แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

8326
   

 [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,66.0.html]โรคขี้เรื้อนแห้ง[/url] และ [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,65.0.html]โรคขี้เรื้อนเปียก[/url] โรคผิวหนังหรือเรื้อนเกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย แต่โรคผิวหนังของน้องหมาที่คุณหมอพบมากที่สุดก็คือ ไรเรื้อน แต่ด้วยความก้าวหน้าทางสัตวแพทยศาสตร์ของไทยเรา ทำให้ยารักษาโรคเรื้อนสำหรับน้องหมามีมากขึ้น มีทั้งแบบฉีด แบบหยอด แบบทา และต้องป้อนกิน โรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็พบเห็นได้ง่ายกว่าแต่ก่อน แต่ผู้เลี้ยงบางท่านที่ประสบปัญหานี้ แต่ไม่มีเวลาไปพบสัตวแพทย์ ก็สามารถรักษาโรคเรื้อนให้น้องหมาได้ด้วยการใช้ของใช้ในบ้าน เราไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าน

1. รักษาโรคเรื้อนสุนัขสูตรยาสามัญประจำบ้าน ใช้ยาเหลือง หรือยารักษาแผลสดที่คุ้นเคยในชื่อ “เบตาดีน” ทาบริเวณที่เป็นเรื้อน จากนั้นทาซ้ำด้วยยาม่วง หรือยารักษาอาการปากนกกระจอกสำหรับเด็ก

2. สูตรครัวหลังบ้าน ใช้สำลีชุบน้ำหน่อไม้ดองหรือน้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นเรื้อนทุกวัน

3. สูตรกรมปศุสัตว์ ใช้น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว 10 ส่วน ผสมกับกำมะถันก้อนเหลือง บดละเอียด 1 ส่วน การบูร หรือลูกเหม็น บดละเอียด 1 ส่วน เส้นยาสูบหรือยาฉุนสับละเอียดอีก 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน ทาส่วนที่สุนัขเป็นขี้เรื้อน วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ประมาณ 3-4 วัน หรือจนกว่าจะหาย


8327
   

 [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,66.0.html]โรคขี้เรื้อนแห้ง[/url] และ [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,65.0.html]โรคขี้เรื้อนเปียก[/url] โรคผิวหนังหรือเรื้อนเกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย แต่โรคผิวหนังของน้องหมาที่คุณหมอพบมากที่สุดก็คือ ไรเรื้อน แต่ด้วยความก้าวหน้าทางสัตวแพทยศาสตร์ของไทยเรา ทำให้ยารักษาโรคเรื้อนสำหรับน้องหมามีมากขึ้น มีทั้งแบบฉีด แบบหยอด แบบทา และต้องป้อนกิน โรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็พบเห็นได้ง่ายกว่าแต่ก่อน แต่ผู้เลี้ยงบางท่านที่ประสบปัญหานี้ แต่ไม่มีเวลาไปพบสัตวแพทย์ ก็สามารถรักษาโรคเรื้อนให้น้องหมาได้ด้วยการใช้ของใช้ในบ้าน เราไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าน

1. รักษาโรคเรื้อนสุนัขสูตรยาสามัญประจำบ้าน ใช้ยาเหลือง หรือยารักษาแผลสดที่คุ้นเคยในชื่อ “เบตาดีน” ทาบริเวณที่เป็นเรื้อน จากนั้นทาซ้ำด้วยยาม่วง หรือยารักษาอาการปากนกกระจอกสำหรับเด็ก

2. สูตรครัวหลังบ้าน ใช้สำลีชุบน้ำหน่อไม้ดองหรือน้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นเรื้อนทุกวัน

3. สูตรกรมปศุสัตว์ ใช้น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว 10 ส่วน ผสมกับกำมะถันก้อนเหลือง บดละเอียด 1 ส่วน การบูร หรือลูกเหม็น บดละเอียด 1 ส่วน เส้นยาสูบหรือยาฉุนสับละเอียดอีก 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน ทาส่วนที่สุนัขเป็นขี้เรื้อน วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ประมาณ 3-4 วัน หรือจนกว่าจะหาย


8328
   

 [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,66.0.html]โรคขี้เรื้อนแห้ง[/url] และ [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,65.0.html]โรคขี้เรื้อนเปียก[/url] โรคผิวหนังหรือเรื้อนเกิดจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย แต่โรคผิวหนังของน้องหมาที่คุณหมอพบมากที่สุดก็คือ ไรเรื้อน แต่ด้วยความก้าวหน้าทางสัตวแพทยศาสตร์ของไทยเรา ทำให้ยารักษาโรคเรื้อนสำหรับน้องหมามีมากขึ้น มีทั้งแบบฉีด แบบหยอด แบบทา และต้องป้อนกิน โรงพยาบาลรักษาสัตว์ก็พบเห็นได้ง่ายกว่าแต่ก่อน แต่ผู้เลี้ยงบางท่านที่ประสบปัญหานี้ แต่ไม่มีเวลาไปพบสัตวแพทย์ ก็สามารถรักษาโรคเรื้อนให้น้องหมาได้ด้วยการใช้ของใช้ในบ้าน เราไปดูกันค่ะว่ามีอะไรบ้าน

1. รักษาโรคเรื้อนสุนัขสูตรยาสามัญประจำบ้าน ใช้ยาเหลือง หรือยารักษาแผลสดที่คุ้นเคยในชื่อ “เบตาดีน” ทาบริเวณที่เป็นเรื้อน จากนั้นทาซ้ำด้วยยาม่วง หรือยารักษาอาการปากนกกระจอกสำหรับเด็ก

2. สูตรครัวหลังบ้าน ใช้สำลีชุบน้ำหน่อไม้ดองหรือน้ำมันมะพร้าวทาบริเวณที่เป็นเรื้อนทุกวัน

3. สูตรกรมปศุสัตว์ ใช้น้ำมันเครื่องที่ใช้แล้ว 10 ส่วน ผสมกับกำมะถันก้อนเหลือง บดละเอียด 1 ส่วน การบูร หรือลูกเหม็น บดละเอียด 1 ส่วน เส้นยาสูบหรือยาฉุนสับละเอียดอีก 1 ส่วน ผสมให้เข้ากัน ทาส่วนที่สุนัขเป็นขี้เรื้อน วันละ 2 ครั้ง เช้า เย็น ประมาณ 3-4 วัน หรือจนกว่าจะหาย


8329



    ราคาหมาบูลด็อกราคาจะสูงหน่อยนะครับพันธุ์นี้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 12,000 - 14,000 ครับ ราคาเริ่มต้นนี้ต้องตรวจสอบสายพันธุ์ให้แน่ชัดนะครับว่าแท้จิง ส่วนราคาเกรดกลางจะอยู่ที่ 15,000 - 18,000 ครับ และราคาเกรดสูงหน้าย่นๆน่ารักๆ จะอยู่ที่ราคา 20,000 ขึ้นไปจนถึง 25,000 และยังมีราคาสูงกว่า 30,000 ขึ้นปอีกครับ ก่อนเลี้ยงควรเตรียมสถานที่และวิธีการดูแลสายพันธุ์นี้ดีๆด้วยนะครับ

8330



    ราคาหมาบูลด็อกราคาจะสูงหน่อยนะครับพันธุ์นี้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 12,000 - 14,000 ครับ ราคาเริ่มต้นนี้ต้องตรวจสอบสายพันธุ์ให้แน่ชัดนะครับว่าแท้จิง ส่วนราคาเกรดกลางจะอยู่ที่ 15,000 - 18,000 ครับ และราคาเกรดสูงหน้าย่นๆน่ารักๆ จะอยู่ที่ราคา 20,000 ขึ้นไปจนถึง 25,000 และยังมีราคาสูงกว่า 30,000 ขึ้นปอีกครับ ก่อนเลี้ยงควรเตรียมสถานที่และวิธีการดูแลสายพันธุ์นี้ดีๆด้วยนะครับ

8331



    ราคาหมาบูลด็อกราคาจะสูงหน่อยนะครับพันธุ์นี้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 12,000 - 14,000 ครับ ราคาเริ่มต้นนี้ต้องตรวจสอบสายพันธุ์ให้แน่ชัดนะครับว่าแท้จิง ส่วนราคาเกรดกลางจะอยู่ที่ 15,000 - 18,000 ครับ และราคาเกรดสูงหน้าย่นๆน่ารักๆ จะอยู่ที่ราคา 20,000 ขึ้นไปจนถึง 25,000 และยังมีราคาสูงกว่า 30,000 ขึ้นปอีกครับ ก่อนเลี้ยงควรเตรียมสถานที่และวิธีการดูแลสายพันธุ์นี้ดีๆด้วยนะครับ

8332



    ราคาหมาบูลด็อกราคาจะสูงหน่อยนะครับพันธุ์นี้ ราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 12,000 - 14,000 ครับ ราคาเริ่มต้นนี้ต้องตรวจสอบสายพันธุ์ให้แน่ชัดนะครับว่าแท้จิง ส่วนราคาเกรดกลางจะอยู่ที่ 15,000 - 18,000 ครับ และราคาเกรดสูงหน้าย่นๆน่ารักๆ จะอยู่ที่ราคา 20,000 ขึ้นไปจนถึง 25,000 และยังมีราคาสูงกว่า 30,000 ขึ้นปอีกครับ ก่อนเลี้ยงควรเตรียมสถานที่และวิธีการดูแลสายพันธุ์นี้ดีๆด้วยนะครับ

8333


    ราคาลูกสุนัขบีเกิ้ลราคาเกรดเริ่มต้นจะอยู่ที่ราคา 3,500 - 4,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้ต้องดูว่ามีใบเพดด้วยหรือป่าวนะครับ
ราคากลางจะอยู่ที่ 5,000 - 6,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้มีใบรับรองแน่นอน แต่จะซื้อต้องตรวจสอบประวัติผู้ขายด้วยนะครับ หรือถ้าแนะนำควรซื้อจากฟาร์มที่มีตัวตนจิง และน่าเชื่อถือครับ ส่วนราคาเกรดสูง เกรดประกวดจะอยู่ที่ราคา 7,000 - 12,000 เลยทีเดียวครับ
และราคาสำหรับรับผสมจะอยู่ที่ราคา 2,000 - 4,000 ครับ ถ้าจะเลี้ยงต้องลองศึกษานิสัยหรือวิธีเลี้ยงดีๆนะครับ ^^


8334


    ราคาลูกสุนัขบีเกิ้ลราคาเกรดเริ่มต้นจะอยู่ที่ราคา 3,500 - 4,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้ต้องดูว่ามีใบเพดด้วยหรือป่าวนะครับ
ราคากลางจะอยู่ที่ 5,000 - 6,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้มีใบรับรองแน่นอน แต่จะซื้อต้องตรวจสอบประวัติผู้ขายด้วยนะครับ หรือถ้าแนะนำควรซื้อจากฟาร์มที่มีตัวตนจิง และน่าเชื่อถือครับ ส่วนราคาเกรดสูง เกรดประกวดจะอยู่ที่ราคา 7,000 - 12,000 เลยทีเดียวครับ
และราคาสำหรับรับผสมจะอยู่ที่ราคา 2,000 - 4,000 ครับ ถ้าจะเลี้ยงต้องลองศึกษานิสัยหรือวิธีเลี้ยงดีๆนะครับ ^^


8335


    ราคาลูกสุนัขบีเกิ้ลราคาเกรดเริ่มต้นจะอยู่ที่ราคา 3,500 - 4,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้ต้องดูว่ามีใบเพดด้วยหรือป่าวนะครับ
ราคากลางจะอยู่ที่ 5,000 - 6,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้มีใบรับรองแน่นอน แต่จะซื้อต้องตรวจสอบประวัติผู้ขายด้วยนะครับ หรือถ้าแนะนำควรซื้อจากฟาร์มที่มีตัวตนจิง และน่าเชื่อถือครับ ส่วนราคาเกรดสูง เกรดประกวดจะอยู่ที่ราคา 7,000 - 12,000 เลยทีเดียวครับ
และราคาสำหรับรับผสมจะอยู่ที่ราคา 2,000 - 4,000 ครับ ถ้าจะเลี้ยงต้องลองศึกษานิสัยหรือวิธีเลี้ยงดีๆนะครับ ^^


8336


    ราคาลูกสุนัขบีเกิ้ลราคาเกรดเริ่มต้นจะอยู่ที่ราคา 3,500 - 4,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้ต้องดูว่ามีใบเพดด้วยหรือป่าวนะครับ
ราคากลางจะอยู่ที่ 5,000 - 6,000 บาทครับ ราคาประมาณนี้มีใบรับรองแน่นอน แต่จะซื้อต้องตรวจสอบประวัติผู้ขายด้วยนะครับ หรือถ้าแนะนำควรซื้อจากฟาร์มที่มีตัวตนจิง และน่าเชื่อถือครับ ส่วนราคาเกรดสูง เกรดประกวดจะอยู่ที่ราคา 7,000 - 12,000 เลยทีเดียวครับ
และราคาสำหรับรับผสมจะอยู่ที่ราคา 2,000 - 4,000 ครับ ถ้าจะเลี้ยงต้องลองศึกษานิสัยหรือวิธีเลี้ยงดีๆนะครับ ^^


8337
ถ้าคิดจะ[url=http://www.marketdogs.com]ซื้อไซบีเรียน ฮัสกี้[/url]

1. ดูการเดิน การเดินต้องต้องนุ่มนวลแต่รวดเร็ว และคอควนยืดไปข้างหน้าอย่างสง่าสวยงาม
2. หัว คือหัวต้องมีขนาดปานกลางค่อนข้างกลมและหัวกะโหลกระหว่างหูจะกว้างและเรียวลงกับตาทั้ง 2 ข้าง
3. ตา ดวงตารี ระหว่างตาควรห่างกันเล็กน้อย ดวงตามักจะมี 2 สี และนี่คือเสน่ห์ของไซบีเรียนที่สุนัขพันธุ์อื่นไม่ค่อยพบ บางตังตาฟ้า 2 ข้าง บางตัวอาจ ฟ้าข้าง ดำ ข้าง หรือบางตัวอาจมีตาสีน้ำตาล อัลมอนด์
4. จมูก ส่วนใหญ่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาล
5. หู ต้องมีลักษณะ 3 เหลี่ยมและต้องอยู่ในตำแหน่งสูงตั้งตรงเสมอ ปลายหูมนเล็กน้อย
6. ฟันฟันควรต้องคมและขบสนิทเหมือนกรรไกร เนื่องจากพันธุ์นี้เป็นหมาป่า
7. ลำตัว หลังไม่แอ่นและไม่ควรโก่งจนเกินไป เส้นหลังตรงขนานกับพื้น ไหล่ลาดลงทางด้านท้ายเล็กน้อย
8. คอ โค้งมนยาวพอดี
9. อก ลึกแต่ไม่กว้างมากเกินไปที่สำคัญบริเวณที่ลึกที่สุดของช่วงอกจะอยู่ด้านหลังศอก
10. ขา ควรมองให้รอบด้านเริ่มจากด้านหน้าต้องมีลักษณะตรง ข้อเท้าหน้าเอียงเล็กน้อยศอกไม่บิดเข้าออกควรแนบลำตัว ส่วนความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นจะมากกว่าความยาวจากข้อศอกถึงหัวไหล่เล็กน้อย
11. หาง ยาวคล้ายแปรงโดยจะตกอยู่ระหว่างหลังเสมอ ถึงแม้น้องหมาจะตกอยู่ในภาวะที่แสดงความสนใจ หางจะยกสูงแต่ก็ไม่ม้วนเป็นวงกลม
12. ขน ฟูหนามี 2 ชั้น มีทั้งข้างนอกและข้างใน ยิ่งถ้าขนฟูจะยิ่งสวยมาก
จุดด้อย
เนื่องจากตามสัญชาติญาณแล้วมันเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่ง ซน alert สุดๆ และเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนคนเลี้ยงในบ้านที่ร่มรื่น หรือมีอ่างน้ำให้ได้ลงไปเล่นหรือแชร์ตัว หรือเลี้ยงในห้องแอร์ ดังนั้น ถ้าไม่มีพื้นที่พอก็ไม่ควรซื้อมาเลี้ยง นอกจากนี้หากบ้านคุณไม่มีรั้วรอบขอบชิดแล้วอันตรายเพราะมันคือนักหนีเที่ยวตัวยง ซึ่งน่าจะมาจากนิสัยรักอิสระของมันนั่นเอง

8338
ถ้าคิดจะ[url=http://www.marketdogs.com]ซื้อไซบีเรียน ฮัสกี้[/url]

1. ดูการเดิน การเดินต้องต้องนุ่มนวลแต่รวดเร็ว และคอควนยืดไปข้างหน้าอย่างสง่าสวยงาม
2. หัว คือหัวต้องมีขนาดปานกลางค่อนข้างกลมและหัวกะโหลกระหว่างหูจะกว้างและเรียวลงกับตาทั้ง 2 ข้าง
3. ตา ดวงตารี ระหว่างตาควรห่างกันเล็กน้อย ดวงตามักจะมี 2 สี และนี่คือเสน่ห์ของไซบีเรียนที่สุนัขพันธุ์อื่นไม่ค่อยพบ บางตังตาฟ้า 2 ข้าง บางตัวอาจ ฟ้าข้าง ดำ ข้าง หรือบางตัวอาจมีตาสีน้ำตาล อัลมอนด์
4. จมูก ส่วนใหญ่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาล
5. หู ต้องมีลักษณะ 3 เหลี่ยมและต้องอยู่ในตำแหน่งสูงตั้งตรงเสมอ ปลายหูมนเล็กน้อย
6. ฟันฟันควรต้องคมและขบสนิทเหมือนกรรไกร เนื่องจากพันธุ์นี้เป็นหมาป่า
7. ลำตัว หลังไม่แอ่นและไม่ควรโก่งจนเกินไป เส้นหลังตรงขนานกับพื้น ไหล่ลาดลงทางด้านท้ายเล็กน้อย
8. คอ โค้งมนยาวพอดี
9. อก ลึกแต่ไม่กว้างมากเกินไปที่สำคัญบริเวณที่ลึกที่สุดของช่วงอกจะอยู่ด้านหลังศอก
10. ขา ควรมองให้รอบด้านเริ่มจากด้านหน้าต้องมีลักษณะตรง ข้อเท้าหน้าเอียงเล็กน้อยศอกไม่บิดเข้าออกควรแนบลำตัว ส่วนความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นจะมากกว่าความยาวจากข้อศอกถึงหัวไหล่เล็กน้อย
11. หาง ยาวคล้ายแปรงโดยจะตกอยู่ระหว่างหลังเสมอ ถึงแม้น้องหมาจะตกอยู่ในภาวะที่แสดงความสนใจ หางจะยกสูงแต่ก็ไม่ม้วนเป็นวงกลม
12. ขน ฟูหนามี 2 ชั้น มีทั้งข้างนอกและข้างใน ยิ่งถ้าขนฟูจะยิ่งสวยมาก
จุดด้อย
เนื่องจากตามสัญชาติญาณแล้วมันเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่ง ซน alert สุดๆ และเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนคนเลี้ยงในบ้านที่ร่มรื่น หรือมีอ่างน้ำให้ได้ลงไปเล่นหรือแชร์ตัว หรือเลี้ยงในห้องแอร์ ดังนั้น ถ้าไม่มีพื้นที่พอก็ไม่ควรซื้อมาเลี้ยง นอกจากนี้หากบ้านคุณไม่มีรั้วรอบขอบชิดแล้วอันตรายเพราะมันคือนักหนีเที่ยวตัวยง ซึ่งน่าจะมาจากนิสัยรักอิสระของมันนั่นเอง

8339
ถ้าคิดจะ[url=http://www.marketdogs.com]ซื้อไซบีเรียน ฮัสกี้[/url]

1. ดูการเดิน การเดินต้องต้องนุ่มนวลแต่รวดเร็ว และคอควนยืดไปข้างหน้าอย่างสง่าสวยงาม
2. หัว คือหัวต้องมีขนาดปานกลางค่อนข้างกลมและหัวกะโหลกระหว่างหูจะกว้างและเรียวลงกับตาทั้ง 2 ข้าง
3. ตา ดวงตารี ระหว่างตาควรห่างกันเล็กน้อย ดวงตามักจะมี 2 สี และนี่คือเสน่ห์ของไซบีเรียนที่สุนัขพันธุ์อื่นไม่ค่อยพบ บางตังตาฟ้า 2 ข้าง บางตัวอาจ ฟ้าข้าง ดำ ข้าง หรือบางตัวอาจมีตาสีน้ำตาล อัลมอนด์
4. จมูก ส่วนใหญ่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาล
5. หู ต้องมีลักษณะ 3 เหลี่ยมและต้องอยู่ในตำแหน่งสูงตั้งตรงเสมอ ปลายหูมนเล็กน้อย
6. ฟันฟันควรต้องคมและขบสนิทเหมือนกรรไกร เนื่องจากพันธุ์นี้เป็นหมาป่า
7. ลำตัว หลังไม่แอ่นและไม่ควรโก่งจนเกินไป เส้นหลังตรงขนานกับพื้น ไหล่ลาดลงทางด้านท้ายเล็กน้อย
8. คอ โค้งมนยาวพอดี
9. อก ลึกแต่ไม่กว้างมากเกินไปที่สำคัญบริเวณที่ลึกที่สุดของช่วงอกจะอยู่ด้านหลังศอก
10. ขา ควรมองให้รอบด้านเริ่มจากด้านหน้าต้องมีลักษณะตรง ข้อเท้าหน้าเอียงเล็กน้อยศอกไม่บิดเข้าออกควรแนบลำตัว ส่วนความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นจะมากกว่าความยาวจากข้อศอกถึงหัวไหล่เล็กน้อย
11. หาง ยาวคล้ายแปรงโดยจะตกอยู่ระหว่างหลังเสมอ ถึงแม้น้องหมาจะตกอยู่ในภาวะที่แสดงความสนใจ หางจะยกสูงแต่ก็ไม่ม้วนเป็นวงกลม
12. ขน ฟูหนามี 2 ชั้น มีทั้งข้างนอกและข้างใน ยิ่งถ้าขนฟูจะยิ่งสวยมาก
จุดด้อย
เนื่องจากตามสัญชาติญาณแล้วมันเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่ง ซน alert สุดๆ และเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนคนเลี้ยงในบ้านที่ร่มรื่น หรือมีอ่างน้ำให้ได้ลงไปเล่นหรือแชร์ตัว หรือเลี้ยงในห้องแอร์ ดังนั้น ถ้าไม่มีพื้นที่พอก็ไม่ควรซื้อมาเลี้ยง นอกจากนี้หากบ้านคุณไม่มีรั้วรอบขอบชิดแล้วอันตรายเพราะมันคือนักหนีเที่ยวตัวยง ซึ่งน่าจะมาจากนิสัยรักอิสระของมันนั่นเอง

8340
ถ้าคิดจะ[url=http://www.marketdogs.com]ซื้อไซบีเรียน ฮัสกี้[/url]

1. ดูการเดิน การเดินต้องต้องนุ่มนวลแต่รวดเร็ว และคอควนยืดไปข้างหน้าอย่างสง่าสวยงาม
2. หัว คือหัวต้องมีขนาดปานกลางค่อนข้างกลมและหัวกะโหลกระหว่างหูจะกว้างและเรียวลงกับตาทั้ง 2 ข้าง
3. ตา ดวงตารี ระหว่างตาควรห่างกันเล็กน้อย ดวงตามักจะมี 2 สี และนี่คือเสน่ห์ของไซบีเรียนที่สุนัขพันธุ์อื่นไม่ค่อยพบ บางตังตาฟ้า 2 ข้าง บางตัวอาจ ฟ้าข้าง ดำ ข้าง หรือบางตัวอาจมีตาสีน้ำตาล อัลมอนด์
4. จมูก ส่วนใหญ่จะมีสีดำหรือสีน้ำตาล
5. หู ต้องมีลักษณะ 3 เหลี่ยมและต้องอยู่ในตำแหน่งสูงตั้งตรงเสมอ ปลายหูมนเล็กน้อย
6. ฟันฟันควรต้องคมและขบสนิทเหมือนกรรไกร เนื่องจากพันธุ์นี้เป็นหมาป่า
7. ลำตัว หลังไม่แอ่นและไม่ควรโก่งจนเกินไป เส้นหลังตรงขนานกับพื้น ไหล่ลาดลงทางด้านท้ายเล็กน้อย
8. คอ โค้งมนยาวพอดี
9. อก ลึกแต่ไม่กว้างมากเกินไปที่สำคัญบริเวณที่ลึกที่สุดของช่วงอกจะอยู่ด้านหลังศอก
10. ขา ควรมองให้รอบด้านเริ่มจากด้านหน้าต้องมีลักษณะตรง ข้อเท้าหน้าเอียงเล็กน้อยศอกไม่บิดเข้าออกควรแนบลำตัว ส่วนความยาวของขาจากข้อศอกถึงพื้นจะมากกว่าความยาวจากข้อศอกถึงหัวไหล่เล็กน้อย
11. หาง ยาวคล้ายแปรงโดยจะตกอยู่ระหว่างหลังเสมอ ถึงแม้น้องหมาจะตกอยู่ในภาวะที่แสดงความสนใจ หางจะยกสูงแต่ก็ไม่ม้วนเป็นวงกลม
12. ขน ฟูหนามี 2 ชั้น มีทั้งข้างนอกและข้างใน ยิ่งถ้าขนฟูจะยิ่งสวยมาก
จุดด้อย
เนื่องจากตามสัญชาติญาณแล้วมันเป็นสัตว์ที่ชอบวิ่ง ซน alert สุดๆ และเป็นสุนัขที่ขี้ร้อนคนเลี้ยงในบ้านที่ร่มรื่น หรือมีอ่างน้ำให้ได้ลงไปเล่นหรือแชร์ตัว หรือเลี้ยงในห้องแอร์ ดังนั้น ถ้าไม่มีพื้นที่พอก็ไม่ควรซื้อมาเลี้ยง นอกจากนี้หากบ้านคุณไม่มีรั้วรอบขอบชิดแล้วอันตรายเพราะมันคือนักหนีเที่ยวตัวยง ซึ่งน่าจะมาจากนิสัยรักอิสระของมันนั่นเอง