สุนัขสายพันธุ์ บาสเซต อาร์เตเชียง นอร์มัง (Basset Artesian Normand)

          โดยสุนัขสำหรับการล่าสัตว์นั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจ เเต่สำหรับสุนัขที่มีขนาดตัวสั้นเเละเตี้ยนั้นถือว่ามีไม่กี่สายพันธุ์ที่จะถูนำมาใช้ในการล่าสัตว์ เเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง บาสเซต อาร์เตเชียง นอร์มัง ที่มีความน่าสนใจเเละมีความเเข็งเเรงเป็นอย่างยิ่ง จนได้รับการยอมรับว่าพวกมันนั้นสามารถออกล่าสัตว์ได้เป็นอย่างดี



          โดยที่ Basset Artesian Normand นั้นมีอีกชื่อเรียกกันว่า อาร์เตเชียง นอร์มัง บาสเซต ซึ่งเป็นสุนัขที่มีความโดดเด่นในเรื่องของร่างกายเป็นอย่างมาก โดยที่ลักษณะภายนอกคล้ายสุนัขพันธุ์บาสเซต ฮาวนด์ เป็นอย่างยิ่ง แต่มีขนาดเล็กกว่ามีขนสามสี โดยมีขนสีดำเป็นลักษณะเด่น ขนสีขาวจะเด่นชัดเฉพาะที่ปลายเท้า ซึ่งเเน่นอนว่ามันทำให้เกิดความเข้าใจในหลายๆ ครั้งที่คนพบเห็นสุนัขพันธุ์ดังกล่าว

          โดยที่ บาสเซต อาร์เตเชียง นอร์มัง นั้นถือกำเนิดมาตั้งเเต่ศตวรรษที่ 16 เเล้ว ในดินเเดนอย่างประเทศฝรั่งเศส โดยที่มันเกิดมาจากการผสมระหว่างสุนัขจากเมืองอาตัวและนอร์มังดี จนได้ออกมาเป็นสายพันธุ์ดังกล่าวเเละพวกมันก็ได้รับการใช้งานในการเป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีความคล่องเเคล่วอย่างน่าสนใจเลยทีเดียว ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็ยังมีการใช้งานพวกมันอยู่ เเต่ในปริมาณที่น้อยเป็นอย่างยิ่ง เเละมีการนำพวกมันมาเลี้ยงเอาไว้เป็นสุนัขบ้านบ้างเเล้วทำให้เป็นอีกหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์นักล่าที่เเปรเปลี่ยนมาเป็นสุนัขบ้าน




          สำหรับ Basset Artesian Normand นั้นพวกมันมีความสูงเพียงเเค่ 25-36 เซนติเมตรเท่านั้นโดยเฉลี่ย ส่วนทางด้านของน้ำหนักนั้นก็หนักเฉลี่ยประมาณ 15 กิโลกรัมเท่านั้นเอง โดยที่มีจมูกกว้างสีดำ   โคนใบหูอยู่ระดับต่ำกว่าตา ส่วนทางด้านของขาหน้าสั้นและมีกระดูกที่แข็งแรง เเละพวกมันจะมีขนหยิกบริเวณเหนือข้อต่อของสะโพก โดยเป็นสุนัขที่มีลักษณะนิ่งเเละดูหน้าตอออกจะไร้อารมณ์เป็นอย่างยิ่ง เเต่ลักษณะนิสัยของพวกมันนั้นถือว่าน่าสนใจเพราะเป็นสุนัขที่มีความสุภาพเเละขยันเป็นอย่างยิ่ง

          โดยที่ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ บาสเซต อาร์เตเชียง นอร์มัง นั้นถือว่าจำกัดอยู่เเต่ในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้นเนื่องจากความที่พวกมันมีความละหม้ายกับสุนัขพันธุ์บาสเซต ฮาวนด์ จึงเป็นสามเหตุหลักที่ในปลายๆ ประเทศไม่สนใจนำพวกมันเข้าไปเลี้ยงเเต่อย่างใด รวมทั้งที่ประเทศไทยด้วย จึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าพวกมันถูกเลี้ยงดูอยู่แต่ในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น