แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Smile Smile

1861


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นแห่กันแชร์เป็นจำนวนมาก สำหรับความน่ารัก และไม่เหมือนใครของ“อิแย้ม” แมวกวักช่วยเรียกลูกค้า ที่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากนอนขวางทางผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Nathamon Ketmanee เปิดร้านขายของใช้ชื่อ CK shop อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเธอเลี้ยงแมวที่เธอเลี้ยงไว้ว่า อิแย้ม



อิแย้มมันก็ไม่ค่อยทำอะไรหรอก ส่วนใหญ่มันจะนอนทั้งวัน โดยท่านอนที่โปรดปรานของมันก็คือท่านนอนหงายท้อง ดูล่อตาเหล่าทาสแมวเป็นยิ่งนัก ที่สำคัญมันนอนไม่ได้เกรงใจคนขายของหรือลูกค้าเลย มันชอบนอนอยู่กลางทางเข้าร้านเสมอ หรือไม่บางครั้งมันก็จะย้ายมานอนอยู่กลางทางเดินร้านแทน ซึ่งคนที่มาซื้อของก็ต้องเดินหลบมันกันเองตามระเบียบ 5555 เห็นแล้วเป็นอะไรที่น่ารัก และแปลกจริงๆ เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันเลยดีกว่าค่ะ









url=https://pic.marketdogs.com/image/HPjZG][/iurl]











1862


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นแห่กันแชร์เป็นจำนวนมาก สำหรับความน่ารัก และไม่เหมือนใครของ“อิแย้ม” แมวกวักช่วยเรียกลูกค้า ที่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากนอนขวางทางผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Nathamon Ketmanee เปิดร้านขายของใช้ชื่อ CK shop อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเธอเลี้ยงแมวที่เธอเลี้ยงไว้ว่า อิแย้ม



อิแย้มมันก็ไม่ค่อยทำอะไรหรอก ส่วนใหญ่มันจะนอนทั้งวัน โดยท่านอนที่โปรดปรานของมันก็คือท่านนอนหงายท้อง ดูล่อตาเหล่าทาสแมวเป็นยิ่งนัก ที่สำคัญมันนอนไม่ได้เกรงใจคนขายของหรือลูกค้าเลย มันชอบนอนอยู่กลางทางเข้าร้านเสมอ หรือไม่บางครั้งมันก็จะย้ายมานอนอยู่กลางทางเดินร้านแทน ซึ่งคนที่มาซื้อของก็ต้องเดินหลบมันกันเองตามระเบียบ 5555 เห็นแล้วเป็นอะไรที่น่ารัก และแปลกจริงๆ เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันเลยดีกว่าค่ะ









url=https://pic.marketdogs.com/image/HPjZG][/iurl]











1863


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นแห่กันแชร์เป็นจำนวนมาก สำหรับความน่ารัก และไม่เหมือนใครของ“อิแย้ม” แมวกวักช่วยเรียกลูกค้า ที่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากนอนขวางทางผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Nathamon Ketmanee เปิดร้านขายของใช้ชื่อ CK shop อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเธอเลี้ยงแมวที่เธอเลี้ยงไว้ว่า อิแย้ม



อิแย้มมันก็ไม่ค่อยทำอะไรหรอก ส่วนใหญ่มันจะนอนทั้งวัน โดยท่านอนที่โปรดปรานของมันก็คือท่านนอนหงายท้อง ดูล่อตาเหล่าทาสแมวเป็นยิ่งนัก ที่สำคัญมันนอนไม่ได้เกรงใจคนขายของหรือลูกค้าเลย มันชอบนอนอยู่กลางทางเข้าร้านเสมอ หรือไม่บางครั้งมันก็จะย้ายมานอนอยู่กลางทางเดินร้านแทน ซึ่งคนที่มาซื้อของก็ต้องเดินหลบมันกันเองตามระเบียบ 5555 เห็นแล้วเป็นอะไรที่น่ารัก และแปลกจริงๆ เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันเลยดีกว่าค่ะ









url=https://pic.marketdogs.com/image/HPjZG][/iurl]











1864


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นแห่กันแชร์เป็นจำนวนมาก สำหรับความน่ารัก และไม่เหมือนใครของ“อิแย้ม” แมวกวักช่วยเรียกลูกค้า ที่ไม่เคยทำอะไรเลยนอกจากนอนขวางทางผู้ใช้เฟซบุ๊กที่ชื่อ Nathamon Ketmanee เปิดร้านขายของใช้ชื่อ CK shop อยู่ที่จังหวัดภูเก็ต โดยเธอเลี้ยงแมวที่เธอเลี้ยงไว้ว่า อิแย้ม



อิแย้มมันก็ไม่ค่อยทำอะไรหรอก ส่วนใหญ่มันจะนอนทั้งวัน โดยท่านอนที่โปรดปรานของมันก็คือท่านนอนหงายท้อง ดูล่อตาเหล่าทาสแมวเป็นยิ่งนัก ที่สำคัญมันนอนไม่ได้เกรงใจคนขายของหรือลูกค้าเลย มันชอบนอนอยู่กลางทางเข้าร้านเสมอ หรือไม่บางครั้งมันก็จะย้ายมานอนอยู่กลางทางเดินร้านแทน ซึ่งคนที่มาซื้อของก็ต้องเดินหลบมันกันเองตามระเบียบ 5555 เห็นแล้วเป็นอะไรที่น่ารัก และแปลกจริงๆ เอาเป็นว่าเราไปชมภาพกันเลยดีกว่าค่ะ









url=https://pic.marketdogs.com/image/HPjZG][/iurl]











1865


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ คนรักเจ้าตูบสี่ขาต้องจุกกันเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของคุณบอลเล่าว่า เขามีคนรู้จักคนหนึ่งชื่อ สิบทิศ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยซื้อสุนัขพิตบูลล์จากเขาไป แต่โชคร้าย คุณสิบทิศป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เขาได้เผยแพร่เรื่องราวนั้นผ่านเฟสบุ๊ค  Ball Tammarong Pocheepun  และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า..



ตอนนั้น คุณสิบทิศเพิ่งเลิกกับภรรยา เลยต้องอยู่คนเดียวกับสุนัขอีก 12 ตัว เงินทองที่เคยมีก็เหลือน้อยลงเต็มที เพราะนอกจากต้องเลี้ยงดูเหล่าสุนัขแล้ว เขายังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งเมื่อถึงจุดที่คุณสิบทิศรู้ว่าไม่สามารถดูแลสุนัขทั้ง 12 ตัวได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจติดต่อไปยังคุณบอล เพื่อให้ช่วยดูแลสุนัขและช่วยขายลูกหมาบางส่วน



การส่งหมาตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงคงเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสำหรับคุณสิบทิศ เพราะตัวเขาเองเริ่มถ่ายเป็นเลือดแล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้ง จะได้กลับออกมาหรือเปล่าสิ่งที่คุณสิบทิศเป็นห่วงมากที่สุดคือ สุนัข เขากลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพวกมัน ไม่มีคนคอยให้น้ำ ให้อาหาร ที่สำคัญ เขาไม่มีที่พึ่งที่ไหนด้วย




คุณบอลจึงรับปากจะช่วยดูแลและหาบ้านใหม่ให้เหล่าเพื่อนๆ 4 ขา ของคุณสิบทิศ แต่ติดตรงที่ว่า เจ้าพิตบูลล์ที่เห็นในรูปนี้ ไม่ยอมอยู่กับใครนอกจากเจ้าของตัวเอง นับตั้งแต่วันที่เจ้าของพามันมาอยู่กับคุณบอล เจ้าพิตบูลล์ก็เอาแต่เห่า และขู่คุณบอลทุกครั้งที่เขาเข้าไปใกล้ เมื่อคุณสิบทิศรู้เข้า ก็ไม่สบายใจ เลยตัดสินใจไปรับมันกลับ ทันทีที่เจ้าพิตบูลล์เห็นคุณสิบทิศ มันก็หยุดเห่าและวิ่งไปกอดเขา อย่างที่เห็นในภาพ


มีคำหนึ่งที่คุณสิบทิศพูดกับเจ้าพิตบูลล์ ซึ่งทำเอาคุณบอลที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก คือ “งั้นกลับไปตายกับกูนี่แหละ”  คุณสิบทิศรับน้องหมากลับไปดูแล ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองอ่อนแรงลงไปทุกวัน… ทุกคนได้แต่หวังว่าเจ้าพิตบูลล์จะได้เจอบ้านใหม่ที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่กับเจ้าของ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับคุณสิบทิศ





1866


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ คนรักเจ้าตูบสี่ขาต้องจุกกันเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของคุณบอลเล่าว่า เขามีคนรู้จักคนหนึ่งชื่อ สิบทิศ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยซื้อสุนัขพิตบูลล์จากเขาไป แต่โชคร้าย คุณสิบทิศป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เขาได้เผยแพร่เรื่องราวนั้นผ่านเฟสบุ๊ค  Ball Tammarong Pocheepun  และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า..



ตอนนั้น คุณสิบทิศเพิ่งเลิกกับภรรยา เลยต้องอยู่คนเดียวกับสุนัขอีก 12 ตัว เงินทองที่เคยมีก็เหลือน้อยลงเต็มที เพราะนอกจากต้องเลี้ยงดูเหล่าสุนัขแล้ว เขายังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งเมื่อถึงจุดที่คุณสิบทิศรู้ว่าไม่สามารถดูแลสุนัขทั้ง 12 ตัวได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจติดต่อไปยังคุณบอล เพื่อให้ช่วยดูแลสุนัขและช่วยขายลูกหมาบางส่วน



การส่งหมาตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงคงเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสำหรับคุณสิบทิศ เพราะตัวเขาเองเริ่มถ่ายเป็นเลือดแล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้ง จะได้กลับออกมาหรือเปล่าสิ่งที่คุณสิบทิศเป็นห่วงมากที่สุดคือ สุนัข เขากลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพวกมัน ไม่มีคนคอยให้น้ำ ให้อาหาร ที่สำคัญ เขาไม่มีที่พึ่งที่ไหนด้วย




คุณบอลจึงรับปากจะช่วยดูแลและหาบ้านใหม่ให้เหล่าเพื่อนๆ 4 ขา ของคุณสิบทิศ แต่ติดตรงที่ว่า เจ้าพิตบูลล์ที่เห็นในรูปนี้ ไม่ยอมอยู่กับใครนอกจากเจ้าของตัวเอง นับตั้งแต่วันที่เจ้าของพามันมาอยู่กับคุณบอล เจ้าพิตบูลล์ก็เอาแต่เห่า และขู่คุณบอลทุกครั้งที่เขาเข้าไปใกล้ เมื่อคุณสิบทิศรู้เข้า ก็ไม่สบายใจ เลยตัดสินใจไปรับมันกลับ ทันทีที่เจ้าพิตบูลล์เห็นคุณสิบทิศ มันก็หยุดเห่าและวิ่งไปกอดเขา อย่างที่เห็นในภาพ


มีคำหนึ่งที่คุณสิบทิศพูดกับเจ้าพิตบูลล์ ซึ่งทำเอาคุณบอลที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก คือ “งั้นกลับไปตายกับกูนี่แหละ”  คุณสิบทิศรับน้องหมากลับไปดูแล ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองอ่อนแรงลงไปทุกวัน… ทุกคนได้แต่หวังว่าเจ้าพิตบูลล์จะได้เจอบ้านใหม่ที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่กับเจ้าของ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับคุณสิบทิศ





1867


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ คนรักเจ้าตูบสี่ขาต้องจุกกันเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของคุณบอลเล่าว่า เขามีคนรู้จักคนหนึ่งชื่อ สิบทิศ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยซื้อสุนัขพิตบูลล์จากเขาไป แต่โชคร้าย คุณสิบทิศป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เขาได้เผยแพร่เรื่องราวนั้นผ่านเฟสบุ๊ค  Ball Tammarong Pocheepun  และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า..



ตอนนั้น คุณสิบทิศเพิ่งเลิกกับภรรยา เลยต้องอยู่คนเดียวกับสุนัขอีก 12 ตัว เงินทองที่เคยมีก็เหลือน้อยลงเต็มที เพราะนอกจากต้องเลี้ยงดูเหล่าสุนัขแล้ว เขายังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งเมื่อถึงจุดที่คุณสิบทิศรู้ว่าไม่สามารถดูแลสุนัขทั้ง 12 ตัวได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจติดต่อไปยังคุณบอล เพื่อให้ช่วยดูแลสุนัขและช่วยขายลูกหมาบางส่วน



การส่งหมาตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงคงเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสำหรับคุณสิบทิศ เพราะตัวเขาเองเริ่มถ่ายเป็นเลือดแล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้ง จะได้กลับออกมาหรือเปล่าสิ่งที่คุณสิบทิศเป็นห่วงมากที่สุดคือ สุนัข เขากลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพวกมัน ไม่มีคนคอยให้น้ำ ให้อาหาร ที่สำคัญ เขาไม่มีที่พึ่งที่ไหนด้วย




คุณบอลจึงรับปากจะช่วยดูแลและหาบ้านใหม่ให้เหล่าเพื่อนๆ 4 ขา ของคุณสิบทิศ แต่ติดตรงที่ว่า เจ้าพิตบูลล์ที่เห็นในรูปนี้ ไม่ยอมอยู่กับใครนอกจากเจ้าของตัวเอง นับตั้งแต่วันที่เจ้าของพามันมาอยู่กับคุณบอล เจ้าพิตบูลล์ก็เอาแต่เห่า และขู่คุณบอลทุกครั้งที่เขาเข้าไปใกล้ เมื่อคุณสิบทิศรู้เข้า ก็ไม่สบายใจ เลยตัดสินใจไปรับมันกลับ ทันทีที่เจ้าพิตบูลล์เห็นคุณสิบทิศ มันก็หยุดเห่าและวิ่งไปกอดเขา อย่างที่เห็นในภาพ


มีคำหนึ่งที่คุณสิบทิศพูดกับเจ้าพิตบูลล์ ซึ่งทำเอาคุณบอลที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก คือ “งั้นกลับไปตายกับกูนี่แหละ”  คุณสิบทิศรับน้องหมากลับไปดูแล ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองอ่อนแรงลงไปทุกวัน… ทุกคนได้แต่หวังว่าเจ้าพิตบูลล์จะได้เจอบ้านใหม่ที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่กับเจ้าของ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับคุณสิบทิศ





1868


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ คนรักเจ้าตูบสี่ขาต้องจุกกันเลยก็ว่าได้ สำหรับเรื่องราวของคุณบอลเล่าว่า เขามีคนรู้จักคนหนึ่งชื่อ สิบทิศ ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยซื้อสุนัขพิตบูลล์จากเขาไป แต่โชคร้าย คุณสิบทิศป่วยด้วยโรคมะเร็งระยะสุดท้าย เขาได้เผยแพร่เรื่องราวนั้นผ่านเฟสบุ๊ค  Ball Tammarong Pocheepun  และได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า..



ตอนนั้น คุณสิบทิศเพิ่งเลิกกับภรรยา เลยต้องอยู่คนเดียวกับสุนัขอีก 12 ตัว เงินทองที่เคยมีก็เหลือน้อยลงเต็มที เพราะนอกจากต้องเลี้ยงดูเหล่าสุนัขแล้ว เขายังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้งเมื่อถึงจุดที่คุณสิบทิศรู้ว่าไม่สามารถดูแลสุนัขทั้ง 12 ตัวได้แล้ว เขาจึงตัดสินใจติดต่อไปยังคุณบอล เพื่อให้ช่วยดูแลสุนัขและช่วยขายลูกหมาบางส่วน



การส่งหมาตัวเองให้คนอื่นเลี้ยงคงเป็นทางเลือกสุดท้ายแล้วสำหรับคุณสิบทิศ เพราะตัวเขาเองเริ่มถ่ายเป็นเลือดแล้ว และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเวลาเข้าโรงพยาบาลแต่ละครั้ง จะได้กลับออกมาหรือเปล่าสิ่งที่คุณสิบทิศเป็นห่วงมากที่สุดคือ สุนัข เขากลัวว่าจะไม่มีใครดูแลพวกมัน ไม่มีคนคอยให้น้ำ ให้อาหาร ที่สำคัญ เขาไม่มีที่พึ่งที่ไหนด้วย




คุณบอลจึงรับปากจะช่วยดูแลและหาบ้านใหม่ให้เหล่าเพื่อนๆ 4 ขา ของคุณสิบทิศ แต่ติดตรงที่ว่า เจ้าพิตบูลล์ที่เห็นในรูปนี้ ไม่ยอมอยู่กับใครนอกจากเจ้าของตัวเอง นับตั้งแต่วันที่เจ้าของพามันมาอยู่กับคุณบอล เจ้าพิตบูลล์ก็เอาแต่เห่า และขู่คุณบอลทุกครั้งที่เขาเข้าไปใกล้ เมื่อคุณสิบทิศรู้เข้า ก็ไม่สบายใจ เลยตัดสินใจไปรับมันกลับ ทันทีที่เจ้าพิตบูลล์เห็นคุณสิบทิศ มันก็หยุดเห่าและวิ่งไปกอดเขา อย่างที่เห็นในภาพ


มีคำหนึ่งที่คุณสิบทิศพูดกับเจ้าพิตบูลล์ ซึ่งทำเอาคุณบอลที่ได้ยินถึงกับพูดไม่ออก คือ “งั้นกลับไปตายกับกูนี่แหละ”  คุณสิบทิศรับน้องหมากลับไปดูแล ทั้งๆ ที่ร่างกายของตัวเองอ่อนแรงลงไปทุกวัน… ทุกคนได้แต่หวังว่าเจ้าพิตบูลล์จะได้เจอบ้านใหม่ที่ทำให้มันรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่กับเจ้าของ เพื่อเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายสำหรับคุณสิบทิศ





1869


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เป็นเรื่องราวของสุนัขจรจัด ที่ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีอาหารให้กิน เหมือนกันเจ้า Ellen เป็นสุนัขจรจัดที่ถูกพบบนถนนในเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอาสาสมัครของศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และสิ่งที่แรกที่พวกเขาทำคือ การพามันกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ



เจ้าหน้าที่พบว่า Ellen มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ขาดสารอาหารเท่านั้น แต่ผิวของมันหนังทั้งแดงและมันคงจะแสบไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัว จากสภาพที่เห็นอยู่นี้ แทบไม่มีใครเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันอายุแค่ 5 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ทว่าอาสาสมัครที่ช่วยมันไว้ ไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้



พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shirley Zindler จาก Dogwood Animal Rescue Project ให้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้แน่นอน Zindler ตอบตกลงทันที เธออ้าแขนช่วยเหลือ Ellen ด้วยความเต็มใจ โดยมุ่งมั่นทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่มีความสุขและมีสุขภาพดีแม้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ Ellen ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เพราะมันต้องทานยาแก้อักเสบและอาบน้ำฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง


แต่ในที่สุด มันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และขนของมันก็เริ่มงอกใหม่อีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดหายไป ความสดใสของ Ellen ก็เริ่มเปล่งประกายออกมาให้เห็นตอนนี้มันมีความสุขกับการเล่นของเล่น และการเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
เรื่องราวของ Ellen เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้ จากสุนัขที่แทบจะดูไม่ได้ กลายเป็นน้องหมาที่ดูสวยงานและพร้อมที่จะมีความสุขกับชีวิตใหม่ จากนั้นไม่นาน Ellen ก็มีคนนั้นรับไปเลี้ยงดู เพราะว่าเรื่องราวของมันนั้นได้ถูกเผยแพร่และมีแต่คนเข้ามาสนใจและรับมันไปเลี้ยงกับครอบครัวที่อบอุ่น








1870


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เป็นเรื่องราวของสุนัขจรจัด ที่ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีอาหารให้กิน เหมือนกันเจ้า Ellen เป็นสุนัขจรจัดที่ถูกพบบนถนนในเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอาสาสมัครของศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และสิ่งที่แรกที่พวกเขาทำคือ การพามันกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ



เจ้าหน้าที่พบว่า Ellen มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ขาดสารอาหารเท่านั้น แต่ผิวของมันหนังทั้งแดงและมันคงจะแสบไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัว จากสภาพที่เห็นอยู่นี้ แทบไม่มีใครเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันอายุแค่ 5 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ทว่าอาสาสมัครที่ช่วยมันไว้ ไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้



พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shirley Zindler จาก Dogwood Animal Rescue Project ให้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้แน่นอน Zindler ตอบตกลงทันที เธออ้าแขนช่วยเหลือ Ellen ด้วยความเต็มใจ โดยมุ่งมั่นทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่มีความสุขและมีสุขภาพดีแม้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ Ellen ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เพราะมันต้องทานยาแก้อักเสบและอาบน้ำฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง


แต่ในที่สุด มันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และขนของมันก็เริ่มงอกใหม่อีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดหายไป ความสดใสของ Ellen ก็เริ่มเปล่งประกายออกมาให้เห็นตอนนี้มันมีความสุขกับการเล่นของเล่น และการเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
เรื่องราวของ Ellen เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้ จากสุนัขที่แทบจะดูไม่ได้ กลายเป็นน้องหมาที่ดูสวยงานและพร้อมที่จะมีความสุขกับชีวิตใหม่ จากนั้นไม่นาน Ellen ก็มีคนนั้นรับไปเลี้ยงดู เพราะว่าเรื่องราวของมันนั้นได้ถูกเผยแพร่และมีแต่คนเข้ามาสนใจและรับมันไปเลี้ยงกับครอบครัวที่อบอุ่น








1871


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เป็นเรื่องราวของสุนัขจรจัด ที่ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีอาหารให้กิน เหมือนกันเจ้า Ellen เป็นสุนัขจรจัดที่ถูกพบบนถนนในเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอาสาสมัครของศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และสิ่งที่แรกที่พวกเขาทำคือ การพามันกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ



เจ้าหน้าที่พบว่า Ellen มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ขาดสารอาหารเท่านั้น แต่ผิวของมันหนังทั้งแดงและมันคงจะแสบไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัว จากสภาพที่เห็นอยู่นี้ แทบไม่มีใครเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันอายุแค่ 5 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ทว่าอาสาสมัครที่ช่วยมันไว้ ไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้



พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shirley Zindler จาก Dogwood Animal Rescue Project ให้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้แน่นอน Zindler ตอบตกลงทันที เธออ้าแขนช่วยเหลือ Ellen ด้วยความเต็มใจ โดยมุ่งมั่นทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่มีความสุขและมีสุขภาพดีแม้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ Ellen ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เพราะมันต้องทานยาแก้อักเสบและอาบน้ำฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง


แต่ในที่สุด มันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และขนของมันก็เริ่มงอกใหม่อีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดหายไป ความสดใสของ Ellen ก็เริ่มเปล่งประกายออกมาให้เห็นตอนนี้มันมีความสุขกับการเล่นของเล่น และการเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
เรื่องราวของ Ellen เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้ จากสุนัขที่แทบจะดูไม่ได้ กลายเป็นน้องหมาที่ดูสวยงานและพร้อมที่จะมีความสุขกับชีวิตใหม่ จากนั้นไม่นาน Ellen ก็มีคนนั้นรับไปเลี้ยงดู เพราะว่าเรื่องราวของมันนั้นได้ถูกเผยแพร่และมีแต่คนเข้ามาสนใจและรับมันไปเลี้ยงกับครอบครัวที่อบอุ่น








1872


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เป็นเรื่องราวของสุนัขจรจัด ที่ไม่มีที่ไป ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน ไม่มีอาหารให้กิน เหมือนกันเจ้า Ellen เป็นสุนัขจรจัดที่ถูกพบบนถนนในเฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยอาสาสมัครของศูนย์พักพิงในท้องถิ่น และสิ่งที่แรกที่พวกเขาทำคือ การพามันกลับไปยังศูนย์ช่วยเหลือ



เจ้าหน้าที่พบว่า Ellen มีปัญหาสุขภาพอย่างรุนแรง ซึ่งไม่ใช่ขาดสารอาหารเท่านั้น แต่ผิวของมันหนังทั้งแดงและมันคงจะแสบไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ขนของมันร่วงเกือบทั้งตัว จากสภาพที่เห็นอยู่นี้ แทบไม่มีใครเชื่อว่าจริงๆ แล้วมันอายุแค่ 5 เดือนเท่านั้น แน่นอนว่ามันจำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น แต่ทว่าอาสาสมัครที่ช่วยมันไว้ ไม่สามารถรับผิดชอบในส่วนนี้ได้



พวกเขาจึงติดต่อไปยัง Shirley Zindler จาก Dogwood Animal Rescue Project ให้เข้ามามีส่วนช่วยในเรื่องนี้แน่นอน Zindler ตอบตกลงทันที เธออ้าแขนช่วยเหลือ Ellen ด้วยความเต็มใจ โดยมุ่งมั่นทำให้มันกลายเป็นสุนัขที่มีความสุขและมีสุขภาพดีแม้จะได้รับการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่ Ellen ฟื้นตัวค่อนข้างช้า เพราะมันต้องทานยาแก้อักเสบและอาบน้ำฆ่าเชื้ออย่างต่อเนื่อง


แต่ในที่สุด มันก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น และขนของมันก็เริ่มงอกใหม่อีกครั้ง เมื่อความเจ็บปวดหายไป ความสดใสของ Ellen ก็เริ่มเปล่งประกายออกมาให้เห็นตอนนี้มันมีความสุขกับการเล่นของเล่น และการเล่นกับสุนัขตัวอื่นๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น
เรื่องราวของ Ellen เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าความรักสามารถเปลี่ยนโลกได้ จากสุนัขที่แทบจะดูไม่ได้ กลายเป็นน้องหมาที่ดูสวยงานและพร้อมที่จะมีความสุขกับชีวิตใหม่ จากนั้นไม่นาน Ellen ก็มีคนนั้นรับไปเลี้ยงดู เพราะว่าเรื่องราวของมันนั้นได้ถูกเผยแพร่และมีแต่คนเข้ามาสนใจและรับมันไปเลี้ยงกับครอบครัวที่อบอุ่น








1873


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้แชร์ในโลกออนไลน์ จากเว็บไซน์ต่างประเทศ เรื่องมีอยู่ว่า Metro Animal Care and Control (MACC) รับลูกแมวตัวเล็กๆ วัย 5 วันตัวหนึ่งมาอยู่ในการดูแล พวกเขาไม่คิดว่ามันจะรอด เพราะอาการของมันแย่ลงทุกชั่วโมง แมวน้อยจำเป็นต้องอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ที่ศูนย์ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ Jade Beazley ซึ่งเป็นอาสาสมัครใหม่จึงอาสาพามันกลับไปดูแลที่บ้าน



Jade บอกว่า “แมวน้อยป่วยหนักมาก มันมีอาการติดเชื้อที่ตาทั้ง 2 ข้าง และได้กินอาหารไม่เพียงพอ ฉันไม่อยากตั้งชื่อให้มัน เพราะกลัวว่ามันจะไม่รอด เลยเรียกมันว่า Squirt“ เวลาผ่านไป Jade คิดว่าอาการลูกแมวน่าจะดีขึ้นแล้ว แต่อยู่ดีๆ มันก็ทรุดลงไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็น Squirt สู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เธอก็มีแรงบันดาลใจในการสู้ไปกับมันเช่นกัน Jade ได้ไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นทุกอย่างสำหรับแมวน้อย และมุ่งมั่นที่จะทำทุกทาง เพื่อให้ Squirt กลับมายืนด้วยขาตัวเองให้ได้



นอกจากนี้ เธอยังซื้อตุุ๊กตาที่หัวใจเต้นได้ให้มัน และให้นอนบนที่นอนที่ล้อมรอบด้วยแผ่นทำความร้อน โดยที่เธอเองก็นอนข้างๆ มัน ลูกแมวจึงเริ่มกอดแขนเธอแล้วหลับไป ด้วยความรักมากมายจาก Jade มิ้วน้อยก็เริ่มกินได้มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น และแข็งแรงมากขึ้น ส่วนตา หญิงสาวได้รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ จนตามันเริ่มสะอาดขึ้น



“ฉันให้มันอยู่ติดกับฉันตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนทำงาน เพื่อที่จะป้อนอาหารให้มันได้ ดูแลการขับถ่ายของมันได้ และเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 1 เดือน” หญิงสาวบอก 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับลูกแมวทั่วไปแล้ว มันมีพัฒนาการที่ช้ามาก ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่ามันจะกินอาหารได้ แต่ตอนนี้ มันสามารถกินอาหารด้วยตัวเองได้แล้ว



Squirt มีความอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น ซุ่มซ่าม แล้วก็ตลกมากด้วย ที่สำคัญมันกลายเป็นเพื่อนสนิทของ Jade ไม่ว่าเธอเดินไปไหน มันจะเดินตามเธอไปทุกที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องหาบ้าน Squirt ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของ Jade เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนที่จะรับเลี้ยง หญิงสาวเองก็เพิ่งสูญเสียแมววัย 14 ปีครึ่ง และเธอยังเสียใจอยู่เสมอ ดังนั้น เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดนั้น เธอจึงตัดสินใจรับเลี้ยง Squirt เพียงไม่กี่เดือนต่อมา Squirt ก็เติบโตแบบก้าวกระโดด “เจ้าแมวตัวนี้ขโมยหัวใจของฉันไป มันทำให้การเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉันล้มเหลว แต่ฉันรักมันและรักทุกอย่างที่เป็นมัน” หญิงสาวบอก












1874


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้แชร์ในโลกออนไลน์ จากเว็บไซน์ต่างประเทศ เรื่องมีอยู่ว่า Metro Animal Care and Control (MACC) รับลูกแมวตัวเล็กๆ วัย 5 วันตัวหนึ่งมาอยู่ในการดูแล พวกเขาไม่คิดว่ามันจะรอด เพราะอาการของมันแย่ลงทุกชั่วโมง แมวน้อยจำเป็นต้องอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ที่ศูนย์ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ Jade Beazley ซึ่งเป็นอาสาสมัครใหม่จึงอาสาพามันกลับไปดูแลที่บ้าน



Jade บอกว่า “แมวน้อยป่วยหนักมาก มันมีอาการติดเชื้อที่ตาทั้ง 2 ข้าง และได้กินอาหารไม่เพียงพอ ฉันไม่อยากตั้งชื่อให้มัน เพราะกลัวว่ามันจะไม่รอด เลยเรียกมันว่า Squirt“ เวลาผ่านไป Jade คิดว่าอาการลูกแมวน่าจะดีขึ้นแล้ว แต่อยู่ดีๆ มันก็ทรุดลงไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็น Squirt สู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เธอก็มีแรงบันดาลใจในการสู้ไปกับมันเช่นกัน Jade ได้ไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นทุกอย่างสำหรับแมวน้อย และมุ่งมั่นที่จะทำทุกทาง เพื่อให้ Squirt กลับมายืนด้วยขาตัวเองให้ได้



นอกจากนี้ เธอยังซื้อตุุ๊กตาที่หัวใจเต้นได้ให้มัน และให้นอนบนที่นอนที่ล้อมรอบด้วยแผ่นทำความร้อน โดยที่เธอเองก็นอนข้างๆ มัน ลูกแมวจึงเริ่มกอดแขนเธอแล้วหลับไป ด้วยความรักมากมายจาก Jade มิ้วน้อยก็เริ่มกินได้มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น และแข็งแรงมากขึ้น ส่วนตา หญิงสาวได้รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ จนตามันเริ่มสะอาดขึ้น



“ฉันให้มันอยู่ติดกับฉันตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนทำงาน เพื่อที่จะป้อนอาหารให้มันได้ ดูแลการขับถ่ายของมันได้ และเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 1 เดือน” หญิงสาวบอก 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับลูกแมวทั่วไปแล้ว มันมีพัฒนาการที่ช้ามาก ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่ามันจะกินอาหารได้ แต่ตอนนี้ มันสามารถกินอาหารด้วยตัวเองได้แล้ว



Squirt มีความอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น ซุ่มซ่าม แล้วก็ตลกมากด้วย ที่สำคัญมันกลายเป็นเพื่อนสนิทของ Jade ไม่ว่าเธอเดินไปไหน มันจะเดินตามเธอไปทุกที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องหาบ้าน Squirt ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของ Jade เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนที่จะรับเลี้ยง หญิงสาวเองก็เพิ่งสูญเสียแมววัย 14 ปีครึ่ง และเธอยังเสียใจอยู่เสมอ ดังนั้น เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดนั้น เธอจึงตัดสินใจรับเลี้ยง Squirt เพียงไม่กี่เดือนต่อมา Squirt ก็เติบโตแบบก้าวกระโดด “เจ้าแมวตัวนี้ขโมยหัวใจของฉันไป มันทำให้การเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉันล้มเหลว แต่ฉันรักมันและรักทุกอย่างที่เป็นมัน” หญิงสาวบอก












1875


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้แชร์ในโลกออนไลน์ จากเว็บไซน์ต่างประเทศ เรื่องมีอยู่ว่า Metro Animal Care and Control (MACC) รับลูกแมวตัวเล็กๆ วัย 5 วันตัวหนึ่งมาอยู่ในการดูแล พวกเขาไม่คิดว่ามันจะรอด เพราะอาการของมันแย่ลงทุกชั่วโมง แมวน้อยจำเป็นต้องอยู่ในบ้านอุปถัมภ์ เพื่อรับการดูแลอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง แต่ที่ศูนย์ไม่มีเจ้าหน้าที่อยู่ประจำ Jade Beazley ซึ่งเป็นอาสาสมัครใหม่จึงอาสาพามันกลับไปดูแลที่บ้าน



Jade บอกว่า “แมวน้อยป่วยหนักมาก มันมีอาการติดเชื้อที่ตาทั้ง 2 ข้าง และได้กินอาหารไม่เพียงพอ ฉันไม่อยากตั้งชื่อให้มัน เพราะกลัวว่ามันจะไม่รอด เลยเรียกมันว่า Squirt“ เวลาผ่านไป Jade คิดว่าอาการลูกแมวน่าจะดีขึ้นแล้ว แต่อยู่ดีๆ มันก็ทรุดลงไปอีก อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็น Squirt สู้ด้วยกำลังทั้งหมดที่มี เธอก็มีแรงบันดาลใจในการสู้ไปกับมันเช่นกัน Jade ได้ไปซื้ออาหารและของใช้จำเป็นทุกอย่างสำหรับแมวน้อย และมุ่งมั่นที่จะทำทุกทาง เพื่อให้ Squirt กลับมายืนด้วยขาตัวเองให้ได้



นอกจากนี้ เธอยังซื้อตุุ๊กตาที่หัวใจเต้นได้ให้มัน และให้นอนบนที่นอนที่ล้อมรอบด้วยแผ่นทำความร้อน โดยที่เธอเองก็นอนข้างๆ มัน ลูกแมวจึงเริ่มกอดแขนเธอแล้วหลับไป ด้วยความรักมากมายจาก Jade มิ้วน้อยก็เริ่มกินได้มากขึ้น น้ำหนักเพิ่มขึ้น และแข็งแรงมากขึ้น ส่วนตา หญิงสาวได้รักษาด้วยยาปฏิชีวนะ จนตามันเริ่มสะอาดขึ้น



“ฉันให้มันอยู่ติดกับฉันตลอดเวลา ไม่เว้นแม้แต่ตอนทำงาน เพื่อที่จะป้อนอาหารให้มันได้ ดูแลการขับถ่ายของมันได้ และเพื่อให้แน่ใจว่ามันจะมีชีวิตอยู่ได้มากกว่า 1 เดือน” หญิงสาวบอก 2 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับลูกแมวทั่วไปแล้ว มันมีพัฒนาการที่ช้ามาก ต้องใช้เวลาค่อนข้างนานกว่ามันจะกินอาหารได้ แต่ตอนนี้ มันสามารถกินอาหารด้วยตัวเองได้แล้ว



Squirt มีความอยากรู้อยากเห็น ขี้เล่น ซุ่มซ่าม แล้วก็ตลกมากด้วย ที่สำคัญมันกลายเป็นเพื่อนสนิทของ Jade ไม่ว่าเธอเดินไปไหน มันจะเดินตามเธอไปทุกที่เมื่อถึงเวลาที่ต้องหาบ้าน Squirt ก็ได้เข้าไปอยู่ในใจของ Jade เรียบร้อยแล้ว ซึ่งก่อนที่จะรับเลี้ยง หญิงสาวเองก็เพิ่งสูญเสียแมววัย 14 ปีครึ่ง และเธอยังเสียใจอยู่เสมอ ดังนั้น เพื่อเยียวยาความเจ็บปวดนั้น เธอจึงตัดสินใจรับเลี้ยง Squirt เพียงไม่กี่เดือนต่อมา Squirt ก็เติบโตแบบก้าวกระโดด “เจ้าแมวตัวนี้ขโมยหัวใจของฉันไป มันทำให้การเป็นผู้อุปถัมภ์ของฉันล้มเหลว แต่ฉันรักมันและรักทุกอย่างที่เป็นมัน” หญิงสาวบอก