เป็นสุนัขในกลุ่มเทอร์เรีย น่ารัก อารมณ์ดี มีจินตนาการสูง ขนาดตัวปานกลาง ทนต่ออากาศร้อนแหนาวได้ปานกลาง เป็นมิตรกับเด็กๆในระดับปานกลาง ต่อไปเรามาดูลักษณะที่ดีของสายพันธุ์นี้กันนะค่ะ


1.   ขนาดตัวและศีรษะ  ศีรษะยาว ลึก คล้ายๆรูปไข่ จากกะโหลกจรดปลายจมูกเป็นเส้นโค้ง  กะโหลกศีรษะระหว่างหูแบน ความยาวของปากจะยาวกว่าความยาวกะโหลกศีรษะเล็กน้อย  อกกว้าง ลำตัวกลม
 
2.   ฟัน  ฟันแข็งแรง สบกันเป็นกรรไกรพอดี

3.   ปาก ริมฝีปากสะอาด กระชับ มีสีดำสนิท

4.   ตา ตากลมขนาดปานกลาง ตามีสีดำ น้ำตาลอ่อน-เข้ม ห้ามเป็นสีฟ้าคือ ลักษณะบกพร่อง

5.   หู หูบาง ขนาดเล็ก หูตั้ง

6.   จมูก ปลายจมูกโค้งเล็กน้อย จมูกดำสนิท

7.   คอ คอค่อนข้างลึก 

8.   ขาหน้าและขาหลัง  ทั้งขาหน้าและขาหลังแข็งแรง ตั้งฉากกับพื้น สองข้างห่างกันพอเหมาะ คล้ายๆเท้าแมวเพราะนิ้วเท้าชิดกัน

9.   หาง หางสั้น หางชี้ขนานกับพื้น

10.   ขนและสีขน  มีสีอะไรก็ได้ นอกจากสีด่างเท่าเป็นจุดๆ ขนสั้นแข็ง ผิวหนังตึง

     เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ขนยาวปานกลาง จะลักษณะคล้ายๆกับชิสุห์ แต่มีขนที่ศีรษะมาก และใบ หน้าสั้น  ทนต่ออากาศร้อนและหนาวได้น้อย เป็นมิตรกับเด็กได้ดีที่สุด ขี้เล่น คล่องแคล่ว สามารถฝึกฝนได้ง่าย และเป็นพันธุ์ที่ต้องการความรักเป็นอย่างมาก ต่อไปเรามาดูลักษณะที่ดีของสายพันธุ์นี้กันนะค่ะ


1.   ขนาดตัวและศีรษะ   ศีรษะกลมกว้าง ใหญ่ อยู่ระหว่างหูสองข้างพอดี หน้าผากยื่นออกมา มีจุดหักระหว่างหน้าผากกับดั้งจมูกที่ลึกลงไป สันจมูกสั้น ลำตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยม

2.   ฟัน  ฟันหน้าของขากรรไกรล่างยื่นออกมาเล็กน้อย

3.   ปาก  รูปปากกว้าง โค้งต่ำติดกับจมูก เวลาอ้าปากจะเหมือนกำลังยิ้ม ริมฝีปากกระชับ สีดำสนิท หรืออาจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม

4.   ตา ตากลมโต ตาสีเข้มเป็นประกาย ที่มุมหัวตาจะมีสีขาวนิดๆ ดวงตาดูเหมือนกำลังฉงนสงสัยตลอดเวลา

5.   หู เป็นรูปตัววีทิ้งตัวลง ใบหูกระชับ หากเค้าตื่นเต้นหูจะหันไปด้านหน้าและลู่ลงด้านล่าง

6.   จมูก จมูกสั้นกว้าง รูจมูกเปิด จมูกมีสีดำสนิท หรืออาจจะปนสีแดง หรือขาว ตามสีขน

7.   คอ คอยาวและหนาพอดีกับตัว คอตั้งบนไหล่อย่างมั่นคง ทำให้ดูสง่างาม

8.   ขาหน้าและขาหลัง  ทั้งขาหน้าและขาหลังตั้งตรง กระดูกสวยเข้ารูปพอดี

9.   หาง หางโค้ง ตั้งสูงขึ้นที่หลัง

10.   ขนและสีขน  สีขนอาจมีทั้ง ดำคู่ขาว แดงคู่ขาว ดำขาวแต้มน้ำตาแดง  ขนตรง ขนดก ขนนุ่มเหมือนไหม จะมีขนหนาบริเวณคอ ไหล่ อก และบั้นท้าย ขนที่หางจะเป็นพวงพุ่ม

     เป็นสุนัขพันธุ์เล็ก ขนยาวปานกลาง จะลักษณะคล้ายๆกับชิสุห์ แต่มีขนที่ศีรษะมาก และใบ หน้าสั้น  ทนต่ออากาศร้อนและหนาวได้น้อย เป็นมิตรกับเด็กได้ดีที่สุด ขี้เล่น คล่องแคล่ว สามารถฝึกฝนได้ง่าย และเป็นพันธุ์ที่ต้องการความรักเป็นอย่างมาก ต่อไปเรามาดูลักษณะที่ดีของสายพันธุ์นี้กันนะค่ะ


1.   ขนาดตัวและศีรษะ   ศีรษะกลมกว้าง ใหญ่ อยู่ระหว่างหูสองข้างพอดี หน้าผากยื่นออกมา มีจุดหักระหว่างหน้าผากกับดั้งจมูกที่ลึกลงไป สันจมูกสั้น ลำตัวเป็นทรงสี่เหลี่ยม

2.   ฟัน  ฟันหน้าของขากรรไกรล่างยื่นออกมาเล็กน้อย

3.   ปาก  รูปปากกว้าง โค้งต่ำติดกับจมูก เวลาอ้าปากจะเหมือนกำลังยิ้ม ริมฝีปากกระชับ สีดำสนิท หรืออาจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม

4.   ตา ตากลมโต ตาสีเข้มเป็นประกาย ที่มุมหัวตาจะมีสีขาวนิดๆ ดวงตาดูเหมือนกำลังฉงนสงสัยตลอดเวลา

5.   หู เป็นรูปตัววีทิ้งตัวลง ใบหูกระชับ หากเค้าตื่นเต้นหูจะหันไปด้านหน้าและลู่ลงด้านล่าง

6.   จมูก จมูกสั้นกว้าง รูจมูกเปิด จมูกมีสีดำสนิท หรืออาจจะปนสีแดง หรือขาว ตามสีขน

7.   คอ คอยาวและหนาพอดีกับตัว คอตั้งบนไหล่อย่างมั่นคง ทำให้ดูสง่างาม

8.   ขาหน้าและขาหลัง  ทั้งขาหน้าและขาหลังตั้งตรง กระดูกสวยเข้ารูปพอดี

9.   หาง หางโค้ง ตั้งสูงขึ้นที่หลัง

10.   ขนและสีขน  สีขนอาจมีทั้ง ดำคู่ขาว แดงคู่ขาว ดำขาวแต้มน้ำตาแดง  ขนตรง ขนดก ขนนุ่มเหมือนไหม จะมีขนหนาบริเวณคอ ไหล่ อก และบั้นท้าย ขนที่หางจะเป็นพวงพุ่ม

วิธีการเลือกซื้อสุนัขพันธุ์ เยอรมันเชฟเฟิร์ด (German Shepherd)



     เป็นพันธุ์ที่แข็งแรง ว่องไว ขนาดตัวใหญ่ ทนต่ออากาศหนาวได้มาก ทนอากาศร้อนได้ปานกลาง มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ เป็นมิตรกับเด็กๆ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เยอรมนี เรียกอีกชื่อว่า “อัลเซเชี่ยน” คนส่วนมากเลือกสุนัขพันธุ์นี้เป็นเพื่อนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตา แถมยังเป็นองครักษ์ที่ดีของเจ้าของอีกด้วย ต่อไปเรามาดูลักษณะต่างๆที่ดีของสายพันธุ์นี้กันค่ะ

1.   ขนาดตัวและศีรษะ  สัดส่วนที่บอกว่ารูปร่างมาตรฐาน คือ สัดส่วนของความยาวของลำตัวต่อความสูง อยู่ในอัตรา 10:8.5 ในเพศผู้ศีรษะจะดูล่ำสัน  ส่วนสูงควรจะอยู่ที่ 24-25 นิ้ว ในเพศเมียจะดูมีความอ่อนช้อย หน้าผากโค้งเล็กน้อย ศีรษะลาดเท ส่วนสูงควรอยู่ที่ 22-24 นิ้ว อกลึก กว้าง มีความแข็งแรง แต่ไม่ดูเทอะทะ ขนาดสมส่วน

2.   ฟัน  มีทั้งหมด 42 ซี่ ประกอบด้วยฟันบน 20 ซี่ ฟันล่าง 22 ซี่ โดยฟันบนและฟันล่างสบกันเป็นกรรไกพอดี ฟันแข็งแรง ลักษณะที่ไม่ดีคือ ฟันยื่น หรือฟันไม่สบกันพอดี

3.   ปาก กระบอกปากจะยาว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำสนิท

4.   ตา ขนาดของตาปานกลาง คล้ายๆ เม็ดอัลมอลด์  ตาไม่โปนออกมา ตาสีดำสนิท มีแววตาที่ฉลาดเฉียบแหลม

5.   หู ขนาดของหูได้สัดส่วนพอเหมาะกับศีรษะ หูแหลมพอประมาณ หูจะตั้งชันเมื่อเค้ากำลังตั้งใจ

6.   จมูก เป็นสีดำสนิท เป็นมันเงา

7.   คอ จะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ คอค่อนข้างยาวแต่ได้สัดส่วนกับศีรษะ หนังบริเวณคอตึงไม่หย่อนยาน เมื่อเค้ากำลังใจคอจะตั้ง ชูสูง

8.   ขาหน้าและขาหลัง กระดูกขาแข็งแรง ขาหน้าจะเป็นวงรี จะดูขาแบนเล็กน้อย ส่วนขาหลังลาดโค้งลงต่ำ ท่อนขาล่างทำมุมกับท่อนบน 120 องศา

9.   หาง เป็นพวง หางโค้งเล็กน้อยจะอยู่ตรงสะโพก จะห้อยหากอยู่ในท่าพัก  หางจะโค้งหรือยกขึ้นหากสุนัขตื่นเต้นหรือกำลังเคลื่อนไหว

10.   ขนและสีขน  ไม่มีสีขนที่แน่นอน แต่นิยมที่เป็นสีเข้มมากกว่า มีขนสองชั้น ยาวปานกลาง ขนเหยียดตรงแนบไปกับลำตัว ส่วนคอแจะมีขนปกคลุมทั้งยาวและหนา

วิธีการเลือกซื้อสุนัขพันธุ์ เยอรมันเชฟเฟิร์ด (German Shepherd)



     เป็นพันธุ์ที่แข็งแรง ว่องไว ขนาดตัวใหญ่ ทนต่ออากาศหนาวได้มาก ทนอากาศร้อนได้ปานกลาง มีความจงรักภักดีต่อเจ้าของ เป็นมิตรกับเด็กๆ มีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เยอรมนี เรียกอีกชื่อว่า “อัลเซเชี่ยน” คนส่วนมากเลือกสุนัขพันธุ์นี้เป็นเพื่อนำทางสำหรับผู้พิการทางสายตา แถมยังเป็นองครักษ์ที่ดีของเจ้าของอีกด้วย ต่อไปเรามาดูลักษณะต่างๆที่ดีของสายพันธุ์นี้กันค่ะ

1.   ขนาดตัวและศีรษะ  สัดส่วนที่บอกว่ารูปร่างมาตรฐาน คือ สัดส่วนของความยาวของลำตัวต่อความสูง อยู่ในอัตรา 10:8.5 ในเพศผู้ศีรษะจะดูล่ำสัน  ส่วนสูงควรจะอยู่ที่ 24-25 นิ้ว ในเพศเมียจะดูมีความอ่อนช้อย หน้าผากโค้งเล็กน้อย ศีรษะลาดเท ส่วนสูงควรอยู่ที่ 22-24 นิ้ว อกลึก กว้าง มีความแข็งแรง แต่ไม่ดูเทอะทะ ขนาดสมส่วน

2.   ฟัน  มีทั้งหมด 42 ซี่ ประกอบด้วยฟันบน 20 ซี่ ฟันล่าง 22 ซี่ โดยฟันบนและฟันล่างสบกันเป็นกรรไกพอดี ฟันแข็งแรง ลักษณะที่ไม่ดีคือ ฟันยื่น หรือฟันไม่สบกันพอดี

3.   ปาก กระบอกปากจะยาว ริมฝีปากกระชับ มีสีดำสนิท

4.   ตา ขนาดของตาปานกลาง คล้ายๆ เม็ดอัลมอลด์  ตาไม่โปนออกมา ตาสีดำสนิท มีแววตาที่ฉลาดเฉียบแหลม

5.   หู ขนาดของหูได้สัดส่วนพอเหมาะกับศีรษะ หูแหลมพอประมาณ หูจะตั้งชันเมื่อเค้ากำลังตั้งใจ

6.   จมูก เป็นสีดำสนิท เป็นมันเงา

7.   คอ จะเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ คอค่อนข้างยาวแต่ได้สัดส่วนกับศีรษะ หนังบริเวณคอตึงไม่หย่อนยาน เมื่อเค้ากำลังใจคอจะตั้ง ชูสูง

8.   ขาหน้าและขาหลัง กระดูกขาแข็งแรง ขาหน้าจะเป็นวงรี จะดูขาแบนเล็กน้อย ส่วนขาหลังลาดโค้งลงต่ำ ท่อนขาล่างทำมุมกับท่อนบน 120 องศา

9.   หาง เป็นพวง หางโค้งเล็กน้อยจะอยู่ตรงสะโพก จะห้อยหากอยู่ในท่าพัก  หางจะโค้งหรือยกขึ้นหากสุนัขตื่นเต้นหรือกำลังเคลื่อนไหว

10.   ขนและสีขน  ไม่มีสีขนที่แน่นอน แต่นิยมที่เป็นสีเข้มมากกว่า มีขนสองชั้น ยาวปานกลาง ขนเหยียดตรงแนบไปกับลำตัว ส่วนคอแจะมีขนปกคลุมทั้งยาวและหนา

     วารีบำบัดใช้คุณสมบัติของน้ำ  ในการลอยตัว  ความหนืด ความต้านทานและความดัน  เพื่อง่ายต่อการจะย้ายข้อต่อของสุนัข น้ำทำให้ร่างกายลอยตัว ดังนั้นเมื่อจมอยู่ใต้น้ำน้ำหนักของร่างกายที่ได้รับการสนับสนุนการน้ำ ซึ่งหมายความว่าสุนัขจะไม่ต้องออกแรงต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง การพยุงของน้ำช่วยลดความเครียดในข้อต่อและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากสำหรับการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด  วารีบำบัดยังเป็นประโยชน์สำหรับสุนัขที่กำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ สุนัขที่ประสบจากโรคข้อเสื่อมและผู้ที่ได้รับเป็นอัมพาต

     การบำบัดน้ำยังสามารถช่วยความทุกข์ทรมานจากกระดูก สะโพก การถูกตัดแขนขาและความผิดปกติทางระบบประสาท วารีบำบัดเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสุนัขที่ประสบจากโรคข้ออักเสบต่าง ๆ น้ำอุ่นจะช่วยลดอาการบวมร่วมผลประโยชน์อื่น
ประเภทของวารีบำบัดสุนัข มีด้วยกัน 3 ประเภท น้ำวน  ลู่วิ่งใต้น้ำ และสระว่ายน้ำสุนัข

     การใช้ลู่วิ่งใต้น้ำมักจะใช้สำหรับสุนัขที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ มีทั้งลู่ในห้องแก้วหรือพลาสติกที่ปิดล้อม สุนัขเข้ามาในห้องที่ประตูถูกปิดและน้ำเติมขึ้นเหนือขาสุนัข โดยสุนัขเริ่มที่จะเดินบนลู่วิ่ง และน้ำสร้างความต้านทานที่จำเป็นในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีผลกระทบต่ำ สามารถสร้างการไหลเวียนที่ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นในข้อต่อและลดอาการปวดข้อ ฝึกความแข็งแรงและความอดทนกล้ามเนื้อ ฝึกเรื่องของทางเดินหายใจหัวใจและความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นจากการเคลื่อนไหวและทำให้เกิดความคล่องตัว

ประโยชน์ของการบำบัดด้วยน้ำ
-   ช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างและผ่อนคลายร่างกาย
-   การบำบัดน้ำอาจจะปรับสมดุลและเพิ่มระดับพลังงานโดยรวมทั้งหมด ในขณะที่การลดอาการปวดและความเครียด
-   เพิ่มการไหลเวียนของน้ำที่เหมาะสำหรับผิวและขน
-   น้ำสามารถเพิ่มการระบายน้ำเหลือง  กำจัดสารพิษออกจากร่างกายและการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
-   น้ำสามารถกระตุ้นการย่อยอาหารดีขึ้น
-   การเดินแบบปกติในลู่วิ่งใต้น้ำหรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ สามารถช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายในสุนัขได้

     วารีบำบัดใช้คุณสมบัติของน้ำ  ในการลอยตัว  ความหนืด ความต้านทานและความดัน  เพื่อง่ายต่อการจะย้ายข้อต่อของสุนัข น้ำทำให้ร่างกายลอยตัว ดังนั้นเมื่อจมอยู่ใต้น้ำน้ำหนักของร่างกายที่ได้รับการสนับสนุนการน้ำ ซึ่งหมายความว่าสุนัขจะไม่ต้องออกแรงต่อสู้กับแรงโน้มถ่วง การพยุงของน้ำช่วยลดความเครียดในข้อต่อและสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยมากสำหรับการฟื้นตัวหลังการผ่าตัด  วารีบำบัดยังเป็นประโยชน์สำหรับสุนัขที่กำลังฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ สุนัขที่ประสบจากโรคข้อเสื่อมและผู้ที่ได้รับเป็นอัมพาต

     การบำบัดน้ำยังสามารถช่วยความทุกข์ทรมานจากกระดูก สะโพก การถูกตัดแขนขาและความผิดปกติทางระบบประสาท วารีบำบัดเป็นประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสุนัขที่ประสบจากโรคข้ออักเสบต่าง ๆ น้ำอุ่นจะช่วยลดอาการบวมร่วมผลประโยชน์อื่น
ประเภทของวารีบำบัดสุนัข มีด้วยกัน 3 ประเภท น้ำวน  ลู่วิ่งใต้น้ำ และสระว่ายน้ำสุนัข

     การใช้ลู่วิ่งใต้น้ำมักจะใช้สำหรับสุนัขที่มีปัญหาเรื่องข้อต่อ มีทั้งลู่ในห้องแก้วหรือพลาสติกที่ปิดล้อม สุนัขเข้ามาในห้องที่ประตูถูกปิดและน้ำเติมขึ้นเหนือขาสุนัข โดยสุนัขเริ่มที่จะเดินบนลู่วิ่ง และน้ำสร้างความต้านทานที่จำเป็นในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ มีผลกระทบต่ำ สามารถสร้างการไหลเวียนที่ดีขึ้น เพิ่มความยืดหยุ่นในข้อต่อและลดอาการปวดข้อ ฝึกความแข็งแรงและความอดทนกล้ามเนื้อ ฝึกเรื่องของทางเดินหายใจหัวใจและความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นจากการเคลื่อนไหวและทำให้เกิดความคล่องตัว

ประโยชน์ของการบำบัดด้วยน้ำ
-   ช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างและผ่อนคลายร่างกาย
-   การบำบัดน้ำอาจจะปรับสมดุลและเพิ่มระดับพลังงานโดยรวมทั้งหมด ในขณะที่การลดอาการปวดและความเครียด
-   เพิ่มการไหลเวียนของน้ำที่เหมาะสำหรับผิวและขน
-   น้ำสามารถเพิ่มการระบายน้ำเหลือง  กำจัดสารพิษออกจากร่างกายและการปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย
-   น้ำสามารถกระตุ้นการย่อยอาหารดีขึ้น
-   การเดินแบบปกติในลู่วิ่งใต้น้ำหรือว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ สามารถช่วยส่งเสริมการลดน้ำหนักและการออกกำลังกายในสุนัขได้

     สุนัขที่มีไขมันในเลือดที่เรียกว่า  Lipemia คือมีจำนวนของไตรกลีเซอไรด์ หรือคอเลสเตอรอลในกระแสเลือดของพวกเขามากกว่าปกติ เมื่อไตรกลีเซอไรด์ที่สูง ลองนึกภาพตัวอย่างเลือดของสุนัขจะคล้ายๆ สตรอเบอร์รี่สมูทตี้ 

     ไขมันในเลือดสูงสามารถมาจากหลายสาเหตุที่พบมากที่สุด คือ การตอบสนองทางสรีรวิทยาเกิดขึ้นหลังจากที่สุนัขอาหารที่มีไขมันระดับปานกลางถึงระดับสูง ระดับไขมันในเลือดโดยทั่วไปจะตกอยู่ในร่างกายในช่วง 6-12 ชั่วโมงหลังจากที่รับประทานอาหาร ดังนั้นสิ่งแรกที่สัตวแพทย์จะทำอย่างไรเมื่อต้องเผชิญกับสุนัขที่มีไขมันในเลือดสูง คือ การทำการทดสอบตัวอย่างของเลือด และทำซ้ำหลังครบเวลา 12 ชั่วโมงอย่างรวดเร็ว



     ถ้าไขมันในเลือดยังคงค้างอยู่ถึงแม้จะมีการอดอาหาร ขั้นตอนต่อไปของฉันคือการออกกฎโรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้เกิดระดับไขมันในเลือดจะเพิ่มขึ้น เบาหวาน, ตับอ่อน, โรคไตที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานโปรตีนที่จะหายไปในปัสสาวะเป็นโรคหลักที่พบมากที่สุดที่สามารถทำให้ไขมันในเลือดสูง เพียงพอในการควบคุมปัญหาหลักในกรณีเหล่านี้มักจะดูแลไขมันในเลือดได้เป็นอย่างดี
อาการที่เกิดจากไขมันในเลือดสูง ดังนี้  เบื่ออาหาร  อาเจียน  อุจจาระร่วง  อาการปวดท้อง  ชัก

     สุนัขที่มีไขมันในเลือดสูงมีความเสี่ยงในเรื่องของตับอ่อน อย่างไรก็ตามควรหมั่นดูแล และตรวจดูระดับไขมันในเลือดของสุนัขอย่างเคร่งครัด กรณีที่ไม่รุนแรงอาจจะเลือกให้เป็นอาหารที่ไขมันต่ำ แต่หากอย่างในชั้นที่น่าเป็นห่วงต้องใกล้ชิดสัตวแพทย์ หนึ่งในสายพันธุ์สุนัข คือ ชเนาเซอร์ ที่พบบ่อยเรื่องของมีไขมันในเลือกสูงแต่ไม่ทราบสาเหตุ ควรให้อาหารและจำกัดไขมันตามใบสั่งแพทย์เท่านั้น

     หากมีเปลี่ยนแปลงอาหารแล้วยังไม่เพียงพอ แนะนำให้ให้อาหารเสริมโอเมก้า3  กรดไขมัน, ไนอาซิน (ชนิดของวิตามินบี)  หรือไคติน (เสริมใยแก้วนำแสงที่มาจากหอย) อย่างไรก็ตามควรขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์ก่อนให้สารอาหารเสริมบางชนิดที่เราไม่แน่ใจ