แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

751
รู้จักกับสุนัขพันธุ์ ‘สวีดิช วาลฮุนด์’ เตี้ยล่ำน่ารัก

          สุนัขที่มนุษย์นำมาใช้งานนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ ที่เเม้ว่าไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรือรู้จักกันในวงกว้างนัก เเต่พวกมันก็มีความสามารถเเละมีความน่าสนใจอยู่และเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่น่าเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียว



ลักษณะทั่วไป

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) เป็นสุนัขขนาดกลาง ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก หางม้วนขึ้นมาบนหลังแบบสายพันธุ์สปิตซ์ มีขนสองชั้นหนาแน่นช่วยป้องกันอากาศหนาวเย็น ถือว่าเป็นสุนัขที่โดยรวมเเล้วมีความน่ารักและสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดีอีกหนึ่งสายพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มันได้รับความนิยมในการเลี้ยงตามบ้านเรือนมาเป็นอย่างดี

          สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) นั้นก็คือน้ำหนักประมาณอยู่ที่ 19-21 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณที่ 44-49 เซนติเมตร

          มีใบหูสั้นและตั้งตรงส่วนตาจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม โดยที่มีหางเป็นพวงม้วนกลับมาด้านหน้า เเละมีขนยาวบริเวณลำตัวและขา ขนหนาและหยาบ ส่วนมากจะมีขนสีเดียวกันตลอดทั้งตัว แต่อาจพบขนขาวแซมบ้างก็ได้ซึ่งไม่ถือว่าเป็นลักษณะด้อย

ที่มาของ สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์

          ต้นกำเนิดมาของพวกมันนั้น มาจากประเทศสวีเดน เชื่อกันว่ามาจากช่วงยุคไวกิ้งประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว โดยเริ่มแรกชนเผ่าเร่ร่อนแลพพ์ในแถบสแกนดิเนเวียใช้สุนัขพันธุ์นี้ต้อนฝูงกวางเรนเดียร์ แต่ต่อมาใช้ต้อนฝูงแกะ และทำหน้าที่ในการต้อนปศุสัตว์และสัตว์อื่น ๆ รวมทั้งเป็นสุนัขเฝ้าบ้านระวังภัย แต่ ณ ปัจจุบันด้วยความหายากของสุนัขพันธุ์นี้ ก็ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงไปแล้วแม้ว่าจะมีไม่กี่ประเทศก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่น่าสนใจและมีความนิยมเลี้ยงกันพอสมควร



ลักษณะนิสัย

          นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพราะมีความเป็นมิตร นิสัยดีร่าเริงติดการเข้าสังคมและต้องอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ชอบการถูกทิ้งไว้ลำพัง หากเขาถูกทิ้งไว้นาน ๆ จะส่งเสียงเห่าเรียก ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหมาะกับคนอยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายความเหงา ไม่ชื่นชอบการอยู่คนเดียว ค่อนข้างใจเย็นเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน อาจจะระแวงคนแปลกหน้าแต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าวหรือดุร้าย จะมีเพียงเห่าใส่คนแปลกหน้าเท่านั้น

การดูแล

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ มีขนยาวและหนาจึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดบ่อย ๆ ควรใช้หวีในการแปรงขนวันละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ขนที่ตายแล้วหลุดออกมา การอาบน้ำก็จะยิ่งช่วยให้ผลัดขนได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องไม่ลืมที่จะเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง นอกจากนี้ควรมีการตัดเล็บและทำความสะอาดหูอยู่เสมออาบน้ำทุกครั้ง ควรพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างเพราะโดยนิสัยแล้วเขาจะชื่นชอบการขยับตัว


752
รู้จักกับสุนัขพันธุ์ ‘สวีดิช วาลฮุนด์’ เตี้ยล่ำน่ารัก

          สุนัขที่มนุษย์นำมาใช้งานนั้นมีอยู่มากมายหลากหลายสายพันธุ์เป็นอย่างมาก โดยหนึ่งในนั้นก็คือสุนัขสายพันธุ์อย่าง สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ ที่เเม้ว่าไม่ค่อยจะมีชื่อเสียงหรือรู้จักกันในวงกว้างนัก เเต่พวกมันก็มีความสามารถเเละมีความน่าสนใจอยู่และเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่น่าเลี้ยงอย่างมากเลยทีเดียว



ลักษณะทั่วไป

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) เป็นสุนัขขนาดกลาง ใบหน้าคล้ายสุนัขจิ้งจอก หางม้วนขึ้นมาบนหลังแบบสายพันธุ์สปิตซ์ มีขนสองชั้นหนาแน่นช่วยป้องกันอากาศหนาวเย็น ถือว่าเป็นสุนัขที่โดยรวมเเล้วมีความน่ารักและสามารถเลี้ยงเป็นเพื่อนได้ดีอีกหนึ่งสายพันธุ์เป็นอย่างยิ่ง ทำให้มันได้รับความนิยมในการเลี้ยงตามบ้านเรือนมาเป็นอย่างดี

          สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ (Swedish Lapphund) นั้นก็คือน้ำหนักประมาณอยู่ที่ 19-21 กิโลกรัม และมีความสูงประมาณที่ 44-49 เซนติเมตร

          มีใบหูสั้นและตั้งตรงส่วนตาจะมีสีดำหรือสีน้ำตาลเข้ม โดยที่มีหางเป็นพวงม้วนกลับมาด้านหน้า เเละมีขนยาวบริเวณลำตัวและขา ขนหนาและหยาบ ส่วนมากจะมีขนสีเดียวกันตลอดทั้งตัว แต่อาจพบขนขาวแซมบ้างก็ได้ซึ่งไม่ถือว่าเป็นลักษณะด้อย

ที่มาของ สุนัขสายพันธุ์ สวีดิช แลพพ์ฮุนด์

          ต้นกำเนิดมาของพวกมันนั้น มาจากประเทศสวีเดน เชื่อกันว่ามาจากช่วงยุคไวกิ้งประมาณ 1,000 ปีที่แล้ว โดยเริ่มแรกชนเผ่าเร่ร่อนแลพพ์ในแถบสแกนดิเนเวียใช้สุนัขพันธุ์นี้ต้อนฝูงกวางเรนเดียร์ แต่ต่อมาใช้ต้อนฝูงแกะ และทำหน้าที่ในการต้อนปศุสัตว์และสัตว์อื่น ๆ รวมทั้งเป็นสุนัขเฝ้าบ้านระวังภัย แต่ ณ ปัจจุบันด้วยความหายากของสุนัขพันธุ์นี้ ก็ได้กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงไปแล้วแม้ว่าจะมีไม่กี่ประเทศก็ตามที แต่ก็ยังนับว่าเป็นสุนัขที่น่าสนใจและมีความนิยมเลี้ยงกันพอสมควร



ลักษณะนิสัย

          นิยมเลี้ยงไว้ในบ้านเพราะมีความเป็นมิตร นิสัยดีร่าเริงติดการเข้าสังคมและต้องอยู่กับสมาชิกในครอบครัว ไม่ชอบการถูกทิ้งไว้ลำพัง หากเขาถูกทิ้งไว้นาน ๆ จะส่งเสียงเห่าเรียก ซึ่งเป็นอีกสายพันธุ์หนึ่งที่เหมาะกับคนอยากเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนคลายความเหงา ไม่ชื่นชอบการอยู่คนเดียว ค่อนข้างใจเย็นเข้ากันได้ดีกับเด็กและสัตว์เลี้ยงตัวอื่น ๆ ในบ้าน อาจจะระแวงคนแปลกหน้าแต่ไม่มีท่าทีก้าวร้าวหรือดุร้าย จะมีเพียงเห่าใส่คนแปลกหน้าเท่านั้น

การดูแล

          สวีดิช แลพพ์ฮุนด์ มีขนยาวและหนาจึงต้องหมั่นดูแลทำความสะอาดบ่อย ๆ ควรใช้หวีในการแปรงขนวันละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยให้ขนที่ตายแล้วหลุดออกมา การอาบน้ำก็จะยิ่งช่วยให้ผลัดขนได้ดีขึ้นอีกด้วย แต่ต้องไม่ลืมที่จะเป่าขนให้แห้งสนิททุกครั้ง นอกจากนี้ควรมีการตัดเล็บและทำความสะอาดหูอยู่เสมออาบน้ำทุกครั้ง ควรพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้างเพราะโดยนิสัยแล้วเขาจะชื่นชอบการขยับตัว


753
7 สุนัขเห่าน้อย ไม่กวนใจเพื่อนบ้าน

หลายครั้งเสียงเห่าของสุนัขก็กวนกวนใจทั้งเจ้าของและบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่มากทีเดียว จนทำให้หลายคนอยากมองหาสุนัขพันธุ์ที่เห่าน้อย ๆ มาเลี้ยงดูบ้าง วันนี้ก็เลยทำการรวบรวบ สายพันธุ์สุนัขที่เห่าน้อยที่สุด แบบที่เลี้ยงแล้วสบายใจทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้าง ลองไปดูกันว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง



1. คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล

          คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล เจ้าสุนัขพันธุ์เล็กขี้เล่ ขี้ประจบ ที่ไม่ชอบการอยู่ลำพัง แต่กลับเป็นสุนัขที่เห่าน้อย ซึ่งอาจจะมีการเห่าคนแปลกหน้าบ้างเป็นบางครั้ง เหมาะกับเจ้าของที่ต้องการเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน



2. เซนต์เบอร์นาร์ด 

          สุนัขที่มีนิสัยน่ารัก ร่าเริง ขี้อาย และซุกซน เห่าน้อยที่เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสักตัว ทั้งนี้มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ เพราะสุนัขสายพันธุ์เซนเบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างมาก



3. เบอร์นีส เมาน์เทน ด็อก

          สุนัขที่มีความสามารถมากมาย และแอบเจ้าเล่ห์นิด ๆ ในตอนเป็นแค่ลูกหมาอาจดูซุกซนแต่เมื่อโตขึ้นกลับเป็นสุนัขที่รักสงบและเห่าน้อย แต่เพราะพวกมันเป็นสุนัขที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทำให้มันเหมาะกับการที่เป็นสมาชิกในบ้านที่มีเวลาให้กับพวกมันที่สุด



4. บูล มาสทิฟฟ์

          สุนัขลูกผสมระหว่างบูลด็อกและมาสทิฟฟ์ เห่าน้อย ว่องไว ฉลาด และซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว รวมไปถึงเด็กด้วย ยกเว้นแมวหรือสุนัขตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะเพศเดียวกัน และหากคิดจะเลี้ยงก็ควรมีพื้นที่มากพอให้บลูมาสทิฟฟ์วิ่งเล่นได้ด้วย



5. เฟรนช์ บูลด็อก

          น้องหมาพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก เห่าน้อย มีความฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี แต่ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ค่อยชอบอากาศที่ร้อนแรงสักเท่าไร จึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก



6. บาเซ็นจิ

          บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง ฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระอีกสายพันธุ์หนึ่งเลย



7. ชิบะ

          ชิบะ อินุ เป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น สุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม และเป็นสุนัขที่ไม่เห่า แต่เป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก

          ที่นำมาเสนอในวันเป็นสุนัขที่เหมาะกับที่พักที่ต้องการความสงบหรืออยู่ในหมู่บ้านที่มีผู้คนอยู่เยอะ เพราะเหล่าน้องหมาเหล่านี้เป็นกลุ่มสุนัขที่เห่าเสียงไม่ดัง จึงทำให้คนเลี้ยงไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเสียงที่จะรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง


754
7 สุนัขเห่าน้อย ไม่กวนใจเพื่อนบ้าน

หลายครั้งเสียงเห่าของสุนัขก็กวนกวนใจทั้งเจ้าของและบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่มากทีเดียว จนทำให้หลายคนอยากมองหาสุนัขพันธุ์ที่เห่าน้อย ๆ มาเลี้ยงดูบ้าง วันนี้ก็เลยทำการรวบรวบ สายพันธุ์สุนัขที่เห่าน้อยที่สุด แบบที่เลี้ยงแล้วสบายใจทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้าง ลองไปดูกันว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง



1. คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล

          คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล เจ้าสุนัขพันธุ์เล็กขี้เล่ ขี้ประจบ ที่ไม่ชอบการอยู่ลำพัง แต่กลับเป็นสุนัขที่เห่าน้อย ซึ่งอาจจะมีการเห่าคนแปลกหน้าบ้างเป็นบางครั้ง เหมาะกับเจ้าของที่ต้องการเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน



2. เซนต์เบอร์นาร์ด 

          สุนัขที่มีนิสัยน่ารัก ร่าเริง ขี้อาย และซุกซน เห่าน้อยที่เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสักตัว ทั้งนี้มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ เพราะสุนัขสายพันธุ์เซนเบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างมาก



3. เบอร์นีส เมาน์เทน ด็อก

          สุนัขที่มีความสามารถมากมาย และแอบเจ้าเล่ห์นิด ๆ ในตอนเป็นแค่ลูกหมาอาจดูซุกซนแต่เมื่อโตขึ้นกลับเป็นสุนัขที่รักสงบและเห่าน้อย แต่เพราะพวกมันเป็นสุนัขที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทำให้มันเหมาะกับการที่เป็นสมาชิกในบ้านที่มีเวลาให้กับพวกมันที่สุด



4. บูล มาสทิฟฟ์

          สุนัขลูกผสมระหว่างบูลด็อกและมาสทิฟฟ์ เห่าน้อย ว่องไว ฉลาด และซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว รวมไปถึงเด็กด้วย ยกเว้นแมวหรือสุนัขตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะเพศเดียวกัน และหากคิดจะเลี้ยงก็ควรมีพื้นที่มากพอให้บลูมาสทิฟฟ์วิ่งเล่นได้ด้วย



5. เฟรนช์ บูลด็อก

          น้องหมาพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก เห่าน้อย มีความฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี แต่ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ค่อยชอบอากาศที่ร้อนแรงสักเท่าไร จึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก



6. บาเซ็นจิ

          บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง ฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระอีกสายพันธุ์หนึ่งเลย



7. ชิบะ

          ชิบะ อินุ เป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น สุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม และเป็นสุนัขที่ไม่เห่า แต่เป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก

          ที่นำมาเสนอในวันเป็นสุนัขที่เหมาะกับที่พักที่ต้องการความสงบหรืออยู่ในหมู่บ้านที่มีผู้คนอยู่เยอะ เพราะเหล่าน้องหมาเหล่านี้เป็นกลุ่มสุนัขที่เห่าเสียงไม่ดัง จึงทำให้คนเลี้ยงไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเสียงที่จะรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง


755
7 สุนัขเห่าน้อย ไม่กวนใจเพื่อนบ้าน

หลายครั้งเสียงเห่าของสุนัขก็กวนกวนใจทั้งเจ้าของและบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่มากทีเดียว จนทำให้หลายคนอยากมองหาสุนัขพันธุ์ที่เห่าน้อย ๆ มาเลี้ยงดูบ้าง วันนี้ก็เลยทำการรวบรวบ สายพันธุ์สุนัขที่เห่าน้อยที่สุด แบบที่เลี้ยงแล้วสบายใจทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้าง ลองไปดูกันว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง



1. คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล

          คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล เจ้าสุนัขพันธุ์เล็กขี้เล่ ขี้ประจบ ที่ไม่ชอบการอยู่ลำพัง แต่กลับเป็นสุนัขที่เห่าน้อย ซึ่งอาจจะมีการเห่าคนแปลกหน้าบ้างเป็นบางครั้ง เหมาะกับเจ้าของที่ต้องการเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน



2. เซนต์เบอร์นาร์ด 

          สุนัขที่มีนิสัยน่ารัก ร่าเริง ขี้อาย และซุกซน เห่าน้อยที่เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสักตัว ทั้งนี้มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ เพราะสุนัขสายพันธุ์เซนเบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างมาก



3. เบอร์นีส เมาน์เทน ด็อก

          สุนัขที่มีความสามารถมากมาย และแอบเจ้าเล่ห์นิด ๆ ในตอนเป็นแค่ลูกหมาอาจดูซุกซนแต่เมื่อโตขึ้นกลับเป็นสุนัขที่รักสงบและเห่าน้อย แต่เพราะพวกมันเป็นสุนัขที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทำให้มันเหมาะกับการที่เป็นสมาชิกในบ้านที่มีเวลาให้กับพวกมันที่สุด



4. บูล มาสทิฟฟ์

          สุนัขลูกผสมระหว่างบูลด็อกและมาสทิฟฟ์ เห่าน้อย ว่องไว ฉลาด และซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว รวมไปถึงเด็กด้วย ยกเว้นแมวหรือสุนัขตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะเพศเดียวกัน และหากคิดจะเลี้ยงก็ควรมีพื้นที่มากพอให้บลูมาสทิฟฟ์วิ่งเล่นได้ด้วย



5. เฟรนช์ บูลด็อก

          น้องหมาพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก เห่าน้อย มีความฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี แต่ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ค่อยชอบอากาศที่ร้อนแรงสักเท่าไร จึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก



6. บาเซ็นจิ

          บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง ฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระอีกสายพันธุ์หนึ่งเลย



7. ชิบะ

          ชิบะ อินุ เป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น สุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม และเป็นสุนัขที่ไม่เห่า แต่เป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก

          ที่นำมาเสนอในวันเป็นสุนัขที่เหมาะกับที่พักที่ต้องการความสงบหรืออยู่ในหมู่บ้านที่มีผู้คนอยู่เยอะ เพราะเหล่าน้องหมาเหล่านี้เป็นกลุ่มสุนัขที่เห่าเสียงไม่ดัง จึงทำให้คนเลี้ยงไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเสียงที่จะรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง


756
7 สุนัขเห่าน้อย ไม่กวนใจเพื่อนบ้าน

หลายครั้งเสียงเห่าของสุนัขก็กวนกวนใจทั้งเจ้าของและบ้านใกล้เรือนเคียงอยู่มากทีเดียว จนทำให้หลายคนอยากมองหาสุนัขพันธุ์ที่เห่าน้อย ๆ มาเลี้ยงดูบ้าง วันนี้ก็เลยทำการรวบรวบ สายพันธุ์สุนัขที่เห่าน้อยที่สุด แบบที่เลี้ยงแล้วสบายใจทั้งคนเลี้ยงและคนรอบข้าง ลองไปดูกันว่ามีพันธุ์อะไรบ้าง



1. คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล

          คาวาเลียร์ คิง ชาร์ลส์ สแปเนียล เจ้าสุนัขพันธุ์เล็กขี้เล่ ขี้ประจบ ที่ไม่ชอบการอยู่ลำพัง แต่กลับเป็นสุนัขที่เห่าน้อย ซึ่งอาจจะมีการเห่าคนแปลกหน้าบ้างเป็นบางครั้ง เหมาะกับเจ้าของที่ต้องการเลี้ยงเอาไว้ในบ้าน



2. เซนต์เบอร์นาร์ด 

          สุนัขที่มีนิสัยน่ารัก ร่าเริง ขี้อาย และซุกซน เห่าน้อยที่เหมาะกับครอบครัวที่กำลังมองหาสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนเล่นสักตัว ทั้งนี้มีข้อควรระวังอย่างหนึ่งคือ เพราะสุนัขสายพันธุ์เซนเบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่ ทำให้มีโอกาสเป็นโรคต่าง ๆ ได้ง่าย ดังนั้นผู้เลี้ยงจึงจำเป็นต้องดูแลเอาใจใส่มันเป็นอย่างมาก



3. เบอร์นีส เมาน์เทน ด็อก

          สุนัขที่มีความสามารถมากมาย และแอบเจ้าเล่ห์นิด ๆ ในตอนเป็นแค่ลูกหมาอาจดูซุกซนแต่เมื่อโตขึ้นกลับเป็นสุนัขที่รักสงบและเห่าน้อย แต่เพราะพวกมันเป็นสุนัขที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้มีปัญหาสุขภาพหลายอย่าง ทำให้มันเหมาะกับการที่เป็นสมาชิกในบ้านที่มีเวลาให้กับพวกมันที่สุด



4. บูล มาสทิฟฟ์

          สุนัขลูกผสมระหว่างบูลด็อกและมาสทิฟฟ์ เห่าน้อย ว่องไว ฉลาด และซื่อสัตย์ และเป็นมิตรกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว รวมไปถึงเด็กด้วย ยกเว้นแมวหรือสุนัขตัวอื่น ๆ โดยเฉพาะเพศเดียวกัน และหากคิดจะเลี้ยงก็ควรมีพื้นที่มากพอให้บลูมาสทิฟฟ์วิ่งเล่นได้ด้วย



5. เฟรนช์ บูลด็อก

          น้องหมาพันธุ์เฟรนช์ บูลด็อก เห่าน้อย มีความฉลาด กล้าหาญ ร่าเริง ชอบเล่น ชอบออกกำลังกาย และตื่นตัวอยู่เสมอ เป็นมิตร เข้ากับคนและสัตว์อื่น ๆ ได้ดี แต่ไม่ชอบการถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ แต่ไม่ค่อยชอบอากาศที่ร้อนแรงสักเท่าไร จึงต้องระมัดระวังในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก



6. บาเซ็นจิ

          บาเซ็นจิเป็นสุนัขสายพันธุ์อัฟริกา ขนสั้น รูปร่างปราดเปรียว สง่างาม หลังตรง ฉลาด ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเห่าแต่ก็สามารถใช้เฝ้าบ้านได้เป็นอย่างดี บาเซ็นจิมีสัญชาติญาณ ความเป็นนักล่าสูงอันเป็นลักษณะนิสัยประจำสายพันธุ์ และรักอิสระอีกสายพันธุ์หนึ่งเลย



7. ชิบะ

          ชิบะ อินุ เป็นสุนัขพันธุ์ดั้งเดิมของญี่ปุ่น สุนัขอารมณ์ดี เป็นมิตร ตื่นตัว ฉลาดหลักแหลม และเป็นสุนัขที่ไม่เห่า แต่เป็นมิตรที่ดีกับเด็กๆ พวกเขาเข้ากับคนแปลกหน้าและสัตว์อื่นๆ ให้เข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งได้อย่างดีเยี่ยม ถือได้ว่าเป็นสุนัขที่รักการเข้าสังคมมากที่สุดพันธุ์หนึ่ง แต่ด้วยสายเลือดนักล่า พวกเขาจะไม่ค่อยเป็นมิตรกับหนู หรือกระต่ายเท่าไหร่นัก

          ที่นำมาเสนอในวันเป็นสุนัขที่เหมาะกับที่พักที่ต้องการความสงบหรืออยู่ในหมู่บ้านที่มีผู้คนอยู่เยอะ เพราะเหล่าน้องหมาเหล่านี้เป็นกลุ่มสุนัขที่เห่าเสียงไม่ดัง จึงทำให้คนเลี้ยงไม่ต้องปวดหัวกับเรื่องเสียงที่จะรบกวนเพื่อนบ้านนั่นเอง


757
รู้จัก...เคน คอร์โซ่ สุนัขเฝ้ายาม...ดีที่สุดในโลก

          เคยได้ยินชื่อกันไหมเอย สุนัขที่จะนำมาเสนอในวันนี้ได้แก่ เคน คอร์โซ่ น้องหมาตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่าเกรงขาม อีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยมีคนนิยมในประเทศไทยนัก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้กันค่ะ



ลักษณะทั่วไป

          เคน คอร์โซ่เป็นน้องหมาที่มีต้นสายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ เคนคอร์โซ่มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้นมันวาว แต่ออกจะแข็งกระดาง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง  มีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว ซึ่งสุนัขตัวผู้สูงกว่าสุนัขตัวเมียเล็กน้อย และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 100 ปอนด์

          หูตกปกไปด้านหน้า แต่สายพันธุ์นี้นั้นมักโดยผู้เพาะพันธุ์รวมถึงผู้ที่เลี้ยงจะชอบตัดหูของสุนัขให้สั้นลง และเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่เท่ากันและตั้งตรง รวมถึงหางด้วย

ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม

          เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาด ง่ายต่อการฝึก การเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์ สามารถเฝ้าบ้านได้ดี  และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์ บวกกับนิสัยเป็นมิตรกับเด็กๆ ด้วยสุภาพ อ่อนโยน พวกมันจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขเฝ้ายาม ดีที่สุดในโลก รวมทั้งทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การดูแล

          เคน คอร์โซ่ นั้นดูแลไม่ยากนัก ด้วยเพราะมีขนสั้น หนา แต่ต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ แค่ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอากาศร้อน จะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้แต่ต้องเช็ดขนให้แห้ง ป้องกันการเกิดเชื้อรา จนกลายเป็นเรื้อนได้
หู อาจต้องเพิ่มความใส่ใจอีกสักหน่อยทำความสะอาดให้มากพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน  สำหรับให้อาหาร อาจให้อาหารเป็นแบบแห้งหรือผสมก็ได้ในปริมาณ 4 ถึง 5 ถ้วยต่อวัน โดยแยกเป็นมื้อไป

          ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ เหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า แต่ก็สามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ เพียงแค่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ



ข้อควรจำ

          โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ




758
รู้จัก...เคน คอร์โซ่ สุนัขเฝ้ายาม...ดีที่สุดในโลก

          เคยได้ยินชื่อกันไหมเอย สุนัขที่จะนำมาเสนอในวันนี้ได้แก่ เคน คอร์โซ่ น้องหมาตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่าเกรงขาม อีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยมีคนนิยมในประเทศไทยนัก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้กันค่ะ



ลักษณะทั่วไป

          เคน คอร์โซ่เป็นน้องหมาที่มีต้นสายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ เคนคอร์โซ่มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้นมันวาว แต่ออกจะแข็งกระดาง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง  มีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว ซึ่งสุนัขตัวผู้สูงกว่าสุนัขตัวเมียเล็กน้อย และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 100 ปอนด์

          หูตกปกไปด้านหน้า แต่สายพันธุ์นี้นั้นมักโดยผู้เพาะพันธุ์รวมถึงผู้ที่เลี้ยงจะชอบตัดหูของสุนัขให้สั้นลง และเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่เท่ากันและตั้งตรง รวมถึงหางด้วย

ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม

          เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาด ง่ายต่อการฝึก การเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์ สามารถเฝ้าบ้านได้ดี  และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์ บวกกับนิสัยเป็นมิตรกับเด็กๆ ด้วยสุภาพ อ่อนโยน พวกมันจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขเฝ้ายาม ดีที่สุดในโลก รวมทั้งทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การดูแล

          เคน คอร์โซ่ นั้นดูแลไม่ยากนัก ด้วยเพราะมีขนสั้น หนา แต่ต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ แค่ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอากาศร้อน จะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้แต่ต้องเช็ดขนให้แห้ง ป้องกันการเกิดเชื้อรา จนกลายเป็นเรื้อนได้
หู อาจต้องเพิ่มความใส่ใจอีกสักหน่อยทำความสะอาดให้มากพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน  สำหรับให้อาหาร อาจให้อาหารเป็นแบบแห้งหรือผสมก็ได้ในปริมาณ 4 ถึง 5 ถ้วยต่อวัน โดยแยกเป็นมื้อไป

          ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ เหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า แต่ก็สามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ เพียงแค่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ



ข้อควรจำ

          โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ




759
รู้จัก...เคน คอร์โซ่ สุนัขเฝ้ายาม...ดีที่สุดในโลก

          เคยได้ยินชื่อกันไหมเอย สุนัขที่จะนำมาเสนอในวันนี้ได้แก่ เคน คอร์โซ่ น้องหมาตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่าเกรงขาม อีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยมีคนนิยมในประเทศไทยนัก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้กันค่ะ



ลักษณะทั่วไป

          เคน คอร์โซ่เป็นน้องหมาที่มีต้นสายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ เคนคอร์โซ่มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้นมันวาว แต่ออกจะแข็งกระดาง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง  มีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว ซึ่งสุนัขตัวผู้สูงกว่าสุนัขตัวเมียเล็กน้อย และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 100 ปอนด์

          หูตกปกไปด้านหน้า แต่สายพันธุ์นี้นั้นมักโดยผู้เพาะพันธุ์รวมถึงผู้ที่เลี้ยงจะชอบตัดหูของสุนัขให้สั้นลง และเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่เท่ากันและตั้งตรง รวมถึงหางด้วย

ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม

          เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาด ง่ายต่อการฝึก การเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์ สามารถเฝ้าบ้านได้ดี  และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์ บวกกับนิสัยเป็นมิตรกับเด็กๆ ด้วยสุภาพ อ่อนโยน พวกมันจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขเฝ้ายาม ดีที่สุดในโลก รวมทั้งทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การดูแล

          เคน คอร์โซ่ นั้นดูแลไม่ยากนัก ด้วยเพราะมีขนสั้น หนา แต่ต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ แค่ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอากาศร้อน จะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้แต่ต้องเช็ดขนให้แห้ง ป้องกันการเกิดเชื้อรา จนกลายเป็นเรื้อนได้
หู อาจต้องเพิ่มความใส่ใจอีกสักหน่อยทำความสะอาดให้มากพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน  สำหรับให้อาหาร อาจให้อาหารเป็นแบบแห้งหรือผสมก็ได้ในปริมาณ 4 ถึง 5 ถ้วยต่อวัน โดยแยกเป็นมื้อไป

          ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ เหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า แต่ก็สามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ เพียงแค่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ



ข้อควรจำ

          โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ




760
รู้จัก...เคน คอร์โซ่ สุนัขเฝ้ายาม...ดีที่สุดในโลก

          เคยได้ยินชื่อกันไหมเอย สุนัขที่จะนำมาเสนอในวันนี้ได้แก่ เคน คอร์โซ่ น้องหมาตัวใหญ่ ที่ดูแล้วน่าเกรงขาม อีกสายพันธุ์หนึ่ง แต่ยังไม่ค่อยมีคนนิยมในประเทศไทยนัก วันนี้เราจะมาทำความรู้จักสุนัขสายพันธุ์นี้กันค่ะ



ลักษณะทั่วไป

          เคน คอร์โซ่เป็นน้องหมาที่มีต้นสายพันธุ์มาจากสายพันธุ์ อิตาเลียน มาสทิฟฟ์ เคนคอร์โซ่มีรูปร่างใหญ่ มั่นคง กล้ามเนื้อและกระดูกแข็งแรง แลดูสง่างาม ทรงพลัง เคลื่อนไหวคล่องแคล่ว สง่างาม ขนสั้นมันวาว แต่ออกจะแข็งกระดาง เรียวตัวหนาแน่น ป้องกันน้ำได้ดี สีขนมีได้ทั้งสีดำ สีเทา สีน้ำตาลเหลือง สีแดง  มีความสูงที่ประมาณ 27 นิ้ว ซึ่งสุนัขตัวผู้สูงกว่าสุนัขตัวเมียเล็กน้อย และมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 100 ปอนด์

          หูตกปกไปด้านหน้า แต่สายพันธุ์นี้นั้นมักโดยผู้เพาะพันธุ์รวมถึงผู้ที่เลี้ยงจะชอบตัดหูของสุนัขให้สั้นลง และเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่เท่ากันและตั้งตรง รวมถึงหางด้วย

ลักษณะนิสัยและพฤติกรรม

          เคน คอร์โซ่ เป็นสุนัขที่ฉลาด ง่ายต่อการฝึก การเชื่อฟังคำสั่งเป็นอย่างดี มีความซื่อสัตย์ สามารถเฝ้าบ้านได้ดี  และจงรักภักดีต่อเจ้าของมาก มีจิตวิญญาณของสุนัขผู้พิทักษ์ บวกกับนิสัยเป็นมิตรกับเด็กๆ ด้วยสุภาพ อ่อนโยน พวกมันจึงได้รับการยอมรับว่าเป็นสุนัขเฝ้ายาม ดีที่สุดในโลก รวมทั้งทำหน้าที่บอดี้การ์ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ



การดูแล

          เคน คอร์โซ่ นั้นดูแลไม่ยากนัก ด้วยเพราะมีขนสั้น หนา แต่ต้องได้รับการแปรงขนเป็นประจำ เพื่อพลัดขนเก่าและ นวดผิวหนัง ซึ่งจะช่วยให้สุขภาพขนดีและเงางาม ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำทุกสัปดาห์ แค่ 2-3 สัปดาห์ต่อครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุด 1 เดือนต่อครั้งก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าอากาศร้อน จะเพิ่มขึ้นอีกก็ได้แต่ต้องเช็ดขนให้แห้ง ป้องกันการเกิดเชื้อรา จนกลายเป็นเรื้อนได้
หู อาจต้องเพิ่มความใส่ใจอีกสักหน่อยทำความสะอาดให้มากพิเศษเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันสาเหตุการติดเชื้อในหู ควรพาออกกำลังกายเป็นประจำทุกวัน  สำหรับให้อาหาร อาจให้อาหารเป็นแบบแห้งหรือผสมก็ได้ในปริมาณ 4 ถึง 5 ถ้วยต่อวัน โดยแยกเป็นมื้อไป

          ตามธรรมชาติของเคน คอร์โซ่ เหมาะกับบ้านที่มีสนามหญ้า แต่ก็สามารถเลี้ยงให้อยู่ภายในอพาร์ตเม้นท์ได้ เพียงแค่ต้องพาเขาออกไปเดินเล่น ออกกำลังกายอย่างเพียงพอเป็นประจำ



ข้อควรจำ

          โรคประจำตัวของเคน คอร์โซ่ส่วนใหญ่จะเป็น โรคกระดูกเคลื่อน ลำไส้บวม เพื่อความแน่ใจว่าลูกเคน คอร์โซ่ที่นำมาเลี้ยงเสี่ยงต่อโรคดังที่กล่าวมาหรือไม่ ต้องตรวจสอบดูจากพ่อและแม่ของพวกเขา เนื่องจากเป็นโรคที่ติดมาทางกรรมพันธุ์ นอกจากนี้ ควรพาพวกเขาไปตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันโรคต่างๆ




761
3 สุดยอดโรงแรมน้องหมาน้องแมว เอาใจทาสน้องหมา ทาสน้องแมว

          หมาและแมวนั้นจัดว่าสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดของคนก็ว่าได้ ถึงขนาดหลายคนนั้นยอมเป็น ทาสน้องหมา ทาสน้องแมว กันเลยก็ว่าได้  เพราะทั้งรักทั้งใส่ใจกันตั้งแต่เรื่องการกิน ไปจนถึงของเล่นต่างๆ
พอไม่อยู่บ้านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วยิ่งถ้าจำเป็นจะต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นเวลาหลายๆ เชื่อว่าคงต้องกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่าเด็ก ๆ จะอยู่อย่างไร 



          จึงเป็นต้นของแนวคิดหนึ่งที่ทำให้เกิดธุรกิจที่ให้บริการเพื่อคนรักน้องหมา น้องแมวใหม่ที่ไม่ใช่แค่การฝากน้อง ๆ แต่เป็นโรงแรมสัตว์เลี้ยงที่สถานที่สวยงาม สะอาดและสะดวกสบาย ที่สำคัญมีคนคอยดูแลตลอดเวลาอีกด้วย โดยวันนี้จึงได้นำ 3 โรงแรมสัตว์เลี้ยงระดับ 5 ดาวในกรุงเทพ มาแนะนำไว้เป็นแนวทางเผื่อใครที่เดินทางไปต่างจังหวัด แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาน้องฝากดูแลที่ไหน ลองมาดูกันนะ

1.Cat & Dog Hoteru


          โรงแรมชั้นดีที่มีการแยกพื้นที่ของน้องหมาและน้องแมวอย่างชัดเจน มีสไตล์การจัดพื้นที่ที่เน้นถึงความเป็นธรรมชาติของน้องหมา และแมวเป็นหลัก จึงทำให้สัตว์เลี้ยงทั้งผ่อนคลายและสนุกสนาน รวมถึงการออกแบบโดยเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งน้องหมาน้องแมวยังมีห้องส่วนตัวของตัวเอง รวมถึงมีการบริการปล่อยน้องหมาและแมวไปเดินเล่นโดยแบ่งเป็นบ้านๆ ไม่ปะปนกัน และเจ้าของยังสามารถอัพเดทไทม์ไลน์ของ หมาและแมว ผ่านช่องทางไลน์ได้อีกต่างหากนะ ทันสมัยแท้
เรทราคา : 350-800 บาท / คืน  ขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์เลี้ยง



2.Pet hotel Bangkok

          โรงแรมสัตว์เลี้ยงสุดชิค แห่งที่2 นี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุง แถวซอยทองหล่อ 103 ที่โรงแรมได้จัดพื้นทีออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แยกเป็นบริเวณห้องพัก บริเวณส่วนกลาง โซนออกกำลังกาย และยังมีสปาอีกด้วย บริการดีเบอร์นี้รับรองว่าน้องหมาน้องแมวแสนรักของคุณคงฟินแน่นอน
เรทราคา : 800- 1800 บาท / คืน 
3.SA Pet Hospital and Hotel

        ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สุดสะดวกถ้าหากคุณจะต้องขึ้นเครื่องก็สามารถพาเจ้าหมาแมวของเราไปฝากแล้วก็ขึ้นเครื่องได้เลย  ที่นี่มีจุดเด่นที่มีห้องพักขนาดกว้าง น้องหมาแมวของเราไม่ได้อยู่ในกรงแต่อยู่ในพื้นที่หรือห้องที่จัดไว้ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดวัน รวมถึงมีสัตวแพทย์คอยตรวจและรายงานสุขภาพน้องหมาน้องแมวทุกเช้าอีกด้วย
เรทราคา : 450-800 บาท / คืน

          เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 โรงแรมเจ้าสี่ขาทีนี้จะไหนก็หมดห่วงได้เลย เพราะมีสถานที่ที่ไว้ใจได้ดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง จนไม่เป็นอันทำอะไรอีกต่อไปแล้ว และสำหรับราคาก็ไม่แรงเกินไปอีกด้วย ทำให้ชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้นจากเดิม


762
3 สุดยอดโรงแรมน้องหมาน้องแมว เอาใจทาสน้องหมา ทาสน้องแมว

          หมาและแมวนั้นจัดว่าสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดของคนก็ว่าได้ ถึงขนาดหลายคนนั้นยอมเป็น ทาสน้องหมา ทาสน้องแมว กันเลยก็ว่าได้  เพราะทั้งรักทั้งใส่ใจกันตั้งแต่เรื่องการกิน ไปจนถึงของเล่นต่างๆ
พอไม่อยู่บ้านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วยิ่งถ้าจำเป็นจะต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นเวลาหลายๆ เชื่อว่าคงต้องกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่าเด็ก ๆ จะอยู่อย่างไร 



          จึงเป็นต้นของแนวคิดหนึ่งที่ทำให้เกิดธุรกิจที่ให้บริการเพื่อคนรักน้องหมา น้องแมวใหม่ที่ไม่ใช่แค่การฝากน้อง ๆ แต่เป็นโรงแรมสัตว์เลี้ยงที่สถานที่สวยงาม สะอาดและสะดวกสบาย ที่สำคัญมีคนคอยดูแลตลอดเวลาอีกด้วย โดยวันนี้จึงได้นำ 3 โรงแรมสัตว์เลี้ยงระดับ 5 ดาวในกรุงเทพ มาแนะนำไว้เป็นแนวทางเผื่อใครที่เดินทางไปต่างจังหวัด แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาน้องฝากดูแลที่ไหน ลองมาดูกันนะ

1.Cat & Dog Hoteru


          โรงแรมชั้นดีที่มีการแยกพื้นที่ของน้องหมาและน้องแมวอย่างชัดเจน มีสไตล์การจัดพื้นที่ที่เน้นถึงความเป็นธรรมชาติของน้องหมา และแมวเป็นหลัก จึงทำให้สัตว์เลี้ยงทั้งผ่อนคลายและสนุกสนาน รวมถึงการออกแบบโดยเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งน้องหมาน้องแมวยังมีห้องส่วนตัวของตัวเอง รวมถึงมีการบริการปล่อยน้องหมาและแมวไปเดินเล่นโดยแบ่งเป็นบ้านๆ ไม่ปะปนกัน และเจ้าของยังสามารถอัพเดทไทม์ไลน์ของ หมาและแมว ผ่านช่องทางไลน์ได้อีกต่างหากนะ ทันสมัยแท้
เรทราคา : 350-800 บาท / คืน  ขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์เลี้ยง



2.Pet hotel Bangkok

          โรงแรมสัตว์เลี้ยงสุดชิค แห่งที่2 นี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุง แถวซอยทองหล่อ 103 ที่โรงแรมได้จัดพื้นทีออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แยกเป็นบริเวณห้องพัก บริเวณส่วนกลาง โซนออกกำลังกาย และยังมีสปาอีกด้วย บริการดีเบอร์นี้รับรองว่าน้องหมาน้องแมวแสนรักของคุณคงฟินแน่นอน
เรทราคา : 800- 1800 บาท / คืน 
3.SA Pet Hospital and Hotel

        ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สุดสะดวกถ้าหากคุณจะต้องขึ้นเครื่องก็สามารถพาเจ้าหมาแมวของเราไปฝากแล้วก็ขึ้นเครื่องได้เลย  ที่นี่มีจุดเด่นที่มีห้องพักขนาดกว้าง น้องหมาแมวของเราไม่ได้อยู่ในกรงแต่อยู่ในพื้นที่หรือห้องที่จัดไว้ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดวัน รวมถึงมีสัตวแพทย์คอยตรวจและรายงานสุขภาพน้องหมาน้องแมวทุกเช้าอีกด้วย
เรทราคา : 450-800 บาท / คืน

          เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 โรงแรมเจ้าสี่ขาทีนี้จะไหนก็หมดห่วงได้เลย เพราะมีสถานที่ที่ไว้ใจได้ดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง จนไม่เป็นอันทำอะไรอีกต่อไปแล้ว และสำหรับราคาก็ไม่แรงเกินไปอีกด้วย ทำให้ชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้นจากเดิม


763
3 สุดยอดโรงแรมน้องหมาน้องแมว เอาใจทาสน้องหมา ทาสน้องแมว

          หมาและแมวนั้นจัดว่าสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดของคนก็ว่าได้ ถึงขนาดหลายคนนั้นยอมเป็น ทาสน้องหมา ทาสน้องแมว กันเลยก็ว่าได้  เพราะทั้งรักทั้งใส่ใจกันตั้งแต่เรื่องการกิน ไปจนถึงของเล่นต่างๆ
พอไม่อยู่บ้านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วยิ่งถ้าจำเป็นจะต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นเวลาหลายๆ เชื่อว่าคงต้องกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่าเด็ก ๆ จะอยู่อย่างไร 



          จึงเป็นต้นของแนวคิดหนึ่งที่ทำให้เกิดธุรกิจที่ให้บริการเพื่อคนรักน้องหมา น้องแมวใหม่ที่ไม่ใช่แค่การฝากน้อง ๆ แต่เป็นโรงแรมสัตว์เลี้ยงที่สถานที่สวยงาม สะอาดและสะดวกสบาย ที่สำคัญมีคนคอยดูแลตลอดเวลาอีกด้วย โดยวันนี้จึงได้นำ 3 โรงแรมสัตว์เลี้ยงระดับ 5 ดาวในกรุงเทพ มาแนะนำไว้เป็นแนวทางเผื่อใครที่เดินทางไปต่างจังหวัด แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาน้องฝากดูแลที่ไหน ลองมาดูกันนะ

1.Cat & Dog Hoteru


          โรงแรมชั้นดีที่มีการแยกพื้นที่ของน้องหมาและน้องแมวอย่างชัดเจน มีสไตล์การจัดพื้นที่ที่เน้นถึงความเป็นธรรมชาติของน้องหมา และแมวเป็นหลัก จึงทำให้สัตว์เลี้ยงทั้งผ่อนคลายและสนุกสนาน รวมถึงการออกแบบโดยเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งน้องหมาน้องแมวยังมีห้องส่วนตัวของตัวเอง รวมถึงมีการบริการปล่อยน้องหมาและแมวไปเดินเล่นโดยแบ่งเป็นบ้านๆ ไม่ปะปนกัน และเจ้าของยังสามารถอัพเดทไทม์ไลน์ของ หมาและแมว ผ่านช่องทางไลน์ได้อีกต่างหากนะ ทันสมัยแท้
เรทราคา : 350-800 บาท / คืน  ขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์เลี้ยง



2.Pet hotel Bangkok

          โรงแรมสัตว์เลี้ยงสุดชิค แห่งที่2 นี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุง แถวซอยทองหล่อ 103 ที่โรงแรมได้จัดพื้นทีออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แยกเป็นบริเวณห้องพัก บริเวณส่วนกลาง โซนออกกำลังกาย และยังมีสปาอีกด้วย บริการดีเบอร์นี้รับรองว่าน้องหมาน้องแมวแสนรักของคุณคงฟินแน่นอน
เรทราคา : 800- 1800 บาท / คืน 
3.SA Pet Hospital and Hotel

        ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สุดสะดวกถ้าหากคุณจะต้องขึ้นเครื่องก็สามารถพาเจ้าหมาแมวของเราไปฝากแล้วก็ขึ้นเครื่องได้เลย  ที่นี่มีจุดเด่นที่มีห้องพักขนาดกว้าง น้องหมาแมวของเราไม่ได้อยู่ในกรงแต่อยู่ในพื้นที่หรือห้องที่จัดไว้ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดวัน รวมถึงมีสัตวแพทย์คอยตรวจและรายงานสุขภาพน้องหมาน้องแมวทุกเช้าอีกด้วย
เรทราคา : 450-800 บาท / คืน

          เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 โรงแรมเจ้าสี่ขาทีนี้จะไหนก็หมดห่วงได้เลย เพราะมีสถานที่ที่ไว้ใจได้ดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง จนไม่เป็นอันทำอะไรอีกต่อไปแล้ว และสำหรับราคาก็ไม่แรงเกินไปอีกด้วย ทำให้ชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้นจากเดิม


764
3 สุดยอดโรงแรมน้องหมาน้องแมว เอาใจทาสน้องหมา ทาสน้องแมว

          หมาและแมวนั้นจัดว่าสัตว์เลี้ยงที่ดีที่สุดของคนก็ว่าได้ ถึงขนาดหลายคนนั้นยอมเป็น ทาสน้องหมา ทาสน้องแมว กันเลยก็ว่าได้  เพราะทั้งรักทั้งใส่ใจกันตั้งแต่เรื่องการกิน ไปจนถึงของเล่นต่างๆ
พอไม่อยู่บ้านก็อดเป็นห่วงไม่ได้ แล้วยิ่งถ้าจำเป็นจะต้องไปต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเป็นเวลาหลายๆ เชื่อว่าคงต้องกังวลเพิ่มขึ้นไปอีกว่าเด็ก ๆ จะอยู่อย่างไร 



          จึงเป็นต้นของแนวคิดหนึ่งที่ทำให้เกิดธุรกิจที่ให้บริการเพื่อคนรักน้องหมา น้องแมวใหม่ที่ไม่ใช่แค่การฝากน้อง ๆ แต่เป็นโรงแรมสัตว์เลี้ยงที่สถานที่สวยงาม สะอาดและสะดวกสบาย ที่สำคัญมีคนคอยดูแลตลอดเวลาอีกด้วย โดยวันนี้จึงได้นำ 3 โรงแรมสัตว์เลี้ยงระดับ 5 ดาวในกรุงเทพ มาแนะนำไว้เป็นแนวทางเผื่อใครที่เดินทางไปต่างจังหวัด แต่ยังไม่รู้ว่าจะพาน้องฝากดูแลที่ไหน ลองมาดูกันนะ

1.Cat & Dog Hoteru


          โรงแรมชั้นดีที่มีการแยกพื้นที่ของน้องหมาและน้องแมวอย่างชัดเจน มีสไตล์การจัดพื้นที่ที่เน้นถึงความเป็นธรรมชาติของน้องหมา และแมวเป็นหลัก จึงทำให้สัตว์เลี้ยงทั้งผ่อนคลายและสนุกสนาน รวมถึงการออกแบบโดยเลือกใช้วัสดุที่สามารถทำความสะอาดได้อย่างหมดจด อีกทั้งน้องหมาน้องแมวยังมีห้องส่วนตัวของตัวเอง รวมถึงมีการบริการปล่อยน้องหมาและแมวไปเดินเล่นโดยแบ่งเป็นบ้านๆ ไม่ปะปนกัน และเจ้าของยังสามารถอัพเดทไทม์ไลน์ของ หมาและแมว ผ่านช่องทางไลน์ได้อีกต่างหากนะ ทันสมัยแท้
เรทราคา : 350-800 บาท / คืน  ขึ้นอยู่กับจำนวนสัตว์เลี้ยง



2.Pet hotel Bangkok

          โรงแรมสัตว์เลี้ยงสุดชิค แห่งที่2 นี้ตั้งอยู่ใจกลางกรุง แถวซอยทองหล่อ 103 ที่โรงแรมได้จัดพื้นทีออกเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แยกเป็นบริเวณห้องพัก บริเวณส่วนกลาง โซนออกกำลังกาย และยังมีสปาอีกด้วย บริการดีเบอร์นี้รับรองว่าน้องหมาน้องแมวแสนรักของคุณคงฟินแน่นอน
เรทราคา : 800- 1800 บาท / คืน 
3.SA Pet Hospital and Hotel

        ที่นี่เป็นทั้งโรงแรมและโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงที่อยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สุดสะดวกถ้าหากคุณจะต้องขึ้นเครื่องก็สามารถพาเจ้าหมาแมวของเราไปฝากแล้วก็ขึ้นเครื่องได้เลย  ที่นี่มีจุดเด่นที่มีห้องพักขนาดกว้าง น้องหมาแมวของเราไม่ได้อยู่ในกรงแต่อยู่ในพื้นที่หรือห้องที่จัดไว้ มีพี่เลี้ยงคอยดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดวัน รวมถึงมีสัตวแพทย์คอยตรวจและรายงานสุขภาพน้องหมาน้องแมวทุกเช้าอีกด้วย
เรทราคา : 450-800 บาท / คืน

          เป็นยังไงกันบ้างกับ 3 โรงแรมเจ้าสี่ขาทีนี้จะไหนก็หมดห่วงได้เลย เพราะมีสถานที่ที่ไว้ใจได้ดูแลเหล่าสัตว์เลี้ยงของเราแล้ว ไม่ต้องพะวงหน้าพะวงหลัง จนไม่เป็นอันทำอะไรอีกต่อไปแล้ว และสำหรับราคาก็ไม่แรงเกินไปอีกด้วย ทำให้ชีวิตของคุณได้ง่ายขึ้นจากเดิม


765
สุนัขสายพันธุ์ แอร์เดล เทอร์เรียร์ (Airedale Terrier)

          แอร์เดล เทอร์เรีย (Airedale Terrier) เป็นหมาน้อยสายพันธุ์หนึ่งที่ในเมืองไทยเรา ยังมีเลี้ยงกันค่อนข้างน้อยมาก เพราะมันเป็นหมาในโหมดนำเข้าที่ว่ากันว่ามีสนนราคาที่แพงพอตัวทีเดียว น้องๆ หลักแสนบาทนับว่าเป็นน้องหมาที่มีราคาแพงมาก ๆ อีกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว



          แอร์เดล เทอร์เรีย มีบ้านเกิดในแดนอังกฤษ ที่มีประวัติเก่าแก่พันธุ์หนึ่งซึ่งในอดีตนิยมฝึกพวกมันเป็นสุนัขใช้งาน ทว่าประเทศในแถบอัฟริกา อินเดีย แคนาดา ฯลฯ นิยมนำมาฝึกเป็นสุนัขกีฬา ส่วนในเยอรมันเคยนำมาฝึกใช้งานในกิจการของตำรวจ

ลักษณะทั่วไป

          เป็นสุนัขสายพันธุ์ขนาดปานกลาง ความสูงประมาณ 60 เซนติเมตร น้ำหนักโดยประมาณจะอยู่ที่ประมาณ 23 กิโลกรัม สีขนมักเป็นสีดำและสีน้ำตาล ขนจะหนาและแข็งภายนอก ภายในจะนิ่มนวลกว่า เมื่อโตขึ้นขนของเขาจะมีลักษณะค่อนข้างหยิก สีของเขาจะสวยที่สุดหากมีการดูแล โดยดึงขนที่ตายออกอย่างสม่ำเสมอ เมื่อได้รับการตัดขน จะมีสีค่อนข้างเทาและน้ำตาล หรือไม่ก็จะเป็นสีแทนกับสีเทาเข้ม มีอายุโดยเฉลี่ย 14 ปี

          หัวคล้าย ๆ กับเทอร์เรียคลาสสิก ส่วนหัวจะยาวและแบน หูเป็นรูปตัววีและหลังเหยียดตรง หางสั้นตั้งตรงไม่ม้วนหางตั้งตรง ลักษณะลำตัวคล้ายสี่เหลี่ยมจัตุรัสและเป็นพันธุ์ที่อดทนแข็งแรง



ลักษณะนิสัย

          มีลักษณะนิสัยที่ใจดีเข้ากันได้ดีกับเด็กแต่อาจควบคุมยากหากอยู่กับเด็กเล็ก แอร์ริเดลจะไม่ค่อยไว้ใจ และเข้าหาคนแปลกหน้า เป็นหมาที่ฉลาดมาก ซื่อสัตย์และรักเจ้าของ ชอบให้เจ้าของกอดและสัมผัส แอร์ริเดลส่วนมากจะไม่เห่าเยอะ แต่ชอบเคี้ยวและขุด ชอบวิ่งเล่น ว่ายน้ำ ชอบเคลื่อนไหวตลอดไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ แต่ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง จึงไม่เหมาะเอาไว้เฝ้าบ้าน
         
          หากพูดถึงความเหมาะสม แต่ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีบ้านหรืออพาร์ตเมนต์เล็ก ๆ และคนสูงอายุ แต่น้องหมาสายพันธุ์นี้นั้นเหมาะสำหรับคนชอบสุนัขตัวใหญ่ ที่ต้องการอยากได้สุนัขใจดี

การดูแล

          โดยทั่วไปพวก แอร์เดล เทอร์เรีย เป็นน้องหมาที่มีสุขภาพดี สิ่งที่เจ้าของจะต้องทำคือ ควรหมั่นดูแลทำความสะอาดขน แปรงขน เช็ดขนให้บ่อยๆ และดูแลความสะอาดผิวหนัง เแอร์เดลมักมีปัญหากับโรคผิวหนังอยู่บ้างในส่วนนี้ และควรจะตัดเล็มขนของมันทุกๆ 4 เดือน

          อย่างไรก็ตาม แม้ดูว่ามีสุขภาพดี แต่ก็ไม่ใช่บทสรุปที่แท้จริงเสมอไป ฉะนั้นคนเลี้ยงหรือเจ้าของควรนำมันไปพบสัตวแพทย์เพื่อตรวจเช็กสภาพร่างกายให้เป็นประจำด้วย อย่างน้อยก็เดือนละครั้ง เพื่อน้องหมาแอร์เดล เทอร์เรียร์ จะอยู่กับเราตลอดไปจนสิ้นอายุขัย