เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ  Libuwei Cheng ได้เผยเรื่องราวอมยิ้มปนเศร้า หลังเขาหมั่นให้อาหารแมวจร ซึ่งเขาก็รู้สึกดีมากที่ทำให้น้องๆได้อิ่มท้องในแต่ละวัน จนกระทั่งเขากลับถูกคนเขาบอกว่าอย่าไปให้อาหารน้องเลย น้องสร้างความเดือดร้อน แต่คำพูดเหล่านั้นกลับทำให้เขารู้สึกผิดที่ได้ทำลงไป แต่แล้ว



โดยเจ้าของโพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า... บางครั้งมันก็เป็นความลำบากใจเหลือเกินกับการให้อาหารแมวจร เนื่องจากว่าพวกเขาจะรู้ว่าจะมีอาหารให้พวกเขาได้อิ่มท้อง เลยเฝ้าวนเวียนและรอคอยทุกเช้า ซึ่งเขาจะก่อความรำคาญเช่นปีนป่ายตามโต๊ะ ทำให้ของหล่นบ้าง



ทางบ้านเลยบอกว่าอย่าไปให้อาหารอีกเลยนะแมวจะได้ไม่มาหาเราอีก มีอยู่วันนึงผมไม่ได้นำอาหารมาให้พวกเขา พวกเขาก็ได้แต่จ้องมองมาที่ตัวผมและเดินตามผมตลอดทางผมเห็นแล้วอกแห้งเลยครับ เพราะสายตาพวกเขาสื่อความหมายว่าทำไมวันนี้พวกเขาถึงอดไม่มีข้าวกิน ไม่ได้กินเหมือนทุกๆวัน และหลังจากนั้นผมคิดว่า จะไม่สนใจคำพูดใครอีกแล้ว ผมแอบเทอาหารใส่ถ้วยรอจนกว่าพวกเขากินเสร็จ ถ้าเหลือก็เทกลับใส่ถุงไม่ให้ทิ้งร่องรอยใดๆ ผมไม่ได้โทษว่าใครผิดหรือถูก ผมอาจผิดก็ได้แต่ผมคิดว่าแค่เขาเกิดมาเป็นเพียงสัตว์ก็ลำบากมากแล้ว สิ่งไหนที่ช่วยให้อยู่รอดอิ่มท้อง ก็ควรจะทำเพราะพวกเขาคงไม่ขอสิ่งใดมากไปกว่านี้อีกแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อไม่นานมานี้ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ  Libuwei Cheng ได้เผยเรื่องราวอมยิ้มปนเศร้า หลังเขาหมั่นให้อาหารแมวจร ซึ่งเขาก็รู้สึกดีมากที่ทำให้น้องๆได้อิ่มท้องในแต่ละวัน จนกระทั่งเขากลับถูกคนเขาบอกว่าอย่าไปให้อาหารน้องเลย น้องสร้างความเดือดร้อน แต่คำพูดเหล่านั้นกลับทำให้เขารู้สึกผิดที่ได้ทำลงไป แต่แล้ว



โดยเจ้าของโพสต์นั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า... บางครั้งมันก็เป็นความลำบากใจเหลือเกินกับการให้อาหารแมวจร เนื่องจากว่าพวกเขาจะรู้ว่าจะมีอาหารให้พวกเขาได้อิ่มท้อง เลยเฝ้าวนเวียนและรอคอยทุกเช้า ซึ่งเขาจะก่อความรำคาญเช่นปีนป่ายตามโต๊ะ ทำให้ของหล่นบ้าง



ทางบ้านเลยบอกว่าอย่าไปให้อาหารอีกเลยนะแมวจะได้ไม่มาหาเราอีก มีอยู่วันนึงผมไม่ได้นำอาหารมาให้พวกเขา พวกเขาก็ได้แต่จ้องมองมาที่ตัวผมและเดินตามผมตลอดทางผมเห็นแล้วอกแห้งเลยครับ เพราะสายตาพวกเขาสื่อความหมายว่าทำไมวันนี้พวกเขาถึงอดไม่มีข้าวกิน ไม่ได้กินเหมือนทุกๆวัน และหลังจากนั้นผมคิดว่า จะไม่สนใจคำพูดใครอีกแล้ว ผมแอบเทอาหารใส่ถ้วยรอจนกว่าพวกเขากินเสร็จ ถ้าเหลือก็เทกลับใส่ถุงไม่ให้ทิ้งร่องรอยใดๆ ผมไม่ได้โทษว่าใครผิดหรือถูก ผมอาจผิดก็ได้แต่ผมคิดว่าแค่เขาเกิดมาเป็นเพียงสัตว์ก็ลำบากมากแล้ว สิ่งไหนที่ช่วยให้อยู่รอดอิ่มท้อง ก็ควรจะทำเพราะพวกเขาคงไม่ขอสิ่งใดมากไปกว่านี้อีกแล้ว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นันทพร แก้วงาม ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แฟนของเธอได้ไปพบเจอน้องเข้าที่ข้างถนน เมื่อเป็นคนเห็นแล้วรู้สึกสงสารจึงเก็บมาเลี้ยงเฝ้าดูแล



โดยเจ้าของโพสนั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า...แฟนไปเจอข้างถนนคะ สงสารเลยเก็บมาเลี้ยง  ผ่านไป6 เดือน อย่างที่เห็นคะ🤣 ให้หล่อกว่านี้ก็มารีโอ้แล้วคร๊าฟฟฟ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า นันทพร แก้วงาม ได้โพสต์เรื่องราวหลังจากที่แฟนของเธอได้ไปพบเจอน้องเข้าที่ข้างถนน เมื่อเป็นคนเห็นแล้วรู้สึกสงสารจึงเก็บมาเลี้ยงเฝ้าดูแล



โดยเจ้าของโพสนั้นได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า...แฟนไปเจอข้างถนนคะ สงสารเลยเก็บมาเลี้ยง  ผ่านไป6 เดือน อย่างที่เห็นคะ🤣 ให้หล่อกว่านี้ก็มารีโอ้แล้วคร๊าฟฟฟ

หากจะให้ได้เพียงอิ่มในหนึ่งมื้อตัวก็ปือยังจำด้วยคนึงจิต ด้วยบอกไว้ว่าหากใครได้ให้กินอิ่มตัวจำสนิทนึกถึงไม่ลืมเลื่อน ด้วยเกิดมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ตัวก็จำประจักไว้ให้คอยหา ก่อนเคยรักเลี้ยงดูแลยามเมตตาตอนนี้หาหันไปไม่ได้เจอ ยังมาเฝ้านั่งทุเราด้วยหนาวเหน็บ



แม้ตัวเจ็บเดินไปเก็บลูกให้หลบฝนคนเป็นแม่นั่งรอด้วยเฝ้าทนหวังอีกหนได้พบเจอขอเมตตา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คำว่าฮักเฮา มันเฮี่ยทิ่มไส ได้โพสต์เรื่องราวหลังได้พบน้องมานอนรอนายด้วยตามฝนตัวก็ทนหนาวเหน็บด้วยสั่นไหว คนเป็นแม่เดินเอาลูกไปเก็บให้ปลอดภัย โดยเข้าของโพสได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เมตาน้องน่อยได้มัยค่ะสงสารกลัวรถชนตายก่อนลูกจะโตขอบ้านสวนก้อได้ค่ะยินดีตอบทุกคำถามค่ะ

หากจะให้ได้เพียงอิ่มในหนึ่งมื้อตัวก็ปือยังจำด้วยคนึงจิต ด้วยบอกไว้ว่าหากใครได้ให้กินอิ่มตัวจำสนิทนึกถึงไม่ลืมเลื่อน ด้วยเกิดมาเป็นสัตว์ที่ซื่อสัตย์ตัวก็จำประจักไว้ให้คอยหา ก่อนเคยรักเลี้ยงดูแลยามเมตตาตอนนี้หาหันไปไม่ได้เจอ ยังมาเฝ้านั่งทุเราด้วยหนาวเหน็บ



แม้ตัวเจ็บเดินไปเก็บลูกให้หลบฝนคนเป็นแม่นั่งรอด้วยเฝ้าทนหวังอีกหนได้พบเจอขอเมตตา เมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊คที่ใช้ชื่อว่า คำว่าฮักเฮา มันเฮี่ยทิ่มไส ได้โพสต์เรื่องราวหลังได้พบน้องมานอนรอนายด้วยตามฝนตัวก็ทนหนาวเหน็บด้วยสั่นไหว คนเป็นแม่เดินเอาลูกไปเก็บให้ปลอดภัย โดยเข้าของโพสได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เมตาน้องน่อยได้มัยค่ะสงสารกลัวรถชนตายก่อนลูกจะโตขอบ้านสวนก้อได้ค่ะยินดีตอบทุกคำถามค่ะ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ผู้ใช้เฟสบุ๊กคุณ  Rattaya Tisawong ได้เผยเรื่องราวของเจ้าตูบสายพันธุ์คู่หนึ่ง น้องเป็นหมาสายพันธุ์ที่เจ้าของไม่ต้องการ เพราะเจ้าของเขาเลิกลากันไปแล้วอีกคนเขาก็ไม่สะดวกที่จะเลี้ยง จนกระทั่งน้องต้องไปแอบอาศัยอยู่ใต้ต้นไม้เพื่อร่มเงา โดยเจ้าของโพสต์ได้เล่าว่า ทุกวันที่มาออกกำลังกายที่ฟิตเนสแห่งหนึ่งใน จังหวัดเพชรบุรี เราจะเห็นเจ้าสองตัวนี้ ทำหน้าละห้อยอยู่ทุกวัน จนได้รู้ทีหลังว่าเจ้าของคนเดิมเขาไม่สามารถเลี้ยงต่อได้ (เหตุเพราะเลิกกับแฟน และตนเองก็ไม่มีเวลาดูแลต่อ)



จึงอาศัยพื้นที่ลานจอดรถ(ร่มใต้ต้นไม้)ดิฉันเอง ได้แต่คอยให้อาหารและเล่นกับพวกน้องบ้างในบางครั้ง จนวันนี้ได้ซื้อยารักษาขนร่วงให้น้องกิน ที่ขนร่วงอาจจะเกิดจาก เครียดและพื้นที่มีการขับถ่ายซ้ำๆ จึงเกิดความสกปรก โดยทั้งนี้ดิฉันจึงขอความเมตตาท่านใดที่สนใจเลี้ยงและดูแลต่อ ให้เป็นบ้านหลังสุดท้าย ดิฉันลืมบอกไปว่าเจ้าสองตัวนี้ ได้ถูกย้ายมาสองครั้งสองคราวแล้ว เหตุผลที่แสนรับไม่ได้ ตามข้างบนค่ะ ดิฉันเองมีหมาใหญ่ทั้งหมด5ตัว เด็กน้อยอีก5ตัว จึงได้แต่ดูแลแบบห่างๆบ้าง



สองตัวนี้ อายุ 2ปี เป็นหมาพันธุ์เฟรนช์บูลด็อก รายละเอียด สีขาว:เพศเมีย ชื่อ โมโม่ เคยคลอดลูก1ครั้งแล้วและสิ้นใจไปกันหมด ตามที่เจ้าของคนล่าสุดบอกคือ ลูกสุนัขแรกเกิด หายใจเองไม่ได้ และแม่หมาก็เลี้ยงไม่เป็น น้องมีนิสัย ร่าเริง ขี้เล่นค่ะ สีดำด่างขาว:เพศผู้ เป็นสามีของโมโม่ เงียบ สงบ สุขุม ค่ะ เจ้าของเขายินดียกให้ฟรี ให้กับ คนที่มีกำลังและเมตตาเจ้าสองตัวนี้ พิกัด: อ.เมือง จ.เพชรบุรี จนกระทั่งเรื่องราวถูกโพสต์ในโลกออนไลน์ จนมีชาวเน็ตมากมายต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นพร้อมยื่นมือขอรับไปเลี้ยงไปดูแลต่อ และตอนนี้น้องได้บ้านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และนี่ก็จะเป็นบ้านหลังสุดท้ายของน้อง