แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

466
17 เรื่องลับ ๆ ของแมวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

          แม้แมวจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่น่าค้นหาและมีสิ่งที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพพฤติกรรม หรืออารมณ์ของแมว และเป็นเพราะแมวไม่อาจสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับคนได้ ดังนั้น จึงนำเรื่องลับ ๆ ของแมว ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาเปิดเผยให้ทราบกัน มีอะไรบ้าง ทาสแมวลองไปอ่านเลย




1.แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

          เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไรส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเองและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่นดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

          อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน

          เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้าย ๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น

4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

          ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่คนกำลังฝันนั่นเอง

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ

          การโดนลงโทษไม่มีผลใด ๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

          เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง

7. ไม่มีใครรู้ว่า เสียงคราง เกิดจากอะไร

          กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ

          ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด

          หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว

          ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว



11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

          แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

          ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกันเพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา

          เพราะแมวไม่ชอบการสบตาและจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคามโดยหากแมวหันไปสบตากับอะไบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

          เนื้อสัตว์สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

15. ทนต่อความร้อนได้ดี

          สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่าบรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

          โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

          ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง



467
17 เรื่องลับ ๆ ของแมวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

          แม้แมวจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่น่าค้นหาและมีสิ่งที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพพฤติกรรม หรืออารมณ์ของแมว และเป็นเพราะแมวไม่อาจสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับคนได้ ดังนั้น จึงนำเรื่องลับ ๆ ของแมว ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาเปิดเผยให้ทราบกัน มีอะไรบ้าง ทาสแมวลองไปอ่านเลย




1.แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

          เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไรส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเองและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่นดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

          อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน

          เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้าย ๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น

4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

          ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่คนกำลังฝันนั่นเอง

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ

          การโดนลงโทษไม่มีผลใด ๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

          เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง

7. ไม่มีใครรู้ว่า เสียงคราง เกิดจากอะไร

          กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ

          ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด

          หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว

          ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว



11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

          แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

          ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกันเพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา

          เพราะแมวไม่ชอบการสบตาและจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคามโดยหากแมวหันไปสบตากับอะไบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

          เนื้อสัตว์สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

15. ทนต่อความร้อนได้ดี

          สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่าบรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

          โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

          ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง



468
17 เรื่องลับ ๆ ของแมวที่คุณอาจยังไม่เคยรู้

          แม้แมวจะเป็นสัตว์ตัวเล็ก ๆ แต่ทว่าเป็นสัตว์ที่น่าค้นหาและมีสิ่งที่เราไม่รู้ซ่อนอยู่เบื้องหลังอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางกายภาพพฤติกรรม หรืออารมณ์ของแมว และเป็นเพราะแมวไม่อาจสื่อสารด้วยภาษาเดียวกันกับคนได้ ดังนั้น จึงนำเรื่องลับ ๆ ของแมว ที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาเปิดเผยให้ทราบกัน มีอะไรบ้าง ทาสแมวลองไปอ่านเลย




1.แมวมีเซนส์อันยอดเยี่ยมเกี่ยวกับเรื่องแผ่นดินไหว

          เนื่องจากใต้อุ้งเท้าของแมวค่อนข้างเซนซิทีฟดังนั้นแมวทุกตังจึงสามารถรู้ล่วงหน้าได้ว่าจะมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไรส่วนคุณเองก็สามารถรับรู้ได้เช่นกัน โดยสังเกตได้จากพฤติกรรมแปลก ๆ หรือแตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเองและด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้มีคนบางกลุ่มใช้อุ้งเท้าแมวในการหาค้นหาเหตุแผ่นดินไหวจากแรงสะเทือนด้วย

2. กลืนและย่อยอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว

          อีกหนึ่งเรื่องที่น่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ กระเพาะของแมวสามารถย่อยและดูดกลืนอาหารได้โดยไม่ต้องเคี้ยว ซึ่งถือเป็นข่าวดีมากทีเดียวสำหรับเจ้า ลิล บับ (Lil Bub) หนึ่งในแมวเซเลบชื่อดังจากโลกออนไลน์ เพราะมันเป็นแมวที่ไม่มีฟันตั้งแต่กำเนิด จะได้ไม่มีอะไรให้กังวล

3. แมวเป็นนายที่แท้จริงของบ้าน

          เพราะแมวสามารถเปล่งโทนเสียงเพื่อใช้ควบคุมพฤติกรรมของคนได้ อย่างเช่น ในเวลาที่แมวต้องการจะกินอาหาร มันก็จะใช้โทนเสียงที่ฟังคล้าย ๆ กับเสียงร้องไห้ออกมา เพื่อเป็นการกระตุ้นคุณให้เอาอาหารให้มันเร็วขึ้น เป็นต้น

4. แมวก็มีฝันเหมือนกัน

          ความฝัน มักจะเกิดขึ้นเมื่อแมวอยู่ในภาวะผ่อนคลาย และสบายตัวมากพอที่จะทำให้พวกมันหลับลึก โดยในช่วงดังกล่าวแมวจะมีการสร้างรูปแบบของคลื่นสมองแบบเดียวกันกับเวลาที่คนกำลังฝันนั่นเอง

5. แมวไม่เข้าใจการโดนลงโทษ

          การโดนลงโทษไม่มีผลใด ๆ กับแมวเลย เพราะแมวไม่มีทางเข้าใจสิ่งที่คุณทำ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการฝึกแมวให้ทำตามคำสั่ง ก็ควรสอนด้วยความอดทน คำชม และตอบแทนด้วยรางวัล ก็จะเห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่า

6. การแตะจมูกเป็นการทักทายอย่างหนึ่ง

          เวลาที่เห็นแมวเอาจมูกมาแตะกันไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร เพราะอาการดังกล่าวเป็นแค่การทักทายแบบแมวทั่วไป แต่อย่างไรพวกมันจะทักทายด้วยวิธีดังกล่าวกับแมวที่คุ้นเคยเท่านั้น ในขณะเดียวกันก็เป็นวิธีที่การสื่อสารเพื่อเช็กข้อมูลว่า อีกฝ่ายเป็นอย่างไรบ้างนั่นเอง

7. ไม่มีใครรู้ว่า เสียงคราง เกิดจากอะไร

          กระทั่งถึงตอนนี้ นักวิทยาศาสตร์เองก็ยังไม่รู้ว่า เสียงครางของแมวเกิดขึ้นได้อย่างไร และเกิดจากระบบส่วนใดกันแน่ ในขณะที่คนส่วนใหญ่เชื่อว่า เกิดจากบริเวณลำคอ แต่ก็มีบางกลุ่มที่คิดว่า น่าจะเกิดจากระบบไหลเวียนเลือดมากกว่า

8. แมวครางเพื่อแสดงความพอใจ

          ถึงแม้แมวจะครางเมื่อรู้สึกพึงพอใจเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็มีบางครั้งที่แมวครางเมื่อเกิดอาการเจ็บป่วยได้เช่นเดียวกัน และถ้าหากคุณคุ้นเคยกับแมวมากพอ ก็จะสามารถแยกความแตกต่างของเสียงครางของแมวได้ด้วยตัวเอง

9. แมวส่งเสียงครางได้นานกว่าที่คิด

          หลายคนอาจจะคิดว่า แมวส่งเสียงครางเป็นบางเวลาและมักจะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ขณะที่กำลังมีความสุขหรือพึงพอใจ แต่แท้จริงแล้วแมวสามารถครางได้นานกว่านั้น แต่บางตัวอาจครางนานเป็นสัปดาห์เลยก็มี

10. ลูกแมวครางได้โทนเสียงเดียว

          ถึงแม้ว่าในขณะที่เป็นลูกแมวจะสามารถส่งเสียงครางได้เพียงโทนเสียงเดียว แต่ทว่าหลังจากที่พวกมันโตขึ้น พวกมันจะสามารถส่งเสียงครางได้ถึง 2-3 โทนเสียงเลยทีเดียว



11. แมวใช้เสียงในการสื่อสารกับเจ้าของ

          แมวจะสื่อสารกับเจ้าของด้วยโทนเสียงเดียวกัน กับที่พวกมันเคยใช้สื่อสารกับเจ้าของตั้งแต่ยังเป็นลูกแมว และจะรักษาโทนเสียงเหล่านั้นเอาไว้ใช้สื่อสารกับเจ้าของเสมอ แต่จะใช้โทนเสียงที่แตกต่างออกไปเมื่อสื่อสารกับแมวตัวอื่น

12. ช็อกโกแลต คืออาหารต้องห้าม

          ไม่ใช่แค่สุนัขเท่านั้นที่ไม่สามารถกินช็อกโกแลตได้แต่แมวก็กินขนมชนิดนี้ไม่ได้เหมือนกันเพราะช็อกโกแลตมีสารบางชนิดที่เป็นอันตรายกับหัวใจ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้แมวเสียชีวิตได้เลย

13. ไม่ควรผูกมิตรด้วยการสบตา

          เพราะแมวไม่ชอบการสบตาและจะรู้สึกเหมือนว่ากำลังโดนคุกคามโดยหากแมวหันไปสบตากับอะไบางอย่างโดยบังเอิญ พวกมันจะกระพริบตาและหรี่ตาลงทันที ถ้าหากคุณอยากจะผูกมิตรกับแมวก็ควรจะใช้วิธีอื่น หรือมองไปด้านข้างแทนที่จะสบตากับแมวโดยตรง

14. เนื้อสดช่วยบำรุงฟัน

          เนื้อสัตว์สด ๆ ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ชนิดใดก็ตาม ต่างก็มีประโยชน์กับแมวด้วยกันทั้งนั้น เพราะการเคี้ยวเนื้อสดจะช่วยให้เหงือกและฟันของแมวมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงยิ่งขึ้น

15. ทนต่อความร้อนได้ดี

          สาเหตุที่ทำให้แมวสามารถทนกับความร้อนได้ดีก็เพราะว่าบรรพบุรุษของแมวเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในทะเลทรายมาก่อน ไม่ได้เป็นสัตว์เลี้ยงที่อาศัยอยู่ในบ้านเหมือนอย่างที่เห็นในปัจจุบันนั่นเอง

16. ชีพจรเปลี่ยนแปลงตามอายุ

          โดยปกติอัตราความเร็วของชีพจรของแมว เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 160-240 ครั้งต่อนาที แต่ทั้งนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้โดยขึ้นอยู่กับช่วงอายุของแมว ซึ่งชีพจรของแมวจะเต้นช้าลงเมื่อแมวมีอายุเพิ่มขึ้น

17. แมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน

          ถึงแม้เจ้าของไม่อาจสัมผัสได้จากผิวหนังตามลำตัวของแมว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า แมวไม่มีเหงื่อซะเดียว เพราะจริง ๆ แล้วแมวก็มีเหงื่อเหมือนกัน เพียงแต่ว่าจะปรากฏบริเวณอุ้งเท้านั่นเอง



469
10 วิธีดูแลลูกแมวตัวน้อย

          การรับแมวเหมียวตัวน้อยมาอยู่ในบ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การดูแลให้เขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้นยากกว่าเป็นหลายเท่า คอลัมน์ Holistic Health Series ฉบับนี้จึงขอรวบรวม 10 วิธีการดูแลลูกแมวตัวน้อยมานำเสนอ เรื่องยากๆจะได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรักแมวทุกคน




1. ให้อาหารที่ถูกต้อง
Feed Him Right

          อาหารคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าเหมียว (และสัตว์อื่นๆ) ฉะนั้นการเลือกสรรอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและความต้องการพิเศษของสายพันธุ์คือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อพัฒนาการทางร่างกายจะได้เจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด

          ปัจจุบันนี้ท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปนับไม่ถ้วนรอให้คุณหยิบไปให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่บ้าน คำแนะนำง่ายๆของเราก็คืออ่านฉลากข้างถุงให้เป็น ดูซิว่าอาหารดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับช่วงวัยใด สายพันธุ์ไหน ส่วนเรื่องรสชาตนั้นเจ้าเหมียวต้องเป็นฝ่ายตัดสิน
ทั้งนี้หากบ้านของคุณมีเจ้าตูบอยู่ด้วย เราขอเตือนไว้เลยว่าอาหารของสุนัขไม่เหมาะสำหรับแมว หมั่นคอยสังเกตด้วยล่ะว่าเจ้าเหมียวเข้าไปมั่วกินอาหารหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็เก็บอาหารให้มิดชิด เพื่อชีวิตอันสดใสของแมวน้อย

2. หาสัตวแพทย์
Find a Veterinarian


          แมวเด็กย่อมต้องการการดูแลจากสัตวแพทย์มากกว่าแมวโต ทั้งนี้ก็เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การมองหาสัตวแพทย์ประจำตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต้องรอให้มีปัญหาสุขภาพก่อนค่อยพาไปคลินิกอีกต่อไป

          ปัจจัยที่คุณควรใช้ในการคัดเลือกสัตวแพทย์ประจำตัวนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง บางท่านอาจไม่หวั่นหากต้องเดินทางไกลเพื่อพบสัตวแพทย์ที่ศึกษาด้านแมวเหมียวมาโดยเฉพาะ บางท่านก็อาจเน้นที่ความสะดวกสบายใกล้บ้านเป็นหลัก ฯลฯ คำแนะนำของเราก็คือเลือกให้ตรงใจที่สุดเท่านั้นก็พอ

3. ขนสวย = สุขภาพดี
Groom for Health


          จริงอยู่ว่าน้องเหมียวเป็นสัตว์รักสะอาด พวกเขาสามารถเลียขนเพื่อทำความสะอาดตัวเองได้ตั้งแต่ยังละอ่อน แต่คุณเองก็สามารถช่วยเหลือเขาในการทำความสะอาดตัวเองได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน หมั่นช่วยเขาหวีขนบ่อยๆเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วง นอกจากจะช่วยเพิ่มสุขอนามัยให้เขาแล้ว ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันและกันอีกทางหนึ่งอีกต่างหาก

4. ป้ายชื่อเพื่อความปลอดภัย
Tag for Safety


          ว่ากันว่าแมวเหมียวนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าน้องหมา พวกเขาสามารถออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นวันๆได้โดยกลับมาเฉพาะตอนหิวข้าว ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของเขาอยู่ไม่ติดบ้าน อะไรล่ะที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเหมียวของคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่ภายนอก

          คำแนะนำของเราก็คือปลอกคอและป้ายชื่อค่ะ ใส่ให้เจ้าเหมียวของคุณตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่ว่าเวลาออกไปนอกบ้านคนอื่นจะได้รับรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ยิ่งไปกว่านั้นควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนลงไปในป้ายชื่อด้วยว่าเจ้าของคือใคร เบอร์ติดต่ออะไร เผื่อฉุกเฉินจะได้ตามได้

          นอกเหนือการคล้องป้ายและปลอกคอแล้ว วิธีการเพิ่มความปลอดภัยอีกอย่างก็คือพาเขาไปแนะนำตัวกับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้เขาเป็นหูเป็นตาเวลาเจ้าเหมียวของคุณออกไปป่วนนอกบ้าน จะได้ช่วยกันจับไว้ไม่ให้ไปไกลบ้านเกินไป

5. สั่งสอนตามสมควร
Teach your Kitten well


          การเลี้ยงแมวเหมียวสักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก การฝึกพวกเขาให้เป็นแมวที่ดีนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมตามธรรมชาติของเขานั้นเป็นระเบียบอยู่แล้ว ขอแค่เวลาในการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากคุณเท่านั้นก็เพียงพอ

          โดยการฝึกที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแมวบ้านก็คือการใช้กระบะทรายในการขับถ่าย หมั่นฝึกฝนตั้งแต่ยังเยาว์เพื่อสร้างการจดจำและนำไปสู่พฤติกรรมอันเป็นนิสัย เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือหามุมเหมาะในการปลดทุกข์ ซื้อกระบะและทรายแมวจากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาเตรียมไว้ ขั้นตอนต่อไปก็คือหมั่นจับเขาไปนั่งในกระบะเมื่อสังเกตเห็นว่าเขากำลังจะทำธุระ ทำซ้ำๆจนให้เขาก้าวเข้ากระบะไปทำธุระด้วยตนเอง เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยได้อย่างง่ายๆ

6. แมวต้องฝนเล็บ
Gotta Scratch


          คุณอยากให้เฟอร์นิเจอร์เป็นรอยอันเนื่องมาจากพฤติกรรมฝนเล็บตามบรรพบุรุษของแมวเหมียวหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือไม่ล่ะก็ หาซื้ออุปกรณ์ฝนเล็บมาให้เขาอย่างด่วน เพื่อที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของคุณจะปลอดภัยจากการขูดขีดด้วยกงเล็บ
การเลือกซื้อที่ฝนเล็บสักชิ้นนั้นไม่มีอะไรยาก คุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้สอยแปรผันตามขนาดและราคา บางชิ้นคุณสามารถนำไปตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งได้เลยในบ้าน เจ้าเหมียวก็สามารถนอนได้ฝนเล็บได้ ครบคุณสมบัติในชิ้นเดียว หรือบางชิ้นก็อาจเป็นแค่ที่ฝนเล็บอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะเลือกอะไรก็ตามแต่ความสบายใจได้เลย



7. อย่าลืมการออกกำลังกาย
Exercise, exercise


          การออกกำลังกายสำคัญสำหรับทุกสิ่งมีชีวิต แมวเหมียวเองก็เช่นกัน หากเขาได้ยืดเส้นยืดสายอย่างเพียงพอ โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ถามหา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน การขับถ่ายบกพร่อง ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยส่งเสริมความเป็นมิตรให้เขาร่าเริงสดใสตลอดเวลาอีกต่างหาก

          ในเมื่อการออกกำลังกายนั้นมีผลดีมากมายขนาดนี้ คุณสมควรต้องส่งเสริมให้ถึงที่สุด จัดหาพื้นที่ในการออกกำลังกายให้เขา ซื้อหาของเล่นมาเตรียมพร้อม เพียงเท่านี้อาณาจักรสุขภาพของเหมียวก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆภายในบ้านของคุณเอง

8. เตรียมตัวเผื่อฉุกเฉิน
Prep for Emergencies


          เพราะเราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเหตุฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การเตรียมการไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรละเลย อย่าลืมติดต่อสอบถามสัตวแพทย์ใกล้บ้านให้เรียบร้อยว่าสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ หากไม่มีอย่าลืมหาคลินิกสำรองไว้ด้วย เวลาฉุกละหุกจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอย่างไรล่ะ

9. ดูแลเขาให้ถูกต้องถูกวิธี
Treat him right


          การป้องกันนั้นดีกว่าการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ฉะนั้นเมื่อรับเจ้าเหมียวตัวน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อย่าลืมพาเขาไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนดนัดหมาย อายุเดือนครึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม สัตวแพทย์นัดเมื่อไหร่ต้องไปห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะวัคซีนแต่ละชนิดหมายความถึงการป้องกันโรคร้ายที่หากเป็นขึ้นมาล่ะก็จะรักษาลำบาก ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้หัดหวัดแมว โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ฯลฯ

          นอกจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคแล้ว การถ่ายพยาธิคือสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลย อย่าลืมปรึกษาสัตวแพทย์ให้เขาจัดตารางที่เหมาะสมให้กับเจ้าเหมียวของคุณด้วยล่ะ...เท่านี้ยังไม่หมด  อย่าลืมเรื่องการดูแลทำความสะอาดหู ตา จมูก และส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะความสะอาดคือสิ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด

10. พิจารณาเรื่องทำหมัน
Spay or Neuter Early


          ข้อสุดท้ายที่เราอยากฝากก็คือการทำหมันแมวเหมียว หากคุณไม่อยากให้เขามีลูกมีหลานหรือเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ล่ะก็ ตัดสินใจทำหมันไปเลยเมื่ออายุครบเกณฑ์ (ปัจจุบันนี้สามารถทำหมันได้ตั้งแต่อายุครบ 10 สัปดาห์) ซึ่งการทำหมันนั้นจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมฉี่เพื่อสร้างอาณาเขตในแมวหนุ่ม รวมทั้งช่วยให้เขาไม่ต้องออกไปเสาะหาคู่ครองนอกบ้าน อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ สำหรับแมวสาวนั้นการทำหมันจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และลดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถึงช่วงเวลาผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจทำหมันหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับคุณแต่เพียงผู้เดียว


470
10 วิธีดูแลลูกแมวตัวน้อย

          การรับแมวเหมียวตัวน้อยมาอยู่ในบ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การดูแลให้เขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้นยากกว่าเป็นหลายเท่า คอลัมน์ Holistic Health Series ฉบับนี้จึงขอรวบรวม 10 วิธีการดูแลลูกแมวตัวน้อยมานำเสนอ เรื่องยากๆจะได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรักแมวทุกคน




1. ให้อาหารที่ถูกต้อง
Feed Him Right

          อาหารคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าเหมียว (และสัตว์อื่นๆ) ฉะนั้นการเลือกสรรอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและความต้องการพิเศษของสายพันธุ์คือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อพัฒนาการทางร่างกายจะได้เจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด

          ปัจจุบันนี้ท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปนับไม่ถ้วนรอให้คุณหยิบไปให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่บ้าน คำแนะนำง่ายๆของเราก็คืออ่านฉลากข้างถุงให้เป็น ดูซิว่าอาหารดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับช่วงวัยใด สายพันธุ์ไหน ส่วนเรื่องรสชาตนั้นเจ้าเหมียวต้องเป็นฝ่ายตัดสิน
ทั้งนี้หากบ้านของคุณมีเจ้าตูบอยู่ด้วย เราขอเตือนไว้เลยว่าอาหารของสุนัขไม่เหมาะสำหรับแมว หมั่นคอยสังเกตด้วยล่ะว่าเจ้าเหมียวเข้าไปมั่วกินอาหารหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็เก็บอาหารให้มิดชิด เพื่อชีวิตอันสดใสของแมวน้อย

2. หาสัตวแพทย์
Find a Veterinarian


          แมวเด็กย่อมต้องการการดูแลจากสัตวแพทย์มากกว่าแมวโต ทั้งนี้ก็เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การมองหาสัตวแพทย์ประจำตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต้องรอให้มีปัญหาสุขภาพก่อนค่อยพาไปคลินิกอีกต่อไป

          ปัจจัยที่คุณควรใช้ในการคัดเลือกสัตวแพทย์ประจำตัวนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง บางท่านอาจไม่หวั่นหากต้องเดินทางไกลเพื่อพบสัตวแพทย์ที่ศึกษาด้านแมวเหมียวมาโดยเฉพาะ บางท่านก็อาจเน้นที่ความสะดวกสบายใกล้บ้านเป็นหลัก ฯลฯ คำแนะนำของเราก็คือเลือกให้ตรงใจที่สุดเท่านั้นก็พอ

3. ขนสวย = สุขภาพดี
Groom for Health


          จริงอยู่ว่าน้องเหมียวเป็นสัตว์รักสะอาด พวกเขาสามารถเลียขนเพื่อทำความสะอาดตัวเองได้ตั้งแต่ยังละอ่อน แต่คุณเองก็สามารถช่วยเหลือเขาในการทำความสะอาดตัวเองได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน หมั่นช่วยเขาหวีขนบ่อยๆเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วง นอกจากจะช่วยเพิ่มสุขอนามัยให้เขาแล้ว ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันและกันอีกทางหนึ่งอีกต่างหาก

4. ป้ายชื่อเพื่อความปลอดภัย
Tag for Safety


          ว่ากันว่าแมวเหมียวนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าน้องหมา พวกเขาสามารถออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นวันๆได้โดยกลับมาเฉพาะตอนหิวข้าว ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของเขาอยู่ไม่ติดบ้าน อะไรล่ะที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเหมียวของคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่ภายนอก

          คำแนะนำของเราก็คือปลอกคอและป้ายชื่อค่ะ ใส่ให้เจ้าเหมียวของคุณตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่ว่าเวลาออกไปนอกบ้านคนอื่นจะได้รับรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ยิ่งไปกว่านั้นควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนลงไปในป้ายชื่อด้วยว่าเจ้าของคือใคร เบอร์ติดต่ออะไร เผื่อฉุกเฉินจะได้ตามได้

          นอกเหนือการคล้องป้ายและปลอกคอแล้ว วิธีการเพิ่มความปลอดภัยอีกอย่างก็คือพาเขาไปแนะนำตัวกับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้เขาเป็นหูเป็นตาเวลาเจ้าเหมียวของคุณออกไปป่วนนอกบ้าน จะได้ช่วยกันจับไว้ไม่ให้ไปไกลบ้านเกินไป

5. สั่งสอนตามสมควร
Teach your Kitten well


          การเลี้ยงแมวเหมียวสักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก การฝึกพวกเขาให้เป็นแมวที่ดีนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมตามธรรมชาติของเขานั้นเป็นระเบียบอยู่แล้ว ขอแค่เวลาในการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากคุณเท่านั้นก็เพียงพอ

          โดยการฝึกที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแมวบ้านก็คือการใช้กระบะทรายในการขับถ่าย หมั่นฝึกฝนตั้งแต่ยังเยาว์เพื่อสร้างการจดจำและนำไปสู่พฤติกรรมอันเป็นนิสัย เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือหามุมเหมาะในการปลดทุกข์ ซื้อกระบะและทรายแมวจากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาเตรียมไว้ ขั้นตอนต่อไปก็คือหมั่นจับเขาไปนั่งในกระบะเมื่อสังเกตเห็นว่าเขากำลังจะทำธุระ ทำซ้ำๆจนให้เขาก้าวเข้ากระบะไปทำธุระด้วยตนเอง เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยได้อย่างง่ายๆ

6. แมวต้องฝนเล็บ
Gotta Scratch


          คุณอยากให้เฟอร์นิเจอร์เป็นรอยอันเนื่องมาจากพฤติกรรมฝนเล็บตามบรรพบุรุษของแมวเหมียวหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือไม่ล่ะก็ หาซื้ออุปกรณ์ฝนเล็บมาให้เขาอย่างด่วน เพื่อที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของคุณจะปลอดภัยจากการขูดขีดด้วยกงเล็บ
การเลือกซื้อที่ฝนเล็บสักชิ้นนั้นไม่มีอะไรยาก คุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้สอยแปรผันตามขนาดและราคา บางชิ้นคุณสามารถนำไปตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งได้เลยในบ้าน เจ้าเหมียวก็สามารถนอนได้ฝนเล็บได้ ครบคุณสมบัติในชิ้นเดียว หรือบางชิ้นก็อาจเป็นแค่ที่ฝนเล็บอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะเลือกอะไรก็ตามแต่ความสบายใจได้เลย



7. อย่าลืมการออกกำลังกาย
Exercise, exercise


          การออกกำลังกายสำคัญสำหรับทุกสิ่งมีชีวิต แมวเหมียวเองก็เช่นกัน หากเขาได้ยืดเส้นยืดสายอย่างเพียงพอ โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ถามหา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน การขับถ่ายบกพร่อง ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยส่งเสริมความเป็นมิตรให้เขาร่าเริงสดใสตลอดเวลาอีกต่างหาก

          ในเมื่อการออกกำลังกายนั้นมีผลดีมากมายขนาดนี้ คุณสมควรต้องส่งเสริมให้ถึงที่สุด จัดหาพื้นที่ในการออกกำลังกายให้เขา ซื้อหาของเล่นมาเตรียมพร้อม เพียงเท่านี้อาณาจักรสุขภาพของเหมียวก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆภายในบ้านของคุณเอง

8. เตรียมตัวเผื่อฉุกเฉิน
Prep for Emergencies


          เพราะเราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเหตุฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การเตรียมการไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรละเลย อย่าลืมติดต่อสอบถามสัตวแพทย์ใกล้บ้านให้เรียบร้อยว่าสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ หากไม่มีอย่าลืมหาคลินิกสำรองไว้ด้วย เวลาฉุกละหุกจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอย่างไรล่ะ

9. ดูแลเขาให้ถูกต้องถูกวิธี
Treat him right


          การป้องกันนั้นดีกว่าการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ฉะนั้นเมื่อรับเจ้าเหมียวตัวน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อย่าลืมพาเขาไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนดนัดหมาย อายุเดือนครึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม สัตวแพทย์นัดเมื่อไหร่ต้องไปห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะวัคซีนแต่ละชนิดหมายความถึงการป้องกันโรคร้ายที่หากเป็นขึ้นมาล่ะก็จะรักษาลำบาก ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้หัดหวัดแมว โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ฯลฯ

          นอกจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคแล้ว การถ่ายพยาธิคือสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลย อย่าลืมปรึกษาสัตวแพทย์ให้เขาจัดตารางที่เหมาะสมให้กับเจ้าเหมียวของคุณด้วยล่ะ...เท่านี้ยังไม่หมด  อย่าลืมเรื่องการดูแลทำความสะอาดหู ตา จมูก และส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะความสะอาดคือสิ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด

10. พิจารณาเรื่องทำหมัน
Spay or Neuter Early


          ข้อสุดท้ายที่เราอยากฝากก็คือการทำหมันแมวเหมียว หากคุณไม่อยากให้เขามีลูกมีหลานหรือเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ล่ะก็ ตัดสินใจทำหมันไปเลยเมื่ออายุครบเกณฑ์ (ปัจจุบันนี้สามารถทำหมันได้ตั้งแต่อายุครบ 10 สัปดาห์) ซึ่งการทำหมันนั้นจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมฉี่เพื่อสร้างอาณาเขตในแมวหนุ่ม รวมทั้งช่วยให้เขาไม่ต้องออกไปเสาะหาคู่ครองนอกบ้าน อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ สำหรับแมวสาวนั้นการทำหมันจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และลดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถึงช่วงเวลาผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจทำหมันหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับคุณแต่เพียงผู้เดียว


471
10 วิธีดูแลลูกแมวตัวน้อย

          การรับแมวเหมียวตัวน้อยมาอยู่ในบ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การดูแลให้เขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้นยากกว่าเป็นหลายเท่า คอลัมน์ Holistic Health Series ฉบับนี้จึงขอรวบรวม 10 วิธีการดูแลลูกแมวตัวน้อยมานำเสนอ เรื่องยากๆจะได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรักแมวทุกคน




1. ให้อาหารที่ถูกต้อง
Feed Him Right

          อาหารคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าเหมียว (และสัตว์อื่นๆ) ฉะนั้นการเลือกสรรอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและความต้องการพิเศษของสายพันธุ์คือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อพัฒนาการทางร่างกายจะได้เจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด

          ปัจจุบันนี้ท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปนับไม่ถ้วนรอให้คุณหยิบไปให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่บ้าน คำแนะนำง่ายๆของเราก็คืออ่านฉลากข้างถุงให้เป็น ดูซิว่าอาหารดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับช่วงวัยใด สายพันธุ์ไหน ส่วนเรื่องรสชาตนั้นเจ้าเหมียวต้องเป็นฝ่ายตัดสิน
ทั้งนี้หากบ้านของคุณมีเจ้าตูบอยู่ด้วย เราขอเตือนไว้เลยว่าอาหารของสุนัขไม่เหมาะสำหรับแมว หมั่นคอยสังเกตด้วยล่ะว่าเจ้าเหมียวเข้าไปมั่วกินอาหารหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็เก็บอาหารให้มิดชิด เพื่อชีวิตอันสดใสของแมวน้อย

2. หาสัตวแพทย์
Find a Veterinarian


          แมวเด็กย่อมต้องการการดูแลจากสัตวแพทย์มากกว่าแมวโต ทั้งนี้ก็เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การมองหาสัตวแพทย์ประจำตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต้องรอให้มีปัญหาสุขภาพก่อนค่อยพาไปคลินิกอีกต่อไป

          ปัจจัยที่คุณควรใช้ในการคัดเลือกสัตวแพทย์ประจำตัวนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง บางท่านอาจไม่หวั่นหากต้องเดินทางไกลเพื่อพบสัตวแพทย์ที่ศึกษาด้านแมวเหมียวมาโดยเฉพาะ บางท่านก็อาจเน้นที่ความสะดวกสบายใกล้บ้านเป็นหลัก ฯลฯ คำแนะนำของเราก็คือเลือกให้ตรงใจที่สุดเท่านั้นก็พอ

3. ขนสวย = สุขภาพดี
Groom for Health


          จริงอยู่ว่าน้องเหมียวเป็นสัตว์รักสะอาด พวกเขาสามารถเลียขนเพื่อทำความสะอาดตัวเองได้ตั้งแต่ยังละอ่อน แต่คุณเองก็สามารถช่วยเหลือเขาในการทำความสะอาดตัวเองได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน หมั่นช่วยเขาหวีขนบ่อยๆเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วง นอกจากจะช่วยเพิ่มสุขอนามัยให้เขาแล้ว ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันและกันอีกทางหนึ่งอีกต่างหาก

4. ป้ายชื่อเพื่อความปลอดภัย
Tag for Safety


          ว่ากันว่าแมวเหมียวนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าน้องหมา พวกเขาสามารถออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นวันๆได้โดยกลับมาเฉพาะตอนหิวข้าว ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของเขาอยู่ไม่ติดบ้าน อะไรล่ะที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเหมียวของคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่ภายนอก

          คำแนะนำของเราก็คือปลอกคอและป้ายชื่อค่ะ ใส่ให้เจ้าเหมียวของคุณตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่ว่าเวลาออกไปนอกบ้านคนอื่นจะได้รับรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ยิ่งไปกว่านั้นควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนลงไปในป้ายชื่อด้วยว่าเจ้าของคือใคร เบอร์ติดต่ออะไร เผื่อฉุกเฉินจะได้ตามได้

          นอกเหนือการคล้องป้ายและปลอกคอแล้ว วิธีการเพิ่มความปลอดภัยอีกอย่างก็คือพาเขาไปแนะนำตัวกับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้เขาเป็นหูเป็นตาเวลาเจ้าเหมียวของคุณออกไปป่วนนอกบ้าน จะได้ช่วยกันจับไว้ไม่ให้ไปไกลบ้านเกินไป

5. สั่งสอนตามสมควร
Teach your Kitten well


          การเลี้ยงแมวเหมียวสักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก การฝึกพวกเขาให้เป็นแมวที่ดีนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมตามธรรมชาติของเขานั้นเป็นระเบียบอยู่แล้ว ขอแค่เวลาในการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากคุณเท่านั้นก็เพียงพอ

          โดยการฝึกที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแมวบ้านก็คือการใช้กระบะทรายในการขับถ่าย หมั่นฝึกฝนตั้งแต่ยังเยาว์เพื่อสร้างการจดจำและนำไปสู่พฤติกรรมอันเป็นนิสัย เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือหามุมเหมาะในการปลดทุกข์ ซื้อกระบะและทรายแมวจากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาเตรียมไว้ ขั้นตอนต่อไปก็คือหมั่นจับเขาไปนั่งในกระบะเมื่อสังเกตเห็นว่าเขากำลังจะทำธุระ ทำซ้ำๆจนให้เขาก้าวเข้ากระบะไปทำธุระด้วยตนเอง เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยได้อย่างง่ายๆ

6. แมวต้องฝนเล็บ
Gotta Scratch


          คุณอยากให้เฟอร์นิเจอร์เป็นรอยอันเนื่องมาจากพฤติกรรมฝนเล็บตามบรรพบุรุษของแมวเหมียวหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือไม่ล่ะก็ หาซื้ออุปกรณ์ฝนเล็บมาให้เขาอย่างด่วน เพื่อที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของคุณจะปลอดภัยจากการขูดขีดด้วยกงเล็บ
การเลือกซื้อที่ฝนเล็บสักชิ้นนั้นไม่มีอะไรยาก คุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้สอยแปรผันตามขนาดและราคา บางชิ้นคุณสามารถนำไปตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งได้เลยในบ้าน เจ้าเหมียวก็สามารถนอนได้ฝนเล็บได้ ครบคุณสมบัติในชิ้นเดียว หรือบางชิ้นก็อาจเป็นแค่ที่ฝนเล็บอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะเลือกอะไรก็ตามแต่ความสบายใจได้เลย



7. อย่าลืมการออกกำลังกาย
Exercise, exercise


          การออกกำลังกายสำคัญสำหรับทุกสิ่งมีชีวิต แมวเหมียวเองก็เช่นกัน หากเขาได้ยืดเส้นยืดสายอย่างเพียงพอ โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ถามหา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน การขับถ่ายบกพร่อง ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยส่งเสริมความเป็นมิตรให้เขาร่าเริงสดใสตลอดเวลาอีกต่างหาก

          ในเมื่อการออกกำลังกายนั้นมีผลดีมากมายขนาดนี้ คุณสมควรต้องส่งเสริมให้ถึงที่สุด จัดหาพื้นที่ในการออกกำลังกายให้เขา ซื้อหาของเล่นมาเตรียมพร้อม เพียงเท่านี้อาณาจักรสุขภาพของเหมียวก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆภายในบ้านของคุณเอง

8. เตรียมตัวเผื่อฉุกเฉิน
Prep for Emergencies


          เพราะเราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเหตุฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การเตรียมการไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรละเลย อย่าลืมติดต่อสอบถามสัตวแพทย์ใกล้บ้านให้เรียบร้อยว่าสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ หากไม่มีอย่าลืมหาคลินิกสำรองไว้ด้วย เวลาฉุกละหุกจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอย่างไรล่ะ

9. ดูแลเขาให้ถูกต้องถูกวิธี
Treat him right


          การป้องกันนั้นดีกว่าการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ฉะนั้นเมื่อรับเจ้าเหมียวตัวน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อย่าลืมพาเขาไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนดนัดหมาย อายุเดือนครึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม สัตวแพทย์นัดเมื่อไหร่ต้องไปห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะวัคซีนแต่ละชนิดหมายความถึงการป้องกันโรคร้ายที่หากเป็นขึ้นมาล่ะก็จะรักษาลำบาก ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้หัดหวัดแมว โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ฯลฯ

          นอกจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคแล้ว การถ่ายพยาธิคือสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลย อย่าลืมปรึกษาสัตวแพทย์ให้เขาจัดตารางที่เหมาะสมให้กับเจ้าเหมียวของคุณด้วยล่ะ...เท่านี้ยังไม่หมด  อย่าลืมเรื่องการดูแลทำความสะอาดหู ตา จมูก และส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะความสะอาดคือสิ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด

10. พิจารณาเรื่องทำหมัน
Spay or Neuter Early


          ข้อสุดท้ายที่เราอยากฝากก็คือการทำหมันแมวเหมียว หากคุณไม่อยากให้เขามีลูกมีหลานหรือเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ล่ะก็ ตัดสินใจทำหมันไปเลยเมื่ออายุครบเกณฑ์ (ปัจจุบันนี้สามารถทำหมันได้ตั้งแต่อายุครบ 10 สัปดาห์) ซึ่งการทำหมันนั้นจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมฉี่เพื่อสร้างอาณาเขตในแมวหนุ่ม รวมทั้งช่วยให้เขาไม่ต้องออกไปเสาะหาคู่ครองนอกบ้าน อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ สำหรับแมวสาวนั้นการทำหมันจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และลดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถึงช่วงเวลาผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจทำหมันหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับคุณแต่เพียงผู้เดียว


472
10 วิธีดูแลลูกแมวตัวน้อย

          การรับแมวเหมียวตัวน้อยมาอยู่ในบ้านนั้นเป็นเรื่องง่าย แต่การดูแลให้เขามีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงนั้นยากกว่าเป็นหลายเท่า คอลัมน์ Holistic Health Series ฉบับนี้จึงขอรวบรวม 10 วิธีการดูแลลูกแมวตัวน้อยมานำเสนอ เรื่องยากๆจะได้กลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับคนรักแมวทุกคน




1. ให้อาหารที่ถูกต้อง
Feed Him Right

          อาหารคือปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับเจ้าเหมียว (และสัตว์อื่นๆ) ฉะนั้นการเลือกสรรอาหารที่ถูกต้องและเหมาะสมในแต่ละช่วงวัยและความต้องการพิเศษของสายพันธุ์คือสิ่งที่คุณไม่ควรมองข้าม เพื่อพัฒนาการทางร่างกายจะได้เจริญเติบโตอย่างราบรื่นไม่มีติดขัด

          ปัจจุบันนี้ท้องตลาดมีอาหารสำเร็จรูปนับไม่ถ้วนรอให้คุณหยิบไปให้เจ้าเหมียวตัวน้อยที่บ้าน คำแนะนำง่ายๆของเราก็คืออ่านฉลากข้างถุงให้เป็น ดูซิว่าอาหารดังกล่าวนั้นเหมาะสำหรับช่วงวัยใด สายพันธุ์ไหน ส่วนเรื่องรสชาตนั้นเจ้าเหมียวต้องเป็นฝ่ายตัดสิน
ทั้งนี้หากบ้านของคุณมีเจ้าตูบอยู่ด้วย เราขอเตือนไว้เลยว่าอาหารของสุนัขไม่เหมาะสำหรับแมว หมั่นคอยสังเกตด้วยล่ะว่าเจ้าเหมียวเข้าไปมั่วกินอาหารหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็เก็บอาหารให้มิดชิด เพื่อชีวิตอันสดใสของแมวน้อย

2. หาสัตวแพทย์
Find a Veterinarian


          แมวเด็กย่อมต้องการการดูแลจากสัตวแพทย์มากกว่าแมวโต ทั้งนี้ก็เพราะเขาจำเป็นที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนและตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ การมองหาสัตวแพทย์ประจำตัวจึงไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ต้องรอให้มีปัญหาสุขภาพก่อนค่อยพาไปคลินิกอีกต่อไป

          ปัจจัยที่คุณควรใช้ในการคัดเลือกสัตวแพทย์ประจำตัวนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณเอง บางท่านอาจไม่หวั่นหากต้องเดินทางไกลเพื่อพบสัตวแพทย์ที่ศึกษาด้านแมวเหมียวมาโดยเฉพาะ บางท่านก็อาจเน้นที่ความสะดวกสบายใกล้บ้านเป็นหลัก ฯลฯ คำแนะนำของเราก็คือเลือกให้ตรงใจที่สุดเท่านั้นก็พอ

3. ขนสวย = สุขภาพดี
Groom for Health


          จริงอยู่ว่าน้องเหมียวเป็นสัตว์รักสะอาด พวกเขาสามารถเลียขนเพื่อทำความสะอาดตัวเองได้ตั้งแต่ยังละอ่อน แต่คุณเองก็สามารถช่วยเหลือเขาในการทำความสะอาดตัวเองได้ง่ายๆเช่นเดียวกัน หมั่นช่วยเขาหวีขนบ่อยๆเพื่อกำจัดขนที่หลุดร่วง นอกจากจะช่วยเพิ่มสุขอนามัยให้เขาแล้ว ยังเป็นการสร้างสัมพันธ์ระหว่างกันและกันอีกทางหนึ่งอีกต่างหาก

4. ป้ายชื่อเพื่อความปลอดภัย
Tag for Safety


          ว่ากันว่าแมวเหมียวนั้นมีความเป็นตัวของตัวเองมากกว่าน้องหมา พวกเขาสามารถออกไปเที่ยวนอกบ้านเป็นวันๆได้โดยกลับมาเฉพาะตอนหิวข้าว ในเมื่อไลฟ์สไตล์ของเขาอยู่ไม่ติดบ้าน อะไรล่ะที่จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าเหมียวของคุณจะปลอดภัยเมื่ออยู่ภายนอก

          คำแนะนำของเราก็คือปลอกคอและป้ายชื่อค่ะ ใส่ให้เจ้าเหมียวของคุณตั้งแต่ยังเด็ก เพื่อที่ว่าเวลาออกไปนอกบ้านคนอื่นจะได้รับรู้ว่าเขาเป็นใครมาจากไหน ยิ่งไปกว่านั้นควรระบุรายละเอียดให้ชัดเจนลงไปในป้ายชื่อด้วยว่าเจ้าของคือใคร เบอร์ติดต่ออะไร เผื่อฉุกเฉินจะได้ตามได้

          นอกเหนือการคล้องป้ายและปลอกคอแล้ว วิธีการเพิ่มความปลอดภัยอีกอย่างก็คือพาเขาไปแนะนำตัวกับเพื่อนบ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อให้เขาเป็นหูเป็นตาเวลาเจ้าเหมียวของคุณออกไปป่วนนอกบ้าน จะได้ช่วยกันจับไว้ไม่ให้ไปไกลบ้านเกินไป

5. สั่งสอนตามสมควร
Teach your Kitten well


          การเลี้ยงแมวเหมียวสักตัวนั้นไม่ใช่เรื่องยาก การฝึกพวกเขาให้เป็นแมวที่ดีนั้นยิ่งง่ายเข้าไปใหญ่ ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมตามธรรมชาติของเขานั้นเป็นระเบียบอยู่แล้ว ขอแค่เวลาในการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากคุณเท่านั้นก็เพียงพอ

          โดยการฝึกที่สำคัญที่สุดสำหรับชีวิตแมวบ้านก็คือการใช้กระบะทรายในการขับถ่าย หมั่นฝึกฝนตั้งแต่ยังเยาว์เพื่อสร้างการจดจำและนำไปสู่พฤติกรรมอันเป็นนิสัย เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือหามุมเหมาะในการปลดทุกข์ ซื้อกระบะและทรายแมวจากร้านขายอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงมาเตรียมไว้ ขั้นตอนต่อไปก็คือหมั่นจับเขาไปนั่งในกระบะเมื่อสังเกตเห็นว่าเขากำลังจะทำธุระ ทำซ้ำๆจนให้เขาก้าวเข้ากระบะไปทำธุระด้วยตนเอง เพียงเท่านี้บ้านคุณก็จะเป็นระเบียบเรียบร้อยได้อย่างง่ายๆ

6. แมวต้องฝนเล็บ
Gotta Scratch


          คุณอยากให้เฟอร์นิเจอร์เป็นรอยอันเนื่องมาจากพฤติกรรมฝนเล็บตามบรรพบุรุษของแมวเหมียวหรือเปล่า ถ้าคำตอบของคุณคือไม่ล่ะก็ หาซื้ออุปกรณ์ฝนเล็บมาให้เขาอย่างด่วน เพื่อที่ข้าวของเครื่องใช้ในบ้านของคุณจะปลอดภัยจากการขูดขีดด้วยกงเล็บ
การเลือกซื้อที่ฝนเล็บสักชิ้นนั้นไม่มีอะไรยาก คุณสมบัติและประโยชน์ในการใช้สอยแปรผันตามขนาดและราคา บางชิ้นคุณสามารถนำไปตั้งเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งได้เลยในบ้าน เจ้าเหมียวก็สามารถนอนได้ฝนเล็บได้ ครบคุณสมบัติในชิ้นเดียว หรือบางชิ้นก็อาจเป็นแค่ที่ฝนเล็บอย่างเดียวเท่านั้น คุณจะเลือกอะไรก็ตามแต่ความสบายใจได้เลย



7. อย่าลืมการออกกำลังกาย
Exercise, exercise


          การออกกำลังกายสำคัญสำหรับทุกสิ่งมีชีวิต แมวเหมียวเองก็เช่นกัน หากเขาได้ยืดเส้นยืดสายอย่างเพียงพอ โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่ถามหา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน การขับถ่ายบกพร่อง ฯลฯ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยส่งเสริมความเป็นมิตรให้เขาร่าเริงสดใสตลอดเวลาอีกต่างหาก

          ในเมื่อการออกกำลังกายนั้นมีผลดีมากมายขนาดนี้ คุณสมควรต้องส่งเสริมให้ถึงที่สุด จัดหาพื้นที่ในการออกกำลังกายให้เขา ซื้อหาของเล่นมาเตรียมพร้อม เพียงเท่านี้อาณาจักรสุขภาพของเหมียวก็เกิดขึ้นได้ง่ายๆภายในบ้านของคุณเอง

8. เตรียมตัวเผื่อฉุกเฉิน
Prep for Emergencies


          เพราะเราไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเหตุฉุกเฉินจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ การเตรียมการไว้ก่อนจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ไม่ควรละเลย อย่าลืมติดต่อสอบถามสัตวแพทย์ใกล้บ้านให้เรียบร้อยว่าสามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉินหรือไม่ หากไม่มีอย่าลืมหาคลินิกสำรองไว้ด้วย เวลาฉุกละหุกจะได้ไม่ต้องวุ่นวายอย่างไรล่ะ

9. ดูแลเขาให้ถูกต้องถูกวิธี
Treat him right


          การป้องกันนั้นดีกว่าการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วย ฉะนั้นเมื่อรับเจ้าเหมียวตัวน้อยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด อย่าลืมพาเขาไปรับวัคซีนให้ครบตามกำหนดนัดหมาย อายุเดือนครึ่งก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม สัตวแพทย์นัดเมื่อไหร่ต้องไปห้ามพลาดเป็นอันขาด เพราะวัคซีนแต่ละชนิดหมายความถึงการป้องกันโรคร้ายที่หากเป็นขึ้นมาล่ะก็จะรักษาลำบาก ไม่ว่าจะเป็น โรคไข้หัดหวัดแมว โรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว ฯลฯ

          นอกจากการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคแล้ว การถ่ายพยาธิคือสิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลย อย่าลืมปรึกษาสัตวแพทย์ให้เขาจัดตารางที่เหมาะสมให้กับเจ้าเหมียวของคุณด้วยล่ะ...เท่านี้ยังไม่หมด  อย่าลืมเรื่องการดูแลทำความสะอาดหู ตา จมูก และส่วนต่างๆของร่างกาย เพราะความสะอาดคือสิ่งที่ห้ามพลาดเป็นอันขาด

10. พิจารณาเรื่องทำหมัน
Spay or Neuter Early


          ข้อสุดท้ายที่เราอยากฝากก็คือการทำหมันแมวเหมียว หากคุณไม่อยากให้เขามีลูกมีหลานหรือเลี้ยงเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ล่ะก็ ตัดสินใจทำหมันไปเลยเมื่ออายุครบเกณฑ์ (ปัจจุบันนี้สามารถทำหมันได้ตั้งแต่อายุครบ 10 สัปดาห์) ซึ่งการทำหมันนั้นจะช่วยลดปัญหาพฤติกรรมฉี่เพื่อสร้างอาณาเขตในแมวหนุ่ม รวมทั้งช่วยให้เขาไม่ต้องออกไปเสาะหาคู่ครองนอกบ้าน อันเป็นเหตุให้เกิดอันตรายได้ง่ายๆ สำหรับแมวสาวนั้นการทำหมันจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งเต้านม และลดพฤติกรรมก้าวร้าวเมื่อถึงช่วงเวลาผสมพันธุ์
อย่างไรก็ตามการตัดสินใจทำหมันหรือไม่ทำขึ้นอยู่กับคุณแต่เพียงผู้เดียว


473
เรื่องแมวๆ รู้ไว้ใช่ว่า แปลกแต่จริง

          รวมเรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับเจ้าเหมียวทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน อาทิเช่น แมวชอบกินผัก แมวกับนม และอีกหลายๆ เรื่องที่รู้แล้วคุณจะแปลกใจไม่น้อย เอาหละเกริ่นมาเยอะละ ไปดูกันเลยดีกว่า



          แมวไทย (Siamese Cat) หรือแมววิเชียรมาศ เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2547) เมื่อกงศุลอังกฤษได้รับพระราชทานแมวไทยคู่นึงก่อนลากลับประเทศ

          แมวมังสวิรัติ มีแมวมังสวิรัติอยู่จริงในอังกฤษ (โดยปกติแล้วแมวจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ) ชื่อว่าเจ้าดังเต้ (Dante) เจ้าดังเต้โตมาโดยไม่ยอมแตะต้องเนื้อสัตว์เลยสักครั้ง คุณเบคกี้ เพจ เจ้าของได้บอกว่าของชอบของเจ้าดังเต้มีแต่ผักและผลไม้เท่านั้น เช่น บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เมล่อน กล้วย และบางทีก็กินมันฝรั่งดิบๆ อีกด้วยแน่ะ ซึ่งกรณีอย่างเจ้าดังเต้นื้ถือได้ว่าหายากมากๆ ในแมว เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แมวเป็นสัตว์กินเนื้อก็ต้องกินเนื้อจึงจะได้รับสารอาหารครบถ้วนนะจ๊ะ

          ผู้บ่าวกินแมว จากเพลงฮิตเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ ที่เล่นเอาคนรักแมวฟังแล้วน้ำตาแทบร่วงกันเป็นทิวแถว จะว่าไปเรื่องนี้เป็นความจริงนะ เพราะมีการเอาแมวมาทำเป็นอาหารจริงๆ แต่ก็เฉพาะในช่วงที่คับขันอย่างช่วงที่เกิดสงครามเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกเล่นๆ ไม่ให้คนรักแมวช้ำใจว่า “กระต่ายบนหลังคา” ที่เคยปรากฏหลักฐานว่ามีการกินแมวส่วนใหญ่จะพบในประเทศจีนตอนใต้ ทางเหนือของเวียดนาม เกาหลี เปรู แม้แต่ในสวิตเซอร์แลนด์ก็กินกันด้วยนะ ถึงตอนนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังกินกันอยู่หรือเปล่า

          ใครว่าแมวรักสันโดษ ก็จริงๆ แล้วแมวเขาชอบอยู่กับคนนะ ยิ่งเจ้าแมวเปอร์เซียด้วยแล้วละก็ยิ่งต้องการความรักความอบอุ่นจากเรามากๆ เลยเชียวแหละ อาจจะเรียกได้ว่าแมวเปอร์เซียส่วนใหญ่เป็นโรคติดคนก็ว่าได้ เพราะอย่างบางตัวที่บ้านนั้นเขาจะชอบมาป้วนเปี้ยนๆ อยู่ข้างๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะไปทางไหนจะตามไปทุกที่ บางตัวถึงขั้นกระโดดเกาะหลัง บางตัวก็มาอ้อนขอนอนตัก แต่บางตัวก็โดดขึ้นตักเอาดื้อๆ เสมือนว่าตักนี้รอรับอยู่ตลอดเวลาซะงั้น

          แมวนักนวด จริงๆ สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวแมวมาตั้งแต่เล็กๆ คุณๆ ยังจำที่แมวนวดๆ เต้านมแม่แมวเพื่อดูดนมได้มั้ยเอ่ย นั่นแหละ แมวก็คิดว่าเราเป็นแม่นั่นเอง เขาก็เลยมาอ้อนแล้วก็ทำพฤติกรรมแบบเด็กๆ อีกครั้ง

          แมวเกลียดน้ำ ถึงแม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบน้ำก็เถอะนะ แต่ก็มีบ้างบางสายพันธุ์ที่ชอบน้ำถึงขั้นลงไปว่ายน้ำเล่นกันเลยเชียว อย่างเช่น พันธุ์เตอร์กิชแวนและเตอร์กิชแองโกรา

          แมวกับนม เราจะคุ้นเคยว่าแมว (โดยเฉพาะลูกแมว) จะคู่กับนม แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะว่าแมวบางตัวนั้น (โดยเฉพาะแมวโต) เมื่อกินนมแล้วเขาอาจจะเกิดอาการท้องเสียได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลในนมได้นั่นเอง ฉะนั้น การไม่ให้นมในแมวโตก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ กับเจ้าเหมียวนะ การให้เสียอีกที่อาจจะทำให้น้องเหมียวของเราจู๊ดๆ ขึ้นมาได้



ร่างกายของแมว

          สมองแมวโต ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร หนักประมาณ 30 กรัม ในขณะที่สมองคนหนัก 1.5 กิโลกรัม
เห็นตัวเล็กๆ แค่นั้นแมวมีกระดูกมากกว่าคนนะจ๊ะ คนมีกระดูกแค่ 2.6 ชิ้น ส่วนแมวมีกระดูกถึง 230 ชิ้นจ้า ฟันน้ำนมของแมว จะขึ้นครบเมื่อแมวมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ส่วนฟันแท้ของแมวจะเริ่มขึ้นเมื่อแมวอายุได้ 15 – 18 สัปดาห์ แมวตัวที่โตเต็มที่จะมีฟันทั้งหมด 30 ซี่ เป็นฟันบน 16 ซี่ และฟันล่าง 14 ซี่

          น้ำหนักเฉลี่ยของแมว จะอยู่ที่ 3 – 5.5 กิโลกรัม และความสูงโดยเฉลี่ยจากเท้าถึงหัวไหล่จะอยู่ที่ 30 เซนติเมตร
แมวอ้วน ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว แต่ก็มีสิทธิ์อ้วนได้นะ ถ้าไม่ค่อยได้ออกกำลัง (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของเราๆ เป็นหลัก) เราซึ่งเป็นผู้ดูแลเขา จึงต้องช่วยเขาอีกแรงหนึ่งด้วยการควบคุมเรื่องอาหาร ไม่ให้อาหารแบบพร่ำเพรื่อ ให้เขากินเป็นมื้อ และพยายามให้เขาเคลื่อนไหวบริหารร่างกายด้วย ยิ่งถ้าเขาโตเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็น่าจะควบคุมอาหารกันอย่างจริงจังมากขึ้นนะคะ

          อายุของแมว เคยเจอแมวที่อายุยืนที่สุดเท่าไหร่กันบ้างเอ่ย ส่วนใหญ่แล้วแมวที่ใช้ชีวิตอิสระอยู่นอกบ้านจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 5 ปี โดยประมาณ ในขณะที่แมวเลี้ยงในบ้านจะอยู่ได้นานถึง 16 ปี หรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ



474
เรื่องแมวๆ รู้ไว้ใช่ว่า แปลกแต่จริง

          รวมเรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับเจ้าเหมียวทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน อาทิเช่น แมวชอบกินผัก แมวกับนม และอีกหลายๆ เรื่องที่รู้แล้วคุณจะแปลกใจไม่น้อย เอาหละเกริ่นมาเยอะละ ไปดูกันเลยดีกว่า



          แมวไทย (Siamese Cat) หรือแมววิเชียรมาศ เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2547) เมื่อกงศุลอังกฤษได้รับพระราชทานแมวไทยคู่นึงก่อนลากลับประเทศ

          แมวมังสวิรัติ มีแมวมังสวิรัติอยู่จริงในอังกฤษ (โดยปกติแล้วแมวจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ) ชื่อว่าเจ้าดังเต้ (Dante) เจ้าดังเต้โตมาโดยไม่ยอมแตะต้องเนื้อสัตว์เลยสักครั้ง คุณเบคกี้ เพจ เจ้าของได้บอกว่าของชอบของเจ้าดังเต้มีแต่ผักและผลไม้เท่านั้น เช่น บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เมล่อน กล้วย และบางทีก็กินมันฝรั่งดิบๆ อีกด้วยแน่ะ ซึ่งกรณีอย่างเจ้าดังเต้นื้ถือได้ว่าหายากมากๆ ในแมว เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แมวเป็นสัตว์กินเนื้อก็ต้องกินเนื้อจึงจะได้รับสารอาหารครบถ้วนนะจ๊ะ

          ผู้บ่าวกินแมว จากเพลงฮิตเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ ที่เล่นเอาคนรักแมวฟังแล้วน้ำตาแทบร่วงกันเป็นทิวแถว จะว่าไปเรื่องนี้เป็นความจริงนะ เพราะมีการเอาแมวมาทำเป็นอาหารจริงๆ แต่ก็เฉพาะในช่วงที่คับขันอย่างช่วงที่เกิดสงครามเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกเล่นๆ ไม่ให้คนรักแมวช้ำใจว่า “กระต่ายบนหลังคา” ที่เคยปรากฏหลักฐานว่ามีการกินแมวส่วนใหญ่จะพบในประเทศจีนตอนใต้ ทางเหนือของเวียดนาม เกาหลี เปรู แม้แต่ในสวิตเซอร์แลนด์ก็กินกันด้วยนะ ถึงตอนนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังกินกันอยู่หรือเปล่า

          ใครว่าแมวรักสันโดษ ก็จริงๆ แล้วแมวเขาชอบอยู่กับคนนะ ยิ่งเจ้าแมวเปอร์เซียด้วยแล้วละก็ยิ่งต้องการความรักความอบอุ่นจากเรามากๆ เลยเชียวแหละ อาจจะเรียกได้ว่าแมวเปอร์เซียส่วนใหญ่เป็นโรคติดคนก็ว่าได้ เพราะอย่างบางตัวที่บ้านนั้นเขาจะชอบมาป้วนเปี้ยนๆ อยู่ข้างๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะไปทางไหนจะตามไปทุกที่ บางตัวถึงขั้นกระโดดเกาะหลัง บางตัวก็มาอ้อนขอนอนตัก แต่บางตัวก็โดดขึ้นตักเอาดื้อๆ เสมือนว่าตักนี้รอรับอยู่ตลอดเวลาซะงั้น

          แมวนักนวด จริงๆ สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวแมวมาตั้งแต่เล็กๆ คุณๆ ยังจำที่แมวนวดๆ เต้านมแม่แมวเพื่อดูดนมได้มั้ยเอ่ย นั่นแหละ แมวก็คิดว่าเราเป็นแม่นั่นเอง เขาก็เลยมาอ้อนแล้วก็ทำพฤติกรรมแบบเด็กๆ อีกครั้ง

          แมวเกลียดน้ำ ถึงแม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบน้ำก็เถอะนะ แต่ก็มีบ้างบางสายพันธุ์ที่ชอบน้ำถึงขั้นลงไปว่ายน้ำเล่นกันเลยเชียว อย่างเช่น พันธุ์เตอร์กิชแวนและเตอร์กิชแองโกรา

          แมวกับนม เราจะคุ้นเคยว่าแมว (โดยเฉพาะลูกแมว) จะคู่กับนม แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะว่าแมวบางตัวนั้น (โดยเฉพาะแมวโต) เมื่อกินนมแล้วเขาอาจจะเกิดอาการท้องเสียได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลในนมได้นั่นเอง ฉะนั้น การไม่ให้นมในแมวโตก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ กับเจ้าเหมียวนะ การให้เสียอีกที่อาจจะทำให้น้องเหมียวของเราจู๊ดๆ ขึ้นมาได้



ร่างกายของแมว

          สมองแมวโต ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร หนักประมาณ 30 กรัม ในขณะที่สมองคนหนัก 1.5 กิโลกรัม
เห็นตัวเล็กๆ แค่นั้นแมวมีกระดูกมากกว่าคนนะจ๊ะ คนมีกระดูกแค่ 2.6 ชิ้น ส่วนแมวมีกระดูกถึง 230 ชิ้นจ้า ฟันน้ำนมของแมว จะขึ้นครบเมื่อแมวมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ส่วนฟันแท้ของแมวจะเริ่มขึ้นเมื่อแมวอายุได้ 15 – 18 สัปดาห์ แมวตัวที่โตเต็มที่จะมีฟันทั้งหมด 30 ซี่ เป็นฟันบน 16 ซี่ และฟันล่าง 14 ซี่

          น้ำหนักเฉลี่ยของแมว จะอยู่ที่ 3 – 5.5 กิโลกรัม และความสูงโดยเฉลี่ยจากเท้าถึงหัวไหล่จะอยู่ที่ 30 เซนติเมตร
แมวอ้วน ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว แต่ก็มีสิทธิ์อ้วนได้นะ ถ้าไม่ค่อยได้ออกกำลัง (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของเราๆ เป็นหลัก) เราซึ่งเป็นผู้ดูแลเขา จึงต้องช่วยเขาอีกแรงหนึ่งด้วยการควบคุมเรื่องอาหาร ไม่ให้อาหารแบบพร่ำเพรื่อ ให้เขากินเป็นมื้อ และพยายามให้เขาเคลื่อนไหวบริหารร่างกายด้วย ยิ่งถ้าเขาโตเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็น่าจะควบคุมอาหารกันอย่างจริงจังมากขึ้นนะคะ

          อายุของแมว เคยเจอแมวที่อายุยืนที่สุดเท่าไหร่กันบ้างเอ่ย ส่วนใหญ่แล้วแมวที่ใช้ชีวิตอิสระอยู่นอกบ้านจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 5 ปี โดยประมาณ ในขณะที่แมวเลี้ยงในบ้านจะอยู่ได้นานถึง 16 ปี หรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ



475
เรื่องแมวๆ รู้ไว้ใช่ว่า แปลกแต่จริง

          รวมเรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับเจ้าเหมียวทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน อาทิเช่น แมวชอบกินผัก แมวกับนม และอีกหลายๆ เรื่องที่รู้แล้วคุณจะแปลกใจไม่น้อย เอาหละเกริ่นมาเยอะละ ไปดูกันเลยดีกว่า



          แมวไทย (Siamese Cat) หรือแมววิเชียรมาศ เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2547) เมื่อกงศุลอังกฤษได้รับพระราชทานแมวไทยคู่นึงก่อนลากลับประเทศ

          แมวมังสวิรัติ มีแมวมังสวิรัติอยู่จริงในอังกฤษ (โดยปกติแล้วแมวจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ) ชื่อว่าเจ้าดังเต้ (Dante) เจ้าดังเต้โตมาโดยไม่ยอมแตะต้องเนื้อสัตว์เลยสักครั้ง คุณเบคกี้ เพจ เจ้าของได้บอกว่าของชอบของเจ้าดังเต้มีแต่ผักและผลไม้เท่านั้น เช่น บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เมล่อน กล้วย และบางทีก็กินมันฝรั่งดิบๆ อีกด้วยแน่ะ ซึ่งกรณีอย่างเจ้าดังเต้นื้ถือได้ว่าหายากมากๆ ในแมว เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แมวเป็นสัตว์กินเนื้อก็ต้องกินเนื้อจึงจะได้รับสารอาหารครบถ้วนนะจ๊ะ

          ผู้บ่าวกินแมว จากเพลงฮิตเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ ที่เล่นเอาคนรักแมวฟังแล้วน้ำตาแทบร่วงกันเป็นทิวแถว จะว่าไปเรื่องนี้เป็นความจริงนะ เพราะมีการเอาแมวมาทำเป็นอาหารจริงๆ แต่ก็เฉพาะในช่วงที่คับขันอย่างช่วงที่เกิดสงครามเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกเล่นๆ ไม่ให้คนรักแมวช้ำใจว่า “กระต่ายบนหลังคา” ที่เคยปรากฏหลักฐานว่ามีการกินแมวส่วนใหญ่จะพบในประเทศจีนตอนใต้ ทางเหนือของเวียดนาม เกาหลี เปรู แม้แต่ในสวิตเซอร์แลนด์ก็กินกันด้วยนะ ถึงตอนนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังกินกันอยู่หรือเปล่า

          ใครว่าแมวรักสันโดษ ก็จริงๆ แล้วแมวเขาชอบอยู่กับคนนะ ยิ่งเจ้าแมวเปอร์เซียด้วยแล้วละก็ยิ่งต้องการความรักความอบอุ่นจากเรามากๆ เลยเชียวแหละ อาจจะเรียกได้ว่าแมวเปอร์เซียส่วนใหญ่เป็นโรคติดคนก็ว่าได้ เพราะอย่างบางตัวที่บ้านนั้นเขาจะชอบมาป้วนเปี้ยนๆ อยู่ข้างๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะไปทางไหนจะตามไปทุกที่ บางตัวถึงขั้นกระโดดเกาะหลัง บางตัวก็มาอ้อนขอนอนตัก แต่บางตัวก็โดดขึ้นตักเอาดื้อๆ เสมือนว่าตักนี้รอรับอยู่ตลอดเวลาซะงั้น

          แมวนักนวด จริงๆ สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวแมวมาตั้งแต่เล็กๆ คุณๆ ยังจำที่แมวนวดๆ เต้านมแม่แมวเพื่อดูดนมได้มั้ยเอ่ย นั่นแหละ แมวก็คิดว่าเราเป็นแม่นั่นเอง เขาก็เลยมาอ้อนแล้วก็ทำพฤติกรรมแบบเด็กๆ อีกครั้ง

          แมวเกลียดน้ำ ถึงแม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบน้ำก็เถอะนะ แต่ก็มีบ้างบางสายพันธุ์ที่ชอบน้ำถึงขั้นลงไปว่ายน้ำเล่นกันเลยเชียว อย่างเช่น พันธุ์เตอร์กิชแวนและเตอร์กิชแองโกรา

          แมวกับนม เราจะคุ้นเคยว่าแมว (โดยเฉพาะลูกแมว) จะคู่กับนม แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะว่าแมวบางตัวนั้น (โดยเฉพาะแมวโต) เมื่อกินนมแล้วเขาอาจจะเกิดอาการท้องเสียได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลในนมได้นั่นเอง ฉะนั้น การไม่ให้นมในแมวโตก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ กับเจ้าเหมียวนะ การให้เสียอีกที่อาจจะทำให้น้องเหมียวของเราจู๊ดๆ ขึ้นมาได้



ร่างกายของแมว

          สมองแมวโต ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร หนักประมาณ 30 กรัม ในขณะที่สมองคนหนัก 1.5 กิโลกรัม
เห็นตัวเล็กๆ แค่นั้นแมวมีกระดูกมากกว่าคนนะจ๊ะ คนมีกระดูกแค่ 2.6 ชิ้น ส่วนแมวมีกระดูกถึง 230 ชิ้นจ้า ฟันน้ำนมของแมว จะขึ้นครบเมื่อแมวมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ส่วนฟันแท้ของแมวจะเริ่มขึ้นเมื่อแมวอายุได้ 15 – 18 สัปดาห์ แมวตัวที่โตเต็มที่จะมีฟันทั้งหมด 30 ซี่ เป็นฟันบน 16 ซี่ และฟันล่าง 14 ซี่

          น้ำหนักเฉลี่ยของแมว จะอยู่ที่ 3 – 5.5 กิโลกรัม และความสูงโดยเฉลี่ยจากเท้าถึงหัวไหล่จะอยู่ที่ 30 เซนติเมตร
แมวอ้วน ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว แต่ก็มีสิทธิ์อ้วนได้นะ ถ้าไม่ค่อยได้ออกกำลัง (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของเราๆ เป็นหลัก) เราซึ่งเป็นผู้ดูแลเขา จึงต้องช่วยเขาอีกแรงหนึ่งด้วยการควบคุมเรื่องอาหาร ไม่ให้อาหารแบบพร่ำเพรื่อ ให้เขากินเป็นมื้อ และพยายามให้เขาเคลื่อนไหวบริหารร่างกายด้วย ยิ่งถ้าเขาโตเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็น่าจะควบคุมอาหารกันอย่างจริงจังมากขึ้นนะคะ

          อายุของแมว เคยเจอแมวที่อายุยืนที่สุดเท่าไหร่กันบ้างเอ่ย ส่วนใหญ่แล้วแมวที่ใช้ชีวิตอิสระอยู่นอกบ้านจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 5 ปี โดยประมาณ ในขณะที่แมวเลี้ยงในบ้านจะอยู่ได้นานถึง 16 ปี หรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ



476
เรื่องแมวๆ รู้ไว้ใช่ว่า แปลกแต่จริง

          รวมเรื่องแปลกแต่จริงเกี่ยวกับเจ้าเหมียวทั่วโลกที่คุณอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน อาทิเช่น แมวชอบกินผัก แมวกับนม และอีกหลายๆ เรื่องที่รู้แล้วคุณจะแปลกใจไม่น้อย เอาหละเกริ่นมาเยอะละ ไปดูกันเลยดีกว่า



          แมวไทย (Siamese Cat) หรือแมววิเชียรมาศ เริ่มเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกครั้งแรกในสมัยรัชกาลที่ 5 (พ.ศ. 2547) เมื่อกงศุลอังกฤษได้รับพระราชทานแมวไทยคู่นึงก่อนลากลับประเทศ

          แมวมังสวิรัติ มีแมวมังสวิรัติอยู่จริงในอังกฤษ (โดยปกติแล้วแมวจัดเป็นสัตว์กินเนื้อ) ชื่อว่าเจ้าดังเต้ (Dante) เจ้าดังเต้โตมาโดยไม่ยอมแตะต้องเนื้อสัตว์เลยสักครั้ง คุณเบคกี้ เพจ เจ้าของได้บอกว่าของชอบของเจ้าดังเต้มีแต่ผักและผลไม้เท่านั้น เช่น บรอกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เมล่อน กล้วย และบางทีก็กินมันฝรั่งดิบๆ อีกด้วยแน่ะ ซึ่งกรณีอย่างเจ้าดังเต้นื้ถือได้ว่าหายากมากๆ ในแมว เพราะผู้เชี่ยวชาญต่างลงความเห็นเป็นเสียงเดียวกันว่า แมวเป็นสัตว์กินเนื้อก็ต้องกินเนื้อจึงจะได้รับสารอาหารครบถ้วนนะจ๊ะ

          ผู้บ่าวกินแมว จากเพลงฮิตเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละ ที่เล่นเอาคนรักแมวฟังแล้วน้ำตาแทบร่วงกันเป็นทิวแถว จะว่าไปเรื่องนี้เป็นความจริงนะ เพราะมีการเอาแมวมาทำเป็นอาหารจริงๆ แต่ก็เฉพาะในช่วงที่คับขันอย่างช่วงที่เกิดสงครามเท่านั้น โดยมีชื่อเรียกเล่นๆ ไม่ให้คนรักแมวช้ำใจว่า “กระต่ายบนหลังคา” ที่เคยปรากฏหลักฐานว่ามีการกินแมวส่วนใหญ่จะพบในประเทศจีนตอนใต้ ทางเหนือของเวียดนาม เกาหลี เปรู แม้แต่ในสวิตเซอร์แลนด์ก็กินกันด้วยนะ ถึงตอนนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่ายังกินกันอยู่หรือเปล่า

          ใครว่าแมวรักสันโดษ ก็จริงๆ แล้วแมวเขาชอบอยู่กับคนนะ ยิ่งเจ้าแมวเปอร์เซียด้วยแล้วละก็ยิ่งต้องการความรักความอบอุ่นจากเรามากๆ เลยเชียวแหละ อาจจะเรียกได้ว่าแมวเปอร์เซียส่วนใหญ่เป็นโรคติดคนก็ว่าได้ เพราะอย่างบางตัวที่บ้านนั้นเขาจะชอบมาป้วนเปี้ยนๆ อยู่ข้างๆ ไม่ว่าเราจะทำอะไร จะไปทางไหนจะตามไปทุกที่ บางตัวถึงขั้นกระโดดเกาะหลัง บางตัวก็มาอ้อนขอนอนตัก แต่บางตัวก็โดดขึ้นตักเอาดื้อๆ เสมือนว่าตักนี้รอรับอยู่ตลอดเวลาซะงั้น

          แมวนักนวด จริงๆ สิ่งนี้เป็นสัญชาตญาณที่ติดตัวแมวมาตั้งแต่เล็กๆ คุณๆ ยังจำที่แมวนวดๆ เต้านมแม่แมวเพื่อดูดนมได้มั้ยเอ่ย นั่นแหละ แมวก็คิดว่าเราเป็นแม่นั่นเอง เขาก็เลยมาอ้อนแล้วก็ทำพฤติกรรมแบบเด็กๆ อีกครั้ง

          แมวเกลียดน้ำ ถึงแม้ว่าแมวส่วนใหญ่จะไม่ค่อยชอบน้ำก็เถอะนะ แต่ก็มีบ้างบางสายพันธุ์ที่ชอบน้ำถึงขั้นลงไปว่ายน้ำเล่นกันเลยเชียว อย่างเช่น พันธุ์เตอร์กิชแวนและเตอร์กิชแองโกรา

          แมวกับนม เราจะคุ้นเคยว่าแมว (โดยเฉพาะลูกแมว) จะคู่กับนม แต่ก็ไม่เสมอไปนะคะ เพราะว่าแมวบางตัวนั้น (โดยเฉพาะแมวโต) เมื่อกินนมแล้วเขาอาจจะเกิดอาการท้องเสียได้ เนื่องจากร่างกายไม่สามารถย่อยแล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลในนมได้นั่นเอง ฉะนั้น การไม่ให้นมในแมวโตก็ไม่ส่งผลเสียใดๆ กับเจ้าเหมียวนะ การให้เสียอีกที่อาจจะทำให้น้องเหมียวของเราจู๊ดๆ ขึ้นมาได้



ร่างกายของแมว

          สมองแมวโต ยาวประมาณ 5 เซนติเมตร หนักประมาณ 30 กรัม ในขณะที่สมองคนหนัก 1.5 กิโลกรัม
เห็นตัวเล็กๆ แค่นั้นแมวมีกระดูกมากกว่าคนนะจ๊ะ คนมีกระดูกแค่ 2.6 ชิ้น ส่วนแมวมีกระดูกถึง 230 ชิ้นจ้า ฟันน้ำนมของแมว จะขึ้นครบเมื่อแมวมีอายุประมาณ 8 สัปดาห์ ส่วนฟันแท้ของแมวจะเริ่มขึ้นเมื่อแมวอายุได้ 15 – 18 สัปดาห์ แมวตัวที่โตเต็มที่จะมีฟันทั้งหมด 30 ซี่ เป็นฟันบน 16 ซี่ และฟันล่าง 14 ซี่

          น้ำหนักเฉลี่ยของแมว จะอยู่ที่ 3 – 5.5 กิโลกรัม และความสูงโดยเฉลี่ยจากเท้าถึงหัวไหล่จะอยู่ที่ 30 เซนติเมตร
แมวอ้วน ถึงแม้ว่าแมวจะเป็นสัตว์ที่ค่อนข้างปราดเปรียว คล่องแคล่วว่องไว แต่ก็มีสิทธิ์อ้วนได้นะ ถ้าไม่ค่อยได้ออกกำลัง (ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมและการเลี้ยงดูของเราๆ เป็นหลัก) เราซึ่งเป็นผู้ดูแลเขา จึงต้องช่วยเขาอีกแรงหนึ่งด้วยการควบคุมเรื่องอาหาร ไม่ให้อาหารแบบพร่ำเพรื่อ ให้เขากินเป็นมื้อ และพยายามให้เขาเคลื่อนไหวบริหารร่างกายด้วย ยิ่งถ้าเขาโตเกิน 10 ปีขึ้นไป ก็น่าจะควบคุมอาหารกันอย่างจริงจังมากขึ้นนะคะ

          อายุของแมว เคยเจอแมวที่อายุยืนที่สุดเท่าไหร่กันบ้างเอ่ย ส่วนใหญ่แล้วแมวที่ใช้ชีวิตอิสระอยู่นอกบ้านจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 3 – 5 ปี โดยประมาณ ในขณะที่แมวเลี้ยงในบ้านจะอยู่ได้นานถึง 16 ปี หรือมากกว่านั้นด้วยซ้ำ



477
แปรงฟันให้น้องแมว สิ่งที่คนรักแมวต้องรู้


          แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายพันปี โดยแมวนั้นปรับตัวให้สามารถเข้าอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ พฤติกรรมต่างๆเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่เป็นสัตว์กลายมาเป็นสัตว์บ้านที่มนุษย์คอยดูแล

          โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนคือการ กินอาหารของแมว โดยธรรมดาแล้วแมวจะกินเนื้อดิบ โดยจากการล่าสัตว์ในป่า แต่ในปัจจุบันแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงจะกินอาหารที่คนเลี้ยงนำมาให้กิน ซึ่งอาหารเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพของปากและฟันของแมว ดังนั้นบางคนจึงได้เกิดข้อสงสัยว่า เราจะเป็นต้องจำเป็นที่ทำความสะอาดให้พวกมันไหม ด้วยการแปรงฟันแมวหรือเปล่า?



การแปรงฟันแมว จำเป็นหรือไม่?

          การแปรงฟันแมวเลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะลักษณะโครงสร้างฟันของแมวมีรอยหยักค่อนข้างมาก ทำให้มีพื้นที่ผิวมาก เอื้อต่อการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดคราบพลาค (Plaque) และกลายเป็นหินปูนได้ในเวลาต่อมา
หากบ้านไหนเลี้ยงแมวด้วยอาหารปรุงเองหรืออาหารเปียก ก็จะยิ่งเร่งให้เกิดคราบพลาคได้ง่าย เราจึงยิ่งควรแปรงฟันให้พวกมัน

แมวอายุเท่าไรถึงควรเริ่มแปรงฟัน?

ผู้เลี้ยงสามารถเริ่มแปรงฟันแมวได้ตั้งแต่แมวเริ่มมีฟันน้ำนม โดยใช้วิธีสร้างความคุ้นเคยที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าปากก่อนจะแปรงฟันจริง โดยอาจใช้วิธีจับปากแมวบ่อยๆ เอานิ้วแหย่ปากแมวเบาๆ หัดใช้ไซริงก์ป้อนนมแพะ
เพื่อให้แมวเกิดความเคยชิน เวลาที่เจ้าของจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับปากแมว เช่น การป้อนยา การแปรงฟัน จะได้ไม่เกิดปัญหา

การเลือกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากให้แมว


          การเลือกแปรงสีฟันให้แมวนั้นเลือกไม่ยาก ให้เลือกแปรงที่มีขนแปรงไม่แข็งเกินไปนุ่มพอประมาณ เพื่อไม่ให้เหงือกแมวบาดเจ็บ เลือกแบบมีด้ามหรือไม่มีก็ได้

          ส่วนยาสีฟันที่ใช้ควรเลือกยาสีฟันที่ผลิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายกลิ่นหลายรสเพื่อให้ง่ายต่อการแปรงฟันสัตว์

          ส่วนน้ำยาบ้วนปากอาจไม่จำเป็นสำหรับสัตว์ และไม่มีแบบที่ผิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ยกเว้นในกรณีที่แมวมีปัญหาในช่องปาก สัตวแพทย์อาจจ่ายน้ำยาบ้วนปาก C20 เพื่อใช้รักษาอาการป่วย

เจลหรือน้ำยาป้องกันการเกิดหินปูน ดีกับแมวจริงไหม?

          ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการสะสมคราบพลาคเพื่อลดการเกิดหินปูนสำหรับสัตว์เลี้ยง มีทั้งแบบเจลป้ายฟันและแบบน้ำยาผสมน้ำดื่ม

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสัตว์ที่ยังไม่มีคราบหินปูนสะสม แต่หากมีหินปูนเกาะฟันแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้ผล ควรพาไปขูดหินปูน



แมวฟันเหลือง แมวปากเหม็น แปรงฟันช่วยได้ไหม?

          กรณีที่แมวฟันเหลือง อาจต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจว่าฟันมีสีออกเหลืองจากสาเหตุใด หากเหลืองเนื่องจากการสะสมหินปูนไม่มาก อาจใช้วิธีแปรงฟัน แต่ถ้าสะสมมาก อาจจำเป็นต้องขูดหินปูน

          ส่วนฟันเหลืองจากสาเหตุอื่นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการแปรงฟัน ได้แก่ ฟันเหลืองเนื่องการชั้นเคลือบฟันสีขาวนวลสึกกร่อนจนมองเห็นชั้นเนื้อฟันสีเหลืองอ่อน ฟันเหลืองเนื่องจากการได้รับสารพิษหรือยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มเตตระไซคลิน (Tetracyclin) กลุ่มนี้จะฟันเหลืองถาวร

แมวปากเหม็นก็จำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ตรวจดูเช่นกัน ว่ากลิ่นปากนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร

          หากกลิ่นปากเกิดจากเศษอาหารตกค้างตามซอกฟัน ก็สามารถแปรงฟันเพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
แต่ถ้าหากกลิ่นปากมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยต่างๆ ต้องได้รับการรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ กลิ่นปากจึงจะลดลง
ตัวอย่างความเจ็บป่วยที่ทำให้แมวมีกลิ่นปาก เช่น

•   โรคตับ โรคไต ที่ทำให้เกิดมีของเสียค้างในกระแสเลือดมาก และแพร่ออกมาตามเส้นเลือดฝอยจนมีกลิ่นออกมาทางลมหายใจ
•   ภาวะเหงือกอักเสบที่อาจเกิดจากการมีหินปูนสะสม
•   การติดโรคจากไวรัส
•   ภาวะช่องปากอักเสบจากการบาดเจ็บต่างๆ

ควรแปรงฟันแมวบ่อยแค่ไหน?

          เจ้าของแมวควรแปรงฟันให้แมวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เช่นเดียวกับคนเพื่อขจัดการสะสมคราบพลาคที่เกิดจากการกินอาหารในแต่ละวัน หากไม่สามารถแปรงได้ทุกวัน ควรใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดฟันแทน

ควรพาแมวไปขูดหินปูนหรือไม่?

          คำตอบคือสมควรเป็นอย่างยิ่ง โดยควรพาแมวไปตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในแมวทั่วไป และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในแมวสูงวัย ส่วนแมวที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ควรไปตรวจช่องปากทุก 3-4 เดือน
การขูดหินปูนในแมวก็เช่นเดียวกับในสัตว์ชนิดออื่นๆ ที่จำเป็นต้องวางยาสลบ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ เพื่อ

เตรียมความพร้อมก่อนข้ารับการวางยาสลบ

          ซึ่งภายหลัง การขูดหินปูน คุณจะพบว่าแมวจะมีอาการเหงือกอักเสบได้บางครั้ง เนื่องจากเป็นการขูดที่จำเป็นต้องขูดให้จนถึงซอฟของเหงือก เพื่อที่จำนะหินปูนออกให้หมด และมีการขัดที่พันเหมือนกับคนที่เคยไปขูดหินปูน
โดยสัตวแพทย์จะดูก่อนว่าสภาพของช่องปากของแมว หลังจากการขูดหินปูน ว่าจะต้องได้รีบยาลดอาการอักเสบหรือยาปฏิชีวนะ หรือไม่

          เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณคงรู้แล้วว่าควรดูแลน้องแมวของคุณให้ดี และดูแลช่องปากของแมวสุดที่รักของคุณด้วยเช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจในการดูแลช่องปากของน้องแมวของทุกท่านจ้าาาา



478
แปรงฟันให้น้องแมว สิ่งที่คนรักแมวต้องรู้


          แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายพันปี โดยแมวนั้นปรับตัวให้สามารถเข้าอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ พฤติกรรมต่างๆเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่เป็นสัตว์กลายมาเป็นสัตว์บ้านที่มนุษย์คอยดูแล

          โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนคือการ กินอาหารของแมว โดยธรรมดาแล้วแมวจะกินเนื้อดิบ โดยจากการล่าสัตว์ในป่า แต่ในปัจจุบันแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงจะกินอาหารที่คนเลี้ยงนำมาให้กิน ซึ่งอาหารเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพของปากและฟันของแมว ดังนั้นบางคนจึงได้เกิดข้อสงสัยว่า เราจะเป็นต้องจำเป็นที่ทำความสะอาดให้พวกมันไหม ด้วยการแปรงฟันแมวหรือเปล่า?



การแปรงฟันแมว จำเป็นหรือไม่?

          การแปรงฟันแมวเลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะลักษณะโครงสร้างฟันของแมวมีรอยหยักค่อนข้างมาก ทำให้มีพื้นที่ผิวมาก เอื้อต่อการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดคราบพลาค (Plaque) และกลายเป็นหินปูนได้ในเวลาต่อมา
หากบ้านไหนเลี้ยงแมวด้วยอาหารปรุงเองหรืออาหารเปียก ก็จะยิ่งเร่งให้เกิดคราบพลาคได้ง่าย เราจึงยิ่งควรแปรงฟันให้พวกมัน

แมวอายุเท่าไรถึงควรเริ่มแปรงฟัน?

ผู้เลี้ยงสามารถเริ่มแปรงฟันแมวได้ตั้งแต่แมวเริ่มมีฟันน้ำนม โดยใช้วิธีสร้างความคุ้นเคยที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าปากก่อนจะแปรงฟันจริง โดยอาจใช้วิธีจับปากแมวบ่อยๆ เอานิ้วแหย่ปากแมวเบาๆ หัดใช้ไซริงก์ป้อนนมแพะ
เพื่อให้แมวเกิดความเคยชิน เวลาที่เจ้าของจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับปากแมว เช่น การป้อนยา การแปรงฟัน จะได้ไม่เกิดปัญหา

การเลือกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากให้แมว


          การเลือกแปรงสีฟันให้แมวนั้นเลือกไม่ยาก ให้เลือกแปรงที่มีขนแปรงไม่แข็งเกินไปนุ่มพอประมาณ เพื่อไม่ให้เหงือกแมวบาดเจ็บ เลือกแบบมีด้ามหรือไม่มีก็ได้

          ส่วนยาสีฟันที่ใช้ควรเลือกยาสีฟันที่ผลิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายกลิ่นหลายรสเพื่อให้ง่ายต่อการแปรงฟันสัตว์

          ส่วนน้ำยาบ้วนปากอาจไม่จำเป็นสำหรับสัตว์ และไม่มีแบบที่ผิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ยกเว้นในกรณีที่แมวมีปัญหาในช่องปาก สัตวแพทย์อาจจ่ายน้ำยาบ้วนปาก C20 เพื่อใช้รักษาอาการป่วย

เจลหรือน้ำยาป้องกันการเกิดหินปูน ดีกับแมวจริงไหม?

          ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการสะสมคราบพลาคเพื่อลดการเกิดหินปูนสำหรับสัตว์เลี้ยง มีทั้งแบบเจลป้ายฟันและแบบน้ำยาผสมน้ำดื่ม

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสัตว์ที่ยังไม่มีคราบหินปูนสะสม แต่หากมีหินปูนเกาะฟันแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้ผล ควรพาไปขูดหินปูน



แมวฟันเหลือง แมวปากเหม็น แปรงฟันช่วยได้ไหม?

          กรณีที่แมวฟันเหลือง อาจต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจว่าฟันมีสีออกเหลืองจากสาเหตุใด หากเหลืองเนื่องจากการสะสมหินปูนไม่มาก อาจใช้วิธีแปรงฟัน แต่ถ้าสะสมมาก อาจจำเป็นต้องขูดหินปูน

          ส่วนฟันเหลืองจากสาเหตุอื่นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการแปรงฟัน ได้แก่ ฟันเหลืองเนื่องการชั้นเคลือบฟันสีขาวนวลสึกกร่อนจนมองเห็นชั้นเนื้อฟันสีเหลืองอ่อน ฟันเหลืองเนื่องจากการได้รับสารพิษหรือยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มเตตระไซคลิน (Tetracyclin) กลุ่มนี้จะฟันเหลืองถาวร

แมวปากเหม็นก็จำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ตรวจดูเช่นกัน ว่ากลิ่นปากนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร

          หากกลิ่นปากเกิดจากเศษอาหารตกค้างตามซอกฟัน ก็สามารถแปรงฟันเพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
แต่ถ้าหากกลิ่นปากมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยต่างๆ ต้องได้รับการรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ กลิ่นปากจึงจะลดลง
ตัวอย่างความเจ็บป่วยที่ทำให้แมวมีกลิ่นปาก เช่น

•   โรคตับ โรคไต ที่ทำให้เกิดมีของเสียค้างในกระแสเลือดมาก และแพร่ออกมาตามเส้นเลือดฝอยจนมีกลิ่นออกมาทางลมหายใจ
•   ภาวะเหงือกอักเสบที่อาจเกิดจากการมีหินปูนสะสม
•   การติดโรคจากไวรัส
•   ภาวะช่องปากอักเสบจากการบาดเจ็บต่างๆ

ควรแปรงฟันแมวบ่อยแค่ไหน?

          เจ้าของแมวควรแปรงฟันให้แมวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เช่นเดียวกับคนเพื่อขจัดการสะสมคราบพลาคที่เกิดจากการกินอาหารในแต่ละวัน หากไม่สามารถแปรงได้ทุกวัน ควรใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดฟันแทน

ควรพาแมวไปขูดหินปูนหรือไม่?

          คำตอบคือสมควรเป็นอย่างยิ่ง โดยควรพาแมวไปตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในแมวทั่วไป และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในแมวสูงวัย ส่วนแมวที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ควรไปตรวจช่องปากทุก 3-4 เดือน
การขูดหินปูนในแมวก็เช่นเดียวกับในสัตว์ชนิดออื่นๆ ที่จำเป็นต้องวางยาสลบ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ เพื่อ

เตรียมความพร้อมก่อนข้ารับการวางยาสลบ

          ซึ่งภายหลัง การขูดหินปูน คุณจะพบว่าแมวจะมีอาการเหงือกอักเสบได้บางครั้ง เนื่องจากเป็นการขูดที่จำเป็นต้องขูดให้จนถึงซอฟของเหงือก เพื่อที่จำนะหินปูนออกให้หมด และมีการขัดที่พันเหมือนกับคนที่เคยไปขูดหินปูน
โดยสัตวแพทย์จะดูก่อนว่าสภาพของช่องปากของแมว หลังจากการขูดหินปูน ว่าจะต้องได้รีบยาลดอาการอักเสบหรือยาปฏิชีวนะ หรือไม่

          เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณคงรู้แล้วว่าควรดูแลน้องแมวของคุณให้ดี และดูแลช่องปากของแมวสุดที่รักของคุณด้วยเช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจในการดูแลช่องปากของน้องแมวของทุกท่านจ้าาาา



479
แปรงฟันให้น้องแมว สิ่งที่คนรักแมวต้องรู้


          แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายพันปี โดยแมวนั้นปรับตัวให้สามารถเข้าอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ พฤติกรรมต่างๆเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่เป็นสัตว์กลายมาเป็นสัตว์บ้านที่มนุษย์คอยดูแล

          โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนคือการ กินอาหารของแมว โดยธรรมดาแล้วแมวจะกินเนื้อดิบ โดยจากการล่าสัตว์ในป่า แต่ในปัจจุบันแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงจะกินอาหารที่คนเลี้ยงนำมาให้กิน ซึ่งอาหารเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพของปากและฟันของแมว ดังนั้นบางคนจึงได้เกิดข้อสงสัยว่า เราจะเป็นต้องจำเป็นที่ทำความสะอาดให้พวกมันไหม ด้วยการแปรงฟันแมวหรือเปล่า?



การแปรงฟันแมว จำเป็นหรือไม่?

          การแปรงฟันแมวเลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะลักษณะโครงสร้างฟันของแมวมีรอยหยักค่อนข้างมาก ทำให้มีพื้นที่ผิวมาก เอื้อต่อการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดคราบพลาค (Plaque) และกลายเป็นหินปูนได้ในเวลาต่อมา
หากบ้านไหนเลี้ยงแมวด้วยอาหารปรุงเองหรืออาหารเปียก ก็จะยิ่งเร่งให้เกิดคราบพลาคได้ง่าย เราจึงยิ่งควรแปรงฟันให้พวกมัน

แมวอายุเท่าไรถึงควรเริ่มแปรงฟัน?

ผู้เลี้ยงสามารถเริ่มแปรงฟันแมวได้ตั้งแต่แมวเริ่มมีฟันน้ำนม โดยใช้วิธีสร้างความคุ้นเคยที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าปากก่อนจะแปรงฟันจริง โดยอาจใช้วิธีจับปากแมวบ่อยๆ เอานิ้วแหย่ปากแมวเบาๆ หัดใช้ไซริงก์ป้อนนมแพะ
เพื่อให้แมวเกิดความเคยชิน เวลาที่เจ้าของจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับปากแมว เช่น การป้อนยา การแปรงฟัน จะได้ไม่เกิดปัญหา

การเลือกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากให้แมว


          การเลือกแปรงสีฟันให้แมวนั้นเลือกไม่ยาก ให้เลือกแปรงที่มีขนแปรงไม่แข็งเกินไปนุ่มพอประมาณ เพื่อไม่ให้เหงือกแมวบาดเจ็บ เลือกแบบมีด้ามหรือไม่มีก็ได้

          ส่วนยาสีฟันที่ใช้ควรเลือกยาสีฟันที่ผลิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายกลิ่นหลายรสเพื่อให้ง่ายต่อการแปรงฟันสัตว์

          ส่วนน้ำยาบ้วนปากอาจไม่จำเป็นสำหรับสัตว์ และไม่มีแบบที่ผิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ยกเว้นในกรณีที่แมวมีปัญหาในช่องปาก สัตวแพทย์อาจจ่ายน้ำยาบ้วนปาก C20 เพื่อใช้รักษาอาการป่วย

เจลหรือน้ำยาป้องกันการเกิดหินปูน ดีกับแมวจริงไหม?

          ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการสะสมคราบพลาคเพื่อลดการเกิดหินปูนสำหรับสัตว์เลี้ยง มีทั้งแบบเจลป้ายฟันและแบบน้ำยาผสมน้ำดื่ม

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสัตว์ที่ยังไม่มีคราบหินปูนสะสม แต่หากมีหินปูนเกาะฟันแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้ผล ควรพาไปขูดหินปูน



แมวฟันเหลือง แมวปากเหม็น แปรงฟันช่วยได้ไหม?

          กรณีที่แมวฟันเหลือง อาจต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจว่าฟันมีสีออกเหลืองจากสาเหตุใด หากเหลืองเนื่องจากการสะสมหินปูนไม่มาก อาจใช้วิธีแปรงฟัน แต่ถ้าสะสมมาก อาจจำเป็นต้องขูดหินปูน

          ส่วนฟันเหลืองจากสาเหตุอื่นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการแปรงฟัน ได้แก่ ฟันเหลืองเนื่องการชั้นเคลือบฟันสีขาวนวลสึกกร่อนจนมองเห็นชั้นเนื้อฟันสีเหลืองอ่อน ฟันเหลืองเนื่องจากการได้รับสารพิษหรือยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มเตตระไซคลิน (Tetracyclin) กลุ่มนี้จะฟันเหลืองถาวร

แมวปากเหม็นก็จำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ตรวจดูเช่นกัน ว่ากลิ่นปากนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร

          หากกลิ่นปากเกิดจากเศษอาหารตกค้างตามซอกฟัน ก็สามารถแปรงฟันเพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
แต่ถ้าหากกลิ่นปากมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยต่างๆ ต้องได้รับการรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ กลิ่นปากจึงจะลดลง
ตัวอย่างความเจ็บป่วยที่ทำให้แมวมีกลิ่นปาก เช่น

•   โรคตับ โรคไต ที่ทำให้เกิดมีของเสียค้างในกระแสเลือดมาก และแพร่ออกมาตามเส้นเลือดฝอยจนมีกลิ่นออกมาทางลมหายใจ
•   ภาวะเหงือกอักเสบที่อาจเกิดจากการมีหินปูนสะสม
•   การติดโรคจากไวรัส
•   ภาวะช่องปากอักเสบจากการบาดเจ็บต่างๆ

ควรแปรงฟันแมวบ่อยแค่ไหน?

          เจ้าของแมวควรแปรงฟันให้แมวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เช่นเดียวกับคนเพื่อขจัดการสะสมคราบพลาคที่เกิดจากการกินอาหารในแต่ละวัน หากไม่สามารถแปรงได้ทุกวัน ควรใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดฟันแทน

ควรพาแมวไปขูดหินปูนหรือไม่?

          คำตอบคือสมควรเป็นอย่างยิ่ง โดยควรพาแมวไปตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในแมวทั่วไป และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในแมวสูงวัย ส่วนแมวที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ควรไปตรวจช่องปากทุก 3-4 เดือน
การขูดหินปูนในแมวก็เช่นเดียวกับในสัตว์ชนิดออื่นๆ ที่จำเป็นต้องวางยาสลบ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ เพื่อ

เตรียมความพร้อมก่อนข้ารับการวางยาสลบ

          ซึ่งภายหลัง การขูดหินปูน คุณจะพบว่าแมวจะมีอาการเหงือกอักเสบได้บางครั้ง เนื่องจากเป็นการขูดที่จำเป็นต้องขูดให้จนถึงซอฟของเหงือก เพื่อที่จำนะหินปูนออกให้หมด และมีการขัดที่พันเหมือนกับคนที่เคยไปขูดหินปูน
โดยสัตวแพทย์จะดูก่อนว่าสภาพของช่องปากของแมว หลังจากการขูดหินปูน ว่าจะต้องได้รีบยาลดอาการอักเสบหรือยาปฏิชีวนะ หรือไม่

          เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณคงรู้แล้วว่าควรดูแลน้องแมวของคุณให้ดี และดูแลช่องปากของแมวสุดที่รักของคุณด้วยเช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจในการดูแลช่องปากของน้องแมวของทุกท่านจ้าาาา



480
แปรงฟันให้น้องแมว สิ่งที่คนรักแมวต้องรู้


          แมวเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายพันปี โดยแมวนั้นปรับตัวให้สามารถเข้าอยู่อาศัยร่วมกับมนุษย์ พฤติกรรมต่างๆเปลี่ยนไป จากเมื่อก่อนที่เป็นสัตว์กลายมาเป็นสัตว์บ้านที่มนุษย์คอยดูแล

          โดยสิ่งที่เปลี่ยนไปชัดเจนคือการ กินอาหารของแมว โดยธรรมดาแล้วแมวจะกินเนื้อดิบ โดยจากการล่าสัตว์ในป่า แต่ในปัจจุบันแมวที่เป็นสัตว์เลี้ยงจะกินอาหารที่คนเลี้ยงนำมาให้กิน ซึ่งอาหารเหล่านั้นส่งผลต่อสุขภาพของปากและฟันของแมว ดังนั้นบางคนจึงได้เกิดข้อสงสัยว่า เราจะเป็นต้องจำเป็นที่ทำความสะอาดให้พวกมันไหม ด้วยการแปรงฟันแมวหรือเปล่า?



การแปรงฟันแมว จำเป็นหรือไม่?

          การแปรงฟันแมวเลี้ยงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะลักษณะโครงสร้างฟันของแมวมีรอยหยักค่อนข้างมาก ทำให้มีพื้นที่ผิวมาก เอื้อต่อการสะสมแบคทีเรียที่ทำให้เกิดคราบพลาค (Plaque) และกลายเป็นหินปูนได้ในเวลาต่อมา
หากบ้านไหนเลี้ยงแมวด้วยอาหารปรุงเองหรืออาหารเปียก ก็จะยิ่งเร่งให้เกิดคราบพลาคได้ง่าย เราจึงยิ่งควรแปรงฟันให้พวกมัน

แมวอายุเท่าไรถึงควรเริ่มแปรงฟัน?

ผู้เลี้ยงสามารถเริ่มแปรงฟันแมวได้ตั้งแต่แมวเริ่มมีฟันน้ำนม โดยใช้วิธีสร้างความคุ้นเคยที่จะมีสิ่งแปลกปลอมเข้าปากก่อนจะแปรงฟันจริง โดยอาจใช้วิธีจับปากแมวบ่อยๆ เอานิ้วแหย่ปากแมวเบาๆ หัดใช้ไซริงก์ป้อนนมแพะ
เพื่อให้แมวเกิดความเคยชิน เวลาที่เจ้าของจำเป็นต้องทำอะไรสักอย่างกับปากแมว เช่น การป้อนยา การแปรงฟัน จะได้ไม่เกิดปัญหา

การเลือกแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำยาบ้วนปากให้แมว


          การเลือกแปรงสีฟันให้แมวนั้นเลือกไม่ยาก ให้เลือกแปรงที่มีขนแปรงไม่แข็งเกินไปนุ่มพอประมาณ เพื่อไม่ให้เหงือกแมวบาดเจ็บ เลือกแบบมีด้ามหรือไม่มีก็ได้

          ส่วนยาสีฟันที่ใช้ควรเลือกยาสีฟันที่ผลิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ปัจจุบันมีการผลิตออกมาหลายกลิ่นหลายรสเพื่อให้ง่ายต่อการแปรงฟันสัตว์

          ส่วนน้ำยาบ้วนปากอาจไม่จำเป็นสำหรับสัตว์ และไม่มีแบบที่ผิตมาสำหรับสัตว์โดยเฉพาะ ยกเว้นในกรณีที่แมวมีปัญหาในช่องปาก สัตวแพทย์อาจจ่ายน้ำยาบ้วนปาก C20 เพื่อใช้รักษาอาการป่วย

เจลหรือน้ำยาป้องกันการเกิดหินปูน ดีกับแมวจริงไหม?

          ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ที่ช่วยลดการสะสมคราบพลาคเพื่อลดการเกิดหินปูนสำหรับสัตว์เลี้ยง มีทั้งแบบเจลป้ายฟันและแบบน้ำยาผสมน้ำดื่ม

          ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ผลดีในระดับหนึ่ง เหมาะสำหรับสัตว์ที่ยังไม่มีคราบหินปูนสะสม แต่หากมีหินปูนเกาะฟันแล้ว ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะไม่ได้ผล ควรพาไปขูดหินปูน



แมวฟันเหลือง แมวปากเหม็น แปรงฟันช่วยได้ไหม?

          กรณีที่แมวฟันเหลือง อาจต้องพาไปพบสัตวแพทย์ เพื่อตรวจว่าฟันมีสีออกเหลืองจากสาเหตุใด หากเหลืองเนื่องจากการสะสมหินปูนไม่มาก อาจใช้วิธีแปรงฟัน แต่ถ้าสะสมมาก อาจจำเป็นต้องขูดหินปูน

          ส่วนฟันเหลืองจากสาเหตุอื่นที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการแปรงฟัน ได้แก่ ฟันเหลืองเนื่องการชั้นเคลือบฟันสีขาวนวลสึกกร่อนจนมองเห็นชั้นเนื้อฟันสีเหลืองอ่อน ฟันเหลืองเนื่องจากการได้รับสารพิษหรือยาบางชนิด เช่น ยาในกลุ่มเตตระไซคลิน (Tetracyclin) กลุ่มนี้จะฟันเหลืองถาวร

แมวปากเหม็นก็จำเป็นต้องให้สัตวแพทย์ตรวจดูเช่นกัน ว่ากลิ่นปากนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร

          หากกลิ่นปากเกิดจากเศษอาหารตกค้างตามซอกฟัน ก็สามารถแปรงฟันเพื่อลดการสะสมแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นปากได้
แต่ถ้าหากกลิ่นปากมีสาเหตุมาจากความเจ็บป่วยต่างๆ ต้องได้รับการรักษาแก้ไขที่ต้นเหตุ กลิ่นปากจึงจะลดลง
ตัวอย่างความเจ็บป่วยที่ทำให้แมวมีกลิ่นปาก เช่น

•   โรคตับ โรคไต ที่ทำให้เกิดมีของเสียค้างในกระแสเลือดมาก และแพร่ออกมาตามเส้นเลือดฝอยจนมีกลิ่นออกมาทางลมหายใจ
•   ภาวะเหงือกอักเสบที่อาจเกิดจากการมีหินปูนสะสม
•   การติดโรคจากไวรัส
•   ภาวะช่องปากอักเสบจากการบาดเจ็บต่างๆ

ควรแปรงฟันแมวบ่อยแค่ไหน?

          เจ้าของแมวควรแปรงฟันให้แมวอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เช่นเดียวกับคนเพื่อขจัดการสะสมคราบพลาคที่เกิดจากการกินอาหารในแต่ละวัน หากไม่สามารถแปรงได้ทุกวัน ควรใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดฟันแทน

ควรพาแมวไปขูดหินปูนหรือไม่?

          คำตอบคือสมควรเป็นอย่างยิ่ง โดยควรพาแมวไปตรวจสุขภาพช่องปากกับสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในแมวทั่วไป และอย่างน้อยปีละ 2 ครั้งในแมวสูงวัย ส่วนแมวที่มีปัญหาสุขภาพช่องปาก ควรไปตรวจช่องปากทุก 3-4 เดือน
การขูดหินปูนในแมวก็เช่นเดียวกับในสัตว์ชนิดออื่นๆ ที่จำเป็นต้องวางยาสลบ ดังนั้นจึงควรเข้ารับการตรวจเลือด ตรวจสุขภาพ เพื่อ

เตรียมความพร้อมก่อนข้ารับการวางยาสลบ

          ซึ่งภายหลัง การขูดหินปูน คุณจะพบว่าแมวจะมีอาการเหงือกอักเสบได้บางครั้ง เนื่องจากเป็นการขูดที่จำเป็นต้องขูดให้จนถึงซอฟของเหงือก เพื่อที่จำนะหินปูนออกให้หมด และมีการขัดที่พันเหมือนกับคนที่เคยไปขูดหินปูน
โดยสัตวแพทย์จะดูก่อนว่าสภาพของช่องปากของแมว หลังจากการขูดหินปูน ว่าจะต้องได้รีบยาลดอาการอักเสบหรือยาปฏิชีวนะ หรือไม่

          เมื่อคุณอ่านบทความนี้แล้ว คุณคงรู้แล้วว่าควรดูแลน้องแมวของคุณให้ดี และดูแลช่องปากของแมวสุดที่รักของคุณด้วยเช่นกัน หวังว่าบทความนี้จะช่วยในการตัดสินใจในการดูแลช่องปากของน้องแมวของทุกท่านจ้าาาา