แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Smile Smile

1801


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เมื่อ Georgina Price ได้พบกับ Toby เธอบอกได้เลยว่ามันเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ และเธอไม่เพียงแค่พามันกลับบ้าน แต่ยังพาเพื่อนรักของมันไปด้วย Toby เป็นแมววัย 6 ขวบ ที่เกิดมาพร้อมกับอาการ Feline Cutaneous Asthenia (FCA) ซึ่งเป็นสภาพที่ผิวหนังของแมวบอบบางและฟกช้ำได้ง่าย ส่งผลให้มันดูแก่กว่าวัย



อย่างไรก็ตาม ความผิดปกตินั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ Georgina ตกหลุมรักมัน โดยตอนแรกที่ Georgina กับคู่หมั้น Christopher Lardner พบ Toby มันยืนอยู่ที่มุมห้องและพยายามหลบหลังเพื่อนรัก QuintonGeorgina เล่าว่า “ฉันเห็นพวกมันครั้งแรกบนเว็บไซต์ของ RSPCA และได้ตกหลุมรักทันที ฉันจึงเดินทางมาหาพวกมัน แต่ตอนเมื่อเจอกัน ทั้งคู่ดูหวาดกลัวมาก และพยายามซ่อนตัว”



“โดยเฉพาะ Toby มันพยายามหลบอยู่หลัง Quinton ตลอดเวลา ฉันจึงไม่ได้แตะต้องตัวมันเลย เพราะเกรงว่าจะทำให้มันยิ่งกลัวมากว่าเดิม”ทั้งนี้ ทางศูนย์พักพิงบอกว่าทั้งคู่ถูกพาเข้ามาในศูนย์ด้วยสภาพที่แย่มากๆ Quinton ต้องถูกถอนฟันออกทั้งหมด ส่วน Toby ต้องถอนแค่บางซี่แต่ไม่ว่าเจอกับสถานการณ์ที่น่ากลัวแค่ไหน ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอ ทางผู้ดูแลจึงรู้ว่าพวกมันต้องการกันและกัน และหากถูกรับเลี้ยง พวกมันจะต้องถูกรับเลี้ยงด้วยกัน



ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ Georgina เห็นว่าใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอจึงตัดสินที่จะพาพวกมันกลับบ้านและมอบความรักให้เธอบอกว่า “เราจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี มอบความรักให้พวกมัน และทำให้ทั้งคู่รู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ”หลังจากได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของ 2 คู่หูแมวแล้ว Georgina กับคู่หมั้นก็ได้กรอกเอกสารการรับเลี้ยง และต้อนรับพวกมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างเป็นทางการ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Toby ยังคงหวาดกลัว มันเอาแต่หลบในที่ซ่อนที่มันค้นพบในบ้านหลังใหม่ โดยมีเพื่อนรักอยู่เคียงข้างเสมอ



Georgina บอกว่า “เราจะวางอาหารไว้ให้พวกมันที่ใต้เตียง แต่พวกมันจะไม่ออกมากินจนกว่าเราจะออกจากบ้านหรือนอนหลับ”แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานที่จะทำให้ 2 แมวเหมียวเลิกหวาดกลัว แต่ด้วยความรักและความอดทน ในที่สุด ทั้งคู่ก็เริ่มไว้ใจ Georgina กับคู่หมั้น








1802


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เมื่อ Georgina Price ได้พบกับ Toby เธอบอกได้เลยว่ามันเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ และเธอไม่เพียงแค่พามันกลับบ้าน แต่ยังพาเพื่อนรักของมันไปด้วย Toby เป็นแมววัย 6 ขวบ ที่เกิดมาพร้อมกับอาการ Feline Cutaneous Asthenia (FCA) ซึ่งเป็นสภาพที่ผิวหนังของแมวบอบบางและฟกช้ำได้ง่าย ส่งผลให้มันดูแก่กว่าวัย



อย่างไรก็ตาม ความผิดปกตินั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ Georgina ตกหลุมรักมัน โดยตอนแรกที่ Georgina กับคู่หมั้น Christopher Lardner พบ Toby มันยืนอยู่ที่มุมห้องและพยายามหลบหลังเพื่อนรัก QuintonGeorgina เล่าว่า “ฉันเห็นพวกมันครั้งแรกบนเว็บไซต์ของ RSPCA และได้ตกหลุมรักทันที ฉันจึงเดินทางมาหาพวกมัน แต่ตอนเมื่อเจอกัน ทั้งคู่ดูหวาดกลัวมาก และพยายามซ่อนตัว”



“โดยเฉพาะ Toby มันพยายามหลบอยู่หลัง Quinton ตลอดเวลา ฉันจึงไม่ได้แตะต้องตัวมันเลย เพราะเกรงว่าจะทำให้มันยิ่งกลัวมากว่าเดิม”ทั้งนี้ ทางศูนย์พักพิงบอกว่าทั้งคู่ถูกพาเข้ามาในศูนย์ด้วยสภาพที่แย่มากๆ Quinton ต้องถูกถอนฟันออกทั้งหมด ส่วน Toby ต้องถอนแค่บางซี่แต่ไม่ว่าเจอกับสถานการณ์ที่น่ากลัวแค่ไหน ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอ ทางผู้ดูแลจึงรู้ว่าพวกมันต้องการกันและกัน และหากถูกรับเลี้ยง พวกมันจะต้องถูกรับเลี้ยงด้วยกัน



ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ Georgina เห็นว่าใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอจึงตัดสินที่จะพาพวกมันกลับบ้านและมอบความรักให้เธอบอกว่า “เราจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี มอบความรักให้พวกมัน และทำให้ทั้งคู่รู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ”หลังจากได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของ 2 คู่หูแมวแล้ว Georgina กับคู่หมั้นก็ได้กรอกเอกสารการรับเลี้ยง และต้อนรับพวกมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างเป็นทางการ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Toby ยังคงหวาดกลัว มันเอาแต่หลบในที่ซ่อนที่มันค้นพบในบ้านหลังใหม่ โดยมีเพื่อนรักอยู่เคียงข้างเสมอ



Georgina บอกว่า “เราจะวางอาหารไว้ให้พวกมันที่ใต้เตียง แต่พวกมันจะไม่ออกมากินจนกว่าเราจะออกจากบ้านหรือนอนหลับ”แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานที่จะทำให้ 2 แมวเหมียวเลิกหวาดกลัว แต่ด้วยความรักและความอดทน ในที่สุด ทั้งคู่ก็เริ่มไว้ใจ Georgina กับคู่หมั้น








1803


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เมื่อ Georgina Price ได้พบกับ Toby เธอบอกได้เลยว่ามันเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ และเธอไม่เพียงแค่พามันกลับบ้าน แต่ยังพาเพื่อนรักของมันไปด้วย Toby เป็นแมววัย 6 ขวบ ที่เกิดมาพร้อมกับอาการ Feline Cutaneous Asthenia (FCA) ซึ่งเป็นสภาพที่ผิวหนังของแมวบอบบางและฟกช้ำได้ง่าย ส่งผลให้มันดูแก่กว่าวัย



อย่างไรก็ตาม ความผิดปกตินั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ Georgina ตกหลุมรักมัน โดยตอนแรกที่ Georgina กับคู่หมั้น Christopher Lardner พบ Toby มันยืนอยู่ที่มุมห้องและพยายามหลบหลังเพื่อนรัก QuintonGeorgina เล่าว่า “ฉันเห็นพวกมันครั้งแรกบนเว็บไซต์ของ RSPCA และได้ตกหลุมรักทันที ฉันจึงเดินทางมาหาพวกมัน แต่ตอนเมื่อเจอกัน ทั้งคู่ดูหวาดกลัวมาก และพยายามซ่อนตัว”



“โดยเฉพาะ Toby มันพยายามหลบอยู่หลัง Quinton ตลอดเวลา ฉันจึงไม่ได้แตะต้องตัวมันเลย เพราะเกรงว่าจะทำให้มันยิ่งกลัวมากว่าเดิม”ทั้งนี้ ทางศูนย์พักพิงบอกว่าทั้งคู่ถูกพาเข้ามาในศูนย์ด้วยสภาพที่แย่มากๆ Quinton ต้องถูกถอนฟันออกทั้งหมด ส่วน Toby ต้องถอนแค่บางซี่แต่ไม่ว่าเจอกับสถานการณ์ที่น่ากลัวแค่ไหน ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอ ทางผู้ดูแลจึงรู้ว่าพวกมันต้องการกันและกัน และหากถูกรับเลี้ยง พวกมันจะต้องถูกรับเลี้ยงด้วยกัน



ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ Georgina เห็นว่าใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอจึงตัดสินที่จะพาพวกมันกลับบ้านและมอบความรักให้เธอบอกว่า “เราจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี มอบความรักให้พวกมัน และทำให้ทั้งคู่รู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ”หลังจากได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของ 2 คู่หูแมวแล้ว Georgina กับคู่หมั้นก็ได้กรอกเอกสารการรับเลี้ยง และต้อนรับพวกมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างเป็นทางการ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Toby ยังคงหวาดกลัว มันเอาแต่หลบในที่ซ่อนที่มันค้นพบในบ้านหลังใหม่ โดยมีเพื่อนรักอยู่เคียงข้างเสมอ



Georgina บอกว่า “เราจะวางอาหารไว้ให้พวกมันที่ใต้เตียง แต่พวกมันจะไม่ออกมากินจนกว่าเราจะออกจากบ้านหรือนอนหลับ”แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานที่จะทำให้ 2 แมวเหมียวเลิกหวาดกลัว แต่ด้วยความรักและความอดทน ในที่สุด ทั้งคู่ก็เริ่มไว้ใจ Georgina กับคู่หมั้น








1804


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ เมื่อ Georgina Price ได้พบกับ Toby เธอบอกได้เลยว่ามันเป็นแมวที่สมบูรณ์แบบ และเธอไม่เพียงแค่พามันกลับบ้าน แต่ยังพาเพื่อนรักของมันไปด้วย Toby เป็นแมววัย 6 ขวบ ที่เกิดมาพร้อมกับอาการ Feline Cutaneous Asthenia (FCA) ซึ่งเป็นสภาพที่ผิวหนังของแมวบอบบางและฟกช้ำได้ง่าย ส่งผลให้มันดูแก่กว่าวัย



อย่างไรก็ตาม ความผิดปกตินั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคที่ทำให้ Georgina ตกหลุมรักมัน โดยตอนแรกที่ Georgina กับคู่หมั้น Christopher Lardner พบ Toby มันยืนอยู่ที่มุมห้องและพยายามหลบหลังเพื่อนรัก QuintonGeorgina เล่าว่า “ฉันเห็นพวกมันครั้งแรกบนเว็บไซต์ของ RSPCA และได้ตกหลุมรักทันที ฉันจึงเดินทางมาหาพวกมัน แต่ตอนเมื่อเจอกัน ทั้งคู่ดูหวาดกลัวมาก และพยายามซ่อนตัว”



“โดยเฉพาะ Toby มันพยายามหลบอยู่หลัง Quinton ตลอดเวลา ฉันจึงไม่ได้แตะต้องตัวมันเลย เพราะเกรงว่าจะทำให้มันยิ่งกลัวมากว่าเดิม”ทั้งนี้ ทางศูนย์พักพิงบอกว่าทั้งคู่ถูกพาเข้ามาในศูนย์ด้วยสภาพที่แย่มากๆ Quinton ต้องถูกถอนฟันออกทั้งหมด ส่วน Toby ต้องถอนแค่บางซี่แต่ไม่ว่าเจอกับสถานการณ์ที่น่ากลัวแค่ไหน ทั้งคู่จะอยู่ด้วยกันเสมอ ทางผู้ดูแลจึงรู้ว่าพวกมันต้องการกันและกัน และหากถูกรับเลี้ยง พวกมันจะต้องถูกรับเลี้ยงด้วยกัน



ทั้งคู่อยู่ด้วยกันก็จริง แต่ Georgina เห็นว่าใบหน้าของทั้งคู่เต็มไปด้วยความเศร้า เธอจึงตัดสินที่จะพาพวกมันกลับบ้านและมอบความรักให้เธอบอกว่า “เราจะดูแลพวกมันเป็นอย่างดี มอบความรักให้พวกมัน และทำให้ทั้งคู่รู้สึกปลอดภัยอยู่เสมอ”หลังจากได้ทราบเรื่องราวต่างๆ ของ 2 คู่หูแมวแล้ว Georgina กับคู่หมั้นก็ได้กรอกเอกสารการรับเลี้ยง และต้อนรับพวกมันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวอย่างเป็นทางการ ไม่กี่สัปดาห์ต่อมา Toby ยังคงหวาดกลัว มันเอาแต่หลบในที่ซ่อนที่มันค้นพบในบ้านหลังใหม่ โดยมีเพื่อนรักอยู่เคียงข้างเสมอ



Georgina บอกว่า “เราจะวางอาหารไว้ให้พวกมันที่ใต้เตียง แต่พวกมันจะไม่ออกมากินจนกว่าเราจะออกจากบ้านหรือนอนหลับ”แม้จะใช้เวลาค่อนข้างนานที่จะทำให้ 2 แมวเหมียวเลิกหวาดกลัว แต่ด้วยความรักและความอดทน ในที่สุด ทั้งคู่ก็เริ่มไว้ใจ Georgina กับคู่หมั้น








1805


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าของคุณ ต๋อย เธอนั้นได้เจอแมวตัวหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เธอเป็นคนชอบออกกำลังกาย และระหว่างที่เธอกำลังวิ่งอยู่เธอก็เจอมันอยู่ข้างทางคนรักแมวอย่างเธอได้เห็นแมวจรจัดแบบนี้ก็รู้สึกสงสาร แต่ด้วยความที่บ้านของเธอก็เลี้ยงแมวไว้เยอะแล้ว จะรับไปเลี้ยงอีกก็กลัวจะดูแลไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่เก็บมันมาแล้ววิ่งต่อไปแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเจ้าแมวมันจะวิ่งตามเธอมา



แถมไม่ได้ตามมาแป๊บเดียวด้วย มันวิ่งตามเธอมาแบบสุดกำลังเลยทีเดียว ถึงจะวิ่งไปไกลก็ยังตามมาอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วมันก็ทำให้เธอใจอ่อน ในที่สุดเธอก็เลยหยุดแล้วกลับไปอุ้มเจ้าแมวกลับบ้านจนได้ ความพยายามของมันทำให้เธอเปลี่ยนใจรับเลี้ยงมันแล้วคุณต๋อยตั้งชื่อให้เจ้าแมวตัวนี้ว่า รันนิ่ง เป็นชื่อที่เหมาะสมกับแมวน้อยนักวิ่งที่วิ่งตามจนได้ทาสตัวนี้จริงๆ วิ่งเก่งจนเป็นที่มาของชื่อเลยหลังจากนั้นคุณต๋อยก็ได้เจ้ารันนิ่งมาอยู่ในบ้านด้วยกัน



แน่นอนว่าในเมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ดูแลมันอย่างดีจนแมวน้อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆไม่ทันไรเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปไวมาก รู้ตัวอีกทีเจ้ารันนิ่งก็มาอยู่บ้านกับคุณต๋อยได้ 8 เดือนแล้ว ตัวเจ้าแมวโตขึ้นมากทีเดียวนึกย้อนกลับไปถ้าตอนนั้นเจ้ารันนิ่งไม่วิ่งตามคุณต๋อยมาล่ะก็ เธอก็คงจะผ่านมันไปโดยไม่ได้เจอกันอีก ดีนะที่มันวิ่งตามเธอมาในวันนั้น ตอนนี้เธอเลยมีเจ้านายน่ารักๆ อีกตัวมาอยู่ที่บ้านด้วย














1806


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าของคุณ ต๋อย เธอนั้นได้เจอแมวตัวหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เธอเป็นคนชอบออกกำลังกาย และระหว่างที่เธอกำลังวิ่งอยู่เธอก็เจอมันอยู่ข้างทางคนรักแมวอย่างเธอได้เห็นแมวจรจัดแบบนี้ก็รู้สึกสงสาร แต่ด้วยความที่บ้านของเธอก็เลี้ยงแมวไว้เยอะแล้ว จะรับไปเลี้ยงอีกก็กลัวจะดูแลไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่เก็บมันมาแล้ววิ่งต่อไปแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเจ้าแมวมันจะวิ่งตามเธอมา



แถมไม่ได้ตามมาแป๊บเดียวด้วย มันวิ่งตามเธอมาแบบสุดกำลังเลยทีเดียว ถึงจะวิ่งไปไกลก็ยังตามมาอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วมันก็ทำให้เธอใจอ่อน ในที่สุดเธอก็เลยหยุดแล้วกลับไปอุ้มเจ้าแมวกลับบ้านจนได้ ความพยายามของมันทำให้เธอเปลี่ยนใจรับเลี้ยงมันแล้วคุณต๋อยตั้งชื่อให้เจ้าแมวตัวนี้ว่า รันนิ่ง เป็นชื่อที่เหมาะสมกับแมวน้อยนักวิ่งที่วิ่งตามจนได้ทาสตัวนี้จริงๆ วิ่งเก่งจนเป็นที่มาของชื่อเลยหลังจากนั้นคุณต๋อยก็ได้เจ้ารันนิ่งมาอยู่ในบ้านด้วยกัน



แน่นอนว่าในเมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ดูแลมันอย่างดีจนแมวน้อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆไม่ทันไรเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปไวมาก รู้ตัวอีกทีเจ้ารันนิ่งก็มาอยู่บ้านกับคุณต๋อยได้ 8 เดือนแล้ว ตัวเจ้าแมวโตขึ้นมากทีเดียวนึกย้อนกลับไปถ้าตอนนั้นเจ้ารันนิ่งไม่วิ่งตามคุณต๋อยมาล่ะก็ เธอก็คงจะผ่านมันไปโดยไม่ได้เจอกันอีก ดีนะที่มันวิ่งตามเธอมาในวันนั้น ตอนนี้เธอเลยมีเจ้านายน่ารักๆ อีกตัวมาอยู่ที่บ้านด้วย














1807


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าของคุณ ต๋อย เธอนั้นได้เจอแมวตัวหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เธอเป็นคนชอบออกกำลังกาย และระหว่างที่เธอกำลังวิ่งอยู่เธอก็เจอมันอยู่ข้างทางคนรักแมวอย่างเธอได้เห็นแมวจรจัดแบบนี้ก็รู้สึกสงสาร แต่ด้วยความที่บ้านของเธอก็เลี้ยงแมวไว้เยอะแล้ว จะรับไปเลี้ยงอีกก็กลัวจะดูแลไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่เก็บมันมาแล้ววิ่งต่อไปแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเจ้าแมวมันจะวิ่งตามเธอมา



แถมไม่ได้ตามมาแป๊บเดียวด้วย มันวิ่งตามเธอมาแบบสุดกำลังเลยทีเดียว ถึงจะวิ่งไปไกลก็ยังตามมาอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วมันก็ทำให้เธอใจอ่อน ในที่สุดเธอก็เลยหยุดแล้วกลับไปอุ้มเจ้าแมวกลับบ้านจนได้ ความพยายามของมันทำให้เธอเปลี่ยนใจรับเลี้ยงมันแล้วคุณต๋อยตั้งชื่อให้เจ้าแมวตัวนี้ว่า รันนิ่ง เป็นชื่อที่เหมาะสมกับแมวน้อยนักวิ่งที่วิ่งตามจนได้ทาสตัวนี้จริงๆ วิ่งเก่งจนเป็นที่มาของชื่อเลยหลังจากนั้นคุณต๋อยก็ได้เจ้ารันนิ่งมาอยู่ในบ้านด้วยกัน



แน่นอนว่าในเมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ดูแลมันอย่างดีจนแมวน้อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆไม่ทันไรเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปไวมาก รู้ตัวอีกทีเจ้ารันนิ่งก็มาอยู่บ้านกับคุณต๋อยได้ 8 เดือนแล้ว ตัวเจ้าแมวโตขึ้นมากทีเดียวนึกย้อนกลับไปถ้าตอนนั้นเจ้ารันนิ่งไม่วิ่งตามคุณต๋อยมาล่ะก็ เธอก็คงจะผ่านมันไปโดยไม่ได้เจอกันอีก ดีนะที่มันวิ่งตามเธอมาในวันนั้น ตอนนี้เธอเลยมีเจ้านายน่ารักๆ อีกตัวมาอยู่ที่บ้านด้วย














1808


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องเล่าของคุณ ต๋อย เธอนั้นได้เจอแมวตัวหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว เธอเป็นคนชอบออกกำลังกาย และระหว่างที่เธอกำลังวิ่งอยู่เธอก็เจอมันอยู่ข้างทางคนรักแมวอย่างเธอได้เห็นแมวจรจัดแบบนี้ก็รู้สึกสงสาร แต่ด้วยความที่บ้านของเธอก็เลี้ยงแมวไว้เยอะแล้ว จะรับไปเลี้ยงอีกก็กลัวจะดูแลไม่ไหว จึงตัดสินใจไม่เก็บมันมาแล้ววิ่งต่อไปแต่สิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเจ้าแมวมันจะวิ่งตามเธอมา



แถมไม่ได้ตามมาแป๊บเดียวด้วย มันวิ่งตามเธอมาแบบสุดกำลังเลยทีเดียว ถึงจะวิ่งไปไกลก็ยังตามมาอยู่เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วมันก็ทำให้เธอใจอ่อน ในที่สุดเธอก็เลยหยุดแล้วกลับไปอุ้มเจ้าแมวกลับบ้านจนได้ ความพยายามของมันทำให้เธอเปลี่ยนใจรับเลี้ยงมันแล้วคุณต๋อยตั้งชื่อให้เจ้าแมวตัวนี้ว่า รันนิ่ง เป็นชื่อที่เหมาะสมกับแมวน้อยนักวิ่งที่วิ่งตามจนได้ทาสตัวนี้จริงๆ วิ่งเก่งจนเป็นที่มาของชื่อเลยหลังจากนั้นคุณต๋อยก็ได้เจ้ารันนิ่งมาอยู่ในบ้านด้วยกัน



แน่นอนว่าในเมื่อมาอยู่ด้วยกันแล้ว เธอก็ดูแลมันอย่างดีจนแมวน้อยเติบโตขึ้นเรื่อยๆไม่ทันไรเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปไวมาก รู้ตัวอีกทีเจ้ารันนิ่งก็มาอยู่บ้านกับคุณต๋อยได้ 8 เดือนแล้ว ตัวเจ้าแมวโตขึ้นมากทีเดียวนึกย้อนกลับไปถ้าตอนนั้นเจ้ารันนิ่งไม่วิ่งตามคุณต๋อยมาล่ะก็ เธอก็คงจะผ่านมันไปโดยไม่ได้เจอกันอีก ดีนะที่มันวิ่งตามเธอมาในวันนั้น ตอนนี้เธอเลยมีเจ้านายน่ารักๆ อีกตัวมาอยู่ที่บ้านด้วย














1809


เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าสุนัขนั้นเป็นคู่หูที่ดีต่อมนุษย์ขนาดไหน เพราะพวกมันไม่เพียงแต่จะรักและเข้าใจมนุษย์ผู้เป็นเจ้านายมากกว่าใคร แต่พวกมันยังเป็นสัตว์ที่ร่วมทุกร่วมสุขกับมนุษย์มานานที่สุดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขเหล่านี้นั้น อาจจะมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ถึงขนาดที่ว่าหากเจ้าของมีความเครียดสูง พวกมันก็จะรู้สึกเหมือนกันไปด้วยเลย



การทดลองในครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัย Linkoping ในประเทศสวีเดน และเกี่ยวข้องกับการศึกษาสุนัข 58 ตัวจากสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ และเชทแลนด์ ชีพด็อก ซึ่งถูกเลี้ยงโดยเจ้านายที่เป็นผู้หญิงโดยในการเก็บข้อมูลนั้น นักวิทยาศาสตร์จะทำการเก็บตัวอย่างเส้นผมของเจ้าของสุนัข และเส้นขนของสุนัขมาเพื่อตรวจสอบหาปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะหลั่งออกมาในกรณีที่คนและสัตว์มีความเครียด



พวกเขาพบว่าในระยะยาวแล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลในสุนัขและเจ้าของนั้น มักจะถูกหลั่งออกมาในปริมาณที่ใกล้เคียงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเจ้าของที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมาก ก็มักจะมีสุนัขที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากตามไปด้วยผลการทดลองที่ออกมานี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพื่อขึ้นในสุนัขนั้น แทบจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของตัวสุนัขเองเลย แถมต่อให้สุนัขมีสนามเด็กเล่นของตัวเอง สนามเหล่านั้นก็แทบจะไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในกรณีนี้เลยด้วย ว่าง่ายๆ ว่าไม่ว่าสุนัขจะขี้เล่นอารมณ์ดี หรือมีของเล่นมากแค่ไหน หากเจ้าของเครียดพวกมันก็จะเครียดตามไปด้วยอยู่ดีนั่นเอง



1810


เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าสุนัขนั้นเป็นคู่หูที่ดีต่อมนุษย์ขนาดไหน เพราะพวกมันไม่เพียงแต่จะรักและเข้าใจมนุษย์ผู้เป็นเจ้านายมากกว่าใคร แต่พวกมันยังเป็นสัตว์ที่ร่วมทุกร่วมสุขกับมนุษย์มานานที่สุดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขเหล่านี้นั้น อาจจะมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ถึงขนาดที่ว่าหากเจ้าของมีความเครียดสูง พวกมันก็จะรู้สึกเหมือนกันไปด้วยเลย



การทดลองในครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัย Linkoping ในประเทศสวีเดน และเกี่ยวข้องกับการศึกษาสุนัข 58 ตัวจากสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ และเชทแลนด์ ชีพด็อก ซึ่งถูกเลี้ยงโดยเจ้านายที่เป็นผู้หญิงโดยในการเก็บข้อมูลนั้น นักวิทยาศาสตร์จะทำการเก็บตัวอย่างเส้นผมของเจ้าของสุนัข และเส้นขนของสุนัขมาเพื่อตรวจสอบหาปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะหลั่งออกมาในกรณีที่คนและสัตว์มีความเครียด



พวกเขาพบว่าในระยะยาวแล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลในสุนัขและเจ้าของนั้น มักจะถูกหลั่งออกมาในปริมาณที่ใกล้เคียงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเจ้าของที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมาก ก็มักจะมีสุนัขที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากตามไปด้วยผลการทดลองที่ออกมานี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพื่อขึ้นในสุนัขนั้น แทบจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของตัวสุนัขเองเลย แถมต่อให้สุนัขมีสนามเด็กเล่นของตัวเอง สนามเหล่านั้นก็แทบจะไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในกรณีนี้เลยด้วย ว่าง่ายๆ ว่าไม่ว่าสุนัขจะขี้เล่นอารมณ์ดี หรือมีของเล่นมากแค่ไหน หากเจ้าของเครียดพวกมันก็จะเครียดตามไปด้วยอยู่ดีนั่นเอง



1811


เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าสุนัขนั้นเป็นคู่หูที่ดีต่อมนุษย์ขนาดไหน เพราะพวกมันไม่เพียงแต่จะรักและเข้าใจมนุษย์ผู้เป็นเจ้านายมากกว่าใคร แต่พวกมันยังเป็นสัตว์ที่ร่วมทุกร่วมสุขกับมนุษย์มานานที่สุดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขเหล่านี้นั้น อาจจะมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ถึงขนาดที่ว่าหากเจ้าของมีความเครียดสูง พวกมันก็จะรู้สึกเหมือนกันไปด้วยเลย



การทดลองในครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัย Linkoping ในประเทศสวีเดน และเกี่ยวข้องกับการศึกษาสุนัข 58 ตัวจากสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ และเชทแลนด์ ชีพด็อก ซึ่งถูกเลี้ยงโดยเจ้านายที่เป็นผู้หญิงโดยในการเก็บข้อมูลนั้น นักวิทยาศาสตร์จะทำการเก็บตัวอย่างเส้นผมของเจ้าของสุนัข และเส้นขนของสุนัขมาเพื่อตรวจสอบหาปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะหลั่งออกมาในกรณีที่คนและสัตว์มีความเครียด



พวกเขาพบว่าในระยะยาวแล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลในสุนัขและเจ้าของนั้น มักจะถูกหลั่งออกมาในปริมาณที่ใกล้เคียงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเจ้าของที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมาก ก็มักจะมีสุนัขที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากตามไปด้วยผลการทดลองที่ออกมานี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพื่อขึ้นในสุนัขนั้น แทบจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของตัวสุนัขเองเลย แถมต่อให้สุนัขมีสนามเด็กเล่นของตัวเอง สนามเหล่านั้นก็แทบจะไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในกรณีนี้เลยด้วย ว่าง่ายๆ ว่าไม่ว่าสุนัขจะขี้เล่นอารมณ์ดี หรือมีของเล่นมากแค่ไหน หากเจ้าของเครียดพวกมันก็จะเครียดตามไปด้วยอยู่ดีนั่นเอง



1812


เป็นเรื่องที่เราทราบกันว่าสุนัขนั้นเป็นคู่หูที่ดีต่อมนุษย์ขนาดไหน เพราะพวกมันไม่เพียงแต่จะรักและเข้าใจมนุษย์ผู้เป็นเจ้านายมากกว่าใคร แต่พวกมันยังเป็นสัตว์ที่ร่วมทุกร่วมสุขกับมนุษย์มานานที่สุดชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้แต่เชื่อกันหรือไม่ว่าอ้างอิงจากงานวิจัยชิ้นใหม่ล่าสุด ที่ถูกตีพิมพ์ในวารสาร Scientific Reports เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา ดูเหมือนว่าเจ้าสุนัขเหล่านี้นั้น อาจจะมีความใกล้ชิดกับมนุษย์มาก ถึงขนาดที่ว่าหากเจ้าของมีความเครียดสูง พวกมันก็จะรู้สึกเหมือนกันไปด้วยเลย



การทดลองในครั้งนี้ จัดทำขึ้นโดยมหาวิทยาลัย Linkoping ในประเทศสวีเดน และเกี่ยวข้องกับการศึกษาสุนัข 58 ตัวจากสายพันธุ์บอร์เดอร์ คอลลี่ และเชทแลนด์ ชีพด็อก ซึ่งถูกเลี้ยงโดยเจ้านายที่เป็นผู้หญิงโดยในการเก็บข้อมูลนั้น นักวิทยาศาสตร์จะทำการเก็บตัวอย่างเส้นผมของเจ้าของสุนัข และเส้นขนของสุนัขมาเพื่อตรวจสอบหาปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งจะหลั่งออกมาในกรณีที่คนและสัตว์มีความเครียด



พวกเขาพบว่าในระยะยาวแล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลในสุนัขและเจ้าของนั้น มักจะถูกหลั่งออกมาในปริมาณที่ใกล้เคียงกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยเจ้าของที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมาก ก็มักจะมีสุนัขที่มีฮอร์โมนคอร์ติซอลมากตามไปด้วยผลการทดลองที่ออกมานี้ถือว่าน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะจากการตรวจสอบของนักวิทยาศาสตร์แล้ว ปริมาณของฮอร์โมนคอร์ติซอลที่เพื่อขึ้นในสุนัขนั้น แทบจะไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับลักษณะนิสัยของตัวสุนัขเองเลย แถมต่อให้สุนัขมีสนามเด็กเล่นของตัวเอง สนามเหล่านั้นก็แทบจะไม่ส่งผลต่อระดับฮอร์โมนคอร์ติซอลในกรณีนี้เลยด้วย ว่าง่ายๆ ว่าไม่ว่าสุนัขจะขี้เล่นอารมณ์ดี หรือมีของเล่นมากแค่ไหน หากเจ้าของเครียดพวกมันก็จะเครียดตามไปด้วยอยู่ดีนั่นเอง



1813


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีสมาชิค ที่ชื่อว่า Cats Armys ได้เผยแพร่เรื่องราวของเด็กชายที่ เก็บ เจ้าตูบมาเลี้ยง โดยเจ้าของโพสนั้นได้ระบุข้อความว่า...



เด็กน้อยบอก หมาน้อยโดนเอาไปปล่อยวัดป่า2ตัว บ้างก็ว่า โดนทิ้งถังขยะ หาคนรับเลี้ยงก็ไม่มี....จน นักเรียนตัวน้อย?!! รับอาสาไปเลี้ยงที่บ้าน1ตัว เหลืออีก1ตัว ซึ่งตอนแรกมีเด็ก ป.2รับไปเลี้ยง แต่ก็แบกกลับมาบอกแม่ด่า วันนี้ช่วยได้แค่1 พรุ่งนี้หาทางช่วยอีกตัวต่อไปเพราะนโยบายกำจัดหมาในโรงเรียนยังมีอยู่!!






1814


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีสมาชิค ที่ชื่อว่า Cats Armys ได้เผยแพร่เรื่องราวของเด็กชายที่ เก็บ เจ้าตูบมาเลี้ยง โดยเจ้าของโพสนั้นได้ระบุข้อความว่า...



เด็กน้อยบอก หมาน้อยโดนเอาไปปล่อยวัดป่า2ตัว บ้างก็ว่า โดนทิ้งถังขยะ หาคนรับเลี้ยงก็ไม่มี....จน นักเรียนตัวน้อย?!! รับอาสาไปเลี้ยงที่บ้าน1ตัว เหลืออีก1ตัว ซึ่งตอนแรกมีเด็ก ป.2รับไปเลี้ยง แต่ก็แบกกลับมาบอกแม่ด่า วันนี้ช่วยได้แค่1 พรุ่งนี้หาทางช่วยอีกตัวต่อไปเพราะนโยบายกำจัดหมาในโรงเรียนยังมีอยู่!!






1815


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อมีสมาชิค ที่ชื่อว่า Cats Armys ได้เผยแพร่เรื่องราวของเด็กชายที่ เก็บ เจ้าตูบมาเลี้ยง โดยเจ้าของโพสนั้นได้ระบุข้อความว่า...



เด็กน้อยบอก หมาน้อยโดนเอาไปปล่อยวัดป่า2ตัว บ้างก็ว่า โดนทิ้งถังขยะ หาคนรับเลี้ยงก็ไม่มี....จน นักเรียนตัวน้อย?!! รับอาสาไปเลี้ยงที่บ้าน1ตัว เหลืออีก1ตัว ซึ่งตอนแรกมีเด็ก ป.2รับไปเลี้ยง แต่ก็แบกกลับมาบอกแม่ด่า วันนี้ช่วยได้แค่1 พรุ่งนี้หาทางช่วยอีกตัวต่อไปเพราะนโยบายกำจัดหมาในโรงเรียนยังมีอยู่!!