1. อัฟกัน ฮาวนด์ ( Afghan Hound ) การวิเคราะห์ดีเอ็นเอเช่นเดียวกับข้อมูลทางประวัติศาสตร์จะช่วยเผยให้เห็นสายพันธุ์สุนัขที่เก่าแก่ที่สุดของโลกการศึกษาใหม่นี้ได้ตีพิมพ์ในวารสารการดำเนินการของ Royal Society B, ทำให้ทุกคนจับจ้องไปที่เอเชียตะวันออกที่เป็นจุดหลักในการก่อกำเนิด สุนัข ที่เก่าแก่ที่สุดที่เป็นที่รู้จักกัน อัฟกัน ฮาวนด์ หมาสายพันธุ์นี้ ถูกค้นพบครั้งแรกในปี ค.ศ.1907 เชื่อกันว่ามีถิ่นกำเนิดในประเทศอัฟกานิสถาน ซึ่งในอดีตถือเป็นนักล่าด้วยสายตา โดยล่าสัตว์จำพวกกวาง หมาป่า และหมาจิ้งจอก นอกจากนี้ ยังถูกใช้ในการดูแลฝูงแกะ แต่ปัจจุบันนิยมเลี้ยงไว้อวดความสวยงาม สุนัขพันธุ์นี้มีนิสัยจำเพาะคือ ชอบความโดดเดี่ยว รักสันโดษ ท่วงท่าน่าเกรงขาม
2. บาเซนจี ( Basenji ) สายพันธุ์สุนัขล่าเหยื่อ ชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมที่ทวีปแอฟริกา บริเวณประเทศคองโก โดยคำว่า "บาเซนจี" เป็นภาษาสวาฮีลีแปลว่า "สิ่งที่อยู่ในพุ่มไม้"
บาเซนจีเป็นสุนัขที่ผู้คนในแถบทวีปแอฟริกานิยมเลี้ยงมานานแล้ว เพราะหลักฐานทางโบราณคดีพบว่า รูปสลักในปิรามิดมีรูปของสุนัขที่ลักษณะคล้ายบาเซนจีอยู่ และแม้เทพองค์หนึ่งที่เป็นที่นับถือของชาวอียิปต์โบราณ คือ อะนูบิส (Anubis) ก็มีหัวเป็นสุนัขคล้ายบาเซนจี
ชาวพื้นเมืองในแอฟริกานิยมใช้บาเซนจีในการล่าสัตว์ ซึ่งบาเซนจีสามารถใช้ล่าเป็นอย่างดีทั้งสัตว์ขนาดเล็ก อย่าง นก หนู กระต่าย หรือแม้แต่กระทั่งสัตว์ขนาดใหญ่อย่างกอริลลา
3. อลาสกัน มาลามิวท์ ( Alaskan Malamute ) อลาสกัน มาลามิวท์รู้จักกันในฐานะสุนัขลากเลื่อนสายพันธุ์เก่าแก่และเป็นสุนัขลากเลื่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดพันธุ์หนึ่งของโลก โดยมีต้นกำเนิดอยู่ที่ไซบีเรียและแพร่พันธุ์มาถึงอลาสก้าเมื่อพันกว่าปีที่แล้ว
ชนเผ่าที่นำสุนัขสายพันธุ์นี้มาเลี้ยงก็คือ ชนเผ่ามาลามิว ที่อาศัยอยู่ทางตอนเหนือของคาบสมุทรซูเอิร์ท และมีการพัฒนาสายพันธุ์จนกลายมาเป็น อลาสก้า มาลามิว ที่พวกเขาเอาไว้สำหรับล่าสัตว์ ช่วยป้องกันจากการโจมตีของหมีขั้วโลก และช่วยในการขนย้ายอาหารกับอุปกรณ์ตั้งแคมป์ และเนื่องจากชนเผ่ามาลามิวมีถิ่นฐานที่ตั้งค่อนข้างแยกตัว และไกลจากชนเผ่าอื่น ๆ ดังนั้นจึงทำให้สุนัขสายพันธุ์นี้มีความแข็งแรงมากกว่าสุนัขลากเลื่อนสายพันธุ์อื่น ๆ
4. ซาลูกิ (Saluki) ซาลูกิ (Saluki) มีถิ่นกำเนิดในประเทศอียิปต์เป็นสุนัขที่มี ประวัติเก่าแก่มากพันธุ์หนึ่ง จากหลักฐานพบว่ามีภาพสลัก ของสุนัขพันธุ์ SALUKI อยู่บนก้อนหินซึ่งมีอายุประมาณ 6,000-7,000 ปีก่อนคริสตกาล
บางคนกล่าวว่าคำว่าสุนัข ที่ปรากฎในคัมภีร์ BIBLE ก็คือสุนัขพันธุ์ซาลูกินั่น เอง ซาลูกิเป็นสุนัขที่ราชวงศ์อียิปต์นิยมเลี้ยงถึงกับอนุญาตให้นอนบนพรมชั้นดีได้
สุนัขพันธุ์นี้สามารถทนกับ สภาพอากาศแบบทะเลทราย ได้ดี ชอบนอนเกือกทรายเล่น มีสายตาที่กว้างไกล และวิ่งได้เร็ว มีความสามารถในการ ล่าสัตว์ต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าเหยื่อจะวิ่งอยู่บนพื้นทราย หรือขุด รูอยู่เป็นสุนัขที่ความสง่างาม มากพันธุ์หนึ่ง
5. กรีนแลนด์ (GREENLAND SLED DOG ) สุนัขสายพันธุ์กรีนแลนด์ มาจากพื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลของภูมิภาคอาร์กติกทางตอนเหนือของไซบีเรียอลาสก้าแคนาดาและกรีนแลนด์ หลักฐานทางโบราณคดีได้พิสูจน์สุนัขกรีนแลนด์ พบว่าภายในพื้นที่ของคนเอสกิโมยืนยันว่าคนเอสกิโมพร้อมกับเลื่อนและสุนัขของพวกเขามาจากไซบีเรีย ยังคงมีการตรวจพบในหมู่เกาะไซบีเรียใหม่ที่ได้รับคาร์บอนลงวันที่ประมาณ 7000 ปีก่อนคริสตกาล นี้จะทำให้สุนัขกรีนแลนด์หนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
6. เชาเชา ( Chow Chow ) เชาเชา เป็นสายพันธุ์สุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน เชื่อกันว่าเป็นสายพันธุ์ที่เป็นหนึ่งในต้นแบบของหมาพันธุ์ปักกิ่ง และพันธุ์ปั๊ก เชา เชา เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฮั่น มีประวัติศาสตร์สายพันธุ์มายาวนาน กว่า 2000 ปี สุนัขเชา เชา เกิดจากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างสุนัขพันธุ์มาสตีฟแห่งธิเบตและพันธุ์ชามอยจากตอนเหนือของไซบีเรียเชา เชาเริ่มมีชื่อเสียงและได้รับความนิยมในประเทศอังกฤษในปี 1880 โดยพระนางเจ้าวิคตอเรียทรงให้ความสนพระทัย สมาคมสุนัขพันธุ์เชา เชาได้ก่อตั้งขึ้นเป็นครั้งแรกในอังกฤษในปี 1895 สุนัขพันธุ์เชา เชามีความสามารถในการดมกลิ่นเป็นเลิศ มีความเฉลียวฉลาดในกลวิธีการล่าสัตว์
7. ซามอยด์ ( Samoyed ) ซามอยด์เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก แล้วได้รับการพัฒนาสายพันธุ์โดยชาวซามอยด์ของไซบีเรีย เพื่อใช้ต้อนกวางเรนเดียร์ ลากเลื่อน ซามอยด์ได้รับการดูแลจากชาวพื้นเมืองเป็นอย่างดี ถึงขนาดอนุญาตให้เข้าไปนอนในเต้นท์ได้ เพราะความเป็นความตายของพวกเขาขึ้นอยู่กับสุนัขสายพันธุ์นี้
8. ชาเป่ย (CHINESE SHAR PEI ) สุนัขพันธุ์ชาเป่ย เป็นสุนัขที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน เป็นสายพันธุ์พื้นเมืองที่เกิดจากหมู่บ้านเล็ก ๆ เมืองไต้ลี่ มณฑลกวางตุ้ง และมีชีวิตอยู่ตั้งแต่ศตวรรษที่ 20 ในตอนใต้ของประเทศจีน สมัยราชวงศ์ฮั่น และชาเป่ยยังเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น เท่าที่มีการค้นพบมา โดยในศตวรรษที่ 13 มีเอกสารของจีนฉบับหนึ่ง กล่าวถึงสุนัขสายพันธุ์หนึ่งว่าเป็นสุนัขที่มีหนังยับย่น
9. ชิบะ อินุ (Shiba Inu) ชิบะ อินุ เป็นหมาในตระกูลเดียวกับ...อาคิตะ (Akita) ซึ่ง เป็น สายพันธุ์ของประเทศญี่ปุ่นชิบะ อินุ ที่เลี้ยงกันประเทศญี่ปุ่นมักมีไว้ใช้ล่าสัตว์เล็กๆ เช่น นก กระต่าย เป็นต้น เคยเกือบสูญพันธุ์ไปแล้วเมื่อ ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เนื่องจากได้รับ ผลกระทบจากทั้งระเบิดนิวเคลียร์ และ การแพร่ระบาดโรค จึงทำให้มี เพียงสามสายเลือดเท่านั้นที่รอดตาย คือ สายเลือด Shinshu Shiba จากจังหวัดนากาโน Mino Shiba จากไอจิ และ San’in Shiba แห่ง Shimane
ต่อมาทั้ง สามสายพันธุ์นี้ได้ถูกรวมกันเป็นสายพันธุ์ที่ได้ถูกพัฒนาขึ้น กลายเป็น...ชิบะ อินุ (Shiba Inu) เป็น มาตรฐาน สายพันธุ์แรกของญี่ปุ่น ถูกตีพิมพ์ในวารสารเพื่อการยืนยันเมื่อปี 1934
10. เยอรมัน สปิตซ์ (GERMAN SPITZ ) เป็นสุนัขที่มีขนาดกลางจนถึงขนาดเล็ก เป็นสายพันธุ์ที่มีอายุแก่มากที่สุดเพราะจากค้นพบหลักฐานต่างๆ มีการค้นพบในยุคหินที่มีกระดูกโครงสร้างคล้ายสปิตซ์เป็นอย่างมาก น่าจะมีอายุมากกว่า 5 พันปีมากแล้ว และได้มีการขุดซากกระดูกอายุกว่า 2 พันปี ได้พบว่าสปิตซ์ได้มีถิ่นอาศัยอยู่ในยุโรปตอนกลางมานับพันปีแล้ว จะได้แพร่กระจายไปยังไซบีเรียและมองโกเลีย ซึ่งเมื่อก่อนนั้นใช้เพื่อล่าสัตว์เป็นหลัก เมื่อตอนสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง เยอรมันแพ้สงครามเจ้าสปิตซ์ก็เอาไปสู่ที่อเมริกาด้วย
แสดงกระทู้
