แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - Smile Smile

1681


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยออกมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวเกี่ยวกับลูกแมวที่เพิ่งเกิดมาแต่ดันถูกทิ้ง เรื่องราวนี้ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ พลเมืองดีชาวอังกฤษคนหนึ่งกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านกำลังจะอาบน้ำนอน ได้ยินเสียงร้องแปลกๆดังมาจากกล่องรองเท้าที่อยู่บนทางเดินเข้าบ้าน เข้าจึงเข้าไปตรวจสอบกล่องใบนั้น ก่อนจะพบลูกแมวตัวน้อยที่อายุไม่น่าจะเกิน 1 วันด้วยซ้ำตัวเล็กมากกก



จากนั้นหนุ่มคนดังกล่าวก็ได้ติดต่อไป RSPCA เพื่อจะได้ช่วยเหลอเจ้าแมวน้อย Wheeler บอกว่า “ลูกแมวยังเด็กเกินไปที่จะแยกกับแม่ เราคิดว่ามันน่าจะมีอายุได้ประมาณ 1 หรือ 2 วัน ดังนั้น ตอนนี้มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา”พนักงานในโรงพยาบาลได้ตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Grace จากนั้นก็ดูแลมันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้



สำหรับลูกแมวแรกเกิดเช่นนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเติบโตโดยไม่ได้รับการดูแลจากแม่ อย่างไรก็ตาม พนักงานทุกคนทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่า Grace จะผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้Grace มีขนาดตัวเล็กมาก จนอยู่ในมือคนได้พอดี และมันยากที่จะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตแรกเกิดตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้ตามลำพัง ขณะอยู่ในกล่องรองเท้า แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม มิ้วน้อยโชคดีมากๆ ที่ถูกพบขณะมีชีวิตอยู่ และตอนนี้พลเมืองดีที่ช่วยมันไว้ ก็กำลังพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนนำมันมาทิ้งจากนั้นGraceก็กลับมารับเจ้าเหมียวและพร้อมที่จะดูแลให้ความรักเวลาผ่านไป เจ้าเหมียวก็แข็งแรงและโตมากยิ่งขึ้น

























1682


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยออกมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวเกี่ยวกับลูกแมวที่เพิ่งเกิดมาแต่ดันถูกทิ้ง เรื่องราวนี้ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ พลเมืองดีชาวอังกฤษคนหนึ่งกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านกำลังจะอาบน้ำนอน ได้ยินเสียงร้องแปลกๆดังมาจากกล่องรองเท้าที่อยู่บนทางเดินเข้าบ้าน เข้าจึงเข้าไปตรวจสอบกล่องใบนั้น ก่อนจะพบลูกแมวตัวน้อยที่อายุไม่น่าจะเกิน 1 วันด้วยซ้ำตัวเล็กมากกก



จากนั้นหนุ่มคนดังกล่าวก็ได้ติดต่อไป RSPCA เพื่อจะได้ช่วยเหลอเจ้าแมวน้อย Wheeler บอกว่า “ลูกแมวยังเด็กเกินไปที่จะแยกกับแม่ เราคิดว่ามันน่าจะมีอายุได้ประมาณ 1 หรือ 2 วัน ดังนั้น ตอนนี้มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา”พนักงานในโรงพยาบาลได้ตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Grace จากนั้นก็ดูแลมันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้



สำหรับลูกแมวแรกเกิดเช่นนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเติบโตโดยไม่ได้รับการดูแลจากแม่ อย่างไรก็ตาม พนักงานทุกคนทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่า Grace จะผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้Grace มีขนาดตัวเล็กมาก จนอยู่ในมือคนได้พอดี และมันยากที่จะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตแรกเกิดตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้ตามลำพัง ขณะอยู่ในกล่องรองเท้า แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม มิ้วน้อยโชคดีมากๆ ที่ถูกพบขณะมีชีวิตอยู่ และตอนนี้พลเมืองดีที่ช่วยมันไว้ ก็กำลังพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนนำมันมาทิ้งจากนั้นGraceก็กลับมารับเจ้าเหมียวและพร้อมที่จะดูแลให้ความรักเวลาผ่านไป เจ้าเหมียวก็แข็งแรงและโตมากยิ่งขึ้น

























1683


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยออกมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวเกี่ยวกับลูกแมวที่เพิ่งเกิดมาแต่ดันถูกทิ้ง เรื่องราวนี้ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ พลเมืองดีชาวอังกฤษคนหนึ่งกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านกำลังจะอาบน้ำนอน ได้ยินเสียงร้องแปลกๆดังมาจากกล่องรองเท้าที่อยู่บนทางเดินเข้าบ้าน เข้าจึงเข้าไปตรวจสอบกล่องใบนั้น ก่อนจะพบลูกแมวตัวน้อยที่อายุไม่น่าจะเกิน 1 วันด้วยซ้ำตัวเล็กมากกก



จากนั้นหนุ่มคนดังกล่าวก็ได้ติดต่อไป RSPCA เพื่อจะได้ช่วยเหลอเจ้าแมวน้อย Wheeler บอกว่า “ลูกแมวยังเด็กเกินไปที่จะแยกกับแม่ เราคิดว่ามันน่าจะมีอายุได้ประมาณ 1 หรือ 2 วัน ดังนั้น ตอนนี้มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา”พนักงานในโรงพยาบาลได้ตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Grace จากนั้นก็ดูแลมันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้



สำหรับลูกแมวแรกเกิดเช่นนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเติบโตโดยไม่ได้รับการดูแลจากแม่ อย่างไรก็ตาม พนักงานทุกคนทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่า Grace จะผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้Grace มีขนาดตัวเล็กมาก จนอยู่ในมือคนได้พอดี และมันยากที่จะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตแรกเกิดตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้ตามลำพัง ขณะอยู่ในกล่องรองเท้า แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม มิ้วน้อยโชคดีมากๆ ที่ถูกพบขณะมีชีวิตอยู่ และตอนนี้พลเมืองดีที่ช่วยมันไว้ ก็กำลังพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนนำมันมาทิ้งจากนั้นGraceก็กลับมารับเจ้าเหมียวและพร้อมที่จะดูแลให้ความรักเวลาผ่านไป เจ้าเหมียวก็แข็งแรงและโตมากยิ่งขึ้น

























1684


เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ได้เผยออกมาและได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก เรื่องราวเกี่ยวกับลูกแมวที่เพิ่งเกิดมาแต่ดันถูกทิ้ง เรื่องราวนี้ได้เผยแพร่จากต่างประเทศ พลเมืองดีชาวอังกฤษคนหนึ่งกำลังจะเดินทางกลับบ้าน ถึงบ้านกำลังจะอาบน้ำนอน ได้ยินเสียงร้องแปลกๆดังมาจากกล่องรองเท้าที่อยู่บนทางเดินเข้าบ้าน เข้าจึงเข้าไปตรวจสอบกล่องใบนั้น ก่อนจะพบลูกแมวตัวน้อยที่อายุไม่น่าจะเกิน 1 วันด้วยซ้ำตัวเล็กมากกก



จากนั้นหนุ่มคนดังกล่าวก็ได้ติดต่อไป RSPCA เพื่อจะได้ช่วยเหลอเจ้าแมวน้อย Wheeler บอกว่า “ลูกแมวยังเด็กเกินไปที่จะแยกกับแม่ เราคิดว่ามันน่าจะมีอายุได้ประมาณ 1 หรือ 2 วัน ดังนั้น ตอนนี้มันจำเป็นต้องได้รับการดูแลตลอดเวลา”พนักงานในโรงพยาบาลได้ตั้งชื่อให้แมวน้อยว่า Grace จากนั้นก็ดูแลมันอย่างดีที่สุดเท่าที่จะทำได้



สำหรับลูกแมวแรกเกิดเช่นนี้ เป็นเรื่องยากที่จะเติบโตโดยไม่ได้รับการดูแลจากแม่ อย่างไรก็ตาม พนักงานทุกคนทุ่มเททำทุกอย่าง เพื่อให้แน่ใจว่า Grace จะผ่านช่วงที่ยากลำบากนี้ไปได้Grace มีขนาดตัวเล็กมาก จนอยู่ในมือคนได้พอดี และมันยากที่จะเชื่อว่าสิ่งมีชีวิตแรกเกิดตัวนี้สามารถรอดชีวิตมาได้ตามลำพัง ขณะอยู่ในกล่องรองเท้า แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้นๆ ก็ตาม มิ้วน้อยโชคดีมากๆ ที่ถูกพบขณะมีชีวิตอยู่ และตอนนี้พลเมืองดีที่ช่วยมันไว้ ก็กำลังพยายามสืบหาว่าใครเป็นคนนำมันมาทิ้งจากนั้นGraceก็กลับมารับเจ้าเหมียวและพร้อมที่จะดูแลให้ความรักเวลาผ่านไป เจ้าเหมียวก็แข็งแรงและโตมากยิ่งขึ้น

























1685


เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณถึงรู้สึกได้ว่าคุณสามารถสื่อสารกับสุนัขของคุณอยู่ เป็นเพราะสมองของมนุษย์กับสุนัขมีความคล้ายคลึงกัน พอที่จะทำให้เข้าใจถึงสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ดังนั้นเมื่อคุณแสดงถึงความรักกับสุนัข เขาก็สามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้ และนี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าสุนัขก็รักคุณเหมือนกัน



ชอบทักทายคุณในทุกเช้า

ถ้าหากสุนัขไม่ได้นอนกับคุณในห้องเดียวกัน ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียงสุนัขข่วน หรือเคาะประตูเรียกให้เปิด เมื่อเปิดประตูก็จะโดนสุนัขเข้าจู่โจมพุ่งเข้าใส่ราวกับไม่ได้เจอกันมานานนับปี ถ้าหากเป็นวันหยุดก็อาจจะทำให้บางคนรู้สึกรำคาญ เพราะอยากตื่นสาย แต่ถ้าเกิดเป็นวันปกติก็จะรู้สึกเฉยๆ เพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานในตอนเช้าอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งรำคาญสุนัข เพราะนี้ก็เป็นอีกวิธีที่เขาแสดงถึงความรักที่มีต่อคุณ เป็นความคิดถึงเลยรีบมาหา ไม่ต่างกับเวลาที่คุณมีคนรัก คุณก็อยากเจอคนที่รักก่อนใครๆ



จ้องมองคุณด้วยความอ่อนโยน

การจ้องมองระหว่างสุนัขกับผู้เลี้ยงจะทำให้ระดับฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มขึ้นทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง เป็นความรู้สึกที่ สามารถส่งต่อกันได้ด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ระหว่างผู้เลี้ยงกับสุนัข เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่หลั่งออกมาในเวลาที่แม่กำลังจ้องมองลูกน้อย เรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพัน นั่นเองซึ่งจะทำให้สุนัขรู้สึกได้รับความอบอุ่นและทำให้สุนัขรู้สึกรักเรามากขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่สุนัขรู้สึกวิตกกังวล หรือกลัวก็จะวิ่งมาหาเราเพื่อความปลอดภัย



ชอบเข้ามาออดอ้อน

บ่อยครั้งที่น้องหมาชอบเข้ามาอ้อน เพราะอยากจะกินอาหารจากในมือของเรา แต่บางครั้งอยู่เฉยๆ ก็ชอบเดินมาคลอเคลียใกล้ๆ พร้อมทำเสียงออดอ้อนเอาคางมาเกยตัวเรา หรือนอนหงายแล้วจ้องมองมาที่เรา นั่นก็เป็นอีกการแสดงถึงความรักในแบบของสุนัข

ต้องการที่จะอยู่ใกล้คุณ

ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนมาไหน สุนัขมักจะเดินตามแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ยังจะเดินตามเข้าไปด้วย เพราะสุนัขมีความรู้สึกที่อยากจะอยู่กับเราในทุกที่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าขาดเราไม่ได้เลย แต่ในกรณีนี้ควรฝึกสุนัขให้อยู่ตามลำพังบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาเมื่อถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องให้สุนัขอยู่บ้านเพียงลำพัง จะทำให้สุนัขรู้สึกกระวนกระวายส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกเครียดตามมาได้

ชอบคาบเอาของมาให้เล่น

การที่สุนัขคาบของเล่นมาให้นั้นแปลว่า สุนัขกำลังพยายามจะบอกเราว่าให้มาเล่นด้วยกัน แสดงว่าเขาอยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่สุนัขจะยอมคาบของมาให้คุณง่ายๆ บางครั้งสุนัขก็อาจจะคาบสิ่งชีวิตอื่นมาให้คุณได้ตกใจอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเล่นกับเขาเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีร่วมกัน




1686


เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณถึงรู้สึกได้ว่าคุณสามารถสื่อสารกับสุนัขของคุณอยู่ เป็นเพราะสมองของมนุษย์กับสุนัขมีความคล้ายคลึงกัน พอที่จะทำให้เข้าใจถึงสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ดังนั้นเมื่อคุณแสดงถึงความรักกับสุนัข เขาก็สามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้ และนี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าสุนัขก็รักคุณเหมือนกัน



ชอบทักทายคุณในทุกเช้า

ถ้าหากสุนัขไม่ได้นอนกับคุณในห้องเดียวกัน ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียงสุนัขข่วน หรือเคาะประตูเรียกให้เปิด เมื่อเปิดประตูก็จะโดนสุนัขเข้าจู่โจมพุ่งเข้าใส่ราวกับไม่ได้เจอกันมานานนับปี ถ้าหากเป็นวันหยุดก็อาจจะทำให้บางคนรู้สึกรำคาญ เพราะอยากตื่นสาย แต่ถ้าเกิดเป็นวันปกติก็จะรู้สึกเฉยๆ เพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานในตอนเช้าอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งรำคาญสุนัข เพราะนี้ก็เป็นอีกวิธีที่เขาแสดงถึงความรักที่มีต่อคุณ เป็นความคิดถึงเลยรีบมาหา ไม่ต่างกับเวลาที่คุณมีคนรัก คุณก็อยากเจอคนที่รักก่อนใครๆ



จ้องมองคุณด้วยความอ่อนโยน

การจ้องมองระหว่างสุนัขกับผู้เลี้ยงจะทำให้ระดับฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มขึ้นทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง เป็นความรู้สึกที่ สามารถส่งต่อกันได้ด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ระหว่างผู้เลี้ยงกับสุนัข เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่หลั่งออกมาในเวลาที่แม่กำลังจ้องมองลูกน้อย เรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพัน นั่นเองซึ่งจะทำให้สุนัขรู้สึกได้รับความอบอุ่นและทำให้สุนัขรู้สึกรักเรามากขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่สุนัขรู้สึกวิตกกังวล หรือกลัวก็จะวิ่งมาหาเราเพื่อความปลอดภัย



ชอบเข้ามาออดอ้อน

บ่อยครั้งที่น้องหมาชอบเข้ามาอ้อน เพราะอยากจะกินอาหารจากในมือของเรา แต่บางครั้งอยู่เฉยๆ ก็ชอบเดินมาคลอเคลียใกล้ๆ พร้อมทำเสียงออดอ้อนเอาคางมาเกยตัวเรา หรือนอนหงายแล้วจ้องมองมาที่เรา นั่นก็เป็นอีกการแสดงถึงความรักในแบบของสุนัข

ต้องการที่จะอยู่ใกล้คุณ

ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนมาไหน สุนัขมักจะเดินตามแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ยังจะเดินตามเข้าไปด้วย เพราะสุนัขมีความรู้สึกที่อยากจะอยู่กับเราในทุกที่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าขาดเราไม่ได้เลย แต่ในกรณีนี้ควรฝึกสุนัขให้อยู่ตามลำพังบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาเมื่อถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องให้สุนัขอยู่บ้านเพียงลำพัง จะทำให้สุนัขรู้สึกกระวนกระวายส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกเครียดตามมาได้

ชอบคาบเอาของมาให้เล่น

การที่สุนัขคาบของเล่นมาให้นั้นแปลว่า สุนัขกำลังพยายามจะบอกเราว่าให้มาเล่นด้วยกัน แสดงว่าเขาอยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่สุนัขจะยอมคาบของมาให้คุณง่ายๆ บางครั้งสุนัขก็อาจจะคาบสิ่งชีวิตอื่นมาให้คุณได้ตกใจอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเล่นกับเขาเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีร่วมกัน




1687


เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณถึงรู้สึกได้ว่าคุณสามารถสื่อสารกับสุนัขของคุณอยู่ เป็นเพราะสมองของมนุษย์กับสุนัขมีความคล้ายคลึงกัน พอที่จะทำให้เข้าใจถึงสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ดังนั้นเมื่อคุณแสดงถึงความรักกับสุนัข เขาก็สามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้ และนี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าสุนัขก็รักคุณเหมือนกัน



ชอบทักทายคุณในทุกเช้า

ถ้าหากสุนัขไม่ได้นอนกับคุณในห้องเดียวกัน ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียงสุนัขข่วน หรือเคาะประตูเรียกให้เปิด เมื่อเปิดประตูก็จะโดนสุนัขเข้าจู่โจมพุ่งเข้าใส่ราวกับไม่ได้เจอกันมานานนับปี ถ้าหากเป็นวันหยุดก็อาจจะทำให้บางคนรู้สึกรำคาญ เพราะอยากตื่นสาย แต่ถ้าเกิดเป็นวันปกติก็จะรู้สึกเฉยๆ เพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานในตอนเช้าอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งรำคาญสุนัข เพราะนี้ก็เป็นอีกวิธีที่เขาแสดงถึงความรักที่มีต่อคุณ เป็นความคิดถึงเลยรีบมาหา ไม่ต่างกับเวลาที่คุณมีคนรัก คุณก็อยากเจอคนที่รักก่อนใครๆ



จ้องมองคุณด้วยความอ่อนโยน

การจ้องมองระหว่างสุนัขกับผู้เลี้ยงจะทำให้ระดับฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มขึ้นทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง เป็นความรู้สึกที่ สามารถส่งต่อกันได้ด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ระหว่างผู้เลี้ยงกับสุนัข เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่หลั่งออกมาในเวลาที่แม่กำลังจ้องมองลูกน้อย เรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพัน นั่นเองซึ่งจะทำให้สุนัขรู้สึกได้รับความอบอุ่นและทำให้สุนัขรู้สึกรักเรามากขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่สุนัขรู้สึกวิตกกังวล หรือกลัวก็จะวิ่งมาหาเราเพื่อความปลอดภัย



ชอบเข้ามาออดอ้อน

บ่อยครั้งที่น้องหมาชอบเข้ามาอ้อน เพราะอยากจะกินอาหารจากในมือของเรา แต่บางครั้งอยู่เฉยๆ ก็ชอบเดินมาคลอเคลียใกล้ๆ พร้อมทำเสียงออดอ้อนเอาคางมาเกยตัวเรา หรือนอนหงายแล้วจ้องมองมาที่เรา นั่นก็เป็นอีกการแสดงถึงความรักในแบบของสุนัข

ต้องการที่จะอยู่ใกล้คุณ

ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนมาไหน สุนัขมักจะเดินตามแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ยังจะเดินตามเข้าไปด้วย เพราะสุนัขมีความรู้สึกที่อยากจะอยู่กับเราในทุกที่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าขาดเราไม่ได้เลย แต่ในกรณีนี้ควรฝึกสุนัขให้อยู่ตามลำพังบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาเมื่อถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องให้สุนัขอยู่บ้านเพียงลำพัง จะทำให้สุนัขรู้สึกกระวนกระวายส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกเครียดตามมาได้

ชอบคาบเอาของมาให้เล่น

การที่สุนัขคาบของเล่นมาให้นั้นแปลว่า สุนัขกำลังพยายามจะบอกเราว่าให้มาเล่นด้วยกัน แสดงว่าเขาอยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่สุนัขจะยอมคาบของมาให้คุณง่ายๆ บางครั้งสุนัขก็อาจจะคาบสิ่งชีวิตอื่นมาให้คุณได้ตกใจอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเล่นกับเขาเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีร่วมกัน




1688


เคยสงสัยมั้ยว่าทำไมคุณถึงรู้สึกได้ว่าคุณสามารถสื่อสารกับสุนัขของคุณอยู่ เป็นเพราะสมองของมนุษย์กับสุนัขมีความคล้ายคลึงกัน พอที่จะทำให้เข้าใจถึงสภาวะทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นว่ากำลังรู้สึกอย่างไร ดังนั้นเมื่อคุณแสดงถึงความรักกับสุนัข เขาก็สามารถรับรู้และเข้าใจคุณได้ และนี่คือสิ่งที่บ่งบอกว่าสุนัขก็รักคุณเหมือนกัน



ชอบทักทายคุณในทุกเช้า

ถ้าหากสุนัขไม่ได้นอนกับคุณในห้องเดียวกัน ทุกเช้าเราจะได้ยินเสียงสุนัขข่วน หรือเคาะประตูเรียกให้เปิด เมื่อเปิดประตูก็จะโดนสุนัขเข้าจู่โจมพุ่งเข้าใส่ราวกับไม่ได้เจอกันมานานนับปี ถ้าหากเป็นวันหยุดก็อาจจะทำให้บางคนรู้สึกรำคาญ เพราะอยากตื่นสาย แต่ถ้าเกิดเป็นวันปกติก็จะรู้สึกเฉยๆ เพราะต้องตื่นเช้าไปทำงานในตอนเช้าอยู่แล้ว แต่อย่าเพิ่งรำคาญสุนัข เพราะนี้ก็เป็นอีกวิธีที่เขาแสดงถึงความรักที่มีต่อคุณ เป็นความคิดถึงเลยรีบมาหา ไม่ต่างกับเวลาที่คุณมีคนรัก คุณก็อยากเจอคนที่รักก่อนใครๆ



จ้องมองคุณด้วยความอ่อนโยน

การจ้องมองระหว่างสุนัขกับผู้เลี้ยงจะทำให้ระดับฮอร์โมน Oxytocin เพิ่มขึ้นทั้งในคนและสัตว์เลี้ยง เป็นความรู้สึกที่ สามารถส่งต่อกันได้ด้วยความรู้สึกที่สัมผัสได้ระหว่างผู้เลี้ยงกับสุนัข เป็นฮอร์โมนชนิดเดียวกันกับที่หลั่งออกมาในเวลาที่แม่กำลังจ้องมองลูกน้อย เรียกว่า ฮอร์โมนแห่งความรักความผูกพัน นั่นเองซึ่งจะทำให้สุนัขรู้สึกได้รับความอบอุ่นและทำให้สุนัขรู้สึกรักเรามากขึ้น ทำให้ทุกครั้งที่สุนัขรู้สึกวิตกกังวล หรือกลัวก็จะวิ่งมาหาเราเพื่อความปลอดภัย



ชอบเข้ามาออดอ้อน

บ่อยครั้งที่น้องหมาชอบเข้ามาอ้อน เพราะอยากจะกินอาหารจากในมือของเรา แต่บางครั้งอยู่เฉยๆ ก็ชอบเดินมาคลอเคลียใกล้ๆ พร้อมทำเสียงออดอ้อนเอาคางมาเกยตัวเรา หรือนอนหงายแล้วจ้องมองมาที่เรา นั่นก็เป็นอีกการแสดงถึงความรักในแบบของสุนัข

ต้องการที่จะอยู่ใกล้คุณ

ไม่ว่าเราจะเดินไปไหนมาไหน สุนัขมักจะเดินตามแม้กระทั่งเข้าห้องน้ำก็ยังจะเดินตามเข้าไปด้วย เพราะสุนัขมีความรู้สึกที่อยากจะอยู่กับเราในทุกที่ หรืออาจจะเรียกได้ว่าขาดเราไม่ได้เลย แต่ในกรณีนี้ควรฝึกสุนัขให้อยู่ตามลำพังบ้าง เพื่อไม่ให้เป็นปัญหาเมื่อถึงเวลาจำเป็นที่จะต้องให้สุนัขอยู่บ้านเพียงลำพัง จะทำให้สุนัขรู้สึกกระวนกระวายส่งผลทำให้เกิดความรู้สึกเครียดตามมาได้

ชอบคาบเอาของมาให้เล่น

การที่สุนัขคาบของเล่นมาให้นั้นแปลว่า สุนัขกำลังพยายามจะบอกเราว่าให้มาเล่นด้วยกัน แสดงว่าเขาอยากที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับคุณ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่สุนัขจะยอมคาบของมาให้คุณง่ายๆ บางครั้งสุนัขก็อาจจะคาบสิ่งชีวิตอื่นมาให้คุณได้ตกใจอีกด้วย เพราะฉะนั้นควรเล่นกับเขาเพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีร่วมกัน




1689


ช่วงนี้สายฝนโปรยปราย ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื้น ชื่นใจได้ไม่น้อย น้องหมาเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นน้ำ บางตัวสนุกสนานไปกับการวิ่งเล่นตากฝน ลุยน้ำจนตัวมอมแมม เรื่องตัวสกปรกอาจจะนำมาซึ่งโรคผิวหนังและกลิ่นตัว อากาศที่เย็นชื้นอาจจะนำซึ่งโรคหวัดและเป็นไข้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สายฝนอาจนำมาหรืออาจจะมีมาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่อาจจะชุกชุมมากขึ้นในช่วงนี้ ก็คือ "อันตรายจากสัตว์ร้าย" นั่นเอง

งู



งูมีทั้งชนิดแบบมีพิษและไม่มีพิษ ซึ่งแบบชนิดมีพิษนั้นถ้าหากพบรอยกัดบนผิวหนังของสุนัข จะมีรอยเขี้ยวที่สังเกตได้ โดยแผลของน้องหมาจะมีอาการบวม รวมถึงอาจมีอาการตัวบวม และหน้าบวมร่วมด้วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อพบสุนัขถูกงูกัด คือล้างแผลให้สะอาด และรีบนำสุนัขพาส่งสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด และเป็นไปได้ควรถ่ายรูปงูที่กัดสุนัขมาด้วย เพราะงูแต่ละชนิดมีพิษที่แตกต่างกัน

 คางคก     



คางคกมักจะเจอในหน้าฝนและสุนัขมักจะชอบไปเล่น โดยใช้ปากคาบ ก็จะโดนพิษจากผิวหนังของคางคก ทำให้บริเวณปากของน้องหมาบวมฉึ่ง และปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่โดนพิษของคางคก หายใจติดขัด ถ้าไม่รีบรักษาและปล่อยให้น้องหมากินคางกเข้าไป อาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือต้องล้างพิษคางคกออกด้วยน้ำสะอาดและพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

ตะขาบ   

ตะขาบก็มักจะพบในฤดูฝนบ่อยเช่นเดียวกับคางคก โดยตะขาบที่เป็นอันตรายต่อสุนัขคือตะขาบที่ตัวใหญ่ เมื่อสุนัขถูกตะขาบกัด จะพบรอยเขี้ยวตื้นๆ ทำให้บริเวณที่โดนกัดมีการบวม ถ้าหากสุนัขมีอาการแพ้ อาจทำให้มีอาการหนักกว่าเดิมได้ เมื่อพบสุนัขถูกตะขาบกัดให้ล้างแผลแล้วนำส่งสัตวแพทย์ทันที



เห็บ หมัด



สำหรับปรสิตตัวจ้อย แต่พิษสงนั้นร้ายพอตัว นอกเหนือจากจะก่อให้เกิดความรำคาญในสุนัขแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง รวมถึงโรคพยาธิเม็ดเลือดได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลสุนัขเป้นพิเศษ

ยุง

นี่แหละคือผู้ร้ายตัวจริง เพราะมีจำนวนมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยง และยังเป็นพาหะนำโรคร้ายอย่าง โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ที่เป็นยเงียบ คอยแพร่พยาธิหนอนหัวใจไปยังสุนัขตัวอื่นๆ และในช่วงแรกก็ยังไม่แสดงอาการ แต่เมื่อแสดงอาการอย่างหอบ หายใจลำบาก จะทำให้ร่างกายของสุนัขทรุดลงอย่างรวดเร็ว แย่ที่สุดคืออาจทำให้สุนัขหายใจวายได้


1690


ช่วงนี้สายฝนโปรยปราย ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื้น ชื่นใจได้ไม่น้อย น้องหมาเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นน้ำ บางตัวสนุกสนานไปกับการวิ่งเล่นตากฝน ลุยน้ำจนตัวมอมแมม เรื่องตัวสกปรกอาจจะนำมาซึ่งโรคผิวหนังและกลิ่นตัว อากาศที่เย็นชื้นอาจจะนำซึ่งโรคหวัดและเป็นไข้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สายฝนอาจนำมาหรืออาจจะมีมาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่อาจจะชุกชุมมากขึ้นในช่วงนี้ ก็คือ "อันตรายจากสัตว์ร้าย" นั่นเอง

งู



งูมีทั้งชนิดแบบมีพิษและไม่มีพิษ ซึ่งแบบชนิดมีพิษนั้นถ้าหากพบรอยกัดบนผิวหนังของสุนัข จะมีรอยเขี้ยวที่สังเกตได้ โดยแผลของน้องหมาจะมีอาการบวม รวมถึงอาจมีอาการตัวบวม และหน้าบวมร่วมด้วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อพบสุนัขถูกงูกัด คือล้างแผลให้สะอาด และรีบนำสุนัขพาส่งสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด และเป็นไปได้ควรถ่ายรูปงูที่กัดสุนัขมาด้วย เพราะงูแต่ละชนิดมีพิษที่แตกต่างกัน

 คางคก     



คางคกมักจะเจอในหน้าฝนและสุนัขมักจะชอบไปเล่น โดยใช้ปากคาบ ก็จะโดนพิษจากผิวหนังของคางคก ทำให้บริเวณปากของน้องหมาบวมฉึ่ง และปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่โดนพิษของคางคก หายใจติดขัด ถ้าไม่รีบรักษาและปล่อยให้น้องหมากินคางกเข้าไป อาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือต้องล้างพิษคางคกออกด้วยน้ำสะอาดและพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

ตะขาบ   

ตะขาบก็มักจะพบในฤดูฝนบ่อยเช่นเดียวกับคางคก โดยตะขาบที่เป็นอันตรายต่อสุนัขคือตะขาบที่ตัวใหญ่ เมื่อสุนัขถูกตะขาบกัด จะพบรอยเขี้ยวตื้นๆ ทำให้บริเวณที่โดนกัดมีการบวม ถ้าหากสุนัขมีอาการแพ้ อาจทำให้มีอาการหนักกว่าเดิมได้ เมื่อพบสุนัขถูกตะขาบกัดให้ล้างแผลแล้วนำส่งสัตวแพทย์ทันที



เห็บ หมัด



สำหรับปรสิตตัวจ้อย แต่พิษสงนั้นร้ายพอตัว นอกเหนือจากจะก่อให้เกิดความรำคาญในสุนัขแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง รวมถึงโรคพยาธิเม็ดเลือดได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลสุนัขเป้นพิเศษ

ยุง

นี่แหละคือผู้ร้ายตัวจริง เพราะมีจำนวนมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยง และยังเป็นพาหะนำโรคร้ายอย่าง โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ที่เป็นยเงียบ คอยแพร่พยาธิหนอนหัวใจไปยังสุนัขตัวอื่นๆ และในช่วงแรกก็ยังไม่แสดงอาการ แต่เมื่อแสดงอาการอย่างหอบ หายใจลำบาก จะทำให้ร่างกายของสุนัขทรุดลงอย่างรวดเร็ว แย่ที่สุดคืออาจทำให้สุนัขหายใจวายได้


1691


ช่วงนี้สายฝนโปรยปราย ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื้น ชื่นใจได้ไม่น้อย น้องหมาเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นน้ำ บางตัวสนุกสนานไปกับการวิ่งเล่นตากฝน ลุยน้ำจนตัวมอมแมม เรื่องตัวสกปรกอาจจะนำมาซึ่งโรคผิวหนังและกลิ่นตัว อากาศที่เย็นชื้นอาจจะนำซึ่งโรคหวัดและเป็นไข้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สายฝนอาจนำมาหรืออาจจะมีมาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่อาจจะชุกชุมมากขึ้นในช่วงนี้ ก็คือ "อันตรายจากสัตว์ร้าย" นั่นเอง

งู



งูมีทั้งชนิดแบบมีพิษและไม่มีพิษ ซึ่งแบบชนิดมีพิษนั้นถ้าหากพบรอยกัดบนผิวหนังของสุนัข จะมีรอยเขี้ยวที่สังเกตได้ โดยแผลของน้องหมาจะมีอาการบวม รวมถึงอาจมีอาการตัวบวม และหน้าบวมร่วมด้วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อพบสุนัขถูกงูกัด คือล้างแผลให้สะอาด และรีบนำสุนัขพาส่งสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด และเป็นไปได้ควรถ่ายรูปงูที่กัดสุนัขมาด้วย เพราะงูแต่ละชนิดมีพิษที่แตกต่างกัน

 คางคก     



คางคกมักจะเจอในหน้าฝนและสุนัขมักจะชอบไปเล่น โดยใช้ปากคาบ ก็จะโดนพิษจากผิวหนังของคางคก ทำให้บริเวณปากของน้องหมาบวมฉึ่ง และปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่โดนพิษของคางคก หายใจติดขัด ถ้าไม่รีบรักษาและปล่อยให้น้องหมากินคางกเข้าไป อาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือต้องล้างพิษคางคกออกด้วยน้ำสะอาดและพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

ตะขาบ   

ตะขาบก็มักจะพบในฤดูฝนบ่อยเช่นเดียวกับคางคก โดยตะขาบที่เป็นอันตรายต่อสุนัขคือตะขาบที่ตัวใหญ่ เมื่อสุนัขถูกตะขาบกัด จะพบรอยเขี้ยวตื้นๆ ทำให้บริเวณที่โดนกัดมีการบวม ถ้าหากสุนัขมีอาการแพ้ อาจทำให้มีอาการหนักกว่าเดิมได้ เมื่อพบสุนัขถูกตะขาบกัดให้ล้างแผลแล้วนำส่งสัตวแพทย์ทันที



เห็บ หมัด



สำหรับปรสิตตัวจ้อย แต่พิษสงนั้นร้ายพอตัว นอกเหนือจากจะก่อให้เกิดความรำคาญในสุนัขแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง รวมถึงโรคพยาธิเม็ดเลือดได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลสุนัขเป้นพิเศษ

ยุง

นี่แหละคือผู้ร้ายตัวจริง เพราะมีจำนวนมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยง และยังเป็นพาหะนำโรคร้ายอย่าง โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ที่เป็นยเงียบ คอยแพร่พยาธิหนอนหัวใจไปยังสุนัขตัวอื่นๆ และในช่วงแรกก็ยังไม่แสดงอาการ แต่เมื่อแสดงอาการอย่างหอบ หายใจลำบาก จะทำให้ร่างกายของสุนัขทรุดลงอย่างรวดเร็ว แย่ที่สุดคืออาจทำให้สุนัขหายใจวายได้


1692


ช่วงนี้สายฝนโปรยปราย ทำให้เรารู้สึกชุ่มชื้น ชื่นใจได้ไม่น้อย น้องหมาเป็นสัตว์ที่ชอบเล่นน้ำ บางตัวสนุกสนานไปกับการวิ่งเล่นตากฝน ลุยน้ำจนตัวมอมแมม เรื่องตัวสกปรกอาจจะนำมาซึ่งโรคผิวหนังและกลิ่นตัว อากาศที่เย็นชื้นอาจจะนำซึ่งโรคหวัดและเป็นไข้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่สายฝนอาจนำมาหรืออาจจะมีมาอยู่ก่อนแล้ว เพียงแต่อาจจะชุกชุมมากขึ้นในช่วงนี้ ก็คือ "อันตรายจากสัตว์ร้าย" นั่นเอง

งู



งูมีทั้งชนิดแบบมีพิษและไม่มีพิษ ซึ่งแบบชนิดมีพิษนั้นถ้าหากพบรอยกัดบนผิวหนังของสุนัข จะมีรอยเขี้ยวที่สังเกตได้ โดยแผลของน้องหมาจะมีอาการบวม รวมถึงอาจมีอาการตัวบวม และหน้าบวมร่วมด้วย วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อพบสุนัขถูกงูกัด คือล้างแผลให้สะอาด และรีบนำสุนัขพาส่งสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด และเป็นไปได้ควรถ่ายรูปงูที่กัดสุนัขมาด้วย เพราะงูแต่ละชนิดมีพิษที่แตกต่างกัน

 คางคก     



คางคกมักจะเจอในหน้าฝนและสุนัขมักจะชอบไปเล่น โดยใช้ปากคาบ ก็จะโดนพิษจากผิวหนังของคางคก ทำให้บริเวณปากของน้องหมาบวมฉึ่ง และปวดแสบปวดร้อนบริเวณที่โดนพิษของคางคก หายใจติดขัด ถ้าไม่รีบรักษาและปล่อยให้น้องหมากินคางกเข้าไป อาจทำให้น้องหมาเสียชีวิตได้ การปฐมพยาบาลเบื้องต้นคือต้องล้างพิษคางคกออกด้วยน้ำสะอาดและพาไปพบสัตวแพทย์โดยเร็ว

ตะขาบ   

ตะขาบก็มักจะพบในฤดูฝนบ่อยเช่นเดียวกับคางคก โดยตะขาบที่เป็นอันตรายต่อสุนัขคือตะขาบที่ตัวใหญ่ เมื่อสุนัขถูกตะขาบกัด จะพบรอยเขี้ยวตื้นๆ ทำให้บริเวณที่โดนกัดมีการบวม ถ้าหากสุนัขมีอาการแพ้ อาจทำให้มีอาการหนักกว่าเดิมได้ เมื่อพบสุนัขถูกตะขาบกัดให้ล้างแผลแล้วนำส่งสัตวแพทย์ทันที



เห็บ หมัด



สำหรับปรสิตตัวจ้อย แต่พิษสงนั้นร้ายพอตัว นอกเหนือจากจะก่อให้เกิดความรำคาญในสุนัขแล้ว ยังอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง รวมถึงโรคพยาธิเม็ดเลือดได้ ดังนั้นจึงควรหมั่นดูแลสุนัขเป้นพิเศษ

ยุง

นี่แหละคือผู้ร้ายตัวจริง เพราะมีจำนวนมาก ยากที่จะหลีกเลี่ยง และยังเป็นพาหะนำโรคร้ายอย่าง โรคพยาธิหนอนหัวใจในสุนัข ที่เป็นยเงียบ คอยแพร่พยาธิหนอนหัวใจไปยังสุนัขตัวอื่นๆ และในช่วงแรกก็ยังไม่แสดงอาการ แต่เมื่อแสดงอาการอย่างหอบ หายใจลำบาก จะทำให้ร่างกายของสุนัขทรุดลงอย่างรวดเร็ว แย่ที่สุดคืออาจทำให้สุนัขหายใจวายได้


1693


มีตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับน้องแมวที่เราคงเคยได้ยินกันผ่านหูมาตั้งแต่เด็ก และมีหลายหลากความเชื่อที่เป็นเรื่องราวสืบต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแห่นางแมวขอฝน แมวกวักให้โชค แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเราทุกคนน่าจะเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า นั่นคือเรื่องของ แมว 9 ชีวิต นั่นเอง



อันที่จริงแล้วต้นกำเนิดของตำนานแมวเก้าชีวิตนี้ ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่ถ้ามาสืบความหาที่มาของต้นเหตุแห่งตำนานแมวเก้าชีวิตนั้น อาจมาจากการที่คนสมัยก่อนเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย ทำให้เผลอคิดว่าแมวอาจมีมากกว่า 1ชีวิต ซึ่งเป็นที่มาของตำนานแมว 9 ชีวิต หรือในบางชาติก็เชื่อกันว่าแมวมี 7 ชีวิต



ในความเป็นจริง หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถอธิบายถึงเรื่องแมว 9 ชีวิต ได้ง่ายๆ เรื่องนี้เรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะเหมียวแบบที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ การที่น้องแมวตกมาจากที่สูงแล้วไม่เป็นไรนั้น เพราะร่างกายของน้องแมวมีความสามารถในการทรงตัวและกลับตัวกลางอากาศได้ เมื่อน้องแมวเสียการทรงตัวและตกลงมาจากที่สูง น้องแมวจึงสามารถเอาเท้าลงมาที่พื้นได้ทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อน้องแมวพลัดตกลงมา สัญชาตญาณกลับตัวกลางอากาศจะเริ่มทำงานทันทีด้วยเวลาชั่วพริบตาเพียงแค่ 0.1 วินาที (หรือเสี้ยววินาที) โดยความสามารถอันน่าทึ่งนี้ถูกควบคุมจากอวัยวะที่ชื่อ Vestibular Apparatus ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ในหูชั้นในของน้องแมว คอยทำหน้าที่ควบคุมสมดุลการทรงตัวและการกลับของน้องแมวนั่นเอง และความพิเศษยามเมื่อน้องแมวกลับตัวเรียบร้อยแล้วและขาแตะถึงพื้นแล้ว ขาทั้ง 4 ข้างยังทำหน้าที่คล้ายกับสปริง ทำให้ลดแรงกระแทกกับพื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย



แบบนี้แสดงว่าน้องแมว ก็สามารถกระโดดลงมาจากตึกสูงๆ ได้เลยน่ะสิ?

คำถามนี้เป็นที่สงสัยกันจนต้องมีนักวิจัยมาหาคำตอบกันเลยทีเดียว ว่าน้องแมวสามารถตกได้จากตึกสูงกี่ชั้นถึงจะปลอดภัย โดย Jared Diamond ได้ทำการศึกษาว่าน้องแมวตกจากตึกกี่ชั้นถึงจะเสียชีวิต ศึกษาจากกรณีแมวพลัดตกตึกตั้งแต่ 2 – 32 ชั้น เป็นจำนวนรวม 104 ตัว ผลการศึกษาพบว่าน้องแมวที่ตกจากชั้นประมาณ 4 – 9 นั้นกลับมีโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ไม่ใช่น้องแมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 32 เลย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อธิบายได้ว่า ที่ความสูงตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป จะเป็นความสูงระดับที่มากพอให้เกิดแรงต้านอากาศและมีเวลาในการตกเหลือพอให้น้องแมวได้จัดร่างกายพร้อมรับแรงกระแทกบนพื้น ประกอบกับน้องแมวมีน้ำหนักน้อยจึงทำให้แรงปะทะเมื่อถึงพื้นไม่มากนัก



 และทำให้การบาดเจ็บนั้นไม่ถึงแก่ชีวิตนั่นเอง แต่ในระดับความสูงตึกชั้นที่ 4 – 9 นั้น แม้จะมีแรงต้านอากาศช่วย แต่ความสูงที่น้อยลงทำให้น้องแมวมีเวลาไม่มากพอจะจัดท่าเตรียมรับแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ช่วงระหว่างชั้นนี้เมื่อน้องแมวตกลงมาแล้วมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าชั้นสูงๆ แต่สำหรับชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 4 แม้ว่าจะมีช่วงเวลาตกจะสั้นมาก แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากนักทำให้แรงกระแทกไม่มากตามไปด้วย แมวจึงไม่เสียชีวิตนั่นเอง

แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแมวเก้าชีวิต แต่ก็ขอเซฟไว้ก่อน ไม่ตกลงมาเลยน่าจะดีกับน้องแมวมากกว่าว่าไหมล่ะ







1694


มีตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับน้องแมวที่เราคงเคยได้ยินกันผ่านหูมาตั้งแต่เด็ก และมีหลายหลากความเชื่อที่เป็นเรื่องราวสืบต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแห่นางแมวขอฝน แมวกวักให้โชค แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเราทุกคนน่าจะเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า นั่นคือเรื่องของ แมว 9 ชีวิต นั่นเอง



อันที่จริงแล้วต้นกำเนิดของตำนานแมวเก้าชีวิตนี้ ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่ถ้ามาสืบความหาที่มาของต้นเหตุแห่งตำนานแมวเก้าชีวิตนั้น อาจมาจากการที่คนสมัยก่อนเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย ทำให้เผลอคิดว่าแมวอาจมีมากกว่า 1ชีวิต ซึ่งเป็นที่มาของตำนานแมว 9 ชีวิต หรือในบางชาติก็เชื่อกันว่าแมวมี 7 ชีวิต



ในความเป็นจริง หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถอธิบายถึงเรื่องแมว 9 ชีวิต ได้ง่ายๆ เรื่องนี้เรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะเหมียวแบบที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ การที่น้องแมวตกมาจากที่สูงแล้วไม่เป็นไรนั้น เพราะร่างกายของน้องแมวมีความสามารถในการทรงตัวและกลับตัวกลางอากาศได้ เมื่อน้องแมวเสียการทรงตัวและตกลงมาจากที่สูง น้องแมวจึงสามารถเอาเท้าลงมาที่พื้นได้ทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อน้องแมวพลัดตกลงมา สัญชาตญาณกลับตัวกลางอากาศจะเริ่มทำงานทันทีด้วยเวลาชั่วพริบตาเพียงแค่ 0.1 วินาที (หรือเสี้ยววินาที) โดยความสามารถอันน่าทึ่งนี้ถูกควบคุมจากอวัยวะที่ชื่อ Vestibular Apparatus ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ในหูชั้นในของน้องแมว คอยทำหน้าที่ควบคุมสมดุลการทรงตัวและการกลับของน้องแมวนั่นเอง และความพิเศษยามเมื่อน้องแมวกลับตัวเรียบร้อยแล้วและขาแตะถึงพื้นแล้ว ขาทั้ง 4 ข้างยังทำหน้าที่คล้ายกับสปริง ทำให้ลดแรงกระแทกกับพื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย



แบบนี้แสดงว่าน้องแมว ก็สามารถกระโดดลงมาจากตึกสูงๆ ได้เลยน่ะสิ?

คำถามนี้เป็นที่สงสัยกันจนต้องมีนักวิจัยมาหาคำตอบกันเลยทีเดียว ว่าน้องแมวสามารถตกได้จากตึกสูงกี่ชั้นถึงจะปลอดภัย โดย Jared Diamond ได้ทำการศึกษาว่าน้องแมวตกจากตึกกี่ชั้นถึงจะเสียชีวิต ศึกษาจากกรณีแมวพลัดตกตึกตั้งแต่ 2 – 32 ชั้น เป็นจำนวนรวม 104 ตัว ผลการศึกษาพบว่าน้องแมวที่ตกจากชั้นประมาณ 4 – 9 นั้นกลับมีโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ไม่ใช่น้องแมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 32 เลย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อธิบายได้ว่า ที่ความสูงตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป จะเป็นความสูงระดับที่มากพอให้เกิดแรงต้านอากาศและมีเวลาในการตกเหลือพอให้น้องแมวได้จัดร่างกายพร้อมรับแรงกระแทกบนพื้น ประกอบกับน้องแมวมีน้ำหนักน้อยจึงทำให้แรงปะทะเมื่อถึงพื้นไม่มากนัก



 และทำให้การบาดเจ็บนั้นไม่ถึงแก่ชีวิตนั่นเอง แต่ในระดับความสูงตึกชั้นที่ 4 – 9 นั้น แม้จะมีแรงต้านอากาศช่วย แต่ความสูงที่น้อยลงทำให้น้องแมวมีเวลาไม่มากพอจะจัดท่าเตรียมรับแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ช่วงระหว่างชั้นนี้เมื่อน้องแมวตกลงมาแล้วมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าชั้นสูงๆ แต่สำหรับชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 4 แม้ว่าจะมีช่วงเวลาตกจะสั้นมาก แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากนักทำให้แรงกระแทกไม่มากตามไปด้วย แมวจึงไม่เสียชีวิตนั่นเอง

แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแมวเก้าชีวิต แต่ก็ขอเซฟไว้ก่อน ไม่ตกลงมาเลยน่าจะดีกับน้องแมวมากกว่าว่าไหมล่ะ







1695


มีตำนานและเรื่องเล่าต่างๆ เกี่ยวกับน้องแมวที่เราคงเคยได้ยินกันผ่านหูมาตั้งแต่เด็ก และมีหลายหลากความเชื่อที่เป็นเรื่องราวสืบต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแห่นางแมวขอฝน แมวกวักให้โชค แต่มีอีกหนึ่งเรื่องที่เชื่อว่าเราทุกคนน่าจะเคยได้ยิน แต่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า นั่นคือเรื่องของ แมว 9 ชีวิต นั่นเอง



อันที่จริงแล้วต้นกำเนิดของตำนานแมวเก้าชีวิตนี้ ยังไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามาจากที่ใด แต่ถ้ามาสืบความหาที่มาของต้นเหตุแห่งตำนานแมวเก้าชีวิตนั้น อาจมาจากการที่คนสมัยก่อนเห็นแมวตกจากที่สูงแล้วไม่ตาย ทำให้เผลอคิดว่าแมวอาจมีมากกว่า 1ชีวิต ซึ่งเป็นที่มาของตำนานแมว 9 ชีวิต หรือในบางชาติก็เชื่อกันว่าแมวมี 7 ชีวิต



ในความเป็นจริง หากพูดกันตามหลักวิทยาศาสตร์แล้ว ก็สามารถอธิบายถึงเรื่องแมว 9 ชีวิต ได้ง่ายๆ เรื่องนี้เรียกว่าเป็นความสามารถเฉพาะเหมียวแบบที่ใครก็ลอกเลียนแบบไม่ได้ การที่น้องแมวตกมาจากที่สูงแล้วไม่เป็นไรนั้น เพราะร่างกายของน้องแมวมีความสามารถในการทรงตัวและกลับตัวกลางอากาศได้ เมื่อน้องแมวเสียการทรงตัวและตกลงมาจากที่สูง น้องแมวจึงสามารถเอาเท้าลงมาที่พื้นได้ทุกครั้ง ดังนั้นเมื่อน้องแมวพลัดตกลงมา สัญชาตญาณกลับตัวกลางอากาศจะเริ่มทำงานทันทีด้วยเวลาชั่วพริบตาเพียงแค่ 0.1 วินาที (หรือเสี้ยววินาที) โดยความสามารถอันน่าทึ่งนี้ถูกควบคุมจากอวัยวะที่ชื่อ Vestibular Apparatus ซึ่งเป็นอวัยวะที่อยู่ในหูชั้นในของน้องแมว คอยทำหน้าที่ควบคุมสมดุลการทรงตัวและการกลับของน้องแมวนั่นเอง และความพิเศษยามเมื่อน้องแมวกลับตัวเรียบร้อยแล้วและขาแตะถึงพื้นแล้ว ขาทั้ง 4 ข้างยังทำหน้าที่คล้ายกับสปริง ทำให้ลดแรงกระแทกกับพื้นได้เป็นอย่างดีอีกด้วย



แบบนี้แสดงว่าน้องแมว ก็สามารถกระโดดลงมาจากตึกสูงๆ ได้เลยน่ะสิ?

คำถามนี้เป็นที่สงสัยกันจนต้องมีนักวิจัยมาหาคำตอบกันเลยทีเดียว ว่าน้องแมวสามารถตกได้จากตึกสูงกี่ชั้นถึงจะปลอดภัย โดย Jared Diamond ได้ทำการศึกษาว่าน้องแมวตกจากตึกกี่ชั้นถึงจะเสียชีวิต ศึกษาจากกรณีแมวพลัดตกตึกตั้งแต่ 2 – 32 ชั้น เป็นจำนวนรวม 104 ตัว ผลการศึกษาพบว่าน้องแมวที่ตกจากชั้นประมาณ 4 – 9 นั้นกลับมีโอกาสบาดเจ็บและเสียชีวิตมากที่สุด ไม่ใช่น้องแมวที่ตกมาจากชั้นสูงๆ เช่น ชั้นที่ 32 เลย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้อธิบายได้ว่า ที่ความสูงตั้งแต่ชั้น 9 เป็นต้นไป จะเป็นความสูงระดับที่มากพอให้เกิดแรงต้านอากาศและมีเวลาในการตกเหลือพอให้น้องแมวได้จัดร่างกายพร้อมรับแรงกระแทกบนพื้น ประกอบกับน้องแมวมีน้ำหนักน้อยจึงทำให้แรงปะทะเมื่อถึงพื้นไม่มากนัก



 และทำให้การบาดเจ็บนั้นไม่ถึงแก่ชีวิตนั่นเอง แต่ในระดับความสูงตึกชั้นที่ 4 – 9 นั้น แม้จะมีแรงต้านอากาศช่วย แต่ความสูงที่น้อยลงทำให้น้องแมวมีเวลาไม่มากพอจะจัดท่าเตรียมรับแรงกระแทกได้อย่างสมบูรณ์ ทำให้ช่วงระหว่างชั้นนี้เมื่อน้องแมวตกลงมาแล้วมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าชั้นสูงๆ แต่สำหรับชั้นที่ต่ำกว่าชั้น 4 แม้ว่าจะมีช่วงเวลาตกจะสั้นมาก แต่ด้วยความสูงที่ไม่มากนักทำให้แรงกระแทกไม่มากตามไปด้วย แมวจึงไม่เสียชีวิตนั่นเอง

แต่ถึงจะได้ชื่อว่าเป็นแมวเก้าชีวิต แต่ก็ขอเซฟไว้ก่อน ไม่ตกลงมาเลยน่าจะดีกับน้องแมวมากกว่าว่าไหมล่ะ