แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

4966
     สาเหตุสำคัญที่คนหันมานิยมเลี้ยงน้องหมามากขึ้น เหตุหลักๆน่าจะมาจากโลกโซเชียล จากที่ กด Like กด Share คลิปน้องหมา ทั้งตลก ทั้งฮา ทั้งติงต๊องบ้าง เลยทำให้คนทั่วไปเห็นถึงความน่ารักมากมายของน้องหมาเล่านี้ และอีกหลายสาเหตุ ทั้งคนแต่งงานช้าลงอยู่เป็นโสดมากขึ้น บางคู่แต่งแล้วไม่มีลูกก็หันมาเลี้ยงน้องหมาเป็นเพื่อน เรามาดูเทรนด์สุนัขแต่ล่ะสายพันธุ์กันค่ะ ว่าปี 2559 สายพันธุ์ไหนจะเป็นที่ชื่นชอบของคนรักสุนัขกันบ้าง



11. เชา เชา (Chow Chow)
ราคา 20,000 – 35,000

     เชาเชาเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยพละกำลัง ลำตัวสั้นกระทัดรัดมีความแคล่วคล่องว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีโครงสร้างที่สมดุลมาก ลำตัวเป็นสี่เหลี่ยมศีรษะกว้างและแบน สันจมูกกว้างและสั้น มีขนขึ้นหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอขาใหญ่ตั้งตรงและแข็งแรง ขนมีความมันเป็นประกาย ลักษณะเด่นของเชา เชาคือมีความเป็นเอกลักษณ์ มีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติเปรียบเสมือนกับเป็นราชสีห์ หน้าตาดุดันแข็งขัน สงบและว่างท่าอย่างสุขุมเป็นผู้ดีมีความเป็นอิสระและมีการตัดสินใจที่ดี



10. อคิตะ (Akita)
ราคา 15,000 – 35,000


     สายพันธุ์นี้มาจากดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย จากญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความจงรักภักดีและความเฉลียวฉลาด โดดเด่นในเรื่องของความกล้าหาญและซื่อสัตย์หวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัย รักเจ้าของ มีความตื่นตัวเสมอ เป็นสุนัขที่สุภาพ รักความสะอาด ด้วยความที่เป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่และแข็งแรงตามธรรมชาติของสายพันธ์จึงเป็นสุนัขที่มีความอดทนมากและสามารถใช้เป็นสุนัขบำบัดได้อีกด้วยนะ



9. อิงลิช บูลล์ด็อก (English Bulldog)
ราคา 25,000 – 45,000


     บูลด๊อกเป็นสุนัขที่มีนิสัยที่นิ่งสงบ มาดขรึม เห่าน้อย ส่วนมากจะเห่าเฉพาะที่แปลกใจ อาจมีบางตัวที่มีนิสัยกว้าร้าว และ ไม่อยู่นิ่ง อิงลิช บูลด็อกมีลักษณะเด่นที่ใบหน้า คือหน้าของสุนัขพันธุ์นี้จะย่นย้อย สีหน้าของเจ้าโอลด์ อิงลิช บูลด็อกจะดูไม่พอใจ และยากที่จะเข้าใจตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่อ่อนหวาน ขี้เล่น และจริงใจ โอลด์ อิงลิช บูลด็อกได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา



8. พิทบูล (Pit Bulls)
ราคา 20,000 – 45,000


     พิทบูลนั้นรู้จักกันในนาม ผู้ปกป้องที่จงรักภักดี    มันเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงในเรื่องความรักครอบครัวแต่เข้ากับคนแปลกหน้าไม่ได้ เพราะความซื่อสัตย์เเละความอ่อนโยนกับเด็กๆของมัน เเต่ในปัจจุบัน การเวทีต่อสู้พิทบูลทั้งหลายนั้นได้เปลี่ยนความคิดของคนที่มีต่อมันไปอย่างสิ้นเชิง พิทบูลนั้นมักจะถูกเรียกเป็นสุนัขสายพันธุ์ๆหนึ่ง เเต่ที่จริงเเล้ว พิทบูลคือกลุ่มของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆนวมกัน ซึ่งก็คือ อเมริกัน สเเตฟฟอร์ดชายร์ เทอร์เรีย, สเเตฟฟอร์ดชายร์บูลเทอร์เรียเเละอเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย



7. เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
ราคา 15,000 – 18,000


     เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว เข้ากับทุกคนในบ้านได้ และเข้ากับสัตว์ได้ทุกประเภท ปกติแล้วจะแทบไม่ได้ยินเสียงเห่าของเขาเลย ยกเว้นแต่เกิดสิ่งผิดปกติอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่สุนัขสำหรับเฝ้าบ้าน เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนมากกว่า นอกจากนี้ จากประสบการณ์ผู้เลี้ยง สุนัข เฟรนช์ บูลด็อก มักพูดตรงกันว่าเจ้าตูบพันธุ์นี้มีความตลก และชอบทำอะไรแปลก ๆ น่ารัก ๆ ไม่นิ่ง หรือไม่ไฮเปอร์เกินไป และบางตัวมีชอบบ่น คล้ายๆปั๊ก



6. โกลเดน รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
 ราคา 8,000 – 15,000


     โกลเดนรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เป็นสายพันธุ์สุนัข ที่มีขนยาว มีสีขนเหลืองอ่อน เหลืองทอง และเหลืองเข้ม โดยแต่เดิมนั้นสายพันธุ์นี้ได้ปรับปรุงคุณลักษณะบางอย่างเพื่อในงานของนาย พราน เช่น มีรูปร่างสมส่วน คล่องตัว เขียวและฟันงับชิ้นเหยื่อโดยให้ช้ำเพียงเล็กน้อย สามารถจัดได้ว่าโกลเดนรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีประสาทสัมผัสดีเลิศทั้ง ในด้านของการฟังเสียง การดมกลิ่นสะกดรอย นอกจากนี้ยังมีสายตาอันเฉียบคมและแม่นยำ ด้วยเหตุนี้วงการทหารและตำรวจในหลายๆ ประเทศจึงได้นำสุนัขพันธุ์นี้มาฝึกเพื่อไว้ช่วยงานราชการ อาทิเช่น ตรวจค้นยาเสพติด, ดมกลิ่นสะกดรอยคนร้าย, ยามรักษาความปลอดภัย แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมสูงสุด ก็เห็นจะได้แก่ฝึกให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด ทั้งนี้เพราะโกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขซึ่งฉลาด แต่ไม่ค่อยเจ้าเล่ห์หรือซุกซนเหมือนสุนัขบางพันธุ์



5. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ราคา 8,000 – 25,000


     เป็นสุนัขที่มี อารมณ์ดี ตื่นตัวตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังเป็นสุนัขนักประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ดังนั้นหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มันก็พร้อมที่จะทักทายประหนึ่งเหมือนเคยรู้จักกันมานาน ไซบีเรียน ฮัสกี้ จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้าน แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ติงต๊อง



4. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
ราคา 45,000 - 60,000


      อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้อ้อน เป็นมิตร ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มักอารมณ์ดี เมื่อได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ แต่ว่าเจ้าของจำเป็นต้องฝึกให้เข้าสังคมมากพอ เพื่อทำให้พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นโดยปกติสุข เป็นหมาที่ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่อย่างมาก เป็นมิตรแม้แต่คนแปลกหน้า ไม่ค่อยเห่าพร่ำเพรื่อ เคลื่อนไหวเชื่องช้า ชอบนอนอยู่กับเจ้าของ เอาอกเอาใจเจ้าของ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเช่นเดียวกับไซบีเรียน ฮัสกี้



3. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
ราคา 100,000 – 1,000,000


     เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มมากๆ ค่ะ สุนัขสายพันธุ์นี้ทั่วโลกรู้จักในฉายา Big Splash ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้คือซื่อสัตย์ สงบ และมีอัธยาศัยดี มาสทิฟสายพันธุ์ธิเบตที่ตัวใหญ่ที่สุดเมื่อยืนจะสูง 31 นิ้ว และมีน้ำหนักมากสุดสูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว  ปัจจุบัน จีนห้ามส่งออก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ และประกาศให้เป็นสัตว์สงวนของชาติ ในทิเบต เวลาชาวบ้านนำจามรีและแกะไปเลี้ยงในทุ่งกว้าง จะพา ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ในอดีตยังเป็นสุนัขคู่กายของเจงกิสข่าน ขุนศึกแห่งมองโกเลีย เวลาออกศึกสงครามเพื่อไล่ล่าศัตรูอีกด้วย



2. เวลซ์ คอร์กี้ (Welsh Corgi)
ราคา 18,000 – 35,000


   มากันที่อันดับ 2 แล้วค่ะ คอร์กี้ ที่เรารู้จักกันเป็นสุนัขสายพันธุ์ราชวงศ์อังกฤษ สุนัขสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ  “เจ้าขาสั้น ตัวยาว  หูกาง  หางกุด”คือคำจำกัดความของสุนัขสายพันธุ์  เวลช์   คอร์กี้  สุนัขที่มีผู้สนใจเลือกซื้อเพื่อเอามาเลี้ยงเป็นเพื่อนไว้ในบ้าน ยิ่งในปัจจุบันนี้  มีผู้สนใจศึกษาหาข้อมูลของสุนัขสายพันธุ์นี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนค่อนข้างมาก  ในสนามประกวดของบ้านเราก็สามารถที่จะเห็นสุนัขพันธุ์นี้เดินอวดโฉมอยู่ไม่น้อย ซึ่งผู้พบเห็นต่างก็พากันหลงเสน่ห์ในความน่ารักได้ไม่ยากเลยน่ารักมากเลย



1. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
ราคา 8,000 – 60,000


     อันดับ 1 ของเราความนิยมสุดๆ ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นหมาที่น่ารัก มีขนาดเล็ก ขนฟู หางเป็นพวง จมูกแหลม ตาเป็นประกายกลมโต ชอบเอาใจใส่กับสิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างดี มีความฉลาดหลักแหลม น้องหมาตัวเล็กๆ หน้าแหลมๆ แต่ปากเปราะเห่าเก่งไปนิด ยิ่งถ้าตัวเล็กๆยิ่งเห่าเก่ง แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วอาจจะหลงรักในความขี้เล่น ชอบประจบเจ้าของ พกพาติดตัวไปไหนง่ายๆ มีนิสัยร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ มีความซื่อสัตย์และรักเจ้าของเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังคงขี้ประจบประแจงอีกด้วย


4967
     สาเหตุสำคัญที่คนหันมานิยมเลี้ยงน้องหมามากขึ้น เหตุหลักๆน่าจะมาจากโลกโซเชียล จากที่ กด Like กด Share คลิปน้องหมา ทั้งตลก ทั้งฮา ทั้งติงต๊องบ้าง เลยทำให้คนทั่วไปเห็นถึงความน่ารักมากมายของน้องหมาเล่านี้ และอีกหลายสาเหตุ ทั้งคนแต่งงานช้าลงอยู่เป็นโสดมากขึ้น บางคู่แต่งแล้วไม่มีลูกก็หันมาเลี้ยงน้องหมาเป็นเพื่อน เรามาดูเทรนด์สุนัขแต่ล่ะสายพันธุ์กันค่ะ ว่าปี 2559 สายพันธุ์ไหนจะเป็นที่ชื่นชอบของคนรักสุนัขกันบ้าง



11. เชา เชา (Chow Chow)
ราคา 20,000 – 35,000

     เชาเชาเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยพละกำลัง ลำตัวสั้นกระทัดรัดมีความแคล่วคล่องว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีโครงสร้างที่สมดุลมาก ลำตัวเป็นสี่เหลี่ยมศีรษะกว้างและแบน สันจมูกกว้างและสั้น มีขนขึ้นหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอขาใหญ่ตั้งตรงและแข็งแรง ขนมีความมันเป็นประกาย ลักษณะเด่นของเชา เชาคือมีความเป็นเอกลักษณ์ มีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติเปรียบเสมือนกับเป็นราชสีห์ หน้าตาดุดันแข็งขัน สงบและว่างท่าอย่างสุขุมเป็นผู้ดีมีความเป็นอิสระและมีการตัดสินใจที่ดี



10. อคิตะ (Akita)
ราคา 15,000 – 35,000


     สายพันธุ์นี้มาจากดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย จากญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความจงรักภักดีและความเฉลียวฉลาด โดดเด่นในเรื่องของความกล้าหาญและซื่อสัตย์หวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัย รักเจ้าของ มีความตื่นตัวเสมอ เป็นสุนัขที่สุภาพ รักความสะอาด ด้วยความที่เป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่และแข็งแรงตามธรรมชาติของสายพันธ์จึงเป็นสุนัขที่มีความอดทนมากและสามารถใช้เป็นสุนัขบำบัดได้อีกด้วยนะ



9. อิงลิช บูลล์ด็อก (English Bulldog)
ราคา 25,000 – 45,000


     บูลด๊อกเป็นสุนัขที่มีนิสัยที่นิ่งสงบ มาดขรึม เห่าน้อย ส่วนมากจะเห่าเฉพาะที่แปลกใจ อาจมีบางตัวที่มีนิสัยกว้าร้าว และ ไม่อยู่นิ่ง อิงลิช บูลด็อกมีลักษณะเด่นที่ใบหน้า คือหน้าของสุนัขพันธุ์นี้จะย่นย้อย สีหน้าของเจ้าโอลด์ อิงลิช บูลด็อกจะดูไม่พอใจ และยากที่จะเข้าใจตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่อ่อนหวาน ขี้เล่น และจริงใจ โอลด์ อิงลิช บูลด็อกได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา



8. พิทบูล (Pit Bulls)
ราคา 20,000 – 45,000


     พิทบูลนั้นรู้จักกันในนาม ผู้ปกป้องที่จงรักภักดี    มันเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงในเรื่องความรักครอบครัวแต่เข้ากับคนแปลกหน้าไม่ได้ เพราะความซื่อสัตย์เเละความอ่อนโยนกับเด็กๆของมัน เเต่ในปัจจุบัน การเวทีต่อสู้พิทบูลทั้งหลายนั้นได้เปลี่ยนความคิดของคนที่มีต่อมันไปอย่างสิ้นเชิง พิทบูลนั้นมักจะถูกเรียกเป็นสุนัขสายพันธุ์ๆหนึ่ง เเต่ที่จริงเเล้ว พิทบูลคือกลุ่มของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆนวมกัน ซึ่งก็คือ อเมริกัน สเเตฟฟอร์ดชายร์ เทอร์เรีย, สเเตฟฟอร์ดชายร์บูลเทอร์เรียเเละอเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย



7. เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
ราคา 15,000 – 18,000


     เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว เข้ากับทุกคนในบ้านได้ และเข้ากับสัตว์ได้ทุกประเภท ปกติแล้วจะแทบไม่ได้ยินเสียงเห่าของเขาเลย ยกเว้นแต่เกิดสิ่งผิดปกติอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่สุนัขสำหรับเฝ้าบ้าน เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนมากกว่า นอกจากนี้ จากประสบการณ์ผู้เลี้ยง สุนัข เฟรนช์ บูลด็อก มักพูดตรงกันว่าเจ้าตูบพันธุ์นี้มีความตลก และชอบทำอะไรแปลก ๆ น่ารัก ๆ ไม่นิ่ง หรือไม่ไฮเปอร์เกินไป และบางตัวมีชอบบ่น คล้ายๆปั๊ก



6. โกลเดน รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
 ราคา 8,000 – 15,000


     โกลเดนรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เป็นสายพันธุ์สุนัข ที่มีขนยาว มีสีขนเหลืองอ่อน เหลืองทอง และเหลืองเข้ม โดยแต่เดิมนั้นสายพันธุ์นี้ได้ปรับปรุงคุณลักษณะบางอย่างเพื่อในงานของนาย พราน เช่น มีรูปร่างสมส่วน คล่องตัว เขียวและฟันงับชิ้นเหยื่อโดยให้ช้ำเพียงเล็กน้อย สามารถจัดได้ว่าโกลเดนรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีประสาทสัมผัสดีเลิศทั้ง ในด้านของการฟังเสียง การดมกลิ่นสะกดรอย นอกจากนี้ยังมีสายตาอันเฉียบคมและแม่นยำ ด้วยเหตุนี้วงการทหารและตำรวจในหลายๆ ประเทศจึงได้นำสุนัขพันธุ์นี้มาฝึกเพื่อไว้ช่วยงานราชการ อาทิเช่น ตรวจค้นยาเสพติด, ดมกลิ่นสะกดรอยคนร้าย, ยามรักษาความปลอดภัย แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมสูงสุด ก็เห็นจะได้แก่ฝึกให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด ทั้งนี้เพราะโกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขซึ่งฉลาด แต่ไม่ค่อยเจ้าเล่ห์หรือซุกซนเหมือนสุนัขบางพันธุ์



5. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ราคา 8,000 – 25,000


     เป็นสุนัขที่มี อารมณ์ดี ตื่นตัวตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังเป็นสุนัขนักประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ดังนั้นหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มันก็พร้อมที่จะทักทายประหนึ่งเหมือนเคยรู้จักกันมานาน ไซบีเรียน ฮัสกี้ จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้าน แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ติงต๊อง



4. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
ราคา 45,000 - 60,000


      อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้อ้อน เป็นมิตร ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มักอารมณ์ดี เมื่อได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ แต่ว่าเจ้าของจำเป็นต้องฝึกให้เข้าสังคมมากพอ เพื่อทำให้พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นโดยปกติสุข เป็นหมาที่ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่อย่างมาก เป็นมิตรแม้แต่คนแปลกหน้า ไม่ค่อยเห่าพร่ำเพรื่อ เคลื่อนไหวเชื่องช้า ชอบนอนอยู่กับเจ้าของ เอาอกเอาใจเจ้าของ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเช่นเดียวกับไซบีเรียน ฮัสกี้



3. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
ราคา 100,000 – 1,000,000


     เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มมากๆ ค่ะ สุนัขสายพันธุ์นี้ทั่วโลกรู้จักในฉายา Big Splash ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้คือซื่อสัตย์ สงบ และมีอัธยาศัยดี มาสทิฟสายพันธุ์ธิเบตที่ตัวใหญ่ที่สุดเมื่อยืนจะสูง 31 นิ้ว และมีน้ำหนักมากสุดสูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว  ปัจจุบัน จีนห้ามส่งออก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ และประกาศให้เป็นสัตว์สงวนของชาติ ในทิเบต เวลาชาวบ้านนำจามรีและแกะไปเลี้ยงในทุ่งกว้าง จะพา ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ในอดีตยังเป็นสุนัขคู่กายของเจงกิสข่าน ขุนศึกแห่งมองโกเลีย เวลาออกศึกสงครามเพื่อไล่ล่าศัตรูอีกด้วย



2. เวลซ์ คอร์กี้ (Welsh Corgi)
ราคา 18,000 – 35,000


   มากันที่อันดับ 2 แล้วค่ะ คอร์กี้ ที่เรารู้จักกันเป็นสุนัขสายพันธุ์ราชวงศ์อังกฤษ สุนัขสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ  “เจ้าขาสั้น ตัวยาว  หูกาง  หางกุด”คือคำจำกัดความของสุนัขสายพันธุ์  เวลช์   คอร์กี้  สุนัขที่มีผู้สนใจเลือกซื้อเพื่อเอามาเลี้ยงเป็นเพื่อนไว้ในบ้าน ยิ่งในปัจจุบันนี้  มีผู้สนใจศึกษาหาข้อมูลของสุนัขสายพันธุ์นี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนค่อนข้างมาก  ในสนามประกวดของบ้านเราก็สามารถที่จะเห็นสุนัขพันธุ์นี้เดินอวดโฉมอยู่ไม่น้อย ซึ่งผู้พบเห็นต่างก็พากันหลงเสน่ห์ในความน่ารักได้ไม่ยากเลยน่ารักมากเลย



1. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
ราคา 8,000 – 60,000


     อันดับ 1 ของเราความนิยมสุดๆ ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นหมาที่น่ารัก มีขนาดเล็ก ขนฟู หางเป็นพวง จมูกแหลม ตาเป็นประกายกลมโต ชอบเอาใจใส่กับสิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างดี มีความฉลาดหลักแหลม น้องหมาตัวเล็กๆ หน้าแหลมๆ แต่ปากเปราะเห่าเก่งไปนิด ยิ่งถ้าตัวเล็กๆยิ่งเห่าเก่ง แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วอาจจะหลงรักในความขี้เล่น ชอบประจบเจ้าของ พกพาติดตัวไปไหนง่ายๆ มีนิสัยร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ มีความซื่อสัตย์และรักเจ้าของเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังคงขี้ประจบประแจงอีกด้วย


4968
     สาเหตุสำคัญที่คนหันมานิยมเลี้ยงน้องหมามากขึ้น เหตุหลักๆน่าจะมาจากโลกโซเชียล จากที่ กด Like กด Share คลิปน้องหมา ทั้งตลก ทั้งฮา ทั้งติงต๊องบ้าง เลยทำให้คนทั่วไปเห็นถึงความน่ารักมากมายของน้องหมาเล่านี้ และอีกหลายสาเหตุ ทั้งคนแต่งงานช้าลงอยู่เป็นโสดมากขึ้น บางคู่แต่งแล้วไม่มีลูกก็หันมาเลี้ยงน้องหมาเป็นเพื่อน เรามาดูเทรนด์สุนัขแต่ล่ะสายพันธุ์กันค่ะ ว่าปี 2559 สายพันธุ์ไหนจะเป็นที่ชื่นชอบของคนรักสุนัขกันบ้าง



11. เชา เชา (Chow Chow)
ราคา 20,000 – 35,000

     เชาเชาเป็นสุนัขที่เต็มไปด้วยพละกำลัง ลำตัวสั้นกระทัดรัดมีความแคล่วคล่องว่องไวและตื่นตัวอยู่เสมอมีมัดกล้ามเนื้อที่แข็งแรงและมีโครงสร้างที่สมดุลมาก ลำตัวเป็นสี่เหลี่ยมศีรษะกว้างและแบน สันจมูกกว้างและสั้น มีขนขึ้นหนาแน่นโดยเฉพาะที่รอบคอขาใหญ่ตั้งตรงและแข็งแรง ขนมีความมันเป็นประกาย ลักษณะเด่นของเชา เชาคือมีความเป็นเอกลักษณ์ มีความสง่างามและมีความเป็นธรรมชาติเปรียบเสมือนกับเป็นราชสีห์ หน้าตาดุดันแข็งขัน สงบและว่างท่าอย่างสุขุมเป็นผู้ดีมีความเป็นอิสระและมีการตัดสินใจที่ดี



10. อคิตะ (Akita)
ราคา 15,000 – 35,000


     สายพันธุ์นี้มาจากดินแดนแห่งอาทิตย์อุทัย จากญี่ปุ่นนั่นเอง เป็นที่รู้จักกันดีสำหรับความจงรักภักดีและความเฉลียวฉลาด โดดเด่นในเรื่องของความกล้าหาญและซื่อสัตย์หวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัย รักเจ้าของ มีความตื่นตัวเสมอ เป็นสุนัขที่สุภาพ รักความสะอาด ด้วยความที่เป็นสุนัขที่มีรูปร่างใหญ่และแข็งแรงตามธรรมชาติของสายพันธ์จึงเป็นสุนัขที่มีความอดทนมากและสามารถใช้เป็นสุนัขบำบัดได้อีกด้วยนะ



9. อิงลิช บูลล์ด็อก (English Bulldog)
ราคา 25,000 – 45,000


     บูลด๊อกเป็นสุนัขที่มีนิสัยที่นิ่งสงบ มาดขรึม เห่าน้อย ส่วนมากจะเห่าเฉพาะที่แปลกใจ อาจมีบางตัวที่มีนิสัยกว้าร้าว และ ไม่อยู่นิ่ง อิงลิช บูลด็อกมีลักษณะเด่นที่ใบหน้า คือหน้าของสุนัขพันธุ์นี้จะย่นย้อย สีหน้าของเจ้าโอลด์ อิงลิช บูลด็อกจะดูไม่พอใจ และยากที่จะเข้าใจตลอดเวลา แต่ความจริงแล้วสุนัขสายพันธุ์นี้เป็นสุนัขที่อ่อนหวาน ขี้เล่น และจริงใจ โอลด์ อิงลิช บูลด็อกได้กลายเป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา



8. พิทบูล (Pit Bulls)
ราคา 20,000 – 45,000


     พิทบูลนั้นรู้จักกันในนาม ผู้ปกป้องที่จงรักภักดี    มันเป็นสุนัขที่มีชื่อเสียงในเรื่องความรักครอบครัวแต่เข้ากับคนแปลกหน้าไม่ได้ เพราะความซื่อสัตย์เเละความอ่อนโยนกับเด็กๆของมัน เเต่ในปัจจุบัน การเวทีต่อสู้พิทบูลทั้งหลายนั้นได้เปลี่ยนความคิดของคนที่มีต่อมันไปอย่างสิ้นเชิง พิทบูลนั้นมักจะถูกเรียกเป็นสุนัขสายพันธุ์ๆหนึ่ง เเต่ที่จริงเเล้ว พิทบูลคือกลุ่มของสุนัขสายพันธุ์ต่างๆนวมกัน ซึ่งก็คือ อเมริกัน สเเตฟฟอร์ดชายร์ เทอร์เรีย, สเเตฟฟอร์ดชายร์บูลเทอร์เรียเเละอเมริกันพิทบูลเทอร์เรีย



7. เฟรนช์ บูลด็อก (French Bulldog)
ราคา 15,000 – 18,000


     เฟรนช์ บูลด็อก เป็นสุนัขค่อนข้างเรียบร้อย ไม่ก้าวร้าว เข้ากับทุกคนในบ้านได้ และเข้ากับสัตว์ได้ทุกประเภท ปกติแล้วจะแทบไม่ได้ยินเสียงเห่าของเขาเลย ยกเว้นแต่เกิดสิ่งผิดปกติอย่างมาก ดังนั้นเขาจึงไม่ใช่สุนัขสำหรับเฝ้าบ้าน เหมาะสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนมากกว่า นอกจากนี้ จากประสบการณ์ผู้เลี้ยง สุนัข เฟรนช์ บูลด็อก มักพูดตรงกันว่าเจ้าตูบพันธุ์นี้มีความตลก และชอบทำอะไรแปลก ๆ น่ารัก ๆ ไม่นิ่ง หรือไม่ไฮเปอร์เกินไป และบางตัวมีชอบบ่น คล้ายๆปั๊ก



6. โกลเดน รีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever)
 ราคา 8,000 – 15,000


     โกลเดนรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เป็นสายพันธุ์สุนัข ที่มีขนยาว มีสีขนเหลืองอ่อน เหลืองทอง และเหลืองเข้ม โดยแต่เดิมนั้นสายพันธุ์นี้ได้ปรับปรุงคุณลักษณะบางอย่างเพื่อในงานของนาย พราน เช่น มีรูปร่างสมส่วน คล่องตัว เขียวและฟันงับชิ้นเหยื่อโดยให้ช้ำเพียงเล็กน้อย สามารถจัดได้ว่าโกลเดนรีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขที่มีประสาทสัมผัสดีเลิศทั้ง ในด้านของการฟังเสียง การดมกลิ่นสะกดรอย นอกจากนี้ยังมีสายตาอันเฉียบคมและแม่นยำ ด้วยเหตุนี้วงการทหารและตำรวจในหลายๆ ประเทศจึงได้นำสุนัขพันธุ์นี้มาฝึกเพื่อไว้ช่วยงานราชการ อาทิเช่น ตรวจค้นยาเสพติด, ดมกลิ่นสะกดรอยคนร้าย, ยามรักษาความปลอดภัย แต่ที่ดูเหมือนจะได้รับความนิยมสูงสุด ก็เห็นจะได้แก่ฝึกให้เป็นสุนัขนำทางคนตาบอด ทั้งนี้เพราะโกลเด้น รีทรีฟเวอร์เป็นสุนัขซึ่งฉลาด แต่ไม่ค่อยเจ้าเล่ห์หรือซุกซนเหมือนสุนัขบางพันธุ์



5. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
ราคา 8,000 – 25,000


     เป็นสุนัขที่มี อารมณ์ดี ตื่นตัวตลอดเวลา กระโดดโลดเต้น ขี้เล่น สนใจสิ่งแปลกใหม่ โดยถ้าเปรียบเทียบแล้ว ไซบีเรียน ฮัสกี้ ก็ไม่ต่างกับเด็กเล็กๆ ที่อยากรู้อยากเห็นไปหมดทุกอย่าง นอกจากนี้ ไซบีเรียน ฮัสกี้ ยังเป็นสุนัขนักประชาสัมพันธ์ ชอบที่จะแจกมิตรไปทั่ว ดังนั้นหากมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบ้าน มันก็พร้อมที่จะทักทายประหนึ่งเหมือนเคยรู้จักกันมานาน ไซบีเรียน ฮัสกี้ จึงไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงไว้เพื่อเฝ้าบ้าน แม้ว่าลักษณะภายนอกจะดูสง่างาม น่าเกรงขาม น่ากลัว แต่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นสุนัขใจดี ติงต๊อง



4. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
ราคา 45,000 - 60,000


      อลาสกัน มาลามิวท์ เป็นสุนัขที่มีนิสัยขี้อ้อน เป็นมิตร ซื่อสัตย์ รักเจ้าของ มีความเป็นตัวของตัวเองสูง มักอารมณ์ดี เมื่อได้อยู่ร่วมกับมนุษย์ แต่ว่าเจ้าของจำเป็นต้องฝึกให้เข้าสังคมมากพอ เพื่อทำให้พวกเขาสามารถอยู่ร่วมกับสุนัขตัวอื่นโดยปกติสุข เป็นหมาที่ต้องการความรัก การดูแลเอาใจใส่อย่างมาก เป็นมิตรแม้แต่คนแปลกหน้า ไม่ค่อยเห่าพร่ำเพรื่อ เคลื่อนไหวเชื่องช้า ชอบนอนอยู่กับเจ้าของ เอาอกเอาใจเจ้าของ แม้จะมีความเป็นตัวของตัวเองสูงเช่นเดียวกับไซบีเรียน ฮัสกี้



3. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiff)
ราคา 100,000 – 1,000,000


     เป็นสุนัขสายพันธุ์ที่ใหญ่บิ๊กเบิ้มมากๆ ค่ะ สุนัขสายพันธุ์นี้ทั่วโลกรู้จักในฉายา Big Splash ลักษณะนิสัยของสุนัขพันธุ์นี้คือซื่อสัตย์ สงบ และมีอัธยาศัยดี มาสทิฟสายพันธุ์ธิเบตที่ตัวใหญ่ที่สุดเมื่อยืนจะสูง 31 นิ้ว และมีน้ำหนักมากสุดสูงถึง 100 กิโลกรัมเลยทีเดียว  ปัจจุบัน จีนห้ามส่งออก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ และประกาศให้เป็นสัตว์สงวนของชาติ ในทิเบต เวลาชาวบ้านนำจามรีและแกะไปเลี้ยงในทุ่งกว้าง จะพา ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ไปด้วยทุกครั้ง นอกจากนี้ในอดีตยังเป็นสุนัขคู่กายของเจงกิสข่าน ขุนศึกแห่งมองโกเลีย เวลาออกศึกสงครามเพื่อไล่ล่าศัตรูอีกด้วย



2. เวลซ์ คอร์กี้ (Welsh Corgi)
ราคา 18,000 – 35,000


   มากันที่อันดับ 2 แล้วค่ะ คอร์กี้ ที่เรารู้จักกันเป็นสุนัขสายพันธุ์ราชวงศ์อังกฤษ สุนัขสายพันธุ์นี้มีชื่อเสียงมากเพราะเป็นที่โปรดปรานของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ  “เจ้าขาสั้น ตัวยาว  หูกาง  หางกุด”คือคำจำกัดความของสุนัขสายพันธุ์  เวลช์   คอร์กี้  สุนัขที่มีผู้สนใจเลือกซื้อเพื่อเอามาเลี้ยงเป็นเพื่อนไว้ในบ้าน ยิ่งในปัจจุบันนี้  มีผู้สนใจศึกษาหาข้อมูลของสุนัขสายพันธุ์นี่เป็นจำนวนมาก ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่าเมื่อก่อนค่อนข้างมาก  ในสนามประกวดของบ้านเราก็สามารถที่จะเห็นสุนัขพันธุ์นี้เดินอวดโฉมอยู่ไม่น้อย ซึ่งผู้พบเห็นต่างก็พากันหลงเสน่ห์ในความน่ารักได้ไม่ยากเลยน่ารักมากเลย



1. ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian)
ราคา 8,000 – 60,000


     อันดับ 1 ของเราความนิยมสุดๆ ปอมเมอเรเนียน (Pomeranian) เป็นหมาที่น่ารัก มีขนาดเล็ก ขนฟู หางเป็นพวง จมูกแหลม ตาเป็นประกายกลมโต ชอบเอาใจใส่กับสิ่งแวดล้อมภายนอกเป็นอย่างดี มีความฉลาดหลักแหลม น้องหมาตัวเล็กๆ หน้าแหลมๆ แต่ปากเปราะเห่าเก่งไปนิด ยิ่งถ้าตัวเล็กๆยิ่งเห่าเก่ง แต่ถ้าได้ลองเลี้ยงแล้วอาจจะหลงรักในความขี้เล่น ชอบประจบเจ้าของ พกพาติดตัวไปไหนง่ายๆ มีนิสัยร่าเริงและตื่นตัวอยู่เสมอ มีความซื่อสัตย์และรักเจ้าของเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังคงขี้ประจบประแจงอีกด้วย


4969
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




4970
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




4971
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




4972
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




4973
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




4974
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




4975
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




4976
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




4977
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





4978
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





4979
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





4980
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว