สุนัขสายพันธ์กรองด์ กริฟฟอง วองดีน (Grand Griffon Vendeen)

          สุนัขอีกหนึ่งสายพันธ์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขสำหรับการล่าสัตว์ที่เก่าเเก่อีกพันธุ์ก็คือ กรองด์ กริฟฟอง วองดีน ที่มีลักษณะที่สมส่วนเเละสวยงามเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังมีความสามารถสูงเป็นอย่างมาก เเม้ว่าจะไม่ค่อยพบเจอพวกมันในประเทศไทยมากนัก เเต่ก็นับว่าเป็นสุนัขก็สายพันธุ์ที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง



          Grand Griffon Vendeen นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า วองดีน กริฟฟอง พันธุ์ใหญ่ โดยพวกมันปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดีมาก ไม่ว่าบนดินหรือในน้ำ หัวยาว จมูกใหญ่ ขนชั้นนอกหยิกและหยาบคลุมขนชั้นในซึ่งหนาแน่น เหนือปากมีขนยาวคล้ายหนวด ขนสีพื้นอาจเป็นสีขาวหรือสีเหลืองอ่อนและมีขนสีอื่นแซม โดยเป็นสุนัขที่ใช้งานสำหรับการล่าสัตว์ประเภทหมูป่าโดยเฉพาะ ซึ่งนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสุนัขสำหรับล่าสัตว์ที่มีความเฉพาะตัวสูงเป็นอย่างยิ่ง



          โดย กรองด์ กริฟฟอง วองดีน นั้นถือกำเนิดขึ้นมาในเขตวองดีนของประเทศฝรั่งเศส ประมาณช่วงศตวรรษที่ 14 โดยมันสืบเชื้อสายจากสุนัขพันธุ์เซนต์ฮิวเบิร์ต ฮาวนด์ เเละสุนัขพันธุ์แบรกโก อิตาเลียโน รวมทั้งสุนัขพันธุ์กริฟฟอง นิแวร์เน อีกด้วย ทำให้มันกลายมาเป็นอีกหนึ่งในสุนัขนักล่าที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยที่มันมักจะตื่นเต้นเกินไปเมื่อจะเริ่มออกล่าสัตว์ ทำให้เสียกำลังและเหนื่อยก่อนได้พบเหยื่อ จึงเหมาะสำหรับใช้ล่าสัตว์ในบางโอกาสเท่านั้น

          Grand Griffon Vendeen นั้นมักจะมีส่วนสูงประมาณ 60-66 เซนติเมตร ส่วนน้ำหนักส่วนใหญ่เเล้วจะอยู่ที่ 30-35 กิโลกรัม โดยมันมีตาใหญ่สีดำ ส่วนจมูกนั้นก็มีขนาดใหญ่สีดำและมีขนยาวคล้ายหนวด ส่วนทางด้านของใบหูนั้นมีลักษณะยาว เป็นรูปไข่  โดยที่บริเวณหลังของมันจะมีลักษณะตรงเเละมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง  ทางด้านของหางจะยาวโค้งคล้ายกับดาบ  ช่วงอกมีความแข็งแรง  เเละขาหลังมั่นคงแข็งแรง โดยที่มีขนหยิกและหยาบ ส่วนเท้าก็มีขนปกคลุม โดยที่มีลักษณะนิสัยที่น่ารักเเละเป็นมิตร ซึ่งหาได้ยากในสุนัขล่าสัตว์ ที่มักจะมีความดุร้ายเหมือนกับสุนัขป่า จึงไม่น่าแปลกใจที่พวกมันจะได้รับความนิยมเลี้ยงกันมาในฟาร์มต่างๆ ของฝรั่งเศส

          กรองด์ กริฟฟอง วองดีน นั้นไม่เป็นที่นิยมเลี้ยงนอกฝรั่งเศสเท่าใดนัก เเละมีการเลี้ยงกันในวงเเคบเพื่อการใช้งานเฉพาะทาง ทำให้พบเจอพวกมันยากเป็นอย่างยิ่ง เเละมีราคาที่ค่อนข้างสูงเป็นอย่างมากหากจะนำเข้ามาเลี้ยงในประเทศไทย ฉะนั้นเเล้วจึงยากที่จะมีโอกาสในการพบเจอพวกมันในประเทศไทย