SoCal Corgi Beach Day คืองานรวมตัวกันของ[url=https://www.marketdogs.com/index.php/topic,1484.0.html]สุนัขสายพันธุ์คอร์กี้[/url] มีบันทึกอย่างเป็นทางการของคนรัก สุนัขพันธุ์คอร์กี้ บนชายฝั่งตะวันตก ที่ฮันติงตัน(Huntington Beach) เริ่มต้นในปี 2012 มีสุนัข เพียง 12 ที่เข้าร่วมงาน ผ่านมาจนถึงวันนี้ มีผู้ลงทะเบียนร่วมงานกว่า 634 ตัว ซึ่งบ่งบอกถึงความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ มีมากขึ้นหลายเท่าตัว และในเมืองไทยเราอัตราการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์คอร์กี้ ก็มีเพิ่มขึ้นเลื่อยๆ เราไปดูรูปกันค่ะว่า คอร์กี้ 634 ตัว ในชายหาดจะน่ารักขนาดไหน  ท้ายสุดมีคลิปในงานด้วยนะ เผื่อเพื่อนๆจะเห็นความน่ารักขอคอร์กี้และอยากเลี้ยงมั่ง ^^

     เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุอันน่าเศร้าหญิงวัย 85 ปี เธอชื่อ Marie-Claire เมื่อรถตู้ที่เธอกำลังขับเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถพ่วง ซึ่งมันทำให้เธอเสียชีวิตทันที

     สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ  ชิวาวาน้อยชื่อ Uno Solo อยู่ในรถคันนั้น นายอำเภอกล่าวว่าพวกเขาตรวจสอบรถของ Marie-Claire ผู้ตายอย่างแน่ใจแล้วในวันที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่พบสุนัข และจากนั้นซากรถของ Marie-Claire ก็ถูกลากไปเก็บไว้ในสุสานซากรถ แต่หลังจากนั้น 2 วันให้หลัง พวกเขากลับไปตรวจสอบรถคันดังกล่าวอีกที ซึ่งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเค้าเจอ Uno ซ่อนตัวอยู่ใต้ที่นั่ง



     "สุนัขผู้ซื่อสัตย์เมื่อพวกเขาสูญเสียเจ้าของของพวกเขาหลายครั้งที่พวกเขาจะอยู่ที่นั่น" Autumn Jolley หน่วยกู้ภัยสุนัขกล่าว Uno Solo ขณะนี้อยู่ในความดูแลของเธอ

    Mumford กล่าวว่าเรื่อง Uno เป็นครั้งแรกสำหรับเขา  "ผมทำงานเป็นนายอำเภอมา 25 ปี เรามักจะพบว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุสุนัขจะทำเห่าหรือส่งเสียงชัดเจนภายในรถ แต่ฉันไม่เคยพบเห็นสุนัขเช่นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความผิดพลาดดังกล่าวที่เราไม่สามารถค้นหาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในซากรถได้ "

     และนายอำเภอยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่คาดว่าน่าจะทำให้ Uno รอดชีวิตมาได้คือข้าวของที่อยู่ภายในรถ และตอนนี้ก็กำลังทำการประกาศหาบ้านที่อบอุ่นและพร้อมที่จะดูแล Uno และตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ก็มีคนติดต่อขอรับเลี้ยงดู Uno แล้ว 30 กว่าสายที่โทรเข้ามา 

     เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุอันน่าเศร้าหญิงวัย 85 ปี เธอชื่อ Marie-Claire เมื่อรถตู้ที่เธอกำลังขับเกิดอุบัติเหตุชนเข้ากับรถพ่วง ซึ่งมันทำให้เธอเสียชีวิตทันที

     สิ่งที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อ  ชิวาวาน้อยชื่อ Uno Solo อยู่ในรถคันนั้น นายอำเภอกล่าวว่าพวกเขาตรวจสอบรถของ Marie-Claire ผู้ตายอย่างแน่ใจแล้วในวันที่เกิดอุบัติเหตุ แต่ไม่พบสุนัข และจากนั้นซากรถของ Marie-Claire ก็ถูกลากไปเก็บไว้ในสุสานซากรถ แต่หลังจากนั้น 2 วันให้หลัง พวกเขากลับไปตรวจสอบรถคันดังกล่าวอีกที ซึ่งสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อพวกเค้าเจอ Uno ซ่อนตัวอยู่ใต้ที่นั่ง



     "สุนัขผู้ซื่อสัตย์เมื่อพวกเขาสูญเสียเจ้าของของพวกเขาหลายครั้งที่พวกเขาจะอยู่ที่นั่น" Autumn Jolley หน่วยกู้ภัยสุนัขกล่าว Uno Solo ขณะนี้อยู่ในความดูแลของเธอ

    Mumford กล่าวว่าเรื่อง Uno เป็นครั้งแรกสำหรับเขา  "ผมทำงานเป็นนายอำเภอมา 25 ปี เรามักจะพบว่าเวลาเกิดอุบัติเหตุสุนัขจะทำเห่าหรือส่งเสียงชัดเจนภายในรถ แต่ฉันไม่เคยพบเห็นสุนัขเช่นนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในความผิดพลาดดังกล่าวที่เราไม่สามารถค้นหาสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในซากรถได้ "

     และนายอำเภอยังกล่าวอีกว่าสิ่งที่คาดว่าน่าจะทำให้ Uno รอดชีวิตมาได้คือข้าวของที่อยู่ภายในรถ และตอนนี้ก็กำลังทำการประกาศหาบ้านที่อบอุ่นและพร้อมที่จะดูแล Uno และตั้งแต่วันพุธที่ผ่านมา ก็มีคนติดต่อขอรับเลี้ยงดู Uno แล้ว 30 กว่าสายที่โทรเข้ามา 

     Alfie สุนัขพันธุ์ Yorkshire Terrier อายุเจ็ดปี  ถูกขโมยไปจากบ้านพร้อมกับ Terrier อีกตัวชื่อ Lillie ตอนที่มีขโมยขึ้นบ้านในเดือนมีนาคม แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ได้ Lillie กลับมา  สัปดาห์ที่ผ่านมาสเตฟานี สารวัตรตำรวจขับรถตู้ไปใน Gerrards Cross, Buckinghamshire, England ซึ่งระยะทางห่างจากบ้านของ Alfie เกือบ 100 ไมล์ เมื่อเห็นรถตู้ Alfie วิ่งมาหน้ารถตู้และเห่า


     สเตฟานีจึงหยุดรถ และเปิดประตูรถ ทันใดนั้น Alfie ก็กระโดดขึ้นมาในรถ มานั่งบนที่นั่ง และหันมามองที่เธอ “มันเหมือนว่าเธอรับรู้ว่าเครื่องแบบที่ฉันใส่  สามารถช่วยเหลือเธอได้ เหมือนว่าเธอถูกทิ้งไว้ในป่า และวิ่งตามเมื่อได้ยินเสียงรถของเธอ” สเตฟานีกล่าว



     สเตฟานี เจ้าหน้าที่ของ RSPCA จึงติดต่อเจ้าของของ Alfie ที่ชื่อ Kirsty Mitton ทันที เพราะในตัวของ Alfie มีไมโครชิพ
Mitton มีความยินดีที่ได้เจอ Alfie  อีกครั้ง ส่วน Lillie นั้นจะไม่เจอเธอเลย

     Alfie สุนัขพันธุ์ Yorkshire Terrier อายุเจ็ดปี  ถูกขโมยไปจากบ้านพร้อมกับ Terrier อีกตัวชื่อ Lillie ตอนที่มีขโมยขึ้นบ้านในเดือนมีนาคม แต่น่าเสียดายที่ยังไม่ได้ Lillie กลับมา  สัปดาห์ที่ผ่านมาสเตฟานี สารวัตรตำรวจขับรถตู้ไปใน Gerrards Cross, Buckinghamshire, England ซึ่งระยะทางห่างจากบ้านของ Alfie เกือบ 100 ไมล์ เมื่อเห็นรถตู้ Alfie วิ่งมาหน้ารถตู้และเห่า


     สเตฟานีจึงหยุดรถ และเปิดประตูรถ ทันใดนั้น Alfie ก็กระโดดขึ้นมาในรถ มานั่งบนที่นั่ง และหันมามองที่เธอ “มันเหมือนว่าเธอรับรู้ว่าเครื่องแบบที่ฉันใส่  สามารถช่วยเหลือเธอได้ เหมือนว่าเธอถูกทิ้งไว้ในป่า และวิ่งตามเมื่อได้ยินเสียงรถของเธอ” สเตฟานีกล่าว



     สเตฟานี เจ้าหน้าที่ของ RSPCA จึงติดต่อเจ้าของของ Alfie ที่ชื่อ Kirsty Mitton ทันที เพราะในตัวของ Alfie มีไมโครชิพ
Mitton มีความยินดีที่ได้เจอ Alfie  อีกครั้ง ส่วน Lillie นั้นจะไม่เจอเธอเลย

     ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย กี้อยากให้เพื่อนๆดูแลน้องหมาด้วยนะค่ะ เข้าเรื่องกันเลยค่ะ ช่วงนี้อากาศร้อนเป็นพิเศษ บางวันร้อนมากถึง 40-41 องศาแบบนี้ ต้องดูแลน้องหมาที่เป็นสายพันธุ์ขนยาวๆหรือขนแน่นๆ กันมากหน่อยเป็นพิเศษหน่อยนะค่ะ เนื่องจากสายพันธุ์หมาขนยาวมีโอกาสเกิดอาการฮีทสโตรก Heatstroke ที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายกว่าหมาพันธุ์อื่นๆ ขนสั้น หรือปั๊กอย่างกี้ค่ะ ^^



     น้องหมาอย่างกี้ทุกสายพันธุ์จะระบายความร้อนทางปากและลิ้นที่เวลาร้อนๆจะชอบหายใจ แห๊กๆทางปากนั่นแหละคะ และอีกที่ก็อุ้งเท้า โดยพวกเราไม่มีต่อมเหงื่อตามรู ขุมขนตามผิวหนังเหมือนคนนะคะ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากน้องหมาทำลิ้นห้อยอยู่ตลอดเวลาและบางครั้งก็เอา เท้าจุ่มน้ำ เป็นการระบายความร้อนโดยธรรมชาติคะ อาการฮีทสโตรกเกิดจากร่างกายน้องหมาไม่สามารถปรับตัวได้กับอากาศร้อนได้ทัน หรือการวิ่งออกกำลังกายในช่วงอากาศร้อน หรืออาการขาดน้ำ หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายเป็นเวลานานๆ ร่างกายไม่สามารถปรับระบบระบายความร้อนได้ทัน โดยปกติอุณหภูมิของน้องหมาจะอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 40 องศาที่เกิดจากอากาศไม่ใช่เกิดจากอาการไข้ติดเชื้อก็จะมีอาการหายใจแรง หอบ น้ำลายเยอะมาก เหงือกแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก อาเจียนออกเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด มีจุดแดงตามร่างกาย กล้ามเนื้อกระตุก อุณหภูมิร่างกายสูง จนเกิดอาการชัก หยุดหายใจและตายได้ ซึ่งจะมีผลทำให้อวัยวะต่างๆได้รับผลกระทบดังนี้

1. เซลล์ระบบประสาทถูกทำลาย มีเลือดออกที่สมอง

2. ระบบหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

3. เยื่อบุลำใส้ขาดเลือดและเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

4. ตับและท่อน้ำดี เซลล์ตับตาย

5. ระบบขับถ่ายผิดปกติ ทำให้เกิดโรคร้ายแรงเฉียบพลันได้

6. เลือดเข้มข้นเกินไป เกล็ดเลือดต่ำ ระบบเลือด น้ำเหลือง และภูมิคุ้มกัน บกพร่อง มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

7. เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อที่ขาดเลือดและน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอ



     ถ้าเพื่อนๆสังเกตุเห็นน้องหมาตัวเอง มีอาการหายใจแรง หอบ น้ำลายเยอะมาก เหงือกแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก อาเจียนออกเป็นเลือด อาการเช่นนี้ต้องพาไปหาแพทย์โดยเร็วที่สุด หรือตรวจสอบจาก Link นี้ได้เลยคะ [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,1405.0.html]รายชื่อโรงพยาบาลสัตว์และคลีนิครักษาสัตว์[/url] แต่ก่อนพาไปหาหมอเราจะแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนไปพบแพทย์ ต้องทำการลดอุณหภูมิร่างกายของน้องหมาลงดังนี้ค่ะ

1.การนำน้ำมาชโลม ให้ทั่วทั้งร่างกายหรือทำให้น้องหมาชุ่มน้ำ

2.ใช้สารระเหยทำให้เกิดความเย็นหรือแอลกอฮอล์เช็ดบริเวณอุ้งเท้า ใต้รักแร้ และบริเวณขาหนีบ

3.เปิดพัดลมช่วยถ่ายเทความร้อน

การป้องกันโรคฮีทสโตรก Heatstroke คือสิ่งที่ดีที่สุดเราสามารถทำได้ดังนี้

1.ต้องมีน้ำให้กินตลอดเวลาไม่ให้ขาด

2.ไม่พาออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือเวลาที่อากาศร้อนจัด

3.หาที่ร่มหรือที่หลบแดดมีอากาศถ่ายเทให้อยู่ในช่วงกลางวัน

4.เมื่อไปข้างนอกบ้านกับน้องหมาไม่ควรทั้งน้องหมาไว้ในรถโดยเด็ดขาด หรือถ้าจำเป็นต้องจอดในที่ร่มมีอากาศถ่ายเทได้ เปิดกระจกออกให้มีอากาศระบายและมีน้ำดื่มไว้ให้ด้วย

5.อาบน้ำให้หรือ

6.ใช้พัดลมเป่าหรือให้อยู่ในห้องแอร์เลย

     ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย กี้อยากให้เพื่อนๆดูแลน้องหมาด้วยนะค่ะ เข้าเรื่องกันเลยค่ะ ช่วงนี้อากาศร้อนเป็นพิเศษ บางวันร้อนมากถึง 40-41 องศาแบบนี้ ต้องดูแลน้องหมาที่เป็นสายพันธุ์ขนยาวๆหรือขนแน่นๆ กันมากหน่อยเป็นพิเศษหน่อยนะค่ะ เนื่องจากสายพันธุ์หมาขนยาวมีโอกาสเกิดอาการฮีทสโตรก Heatstroke ที่อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายกว่าหมาพันธุ์อื่นๆ ขนสั้น หรือปั๊กอย่างกี้ค่ะ ^^



     น้องหมาอย่างกี้ทุกสายพันธุ์จะระบายความร้อนทางปากและลิ้นที่เวลาร้อนๆจะชอบหายใจ แห๊กๆทางปากนั่นแหละคะ และอีกที่ก็อุ้งเท้า โดยพวกเราไม่มีต่อมเหงื่อตามรู ขุมขนตามผิวหนังเหมือนคนนะคะ ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจหากน้องหมาทำลิ้นห้อยอยู่ตลอดเวลาและบางครั้งก็เอา เท้าจุ่มน้ำ เป็นการระบายความร้อนโดยธรรมชาติคะ อาการฮีทสโตรกเกิดจากร่างกายน้องหมาไม่สามารถปรับตัวได้กับอากาศร้อนได้ทัน หรือการวิ่งออกกำลังกายในช่วงอากาศร้อน หรืออาการขาดน้ำ หรืออยู่ในที่ที่มีอากาศร้อนสูงกว่าอุณหภูมิของร่างกายเป็นเวลานานๆ ร่างกายไม่สามารถปรับระบบระบายความร้อนได้ทัน โดยปกติอุณหภูมิของน้องหมาจะอยู่ที่ 38-39 องศาเซลเซียส หากอุณหภูมิร่างกายสูงถึง 40 องศาที่เกิดจากอากาศไม่ใช่เกิดจากอาการไข้ติดเชื้อก็จะมีอาการหายใจแรง หอบ น้ำลายเยอะมาก เหงือกแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก อาเจียนออกเป็นเลือด ถ่ายเป็นเลือด มีจุดแดงตามร่างกาย กล้ามเนื้อกระตุก อุณหภูมิร่างกายสูง จนเกิดอาการชัก หยุดหายใจและตายได้ ซึ่งจะมีผลทำให้อวัยวะต่างๆได้รับผลกระทบดังนี้

1. เซลล์ระบบประสาทถูกทำลาย มีเลือดออกที่สมอง

2. ระบบหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด

3. เยื่อบุลำใส้ขาดเลือดและเป็นแผล อาจเกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดได้

4. ตับและท่อน้ำดี เซลล์ตับตาย

5. ระบบขับถ่ายผิดปกติ ทำให้เกิดโรคร้ายแรงเฉียบพลันได้

6. เลือดเข้มข้นเกินไป เกล็ดเลือดต่ำ ระบบเลือด น้ำเหลือง และภูมิคุ้มกัน บกพร่อง มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด

7. เกิดการอักเสบของกล้ามเนื้อที่ขาดเลือดและน้ำหล่อเลี้ยงเพียงพอ



     ถ้าเพื่อนๆสังเกตุเห็นน้องหมาตัวเอง มีอาการหายใจแรง หอบ น้ำลายเยอะมาก เหงือกแดง หัวใจเต้นเร็ว หายใจลำบาก อาเจียนออกเป็นเลือด อาการเช่นนี้ต้องพาไปหาแพทย์โดยเร็วที่สุด หรือตรวจสอบจาก Link นี้ได้เลยคะ [url=http://www.marketdogs.com/index.php/topic,1405.0.html]รายชื่อโรงพยาบาลสัตว์และคลีนิครักษาสัตว์[/url] แต่ก่อนพาไปหาหมอเราจะแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนไปพบแพทย์ ต้องทำการลดอุณหภูมิร่างกายของน้องหมาลงดังนี้ค่ะ

1.การนำน้ำมาชโลม ให้ทั่วทั้งร่างกายหรือทำให้น้องหมาชุ่มน้ำ

2.ใช้สารระเหยทำให้เกิดความเย็นหรือแอลกอฮอล์เช็ดบริเวณอุ้งเท้า ใต้รักแร้ และบริเวณขาหนีบ

3.เปิดพัดลมช่วยถ่ายเทความร้อน

การป้องกันโรคฮีทสโตรก Heatstroke คือสิ่งที่ดีที่สุดเราสามารถทำได้ดังนี้

1.ต้องมีน้ำให้กินตลอดเวลาไม่ให้ขาด

2.ไม่พาออกกำลังกายในช่วงบ่ายหรือเวลาที่อากาศร้อนจัด

3.หาที่ร่มหรือที่หลบแดดมีอากาศถ่ายเทให้อยู่ในช่วงกลางวัน

4.เมื่อไปข้างนอกบ้านกับน้องหมาไม่ควรทั้งน้องหมาไว้ในรถโดยเด็ดขาด หรือถ้าจำเป็นต้องจอดในที่ร่มมีอากาศถ่ายเทได้ เปิดกระจกออกให้มีอากาศระบายและมีน้ำดื่มไว้ให้ด้วย

5.อาบน้ำให้หรือ

6.ใช้พัดลมเป่าหรือให้อยู่ในห้องแอร์เลย