สุนัขสายพันธุ์ ไค ด็อก (Kai Dog) สุนัขล่าสัตว์ นั้นมีมากมายหลายประเภทด้วยกัน โดยสำหรับสุนัขสายพันธุ์อย่าง ไค ด็อก นั้นก็นับว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว เเม้ว่ามันจะไม่ค่อยได้รับความนิยมในการเลี้ยงก็ตามที เเละเป็นอีกหนึ่งในสุนัขพื้นถิ่นของเอเซียที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดีในวงกว้าง
Kai Dog นั้นมีชื่ออีกอย่างว่า โตรา ด็อก โดยเป็นสุนัขที่มีพละกำลังมาก ดุร้ายแต่ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของและมีขาที่แข็งแรงเหมาะสำหรับใช้ล่าสัตว์ในแถบที่เป็นภูเขา มีสีขนที่ขึ้นแซมกันหลายแบบ ถ้าหากมีขนสีแดงเด่นเรียกว่า อากะโตรา ถ้ามีสีแดงปานกลางเรียกว่าซูโตรา และถ้ามีแถบขนสีดำแซมมากเรียกว่า คูโรโตรา
ไค ด็อก นั้นมีถิ่นกำเนิดในตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันคือเขตยามานาชิ โดยมีบันทึกครั้งเเรกในช่วงศตวรรษที่ 17 ซึ่งในช่วงเเรกนั้นมันถูกนำมาใช้งานในการล่าหมีเเละกวางเป็นหลัก ก่อนที่จะได้มีการนำเข้ามาในสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1951 แต่ก็ไม่ได้รับความนิยมจวบจนปัจจุบัน ส่วนในญี่ปุ่นนั้นยังคงมีการเลี้ยงเอาไว้อย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เเต่ไม่ได้เเพร่หลายมากมายเหมือนกันสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ของญี่ปุ่น เพราะหน้าตาของพวกมันไม่ได้น่ารักซักเท่าใดนัก เเต่ก็ยังมีการเลี้ยงในเเบบอนุรักษ์เอาไว้เป็นจำนวนมากพอสมควรเลยทีเดียว
โดยที่
Kai Dog นั้นตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 50-56 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียนั้นจะมีความสูงประมาณ 49-51 เซนติเมตร โดยมีน้ำหนักเฉลี่ยอยู่ที่ 16-18 กิโลกรัม โดยที่มีใบหูรูปสามเหลี่ยมชี้ไปข้างหน้าเล็กน้อย ใบหูใหญ่กว่าสุนัข ขนาดกลางของญี่ปุ่น ลำคอใหญ่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง หางตั้งสูงและม้วนกลับไปบนหลัง ช่วงอกลึกและมีกล้ามเนื้อมาก ขาหน้าตรงและมีกล้ามเนื้อแข็งแรง นิ้วเท้าโค้งและแนบชิดกัน ส่วนตาเล็กสีน้ำตาลเข้ม ขนชั้นนอกตรงและหยาบ ขนชั้นในนุ่มและหนา เเละลูกสุนัขแรกเกิดจะมีขนสีดำตลอดตัว มีสีขนหลากสีเมื่อถึงวัยเจริญพันธุ์ มีลักษณะนิสัยที่มุ่งมั่นเเละรักอิสระเป็นอย่างยิ่ง ถือว่าเป็นสุนัขที่เหมาะสำหรับการเลี้ยงเพื่อการอนุรักษ์เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากว่ามันยังคงมีความเป็นสุนัขนักล่าสูง จึงทำให้เป็นเหตุผลสำคัญที่ไม่ได้เลี้ยงกันตามบ้านเรือนปกติเหมือนกับสายพันธุ์อื่นๆ
ไค ด็อก นั้นมีความนิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมากในญี่ปุ่นเท่านั้น ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเเต่อย่างใด รวมทั้งในประเทศไทยก็ไม่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเเต่อย่างใด เพราะด้วยหลายๆ ปัจจัยที่ทำให้มันไม่ได้รับความนิยมมากนักนอกประเทศญี่ปุ่น