แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - K33T

16
สุนัขสายพันธุ์ โทสะอินุ (Tosa Inu)


          สุนัขใช้งานอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากเเละมีชื่อเสียงพอสมควรในเอเชียก็คงหนีไม่พ้นสุนัขสายพันธุ์อย่าง โทสะอินุ ที่มีลักษณะท่าทางที่โดดเด่น สง่างาม เเละเเฝงไว้ด้วยน่ารักเเละเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เเละยังคงได้รับทั้งความสนใจเเละความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน



          Tosa Inu นั้นนับว่าเป็นอีกหนึ่งในสุนัขสายพันธุ์ที่มีความเเข็งเเกร่งเป็นอย่างมาก เเละมีความเป็นนักสู้อยู่ทุกอณูเลยทีเดียว อีกทั้งมันยังเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงมาตั้งเเต่อดีตเเล้วอีกด้วย ถึงเเม้ว่าพวกมันจะมีนิสัยที่ดุดันเเละก้าวร้าวจนในหลายประเทศต้องออกกฎหมายห้ามเลี้ยงสุนัขโทสะอินุกันก็ตาม เเต่มันก็ยังคงได้รับความสนใจในการเลี้ยงอยู่จนถึงทุกวันนี้

          ตามประวัติเเล้วกล่าวกันว่า สุนัขสายพันธุ์อย่าง โทสะอินุ นั้นมีจุดกำเนิดเมื่อช่วงศตวรรษที่ 16 ในดินเเดนที่เป็นแคว้นโทสะ หรือในปัจจุบันนั้นเป็นที่ตั้งของจังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยพวกมันได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นสุนัขนักสู้ โดยว่ากันว่ามีพื้นฐานมาจากการผสมพันธุ์ระหว่างนัขชิโกกุอินุกับสุนัขสายพันธุ์อิงลิช มาสทิฟฟ์ เกรทเดน เยอรมันพอยน์-เตอร์ ทำให้พวกมันนั้นมีนิสัยที่ดุร้ายในช่วงเเรกๆ เเละนำมาใช้สำหรับการต่อสู้เเละเป็นสุนัขอารักขา เเละมีบันทึกเอาไว้ว่าพวกมันถูกนำเข้าใช้ในการสงครามระหว่างเเคว้นหลายต่อหลายครั้งอีกด้วย เเต่เมื่อเข้าสู่สมัยเอโดะเเล้วพวกมันกลายเป็นสุนัขอารักขาเเละลดความดุร้ายลงมาบ้าง เเต่ในปัจจุบันก็ยังมีกฎข้อบังคับในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้อยู่



          ลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ Tosa Inu โดยมีอายุขัยระหว่าง 12–15 ปี มีน้ำหนักเฉลี่ยทั้งตัวผู้เเละตัวเมียที่ 90-100 กิโลกรัม ส่วนความสูงเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 55-65 เซนติเมตร โดยมีหัวซึ่งมีขนาดใหญ่ ส่วนใบหน้านั้นย่น มีใบหูตก ส่วนขนสั้นและหางยาว โดยที่มีของขนนั้นจะมีทั้งสีแดง, สีแอพพริคอต, สีดำ ส่วนทางด้านของลักษณะนิสัยนั้นมีความดุร้ายอยู่ ถึงเเม้จะเชื่อฟังคำสั่งเเต่ก็ไม่ค่อยชื่นชอบการพบปะผู้คนมากนัก ทำให้พวกมันถูกจำกัดในการเลี้ยงเอาไว้อีกด้วย

          ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ โทสะอินุ นั้นมีอยู่อย่างมากในจังหวัดโคจิ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีความนิยมถึงขนาดมีการจัดสร้างเป็นพิพิธภัณฑ์สุนัขโทสะอินุ  กันเลยทีเดียว ส่วนในบริเวณอื่นๆ ของญี่ปุ่นนั้นก็พอมีเลี้ยงกันบ้างเเต่เป็นในวงจำกัดเท่านั้น ส่วนในต่างประเทศเเล้วมีข้อห้ามมากมายเลยทำให้ไม่เป็นที่นิยมในการเลี้ยงกันมากมายเท่าใดนัก ส่วนในประเทศไทยนั้นพวกมันไม่ค่อยเป็นที่รู้จักอะไรมากมายนัก เเละไม่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงเเต่อย่างใด



17
สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน เทอร์เรียร์ (Tibetan Terrier)


          สุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งก็เห็นจะเป็นสุนัขในสายพันธุ์อย่าง ทิเบตัน เทอร์เรียร์  ที่มีความสวยงาม น่ารักเเละเข้าใจผู้เป็นนายเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ เเม้ว่าในประเทศไทยของเราจะไม่ค่อยได้เห็นพวกมันมากนักก็ตาม เเต่ก็เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขที่ทุกคนที่ได้สัมผัสต้องชื่นชอบอย่างเเน่นอน



          Tibetan Terrier นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า โดกี แอปโช เป็นสุนัขขนาดเล็ก ที่มีความสามารถสูงเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นสุนัขที่ได้รับการใช้งานในฟาร์มปศุสัตว์ด้วยการต้อนเเละเฝ้าฝูงสัตว์มาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีตเเล้ว อีกทั้งด้วยลักษณะที่เป็นมิตรเเละน่าตาที่น่ารักของมันก็ทำให้ผู้ได้พบเห็นต่างชื่นชอบเเละประทับใจอีกด้วย จึงไม่น่าเเปลกใจว่ามันจะเปลี่ยนสถานะจากสุนัขที่ถูกใช้งานในฟาร์มให้กลายมาเป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อมนุษย์ในที่สุด

          ทิเบตัน เทอร์เรียร์  นั้นมีจุดกำเนิดประมาณศตวรรษที่ 17 ที่ประเทศทิเบต โดยร่างกายของมันที่มีขนาดเล็กเเต่ก็สามารถไล่ต้อนฝูงสัตว์บนดินเเดนหลังคาของโลกมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เเละมันนั้นก็ไม่ได้เป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์  ขนานเเท้เเต่อย่างใด เเต่กลับมีลักษณะเด่นไปคล้ายคลึงกับสุนัขสายพันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก มากกว่า ถูกนำเข้ามาในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.1930 โดย ดร.เกรก โดยนำเข้ามา 1 คู่ เเละได้มีการขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่สนใจในการนำไปเลี้ยงในสังคมชั้นสูงของอังกฤษอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว



          ลักษณะทางโครงสร้างของ Tibetan Terrier นั้นจะเป็นสุนัขที่มีความสูงประมาณ 36-41 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 8-14 กิโลกรัมเท่านั้น มีใบหูเป็นรูปตัววี เเละมีขนที่บริเวณหูหนาเป็นอย่างยิ่ง โดยมีขนสองชั้นบริเวณช่วงลำตัว เเละมีลักษณะเป็นขนตรง หรือบางตัวก็จะเป็นลอนก็ได้ ส่วนทางด้านของเท้านั้นมีขนาดใหญ่เเละกลมสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสีขนถึง 4 เเบบด้วยกัน ทั้งสีออกเเดง น้ำเงิน สีสลับดำกับส้ม เเละสีส้มทอง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีลักษณะเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยขนจะมีความยาวเเละหน้า เหมาะเเก่การเลี้ยงในอากาศหนาว อีกทั้งขนจะปิดตาอยู่ตอลดเวลาอีกด้วย

          โดย ทิเบตัน เทอร์เรียร์ พอมีเลี้ยงกันบ้างในประเทศไทย เเต่ไม่ค่อยจะนิยมกันมากนัก เนื่องจากมีราคาที่เเพงเเละมีการดูเเลที่ค่อนข้างยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีขนที่หนา เเละอยู่ในอากาศร้อนไม่ค่อยได้ เเต่ถึงอย่างไรตามงานประกวดสุนัขต่างๆ เราก็อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างเป็นบ้างครั้ง



18
สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน เทอร์เรียร์ (Tibetan Terrier)


          สุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งก็เห็นจะเป็นสุนัขในสายพันธุ์อย่าง ทิเบตัน เทอร์เรียร์  ที่มีความสวยงาม น่ารักเเละเข้าใจผู้เป็นนายเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ เเม้ว่าในประเทศไทยของเราจะไม่ค่อยได้เห็นพวกมันมากนักก็ตาม เเต่ก็เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขที่ทุกคนที่ได้สัมผัสต้องชื่นชอบอย่างเเน่นอน



          Tibetan Terrier นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า โดกี แอปโช เป็นสุนัขขนาดเล็ก ที่มีความสามารถสูงเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นสุนัขที่ได้รับการใช้งานในฟาร์มปศุสัตว์ด้วยการต้อนเเละเฝ้าฝูงสัตว์มาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีตเเล้ว อีกทั้งด้วยลักษณะที่เป็นมิตรเเละน่าตาที่น่ารักของมันก็ทำให้ผู้ได้พบเห็นต่างชื่นชอบเเละประทับใจอีกด้วย จึงไม่น่าเเปลกใจว่ามันจะเปลี่ยนสถานะจากสุนัขที่ถูกใช้งานในฟาร์มให้กลายมาเป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อมนุษย์ในที่สุด

          ทิเบตัน เทอร์เรียร์  นั้นมีจุดกำเนิดประมาณศตวรรษที่ 17 ที่ประเทศทิเบต โดยร่างกายของมันที่มีขนาดเล็กเเต่ก็สามารถไล่ต้อนฝูงสัตว์บนดินเเดนหลังคาของโลกมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เเละมันนั้นก็ไม่ได้เป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์  ขนานเเท้เเต่อย่างใด เเต่กลับมีลักษณะเด่นไปคล้ายคลึงกับสุนัขสายพันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก มากกว่า ถูกนำเข้ามาในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.1930 โดย ดร.เกรก โดยนำเข้ามา 1 คู่ เเละได้มีการขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่สนใจในการนำไปเลี้ยงในสังคมชั้นสูงของอังกฤษอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว



          ลักษณะทางโครงสร้างของ Tibetan Terrier นั้นจะเป็นสุนัขที่มีความสูงประมาณ 36-41 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 8-14 กิโลกรัมเท่านั้น มีใบหูเป็นรูปตัววี เเละมีขนที่บริเวณหูหนาเป็นอย่างยิ่ง โดยมีขนสองชั้นบริเวณช่วงลำตัว เเละมีลักษณะเป็นขนตรง หรือบางตัวก็จะเป็นลอนก็ได้ ส่วนทางด้านของเท้านั้นมีขนาดใหญ่เเละกลมสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสีขนถึง 4 เเบบด้วยกัน ทั้งสีออกเเดง น้ำเงิน สีสลับดำกับส้ม เเละสีส้มทอง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีลักษณะเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยขนจะมีความยาวเเละหน้า เหมาะเเก่การเลี้ยงในอากาศหนาว อีกทั้งขนจะปิดตาอยู่ตอลดเวลาอีกด้วย

          โดย ทิเบตัน เทอร์เรียร์ พอมีเลี้ยงกันบ้างในประเทศไทย เเต่ไม่ค่อยจะนิยมกันมากนัก เนื่องจากมีราคาที่เเพงเเละมีการดูเเลที่ค่อนข้างยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีขนที่หนา เเละอยู่ในอากาศร้อนไม่ค่อยได้ เเต่ถึงอย่างไรตามงานประกวดสุนัขต่างๆ เราก็อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างเป็นบ้างครั้ง



19
สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน เทอร์เรียร์ (Tibetan Terrier)


          สุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งก็เห็นจะเป็นสุนัขในสายพันธุ์อย่าง ทิเบตัน เทอร์เรียร์  ที่มีความสวยงาม น่ารักเเละเข้าใจผู้เป็นนายเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ เเม้ว่าในประเทศไทยของเราจะไม่ค่อยได้เห็นพวกมันมากนักก็ตาม เเต่ก็เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขที่ทุกคนที่ได้สัมผัสต้องชื่นชอบอย่างเเน่นอน



          Tibetan Terrier นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า โดกี แอปโช เป็นสุนัขขนาดเล็ก ที่มีความสามารถสูงเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นสุนัขที่ได้รับการใช้งานในฟาร์มปศุสัตว์ด้วยการต้อนเเละเฝ้าฝูงสัตว์มาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีตเเล้ว อีกทั้งด้วยลักษณะที่เป็นมิตรเเละน่าตาที่น่ารักของมันก็ทำให้ผู้ได้พบเห็นต่างชื่นชอบเเละประทับใจอีกด้วย จึงไม่น่าเเปลกใจว่ามันจะเปลี่ยนสถานะจากสุนัขที่ถูกใช้งานในฟาร์มให้กลายมาเป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อมนุษย์ในที่สุด

          ทิเบตัน เทอร์เรียร์  นั้นมีจุดกำเนิดประมาณศตวรรษที่ 17 ที่ประเทศทิเบต โดยร่างกายของมันที่มีขนาดเล็กเเต่ก็สามารถไล่ต้อนฝูงสัตว์บนดินเเดนหลังคาของโลกมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เเละมันนั้นก็ไม่ได้เป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์  ขนานเเท้เเต่อย่างใด เเต่กลับมีลักษณะเด่นไปคล้ายคลึงกับสุนัขสายพันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก มากกว่า ถูกนำเข้ามาในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.1930 โดย ดร.เกรก โดยนำเข้ามา 1 คู่ เเละได้มีการขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่สนใจในการนำไปเลี้ยงในสังคมชั้นสูงของอังกฤษอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว



          ลักษณะทางโครงสร้างของ Tibetan Terrier นั้นจะเป็นสุนัขที่มีความสูงประมาณ 36-41 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 8-14 กิโลกรัมเท่านั้น มีใบหูเป็นรูปตัววี เเละมีขนที่บริเวณหูหนาเป็นอย่างยิ่ง โดยมีขนสองชั้นบริเวณช่วงลำตัว เเละมีลักษณะเป็นขนตรง หรือบางตัวก็จะเป็นลอนก็ได้ ส่วนทางด้านของเท้านั้นมีขนาดใหญ่เเละกลมสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสีขนถึง 4 เเบบด้วยกัน ทั้งสีออกเเดง น้ำเงิน สีสลับดำกับส้ม เเละสีส้มทอง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีลักษณะเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยขนจะมีความยาวเเละหน้า เหมาะเเก่การเลี้ยงในอากาศหนาว อีกทั้งขนจะปิดตาอยู่ตอลดเวลาอีกด้วย

          โดย ทิเบตัน เทอร์เรียร์ พอมีเลี้ยงกันบ้างในประเทศไทย เเต่ไม่ค่อยจะนิยมกันมากนัก เนื่องจากมีราคาที่เเพงเเละมีการดูเเลที่ค่อนข้างยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีขนที่หนา เเละอยู่ในอากาศร้อนไม่ค่อยได้ เเต่ถึงอย่างไรตามงานประกวดสุนัขต่างๆ เราก็อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างเป็นบ้างครั้ง



20
สุนัขสายพันธุ์ ทิเบตัน เทอร์เรียร์ (Tibetan Terrier)


          สุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละมีเสน่ห์เป็นอย่างยิ่งก็เห็นจะเป็นสุนัขในสายพันธุ์อย่าง ทิเบตัน เทอร์เรียร์  ที่มีความสวยงาม น่ารักเเละเข้าใจผู้เป็นนายเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังได้รับความนิยมในการเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้ เเม้ว่าในประเทศไทยของเราจะไม่ค่อยได้เห็นพวกมันมากนักก็ตาม เเต่ก็เป็นอีกสายพันธุ์สุนัขที่ทุกคนที่ได้สัมผัสต้องชื่นชอบอย่างเเน่นอน



          Tibetan Terrier นั้นมีอีกชื่อเรียกว่า โดกี แอปโช เป็นสุนัขขนาดเล็ก ที่มีความสามารถสูงเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันเป็นสุนัขที่ได้รับการใช้งานในฟาร์มปศุสัตว์ด้วยการต้อนเเละเฝ้าฝูงสัตว์มาตั้งเเต่เมื่อครั้งอดีตเเล้ว อีกทั้งด้วยลักษณะที่เป็นมิตรเเละน่าตาที่น่ารักของมันก็ทำให้ผู้ได้พบเห็นต่างชื่นชอบเเละประทับใจอีกด้วย จึงไม่น่าเเปลกใจว่ามันจะเปลี่ยนสถานะจากสุนัขที่ถูกใช้งานในฟาร์มให้กลายมาเป็นสุนัขสำหรับเลี้ยงเป็นเพื่อมนุษย์ในที่สุด

          ทิเบตัน เทอร์เรียร์  นั้นมีจุดกำเนิดประมาณศตวรรษที่ 17 ที่ประเทศทิเบต โดยร่างกายของมันที่มีขนาดเล็กเเต่ก็สามารถไล่ต้อนฝูงสัตว์บนดินเเดนหลังคาของโลกมาได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน เเละมันนั้นก็ไม่ได้เป็นสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียร์  ขนานเเท้เเต่อย่างใด เเต่กลับมีลักษณะเด่นไปคล้ายคลึงกับสุนัขสายพันธุ์โอลด์ อิงลิช ชีพด็อก มากกว่า ถูกนำเข้ามาในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ.1930 โดย ดร.เกรก โดยนำเข้ามา 1 คู่ เเละได้มีการขยายพันธุ์จนกลายเป็นที่สนใจในการนำไปเลี้ยงในสังคมชั้นสูงของอังกฤษอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว



          ลักษณะทางโครงสร้างของ Tibetan Terrier นั้นจะเป็นสุนัขที่มีความสูงประมาณ 36-41 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 8-14 กิโลกรัมเท่านั้น มีใบหูเป็นรูปตัววี เเละมีขนที่บริเวณหูหนาเป็นอย่างยิ่ง โดยมีขนสองชั้นบริเวณช่วงลำตัว เเละมีลักษณะเป็นขนตรง หรือบางตัวก็จะเป็นลอนก็ได้ ส่วนทางด้านของเท้านั้นมีขนาดใหญ่เเละกลมสวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีสีขนถึง 4 เเบบด้วยกัน ทั้งสีออกเเดง น้ำเงิน สีสลับดำกับส้ม เเละสีส้มทอง สวยงามเป็นอย่างยิ่ง โดยมีลักษณะเป็นสุนัขที่มีความเป็นมิตรสูงเป็นอย่างยิ่ง เเละมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา โดยขนจะมีความยาวเเละหน้า เหมาะเเก่การเลี้ยงในอากาศหนาว อีกทั้งขนจะปิดตาอยู่ตอลดเวลาอีกด้วย

          โดย ทิเบตัน เทอร์เรียร์ พอมีเลี้ยงกันบ้างในประเทศไทย เเต่ไม่ค่อยจะนิยมกันมากนัก เนื่องจากมีราคาที่เเพงเเละมีการดูเเลที่ค่อนข้างยากเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากมีขนที่หนา เเละอยู่ในอากาศร้อนไม่ค่อยได้ เเต่ถึงอย่างไรตามงานประกวดสุนัขต่างๆ เราก็อาจจะได้เห็นพวกมันบ้างเป็นบ้างครั้ง



21
สุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ (Shiba Inu)

          สุนัขใช้งานอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากเเละมีชื่อเสียงพอสมควรในเอเชียก็คงหนีไม่พ้นสุนัขสายพันธุ์อย่าง ชิบะอินุ ที่มีลักษณะท่าทางที่น่ารักเเละเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เเละยังคงได้รับทั้งความสนใจเเละความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน



          สำหรับ Shiba Inu นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า Shiba Ken โดยมันเป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อะคิตะ  เเละเป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้พวกมันได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเอาไว้ในบ้านเรือนมาตั้งเเต่สมัยโบราณเเล้ว

          โดยกล่าวกันว่าจุดกำเนิดของ ชิบะอินุ นั้นมาจากสุนัขล่าสัตว์ที่อาศัยเเละเติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น โดยนับว่าเป็นสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยพวกมันถูกนำมาใช้งานสำหรับการล่าสัตว์ที่มีขนาดเล็กเเละสามารถทำผลงานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เเละพวกมันยังเป็นสุนัขสายพันธุ์เเรกของญี่ปุ่นที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกมันเคยเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว จากผลของระเบิดที่ทิ้งลงมาอย่างมากมาย แต่หลังจากสงครามจบลงได้มีการนำพวกมันที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ ที่มีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดนากาโน่ ส่วนมิโน ชิบะ นั้นมีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดไอจิ และ ซานอิน ชิบะ ที่มาจากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ โดยนำมาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถขยายสายพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ



          ส่วนทางด้านของลักษณะนั้น Shiba Inu มีอายุขัยระหว่าง 12–15 ปี โดยที่ตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม เเละในส่วนของความสูง ตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 35-43 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียจะมีความสูงประมาณ 33-41 เซนติเมตร โดยที่มีรูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ศีรษะกว้าง แบน มีร่องที่ศีรษะเล็กน้อย ฟันแข็งแรง เรียงตัวกันเป็นแนว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำทั้งจมูก ช่วงอกสวยได้รูป อกลึก แผ่นหลังทรงอยู่ในระดับเดียวกันจนถึงโคนหาง ไหล่ตรง ความยาวเท่ากับช่วงท่อนขาด้านบน โดยที่ขาหลังแข็งแรง กว้าง หางหนา มีพละกำลัง ม้วนตั้งขึ้นบนแผ่นหลัง โดยสีของขนนั้นมีทั้งสีแดง สีแดงงา และสีดำกับสีน้ำตาลแทน โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่ร่าเริงแจ่มใส มีความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เเละว่องไว รวมทั้งขี้เล่น ฉลาด

          ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ นั้นมีอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เเละอีกหลายประเทศในทวีปเอเซีย รวมถึงในประเทศไทยก็มีความนิยมในการเลี้ยงงอยู่บ้าง เเต่อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก



22
สุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ (Shiba Inu)

          สุนัขใช้งานอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากเเละมีชื่อเสียงพอสมควรในเอเชียก็คงหนีไม่พ้นสุนัขสายพันธุ์อย่าง ชิบะอินุ ที่มีลักษณะท่าทางที่น่ารักเเละเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เเละยังคงได้รับทั้งความสนใจเเละความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน



          สำหรับ Shiba Inu นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า Shiba Ken โดยมันเป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อะคิตะ  เเละเป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้พวกมันได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเอาไว้ในบ้านเรือนมาตั้งเเต่สมัยโบราณเเล้ว

          โดยกล่าวกันว่าจุดกำเนิดของ ชิบะอินุ นั้นมาจากสุนัขล่าสัตว์ที่อาศัยเเละเติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น โดยนับว่าเป็นสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยพวกมันถูกนำมาใช้งานสำหรับการล่าสัตว์ที่มีขนาดเล็กเเละสามารถทำผลงานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เเละพวกมันยังเป็นสุนัขสายพันธุ์เเรกของญี่ปุ่นที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกมันเคยเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว จากผลของระเบิดที่ทิ้งลงมาอย่างมากมาย แต่หลังจากสงครามจบลงได้มีการนำพวกมันที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ ที่มีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดนากาโน่ ส่วนมิโน ชิบะ นั้นมีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดไอจิ และ ซานอิน ชิบะ ที่มาจากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ โดยนำมาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถขยายสายพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ



          ส่วนทางด้านของลักษณะนั้น Shiba Inu มีอายุขัยระหว่าง 12–15 ปี โดยที่ตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม เเละในส่วนของความสูง ตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 35-43 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียจะมีความสูงประมาณ 33-41 เซนติเมตร โดยที่มีรูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ศีรษะกว้าง แบน มีร่องที่ศีรษะเล็กน้อย ฟันแข็งแรง เรียงตัวกันเป็นแนว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำทั้งจมูก ช่วงอกสวยได้รูป อกลึก แผ่นหลังทรงอยู่ในระดับเดียวกันจนถึงโคนหาง ไหล่ตรง ความยาวเท่ากับช่วงท่อนขาด้านบน โดยที่ขาหลังแข็งแรง กว้าง หางหนา มีพละกำลัง ม้วนตั้งขึ้นบนแผ่นหลัง โดยสีของขนนั้นมีทั้งสีแดง สีแดงงา และสีดำกับสีน้ำตาลแทน โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่ร่าเริงแจ่มใส มีความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เเละว่องไว รวมทั้งขี้เล่น ฉลาด

          ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ นั้นมีอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เเละอีกหลายประเทศในทวีปเอเซีย รวมถึงในประเทศไทยก็มีความนิยมในการเลี้ยงงอยู่บ้าง เเต่อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก



23
สุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ (Shiba Inu)

          สุนัขใช้งานอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากเเละมีชื่อเสียงพอสมควรในเอเชียก็คงหนีไม่พ้นสุนัขสายพันธุ์อย่าง ชิบะอินุ ที่มีลักษณะท่าทางที่น่ารักเเละเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เเละยังคงได้รับทั้งความสนใจเเละความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน



          สำหรับ Shiba Inu นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า Shiba Ken โดยมันเป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อะคิตะ  เเละเป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้พวกมันได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเอาไว้ในบ้านเรือนมาตั้งเเต่สมัยโบราณเเล้ว

          โดยกล่าวกันว่าจุดกำเนิดของ ชิบะอินุ นั้นมาจากสุนัขล่าสัตว์ที่อาศัยเเละเติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น โดยนับว่าเป็นสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยพวกมันถูกนำมาใช้งานสำหรับการล่าสัตว์ที่มีขนาดเล็กเเละสามารถทำผลงานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เเละพวกมันยังเป็นสุนัขสายพันธุ์เเรกของญี่ปุ่นที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกมันเคยเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว จากผลของระเบิดที่ทิ้งลงมาอย่างมากมาย แต่หลังจากสงครามจบลงได้มีการนำพวกมันที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ ที่มีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดนากาโน่ ส่วนมิโน ชิบะ นั้นมีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดไอจิ และ ซานอิน ชิบะ ที่มาจากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ โดยนำมาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถขยายสายพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ



          ส่วนทางด้านของลักษณะนั้น Shiba Inu มีอายุขัยระหว่าง 12–15 ปี โดยที่ตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม เเละในส่วนของความสูง ตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 35-43 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียจะมีความสูงประมาณ 33-41 เซนติเมตร โดยที่มีรูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ศีรษะกว้าง แบน มีร่องที่ศีรษะเล็กน้อย ฟันแข็งแรง เรียงตัวกันเป็นแนว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำทั้งจมูก ช่วงอกสวยได้รูป อกลึก แผ่นหลังทรงอยู่ในระดับเดียวกันจนถึงโคนหาง ไหล่ตรง ความยาวเท่ากับช่วงท่อนขาด้านบน โดยที่ขาหลังแข็งแรง กว้าง หางหนา มีพละกำลัง ม้วนตั้งขึ้นบนแผ่นหลัง โดยสีของขนนั้นมีทั้งสีแดง สีแดงงา และสีดำกับสีน้ำตาลแทน โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่ร่าเริงแจ่มใส มีความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เเละว่องไว รวมทั้งขี้เล่น ฉลาด

          ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ นั้นมีอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เเละอีกหลายประเทศในทวีปเอเซีย รวมถึงในประเทศไทยก็มีความนิยมในการเลี้ยงงอยู่บ้าง เเต่อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก



24
สุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ (Shiba Inu)

          สุนัขใช้งานอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่ได้รับการยอมรับกันเป็นอย่างมากเเละมีชื่อเสียงพอสมควรในเอเชียก็คงหนีไม่พ้นสุนัขสายพันธุ์อย่าง ชิบะอินุ ที่มีลักษณะท่าทางที่น่ารักเเละเป็นที่ชื่นชอบของผู้ที่ได้มาพบเห็นเป็นอย่างยิ่ง เเละยังคงได้รับทั้งความสนใจเเละความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียวในปัจจุบัน



          สำหรับ Shiba Inu นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า Shiba Ken โดยมันเป็นสุนัขในตระกูลเดียวกันกับสุนัขสายพันธุ์อะคิตะ  เเละเป็นสุนัขสายพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด ทำให้พวกมันได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเอาไว้ในบ้านเรือนมาตั้งเเต่สมัยโบราณเเล้ว

          โดยกล่าวกันว่าจุดกำเนิดของ ชิบะอินุ นั้นมาจากสุนัขล่าสัตว์ที่อาศัยเเละเติบโตอยู่ในบริเวณภูเขาของประเทศญี่ปุ่น โดยนับว่าเป็นสุนัขพื้นเมืองดั้งเดิมของญี่ปุ่น โดยพวกมันถูกนำมาใช้งานสำหรับการล่าสัตว์ที่มีขนาดเล็กเเละสามารถทำผลงานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง เเละพวกมันยังเป็นสุนัขสายพันธุ์เเรกของญี่ปุ่นที่ได้รับมาตรฐานสายพันธุ์ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้นพวกมันเคยเกือบจะสูญพันธุ์ไปแล้ว จากผลของระเบิดที่ทิ้งลงมาอย่างมากมาย แต่หลังจากสงครามจบลงได้มีการนำพวกมันที่เหลืออยู่ 3 สายเลือดคือ ชินชุ ชิบะ ที่มีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดนากาโน่ ส่วนมิโน ชิบะ นั้นมีถิ่นกำเนิดที่จังหวัดไอจิ และ ซานอิน ชิบะ ที่มาจากจังหวัดทตโตะริและจังหวัดชินามิ โดยนำมาผสมพันธุ์และพัฒนาสายพันธุ์ จนสามารถขยายสายพันธุ์ได้เป็นผลสำเร็จ



          ส่วนทางด้านของลักษณะนั้น Shiba Inu มีอายุขัยระหว่าง 12–15 ปี โดยที่ตัวผู้จะมีน้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม เเละในส่วนของความสูง ตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 35-43 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียจะมีความสูงประมาณ 33-41 เซนติเมตร โดยที่มีรูปร่างกระทัดรัด หูตั้ง กล้ามเนื้อกระชับ ศีรษะกว้าง แบน มีร่องที่ศีรษะเล็กน้อย ฟันแข็งแรง เรียงตัวกันเป็นแนว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำทั้งจมูก ช่วงอกสวยได้รูป อกลึก แผ่นหลังทรงอยู่ในระดับเดียวกันจนถึงโคนหาง ไหล่ตรง ความยาวเท่ากับช่วงท่อนขาด้านบน โดยที่ขาหลังแข็งแรง กว้าง หางหนา มีพละกำลัง ม้วนตั้งขึ้นบนแผ่นหลัง โดยสีของขนนั้นมีทั้งสีแดง สีแดงงา และสีดำกับสีน้ำตาลแทน โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่ร่าเริงแจ่มใส มีความคล่องแคล่ว ปราดเปรียว เเละว่องไว รวมทั้งขี้เล่น ฉลาด

          ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ชิบะอินุ นั้นมีอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น เเละอีกหลายประเทศในทวีปเอเซีย รวมถึงในประเทศไทยก็มีความนิยมในการเลี้ยงงอยู่บ้าง เเต่อาจจะมีจำนวนไม่มากนัก



25
สุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ (Hanoverian Mountain Hound)


         โดยสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



         สำหรับสุนัขสายพันธุ์อย่าง Hanoverian Mountain Hound นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า แฮนโนเวอร์เชอร์ชไวส์ฮุนด์ โดยพวกมันมีรูปร่างบึกบึนแข็งแรงแต่มีช่วงขาสั้น ใช้ตามสัตว์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขนบนใบหน้าสีดำเหมือนสวมหน้ากาก นับว่าเป็นสุนัขที่มีลักษณะดีเป็นอย่างยิ่ง เเละน่านำมาเลี้ยงอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

         ส่วนทางด้านประวัติของสุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นถือกำเนิดมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ในดินเเดนที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศเยอรมนี ได้รับการพัฒนาโดยนักล่าสัตว์ของเมืองแฮนโนเวอร์ ในเยอรมนี โดยผสมระหว่างสุนัขล่าสัตว์ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก โดยพวกมันถูกนำมาใช้สำหรับการตามรอยสัตว์ที่ถูกล่า โดยจมูกไวเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขใช้งานทั่วไปได้ด้วย นับว่าเป็นสุนขที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยง อีกทั้งยังคงมีความนิยมในการเลี้ยงมาตั้งเเต่โบราณจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีความนิยมในการเลี้ยงอยู่บ้างจนถึงทุกวันนี้



         โดยทางด้านลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ Hanoverian Mountain Hound นั้นมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 51-61 เซนติเมตร ส่วนทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 38-44 กิโลกรัม เเละพวกมันมีจมูกใหญ่ ที่ยื่นออกมาเเละมีรูจมูกกว้าง โดยบางตัวนั้นจะมีขนสีดำบริเวณใบหน้าคล้ายหน้ากาก  นอกจากนี้เเล้วยังมีแถบขนสีดำแซมตามลำตัว  ขาหน้าตรง อีกด้วย โดยพวกมันนั้นมีลักษณะที่ซื่อสัตย์เเละเป็นสุนัขที่มีความใจเย็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยนับว่าเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เเละน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยง

         สำหรับความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นมีความนิยมในการเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศเยอรมนี ละบางส่วนของประเทศที่ใกล้เคียงกัน ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



26
สุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ (Hanoverian Mountain Hound)


         โดยสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



         สำหรับสุนัขสายพันธุ์อย่าง Hanoverian Mountain Hound นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า แฮนโนเวอร์เชอร์ชไวส์ฮุนด์ โดยพวกมันมีรูปร่างบึกบึนแข็งแรงแต่มีช่วงขาสั้น ใช้ตามสัตว์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขนบนใบหน้าสีดำเหมือนสวมหน้ากาก นับว่าเป็นสุนัขที่มีลักษณะดีเป็นอย่างยิ่ง เเละน่านำมาเลี้ยงอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

         ส่วนทางด้านประวัติของสุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นถือกำเนิดมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ในดินเเดนที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศเยอรมนี ได้รับการพัฒนาโดยนักล่าสัตว์ของเมืองแฮนโนเวอร์ ในเยอรมนี โดยผสมระหว่างสุนัขล่าสัตว์ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก โดยพวกมันถูกนำมาใช้สำหรับการตามรอยสัตว์ที่ถูกล่า โดยจมูกไวเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขใช้งานทั่วไปได้ด้วย นับว่าเป็นสุนขที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยง อีกทั้งยังคงมีความนิยมในการเลี้ยงมาตั้งเเต่โบราณจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีความนิยมในการเลี้ยงอยู่บ้างจนถึงทุกวันนี้



         โดยทางด้านลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ Hanoverian Mountain Hound นั้นมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 51-61 เซนติเมตร ส่วนทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 38-44 กิโลกรัม เเละพวกมันมีจมูกใหญ่ ที่ยื่นออกมาเเละมีรูจมูกกว้าง โดยบางตัวนั้นจะมีขนสีดำบริเวณใบหน้าคล้ายหน้ากาก  นอกจากนี้เเล้วยังมีแถบขนสีดำแซมตามลำตัว  ขาหน้าตรง อีกด้วย โดยพวกมันนั้นมีลักษณะที่ซื่อสัตย์เเละเป็นสุนัขที่มีความใจเย็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยนับว่าเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เเละน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยง

         สำหรับความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นมีความนิยมในการเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศเยอรมนี ละบางส่วนของประเทศที่ใกล้เคียงกัน ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



27
สุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ (Hanoverian Mountain Hound)


         โดยสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



         สำหรับสุนัขสายพันธุ์อย่าง Hanoverian Mountain Hound นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า แฮนโนเวอร์เชอร์ชไวส์ฮุนด์ โดยพวกมันมีรูปร่างบึกบึนแข็งแรงแต่มีช่วงขาสั้น ใช้ตามสัตว์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขนบนใบหน้าสีดำเหมือนสวมหน้ากาก นับว่าเป็นสุนัขที่มีลักษณะดีเป็นอย่างยิ่ง เเละน่านำมาเลี้ยงอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

         ส่วนทางด้านประวัติของสุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นถือกำเนิดมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ในดินเเดนที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศเยอรมนี ได้รับการพัฒนาโดยนักล่าสัตว์ของเมืองแฮนโนเวอร์ ในเยอรมนี โดยผสมระหว่างสุนัขล่าสัตว์ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก โดยพวกมันถูกนำมาใช้สำหรับการตามรอยสัตว์ที่ถูกล่า โดยจมูกไวเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขใช้งานทั่วไปได้ด้วย นับว่าเป็นสุนขที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยง อีกทั้งยังคงมีความนิยมในการเลี้ยงมาตั้งเเต่โบราณจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีความนิยมในการเลี้ยงอยู่บ้างจนถึงทุกวันนี้



         โดยทางด้านลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ Hanoverian Mountain Hound นั้นมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 51-61 เซนติเมตร ส่วนทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 38-44 กิโลกรัม เเละพวกมันมีจมูกใหญ่ ที่ยื่นออกมาเเละมีรูจมูกกว้าง โดยบางตัวนั้นจะมีขนสีดำบริเวณใบหน้าคล้ายหน้ากาก  นอกจากนี้เเล้วยังมีแถบขนสีดำแซมตามลำตัว  ขาหน้าตรง อีกด้วย โดยพวกมันนั้นมีลักษณะที่ซื่อสัตย์เเละเป็นสุนัขที่มีความใจเย็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยนับว่าเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เเละน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยง

         สำหรับความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นมีความนิยมในการเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศเยอรมนี ละบางส่วนของประเทศที่ใกล้เคียงกัน ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



28
สุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ (Hanoverian Mountain Hound)


         โดยสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



         สำหรับสุนัขสายพันธุ์อย่าง Hanoverian Mountain Hound นั้นมีอีกชื่อเรียกสายพันธุ์ว่า แฮนโนเวอร์เชอร์ชไวส์ฮุนด์ โดยพวกมันมีรูปร่างบึกบึนแข็งแรงแต่มีช่วงขาสั้น ใช้ตามสัตว์ที่ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ขนบนใบหน้าสีดำเหมือนสวมหน้ากาก นับว่าเป็นสุนัขที่มีลักษณะดีเป็นอย่างยิ่ง เเละน่านำมาเลี้ยงอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

         ส่วนทางด้านประวัติของสุนัขสายพันธุ์ แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นถือกำเนิดมาในช่วงศตวรรษที่ 17 ในดินเเดนที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของประเทศเยอรมนี ได้รับการพัฒนาโดยนักล่าสัตว์ของเมืองแฮนโนเวอร์ ในเยอรมนี โดยผสมระหว่างสุนัขล่าสัตว์ขนาดใหญ่กับขนาดเล็ก โดยพวกมันถูกนำมาใช้สำหรับการตามรอยสัตว์ที่ถูกล่า โดยจมูกไวเป็นอย่างมาก เป็นสุนัขใช้งานทั่วไปได้ด้วย นับว่าเป็นสุนขที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยง อีกทั้งยังคงมีความนิยมในการเลี้ยงมาตั้งเเต่โบราณจนถึงทุกวันนี้ ก็ยังมีความนิยมในการเลี้ยงอยู่บ้างจนถึงทุกวันนี้



         โดยทางด้านลักษณะของสุนัขสายพันธุ์ Hanoverian Mountain Hound นั้นมีความสูงเฉลี่ยประมาณ 51-61 เซนติเมตร ส่วนทางด้านน้ำหนักนั้นจะมีน้ำหนักประมาณ 38-44 กิโลกรัม เเละพวกมันมีจมูกใหญ่ ที่ยื่นออกมาเเละมีรูจมูกกว้าง โดยบางตัวนั้นจะมีขนสีดำบริเวณใบหน้าคล้ายหน้ากาก  นอกจากนี้เเล้วยังมีแถบขนสีดำแซมตามลำตัว  ขาหน้าตรง อีกด้วย โดยพวกมันนั้นมีลักษณะที่ซื่อสัตย์เเละเป็นสุนัขที่มีความใจเย็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยนับว่าเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เเละน่าสนใจเเละน่านำมาเลี้ยง

         สำหรับความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อย่าง แฮนโนเวอเรียน เมาน์เทน ฮาวนด์ นั้นมีความนิยมในการเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศเยอรมนี ละบางส่วนของประเทศที่ใกล้เคียงกัน ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



29
สุนัขสายพันธุ์ ฮาลเดนชเตอวาเรอ (Haldenstovare)


          สำหรับสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง ฮาลเดนชเตอวาเรอ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



          สำหรับ Haldenstovare นั้นมีชื่อเรียกสายพันธุ์อีกอย่างว่า ฮาลเดน ฮาวนด์ โดยพวกมันนั้นเป็นสุนัขในกลุ่มสายพันธุ์ชเตอวาเรอ 4 พันธุ์ พันธุ์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุด มีขนสามสี โดยมีสีขาวเป็นสีพื้น มีขนสีดำและสีแทนแซมบางแห่ง นับว่าเป็นสุนัขที่มีความน่าสนใจอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

          โดย ฮาลเดนชเตอวาเรอ นั้นมีประวัติที่น่าสนใจ โดยพวกมันถือกำเนิดขึ้นมาในดินเเดนที่เป็นที่ตั้งของประเทศนอร์เวย์ในปัจจุบัน ในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยพวกมันเกิดจากการผสมระหว่างสุนัขล่าเนื้อพันธุ์พื้นเมืองกับสุนัขล่าเนื้อสายพันธุ์ต่างๆ ของสวีเดน, เยอรมันและอังกฤษ โดยพวกมันถูกนำมาใช้ในการสะกดรอยเหยื่อ เเละเช่นเดียวกับสุนัขล่าเนื้อพันธุ์อื่นๆ ของนอร์เวย์คือไม่ล่าสัตว์เป็นกลุ่มและเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี ถือว่าเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละมีความนิยมในการนำมาเลี้ยงอยู่พอสมควรในปัจจุบัน



          โดยทางด้านลักษณะของ Haldenstovare  เป็นสุนขที่มีโครงร่างขนาดกลางโดยตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 47-55 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีความสูงประมาณ 44-52 เซนติเมตร โดยทางด้านของน้ำหนักนั้นมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 23-29 กิโลกรัม โดยมีช่วงปากตรง มีจมูกสีดำ ส่วนทางด้านของใบหูห้อยลง โดยมีช่วงอกลึก  ช่วงคอยาวและโค้ง เเละโดดเด่นด้วยกะโหลกโค้งมนคล้ายโดม ส่วนทางด้านของหางใหญ่ มีขนาดยาวและห้อยลง  พร้อมกับเท้ารูปวงรี เเละมีนิ้วเท้าแข็งแรง ส่วนสีของขนนั้นจะมีทั้งสามสี, สีดำและขาว โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่น่าสนใจทั้งมีความน่ารักเเละช่างประจบเก่ง อีกทั้งมีความขยันอีกด้วย รวมทั้งรักอิสระ

          โดยความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ฮาลเดนชเตอวาเรอ นั้นมีความนิยมเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ เเละบางส่วนของประเทศในเเถบสเเกนดินีเวีย ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



30
สุนัขสายพันธุ์ ฮาลเดนชเตอวาเรอ (Haldenstovare)


          สำหรับสุนัขที่ถูกนำมาใช้เป็นสุนัขล่าสัตว์ที่มีชื่อเสียงของโลกนั้นมีอยู่มากมายหลายสายพันธุ์ด้วยกันที่พวกมันสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นอย่างมากเเละหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง ฮาลเดนชเตอวาเรอ ที่เป็นสุนัขที่มีสรีระสวยงามเป็นอย่างยิ่งอีกสายพันธุ์ของโลกที่มีความน่าสนใจเเละน่าทึ่งไปในเวลาเดียวกันอีกด้วย แม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือได้รับความนิยมในการเลี้ยงเหมือนกับสุนัขสายพันธุ์อื่นๆ ที่ฮอตฮิตก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่มีน่าเลี้ยงเป็นอย่างมากอีกสายพันธุ์หนึ่ง



          สำหรับ Haldenstovare นั้นมีชื่อเรียกสายพันธุ์อีกอย่างว่า ฮาลเดน ฮาวนด์ โดยพวกมันนั้นเป็นสุนัขในกลุ่มสายพันธุ์ชเตอวาเรอ 4 พันธุ์ พันธุ์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุด มีขนสามสี โดยมีสีขาวเป็นสีพื้น มีขนสีดำและสีแทนแซมบางแห่ง นับว่าเป็นสุนัขที่มีความน่าสนใจอีกหนึ่งสายพันธุ์เลยก็ว่าได้

          โดย ฮาลเดนชเตอวาเรอ นั้นมีประวัติที่น่าสนใจ โดยพวกมันถือกำเนิดขึ้นมาในดินเเดนที่เป็นที่ตั้งของประเทศนอร์เวย์ในปัจจุบัน ในช่วงศตวรรษที่ 18 โดยพวกมันเกิดจากการผสมระหว่างสุนัขล่าเนื้อพันธุ์พื้นเมืองกับสุนัขล่าเนื้อสายพันธุ์ต่างๆ ของสวีเดน, เยอรมันและอังกฤษ โดยพวกมันถูกนำมาใช้ในการสะกดรอยเหยื่อ เเละเช่นเดียวกับสุนัขล่าเนื้อพันธุ์อื่นๆ ของนอร์เวย์คือไม่ล่าสัตว์เป็นกลุ่มและเป็นสัตว์เลี้ยงที่ดี ถือว่าเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เต็มไปด้วยความน่าสนใจเเละมีความนิยมในการนำมาเลี้ยงอยู่พอสมควรในปัจจุบัน



          โดยทางด้านลักษณะของ Haldenstovare  เป็นสุนขที่มีโครงร่างขนาดกลางโดยตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 47-55 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของตัวเมียนั้นจะมีความสูงประมาณ 44-52 เซนติเมตร โดยทางด้านของน้ำหนักนั้นมีน้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 23-29 กิโลกรัม โดยมีช่วงปากตรง มีจมูกสีดำ ส่วนทางด้านของใบหูห้อยลง โดยมีช่วงอกลึก  ช่วงคอยาวและโค้ง เเละโดดเด่นด้วยกะโหลกโค้งมนคล้ายโดม ส่วนทางด้านของหางใหญ่ มีขนาดยาวและห้อยลง  พร้อมกับเท้ารูปวงรี เเละมีนิ้วเท้าแข็งแรง ส่วนสีของขนนั้นจะมีทั้งสามสี, สีดำและขาว โดยพวกมันมีลักษณะนิสัยที่น่าสนใจทั้งมีความน่ารักเเละช่างประจบเก่ง อีกทั้งมีความขยันอีกด้วย รวมทั้งรักอิสระ

          โดยความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์ ฮาลเดนชเตอวาเรอ นั้นมีความนิยมเลี้ยงกันอย่างมากในประเทศนอร์เวย์ เเละบางส่วนของประเทศในเเถบสเเกนดินีเวีย ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่ได้รับความสนใจเเละนิยมเลี้ยงเเต่อย่างใด เเต่ถึงอย่างนั้นพวกมันก็ยังคงเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ที่น่าสนใจอยู่ดี



หน้า:
  • 1
  • 2 (current)
  • 3
  • 4
  • 5
  • 6
  • 7
  • 8