่กลับเป็นภัยเงียบที่รุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว
อาการ



   อาจจะพบอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยอาการที่พบ เช่น สุนัขจะซึม เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินอาหารที่เคยกินแม้ว่าจะเป็นของโปรดก็ตาม สุนัขจะมีอาการปวดท้องอย่างมาก โดยมากมักจะปวดบริเวณท้องส่วนหน้า บางตัวพบว่าช่องท้องขยายขนาดร่วมกับปวดเกร็ง มีอาการอาเจียนหลายครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะพบน้ำย่อยสีเหลืองออกมากับอาเจียนด้วย บางตัวพบอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย และหากไม่ได้รับน้ำรับอาหารหลายวันจะส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และอ่อนเพลีย บางตัวพบว่ามีไข้สูง ถ้าเจ้าของสังเกตุอาการได้ช้า สุนัขอาจจะจะเกิดภาวะช็อคจากความปวดรุนแรงหรือจากภาวะขาดน้ำได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

   มีหลายปัจจัที่เป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบ เช่น
-   การที่สุนัขได้รับอาหารไขมันสูง การให้สุนัขกินอาหารคน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
-   โรคอ้วนในสุนัข
-   โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ
-   ได้รับอุบัติเหตุ กระทบกระแทกบริเวณช่องท้อง
-   โรคเบาหวาน
-   การได้รับยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาระงับชักบางชนิด (phenobarbital) ยากดภูมิบางชนิด (azathioprine) ยาลดอักเสบชนิดเสตียรอยด์ (prednisolone) เป็นต้น
-   สุนัขสายพันธุ์เล็ก สายพันธุ์เทอร์เรีย สายพันธุ์ชเนาเซอร์ มีแนวโน้มเป็นโรคนี้ได้มากกว่า (breed predisposing disease)
การวินิจฉัย

   สัตวแพทย์จะสอบถามประวัติ ร่วมกับการตรวจเลือด อาจจะพบว่ามีค่าเม็ดเลือดที่บ่งบอกการอักเสบสูงขึ้นกว่าปกติ  ตรวจค่าเคมีในเลือด เช่นค่าตับ ค่าไต มักพบความผิดร่วมด้วย และจะตรวจค่าเอนไซม์ (canine pancreatitis lipase) จะพบว่าค่ามีความผิดปกติ การเอ๊กเรย์และอัลตราซาวด์ช่องท้อง อาจจะพบการอักเสบของเนื้อเยื่อตับอ่อนได้ แต่บางรายก็ไม่พบความผิดปกติจากการอัลตราซาวด์
การรักษา

   การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข เป็นการรักษาตามอาการ หากมีสาเหตุจากการได้รับยาจนเหนี่ยวนำให้เป็นตับอ่อนอักเสบ จำเป็นท่จะต้องหยุดยาหือลดขนาดการใช้ยาลงก่อน โรคนี้จะทำให้สุนัขปวดท้องอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในการรักษาหลักคือการควบคุมระดับความเจ็บปวด และป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ (เช่น เบาหวาน) โดยมักจะมีการให้สารน้ำทดแทน (intravenous fluid) เพื่อช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปจากการอาเจียน และไม่ได้กินอาหาร และสัตวแพทย์จะเลือกให้ยาระงับการอาเจียนตามอาการ ถ้ามีอาการมากก็อาจจะต้องเพิ่มความถี่การให้ยา หรือเลือกใช้ยาระงับอาเจียนที่มีประสิทธิภาพสูง มักแนะนำให้งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการทำงานของตับอ่อน หลังจากนั้นแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และค่อยๆแบ่งให้ครั้งละน้อยๆบ่อยครั้ง งดให้อาหารหรือขนมที่มีไขมันสูงเด็ดขาด

ที่มา : https://www.akc.org/expert-advice/health/pancreatitis-in-dogs/


440
โรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข (Canine pancreatitis)

   โรคตับอ่อนอักเสบ อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูนักสำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยง แต่กลับพบสุนัขเริ่มเป็นโรคนี้กันมากขึ้น เนื่องจากการที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงมักจะชอบเลี้ยงให้สุนัขหรือแมวมีน้ำหนักตัวเยอะ อ้วนๆ เจ้าของอาจจะมองเห็นความน่ารัก แต่กลับเป็นภัยเงียบที่รุนแรงถึงชีวิตเลยทีเดียว
อาการ



   อาจจะพบอาการได้ทั้งแบบเฉียบพลัน และแบบเรื้อรัง โดยอาการที่พบ เช่น สุนัขจะซึม เบื่ออาหาร ไม่ยอมกินอาหารที่เคยกินแม้ว่าจะเป็นของโปรดก็ตาม สุนัขจะมีอาการปวดท้องอย่างมาก โดยมากมักจะปวดบริเวณท้องส่วนหน้า บางตัวพบว่าช่องท้องขยายขนาดร่วมกับปวดเกร็ง มีอาการอาเจียนหลายครั้งภายในไม่กี่ชั่วโมง อาจจะพบน้ำย่อยสีเหลืองออกมากับอาเจียนด้วย บางตัวพบอาการถ่ายเหลวร่วมด้วย และหากไม่ได้รับน้ำรับอาหารหลายวันจะส่งผลทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และอ่อนเพลีย บางตัวพบว่ามีไข้สูง ถ้าเจ้าของสังเกตุอาการได้ช้า สุนัขอาจจะจะเกิดภาวะช็อคจากความปวดรุนแรงหรือจากภาวะขาดน้ำได้

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง

   มีหลายปัจจัที่เป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบ เช่น
-   การที่สุนัขได้รับอาหารไขมันสูง การให้สุนัขกินอาหารคน เป็นหนึ่งในสาเหตุที่พบได้บ่อยที่สุด
-   โรคอ้วนในสุนัข
-   โรคฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำกว่าปกติ
-   ได้รับอุบัติเหตุ กระทบกระแทกบริเวณช่องท้อง
-   โรคเบาหวาน
-   การได้รับยาบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น ยาระงับชักบางชนิด (phenobarbital) ยากดภูมิบางชนิด (azathioprine) ยาลดอักเสบชนิดเสตียรอยด์ (prednisolone) เป็นต้น
-   สุนัขสายพันธุ์เล็ก สายพันธุ์เทอร์เรีย สายพันธุ์ชเนาเซอร์ มีแนวโน้มเป็นโรคนี้ได้มากกว่า (breed predisposing disease)
การวินิจฉัย

   สัตวแพทย์จะสอบถามประวัติ ร่วมกับการตรวจเลือด อาจจะพบว่ามีค่าเม็ดเลือดที่บ่งบอกการอักเสบสูงขึ้นกว่าปกติ  ตรวจค่าเคมีในเลือด เช่นค่าตับ ค่าไต มักพบความผิดร่วมด้วย และจะตรวจค่าเอนไซม์ (canine pancreatitis lipase) จะพบว่าค่ามีความผิดปกติ การเอ๊กเรย์และอัลตราซาวด์ช่องท้อง อาจจะพบการอักเสบของเนื้อเยื่อตับอ่อนได้ แต่บางรายก็ไม่พบความผิดปกติจากการอัลตราซาวด์
การรักษา

   การรักษาโรคตับอ่อนอักเสบในสุนัข เป็นการรักษาตามอาการ หากมีสาเหตุจากการได้รับยาจนเหนี่ยวนำให้เป็นตับอ่อนอักเสบ จำเป็นท่จะต้องหยุดยาหือลดขนาดการใช้ยาลงก่อน โรคนี้จะทำให้สุนัขปวดท้องอย่างมาก ดังนั้นหนึ่งในการรักษาหลักคือการควบคุมระดับความเจ็บปวด และป้องกันอาการแทรกซ้อนต่างๆ (เช่น เบาหวาน) โดยมักจะมีการให้สารน้ำทดแทน (intravenous fluid) เพื่อช่วยทดแทนน้ำที่เสียไปจากการอาเจียน และไม่ได้กินอาหาร และสัตวแพทย์จะเลือกให้ยาระงับการอาเจียนตามอาการ ถ้ามีอาการมากก็อาจจะต้องเพิ่มความถี่การให้ยา หรือเลือกใช้ยาระงับอาเจียนที่มีประสิทธิภาพสูง มักแนะนำให้งดน้ำงดอาหารอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดการทำงานของตับอ่อน หลังจากนั้นแนะนำให้เปลี่ยนมาเป็นอาหารที่มีไขมันต่ำ และค่อยๆแบ่งให้ครั้งละน้อยๆบ่อยครั้ง งดให้อาหารหรือขนมที่มีไขมันสูงเด็ดขาด

ที่มา : https://www.akc.org/expert-advice/health/pancreatitis-in-dogs/


441
ทำความรู้จัก PEDIGREE Token

          PEDIGREE (PET) เป็น Utility Token ของแพลตฟอร์ม THAI PEDIGREE บนเครือข่าย Bitkub Chain ซึ่งออกแบบมาสำหรับเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบน Ecosystem ของ THAI PEDIGREE เพื่อความความยั่งยืนของระบบและสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของผู้ใช้งาน หรือ โอนโทเค็นเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงจรจัด

          THAI PEDIGREE เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศของสัตว์เลี้ยงให้ครบวงจรทั้งหมด เพื่อ รองรับ ผู้ใช้งานทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงผู้ให้บริการอุปกรณ์ หรือบริการสัตว์เลี้ยง เริ่มจากต้นน้ำ ข้อมูลสัตว์เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง กลางน้ำ ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ปลายน้ำ ผู้ให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น อาบน้ำ ตัดขน จองที่พัก ฝากเลี้ยง หรือสินค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง รวมไปถึงการบริจาคและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ถือเหรียญยังสามารถได้ ส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ ของ THAI PDEIGREE ด้วย

Download App : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

โดยสามารถ Swap PET ได้ที่  👉 https://exchange.tuktuk.finance/#/swap

แอดเดรส : 0xF63CCF17D1edfAc627bB3a000DddeC6b25a01C9e

Telegram : https://t.me/thaipedigree

Website : https://thaipedigree.org

Line@ : https://line.me/ti/p/@thaiped

Website : https://thaipedigree.com

 #defi #Pet #PetToken #ทาสหมา #ทาสแมว













442
ทำความรู้จัก PEDIGREE Token

          PEDIGREE (PET) เป็น Utility Token ของแพลตฟอร์ม THAI PEDIGREE บนเครือข่าย Bitkub Chain ซึ่งออกแบบมาสำหรับเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบน Ecosystem ของ THAI PEDIGREE เพื่อความความยั่งยืนของระบบและสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของผู้ใช้งาน หรือ โอนโทเค็นเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงจรจัด

          THAI PEDIGREE เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศของสัตว์เลี้ยงให้ครบวงจรทั้งหมด เพื่อ รองรับ ผู้ใช้งานทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงผู้ให้บริการอุปกรณ์ หรือบริการสัตว์เลี้ยง เริ่มจากต้นน้ำ ข้อมูลสัตว์เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง กลางน้ำ ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ปลายน้ำ ผู้ให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น อาบน้ำ ตัดขน จองที่พัก ฝากเลี้ยง หรือสินค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง รวมไปถึงการบริจาคและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ถือเหรียญยังสามารถได้ ส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ ของ THAI PDEIGREE ด้วย

Download App : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

โดยสามารถ Swap PET ได้ที่  👉 https://exchange.tuktuk.finance/#/swap

แอดเดรส : 0xF63CCF17D1edfAc627bB3a000DddeC6b25a01C9e

Telegram : https://t.me/thaipedigree

Website : https://thaipedigree.org

Line@ : https://line.me/ti/p/@thaiped

Website : https://thaipedigree.com

 #defi #Pet #PetToken #ทาสหมา #ทาสแมว













443
ทำความรู้จัก PEDIGREE Token

          PEDIGREE (PET) เป็น Utility Token ของแพลตฟอร์ม THAI PEDIGREE บนเครือข่าย Bitkub Chain ซึ่งออกแบบมาสำหรับเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบน Ecosystem ของ THAI PEDIGREE เพื่อความความยั่งยืนของระบบและสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของผู้ใช้งาน หรือ โอนโทเค็นเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงจรจัด

          THAI PEDIGREE เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศของสัตว์เลี้ยงให้ครบวงจรทั้งหมด เพื่อ รองรับ ผู้ใช้งานทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงผู้ให้บริการอุปกรณ์ หรือบริการสัตว์เลี้ยง เริ่มจากต้นน้ำ ข้อมูลสัตว์เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง กลางน้ำ ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ปลายน้ำ ผู้ให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น อาบน้ำ ตัดขน จองที่พัก ฝากเลี้ยง หรือสินค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง รวมไปถึงการบริจาคและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ถือเหรียญยังสามารถได้ ส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ ของ THAI PDEIGREE ด้วย

Download App : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

โดยสามารถ Swap PET ได้ที่  👉 https://exchange.tuktuk.finance/#/swap

แอดเดรส : 0xF63CCF17D1edfAc627bB3a000DddeC6b25a01C9e

Telegram : https://t.me/thaipedigree

Website : https://thaipedigree.org

Line@ : https://line.me/ti/p/@thaiped

Website : https://thaipedigree.com

 #defi #Pet #PetToken #ทาสหมา #ทาสแมว













444
ทำความรู้จัก PEDIGREE Token

          PEDIGREE (PET) เป็น Utility Token ของแพลตฟอร์ม THAI PEDIGREE บนเครือข่าย Bitkub Chain ซึ่งออกแบบมาสำหรับเป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมบน Ecosystem ของ THAI PEDIGREE เพื่อความความยั่งยืนของระบบและสร้างความมั่นใจในการใช้บริการของผู้ใช้งาน หรือ โอนโทเค็นเพื่อช่วยสัตว์เลี้ยงจรจัด

          THAI PEDIGREE เรามุ่งมั่นที่จะสร้างระบบนิเวศของสัตว์เลี้ยงให้ครบวงจรทั้งหมด เพื่อ รองรับ ผู้ใช้งานทั่วไป พ่อค้าแม่ค้าสัตว์เลี้ยง รวมไปถึงผู้ให้บริการอุปกรณ์ หรือบริการสัตว์เลี้ยง เริ่มจากต้นน้ำ ข้อมูลสัตว์เลี้ยง ผู้เพาะเลี้ยงหรือเพาะพันธุ์สัตว์เลี้ยง กลางน้ำ ตลาดซื้อขายสัตว์เลี้ยง ปลายน้ำ ผู้ให้บริการสัตว์เลี้ยง เช่น อาบน้ำ ตัดขน จองที่พัก ฝากเลี้ยง หรือสินค้าอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง รวมไปถึงการบริจาคและช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความช่วยเหลือ ผู้ถือเหรียญยังสามารถได้ ส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ ของ THAI PDEIGREE ด้วย

Download App : https://play.google.com/store/apps/details?id=com.thaipedigree

โดยสามารถ Swap PET ได้ที่  👉 https://exchange.tuktuk.finance/#/swap

แอดเดรส : 0xF63CCF17D1edfAc627bB3a000DddeC6b25a01C9e

Telegram : https://t.me/thaipedigree

Website : https://thaipedigree.org

Line@ : https://line.me/ti/p/@thaiped

Website : https://thaipedigree.com

 #defi #Pet #PetToken #ทาสหมา #ทาสแมว













445
สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres

          สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres สุนัขชื่อยาวตัวนี้ อ่านว่า 'บูวิเย เด ฟลองเดรอะ' ต้นกำเนิดอยู่ที่พรมแดนระหว่างฝรั่งเศส กับเบลเยี่ยม บริเวณที่ราบฟลองเดรอะสุนัขเฝ้าฝูงวัวควาย ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ในแถบยุโรปตะวันตก ปัจจุบันบูวิเยถูกใช้เป็นสุนัขนำทาง เฝ้ายามและตามรอย



ลักษณะทั่วไป

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะ เป็นสุนัขขนาดใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งสามารถสูงได้ถึง 27 นิ้ว และหนักมากได้ถึง 43 กิโลกรัม ศรีษะที่ใหญ่ของบูวิเย ที่น่าหลงใหลจากเคราที่มีเอกลักษณ์ หนวดและคิ้วที่ดก หูทรงสามเหลี่ยมตั้งสูงอาจปล่อยตามธรรมชาติหรือว่าจัดแต่ง หางมักโดนตัด หลังสั้นและขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

          ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ขนชั้นนอกยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีหนวด เครายาว คิ้วหนา มีขนชั้นนอกที่หยาบและดก ขนชั้นล่างที่หนา เพื่อช่วยป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศที่รุนแรง บูวิเยมีหลายสีทั้ง สีดำ เทาอมเหลือง ลาย เทาและ สีเกลือและพริกไท บางตัวอาจจะมีลายที่อกสีขาว มีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 10 ถึง 12 ปี

ลักษณะนิสัย:

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะเป็นหมาใหญ่ที่รักสงบ ว่านอนสอนง่ายเป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ อ่อนไหว และตื่นตัวสูงและมีนิสัยที่น่าพอใจและเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวที่ดี บูวิเยสามารถเข้าได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่นที่ได้เลี้ยงมาด้วยกัน แต่หากไม่ บางตัวอาจจะก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้ บูวิเยมีความจงรักภักดีต่อครอบครัว และเป็นสุนัขเฝ้าระวังที่ดี มีความสุขที่ได้นอนอยู่รอบ ๆ บ้านและต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เขาใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองหรือบ้านนอก

การดูแล

          ควรทำความสะอาดขนเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรทำการตัดแต่งขนโดยช่างมืออาชีพปีละ 2- 3 ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแปรงขนส่วนเกินที่หู และระหว่างเท้า บูวิเยมีการผลัดขนปานกลางแต่การแปรงขนเป็นประจำจะช่วยตรวจสอบการผลัดขนของเขาด้วย

          ควรให้อาหารมื้อเล็ก 2 มื้อมากกว่าการให้อาหารเพียงมื้อใหญ่มื้อเดียว สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการพักผ่อนประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงภายหลังอาหารเพื่อลดอาการท้องอืด

          เจ้า บูวิเย นั้นต้องการการออกกำลังกายสูง แต่ไม่ควรให้วิ่งนานเกินไปเพราะเจ้า บูวิเย นั้นมีโครงสร้างที่ใหญ่และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับสะโพกในยามแก่ได้ พื้นที่ที่จะให้ เจ้า บูวิเย อยู่นั้นควรกว้างพอสมควร
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าหมายักษ์ ก็คืออาการของโรคที่เกี่ยว สะโพก ไขข้อ ที่อาจเกิดการอักเสบ และโรคเกี่ยวกับดวงตา


446
สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres

          สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres สุนัขชื่อยาวตัวนี้ อ่านว่า 'บูวิเย เด ฟลองเดรอะ' ต้นกำเนิดอยู่ที่พรมแดนระหว่างฝรั่งเศส กับเบลเยี่ยม บริเวณที่ราบฟลองเดรอะสุนัขเฝ้าฝูงวัวควาย ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ในแถบยุโรปตะวันตก ปัจจุบันบูวิเยถูกใช้เป็นสุนัขนำทาง เฝ้ายามและตามรอย



ลักษณะทั่วไป

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะ เป็นสุนัขขนาดใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งสามารถสูงได้ถึง 27 นิ้ว และหนักมากได้ถึง 43 กิโลกรัม ศรีษะที่ใหญ่ของบูวิเย ที่น่าหลงใหลจากเคราที่มีเอกลักษณ์ หนวดและคิ้วที่ดก หูทรงสามเหลี่ยมตั้งสูงอาจปล่อยตามธรรมชาติหรือว่าจัดแต่ง หางมักโดนตัด หลังสั้นและขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

          ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ขนชั้นนอกยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีหนวด เครายาว คิ้วหนา มีขนชั้นนอกที่หยาบและดก ขนชั้นล่างที่หนา เพื่อช่วยป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศที่รุนแรง บูวิเยมีหลายสีทั้ง สีดำ เทาอมเหลือง ลาย เทาและ สีเกลือและพริกไท บางตัวอาจจะมีลายที่อกสีขาว มีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 10 ถึง 12 ปี

ลักษณะนิสัย:

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะเป็นหมาใหญ่ที่รักสงบ ว่านอนสอนง่ายเป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ อ่อนไหว และตื่นตัวสูงและมีนิสัยที่น่าพอใจและเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวที่ดี บูวิเยสามารถเข้าได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่นที่ได้เลี้ยงมาด้วยกัน แต่หากไม่ บางตัวอาจจะก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้ บูวิเยมีความจงรักภักดีต่อครอบครัว และเป็นสุนัขเฝ้าระวังที่ดี มีความสุขที่ได้นอนอยู่รอบ ๆ บ้านและต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เขาใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองหรือบ้านนอก

การดูแล

          ควรทำความสะอาดขนเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรทำการตัดแต่งขนโดยช่างมืออาชีพปีละ 2- 3 ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแปรงขนส่วนเกินที่หู และระหว่างเท้า บูวิเยมีการผลัดขนปานกลางแต่การแปรงขนเป็นประจำจะช่วยตรวจสอบการผลัดขนของเขาด้วย

          ควรให้อาหารมื้อเล็ก 2 มื้อมากกว่าการให้อาหารเพียงมื้อใหญ่มื้อเดียว สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการพักผ่อนประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงภายหลังอาหารเพื่อลดอาการท้องอืด

          เจ้า บูวิเย นั้นต้องการการออกกำลังกายสูง แต่ไม่ควรให้วิ่งนานเกินไปเพราะเจ้า บูวิเย นั้นมีโครงสร้างที่ใหญ่และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับสะโพกในยามแก่ได้ พื้นที่ที่จะให้ เจ้า บูวิเย อยู่นั้นควรกว้างพอสมควร
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าหมายักษ์ ก็คืออาการของโรคที่เกี่ยว สะโพก ไขข้อ ที่อาจเกิดการอักเสบ และโรคเกี่ยวกับดวงตา


447
สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres

          สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres สุนัขชื่อยาวตัวนี้ อ่านว่า 'บูวิเย เด ฟลองเดรอะ' ต้นกำเนิดอยู่ที่พรมแดนระหว่างฝรั่งเศส กับเบลเยี่ยม บริเวณที่ราบฟลองเดรอะสุนัขเฝ้าฝูงวัวควาย ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ในแถบยุโรปตะวันตก ปัจจุบันบูวิเยถูกใช้เป็นสุนัขนำทาง เฝ้ายามและตามรอย



ลักษณะทั่วไป

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะ เป็นสุนัขขนาดใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งสามารถสูงได้ถึง 27 นิ้ว และหนักมากได้ถึง 43 กิโลกรัม ศรีษะที่ใหญ่ของบูวิเย ที่น่าหลงใหลจากเคราที่มีเอกลักษณ์ หนวดและคิ้วที่ดก หูทรงสามเหลี่ยมตั้งสูงอาจปล่อยตามธรรมชาติหรือว่าจัดแต่ง หางมักโดนตัด หลังสั้นและขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

          ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ขนชั้นนอกยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีหนวด เครายาว คิ้วหนา มีขนชั้นนอกที่หยาบและดก ขนชั้นล่างที่หนา เพื่อช่วยป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศที่รุนแรง บูวิเยมีหลายสีทั้ง สีดำ เทาอมเหลือง ลาย เทาและ สีเกลือและพริกไท บางตัวอาจจะมีลายที่อกสีขาว มีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 10 ถึง 12 ปี

ลักษณะนิสัย:

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะเป็นหมาใหญ่ที่รักสงบ ว่านอนสอนง่ายเป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ อ่อนไหว และตื่นตัวสูงและมีนิสัยที่น่าพอใจและเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวที่ดี บูวิเยสามารถเข้าได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่นที่ได้เลี้ยงมาด้วยกัน แต่หากไม่ บางตัวอาจจะก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้ บูวิเยมีความจงรักภักดีต่อครอบครัว และเป็นสุนัขเฝ้าระวังที่ดี มีความสุขที่ได้นอนอยู่รอบ ๆ บ้านและต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เขาใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองหรือบ้านนอก

การดูแล

          ควรทำความสะอาดขนเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรทำการตัดแต่งขนโดยช่างมืออาชีพปีละ 2- 3 ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแปรงขนส่วนเกินที่หู และระหว่างเท้า บูวิเยมีการผลัดขนปานกลางแต่การแปรงขนเป็นประจำจะช่วยตรวจสอบการผลัดขนของเขาด้วย

          ควรให้อาหารมื้อเล็ก 2 มื้อมากกว่าการให้อาหารเพียงมื้อใหญ่มื้อเดียว สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการพักผ่อนประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงภายหลังอาหารเพื่อลดอาการท้องอืด

          เจ้า บูวิเย นั้นต้องการการออกกำลังกายสูง แต่ไม่ควรให้วิ่งนานเกินไปเพราะเจ้า บูวิเย นั้นมีโครงสร้างที่ใหญ่และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับสะโพกในยามแก่ได้ พื้นที่ที่จะให้ เจ้า บูวิเย อยู่นั้นควรกว้างพอสมควร
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าหมายักษ์ ก็คืออาการของโรคที่เกี่ยว สะโพก ไขข้อ ที่อาจเกิดการอักเสบ และโรคเกี่ยวกับดวงตา


448
สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres

          สุนัขพันธุ์ Bouvier Des Flandres สุนัขชื่อยาวตัวนี้ อ่านว่า 'บูวิเย เด ฟลองเดรอะ' ต้นกำเนิดอยู่ที่พรมแดนระหว่างฝรั่งเศส กับเบลเยี่ยม บริเวณที่ราบฟลองเดรอะสุนัขเฝ้าฝูงวัวควาย ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ในแถบยุโรปตะวันตก ปัจจุบันบูวิเยถูกใช้เป็นสุนัขนำทาง เฝ้ายามและตามรอย



ลักษณะทั่วไป

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะ เป็นสุนัขขนาดใหญ่และน่าประทับใจ ซึ่งสามารถสูงได้ถึง 27 นิ้ว และหนักมากได้ถึง 43 กิโลกรัม ศรีษะที่ใหญ่ของบูวิเย ที่น่าหลงใหลจากเคราที่มีเอกลักษณ์ หนวดและคิ้วที่ดก หูทรงสามเหลี่ยมตั้งสูงอาจปล่อยตามธรรมชาติหรือว่าจัดแต่ง หางมักโดนตัด หลังสั้นและขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ

          ขนมีสองชั้น ขนชั้นในหนานุ่ม ขนชั้นนอกแข็ง ขนชั้นนอกยาวประมาณ 2.5 นิ้ว มีหนวด เครายาว คิ้วหนา มีขนชั้นนอกที่หยาบและดก ขนชั้นล่างที่หนา เพื่อช่วยป้องกันร่างกายจากสภาพอากาศที่รุนแรง บูวิเยมีหลายสีทั้ง สีดำ เทาอมเหลือง ลาย เทาและ สีเกลือและพริกไท บางตัวอาจจะมีลายที่อกสีขาว มีอายุขัยเฉลี่ยระหว่าง 10 ถึง 12 ปี

ลักษณะนิสัย:

          บูวิเย เด ฟลองเดรอะเป็นหมาใหญ่ที่รักสงบ ว่านอนสอนง่ายเป็นสุนัขที่ฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ อ่อนไหว และตื่นตัวสูงและมีนิสัยที่น่าพอใจและเป็นสุนัขสำหรับครอบครัวที่ดี บูวิเยสามารถเข้าได้ดีกับสัตว์ชนิดอื่นที่ได้เลี้ยงมาด้วยกัน แต่หากไม่ บางตัวอาจจะก้าวร้าวต่อสุนัขตัวอื่นได้ บูวิเยมีความจงรักภักดีต่อครอบครัว และเป็นสุนัขเฝ้าระวังที่ดี มีความสุขที่ได้นอนอยู่รอบ ๆ บ้านและต้องออกกำลังกายเป็นประจำ เขาใช้ชีวิตสบาย ๆ ในเมืองหรือบ้านนอก

การดูแล

          ควรทำความสะอาดขนเป็นประจำทุกสัปดาห์และควรทำการตัดแต่งขนโดยช่างมืออาชีพปีละ 2- 3 ครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อแปรงขนส่วนเกินที่หู และระหว่างเท้า บูวิเยมีการผลัดขนปานกลางแต่การแปรงขนเป็นประจำจะช่วยตรวจสอบการผลัดขนของเขาด้วย

          ควรให้อาหารมื้อเล็ก 2 มื้อมากกว่าการให้อาหารเพียงมื้อใหญ่มื้อเดียว สุนัขพันธุ์นี้ควรได้รับการพักผ่อนประมาณ 1 ถึง 2 ชั่วโมงภายหลังอาหารเพื่อลดอาการท้องอืด

          เจ้า บูวิเย นั้นต้องการการออกกำลังกายสูง แต่ไม่ควรให้วิ่งนานเกินไปเพราะเจ้า บูวิเย นั้นมีโครงสร้างที่ใหญ่และอาจนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับสะโพกในยามแก่ได้ พื้นที่ที่จะให้ เจ้า บูวิเย อยู่นั้นควรกว้างพอสมควร
สิ่งที่ต้องระวังเกี่ยวกับสุขภาพของเจ้าหมายักษ์ ก็คืออาการของโรคที่เกี่ยว สะโพก ไขข้อ ที่อาจเกิดการอักเสบ และโรคเกี่ยวกับดวงตา


449
วิธีรับมือกับกับสุนัขชอบหอน

          ถ้าเลี้ยงหมา สิ่งที่ต้องได้พบก็จะมีหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นความซุกซน เรื่องของขน เรื่องเห็บหมัด และที่หนีไม่พ้นก็คือถ้าเลี้ยงหมาก็จะเจอเกี่ยวกับการเห่าหอน



          เรื่องมีอยู่ว่าถ้าน้องหมาที่เราเลี้ยงไว้นั้นเกิดเป็นนักร้องเสียงทองอยู่เป็นประจำ นั่นก็อาจจะเป็นปวดใจให้กับเพื่อนบ้านก็ได้ ซึ่งก็รวมถึงเหล่าคนที่สผ่านไปมาหรือเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นอยู่ใกล้ ๆ บ้านคุณ 

          ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ในการลดการหอนของสุนัขก็คือ การใช้ใจ จัดการกับสถานการณ์  โดยใจที่ว่านั้นก็คือการทำความเข้าใจว่าทำไมน้องหมาถึงหอน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้น้องหมาหอนก็จะมีดังนี้

สาเหตุที่ทำให้สุนัขเห่าหอน

1. ความเหงา สุนัขที่ถูกปล่อยให้อยู่บ้านตัวเดียวนาน ๆ  ชอบที่จะหอนเพราะเขารู้สึกกลัว

2. พฤติกรรมการสอนจากคนเลี้ยง น้องหมานั้นอาจเห่าหอนเพราะตัวคนเลี้ยงโดยไม่รู้ตัว เช่น เมื่อเขาหอนคุณก็ให้ขนมกับเขา ทำบ่อย ๆ ครั้งน้องหมาก็จะติดเป็นนิสัย หรือเมื่อสุนัขหอนแล้ว คุณปล่อยให้เขาออกไปวิ่ง เขาก็จะทำแบบเดิมอีกเมื่ออยากได้อะไร



3. เกิดจากมีพลังที่ล้นเหลือเพราะไม่ได้ออกกำลัง  การที่สุนัขไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้น้องหมามีพลังงานเหลือเฟือ และเลือกที่จะเผาพลังงานไปกับการส่งเสียงหอน แต่ถ้าน้องหมาได้รับการออกกำลังกายบ่อย เขาก็จะหลับมากกว่าหอน เอาง่าย ๆ ก็คือ เมื่อได้ออกกำลังกายก็จะหมดแรงและนอนไวนั่นเอง

แล้วเราจะจัดการกับน้องหมาชอบหอนได้ยังไง

1. พาเขาออกไปเดินเล่นอย่างน้อย ๆ 20 นาทีต่อเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นการออกกำลังด้วย

2. พาเขาไปสวนสาธารณะเป็นประจำ อย่างน้อย ๆ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้เขารู้จักการเข้าสังคม

3. เมื่อน้องหมาหอน คุณต้องทำให้เขาหยุดด้วยการดึงความสนใจของเขา เช่น การนำของที่เขาชอบมาหลอกล่อ หรือนำของเล่นที่ส่งเสียงได้มาเขย่า และเมื่อสุนัขหยุดหอนก็มอบขนมเป็นรางวัล ให้เขารู้ว่าการไม่หอนถือเป็นสิ่งที่ควรทำ

4. สอนเรื่องคำสั่ง ”เงียบ” ทุกครั้งที่น้องหมาหอน ต้องออกคำสั่งว่า “เงียบ” หรือ “อย่าหอน” ลองถือขนมไว้ตรงจมูกของเขา ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่จะหยุดหอนทันที นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถดมกลิ่นขนมกับหอนไปพร้อม ๆ กันได้ในคราวเดียวกันนั่นเอง ให้ของรางวัลเมื่อเขาหยุดหอนทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ยืดเวลาในการให้ขนมกับเขาให้นานขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละครั้ง หรือคุณอาจจะดัดแปลงสอนให้เขาหอนยามที่จำเป็นจริง ๆ ก็ได้ เพราะสุนัขที่เงียบอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก หอนได้แต่ต้องพอเหมาะพอควร


450
วิธีรับมือกับกับสุนัขชอบหอน

          ถ้าเลี้ยงหมา สิ่งที่ต้องได้พบก็จะมีหลายเรื่องไม่ว่าจะเป็นความซุกซน เรื่องของขน เรื่องเห็บหมัด และที่หนีไม่พ้นก็คือถ้าเลี้ยงหมาก็จะเจอเกี่ยวกับการเห่าหอน



          เรื่องมีอยู่ว่าถ้าน้องหมาที่เราเลี้ยงไว้นั้นเกิดเป็นนักร้องเสียงทองอยู่เป็นประจำ นั่นก็อาจจะเป็นปวดใจให้กับเพื่อนบ้านก็ได้ ซึ่งก็รวมถึงเหล่าคนที่สผ่านไปมาหรือเด็ก ๆ ที่ชอบเล่นอยู่ใกล้ ๆ บ้านคุณ 

          ซึ่งวิธีการง่าย ๆ ในการลดการหอนของสุนัขก็คือ การใช้ใจ จัดการกับสถานการณ์  โดยใจที่ว่านั้นก็คือการทำความเข้าใจว่าทำไมน้องหมาถึงหอน ซึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้น้องหมาหอนก็จะมีดังนี้

สาเหตุที่ทำให้สุนัขเห่าหอน

1. ความเหงา สุนัขที่ถูกปล่อยให้อยู่บ้านตัวเดียวนาน ๆ  ชอบที่จะหอนเพราะเขารู้สึกกลัว

2. พฤติกรรมการสอนจากคนเลี้ยง น้องหมานั้นอาจเห่าหอนเพราะตัวคนเลี้ยงโดยไม่รู้ตัว เช่น เมื่อเขาหอนคุณก็ให้ขนมกับเขา ทำบ่อย ๆ ครั้งน้องหมาก็จะติดเป็นนิสัย หรือเมื่อสุนัขหอนแล้ว คุณปล่อยให้เขาออกไปวิ่ง เขาก็จะทำแบบเดิมอีกเมื่ออยากได้อะไร



3. เกิดจากมีพลังที่ล้นเหลือเพราะไม่ได้ออกกำลัง  การที่สุนัขไม่ได้ออกกำลังกาย ทำให้น้องหมามีพลังงานเหลือเฟือ และเลือกที่จะเผาพลังงานไปกับการส่งเสียงหอน แต่ถ้าน้องหมาได้รับการออกกำลังกายบ่อย เขาก็จะหลับมากกว่าหอน เอาง่าย ๆ ก็คือ เมื่อได้ออกกำลังกายก็จะหมดแรงและนอนไวนั่นเอง

แล้วเราจะจัดการกับน้องหมาชอบหอนได้ยังไง

1. พาเขาออกไปเดินเล่นอย่างน้อย ๆ 20 นาทีต่อเพื่อให้รู้สึกผ่อนคลายและเป็นการออกกำลังด้วย

2. พาเขาไปสวนสาธารณะเป็นประจำ อย่างน้อย ๆ สัปดาห์ละครั้ง เพื่อให้เขารู้จักการเข้าสังคม

3. เมื่อน้องหมาหอน คุณต้องทำให้เขาหยุดด้วยการดึงความสนใจของเขา เช่น การนำของที่เขาชอบมาหลอกล่อ หรือนำของเล่นที่ส่งเสียงได้มาเขย่า และเมื่อสุนัขหยุดหอนก็มอบขนมเป็นรางวัล ให้เขารู้ว่าการไม่หอนถือเป็นสิ่งที่ควรทำ

4. สอนเรื่องคำสั่ง ”เงียบ” ทุกครั้งที่น้องหมาหอน ต้องออกคำสั่งว่า “เงียบ” หรือ “อย่าหอน” ลองถือขนมไว้ตรงจมูกของเขา ซึ่งสุนัขส่วนใหญ่จะหยุดหอนทันที นั่นก็เพราะว่าพวกเขาไม่สามารถดมกลิ่นขนมกับหอนไปพร้อม ๆ กันได้ในคราวเดียวกันนั่นเอง ให้ของรางวัลเมื่อเขาหยุดหอนทำซ้ำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ยืดเวลาในการให้ขนมกับเขาให้นานขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละครั้ง หรือคุณอาจจะดัดแปลงสอนให้เขาหอนยามที่จำเป็นจริง ๆ ก็ได้ เพราะสุนัขที่เงียบอยู่ตลอดเวลาก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก หอนได้แต่ต้องพอเหมาะพอควร