สุนัขสายพันธุ์ครอมฟอร์เลนเดอร์ (Kromfohrlander) โลกของสุนัขนั้นมี สุนัขมากมายหลายสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง โดยสำหรับสุนัขในกลุ่มเทอร์เรียเเล้วชื่อของ ครอมฟอร์เลนเดอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง เเม้ว่าขนาดของตัวมันจะเล็กก็ตาม เเต่ก็มีอะไรอีกหลายอย่างที่สามารถทดเเทนกันได้ ทั้งการเป็นสุนัขที่เอาไว้ใช้สำหรับเฝ้ายามหรือจะเลี้ยงเป็นเพื่อนก็นับว่าสามารถทำได้ทั้งหมด
Kromfohrlander นั้นเป็นสุนัขพันธุ์ขนาดเล็กที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยเป็นสุนัขที่น่ารักและมีเสน่ห์ แบ่งออกเป็นพันธุ์ขนตรง และพันธ์ขนหยิกซึ่งจะพบได้บ่อยกว่าเนื่องจากมีผู้นิยมเลี้ยงมากกว่า สีขนจะต้องเป็นสีขาวและสีน้ำตาลอมเหลือง ซึ่งอาจจะเป็นสีอ่อนไปจนถึงเข้ม บริเวณหัวและหลังมักจะเป็นสีน้ำตาลอมเหลือง ซึ่งแถบขนสีที่บริเวณหลังมีลักษณะคล้ายอานม้า
ตามประวัติของ
ครอมฟอร์เลนเดอร์ กล่าวกันว่า ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นกองทัพสัมพันธมิตร ซึ่งนำโดยสหรัฐอเมริกาได้เข้ายึดเมืองซิกเกน ในเวสต์ฟาเลีย ประเทศเยอรมนี เมื่อทหารอเมริกันถอนทัพกลับได้นำสุนัขเชื้อสายกริฟฟองสีน้ำตาลอมเหลืองมอบให้เเก่ชาวเมืองคนหนึ่งที่มีชื่อว่า
เฟรา ชไลเฟนบอม ต่อมาเขาได้นำลูกสุนัขตัวนั้นไปผสมกับสุนัขเทอร์เรียร์ และได้ลูกสุนัขซึ่งเป็นต้นกำเนิดของสุนัขพันธุ์นี้เกิดขึ้นมาในที่สุด โดยที่สมาคมผู้เลี้ยงสุนัขได้จดทะเบียนให้สนุขพันธุ์นี้ในปี ค.ศ.1953 ที่ผ่านมา ซึ่งความสามารถของสุนัขเหล่านี้ก็มีทั้งการเป็นสุนัขสำหรับการเฝ้ายาม หรือเป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
Kromfohrlander นั้นมีความสูงประมาณ 38-46 เซนติเมตร สำหรับตัวผู้ ส่วนตัวเมียจะอยู่ที่ 38-46 เซนติเมตร โดยมีน้ำหนักประมาณ 11-16 กิโลกรัม สำหรับตัวผู้ เเล้ว 9-14 กิโลกรัม สำหรับตัวเมีย โดยที่พันธุ์ขนตรงนั้นจะมีลักษณะช่วงปากเรียวเล็กลงตรงปลาย โคนใบหูอยู่สูง เเละมีขนยาวปานกลาง โดยมีลักษณะสีขนที่สมมาตรกันจะได้รับความนิยมมากกว่า ส่วนทางด้านของพันธุ์ขนหยิก นั้นก็จะมีหัวรูปทรงคล้ายลิ่ม ตารูปไข่สีดำ อกมีขนาดเล็ก เเละมีขาหน้าตรงและแข็งแรง ส่วนขาหลังก็แข็งแรงเช่นเดียวกัน โดยมีสีขนทั้งสีน้ำตาลและสีขาว, สีขาวและสีแทน โดยที่ลักษณะนิสัยของพวกมันนั้นจะมีความอ่อนโยน เเละมีความระแวดระวังสูง
ครอมฟอร์เลนเดอร์ นั้นเป็นที่นิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างดีในประเทศเยอรมนี เเต่สำหรับประเทศไทยเเล้วพวกมันเเทบจะไม่เป็นที่รู้จักเลยเเม้เเต่น้อย เเละไม่มีการเลี้ยงในประเทศไทย นับว่าเป็นอีกหนึ่งสุนัขพันธุ์เล็กที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว