แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

6245
รวมรูปหมา เฮฮา น่ารักๆ / Pug Hero
« เมื่อ: 28 ส.ค. 57, 13:41:07น. »

6246
รวมรูปหมา เฮฮา น่ารักๆ / Pug Hero
« เมื่อ: 28 ส.ค. 57, 13:41:07น. »

6247
รวมรูปหมา เฮฮา น่ารักๆ / Pug Hero
« เมื่อ: 28 ส.ค. 57, 13:41:07น. »

6248
รวมรูปหมา เฮฮา น่ารักๆ / Pug Hero
« เมื่อ: 28 ส.ค. 57, 13:41:07น. »

6249
สุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบ

     ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความเข้าใจเรื่องวิธีการกินอาหารของสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 1990 เราได้เรียนรู้ว่าสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบควรจะต้องงดอาหาร 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาหารผ่านทางเดินลำไส้ แล้วไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งเอนไซม์ย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการเพิ่มการอักเสบของตับอ่อน



     แต่ปัจจุบันการวิจัยทั้งในคนและสุนัข ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อการอดอาหารเป็นเวลานานของ ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบ ที่มีผลต่อโครงสร้างและทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เซลล์ที่สำไล้ขึ้นอยู่กับการดูดซับพลังงานและสารอาหารที่กินเข้าไป เมื่อสุนัขไม่กินเยื่อบุของทางเดินลำไส้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะเกิดการหดตัวของเนื้อเยื้อระบบภูมิคุ้มกัน การลดลงของผนังลำไส้จะกลายเป็น “รั่ว” ทำให้การดูดซึมของเชื้อแบคทีเรียและสารพิษเพิ่มขึ้น การอักเสบจึงเป็นมากขึ้น

     เรากำลังหาวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการเริ่มต้นให้อาหารสุนัขที่ตับอ่อนอักเสบ เรากำลังพยายามให้เป็นไปได้อย่างเร็วที่สุด อต่เราจะไม่ดึงดันให้อาหารกับสุนัขที่อาเจียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเค้าไม่สามารถทานอาหารลงไปในท้องได้เลย แต่ยาแก้อาเจียนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตอนนี้ คือ ยา antiemetic ที่สามารถยับยั้งการอาเจียนได้ภายใน 24 ชั่วโมงในการเข้ารับรักษา ที่สำคัญควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น

     ในอาหารสุนัขที่มีไขมันนี่จะเป็นตัวเชื่อมโยงการพัฒนาการของตับอ่อนและเป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน ดังนั้นอาหารที่ควรให้คือ อาหารไขมันต่ำ แต่การเริ่มต้นคือ ต้องให้ทีละน้อย ในสัดส่วน ¼ ของพลังงานที่สุนัขต้องการ แล้วก็ให้อาหาร 4 ช่วงต่อ 1 วัน หากสุนัขดีขึ้นจึงค่อยๆเพิ่มสัส่วนของอาหารให้เค้าจะได้รับพลังงานตามจำนวนที่ต้องการ อาหารที่จะมีประโยชน์ต่อสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบมากที่สุดคือ อาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยต่ำ ไขมันต่ำ การเข้ารับการดูแลในโณงพยาบาลจะได้รับอาหรที่เหมาะสม หากได้กลับบ้านไปพักฟื้นเจ้าของควรปรุงอาหารเอง ก็จะเป็น ข้าวขาวผสมกับเนื้อไก่ต้ม เพื่อให้สุนัขได้รับคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของเค้า

6250
สุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบ

     ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความเข้าใจเรื่องวิธีการกินอาหารของสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 1990 เราได้เรียนรู้ว่าสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบควรจะต้องงดอาหาร 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาหารผ่านทางเดินลำไส้ แล้วไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งเอนไซม์ย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการเพิ่มการอักเสบของตับอ่อน



     แต่ปัจจุบันการวิจัยทั้งในคนและสุนัข ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อการอดอาหารเป็นเวลานานของ ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบ ที่มีผลต่อโครงสร้างและทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เซลล์ที่สำไล้ขึ้นอยู่กับการดูดซับพลังงานและสารอาหารที่กินเข้าไป เมื่อสุนัขไม่กินเยื่อบุของทางเดินลำไส้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะเกิดการหดตัวของเนื้อเยื้อระบบภูมิคุ้มกัน การลดลงของผนังลำไส้จะกลายเป็น “รั่ว” ทำให้การดูดซึมของเชื้อแบคทีเรียและสารพิษเพิ่มขึ้น การอักเสบจึงเป็นมากขึ้น

     เรากำลังหาวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการเริ่มต้นให้อาหารสุนัขที่ตับอ่อนอักเสบ เรากำลังพยายามให้เป็นไปได้อย่างเร็วที่สุด อต่เราจะไม่ดึงดันให้อาหารกับสุนัขที่อาเจียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเค้าไม่สามารถทานอาหารลงไปในท้องได้เลย แต่ยาแก้อาเจียนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตอนนี้ คือ ยา antiemetic ที่สามารถยับยั้งการอาเจียนได้ภายใน 24 ชั่วโมงในการเข้ารับรักษา ที่สำคัญควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น

     ในอาหารสุนัขที่มีไขมันนี่จะเป็นตัวเชื่อมโยงการพัฒนาการของตับอ่อนและเป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน ดังนั้นอาหารที่ควรให้คือ อาหารไขมันต่ำ แต่การเริ่มต้นคือ ต้องให้ทีละน้อย ในสัดส่วน ¼ ของพลังงานที่สุนัขต้องการ แล้วก็ให้อาหาร 4 ช่วงต่อ 1 วัน หากสุนัขดีขึ้นจึงค่อยๆเพิ่มสัส่วนของอาหารให้เค้าจะได้รับพลังงานตามจำนวนที่ต้องการ อาหารที่จะมีประโยชน์ต่อสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบมากที่สุดคือ อาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยต่ำ ไขมันต่ำ การเข้ารับการดูแลในโณงพยาบาลจะได้รับอาหรที่เหมาะสม หากได้กลับบ้านไปพักฟื้นเจ้าของควรปรุงอาหารเอง ก็จะเป็น ข้าวขาวผสมกับเนื้อไก่ต้ม เพื่อให้สุนัขได้รับคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของเค้า

6251
สุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบ

     ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความเข้าใจเรื่องวิธีการกินอาหารของสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 1990 เราได้เรียนรู้ว่าสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบควรจะต้องงดอาหาร 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาหารผ่านทางเดินลำไส้ แล้วไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งเอนไซม์ย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการเพิ่มการอักเสบของตับอ่อน



     แต่ปัจจุบันการวิจัยทั้งในคนและสุนัข ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อการอดอาหารเป็นเวลานานของ ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบ ที่มีผลต่อโครงสร้างและทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เซลล์ที่สำไล้ขึ้นอยู่กับการดูดซับพลังงานและสารอาหารที่กินเข้าไป เมื่อสุนัขไม่กินเยื่อบุของทางเดินลำไส้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะเกิดการหดตัวของเนื้อเยื้อระบบภูมิคุ้มกัน การลดลงของผนังลำไส้จะกลายเป็น “รั่ว” ทำให้การดูดซึมของเชื้อแบคทีเรียและสารพิษเพิ่มขึ้น การอักเสบจึงเป็นมากขึ้น

     เรากำลังหาวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการเริ่มต้นให้อาหารสุนัขที่ตับอ่อนอักเสบ เรากำลังพยายามให้เป็นไปได้อย่างเร็วที่สุด อต่เราจะไม่ดึงดันให้อาหารกับสุนัขที่อาเจียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเค้าไม่สามารถทานอาหารลงไปในท้องได้เลย แต่ยาแก้อาเจียนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตอนนี้ คือ ยา antiemetic ที่สามารถยับยั้งการอาเจียนได้ภายใน 24 ชั่วโมงในการเข้ารับรักษา ที่สำคัญควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น

     ในอาหารสุนัขที่มีไขมันนี่จะเป็นตัวเชื่อมโยงการพัฒนาการของตับอ่อนและเป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน ดังนั้นอาหารที่ควรให้คือ อาหารไขมันต่ำ แต่การเริ่มต้นคือ ต้องให้ทีละน้อย ในสัดส่วน ¼ ของพลังงานที่สุนัขต้องการ แล้วก็ให้อาหาร 4 ช่วงต่อ 1 วัน หากสุนัขดีขึ้นจึงค่อยๆเพิ่มสัส่วนของอาหารให้เค้าจะได้รับพลังงานตามจำนวนที่ต้องการ อาหารที่จะมีประโยชน์ต่อสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบมากที่สุดคือ อาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยต่ำ ไขมันต่ำ การเข้ารับการดูแลในโณงพยาบาลจะได้รับอาหรที่เหมาะสม หากได้กลับบ้านไปพักฟื้นเจ้าของควรปรุงอาหารเอง ก็จะเป็น ข้าวขาวผสมกับเนื้อไก่ต้ม เพื่อให้สุนัขได้รับคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของเค้า

6252
สุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบ

     ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาความเข้าใจเรื่องวิธีการกินอาหารของสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ในปี 1990 เราได้เรียนรู้ว่าสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบควรจะต้องงดอาหาร 24-48 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้อาหารผ่านทางเดินลำไส้ แล้วไปกระตุ้นตับอ่อนให้หลั่งเอนไซม์ย่อยอาหาร ซึ่งเป็นการเพิ่มการอักเสบของตับอ่อน



     แต่ปัจจุบันการวิจัยทั้งในคนและสุนัข ชี้ให้เห็นถึงผลกระทบต่อการอดอาหารเป็นเวลานานของ ผู้ป่วยโรคตับอ่อนอักเสบ ที่มีผลต่อโครงสร้างและทำงานของระบบทางเดินอาหาร รวมทั้งเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เซลล์ที่สำไล้ขึ้นอยู่กับการดูดซับพลังงานและสารอาหารที่กินเข้าไป เมื่อสุนัขไม่กินเยื่อบุของทางเดินลำไส้จึงเกิดการเปลี่ยนแปลง โดยจะเกิดการหดตัวของเนื้อเยื้อระบบภูมิคุ้มกัน การลดลงของผนังลำไส้จะกลายเป็น “รั่ว” ทำให้การดูดซึมของเชื้อแบคทีเรียและสารพิษเพิ่มขึ้น การอักเสบจึงเป็นมากขึ้น

     เรากำลังหาวิธีการที่ดีที่สุด สำหรับการเริ่มต้นให้อาหารสุนัขที่ตับอ่อนอักเสบ เรากำลังพยายามให้เป็นไปได้อย่างเร็วที่สุด อต่เราจะไม่ดึงดันให้อาหารกับสุนัขที่อาเจียนเป็นอย่างมาก เนื่องจากพวกเค้าไม่สามารถทานอาหารลงไปในท้องได้เลย แต่ยาแก้อาเจียนที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตอนนี้ คือ ยา antiemetic ที่สามารถยับยั้งการอาเจียนได้ภายใน 24 ชั่วโมงในการเข้ารับรักษา ที่สำคัญควรอยู่ในการดูแลของแพทย์เท่านั้น

     ในอาหารสุนัขที่มีไขมันนี่จะเป็นตัวเชื่อมโยงการพัฒนาการของตับอ่อนและเป็นการกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่ก่อให้เกิดการอักเสบของตับอ่อน ดังนั้นอาหารที่ควรให้คือ อาหารไขมันต่ำ แต่การเริ่มต้นคือ ต้องให้ทีละน้อย ในสัดส่วน ¼ ของพลังงานที่สุนัขต้องการ แล้วก็ให้อาหาร 4 ช่วงต่อ 1 วัน หากสุนัขดีขึ้นจึงค่อยๆเพิ่มสัส่วนของอาหารให้เค้าจะได้รับพลังงานตามจำนวนที่ต้องการ อาหารที่จะมีประโยชน์ต่อสุนัขที่เป็นตับอ่อนอักเสบมากที่สุดคือ อาหารที่ย่อยง่าย มีเส้นใยต่ำ ไขมันต่ำ การเข้ารับการดูแลในโณงพยาบาลจะได้รับอาหรที่เหมาะสม หากได้กลับบ้านไปพักฟื้นเจ้าของควรปรุงอาหารเอง ก็จะเป็น ข้าวขาวผสมกับเนื้อไก่ต้ม เพื่อให้สุนัขได้รับคุณค่าทางโภชนาการเพียงพอต่อความต้องการของเค้า

6253
5 วิธีที่สำหรับการจ่ายค่าอาหารน้องหมาที่คุ้มค่าเงิน



     สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญของการเลี้ยงคือค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร จึงจำเป็นต้องหาอาหารสุนัขที่ดีที่สุด ซึ่งมีราคาที่เหมาะสม ถึงจะได้ประโยชน์และคุ้มค่ากันทั้ง 2 ฝ่าย มาดูข้อสังเกตเหล่านี้กันค่ะ ว่าตอบโจทย์ที่ว่าสุนัขได้คุณค่าที่ครบถ้วน และเจ้าของก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น

1. อาหารสุนัขที่คุณมีอยู่มีความสมดุลคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพมั้ย? 

มีนิยามความสมดุล ดังนี้
“สุนัขต้องการพลังงาน จากทั้งโปรตีนไขมัน คาร์โบไฮเดรต หรดไขมันที่จำเป็น วิตามินและแร่ธาตุ” PhD. Tony Buffington ศาสตราจารย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตกล่าวว่า “ในความเป็นจริงตราบใดที่สารอาหารทั้งหมดมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสุนัข ก็จะเกิดความสมดุลที่เหมาะสมและสามารถใช้ได้สำหรับการดูดซิมที่เพียงพอต่อสุนัข”

"สมดุลเป็นสิ่งสำคัญเพราะการเผาผลาญ" Joe Bartges DVM ปริญญาเอกและศาสตราจารย์แพทย์และโภชนาการที่มหาวิทยาลัยเทนเนสซีวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์กล่าวว่า “ถ้าคุณไม่กินคาร์ไฮเดรตมากเกินไป หรือกินโปรตีนเพิ่มเพื่อสำหรับใช้ผลิตน้ำตาลที่ให้พลังงาน นั่นแหละคือ ความสมดุลที่มีประสิทธิภาพ” เพื่อความสมดุลนี้แหละ บริษัทผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียง จึงจ้างนักโภชนาการสัตวแพทย์มาช่วยงานเรื่องการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม

2. สูตรจากนักโภชนาการหรือไม่?

     การกำหนดสัดส่วนของคุณค่าทางอาหารโดยเจ้าของทำเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงผู้ผลิตอาหารสุนัขที่มีคุณภาพจะจ้างนักโภชนาการสัตว์เลี้ยงเฉพาะทาง เพื่อทำการทดลอง ทดสอบ ผสมให้คุณค่าทางอาหาร ให้เกิดความสมดุลของแต่ละสารอาหารให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ของสุขนัขที่มีสุขภาพที่ดี

3. อาหารผ่านมาตรฐานการทดสอบที่ได้มาตรฐาน? 

     ข้อสังเกตคือดูจาก ฉลากของอาหารสุนัข จะมีข้อความเรื่องการ “ทดสอบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานของ AAFCO (สมาคมเจ้าหน้าที่ควบคุมอาหารอเมริกัน) ว่า [ชื่อของบริษัทอาหารสุนัข] ให้สารอาหารครบถ้วนและสมดุล” จากคำยืนยันของ Ashley Gallagher DVMของ Friendship Hospital for Animalsว่าขั้นตอนการทดสอบอาหารอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด เพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสม

4. อาหารมีการควบคุมการผลิตที่มีคุณภาพอย่างเข้มงวด?

     คุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรกังวลสำหรับทุกผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง แต่มีบางบริษัทที่ภูมิใจเสนอการผลิตอาหารของตนจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตนเองมี (เมื่อเทียบกับการผลิตร่วมหรือการจ้างผลิต) ตามที่  Mindy Bough รองประธานฝ่ายการดำเนินงานควบคุมสารพิษและการโภชนาการสัตว์เลี้ยง (ASPCA) ยืนยันขั้นตอนการควบคุมการผลิตของแต่ละผุ้ผลิตให้ผ่านมาตรฐานเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ เช่น อาหารที่ผลิตจะสามารถเข้าผลิตภัณฑ์ได้ก็ต่อเมื่ออาหารผ่านคุณสมบัติการทดสอบเรียบร้อยแล้ว จึงจะให้ขัดส่งสินค้าจำหน่ายได้ เพื่อลดปัญหาที่อาหารจะปนเปื้อนสารอันไม่พึงประสงค์ ข้อสังเกตมให้มองหาข้อความที่บอกว่า “ผลิตโดย (manufactured by)” บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง มากว่าข้อความ “ผลิต (manufactured for)” หรือ “จัดจำหน่ายโดย (distributed by)” และถ้าหากพบสิ่งผิดปกติในอาหารให้แจ้งต่อบริษัทผู้ผลิต และสัตวแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องให้ระงับแบรนด์นั้น และเรียกคืนสินค้าได้เลย

5. เป็นอาหารที่เหมาะกับสุนัขของคุณ?

     รวมถึงทุกประเด็น คือ พันธุกรรม น้ำหนัก สุขภาพของสุนัขของคุณ การเลือกอาหารที่ไม่เหมาะกับกายภาพของสุนัขจัดว่าเป็นเรื่องอันตราย บางครั้งสารอาหารอาจจะขาด บางครั้งอาจจะเกินความจำเป็น สิ่งเป็นเหตุผลสำคัญให้เกิดโรคตามมาได้อย่างแน่นอน
     มันอาจจะซับซ้อนเล็กน้อยที่ต้องคอยปรับอาหารให้เหมาะกับสุนัขอยู่สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้น ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆอย่าง อาจจะราคาสูงแต่คุณภาพเหมาะสำหรับกายภาพ สุขภาพของสุนัขของคุณมากที่สุด แต่เรื่องนึงที่วางใจได้เลยว่า การควบคุมดูแล ณ ตอนนี้ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาโรคในอนาคตจากการปล่อยปละละเลยในตอนนี้ได้อย่างแน่นอนที่สุด


6254
5 วิธีที่สำหรับการจ่ายค่าอาหารน้องหมาที่คุ้มค่าเงิน



     สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญของการเลี้ยงคือค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร จึงจำเป็นต้องหาอาหารสุนัขที่ดีที่สุด ซึ่งมีราคาที่เหมาะสม ถึงจะได้ประโยชน์และคุ้มค่ากันทั้ง 2 ฝ่าย มาดูข้อสังเกตเหล่านี้กันค่ะ ว่าตอบโจทย์ที่ว่าสุนัขได้คุณค่าที่ครบถ้วน และเจ้าของก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น

1. อาหารสุนัขที่คุณมีอยู่มีความสมดุลคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพมั้ย? 

มีนิยามความสมดุล ดังนี้
“สุนัขต้องการพลังงาน จากทั้งโปรตีนไขมัน คาร์โบไฮเดรต หรดไขมันที่จำเป็น วิตามินและแร่ธาตุ” PhD. Tony Buffington ศาสตราจารย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตกล่าวว่า “ในความเป็นจริงตราบใดที่สารอาหารทั้งหมดมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสุนัข ก็จะเกิดความสมดุลที่เหมาะสมและสามารถใช้ได้สำหรับการดูดซิมที่เพียงพอต่อสุนัข”

"สมดุลเป็นสิ่งสำคัญเพราะการเผาผลาญ" Joe Bartges DVM ปริญญาเอกและศาสตราจารย์แพทย์และโภชนาการที่มหาวิทยาลัยเทนเนสซีวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์กล่าวว่า “ถ้าคุณไม่กินคาร์ไฮเดรตมากเกินไป หรือกินโปรตีนเพิ่มเพื่อสำหรับใช้ผลิตน้ำตาลที่ให้พลังงาน นั่นแหละคือ ความสมดุลที่มีประสิทธิภาพ” เพื่อความสมดุลนี้แหละ บริษัทผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียง จึงจ้างนักโภชนาการสัตวแพทย์มาช่วยงานเรื่องการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม

2. สูตรจากนักโภชนาการหรือไม่?

     การกำหนดสัดส่วนของคุณค่าทางอาหารโดยเจ้าของทำเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงผู้ผลิตอาหารสุนัขที่มีคุณภาพจะจ้างนักโภชนาการสัตว์เลี้ยงเฉพาะทาง เพื่อทำการทดลอง ทดสอบ ผสมให้คุณค่าทางอาหาร ให้เกิดความสมดุลของแต่ละสารอาหารให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ของสุขนัขที่มีสุขภาพที่ดี

3. อาหารผ่านมาตรฐานการทดสอบที่ได้มาตรฐาน? 

     ข้อสังเกตคือดูจาก ฉลากของอาหารสุนัข จะมีข้อความเรื่องการ “ทดสอบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานของ AAFCO (สมาคมเจ้าหน้าที่ควบคุมอาหารอเมริกัน) ว่า [ชื่อของบริษัทอาหารสุนัข] ให้สารอาหารครบถ้วนและสมดุล” จากคำยืนยันของ Ashley Gallagher DVMของ Friendship Hospital for Animalsว่าขั้นตอนการทดสอบอาหารอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด เพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสม

4. อาหารมีการควบคุมการผลิตที่มีคุณภาพอย่างเข้มงวด?

     คุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรกังวลสำหรับทุกผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง แต่มีบางบริษัทที่ภูมิใจเสนอการผลิตอาหารของตนจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตนเองมี (เมื่อเทียบกับการผลิตร่วมหรือการจ้างผลิต) ตามที่  Mindy Bough รองประธานฝ่ายการดำเนินงานควบคุมสารพิษและการโภชนาการสัตว์เลี้ยง (ASPCA) ยืนยันขั้นตอนการควบคุมการผลิตของแต่ละผุ้ผลิตให้ผ่านมาตรฐานเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ เช่น อาหารที่ผลิตจะสามารถเข้าผลิตภัณฑ์ได้ก็ต่อเมื่ออาหารผ่านคุณสมบัติการทดสอบเรียบร้อยแล้ว จึงจะให้ขัดส่งสินค้าจำหน่ายได้ เพื่อลดปัญหาที่อาหารจะปนเปื้อนสารอันไม่พึงประสงค์ ข้อสังเกตมให้มองหาข้อความที่บอกว่า “ผลิตโดย (manufactured by)” บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง มากว่าข้อความ “ผลิต (manufactured for)” หรือ “จัดจำหน่ายโดย (distributed by)” และถ้าหากพบสิ่งผิดปกติในอาหารให้แจ้งต่อบริษัทผู้ผลิต และสัตวแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องให้ระงับแบรนด์นั้น และเรียกคืนสินค้าได้เลย

5. เป็นอาหารที่เหมาะกับสุนัขของคุณ?

     รวมถึงทุกประเด็น คือ พันธุกรรม น้ำหนัก สุขภาพของสุนัขของคุณ การเลือกอาหารที่ไม่เหมาะกับกายภาพของสุนัขจัดว่าเป็นเรื่องอันตราย บางครั้งสารอาหารอาจจะขาด บางครั้งอาจจะเกินความจำเป็น สิ่งเป็นเหตุผลสำคัญให้เกิดโรคตามมาได้อย่างแน่นอน
     มันอาจจะซับซ้อนเล็กน้อยที่ต้องคอยปรับอาหารให้เหมาะกับสุนัขอยู่สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้น ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆอย่าง อาจจะราคาสูงแต่คุณภาพเหมาะสำหรับกายภาพ สุขภาพของสุนัขของคุณมากที่สุด แต่เรื่องนึงที่วางใจได้เลยว่า การควบคุมดูแล ณ ตอนนี้ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาโรคในอนาคตจากการปล่อยปละละเลยในตอนนี้ได้อย่างแน่นอนที่สุด


6255
5 วิธีที่สำหรับการจ่ายค่าอาหารน้องหมาที่คุ้มค่าเงิน



     สิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องสำคัญของการเลี้ยงคือค่าใช้จ่ายเรื่องอาหาร จึงจำเป็นต้องหาอาหารสุนัขที่ดีที่สุด ซึ่งมีราคาที่เหมาะสม ถึงจะได้ประโยชน์และคุ้มค่ากันทั้ง 2 ฝ่าย มาดูข้อสังเกตเหล่านี้กันค่ะ ว่าตอบโจทย์ที่ว่าสุนัขได้คุณค่าที่ครบถ้วน และเจ้าของก็ไม่ได้เสียค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น

1. อาหารสุนัขที่คุณมีอยู่มีความสมดุลคุณค่าทางอาหารครบถ้วนและมีคุณภาพมั้ย? 

มีนิยามความสมดุล ดังนี้
“สุนัขต้องการพลังงาน จากทั้งโปรตีนไขมัน คาร์โบไฮเดรต หรดไขมันที่จำเป็น วิตามินและแร่ธาตุ” PhD. Tony Buffington ศาสตราจารย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิกสัตวแพทย์ที่มหาวิทยาลัยโอไฮโอสเตกล่าวว่า “ในความเป็นจริงตราบใดที่สารอาหารทั้งหมดมีอยู่ในปริมาณที่เหมาะสมสำหรับสุนัข ก็จะเกิดความสมดุลที่เหมาะสมและสามารถใช้ได้สำหรับการดูดซิมที่เพียงพอต่อสุนัข”

"สมดุลเป็นสิ่งสำคัญเพราะการเผาผลาญ" Joe Bartges DVM ปริญญาเอกและศาสตราจารย์แพทย์และโภชนาการที่มหาวิทยาลัยเทนเนสซีวิทยาลัยสัตวแพทยศาสตร์กล่าวว่า “ถ้าคุณไม่กินคาร์ไฮเดรตมากเกินไป หรือกินโปรตีนเพิ่มเพื่อสำหรับใช้ผลิตน้ำตาลที่ให้พลังงาน นั่นแหละคือ ความสมดุลที่มีประสิทธิภาพ” เพื่อความสมดุลนี้แหละ บริษัทผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงที่มีชื่อเสียง จึงจ้างนักโภชนาการสัตวแพทย์มาช่วยงานเรื่องการเลือกวัตถุดิบที่เหมาะสม

2. สูตรจากนักโภชนาการหรือไม่?

     การกำหนดสัดส่วนของคุณค่าทางอาหารโดยเจ้าของทำเองไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ในความเป็นจริงผู้ผลิตอาหารสุนัขที่มีคุณภาพจะจ้างนักโภชนาการสัตว์เลี้ยงเฉพาะทาง เพื่อทำการทดลอง ทดสอบ ผสมให้คุณค่าทางอาหาร ให้เกิดความสมดุลของแต่ละสารอาหารให้ครบถ้วน เพื่อประโยชน์ของสุขนัขที่มีสุขภาพที่ดี

3. อาหารผ่านมาตรฐานการทดสอบที่ได้มาตรฐาน? 

     ข้อสังเกตคือดูจาก ฉลากของอาหารสุนัข จะมีข้อความเรื่องการ “ทดสอบอาหารสัตว์ตามมาตรฐานของ AAFCO (สมาคมเจ้าหน้าที่ควบคุมอาหารอเมริกัน) ว่า [ชื่อของบริษัทอาหารสุนัข] ให้สารอาหารครบถ้วนและสมดุล” จากคำยืนยันของ Ashley Gallagher DVMของ Friendship Hospital for Animalsว่าขั้นตอนการทดสอบอาหารอยู่ภายใต้หลักเกณฑ์ที่เข้มงวด เพื่อให้ได้สารอาหารที่เหมาะสม

4. อาหารมีการควบคุมการผลิตที่มีคุณภาพอย่างเข้มงวด?

     คุณภาพและความปลอดภัยเป็นสิ่งที่ควรกังวลสำหรับทุกผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง แต่มีบางบริษัทที่ภูมิใจเสนอการผลิตอาหารของตนจากสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตนเองมี (เมื่อเทียบกับการผลิตร่วมหรือการจ้างผลิต) ตามที่  Mindy Bough รองประธานฝ่ายการดำเนินงานควบคุมสารพิษและการโภชนาการสัตว์เลี้ยง (ASPCA) ยืนยันขั้นตอนการควบคุมการผลิตของแต่ละผุ้ผลิตให้ผ่านมาตรฐานเข้มงวดและมีประสิทธิภาพ เช่น อาหารที่ผลิตจะสามารถเข้าผลิตภัณฑ์ได้ก็ต่อเมื่ออาหารผ่านคุณสมบัติการทดสอบเรียบร้อยแล้ว จึงจะให้ขัดส่งสินค้าจำหน่ายได้ เพื่อลดปัญหาที่อาหารจะปนเปื้อนสารอันไม่พึงประสงค์ ข้อสังเกตมให้มองหาข้อความที่บอกว่า “ผลิตโดย (manufactured by)” บริษัทอาหารสัตว์เลี้ยง มากว่าข้อความ “ผลิต (manufactured for)” หรือ “จัดจำหน่ายโดย (distributed by)” และถ้าหากพบสิ่งผิดปกติในอาหารให้แจ้งต่อบริษัทผู้ผลิต และสัตวแพทย์หรือผู้เกี่ยวข้องให้ระงับแบรนด์นั้น และเรียกคืนสินค้าได้เลย

5. เป็นอาหารที่เหมาะกับสุนัขของคุณ?

     รวมถึงทุกประเด็น คือ พันธุกรรม น้ำหนัก สุขภาพของสุนัขของคุณ การเลือกอาหารที่ไม่เหมาะกับกายภาพของสุนัขจัดว่าเป็นเรื่องอันตราย บางครั้งสารอาหารอาจจะขาด บางครั้งอาจจะเกินความจำเป็น สิ่งเป็นเหตุผลสำคัญให้เกิดโรคตามมาได้อย่างแน่นอน
     มันอาจจะซับซ้อนเล็กน้อยที่ต้องคอยปรับอาหารให้เหมาะกับสุนัขอยู่สม่ำเสมอ ไม่ใช่แค่เพียงเรื่องลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเท่านั้น ต้องพิจารณาองค์ประกอบหลายๆอย่าง อาจจะราคาสูงแต่คุณภาพเหมาะสำหรับกายภาพ สุขภาพของสุนัขของคุณมากที่สุด แต่เรื่องนึงที่วางใจได้เลยว่า การควบคุมดูแล ณ ตอนนี้ ลดค่าใช้จ่ายเรื่องการรักษาโรคในอนาคตจากการปล่อยปละละเลยในตอนนี้ได้อย่างแน่นอนที่สุด