แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Smile Smile

1696


มีตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับน้องแมวที่เราคงเคยได้ยินกันผ่านหูมาตั้งแต่เด็ก และมีหลายหลากความเชื่อที่เป็นเรื่องราวสืบต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแห่นางแมวขอฝน แมวกวักให้โชค แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเราทุกคนน่าจะเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า นั่นคือเรื่องของ แมว 9 ชีวิต นั่นเอง



อันที่จริงแล้วต้นกำเนิดของตำนานแมวเก้าชีวิตนี้ ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่ถ้ามาสืบความหาที่มาของต้นเหตุแห่งตำนานแมวเก้าชีวิตนั้น อาจมาจากการที่คนสมัยก่อนเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย ทำให้เผลอคิดว่าแมวอาจมีมากกว่า 1ชีวิต ซึ่งเป็นที่มาของตำนานแมว 9 ชีวิต หรือในบางชาติก็เชื่อกันว่าแมวมี 7 ชีวิต



ในความเป็นจริง หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถอธิบายถึงเรื่องแมว 9 ชีวิต ได้ง่ายๆ เรื่องนี้เรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะเหมียวแบบที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ การที่น้องแมวตกมาจากที่สูงแล้วไม่เป็นไรนั้น เพราะร่างกายของน้องแมวมีความสามารถในการทรงตัวและกลับตัวกลางอากาศได้ เมื่อน้องแมวเสียการทรงตัวและตกลงมาจากที่สูง น้องแมวจึงสามารถเอาเท้าลงมาที่พื้นได้ทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อน้องแมวพลัดตกลงมา สัญชาตญาณกลับตัวกลางอากาศจะเริ่มทำงานทันทีด้วยเวลาชั่วพริบตาเพียงแค่ 0.1 วินาที (หรือเสี้ยววินาที) โดยความสามารถอันน่าทึ่งนี้ถูกควบคุมจากอวัยวะที่ชื่อ Vestibular Apparatus ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ในหูชั้นในของน้องแมว คอยทำหน้าที่ควบคุมสมดุลการทรงตัวและการกลับของน้องแมวนั่นเอง และความพิเศษยามเมื่อน้องแมวกลับตัวเรียบร้อยแล้วและขาแตะถึงพื้นแล้ว ขาทั้ง 4 ข้างยังทำหน้าที่คล้ายกับสปริง ทำให้ลดแรงกระแทกกับพื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย



แบบนี้แสดงว่าน้องแมว ก็สามารถกระโดดลงมาจากตึกสูงๆ ได้เลยน่ะสิ?

คำถามนี้เป็นที่สงสัยกันจนต้องมีนักวิจัยมาหาคำตอบกันเลยทีเดียว ว่าน้องแมวสามารถตกได้จากตึกสูงกี่ชั้นถึงจะปลอดภัย โดย Jared Diamond ได้ทำการศึกษาว่าน้องแมวตกจากตึกกี่ชั้นถึงจะเสียชีวิต ศึกษาจากกรณีแมวพลัดตกตึกตั้งแต่ 2 – 32 ชั้น เป็นจำนวนรวม 104 ตัว ผลการศึกษาพบว่าน้องแมวที่ตกจากชั้นประมาณ 4 – 9 นั้นกลับมีโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ไม่ใช่น้องแมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 32 เลย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อธิบายได้ว่า ที่ความสูงตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป จะเป็นความสูงระดับที่มากพอให้เกิดแรงต้านอากาศและมีเวลาในการตกเหลือพอให้น้องแมวได้จัดร่างกายพร้อมรับแรงกระแทกบนพื้น ประกอบกับน้องแมวมีน้ำหนักน้อยจึงทำให้แรงปะทะเมื่อถึงพื้นไม่มากนัก



 และทำให้การบาดเจ็บนั้นไม่ถึงแก่ชีวิตนั่นเอง แต่ในระดับความสูงตึกชั้นที่ 4 – 9 นั้น แม้จะมีแรงต้านอากาศช่วย แต่ความสูงที่น้อยลงทำให้น้องแมวมีเวลาไม่มากพอจะจัดท่าเตรียมรับแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ช่วงระหว่างชั้นนี้เมื่อน้องแมวตกลงมาแล้วมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าชั้นสูงๆ แต่สำหรับชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 4 แม้ว่าจะมีช่วงเวลาตกจะสั้นมาก แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากนักทำให้แรงกระแทกไม่มากตามไปด้วย แมวจึงไม่เสียชีวิตนั่นเอง

แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแมวเก้าชีวิต แต่ก็ขอเซฟไว้ก่อน ไม่ตกลงมาเลยน่าจะดีกับน้องแมวมากกว่าว่าไหมล่ะ







1697


เรียกได้ว่าปกติแล้วถ้าเราเลี้ยงน้องแมวมาตั้งแต่เด็กคงไม่มีปัญหากับเรื่องอายุเพราะเราคงจดบันทึกไว้หรือถ้าลืมก็สามารถนับปีย้อนหลังได้ แต่สำหรับคนที่นำแมวจรมาเลี้ยง ไม่ว่าจะเจอเองหรืออุปการะมาจากสถานสงเคราะห์อาจจะพบปัญหาว่าไม่ทราบว่าแมวของเราอายุเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นคราวนี้เราจึงมาบอกวิธีดูอายุแมวแบบเบื้องต้นให้ได้ทราบกันดังนี้



วิธีที่ 1 : ดูอายุแมวจากฟัน

ฟันแมวถือว่าเป็นอวัยวะที่ใช้ดูอายุแมวได้ดีที่สุด โดยในเบื้องต้นแมวจะมีฟันน้ำนมที่เป็นฟันตัด (ฟันหน้า) งอกออกมาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นฟันเขี้ยวจะงอกตอน 3-4 สัปดาห์ ส่วนฟันกรามน้อย (premolars) จะงอกออกมาตอน 4-6 สัปดาห์ โดยฟันลูกแมวจะขึ้นครบตอนประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งเราใช้ตำแหน่งของฟันเหล่านี้คาดคะเนอายุของลูกแมวคร่าวๆ ได้

เมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้จนหมด ซึ่งหลังจากนี้เราจะคาดคะเนอายุแมวได้ยากขึ้นแต่ก็สามารถดูได้ โดยหากแมวตัวนั้นมีฟันแท้ทั้งปากและฟันยังมีสีขาวนวลแสดงว่ามีอายุประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าฟันแท้เป็นสีเหลืองและบางซี่มีหินปูนนิดหน่อยแสดงว่าอาจจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าฟันทุกซี่มีหินปูนเกาะหมดแสดงว่าอายุประมาณ 3-4 ปี และสุดท้ายถ้ามีหินปูนมากทุกฟันเลยแสดงว่าอายุ 5-10 ปี แต่ถ้าฟันมีหินปูนมากและมีฟันหลุดหายไปบางซี่ด้วยแสดงว่าอาจจะเป็นแมวแก่อายุ 10 ปีขึ้นไป

วิธีที่ 2 : ดูอายุแมวจากดวงตา

ดวงตาก็สามารถใช้เป็นวิธีดูอายุแมวได้เช่นกัน โดยดวงตาของแมวที่มีอายุน้อยจะมีความสดใสเป็นประกาย แต่ถ้าแมวที่อายุมากก็จะขุ่นลง รวมไปถึงอาจมีลักษณะเป็นฝ้าซึ่งเกิดจากต้อกระจกจากการที่มีอายุมากได้ แมวที่มีดวงตาขุ่นอาจมีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และดวงตามีฝ้าแสดงว่าอายุอาจจะมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าแมวตัวนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนด้วย

วิธีที่ 3 : ดูอายุแมวจากขนและผิวหนัง

ขนและผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ดูอายุแมวได้คร่าวๆ โดยลูกแมวจนถึงแมวที่อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็ก นุ่ม ส่วนแมวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีเส้นขนที่หนาและหยาบขึ้น และสุดท้ายแมวที่อายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป อาจจะมีขนหงอกหรือขนสีซีดๆ แซมอยู่ตามตัวเหมือนกันผมหงอกของคนนั่นเอง

วิธีที่ 4 : ดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ

วิธีดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ จะทำได้ไม่แม่นยำมากนักในแมวที่โตเต็มวัยแล้ว โดยปกติเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าลูกแมวจะมีขนาดตัวเล็ก เมื่อแมวอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป หรืออยู่ในช่วงโตเต็มวัยจะมีกล้ามเนื้อมากและรูปร่างสมส่วน ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่วนในแมวอายุมากตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป จะมีกล้ามเนื้อลดลง อาจจะเห็นปุ่มกระดูกตามไหล่ชัดเจนขึ้น



วิธีที่ 5 : ดูอายุแมวจากนิสัย

นิสัยก็พอจะสามารถใช้ดูอายุแมวคร่าวๆ ได้ โดยแมวอายุประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี จะมีนิสัยตื่นตัว ร่าเริง ตอบสนองต่อสิ่งเร้าสูง เรียกได้ว่าพร้อมจะกระโจนเข้าหาของเล่นหรือวิ่งไปมาได้บ่อยๆ ส่วนแมวอายุ 2-5 ปี จะเริ่มสงบลง อาจจะมีเล่นบ้างแต่ก็ไม่ออกแรงมากเหมือนแต่ก่อน ส่วนแมวที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยลง ไม่ค่อยวิ่ง และนอนมากขึ้น

วิธีการดูอายุแมวหลังจากฟันแท้ขึ้นครบแล้วนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้แม่นยำ 100% แต่โดยหลักการแล้วเราควรดูที่ฟันแมวก่อนจากนั้นจึงดูที่ดวงตา ลักษณะขน รูปร่างขนาดตัว และนิสัยมาช่วยกันประกอบการประเมินจะทำให้สามารถรู้อายุแมวนั้นๆ ได้แม่นยำมากขึ้น



แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าแมวจะช่วงอายุเท่าไหร่ก็ต้องการการดูแลที่ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่แมวต่างวัยย่อมต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน Purina ONE เป็นอาหารแมวเกรด ซุปเปอร์ พรีเมี่ยมทุกสูตรผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหารที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงวัย ครบคุณค่าที่สุดแห่งการบำรุง ให้แมวของคุณสุขภาพแข็งแรง พิสูจน์การเปลี่ยนแปลงได้ใน 30 วัน ผ่าน 6 สัญญาณสุขภาพดี โดยลูกแมวตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึงอายุ 1 ปี ควรได้รับอาหารสูตร Healthy Kitten Formula ที่เน้นสารอาหารที่มีประโยชน์ครบครันทำให้ลูกแมวมีพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ส่วนแมวโตเต็มวัยตั้งแต่อายุ 1-7 ปี สามารถเลือกทานสูตรIndoor Advantage หรือ Salmon & Tuna Formula ตามความชอบของน้องแมวหรือความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์และสุดท้ายแมวสูงอายุตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้น ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้มีเริ่มทำกิจกรรมน้อยลง จึงควรได้รับอาหารสูตร Indoor Advantage Formula ซึ่งมีโปรตีนสูง จากเนื้อไก่งวง และแคลอรี่ต่ำ




1698


เรียกได้ว่าปกติแล้วถ้าเราเลี้ยงน้องแมวมาตั้งแต่เด็กคงไม่มีปัญหากับเรื่องอายุเพราะเราคงจดบันทึกไว้หรือถ้าลืมก็สามารถนับปีย้อนหลังได้ แต่สำหรับคนที่นำแมวจรมาเลี้ยง ไม่ว่าจะเจอเองหรืออุปการะมาจากสถานสงเคราะห์อาจจะพบปัญหาว่าไม่ทราบว่าแมวของเราอายุเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นคราวนี้เราจึงมาบอกวิธีดูอายุแมวแบบเบื้องต้นให้ได้ทราบกันดังนี้



วิธีที่ 1 : ดูอายุแมวจากฟัน

ฟันแมวถือว่าเป็นอวัยวะที่ใช้ดูอายุแมวได้ดีที่สุด โดยในเบื้องต้นแมวจะมีฟันน้ำนมที่เป็นฟันตัด (ฟันหน้า) งอกออกมาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นฟันเขี้ยวจะงอกตอน 3-4 สัปดาห์ ส่วนฟันกรามน้อย (premolars) จะงอกออกมาตอน 4-6 สัปดาห์ โดยฟันลูกแมวจะขึ้นครบตอนประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งเราใช้ตำแหน่งของฟันเหล่านี้คาดคะเนอายุของลูกแมวคร่าวๆ ได้

เมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้จนหมด ซึ่งหลังจากนี้เราจะคาดคะเนอายุแมวได้ยากขึ้นแต่ก็สามารถดูได้ โดยหากแมวตัวนั้นมีฟันแท้ทั้งปากและฟันยังมีสีขาวนวลแสดงว่ามีอายุประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าฟันแท้เป็นสีเหลืองและบางซี่มีหินปูนนิดหน่อยแสดงว่าอาจจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าฟันทุกซี่มีหินปูนเกาะหมดแสดงว่าอายุประมาณ 3-4 ปี และสุดท้ายถ้ามีหินปูนมากทุกฟันเลยแสดงว่าอายุ 5-10 ปี แต่ถ้าฟันมีหินปูนมากและมีฟันหลุดหายไปบางซี่ด้วยแสดงว่าอาจจะเป็นแมวแก่อายุ 10 ปีขึ้นไป

วิธีที่ 2 : ดูอายุแมวจากดวงตา

ดวงตาก็สามารถใช้เป็นวิธีดูอายุแมวได้เช่นกัน โดยดวงตาของแมวที่มีอายุน้อยจะมีความสดใสเป็นประกาย แต่ถ้าแมวที่อายุมากก็จะขุ่นลง รวมไปถึงอาจมีลักษณะเป็นฝ้าซึ่งเกิดจากต้อกระจกจากการที่มีอายุมากได้ แมวที่มีดวงตาขุ่นอาจมีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และดวงตามีฝ้าแสดงว่าอายุอาจจะมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าแมวตัวนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนด้วย

วิธีที่ 3 : ดูอายุแมวจากขนและผิวหนัง

ขนและผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ดูอายุแมวได้คร่าวๆ โดยลูกแมวจนถึงแมวที่อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็ก นุ่ม ส่วนแมวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีเส้นขนที่หนาและหยาบขึ้น และสุดท้ายแมวที่อายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป อาจจะมีขนหงอกหรือขนสีซีดๆ แซมอยู่ตามตัวเหมือนกันผมหงอกของคนนั่นเอง

วิธีที่ 4 : ดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ

วิธีดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ จะทำได้ไม่แม่นยำมากนักในแมวที่โตเต็มวัยแล้ว โดยปกติเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าลูกแมวจะมีขนาดตัวเล็ก เมื่อแมวอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป หรืออยู่ในช่วงโตเต็มวัยจะมีกล้ามเนื้อมากและรูปร่างสมส่วน ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่วนในแมวอายุมากตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป จะมีกล้ามเนื้อลดลง อาจจะเห็นปุ่มกระดูกตามไหล่ชัดเจนขึ้น



วิธีที่ 5 : ดูอายุแมวจากนิสัย

นิสัยก็พอจะสามารถใช้ดูอายุแมวคร่าวๆ ได้ โดยแมวอายุประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี จะมีนิสัยตื่นตัว ร่าเริง ตอบสนองต่อสิ่งเร้าสูง เรียกได้ว่าพร้อมจะกระโจนเข้าหาของเล่นหรือวิ่งไปมาได้บ่อยๆ ส่วนแมวอายุ 2-5 ปี จะเริ่มสงบลง อาจจะมีเล่นบ้างแต่ก็ไม่ออกแรงมากเหมือนแต่ก่อน ส่วนแมวที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยลง ไม่ค่อยวิ่ง และนอนมากขึ้น

วิธีการดูอายุแมวหลังจากฟันแท้ขึ้นครบแล้วนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้แม่นยำ 100% แต่โดยหลักการแล้วเราควรดูที่ฟันแมวก่อนจากนั้นจึงดูที่ดวงตา ลักษณะขน รูปร่างขนาดตัว และนิสัยมาช่วยกันประกอบการประเมินจะทำให้สามารถรู้อายุแมวนั้นๆ ได้แม่นยำมากขึ้น



แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าแมวจะช่วงอายุเท่าไหร่ก็ต้องการการดูแลที่ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่แมวต่างวัยย่อมต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน Purina ONE เป็นอาหารแมวเกรด ซุปเปอร์ พรีเมี่ยมทุกสูตรผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหารที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงวัย ครบคุณค่าที่สุดแห่งการบำรุง ให้แมวของคุณสุขภาพแข็งแรง พิสูจน์การเปลี่ยนแปลงได้ใน 30 วัน ผ่าน 6 สัญญาณสุขภาพดี โดยลูกแมวตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึงอายุ 1 ปี ควรได้รับอาหารสูตร Healthy Kitten Formula ที่เน้นสารอาหารที่มีประโยชน์ครบครันทำให้ลูกแมวมีพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ส่วนแมวโตเต็มวัยตั้งแต่อายุ 1-7 ปี สามารถเลือกทานสูตรIndoor Advantage หรือ Salmon & Tuna Formula ตามความชอบของน้องแมวหรือความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์และสุดท้ายแมวสูงอายุตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้น ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้มีเริ่มทำกิจกรรมน้อยลง จึงควรได้รับอาหารสูตร Indoor Advantage Formula ซึ่งมีโปรตีนสูง จากเนื้อไก่งวง และแคลอรี่ต่ำ




1699


เรียกได้ว่าปกติแล้วถ้าเราเลี้ยงน้องแมวมาตั้งแต่เด็กคงไม่มีปัญหากับเรื่องอายุเพราะเราคงจดบันทึกไว้หรือถ้าลืมก็สามารถนับปีย้อนหลังได้ แต่สำหรับคนที่นำแมวจรมาเลี้ยง ไม่ว่าจะเจอเองหรืออุปการะมาจากสถานสงเคราะห์อาจจะพบปัญหาว่าไม่ทราบว่าแมวของเราอายุเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นคราวนี้เราจึงมาบอกวิธีดูอายุแมวแบบเบื้องต้นให้ได้ทราบกันดังนี้



วิธีที่ 1 : ดูอายุแมวจากฟัน

ฟันแมวถือว่าเป็นอวัยวะที่ใช้ดูอายุแมวได้ดีที่สุด โดยในเบื้องต้นแมวจะมีฟันน้ำนมที่เป็นฟันตัด (ฟันหน้า) งอกออกมาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นฟันเขี้ยวจะงอกตอน 3-4 สัปดาห์ ส่วนฟันกรามน้อย (premolars) จะงอกออกมาตอน 4-6 สัปดาห์ โดยฟันลูกแมวจะขึ้นครบตอนประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งเราใช้ตำแหน่งของฟันเหล่านี้คาดคะเนอายุของลูกแมวคร่าวๆ ได้

เมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้จนหมด ซึ่งหลังจากนี้เราจะคาดคะเนอายุแมวได้ยากขึ้นแต่ก็สามารถดูได้ โดยหากแมวตัวนั้นมีฟันแท้ทั้งปากและฟันยังมีสีขาวนวลแสดงว่ามีอายุประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าฟันแท้เป็นสีเหลืองและบางซี่มีหินปูนนิดหน่อยแสดงว่าอาจจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าฟันทุกซี่มีหินปูนเกาะหมดแสดงว่าอายุประมาณ 3-4 ปี และสุดท้ายถ้ามีหินปูนมากทุกฟันเลยแสดงว่าอายุ 5-10 ปี แต่ถ้าฟันมีหินปูนมากและมีฟันหลุดหายไปบางซี่ด้วยแสดงว่าอาจจะเป็นแมวแก่อายุ 10 ปีขึ้นไป

วิธีที่ 2 : ดูอายุแมวจากดวงตา

ดวงตาก็สามารถใช้เป็นวิธีดูอายุแมวได้เช่นกัน โดยดวงตาของแมวที่มีอายุน้อยจะมีความสดใสเป็นประกาย แต่ถ้าแมวที่อายุมากก็จะขุ่นลง รวมไปถึงอาจมีลักษณะเป็นฝ้าซึ่งเกิดจากต้อกระจกจากการที่มีอายุมากได้ แมวที่มีดวงตาขุ่นอาจมีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และดวงตามีฝ้าแสดงว่าอายุอาจจะมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าแมวตัวนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนด้วย

วิธีที่ 3 : ดูอายุแมวจากขนและผิวหนัง

ขนและผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ดูอายุแมวได้คร่าวๆ โดยลูกแมวจนถึงแมวที่อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็ก นุ่ม ส่วนแมวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีเส้นขนที่หนาและหยาบขึ้น และสุดท้ายแมวที่อายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป อาจจะมีขนหงอกหรือขนสีซีดๆ แซมอยู่ตามตัวเหมือนกันผมหงอกของคนนั่นเอง

วิธีที่ 4 : ดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ

วิธีดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ จะทำได้ไม่แม่นยำมากนักในแมวที่โตเต็มวัยแล้ว โดยปกติเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าลูกแมวจะมีขนาดตัวเล็ก เมื่อแมวอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป หรืออยู่ในช่วงโตเต็มวัยจะมีกล้ามเนื้อมากและรูปร่างสมส่วน ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่วนในแมวอายุมากตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป จะมีกล้ามเนื้อลดลง อาจจะเห็นปุ่มกระดูกตามไหล่ชัดเจนขึ้น



วิธีที่ 5 : ดูอายุแมวจากนิสัย

นิสัยก็พอจะสามารถใช้ดูอายุแมวคร่าวๆ ได้ โดยแมวอายุประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี จะมีนิสัยตื่นตัว ร่าเริง ตอบสนองต่อสิ่งเร้าสูง เรียกได้ว่าพร้อมจะกระโจนเข้าหาของเล่นหรือวิ่งไปมาได้บ่อยๆ ส่วนแมวอายุ 2-5 ปี จะเริ่มสงบลง อาจจะมีเล่นบ้างแต่ก็ไม่ออกแรงมากเหมือนแต่ก่อน ส่วนแมวที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยลง ไม่ค่อยวิ่ง และนอนมากขึ้น

วิธีการดูอายุแมวหลังจากฟันแท้ขึ้นครบแล้วนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้แม่นยำ 100% แต่โดยหลักการแล้วเราควรดูที่ฟันแมวก่อนจากนั้นจึงดูที่ดวงตา ลักษณะขน รูปร่างขนาดตัว และนิสัยมาช่วยกันประกอบการประเมินจะทำให้สามารถรู้อายุแมวนั้นๆ ได้แม่นยำมากขึ้น



แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าแมวจะช่วงอายุเท่าไหร่ก็ต้องการการดูแลที่ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่แมวต่างวัยย่อมต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน Purina ONE เป็นอาหารแมวเกรด ซุปเปอร์ พรีเมี่ยมทุกสูตรผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหารที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงวัย ครบคุณค่าที่สุดแห่งการบำรุง ให้แมวของคุณสุขภาพแข็งแรง พิสูจน์การเปลี่ยนแปลงได้ใน 30 วัน ผ่าน 6 สัญญาณสุขภาพดี โดยลูกแมวตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึงอายุ 1 ปี ควรได้รับอาหารสูตร Healthy Kitten Formula ที่เน้นสารอาหารที่มีประโยชน์ครบครันทำให้ลูกแมวมีพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ส่วนแมวโตเต็มวัยตั้งแต่อายุ 1-7 ปี สามารถเลือกทานสูตรIndoor Advantage หรือ Salmon & Tuna Formula ตามความชอบของน้องแมวหรือความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์และสุดท้ายแมวสูงอายุตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้น ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้มีเริ่มทำกิจกรรมน้อยลง จึงควรได้รับอาหารสูตร Indoor Advantage Formula ซึ่งมีโปรตีนสูง จากเนื้อไก่งวง และแคลอรี่ต่ำ




1700


เรียกได้ว่าปกติแล้วถ้าเราเลี้ยงน้องแมวมาตั้งแต่เด็กคงไม่มีปัญหากับเรื่องอายุเพราะเราคงจดบันทึกไว้หรือถ้าลืมก็สามารถนับปีย้อนหลังได้ แต่สำหรับคนที่นำแมวจรมาเลี้ยง ไม่ว่าจะเจอเองหรืออุปการะมาจากสถานสงเคราะห์อาจจะพบปัญหาว่าไม่ทราบว่าแมวของเราอายุเท่าไหร่กันแน่ ดังนั้นคราวนี้เราจึงมาบอกวิธีดูอายุแมวแบบเบื้องต้นให้ได้ทราบกันดังนี้



วิธีที่ 1 : ดูอายุแมวจากฟัน

ฟันแมวถือว่าเป็นอวัยวะที่ใช้ดูอายุแมวได้ดีที่สุด โดยในเบื้องต้นแมวจะมีฟันน้ำนมที่เป็นฟันตัด (ฟันหน้า) งอกออกมาประมาณ 2-4 สัปดาห์ จากนั้นฟันเขี้ยวจะงอกตอน 3-4 สัปดาห์ ส่วนฟันกรามน้อย (premolars) จะงอกออกมาตอน 4-6 สัปดาห์ โดยฟันลูกแมวจะขึ้นครบตอนประมาณ 8 สัปดาห์ ซึ่งเราใช้ตำแหน่งของฟันเหล่านี้คาดคะเนอายุของลูกแมวคร่าวๆ ได้

เมื่อลูกแมวอายุได้ประมาณ 6 เดือน ฟันน้ำนมจะถูกแทนที่ด้วยฟันแท้จนหมด ซึ่งหลังจากนี้เราจะคาดคะเนอายุแมวได้ยากขึ้นแต่ก็สามารถดูได้ โดยหากแมวตัวนั้นมีฟันแท้ทั้งปากและฟันยังมีสีขาวนวลแสดงว่ามีอายุประมาณ 6-12 เดือน แต่ถ้าฟันแท้เป็นสีเหลืองและบางซี่มีหินปูนนิดหน่อยแสดงว่าอาจจะมีอายุประมาณ 1-2 ปี แต่ถ้าฟันทุกซี่มีหินปูนเกาะหมดแสดงว่าอายุประมาณ 3-4 ปี และสุดท้ายถ้ามีหินปูนมากทุกฟันเลยแสดงว่าอายุ 5-10 ปี แต่ถ้าฟันมีหินปูนมากและมีฟันหลุดหายไปบางซี่ด้วยแสดงว่าอาจจะเป็นแมวแก่อายุ 10 ปีขึ้นไป

วิธีที่ 2 : ดูอายุแมวจากดวงตา

ดวงตาก็สามารถใช้เป็นวิธีดูอายุแมวได้เช่นกัน โดยดวงตาของแมวที่มีอายุน้อยจะมีความสดใสเป็นประกาย แต่ถ้าแมวที่อายุมากก็จะขุ่นลง รวมไปถึงอาจมีลักษณะเป็นฝ้าซึ่งเกิดจากต้อกระจกจากการที่มีอายุมากได้ แมวที่มีดวงตาขุ่นอาจมีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไป และดวงตามีฝ้าแสดงว่าอายุอาจจะมากกว่า 7 ปีขึ้นไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าแมวตัวนั้นอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหนด้วย

วิธีที่ 3 : ดูอายุแมวจากขนและผิวหนัง

ขนและผิวหนังก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ดูอายุแมวได้คร่าวๆ โดยลูกแมวจนถึงแมวที่อายุไม่เกิน 1 ปีครึ่ง จะมีขนเส้นเล็ก นุ่ม ส่วนแมวที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์จะมีเส้นขนที่หนาและหยาบขึ้น และสุดท้ายแมวที่อายุตั้งแต่ 7 ปี ขึ้นไป อาจจะมีขนหงอกหรือขนสีซีดๆ แซมอยู่ตามตัวเหมือนกันผมหงอกของคนนั่นเอง

วิธีที่ 4 : ดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ

วิธีดูอายุแมวจากขนาดตัว กระดูก และกล้ามเนื้อ จะทำได้ไม่แม่นยำมากนักในแมวที่โตเต็มวัยแล้ว โดยปกติเราทราบกันดีอยู่แล้วว่าลูกแมวจะมีขนาดตัวเล็ก เมื่อแมวอายุตั้งแต่ 2 ปี ขึ้นไป หรืออยู่ในช่วงโตเต็มวัยจะมีกล้ามเนื้อมากและรูปร่างสมส่วน ร่างกายมีความยืดหยุ่นและแข็งแรง ส่วนในแมวอายุมากตั้งแต่ 7 ปีขึ้นไป จะมีกล้ามเนื้อลดลง อาจจะเห็นปุ่มกระดูกตามไหล่ชัดเจนขึ้น



วิธีที่ 5 : ดูอายุแมวจากนิสัย

นิสัยก็พอจะสามารถใช้ดูอายุแมวคร่าวๆ ได้ โดยแมวอายุประมาณ 6 เดือน ถึง 1 ปี จะมีนิสัยตื่นตัว ร่าเริง ตอบสนองต่อสิ่งเร้าสูง เรียกได้ว่าพร้อมจะกระโจนเข้าหาของเล่นหรือวิ่งไปมาได้บ่อยๆ ส่วนแมวอายุ 2-5 ปี จะเริ่มสงบลง อาจจะมีเล่นบ้างแต่ก็ไม่ออกแรงมากเหมือนแต่ก่อน ส่วนแมวที่มีอายุมากตั้งแต่ 8 ปีขึ้นไป จะตอบสนองต่อสิ่งเร้าน้อยลง ไม่ค่อยวิ่ง และนอนมากขึ้น

วิธีการดูอายุแมวหลังจากฟันแท้ขึ้นครบแล้วนั้นอาจจะไม่สามารถทำได้แม่นยำ 100% แต่โดยหลักการแล้วเราควรดูที่ฟันแมวก่อนจากนั้นจึงดูที่ดวงตา ลักษณะขน รูปร่างขนาดตัว และนิสัยมาช่วยกันประกอบการประเมินจะทำให้สามารถรู้อายุแมวนั้นๆ ได้แม่นยำมากขึ้น



แต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าแมวจะช่วงอายุเท่าไหร่ก็ต้องการการดูแลที่ใส่ใจเป็นพิเศษอยู่เสมอเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง โดยเฉพาะอาหารที่แมวต่างวัยย่อมต้องการสารอาหารที่แตกต่างกัน Purina ONE เป็นอาหารแมวเกรด ซุปเปอร์ พรีเมี่ยมทุกสูตรผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง อุดมด้วยสารอาหารที่เหมาะสมกับแมวในแต่ละช่วงวัย ครบคุณค่าที่สุดแห่งการบำรุง ให้แมวของคุณสุขภาพแข็งแรง พิสูจน์การเปลี่ยนแปลงได้ใน 30 วัน ผ่าน 6 สัญญาณสุขภาพดี โดยลูกแมวตั้งแต่ 3 สัปดาห์ ถึงอายุ 1 ปี ควรได้รับอาหารสูตร Healthy Kitten Formula ที่เน้นสารอาหารที่มีประโยชน์ครบครันทำให้ลูกแมวมีพัฒนาการที่แข็งแรงสมวัย ส่วนแมวโตเต็มวัยตั้งแต่อายุ 1-7 ปี สามารถเลือกทานสูตรIndoor Advantage หรือ Salmon & Tuna Formula ตามความชอบของน้องแมวหรือความเหมาะสมของไลฟ์สไตล์และสุดท้ายแมวสูงอายุตั้งแต่อายุ 7 ปีขึ้น ด้วยอายุที่มากขึ้นทำให้มีเริ่มทำกิจกรรมน้อยลง จึงควรได้รับอาหารสูตร Indoor Advantage Formula ซึ่งมีโปรตีนสูง จากเนื้อไก่งวง และแคลอรี่ต่ำ




1701


นอกจากมนุษย์จะมีแฟชั่นแล้ว สุนัขก็มีแฟชั่นที่กิ๊บเก๋ไม่ต่างจากมนุษย์ โดยเฉพาะการแต่งขน หรือการจัดทรงผมแนวๆ ลองมาดูไอเดียทรงผมของสุนัขเหล่านี้ รับรองว่าเห็นแล้วคุณจะลองไปทำให้เจ้าตูบที่บ้านสักทรงสองทรงแน่นอน และวันนี้เราก็จะพามาดู 22 ภาพ ทรงผมสุดแนวของเจ้าตูบ 4 ขา ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าวววว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ














































1702


นอกจากมนุษย์จะมีแฟชั่นแล้ว สุนัขก็มีแฟชั่นที่กิ๊บเก๋ไม่ต่างจากมนุษย์ โดยเฉพาะการแต่งขน หรือการจัดทรงผมแนวๆ ลองมาดูไอเดียทรงผมของสุนัขเหล่านี้ รับรองว่าเห็นแล้วคุณจะลองไปทำให้เจ้าตูบที่บ้านสักทรงสองทรงแน่นอน และวันนี้เราก็จะพามาดู 22 ภาพ ทรงผมสุดแนวของเจ้าตูบ 4 ขา ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าวววว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ














































1703


นอกจากมนุษย์จะมีแฟชั่นแล้ว สุนัขก็มีแฟชั่นที่กิ๊บเก๋ไม่ต่างจากมนุษย์ โดยเฉพาะการแต่งขน หรือการจัดทรงผมแนวๆ ลองมาดูไอเดียทรงผมของสุนัขเหล่านี้ รับรองว่าเห็นแล้วคุณจะลองไปทำให้เจ้าตูบที่บ้านสักทรงสองทรงแน่นอน และวันนี้เราก็จะพามาดู 22 ภาพ ทรงผมสุดแนวของเจ้าตูบ 4 ขา ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าวววว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ














































1704


นอกจากมนุษย์จะมีแฟชั่นแล้ว สุนัขก็มีแฟชั่นที่กิ๊บเก๋ไม่ต่างจากมนุษย์ โดยเฉพาะการแต่งขน หรือการจัดทรงผมแนวๆ ลองมาดูไอเดียทรงผมของสุนัขเหล่านี้ รับรองว่าเห็นแล้วคุณจะลองไปทำให้เจ้าตูบที่บ้านสักทรงสองทรงแน่นอน และวันนี้เราก็จะพามาดู 22 ภาพ ทรงผมสุดแนวของเจ้าตูบ 4 ขา ที่เห็นแล้วต้องร้องว้าวววว จะเป็นอย่างไรบ้างนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ














































1705


ปกติทาสแมวทั้งหลาย คงไม่ค่อยมีใครไปตัดแต่งขนแมวเล่น ให้เป็นรูปทรงต่างๆ แต่ก็มีทาสบางคนรู้สึกเบื่อกับการมีเจ้าเหมียวแบบเดิมๆ จึงจับมันไปตัดขนให้เท่ ให้แนว แต่จะดูดีขึ้น หรือแย่ลง คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินวันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆนั้นมาชอบ 25 ทรงขนแมวเหมียว ที่ไม่เหมือนใครมาให้ชมค่ะ จะน่ารักขนาดไหนนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ




















































1706


ปกติทาสแมวทั้งหลาย คงไม่ค่อยมีใครไปตัดแต่งขนแมวเล่น ให้เป็นรูปทรงต่างๆ แต่ก็มีทาสบางคนรู้สึกเบื่อกับการมีเจ้าเหมียวแบบเดิมๆ จึงจับมันไปตัดขนให้เท่ ให้แนว แต่จะดูดีขึ้น หรือแย่ลง คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินวันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆนั้นมาชอบ 25 ทรงขนแมวเหมียว ที่ไม่เหมือนใครมาให้ชมค่ะ จะน่ารักขนาดไหนนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ




















































1707


ปกติทาสแมวทั้งหลาย คงไม่ค่อยมีใครไปตัดแต่งขนแมวเล่น ให้เป็นรูปทรงต่างๆ แต่ก็มีทาสบางคนรู้สึกเบื่อกับการมีเจ้าเหมียวแบบเดิมๆ จึงจับมันไปตัดขนให้เท่ ให้แนว แต่จะดูดีขึ้น หรือแย่ลง คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินวันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆนั้นมาชอบ 25 ทรงขนแมวเหมียว ที่ไม่เหมือนใครมาให้ชมค่ะ จะน่ารักขนาดไหนนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ




















































1708


ปกติทาสแมวทั้งหลาย คงไม่ค่อยมีใครไปตัดแต่งขนแมวเล่น ให้เป็นรูปทรงต่างๆ แต่ก็มีทาสบางคนรู้สึกเบื่อกับการมีเจ้าเหมียวแบบเดิมๆ จึงจับมันไปตัดขนให้เท่ ให้แนว แต่จะดูดีขึ้น หรือแย่ลง คุณเท่านั้นที่เป็นผู้ตัดสินวันนี้เราเลยจะพาเพื่อนๆนั้นมาชอบ 25 ทรงขนแมวเหมียว ที่ไม่เหมือนใครมาให้ชมค่ะ จะน่ารักขนาดไหนนั้นเราไปชมพร้อมกันเลยดีกว่าค่ะ




















































1709


เรีกได้ว่าเป็นหนึ่งเรื่งราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ สำหรับเรื่องราวของแมวจรจัดสีน้ำตาลตัวนี้ถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Best Friends Animal Society เก็บมาดูแล สิ่งที่พวกเขาเห็นได้ตั้งแต่แรกเลยก็คือมันเป็นแมวที่ขี้อ้อน แค่เจอกันครั้งแรกมันก็อ้อนพวกเขาแล้วพวกเขาตัดสินใจส่งมันไปอยู่บ้านอุปถัมภ์ของ Samantha Bell เพราะรู้ว่าเธอชอบดูแลแมวแบบนี้ ตอนที่เธอได้เจอมันวันแรกเธอก็แปลกใจเหมือนกัน



เธอเล่าว่า “ตอนที่ฉันเดินไปที่กรงของมัน เจ้าแมวส่งเสียงร้องเหมียวๆ อย่างอ่อนหวานมาที่ฉัน แล้วมันก็ถูตัวอยู่กับประตูกรง” แล้วพอมันออกมาจากกรงได้ มันก็เข้าไปอ้อนเธอต่อทันทีBell ตั้งชื่อแมวตัวนี้ว่า McCheeks เพราะมันมีแก้มที่ตุ้ยนุ้ยและดูโดดเด่น แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่ได้ดูน่ารักแค่ภายนอกเท่านั้น จิตใจของมันภายในก็อ่อนโยนเช่นกัน



มันชอบเวลาที่เธอเล่นกับมันหรืออุ้มมันมากจริงๆ เธอรู้เพราะทุกครั้งที่เธอทำแบบนั้นมันจะส่งเสียงเพอร์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธออยากเอาใจมันกว่าเดิมแต่เห็นแบบนี้มันก็ไม่ได้ใจง่ายไปซะหมดหรอกนะ มันมีด้านที่เอาแต่ใจมากๆ อยู่ด้วย เจ้า McCheeks ต้องการให้มีคนสนใจมันอยู่ตลอดเวลา



Bell เล่าต่อว่า “ถ้าเราให้อาหารพวกแมว มันจะร้องเรียกเพื่อให้เราให้อาหารมันก่อน และถ้าตอนนั้นไม่มีใครสนใจมัน มันก็จะร้องเหมียวๆ อยู่อย่างนั้นจนกว่าจะมีคนหันไปหามัน…”ความสนใจจากคนแค่คนเดียวไม่พอสำหรับเจ้า McCheeks เธอเล่าต่อว่า “ถ้ามีคนดูแลอยู่ในห้อง 2 คนและมีมันอยู่ด้วย มันจะเดินไปๆ มาๆ ระหว่างพวกเราเพื่อให้คนลูบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าแมวตัวนี้จะเคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน มันขี้อ้อนมากยิ่งกว่าแมวบ้านซะอีก แบบนี้พวกเขาคงไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะหาบ้านใหม่ไม่ได้ ดีไม่ดีจะมีคนมาแย่งเลี้ยงมันเยอะเสียอีก












1710


เรีกได้ว่าเป็นหนึ่งเรื่งราวที่ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ สำหรับเรื่องราวของแมวจรจัดสีน้ำตาลตัวนี้ถูกกลุ่มช่วยเหลือสัตว์ Best Friends Animal Society เก็บมาดูแล สิ่งที่พวกเขาเห็นได้ตั้งแต่แรกเลยก็คือมันเป็นแมวที่ขี้อ้อน แค่เจอกันครั้งแรกมันก็อ้อนพวกเขาแล้วพวกเขาตัดสินใจส่งมันไปอยู่บ้านอุปถัมภ์ของ Samantha Bell เพราะรู้ว่าเธอชอบดูแลแมวแบบนี้ ตอนที่เธอได้เจอมันวันแรกเธอก็แปลกใจเหมือนกัน



เธอเล่าว่า “ตอนที่ฉันเดินไปที่กรงของมัน เจ้าแมวส่งเสียงร้องเหมียวๆ อย่างอ่อนหวานมาที่ฉัน แล้วมันก็ถูตัวอยู่กับประตูกรง” แล้วพอมันออกมาจากกรงได้ มันก็เข้าไปอ้อนเธอต่อทันทีBell ตั้งชื่อแมวตัวนี้ว่า McCheeks เพราะมันมีแก้มที่ตุ้ยนุ้ยและดูโดดเด่น แต่เธอก็รู้ว่ามันไม่ได้ดูน่ารักแค่ภายนอกเท่านั้น จิตใจของมันภายในก็อ่อนโยนเช่นกัน



มันชอบเวลาที่เธอเล่นกับมันหรืออุ้มมันมากจริงๆ เธอรู้เพราะทุกครั้งที่เธอทำแบบนั้นมันจะส่งเสียงเพอร์ออกมาเรื่อยๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้เธออยากเอาใจมันกว่าเดิมแต่เห็นแบบนี้มันก็ไม่ได้ใจง่ายไปซะหมดหรอกนะ มันมีด้านที่เอาแต่ใจมากๆ อยู่ด้วย เจ้า McCheeks ต้องการให้มีคนสนใจมันอยู่ตลอดเวลา



Bell เล่าต่อว่า “ถ้าเราให้อาหารพวกแมว มันจะร้องเรียกเพื่อให้เราให้อาหารมันก่อน และถ้าตอนนั้นไม่มีใครสนใจมัน มันก็จะร้องเหมียวๆ อยู่อย่างนั้นจนกว่าจะมีคนหันไปหามัน…”ความสนใจจากคนแค่คนเดียวไม่พอสำหรับเจ้า McCheeks เธอเล่าต่อว่า “ถ้ามีคนดูแลอยู่ในห้อง 2 คนและมีมันอยู่ด้วย มันจะเดินไปๆ มาๆ ระหว่างพวกเราเพื่อให้คนลูบมากที่สุดเท่าที่จะทำได้”ไม่น่าเชื่อเลยว่าเจ้าแมวตัวนี้จะเคยเป็นแมวจรจัดมาก่อน มันขี้อ้อนมากยิ่งกว่าแมวบ้านซะอีก แบบนี้พวกเขาคงไม่ต้องกังวลเลยว่ามันจะหาบ้านใหม่ไม่ได้ ดีไม่ดีจะมีคนมาแย่งเลี้ยงมันเยอะเสียอีก