เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ชาวสนใจเป็นอย่างมาก เห็นแล้วน่าสงสารเป็นอย่างมาก เมื่อสมาชิคเฟสบุ๊คที่มีชื่อว่า วัชรพงศ์ คงราศรี ได้เผยเรื่องราวหลังเขานั้นได้เอาขยะไปทิ้งที่จุดทิ้งขยะ แต่เขานั้นกลับพบสุนัขตัวหนึ่ง ดูเหมือนว่ามันเพิ่งจะถูกทิ้งมา…ที่ปากของน้องมีสก๊อตเทปพันเอาไว้ น้องไม่สามารถกินอะไรได้เลย แม้แต่น้ำสักหยดยังทำไม่ได้



ผู้โพสต์ก็เลยแกะสก็อตเทปให้ เดินไปเอาอาหารเม็ดที่บ้านพร้อมขันน้ำเพื่อประทังความหิว ใจนึงก็อยากเอาน้องไปเลี้ยงที่บ้าน แต่เขาไม่สามารถทำอย่างงั้นได้ เพราะที่บ้านเขาก็มีหมาเยอะแล้ว ตอนแกะสก็อตเทปเสร็จน้องพยายามกินใหญ่เลยน่าจะหิวมาก



เพราะตอนถูกมัดปากเอาไว้น้องไม่สามารถที่จะกินอะไรได้เลย ทิ้งก็ว่าแย่แล้วแต่ทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ไม่รู้คนสมัยนี้จิตใจทำด้วยอะไร ไม่คิดถึงบ้างว่าถ้าน้องหิวน้องจะกินยังไง ถ้าหิวน้ำละน้องจะทำยังไง และน้องก็ยังคงอยู่ที่เดิม ตากแดดตากฝนอยู่อย่างนั้นเพราะแถวนั้นไม่มีที่ให้กำบังฝนเลยแม้แต่น้อยพิกัดของน้องอยู่ที่ : พระประแดง เพชรหึงษ์28 จังหวัด สมุทรปราการ หากท่านใดสนใจรับเลี้ยงก็ลองติดต่อไปยังผู้โพสต์ได้เลยนะครับ ขอบ้านที่อบอุ่นจะได้ไม่ต้องตากแดดตากฝนอยู่อย่างนี้ เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปแล้วขอให้น้องกลับมามีบ้านอีกสักครั้งนึง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารักของเจ้าตูบ เมื่อสมาชิคที่มีชื่อว่า สิปปภาส ชลนัย ได้เผยเรื่องราว หลังเขานั้นได้พบกับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่ดันตกรถกระบะต่อหน้าต่อตา ส่วนเจ้าของรถก็ดันไม่รู้ขับรถไปต่อหน้าตาเฉย เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงตัดสินใจอุ้มขึ้นจักรยานและขี่มันทั้งอย่างนั้นอุ้มกลับบ้านพาไปอยู่ด้วยกัน



โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เมื่อปลายปี 2560 เวลา 06.00น ผมปั่นจักรยานออกกำลังกายตามปกติเส้นบางเก่า-ปึกเตียน ชะอำ มีรถกระบะคันหนึ่งขับรถผ่านไปผมเห็นน้องหมาตัวหนึ่งโดดลงมาจากกระบะหลังรถ ตอนนั้นรถที่ตามมาเกือบเหยียบนิดเดียวเท่านั้น



ผมปั่นจักรยานตามมาหัวใจจะวาย รถเจ้าของหมาก็ไม่จอด น้องหมาก็เดินหันซ้ายหันขวาร้องตลอดเวลา ผมไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเข้าไปลูบหัวให้เขานิ่ง(เขาตัวเล็กน่ะตอนปี60) เขาก็เงียบแปบนึง แล้วก็ร้องอีกผมเลยอุ้มมือหนึ่ง ถือแฮนด์มือหนึ่ง พากลับสำนักงาน(ผมพักสำนักงาน)



หาน้ำหาข้าวให้กิน ก็ร้องอยู่นั่น เลยพาไปหาหมอชะอำ หมอเขาว่าขา หัก ก็ต้องรักษากันไปพาเขามาแล้วนี่หมาไครก็ไม่รู้ หมดไปหลายบาท สุดท้ายก็ต้องเลี้ยงเขาไว้ เดินผ่านต้นขนุน เลยให้ชื่อว่า “ขนุน” ณ เพลานี้ 3 ปี ขนุนตัวใหญ่มากเป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ทุกคน เป็นยาม เป็นเพื่อนและเป็นเป็นลูก ของผมที่จะต้องกอดกันทุกวัน ไม่งั้นนอนไม่หลับ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวความน่ารักของเจ้าตูบ เมื่อสมาชิคที่มีชื่อว่า สิปปภาส ชลนัย ได้เผยเรื่องราว หลังเขานั้นได้พบกับเจ้าตูบตัวหนึ่งที่ดันตกรถกระบะต่อหน้าต่อตา ส่วนเจ้าของรถก็ดันไม่รู้ขับรถไปต่อหน้าตาเฉย เขาก็ไม่รู้จะทำยังไงตัดสินใจอุ้มขึ้นจักรยานและขี่มันทั้งอย่างนั้นอุ้มกลับบ้านพาไปอยู่ด้วยกัน



โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า เมื่อปลายปี 2560 เวลา 06.00น ผมปั่นจักรยานออกกำลังกายตามปกติเส้นบางเก่า-ปึกเตียน ชะอำ มีรถกระบะคันหนึ่งขับรถผ่านไปผมเห็นน้องหมาตัวหนึ่งโดดลงมาจากกระบะหลังรถ ตอนนั้นรถที่ตามมาเกือบเหยียบนิดเดียวเท่านั้น



ผมปั่นจักรยานตามมาหัวใจจะวาย รถเจ้าของหมาก็ไม่จอด น้องหมาก็เดินหันซ้ายหันขวาร้องตลอดเวลา ผมไม่รู้จะทำอย่างไรเลยเข้าไปลูบหัวให้เขานิ่ง(เขาตัวเล็กน่ะตอนปี60) เขาก็เงียบแปบนึง แล้วก็ร้องอีกผมเลยอุ้มมือหนึ่ง ถือแฮนด์มือหนึ่ง พากลับสำนักงาน(ผมพักสำนักงาน)



หาน้ำหาข้าวให้กิน ก็ร้องอยู่นั่น เลยพาไปหาหมอชะอำ หมอเขาว่าขา หัก ก็ต้องรักษากันไปพาเขามาแล้วนี่หมาไครก็ไม่รู้ หมดไปหลายบาท สุดท้ายก็ต้องเลี้ยงเขาไว้ เดินผ่านต้นขนุน เลยให้ชื่อว่า “ขนุน” ณ เพลานี้ 3 ปี ขนุนตัวใหญ่มากเป็นที่รักของเจ้าหน้าที่ทุกคน เป็นยาม เป็นเพื่อนและเป็นเป็นลูก ของผมที่จะต้องกอดกันทุกวัน ไม่งั้นนอนไม่หลับ

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อหมาโอ๊ต สุดดื้อ‎ ได้อัพเดทพร้อมเผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่ง ที่ถูกคนใจร้ายโยนลงมาจากตึกหลายชั้นจนขาของน้องต้องพิการไป ล่าสุดถึงมือคุณหมอแล้ว คุณหมอเองก็บอกว่าอาการตอนนี้ไม่น่าเป็นห่วง แต่น่าเป็นห่วงเวลาน้องจะต้องเดินและใช้ชีวิตแมวจรอีกครั้ง



โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า มาเยี่ยมน้องตกตึก แต่เช้าเลยครับ พอดีมีไปต่างจังหวัด เลยต้อง ฝากคุณหมอไว้ ช่วยดูแล รบกวนมากๆเลยคุณหมอ และเจ้าหน้าที่ ที่นี่ ก็น่ารักมากๆเลยสบายใจมาก ขอบคุณที่สองวันที่ผ่านมาติดตามเรื่องราวของน้องตกตึกครับผมสัญญาว่าผมจะหายวันหายคืน ไม่ทำให้พวกพี่ผิดหวังเราไม่รู้หรอกนะ ว่าความรักของคุณเป็นยังไงกัน แต่ความรักของเราเป็นแบบนี้ มาหาแต่เช้าไม่อยู่สองวันนะลูกเจอกันเย็นวันอาทิตย์



ส่วนอาการของ“น้องตกตึก” ร่าเริงสบายใจ มีความสุข กินเยอะครับขี้อ้อนมากคุณหมอบอกว่าไม่น่าห่วงแต่ว่ากังวลเรื่องการเดิน ซึ่งเราเลิกกังวลไปแล้วเพราะเราตัดสินใจเลี้ยงเค้าจนหมดอายุขัย ไม่ต้องเร่ร่อนอีกต่อไปคุณหมอมีใบประเมินมาให้เผื่อว่าเราจำเป็นต้องใช้ครับ ซึ่งหลังจากนี้หากน้องหายดีคุณหมอคงให้น้องกลับไปดูแลรักษาตัวต่อที่บ้านได้ แถมตกตึกมาน้องก็ได้บ้านทันทีโดยผู้ที่พบเจอน้องเป็นคนแรกนี่เอง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อหมาโอ๊ต สุดดื้อ‎ ได้อัพเดทพร้อมเผยเรื่องราวของเจ้าเหมียวน้อยตัวหนึ่ง ที่ถูกคนใจร้ายโยนลงมาจากตึกหลายชั้นจนขาของน้องต้องพิการไป ล่าสุดถึงมือคุณหมอแล้ว คุณหมอเองก็บอกว่าอาการตอนนี้ไม่น่าเป็นห่วง แต่น่าเป็นห่วงเวลาน้องจะต้องเดินและใช้ชีวิตแมวจรอีกครั้ง



โดยเจ้าของโพสต์ได้ระบุข้อความเอาไว้ว่า มาเยี่ยมน้องตกตึก แต่เช้าเลยครับ พอดีมีไปต่างจังหวัด เลยต้อง ฝากคุณหมอไว้ ช่วยดูแล รบกวนมากๆเลยคุณหมอ และเจ้าหน้าที่ ที่นี่ ก็น่ารักมากๆเลยสบายใจมาก ขอบคุณที่สองวันที่ผ่านมาติดตามเรื่องราวของน้องตกตึกครับผมสัญญาว่าผมจะหายวันหายคืน ไม่ทำให้พวกพี่ผิดหวังเราไม่รู้หรอกนะ ว่าความรักของคุณเป็นยังไงกัน แต่ความรักของเราเป็นแบบนี้ มาหาแต่เช้าไม่อยู่สองวันนะลูกเจอกันเย็นวันอาทิตย์



ส่วนอาการของ“น้องตกตึก” ร่าเริงสบายใจ มีความสุข กินเยอะครับขี้อ้อนมากคุณหมอบอกว่าไม่น่าห่วงแต่ว่ากังวลเรื่องการเดิน ซึ่งเราเลิกกังวลไปแล้วเพราะเราตัดสินใจเลี้ยงเค้าจนหมดอายุขัย ไม่ต้องเร่ร่อนอีกต่อไปคุณหมอมีใบประเมินมาให้เผื่อว่าเราจำเป็นต้องใช้ครับ ซึ่งหลังจากนี้หากน้องหายดีคุณหมอคงให้น้องกลับไปดูแลรักษาตัวต่อที่บ้านได้ แถมตกตึกมาน้องก็ได้บ้านทันทีโดยผู้ที่พบเจอน้องเป็นคนแรกนี่เอง

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้งานเฟสบุ๊ก  พระสุรินทร์ กตปุญฺโญ ได้เผยเรื่องราวหลังหลวงตาท่านนี้เลี้ยงหมามา 11 ปี  (หมาวัด) เลี้ยงดูอย่างดีไม่มีให้เจ็บป่วย แต่พอหมาวัดเริ่มป่วยหลวงตาก็จะเป็นคนนำพาไปส่งยังโรงพยาบาลสัตว์ด้วยตนเอง ไม่เคยใช้เงินปัจจัยจากทางวัดออกเลยแม้แต่น้อย



เวลาทำหมันหลวงตาก็จะเป็นคนจัดการ พาซ้อนวินมอเตอร์ไซค์อยู่อย่างนี้ พาซ้อนไปทำหมันได้ครั้งละหนึ่งตัว แต่หลวงตาก็พร้อมและเต็มใจที่จะจำ เพราะพวกเขาก็หนึ่งชีวิตเชกเช่นเดียวกับหลวงตา หลวงตาก็เลยโพสต์เรื่องราวลงในโลกออนไลน์ในกลุ่มรักหมา
โดยมีข้อความระบุเอาไว้ว่า เจริญพรเลี้ยงน้องหมามา 11 ปีไม่เคยรบกวนทางวัดเลยรถวัดมี 2 คันนะแต่หลวงตาไม่เคยเข้าไปยุ่งเลยจะลำบากขนาดไหนหมาพันธุ์หมาไทยตั้งแต่ยังไม่มีโทรศัพท์ถ่ายรูปอุ้มกันขึ้นรถแบบนี้เลยโยมไปที่โรงพยาบาลสัตวรักษ์ในตัวจังหวัด 8 กิโล



อยากให้โยมเห็นหลวงตาไม่เคยรบกวนทางวัดเลยปัจจัยเป็นของตัวเองทั้งนั้นเพราะเพิ่งมามีเฟสบุ๊กที่โยมช่วยเหลือปัจจัยนี่แหละ 10 ปีที่ผ่านมาสู้โดยลำพังมาตลอด มอเตอร์ไซค์รับจ้างนี่แหละโยมดีนะหมาไทยทำหมันที่วัดหมาพันธุ์ไปทำหมันที่คลินิกโรงพยาบาลสัตวรักษ์ลำบากขนาดไหนพ่อคนนี้ทำเพื่อลูกได้ทุกตัว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เมื่อผู้ใช้งานเฟสบุ๊ก  พระสุรินทร์ กตปุญฺโญ ได้เผยเรื่องราวหลังหลวงตาท่านนี้เลี้ยงหมามา 11 ปี  (หมาวัด) เลี้ยงดูอย่างดีไม่มีให้เจ็บป่วย แต่พอหมาวัดเริ่มป่วยหลวงตาก็จะเป็นคนนำพาไปส่งยังโรงพยาบาลสัตว์ด้วยตนเอง ไม่เคยใช้เงินปัจจัยจากทางวัดออกเลยแม้แต่น้อย



เวลาทำหมันหลวงตาก็จะเป็นคนจัดการ พาซ้อนวินมอเตอร์ไซค์อยู่อย่างนี้ พาซ้อนไปทำหมันได้ครั้งละหนึ่งตัว แต่หลวงตาก็พร้อมและเต็มใจที่จะจำ เพราะพวกเขาก็หนึ่งชีวิตเชกเช่นเดียวกับหลวงตา หลวงตาก็เลยโพสต์เรื่องราวลงในโลกออนไลน์ในกลุ่มรักหมา
โดยมีข้อความระบุเอาไว้ว่า เจริญพรเลี้ยงน้องหมามา 11 ปีไม่เคยรบกวนทางวัดเลยรถวัดมี 2 คันนะแต่หลวงตาไม่เคยเข้าไปยุ่งเลยจะลำบากขนาดไหนหมาพันธุ์หมาไทยตั้งแต่ยังไม่มีโทรศัพท์ถ่ายรูปอุ้มกันขึ้นรถแบบนี้เลยโยมไปที่โรงพยาบาลสัตวรักษ์ในตัวจังหวัด 8 กิโล



อยากให้โยมเห็นหลวงตาไม่เคยรบกวนทางวัดเลยปัจจัยเป็นของตัวเองทั้งนั้นเพราะเพิ่งมามีเฟสบุ๊กที่โยมช่วยเหลือปัจจัยนี่แหละ 10 ปีที่ผ่านมาสู้โดยลำพังมาตลอด มอเตอร์ไซค์รับจ้างนี่แหละโยมดีนะหมาไทยทำหมันที่วัดหมาพันธุ์ไปทำหมันที่คลินิกโรงพยาบาลสัตวรักษ์ลำบากขนาดไหนพ่อคนนี้ทำเพื่อลูกได้ทุกตัว

เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเรื่องราวที่ชาวเน็ตนั้นชื่นชมเป็นอย่างมาก เมื่อแฟนเพจเฟสบุ๊กอย่าง หน่วยกู้ภัย มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี ได้เผยคลิปวิดีโอสุดตื้นตัน เป็นคลิปวิดีโอที่หน่วยกู้ภัยกำลังพยายามช่วยชีวิตสุนัขที่ติดน้ำท่วม โดยเจ้าตูบตัวนี้อาศัยหลบอยู่ในหลังคาที่น้ำเกือบจะท่วมถึงหัวน้องอยู่แล้ว



เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ภัย มูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี หลังได้รับทราบว่ามีสุนัขติดอยู่ข้างในหลังคาไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พวกเขานั้นรีบเข้าไปยังจุดที่น้องหมาอยู่ เจ้าหน้าที่พยายามลูบตัวลูบหัวของน้องเพราะเจ้าหน้าที่กู้ภัยเองก็กลัวว่าน้องจะกัดเอาได้
หลังกล่อมอยู่นานสักพักเจ้าตูบที่กำลังกลัวก็ค่อยๆ ขยับมานั่งใกล้ๆให้เจ้าหน้าที่รีบอุ้มขึ้นเรือสามารถช่วยน้องได้อย่างปลอดภัย โดยหน่วยกู้ภัยเองได้โพสต์ข้อความสั้นๆแต่กินใจเอาไว้ว่า เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ทุกชีวิตมีค่า เพื่อนร่วมโลก