สุนัขสายพันธุ์ ชินุก (Chinook)

          สำหรับสุนัขหลากหลายสายพันธุ์นั้นมีความน่าสนใจเเละเเตกต่างกันออกไปในเเต่ละสายพันธุ์ โดยหนึ่งในสุนัขที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คงจะหนีไม่พ้นสายพันธุ์อย่าง ชินุก ที่มีความโดดเด่นเเต่บางคนอาจจะว่ามันดูธรรมดาไปก็ตาม ซึ่งก็ได้รับความสนใจเเต่กลับสวนทางกับจำนวนของพวกมันที่มีน้อยลงเป็นอย่างมากในปัจจุบัน จนถึงเข้าขันจวนเจียนจะสูญพันธุ์อยู่เเล้ว



          Chinook นั้นเป็นสุนัขที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง โดยมีขนสีน้ำตาลอมเหลืองเป็นลักษณะเด่น เมื่อมองด้านข้างจะเห็นโครงสร้างรูปทรงสี่เหลี่ยมซึ่งแข็งแกร่งและมีพละกำลังมาก มีขนหนา 2 ชั้น ซึ่งจะบางลงในฤดูร้อน ถือว่าเป็นสุนัขที่มีความเฉพาะเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว และทำให้มันเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจอยู่ในวงการของผู้ที่เลี้ยงสุนัขเป็นอย่างยิ่ง

          ชินุก นั้นกำเนิดในช่วงศตวรรษที่ 19  ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาร์เธอร์ วอลเดน เป็นผู้พัฒนาสุนัขพันธุ์นี้เพื่อใช้ลากเลื่อนบนหิมะ โดยเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์เอสกิโม กับ พันธุ์เซนต์เบอร์นาร์ด ขนเรียบ และพันธุ์เบลเจียน เชพ โดยในช่วงเวลาเเรกของพวกมันนั้นใช้สำหรับการลากเลื่อนเป็นหลัก เเละได้รับความนิยมอยู่พอสมควรเลยทีเดียว เเต่หลังจากเวลานั้นพวกมันก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าใดนัก เพราะเนื่องจากการเจริญที่มีเข้ามามากขึ้น ทำให้ในปัจจุบันนั้นพวกมันมีจำนวนเหลืออยู่ไม่ถึง 200 ตัวเเล้ว จึงทำให้เป็นสุนัขที่ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้เป็นอย่างดี



          ลักษณะของ Chinook นั้นคือเป็นสุนัขที่มีน้ำหนัก 25-41 กิโลกรัมสำหรับตัวผู้ ส่วนตัวเมียนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 25-41 กิโลกรัม ส่วนความสูงนั้นมีความสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 53-66 เซนติเมตร โดยมีใบหูห้อยลงมาจะได้รับความนิยมกว่า ช่วงอกลึกและแข็งแรง ส่วนท้ายของลำตัวมีกล้ามเนื้อแน่น เเละอุ้งเท้าหนามาก โดยทางด้านของสีขนนั้นมีหลายสีด้วยกันทั้ง สีขาว, สีฟอน, สีดำและน้ำตาลแทน โดยมีลักษณะนิสัยที่น่าสนใจทั้งการตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา เเละมีความสง่างามเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งแสนรู้เป็นอย่างยิ่ง เเละเป็นมิตร พร้อมกับสงบอีกด้วย ซึ่งโดยรวมหน้าตาของพวกมันอาจจะไม่มีอะไรโดดเด่นและเหมือนกับสุนัขธรรมดา แต่ก็กลายเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับความสนใจในประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างยิ่ง

          เนื่องจาก ชินุก เป็นสุนัขที่ได้รับการอนุรักษ์ จึงทำให้มันได้รับความนิยมในการเลี้ยงอยู่เเต่ในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เเละในปัจจุบันกำลังมีการขยายสายพันธุ์ออก ทำให้ไม่มีประเทศอื่นๆ ที่เลี้ยงพวกมันเอาไว้รวมทั้งประเทศไทย