แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

4546
5 สัญญาณที่บอกว่า หมาของคุณกำลังเครียด!
หมาของคุณมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมหรือเปล่า มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกำลังรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่มากๆ อยู่ก็ได้ ความเครียดในหมาพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหมาได้ด้วย และนี่คือ 5 สัญญาณของความเครียดและความวิตกกังวลที่พบได้บ่อย เพื่อให้คุณรู้ได้สังเกตและพาหมาของคุณไปรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที


1. ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอื่นๆ 
แม้ว่าอาการเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยหรืออาหารที่หมากินมากกว่า แต่อาการท้องเสียและท้องผูกก็สามารถเกิดจากความเครียดได้ด้วย หากคุณพบว่าอาการท้องเสียหรือท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่หมาของคุณเป็นดูรุนแรงกว่าปกติ ให้รีบไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นติดต่อกันนานเกิน 24 ชั่วโมง หรือเมื่อท้องเสียแบบมีเลือดปน เลือดในอาเจียนและ/หรืออึคือตัวบ่งชี้ถึงความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร



2. มีความอยากอาหารลดลง 
หมาไม่มีความคิดเรื่องการลดน้ำหนักเหมือนกับคนเรา ดังนั้น การที่จู่ๆ หมาของคุณก็ไม่สนใจอาหารหรือหยุดกินอาหารไปเลยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องไปปรึกษาสัตวแพทย์ มันอาจจะมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือภาวะทางสุขภาพที่ยังไม่แสดงอาการก็ได้ ซึ่งรวมไปถึงอาการเบื่ออาหารที่ทำให้หมาของคุณปฏิเสธการกินอาหารโดยสิ้นเชิง และปริมาณอาหารที่มันกินก็น้อยลงจนทำให้น้ำหนักลดลงมาก



3. แยกตัวไปอยู่ตามลำพัง
หมาหลายตัวชอบอยู่ตามลำพังในบางครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น หมาที่ชอบแยกตัวจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หรือคนในบ้านอยู่เสมอก็อาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลหรือเจ็บป่วย สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณระบุสาเหตุของพฤติกรรมแปลกๆ นี้ได้



4. นอนมากขึ้น
เจ้าของหมาทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวลานอนของหมาตัวเองเป็นอย่างดี ลองปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อหมาของคุณนอนมากกว่าปกติ หรือดูเซื่องซึมจนผิดสังเกต อาการเซื่องซึมมักเป็นอาการแสดงแรกเมื่อหมาป่วย บาดเจ็บ หรือทรมานด้วยสาเหตุบางอย่าง และยังเป็นอาการแสดงของโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและตับ เนื้องอก ท้องเสีย อาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ โลหิตจาง และถูกวางยาพิษ



5. แสดงความก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่น
พฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่นก็สามารถเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเครียดหรือความเจ็บป่วยในหมาได้เช่นกัน ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนอาการเลวร้ายลง สัญญาณของความก้าวร้าวมักมาพร้อมกับสีหน้าและท่าทางที่แสดงความหวาดกลัว และท่าทางยอมแพ้ โดยการรักษาพฤติกรรมก้าวร้าวต้องใช้เทคนิคการจัดการพฤติกรรมเพื่อช่วยเหลือหมาที่มีความวิตกกังวลและโกรธ การนำอุปกรณ์อย่างตะกร้อครอบปากมาใช้เสริม จะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคน สัตว์อื่น และแม้แต่ตัวหมาเองได้   

เมื่อหมาเครียดควรทำอย่างไร?
หากพฤติกรรมของหมาคุณเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาอาการเจ็บป่วยที่อาจซ่อนอยู่ รวมถึงคำแนะนำสำหรับลดระดับความเครียดของหมา แต่โดยปกติแล้ว คุณสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้ตามวิธีการดังนี้   
 
เล่นหรือออกกำลังกายกับหมาอย่างสม่ำเสมอ –  กิจกรรมที่ได้ออกแรงสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้เป็นอย่างดี

สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้มัน – กันพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งให้หมาของคุณใช้หลบจากเหตุการณ์ที่ทำให้มันเครียด เช่น เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง หรือจัดงานเลี้ยงที่มีเสียงดัง หาของที่หมาชอบเตรียมไว้ให้และแวะไปดูมันบ่อยๆ หรืออยู่กับมันจนกว่าเหตุการณ์ที่ทำให้หมาเครียดจะผ่านพ้นไป หากทำได้ การที่คุณอยู่กับหมาคือสิ่งที่ทำให้หมาของคุณสบายใจได้มากที่สุดแล้ว

เลือกอาหารหมาที่มีคุณภาพ – อาหารคือส่วนประกอบสำคัญของสุขภาพ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาวะของแต่ละช่วงอายุและรูปแบบการใช้ชีวิตของหมา อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่มองไม่เห็นได้

4547
5 สัญญาณที่บอกว่า หมาของคุณกำลังเครียด!
หมาของคุณมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมหรือเปล่า มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกำลังรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่มากๆ อยู่ก็ได้ ความเครียดในหมาพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหมาได้ด้วย และนี่คือ 5 สัญญาณของความเครียดและความวิตกกังวลที่พบได้บ่อย เพื่อให้คุณรู้ได้สังเกตและพาหมาของคุณไปรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที


1. ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอื่นๆ 
แม้ว่าอาการเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยหรืออาหารที่หมากินมากกว่า แต่อาการท้องเสียและท้องผูกก็สามารถเกิดจากความเครียดได้ด้วย หากคุณพบว่าอาการท้องเสียหรือท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่หมาของคุณเป็นดูรุนแรงกว่าปกติ ให้รีบไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นติดต่อกันนานเกิน 24 ชั่วโมง หรือเมื่อท้องเสียแบบมีเลือดปน เลือดในอาเจียนและ/หรืออึคือตัวบ่งชี้ถึงความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร



2. มีความอยากอาหารลดลง 
หมาไม่มีความคิดเรื่องการลดน้ำหนักเหมือนกับคนเรา ดังนั้น การที่จู่ๆ หมาของคุณก็ไม่สนใจอาหารหรือหยุดกินอาหารไปเลยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องไปปรึกษาสัตวแพทย์ มันอาจจะมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือภาวะทางสุขภาพที่ยังไม่แสดงอาการก็ได้ ซึ่งรวมไปถึงอาการเบื่ออาหารที่ทำให้หมาของคุณปฏิเสธการกินอาหารโดยสิ้นเชิง และปริมาณอาหารที่มันกินก็น้อยลงจนทำให้น้ำหนักลดลงมาก



3. แยกตัวไปอยู่ตามลำพัง
หมาหลายตัวชอบอยู่ตามลำพังในบางครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น หมาที่ชอบแยกตัวจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หรือคนในบ้านอยู่เสมอก็อาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลหรือเจ็บป่วย สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณระบุสาเหตุของพฤติกรรมแปลกๆ นี้ได้



4. นอนมากขึ้น
เจ้าของหมาทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวลานอนของหมาตัวเองเป็นอย่างดี ลองปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อหมาของคุณนอนมากกว่าปกติ หรือดูเซื่องซึมจนผิดสังเกต อาการเซื่องซึมมักเป็นอาการแสดงแรกเมื่อหมาป่วย บาดเจ็บ หรือทรมานด้วยสาเหตุบางอย่าง และยังเป็นอาการแสดงของโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและตับ เนื้องอก ท้องเสีย อาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ โลหิตจาง และถูกวางยาพิษ



5. แสดงความก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่น
พฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่นก็สามารถเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเครียดหรือความเจ็บป่วยในหมาได้เช่นกัน ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนอาการเลวร้ายลง สัญญาณของความก้าวร้าวมักมาพร้อมกับสีหน้าและท่าทางที่แสดงความหวาดกลัว และท่าทางยอมแพ้ โดยการรักษาพฤติกรรมก้าวร้าวต้องใช้เทคนิคการจัดการพฤติกรรมเพื่อช่วยเหลือหมาที่มีความวิตกกังวลและโกรธ การนำอุปกรณ์อย่างตะกร้อครอบปากมาใช้เสริม จะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคน สัตว์อื่น และแม้แต่ตัวหมาเองได้   

เมื่อหมาเครียดควรทำอย่างไร?
หากพฤติกรรมของหมาคุณเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาอาการเจ็บป่วยที่อาจซ่อนอยู่ รวมถึงคำแนะนำสำหรับลดระดับความเครียดของหมา แต่โดยปกติแล้ว คุณสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้ตามวิธีการดังนี้   
 
เล่นหรือออกกำลังกายกับหมาอย่างสม่ำเสมอ –  กิจกรรมที่ได้ออกแรงสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้เป็นอย่างดี

สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้มัน – กันพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งให้หมาของคุณใช้หลบจากเหตุการณ์ที่ทำให้มันเครียด เช่น เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง หรือจัดงานเลี้ยงที่มีเสียงดัง หาของที่หมาชอบเตรียมไว้ให้และแวะไปดูมันบ่อยๆ หรืออยู่กับมันจนกว่าเหตุการณ์ที่ทำให้หมาเครียดจะผ่านพ้นไป หากทำได้ การที่คุณอยู่กับหมาคือสิ่งที่ทำให้หมาของคุณสบายใจได้มากที่สุดแล้ว

เลือกอาหารหมาที่มีคุณภาพ – อาหารคือส่วนประกอบสำคัญของสุขภาพ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาวะของแต่ละช่วงอายุและรูปแบบการใช้ชีวิตของหมา อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่มองไม่เห็นได้

4548
5 สัญญาณที่บอกว่า หมาของคุณกำลังเครียด!
หมาของคุณมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมหรือเปล่า มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกำลังรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่มากๆ อยู่ก็ได้ ความเครียดในหมาพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหมาได้ด้วย และนี่คือ 5 สัญญาณของความเครียดและความวิตกกังวลที่พบได้บ่อย เพื่อให้คุณรู้ได้สังเกตและพาหมาของคุณไปรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที


1. ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอื่นๆ 
แม้ว่าอาการเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยหรืออาหารที่หมากินมากกว่า แต่อาการท้องเสียและท้องผูกก็สามารถเกิดจากความเครียดได้ด้วย หากคุณพบว่าอาการท้องเสียหรือท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่หมาของคุณเป็นดูรุนแรงกว่าปกติ ให้รีบไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นติดต่อกันนานเกิน 24 ชั่วโมง หรือเมื่อท้องเสียแบบมีเลือดปน เลือดในอาเจียนและ/หรืออึคือตัวบ่งชี้ถึงความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร



2. มีความอยากอาหารลดลง 
หมาไม่มีความคิดเรื่องการลดน้ำหนักเหมือนกับคนเรา ดังนั้น การที่จู่ๆ หมาของคุณก็ไม่สนใจอาหารหรือหยุดกินอาหารไปเลยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องไปปรึกษาสัตวแพทย์ มันอาจจะมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือภาวะทางสุขภาพที่ยังไม่แสดงอาการก็ได้ ซึ่งรวมไปถึงอาการเบื่ออาหารที่ทำให้หมาของคุณปฏิเสธการกินอาหารโดยสิ้นเชิง และปริมาณอาหารที่มันกินก็น้อยลงจนทำให้น้ำหนักลดลงมาก



3. แยกตัวไปอยู่ตามลำพัง
หมาหลายตัวชอบอยู่ตามลำพังในบางครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น หมาที่ชอบแยกตัวจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หรือคนในบ้านอยู่เสมอก็อาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลหรือเจ็บป่วย สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณระบุสาเหตุของพฤติกรรมแปลกๆ นี้ได้



4. นอนมากขึ้น
เจ้าของหมาทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวลานอนของหมาตัวเองเป็นอย่างดี ลองปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อหมาของคุณนอนมากกว่าปกติ หรือดูเซื่องซึมจนผิดสังเกต อาการเซื่องซึมมักเป็นอาการแสดงแรกเมื่อหมาป่วย บาดเจ็บ หรือทรมานด้วยสาเหตุบางอย่าง และยังเป็นอาการแสดงของโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและตับ เนื้องอก ท้องเสีย อาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ โลหิตจาง และถูกวางยาพิษ



5. แสดงความก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่น
พฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่นก็สามารถเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเครียดหรือความเจ็บป่วยในหมาได้เช่นกัน ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนอาการเลวร้ายลง สัญญาณของความก้าวร้าวมักมาพร้อมกับสีหน้าและท่าทางที่แสดงความหวาดกลัว และท่าทางยอมแพ้ โดยการรักษาพฤติกรรมก้าวร้าวต้องใช้เทคนิคการจัดการพฤติกรรมเพื่อช่วยเหลือหมาที่มีความวิตกกังวลและโกรธ การนำอุปกรณ์อย่างตะกร้อครอบปากมาใช้เสริม จะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคน สัตว์อื่น และแม้แต่ตัวหมาเองได้   

เมื่อหมาเครียดควรทำอย่างไร?
หากพฤติกรรมของหมาคุณเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาอาการเจ็บป่วยที่อาจซ่อนอยู่ รวมถึงคำแนะนำสำหรับลดระดับความเครียดของหมา แต่โดยปกติแล้ว คุณสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้ตามวิธีการดังนี้   
 
เล่นหรือออกกำลังกายกับหมาอย่างสม่ำเสมอ –  กิจกรรมที่ได้ออกแรงสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้เป็นอย่างดี

สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้มัน – กันพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งให้หมาของคุณใช้หลบจากเหตุการณ์ที่ทำให้มันเครียด เช่น เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง หรือจัดงานเลี้ยงที่มีเสียงดัง หาของที่หมาชอบเตรียมไว้ให้และแวะไปดูมันบ่อยๆ หรืออยู่กับมันจนกว่าเหตุการณ์ที่ทำให้หมาเครียดจะผ่านพ้นไป หากทำได้ การที่คุณอยู่กับหมาคือสิ่งที่ทำให้หมาของคุณสบายใจได้มากที่สุดแล้ว

เลือกอาหารหมาที่มีคุณภาพ – อาหารคือส่วนประกอบสำคัญของสุขภาพ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาวะของแต่ละช่วงอายุและรูปแบบการใช้ชีวิตของหมา อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่มองไม่เห็นได้

4549
คุณรู้หรือไม่ว่า “ไซบีเรียน ฮัสกี้” เป็นหมาที่บินได้.

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีความสุขที่สุดโดยการแสดงออกจากทางท่าทาง และสีหน้าของมัน หากคุณเคยเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเคยพบเจอมัน คุณจะสามารถบอกทันทีได้ว่ามันติงต๊อง พวกเขาเป็นเหมือนเด็กทารกที่ชอบเล่นซน (ซนจนข้าวของเสียหายหลายหมื่น) เอาล่ะวันนี้เราได้นำรูปมาให้ดูว่าเด็กซนเหล่านี้เค้าสามารถท้าทายกฎของฟิสิกส์ ได้นะ ภาพด้านล่างนี้จะทำให้คุณลืมทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงทั้งหมดเลยก็ว่าได้

1.   น้ำเนี่ยของชอบมาก


2.   คุณเห็นหรือยังว่านู๋บินได้จริงๆ


3.   นี่อายุยังน้อย แค่ซ้อมๆ


4.   เหมือน UFO กำลังดูดขึ้นไป

s
5.   ยิ่งนู๋คึก นู๋ยิ่งบินสูงนะมี๊


6.   i believe i can fly


7.   อยากเห็นไซบีเรียนคนไทยบินได้ Cr.พี่ตูนไม่ได้กล่าว

8.   นู๋เก่งไหมมี๊


4550
คุณรู้หรือไม่ว่า “ไซบีเรียน ฮัสกี้” เป็นหมาที่บินได้.

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีความสุขที่สุดโดยการแสดงออกจากทางท่าทาง และสีหน้าของมัน หากคุณเคยเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเคยพบเจอมัน คุณจะสามารถบอกทันทีได้ว่ามันติงต๊อง พวกเขาเป็นเหมือนเด็กทารกที่ชอบเล่นซน (ซนจนข้าวของเสียหายหลายหมื่น) เอาล่ะวันนี้เราได้นำรูปมาให้ดูว่าเด็กซนเหล่านี้เค้าสามารถท้าทายกฎของฟิสิกส์ ได้นะ ภาพด้านล่างนี้จะทำให้คุณลืมทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงทั้งหมดเลยก็ว่าได้

1.   น้ำเนี่ยของชอบมาก


2.   คุณเห็นหรือยังว่านู๋บินได้จริงๆ


3.   นี่อายุยังน้อย แค่ซ้อมๆ


4.   เหมือน UFO กำลังดูดขึ้นไป

s
5.   ยิ่งนู๋คึก นู๋ยิ่งบินสูงนะมี๊


6.   i believe i can fly


7.   อยากเห็นไซบีเรียนคนไทยบินได้ Cr.พี่ตูนไม่ได้กล่าว

8.   นู๋เก่งไหมมี๊


4551
คุณรู้หรือไม่ว่า “ไซบีเรียน ฮัสกี้” เป็นหมาที่บินได้.

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีความสุขที่สุดโดยการแสดงออกจากทางท่าทาง และสีหน้าของมัน หากคุณเคยเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเคยพบเจอมัน คุณจะสามารถบอกทันทีได้ว่ามันติงต๊อง พวกเขาเป็นเหมือนเด็กทารกที่ชอบเล่นซน (ซนจนข้าวของเสียหายหลายหมื่น) เอาล่ะวันนี้เราได้นำรูปมาให้ดูว่าเด็กซนเหล่านี้เค้าสามารถท้าทายกฎของฟิสิกส์ ได้นะ ภาพด้านล่างนี้จะทำให้คุณลืมทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงทั้งหมดเลยก็ว่าได้

1.   น้ำเนี่ยของชอบมาก


2.   คุณเห็นหรือยังว่านู๋บินได้จริงๆ


3.   นี่อายุยังน้อย แค่ซ้อมๆ


4.   เหมือน UFO กำลังดูดขึ้นไป

s
5.   ยิ่งนู๋คึก นู๋ยิ่งบินสูงนะมี๊


6.   i believe i can fly


7.   อยากเห็นไซบีเรียนคนไทยบินได้ Cr.พี่ตูนไม่ได้กล่าว

8.   นู๋เก่งไหมมี๊


4552
คุณรู้หรือไม่ว่า “ไซบีเรียน ฮัสกี้” เป็นหมาที่บินได้.

ไซบีเรียน ฮัสกี้ เป็นหนึ่งในสายพันธุ์สุนัขที่มีความสุขที่สุดโดยการแสดงออกจากทางท่าทาง และสีหน้าของมัน หากคุณเคยเลี้ยง ไซบีเรียน ฮัสกี้ หรือเคยพบเจอมัน คุณจะสามารถบอกทันทีได้ว่ามันติงต๊อง พวกเขาเป็นเหมือนเด็กทารกที่ชอบเล่นซน (ซนจนข้าวของเสียหายหลายหมื่น) เอาล่ะวันนี้เราได้นำรูปมาให้ดูว่าเด็กซนเหล่านี้เค้าสามารถท้าทายกฎของฟิสิกส์ ได้นะ ภาพด้านล่างนี้จะทำให้คุณลืมทฤษฎีเกี่ยวกับแรงโน้มถ่วงทั้งหมดเลยก็ว่าได้

1.   น้ำเนี่ยของชอบมาก


2.   คุณเห็นหรือยังว่านู๋บินได้จริงๆ


3.   นี่อายุยังน้อย แค่ซ้อมๆ


4.   เหมือน UFO กำลังดูดขึ้นไป

s
5.   ยิ่งนู๋คึก นู๋ยิ่งบินสูงนะมี๊


6.   i believe i can fly


7.   อยากเห็นไซบีเรียนคนไทยบินได้ Cr.พี่ตูนไม่ได้กล่าว

8.   นู๋เก่งไหมมี๊


4553
ให้หมากินเนื้อติดกระดูกแบบดิบๆ ปลอดภัยหรือไม่
คำถามนี้ตอบได้ยากมาก คำตอบอย่างกว้างๆ ก็น่าจะเป็นว่า ขึ้นอยู่กับหมาแต่ละตัวด้วย หมาหลายตัวสุขภาพดีขึ้นเมื่อได้กินเนื้อและกระดูกดิบ แต่ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่า หมาฟันแตกเพราะแทะกระดูกที่แข็งเกินไปเช่นกัน ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งจากการกินกระดูกดิบก็คือ มีเศษกระดูกติดค้างในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย และนี่คือข้อดีและข้อเสียของการให้หมากินกระดูกดิบ เพื่อประกอบการพิจารณาว่า คุณควรจะให้กระดูกดิบหรือเนื้อติดกระดูกดิบกับหมาของคุณหรือไม่



กระดูกเพื่อการดูแลสุขภาพฟัน
โรคเกี่ยวกับฟันเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง สัตว์เลี้ยงกว่า 80% มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันเมื่อมีอายุเกิน 3 ปี โรคภายในช่องปากไม่เพียงแต่ทำให้เกิดกลิ่นปากเหม็นๆ เท่านั้น แต่โรคเหงือกสามารถทำลายอวัยวะภายในของหมาได้ และหนึ่งในวิธีทำความสะอาดฟันโดยธรรมชาติของหมาของคุณก็คือ การทำความสะอาดฟันผ่านทางการเคี้ยว

โดยปกติแล้ว อาการเหงือกอักเสบในสัตว์เลี้ยงจะเริ่มจากตามขอบเหงือก ดังนั้น เมื่อหมาของคุณเคี้ยว มันจำเป็นต้องกัดจนถึงฐานฟันจริงๆ ฟันส่วนใหญ่ของหมาและแมวเป็นฟันตัดที่ออกแบบมาเพื่อการฉีกและเคี้ยวเนื้อและกระดูก การให้หมากินเนื้อดิบชิ้นใหญ่ที่ติดกระดูก หรือได้กัดคอหรือปีกไก่ดิบจึงจะนับได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด



กระดูกทำให้ฟันหมาเสียหายหรือไม่
กระดูกแข็งๆ ชิ้นใหญ่สามารทำให้ฟันของหมาบางตัวแตกร้าวได้ กระดูกหน้าแข้งของวัวหรือกระดูกที่มีลักษณะเดียวกันนี้แข็งแรงพอที่จะสามารถรับน้ำหนักของวัวทั้งตัวได้ ดังนั้นจึงถือว่าได้ว่ามันเป็นกระดูกที่มีความแข็งสูงมาก หมาหลายตัวสามารถเคี้ยวกระดูกแบบนี้ได้โดยไม่มีปัญหาเลยตลอดชั่วชีวิตของมัน แต่ความเจ็บปวดจากฟันร้าวจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลยเช่นกัน

กระดูกที่ถูกทำให้สุกแล้วจะมีความแข็งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น หากจะให้หมาของคุณกินกระดูก ก็ต้องให้แบบดิบเสมอ และคุณยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันแตกร้าวได้โดยการให้กระดูกส่วนที่มีความอ่อนนุ่มอยู่ เช่น กระดูกหน้าอก คอหรือปีกไก่ดิบ หรือใช้วิธีเฝ้าสังเกตเมื่อหมาของคุณแทะเนื้อติดกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาแทะเนื้อหมดแล้ว กระดูกที่ถูกทิ้งไว้กลางแดดก็จะมีความแข็งมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะทำให้ฟันเสียหายได้เช่นกัน

กระดูกเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบได้หรือไม่?
หมาเป็นสัตว์ที่ฉลาดพอที่จะเก็บอาหารที่กินเหลือเอาไว้กินในภายหลัง และก็เป็นที่รู้กันดีว่า พวกมันชอบฝังกระดูกชิ้นโปรดเอาไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งในสวนของคุณ กระดูกที่ฝังอยู่ใต้ดินเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก และอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เมื่อหมาของคุณขุดมันขึ้นมากินในภายหลัง การเฝ้าสังเกตทุกครั้งที่หมาของคุณกินกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาของคุณกินเสร็จสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี

คุณภาพของเนื้อติดกระดูกก็ส่งผลต่อสุขภาพของหมาได้เช่นกัน กระดูกที่สดและคุณภาพดีมักจะไม่ทำให้เกิดอาการกระเพาะและลำไส้อักเสบ หากกระดูกชิ้นนั้นเก่าแล้วหรือเริ่มส่งกลิ่นเหม็น อย่าเอาให้หมาของคุณกินเด็ดขาด แม้ว่าหมาจะมีวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยการกินเนื้อดิบ และสามารถทนทานต่อแบคทีเรียที่อยู่บนอาหารได้ แต่ด้วยกระบวนการถนอมอาหารที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เนื้อที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีความสดใหม่เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว กว่าเนื้อสัตว์จะถูกส่งต่อจากโรงฆ่าสัตว์มาถึงบ้านคุณ มันก็ต้องผ่านกระบวนการมากมายเพื่อให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น

สารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในเนื้อแปรรูปอย่างไส้กรอก เนื้อบดสำเร็จรูป ปลา ไข่ และไก่ ดังนั้น แม้ว่าการให้หมากินคอหรือปีกไก่สดอาจจะดีต่อฟันของมัน แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของอาหารเป็นพิษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อไก่ ที่มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียที่เป็นเชื้อโรคมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น คุณจึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของการให้หมากินเนื้อดิบให้ดี

ข้อดีของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- มีสุขภาพฟันที่ดี
- ได้กินอาหารตามธรรมชาติของหมา

ข้อเสียของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- ความเสี่ยงเรื่องฟันแตกร้าว
- ความเสี่ยงเรื่องการย่อยอาหารและกระเพาะและลำไส้อักเสบ
- อาจได้รับสารอาหารไม่ควบถ้วน
- มีราคาแพง



4554
ให้หมากินเนื้อติดกระดูกแบบดิบๆ ปลอดภัยหรือไม่
คำถามนี้ตอบได้ยากมาก คำตอบอย่างกว้างๆ ก็น่าจะเป็นว่า ขึ้นอยู่กับหมาแต่ละตัวด้วย หมาหลายตัวสุขภาพดีขึ้นเมื่อได้กินเนื้อและกระดูกดิบ แต่ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่า หมาฟันแตกเพราะแทะกระดูกที่แข็งเกินไปเช่นกัน ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งจากการกินกระดูกดิบก็คือ มีเศษกระดูกติดค้างในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย และนี่คือข้อดีและข้อเสียของการให้หมากินกระดูกดิบ เพื่อประกอบการพิจารณาว่า คุณควรจะให้กระดูกดิบหรือเนื้อติดกระดูกดิบกับหมาของคุณหรือไม่



กระดูกเพื่อการดูแลสุขภาพฟัน
โรคเกี่ยวกับฟันเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง สัตว์เลี้ยงกว่า 80% มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันเมื่อมีอายุเกิน 3 ปี โรคภายในช่องปากไม่เพียงแต่ทำให้เกิดกลิ่นปากเหม็นๆ เท่านั้น แต่โรคเหงือกสามารถทำลายอวัยวะภายในของหมาได้ และหนึ่งในวิธีทำความสะอาดฟันโดยธรรมชาติของหมาของคุณก็คือ การทำความสะอาดฟันผ่านทางการเคี้ยว

โดยปกติแล้ว อาการเหงือกอักเสบในสัตว์เลี้ยงจะเริ่มจากตามขอบเหงือก ดังนั้น เมื่อหมาของคุณเคี้ยว มันจำเป็นต้องกัดจนถึงฐานฟันจริงๆ ฟันส่วนใหญ่ของหมาและแมวเป็นฟันตัดที่ออกแบบมาเพื่อการฉีกและเคี้ยวเนื้อและกระดูก การให้หมากินเนื้อดิบชิ้นใหญ่ที่ติดกระดูก หรือได้กัดคอหรือปีกไก่ดิบจึงจะนับได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด



กระดูกทำให้ฟันหมาเสียหายหรือไม่
กระดูกแข็งๆ ชิ้นใหญ่สามารทำให้ฟันของหมาบางตัวแตกร้าวได้ กระดูกหน้าแข้งของวัวหรือกระดูกที่มีลักษณะเดียวกันนี้แข็งแรงพอที่จะสามารถรับน้ำหนักของวัวทั้งตัวได้ ดังนั้นจึงถือว่าได้ว่ามันเป็นกระดูกที่มีความแข็งสูงมาก หมาหลายตัวสามารถเคี้ยวกระดูกแบบนี้ได้โดยไม่มีปัญหาเลยตลอดชั่วชีวิตของมัน แต่ความเจ็บปวดจากฟันร้าวจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลยเช่นกัน

กระดูกที่ถูกทำให้สุกแล้วจะมีความแข็งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น หากจะให้หมาของคุณกินกระดูก ก็ต้องให้แบบดิบเสมอ และคุณยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันแตกร้าวได้โดยการให้กระดูกส่วนที่มีความอ่อนนุ่มอยู่ เช่น กระดูกหน้าอก คอหรือปีกไก่ดิบ หรือใช้วิธีเฝ้าสังเกตเมื่อหมาของคุณแทะเนื้อติดกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาแทะเนื้อหมดแล้ว กระดูกที่ถูกทิ้งไว้กลางแดดก็จะมีความแข็งมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะทำให้ฟันเสียหายได้เช่นกัน

กระดูกเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบได้หรือไม่?
หมาเป็นสัตว์ที่ฉลาดพอที่จะเก็บอาหารที่กินเหลือเอาไว้กินในภายหลัง และก็เป็นที่รู้กันดีว่า พวกมันชอบฝังกระดูกชิ้นโปรดเอาไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งในสวนของคุณ กระดูกที่ฝังอยู่ใต้ดินเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก และอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เมื่อหมาของคุณขุดมันขึ้นมากินในภายหลัง การเฝ้าสังเกตทุกครั้งที่หมาของคุณกินกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาของคุณกินเสร็จสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี

คุณภาพของเนื้อติดกระดูกก็ส่งผลต่อสุขภาพของหมาได้เช่นกัน กระดูกที่สดและคุณภาพดีมักจะไม่ทำให้เกิดอาการกระเพาะและลำไส้อักเสบ หากกระดูกชิ้นนั้นเก่าแล้วหรือเริ่มส่งกลิ่นเหม็น อย่าเอาให้หมาของคุณกินเด็ดขาด แม้ว่าหมาจะมีวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยการกินเนื้อดิบ และสามารถทนทานต่อแบคทีเรียที่อยู่บนอาหารได้ แต่ด้วยกระบวนการถนอมอาหารที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เนื้อที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีความสดใหม่เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว กว่าเนื้อสัตว์จะถูกส่งต่อจากโรงฆ่าสัตว์มาถึงบ้านคุณ มันก็ต้องผ่านกระบวนการมากมายเพื่อให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น

สารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในเนื้อแปรรูปอย่างไส้กรอก เนื้อบดสำเร็จรูป ปลา ไข่ และไก่ ดังนั้น แม้ว่าการให้หมากินคอหรือปีกไก่สดอาจจะดีต่อฟันของมัน แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของอาหารเป็นพิษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อไก่ ที่มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียที่เป็นเชื้อโรคมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น คุณจึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของการให้หมากินเนื้อดิบให้ดี

ข้อดีของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- มีสุขภาพฟันที่ดี
- ได้กินอาหารตามธรรมชาติของหมา

ข้อเสียของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- ความเสี่ยงเรื่องฟันแตกร้าว
- ความเสี่ยงเรื่องการย่อยอาหารและกระเพาะและลำไส้อักเสบ
- อาจได้รับสารอาหารไม่ควบถ้วน
- มีราคาแพง



4555
ให้หมากินเนื้อติดกระดูกแบบดิบๆ ปลอดภัยหรือไม่
คำถามนี้ตอบได้ยากมาก คำตอบอย่างกว้างๆ ก็น่าจะเป็นว่า ขึ้นอยู่กับหมาแต่ละตัวด้วย หมาหลายตัวสุขภาพดีขึ้นเมื่อได้กินเนื้อและกระดูกดิบ แต่ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่า หมาฟันแตกเพราะแทะกระดูกที่แข็งเกินไปเช่นกัน ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งจากการกินกระดูกดิบก็คือ มีเศษกระดูกติดค้างในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย และนี่คือข้อดีและข้อเสียของการให้หมากินกระดูกดิบ เพื่อประกอบการพิจารณาว่า คุณควรจะให้กระดูกดิบหรือเนื้อติดกระดูกดิบกับหมาของคุณหรือไม่



กระดูกเพื่อการดูแลสุขภาพฟัน
โรคเกี่ยวกับฟันเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง สัตว์เลี้ยงกว่า 80% มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันเมื่อมีอายุเกิน 3 ปี โรคภายในช่องปากไม่เพียงแต่ทำให้เกิดกลิ่นปากเหม็นๆ เท่านั้น แต่โรคเหงือกสามารถทำลายอวัยวะภายในของหมาได้ และหนึ่งในวิธีทำความสะอาดฟันโดยธรรมชาติของหมาของคุณก็คือ การทำความสะอาดฟันผ่านทางการเคี้ยว

โดยปกติแล้ว อาการเหงือกอักเสบในสัตว์เลี้ยงจะเริ่มจากตามขอบเหงือก ดังนั้น เมื่อหมาของคุณเคี้ยว มันจำเป็นต้องกัดจนถึงฐานฟันจริงๆ ฟันส่วนใหญ่ของหมาและแมวเป็นฟันตัดที่ออกแบบมาเพื่อการฉีกและเคี้ยวเนื้อและกระดูก การให้หมากินเนื้อดิบชิ้นใหญ่ที่ติดกระดูก หรือได้กัดคอหรือปีกไก่ดิบจึงจะนับได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด



กระดูกทำให้ฟันหมาเสียหายหรือไม่
กระดูกแข็งๆ ชิ้นใหญ่สามารทำให้ฟันของหมาบางตัวแตกร้าวได้ กระดูกหน้าแข้งของวัวหรือกระดูกที่มีลักษณะเดียวกันนี้แข็งแรงพอที่จะสามารถรับน้ำหนักของวัวทั้งตัวได้ ดังนั้นจึงถือว่าได้ว่ามันเป็นกระดูกที่มีความแข็งสูงมาก หมาหลายตัวสามารถเคี้ยวกระดูกแบบนี้ได้โดยไม่มีปัญหาเลยตลอดชั่วชีวิตของมัน แต่ความเจ็บปวดจากฟันร้าวจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลยเช่นกัน

กระดูกที่ถูกทำให้สุกแล้วจะมีความแข็งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น หากจะให้หมาของคุณกินกระดูก ก็ต้องให้แบบดิบเสมอ และคุณยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันแตกร้าวได้โดยการให้กระดูกส่วนที่มีความอ่อนนุ่มอยู่ เช่น กระดูกหน้าอก คอหรือปีกไก่ดิบ หรือใช้วิธีเฝ้าสังเกตเมื่อหมาของคุณแทะเนื้อติดกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาแทะเนื้อหมดแล้ว กระดูกที่ถูกทิ้งไว้กลางแดดก็จะมีความแข็งมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะทำให้ฟันเสียหายได้เช่นกัน

กระดูกเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบได้หรือไม่?
หมาเป็นสัตว์ที่ฉลาดพอที่จะเก็บอาหารที่กินเหลือเอาไว้กินในภายหลัง และก็เป็นที่รู้กันดีว่า พวกมันชอบฝังกระดูกชิ้นโปรดเอาไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งในสวนของคุณ กระดูกที่ฝังอยู่ใต้ดินเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก และอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เมื่อหมาของคุณขุดมันขึ้นมากินในภายหลัง การเฝ้าสังเกตทุกครั้งที่หมาของคุณกินกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาของคุณกินเสร็จสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี

คุณภาพของเนื้อติดกระดูกก็ส่งผลต่อสุขภาพของหมาได้เช่นกัน กระดูกที่สดและคุณภาพดีมักจะไม่ทำให้เกิดอาการกระเพาะและลำไส้อักเสบ หากกระดูกชิ้นนั้นเก่าแล้วหรือเริ่มส่งกลิ่นเหม็น อย่าเอาให้หมาของคุณกินเด็ดขาด แม้ว่าหมาจะมีวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยการกินเนื้อดิบ และสามารถทนทานต่อแบคทีเรียที่อยู่บนอาหารได้ แต่ด้วยกระบวนการถนอมอาหารที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เนื้อที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีความสดใหม่เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว กว่าเนื้อสัตว์จะถูกส่งต่อจากโรงฆ่าสัตว์มาถึงบ้านคุณ มันก็ต้องผ่านกระบวนการมากมายเพื่อให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น

สารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในเนื้อแปรรูปอย่างไส้กรอก เนื้อบดสำเร็จรูป ปลา ไข่ และไก่ ดังนั้น แม้ว่าการให้หมากินคอหรือปีกไก่สดอาจจะดีต่อฟันของมัน แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของอาหารเป็นพิษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อไก่ ที่มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียที่เป็นเชื้อโรคมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น คุณจึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของการให้หมากินเนื้อดิบให้ดี

ข้อดีของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- มีสุขภาพฟันที่ดี
- ได้กินอาหารตามธรรมชาติของหมา

ข้อเสียของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- ความเสี่ยงเรื่องฟันแตกร้าว
- ความเสี่ยงเรื่องการย่อยอาหารและกระเพาะและลำไส้อักเสบ
- อาจได้รับสารอาหารไม่ควบถ้วน
- มีราคาแพง



4556
ให้หมากินเนื้อติดกระดูกแบบดิบๆ ปลอดภัยหรือไม่
คำถามนี้ตอบได้ยากมาก คำตอบอย่างกว้างๆ ก็น่าจะเป็นว่า ขึ้นอยู่กับหมาแต่ละตัวด้วย หมาหลายตัวสุขภาพดีขึ้นเมื่อได้กินเนื้อและกระดูกดิบ แต่ก็มีตัวอย่างให้เห็นมากมายว่า หมาฟันแตกเพราะแทะกระดูกที่แข็งเกินไปเช่นกัน ความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งจากการกินกระดูกดิบก็คือ มีเศษกระดูกติดค้างในลำไส้หรือกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ ยังมีความเสี่ยงต่อภาวะกระเพาะอาหารและลำไส้อักเสบได้อีกด้วย และนี่คือข้อดีและข้อเสียของการให้หมากินกระดูกดิบ เพื่อประกอบการพิจารณาว่า คุณควรจะให้กระดูกดิบหรือเนื้อติดกระดูกดิบกับหมาของคุณหรือไม่



กระดูกเพื่อการดูแลสุขภาพฟัน
โรคเกี่ยวกับฟันเป็นปัญหาสุขภาพที่สำคัญอย่างยิ่ง สัตว์เลี้ยงกว่า 80% มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพฟันเมื่อมีอายุเกิน 3 ปี โรคภายในช่องปากไม่เพียงแต่ทำให้เกิดกลิ่นปากเหม็นๆ เท่านั้น แต่โรคเหงือกสามารถทำลายอวัยวะภายในของหมาได้ และหนึ่งในวิธีทำความสะอาดฟันโดยธรรมชาติของหมาของคุณก็คือ การทำความสะอาดฟันผ่านทางการเคี้ยว

โดยปกติแล้ว อาการเหงือกอักเสบในสัตว์เลี้ยงจะเริ่มจากตามขอบเหงือก ดังนั้น เมื่อหมาของคุณเคี้ยว มันจำเป็นต้องกัดจนถึงฐานฟันจริงๆ ฟันส่วนใหญ่ของหมาและแมวเป็นฟันตัดที่ออกแบบมาเพื่อการฉีกและเคี้ยวเนื้อและกระดูก การให้หมากินเนื้อดิบชิ้นใหญ่ที่ติดกระดูก หรือได้กัดคอหรือปีกไก่ดิบจึงจะนับได้ว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด



กระดูกทำให้ฟันหมาเสียหายหรือไม่
กระดูกแข็งๆ ชิ้นใหญ่สามารทำให้ฟันของหมาบางตัวแตกร้าวได้ กระดูกหน้าแข้งของวัวหรือกระดูกที่มีลักษณะเดียวกันนี้แข็งแรงพอที่จะสามารถรับน้ำหนักของวัวทั้งตัวได้ ดังนั้นจึงถือว่าได้ว่ามันเป็นกระดูกที่มีความแข็งสูงมาก หมาหลายตัวสามารถเคี้ยวกระดูกแบบนี้ได้โดยไม่มีปัญหาเลยตลอดชั่วชีวิตของมัน แต่ความเจ็บปวดจากฟันร้าวจะเกิดขึ้นเมื่อไรนั้นก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เลยเช่นกัน

กระดูกที่ถูกทำให้สุกแล้วจะมีความแข็งเพิ่มขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น หากจะให้หมาของคุณกินกระดูก ก็ต้องให้แบบดิบเสมอ และคุณยังสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดฟันแตกร้าวได้โดยการให้กระดูกส่วนที่มีความอ่อนนุ่มอยู่ เช่น กระดูกหน้าอก คอหรือปีกไก่ดิบ หรือใช้วิธีเฝ้าสังเกตเมื่อหมาของคุณแทะเนื้อติดกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาแทะเนื้อหมดแล้ว กระดูกที่ถูกทิ้งไว้กลางแดดก็จะมีความแข็งมากขึ้นและมีแนวโน้มที่จะทำให้ฟันเสียหายได้เช่นกัน

กระดูกเป็นสาเหตุที่ทำให้กระเพาะและลำไส้อักเสบได้หรือไม่?
หมาเป็นสัตว์ที่ฉลาดพอที่จะเก็บอาหารที่กินเหลือเอาไว้กินในภายหลัง และก็เป็นที่รู้กันดีว่า พวกมันชอบฝังกระดูกชิ้นโปรดเอาไว้ที่มุมใดมุมหนึ่งในสวนของคุณ กระดูกที่ฝังอยู่ใต้ดินเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก และอาจเป็นสาเหตุของอาการป่วยเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เมื่อหมาของคุณขุดมันขึ้นมากินในภายหลัง การเฝ้าสังเกตทุกครั้งที่หมาของคุณกินกระดูก และนำกระดูกไปทิ้งเมื่อหมาของคุณกินเสร็จสามารถช่วยลดปัญหานี้ได้เป็นอย่างดี

คุณภาพของเนื้อติดกระดูกก็ส่งผลต่อสุขภาพของหมาได้เช่นกัน กระดูกที่สดและคุณภาพดีมักจะไม่ทำให้เกิดอาการกระเพาะและลำไส้อักเสบ หากกระดูกชิ้นนั้นเก่าแล้วหรือเริ่มส่งกลิ่นเหม็น อย่าเอาให้หมาของคุณกินเด็ดขาด แม้ว่าหมาจะมีวิวัฒนาการผ่านช่วงเวลาอันยาวนานมาด้วยการกินเนื้อดิบ และสามารถทนทานต่อแบคทีเรียที่อยู่บนอาหารได้ แต่ด้วยกระบวนการถนอมอาหารที่มีความทันสมัยมากขึ้น ทำให้เนื้อที่เรากินกันอยู่ทุกวันนี้ไม่ได้มีความสดใหม่เหมือนที่เคยเป็นมาอีกแล้ว กว่าเนื้อสัตว์จะถูกส่งต่อจากโรงฆ่าสัตว์มาถึงบ้านคุณ มันก็ต้องผ่านกระบวนการมากมายเพื่อให้สามารถเก็บรักษาได้นานขึ้น

สารที่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ จะเพิ่มมากขึ้นไปอีกในเนื้อแปรรูปอย่างไส้กรอก เนื้อบดสำเร็จรูป ปลา ไข่ และไก่ ดังนั้น แม้ว่าการให้หมากินคอหรือปีกไก่สดอาจจะดีต่อฟันของมัน แต่ก็ทำให้มีความเสี่ยงในเรื่องของอาหารเป็นพิษเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื้อไก่ ที่มีแนวโน้มที่จะมีแบคทีเรียที่เป็นเชื้อโรคมากกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น คุณจึงจำเป็นต้องชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของการให้หมากินเนื้อดิบให้ดี

ข้อดีของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- มีสุขภาพฟันที่ดี
- ได้กินอาหารตามธรรมชาติของหมา

ข้อเสียของการให้หมากินเนื้อติดกระดูกดิบ
- ความเสี่ยงเรื่องฟันแตกร้าว
- ความเสี่ยงเรื่องการย่อยอาหารและกระเพาะและลำไส้อักเสบ
- อาจได้รับสารอาหารไม่ควบถ้วน
- มีราคาแพง



4557
10 คำถามที่คุณควรถามสัตวแพทย์
การพาหมาไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายสามารถสร้างความเครียดและเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดของใครหลายต่อหลายคนได้ และอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ก็อาจไม่ได้เกิดจากตัวสัตวแพทย์เองเลย เพียงแต่เจ้าของหมาแมวทั้งหลายไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร หรือควรถามอะไร เมื่อพาสัตว์เลี้ยงของตนไปพบสัตวแพทย์เท่านั้นเอง และนี่คือคำถามพื้นฐานที่เจ้าของหมาแมวควรรู้เอาไว้เมื่อพาสัตว์เลี้ยงไปพบกับสัตวแพทย์



1. น้ำหนักหมาของฉันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่?
สัตว์เลี้ยงจำนวนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน แต่ปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ เจ้าของมักปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ลองถามสัตวแพทย์ที่คุณไปพบดูสิว่า สัตว์เลี้ยงของคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับสายพันธุ์ ขนาดตัว และส่วนสูงของมันหรือไม่ หากมีปัญหาจริง คุณก็สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแก้ไขได้ทันที คำถามนี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุณคิดว่าหมาของคุณมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่พบบ่อยนักก็ตาม



2. มีอาหารที่เหมาะสมกับหมาของฉันมากกว่านี้หรือไม่?
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม และคนที่คุณควรจะถามว่าอาหารแบบใดเหมาะกับหมาของคุณก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสัตวแพทย์ เมื่อสัตวแพทย์ประเมินสุขภาพของหมาของคุณแล้ว พวกเขาก็สามารถให้คำแนะนำได้ว่า อาหารแบบใดจึงจะเหมาะสมกับลักษณะ รูปแบบการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของหมาของคุณ



3. หมาของฉัน (พฤติกรรมแปลกๆ) แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อย่าเหมาเอาเองว่า การที่หมาของคุณหายใจหอบเสียงดังหลังออกกำลังกาย หรือการที่หมาของคุณมีอาการคันทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างออกเป็นเรื่องปกติ การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงประจำปีคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณควรจะถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับข้อสงสัยใดๆ ก็ตามที่คุณสังเกตเห็นในสัตว์เลี้ยงของคุณในช่วงปีที่ผ่านมา จดรายการสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เมื่อคุณไปพบสัตวแพทย์ เขาหรือเธอจะได้รู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สิ่งที่จดนั้นรวมไปถึงเวลาที่เกิดอาการครั้งแรก และความถี่ที่อาการปรากฏขึ้นด้วย



4. หมาของฉันได้รับวัคซีนครบถ้วนหรือไม่?
การเช็คให้แน่ใจว่าหมาของคุณได้รับวัคซีนและยาต่างๆ ตามที่ควรจะได้รับว่าครบถ้วนหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่บางครั้งก็ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย



5. หมาของฉันต้องการการแปรงฟันหรือไม่?
โรคในช่องปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงทั่วไป หมาที่อายุเกิน 3 ปีราว 80% มักจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับช่องปากในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา โรคเล็กน้อยเหล่านี้อาจจะนำไปสูงปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับไต ตับ หรือแม้แต่หัวใจ ลองถามสัตวแพทย์ดูว่าหมาของคุณต้องการการทำความสะอาดช่องปากหรือไม่เสียตั้งแต่ก่อนจะเกิดปัญหา



6. หมาของฉันต้องการการเจาะเลือดตรวจหรือไม่?
การเจาะเลือดตรวจสามารถช่วยกลั่นกรองปัญหาสุขภาพได้มากมาย เช่น โรคตับ โรคเบากวาน มะเร็ง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่รักษาให้หายได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สัตวแพทย์มีผลเปรียบเทียบสำหรับการดูแลสุขภาพหมาในระยะยาวอีกด้วย



7. หมาของฉันควรใช้ยาฆ่าเห็บ/หมัดแบบใด?
เห็บและหมัดไม่เพียงแต่น่ารังเกียจ พวกมันยังเป็นเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงต่างๆ มาสู่ตัวคุณ และสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย โชคดีที่ปัจจุบันเรามีทางเลือกมากมายในการฆ่าและป้องกันเห็บ/หมัดเหล่านี้ ลองถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ในการกำจัดเห็บ/หมัดดู และถามว่าวิธีใดจึงจะเหมาะกับหมาของคุณที่สุด


8. ก้อนเนื้อ/ ปุ่มเนื้อเหล่านี้คืออะไร?
การที่หมามีก้อนเนื้อหรือปุ่มเนื้อปรากฏขึ้นเมื่อมันอายุมากขึ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่ผิดปกติก็สามารถเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงมะเร็งได้ ชี้ให้สัตวแพทย์ดูรอยบุ๋ม ปุ่มเนื้อ หรือก้อนเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนๆ สัตวแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่า หมาของคุณต้องการการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็งหรือไม่

9. หมาของฉันต้องการการตรวจลำไส้หรือไม่?
สัตวแพทย์แต่ละคนจะมีวิธีในการทำงานที่ต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ พวกเขาจะไม่ตรวจลำไส้ให้หมาของคุณนอกเสียจากว่าคุณจะเป็นฝ่ายร้องขอเอง การตรวจลำไส้นั้นเป็นการตรวจเพื่อหาสัญญาณของมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วพอ

10. ช่วยอธิบายรายละเอียดในใบเสร็จให้หน่อยได้ไหม?
เพียงแค่คุณถามดีๆ และมีมารยาท สัตวแพทย์ก็พร้อมจะอธิบายให้คุณฟังว่า ในการตรวจแต่ละครั้ง และกระบวนการทำงานแต่ละอย่างนั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าไร อย่างไร อะไรบ้าง บางอย่างอาจจะดูแพง แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคุณไปได้อีกนานๆ


4558
10 คำถามที่คุณควรถามสัตวแพทย์
การพาหมาไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายสามารถสร้างความเครียดและเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดของใครหลายต่อหลายคนได้ และอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ก็อาจไม่ได้เกิดจากตัวสัตวแพทย์เองเลย เพียงแต่เจ้าของหมาแมวทั้งหลายไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร หรือควรถามอะไร เมื่อพาสัตว์เลี้ยงของตนไปพบสัตวแพทย์เท่านั้นเอง และนี่คือคำถามพื้นฐานที่เจ้าของหมาแมวควรรู้เอาไว้เมื่อพาสัตว์เลี้ยงไปพบกับสัตวแพทย์



1. น้ำหนักหมาของฉันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่?
สัตว์เลี้ยงจำนวนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน แต่ปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ เจ้าของมักปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ลองถามสัตวแพทย์ที่คุณไปพบดูสิว่า สัตว์เลี้ยงของคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับสายพันธุ์ ขนาดตัว และส่วนสูงของมันหรือไม่ หากมีปัญหาจริง คุณก็สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแก้ไขได้ทันที คำถามนี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุณคิดว่าหมาของคุณมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่พบบ่อยนักก็ตาม



2. มีอาหารที่เหมาะสมกับหมาของฉันมากกว่านี้หรือไม่?
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม และคนที่คุณควรจะถามว่าอาหารแบบใดเหมาะกับหมาของคุณก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสัตวแพทย์ เมื่อสัตวแพทย์ประเมินสุขภาพของหมาของคุณแล้ว พวกเขาก็สามารถให้คำแนะนำได้ว่า อาหารแบบใดจึงจะเหมาะสมกับลักษณะ รูปแบบการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของหมาของคุณ



3. หมาของฉัน (พฤติกรรมแปลกๆ) แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อย่าเหมาเอาเองว่า การที่หมาของคุณหายใจหอบเสียงดังหลังออกกำลังกาย หรือการที่หมาของคุณมีอาการคันทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างออกเป็นเรื่องปกติ การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงประจำปีคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณควรจะถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับข้อสงสัยใดๆ ก็ตามที่คุณสังเกตเห็นในสัตว์เลี้ยงของคุณในช่วงปีที่ผ่านมา จดรายการสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เมื่อคุณไปพบสัตวแพทย์ เขาหรือเธอจะได้รู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สิ่งที่จดนั้นรวมไปถึงเวลาที่เกิดอาการครั้งแรก และความถี่ที่อาการปรากฏขึ้นด้วย



4. หมาของฉันได้รับวัคซีนครบถ้วนหรือไม่?
การเช็คให้แน่ใจว่าหมาของคุณได้รับวัคซีนและยาต่างๆ ตามที่ควรจะได้รับว่าครบถ้วนหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่บางครั้งก็ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย



5. หมาของฉันต้องการการแปรงฟันหรือไม่?
โรคในช่องปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงทั่วไป หมาที่อายุเกิน 3 ปีราว 80% มักจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับช่องปากในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา โรคเล็กน้อยเหล่านี้อาจจะนำไปสูงปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับไต ตับ หรือแม้แต่หัวใจ ลองถามสัตวแพทย์ดูว่าหมาของคุณต้องการการทำความสะอาดช่องปากหรือไม่เสียตั้งแต่ก่อนจะเกิดปัญหา



6. หมาของฉันต้องการการเจาะเลือดตรวจหรือไม่?
การเจาะเลือดตรวจสามารถช่วยกลั่นกรองปัญหาสุขภาพได้มากมาย เช่น โรคตับ โรคเบากวาน มะเร็ง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่รักษาให้หายได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สัตวแพทย์มีผลเปรียบเทียบสำหรับการดูแลสุขภาพหมาในระยะยาวอีกด้วย



7. หมาของฉันควรใช้ยาฆ่าเห็บ/หมัดแบบใด?
เห็บและหมัดไม่เพียงแต่น่ารังเกียจ พวกมันยังเป็นเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงต่างๆ มาสู่ตัวคุณ และสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย โชคดีที่ปัจจุบันเรามีทางเลือกมากมายในการฆ่าและป้องกันเห็บ/หมัดเหล่านี้ ลองถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ในการกำจัดเห็บ/หมัดดู และถามว่าวิธีใดจึงจะเหมาะกับหมาของคุณที่สุด


8. ก้อนเนื้อ/ ปุ่มเนื้อเหล่านี้คืออะไร?
การที่หมามีก้อนเนื้อหรือปุ่มเนื้อปรากฏขึ้นเมื่อมันอายุมากขึ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่ผิดปกติก็สามารถเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงมะเร็งได้ ชี้ให้สัตวแพทย์ดูรอยบุ๋ม ปุ่มเนื้อ หรือก้อนเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนๆ สัตวแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่า หมาของคุณต้องการการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็งหรือไม่

9. หมาของฉันต้องการการตรวจลำไส้หรือไม่?
สัตวแพทย์แต่ละคนจะมีวิธีในการทำงานที่ต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ พวกเขาจะไม่ตรวจลำไส้ให้หมาของคุณนอกเสียจากว่าคุณจะเป็นฝ่ายร้องขอเอง การตรวจลำไส้นั้นเป็นการตรวจเพื่อหาสัญญาณของมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วพอ

10. ช่วยอธิบายรายละเอียดในใบเสร็จให้หน่อยได้ไหม?
เพียงแค่คุณถามดีๆ และมีมารยาท สัตวแพทย์ก็พร้อมจะอธิบายให้คุณฟังว่า ในการตรวจแต่ละครั้ง และกระบวนการทำงานแต่ละอย่างนั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าไร อย่างไร อะไรบ้าง บางอย่างอาจจะดูแพง แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคุณไปได้อีกนานๆ


4559
10 คำถามที่คุณควรถามสัตวแพทย์
การพาหมาไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายสามารถสร้างความเครียดและเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดของใครหลายต่อหลายคนได้ และอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ก็อาจไม่ได้เกิดจากตัวสัตวแพทย์เองเลย เพียงแต่เจ้าของหมาแมวทั้งหลายไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร หรือควรถามอะไร เมื่อพาสัตว์เลี้ยงของตนไปพบสัตวแพทย์เท่านั้นเอง และนี่คือคำถามพื้นฐานที่เจ้าของหมาแมวควรรู้เอาไว้เมื่อพาสัตว์เลี้ยงไปพบกับสัตวแพทย์



1. น้ำหนักหมาของฉันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่?
สัตว์เลี้ยงจำนวนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน แต่ปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ เจ้าของมักปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ลองถามสัตวแพทย์ที่คุณไปพบดูสิว่า สัตว์เลี้ยงของคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับสายพันธุ์ ขนาดตัว และส่วนสูงของมันหรือไม่ หากมีปัญหาจริง คุณก็สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแก้ไขได้ทันที คำถามนี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุณคิดว่าหมาของคุณมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่พบบ่อยนักก็ตาม



2. มีอาหารที่เหมาะสมกับหมาของฉันมากกว่านี้หรือไม่?
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม และคนที่คุณควรจะถามว่าอาหารแบบใดเหมาะกับหมาของคุณก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสัตวแพทย์ เมื่อสัตวแพทย์ประเมินสุขภาพของหมาของคุณแล้ว พวกเขาก็สามารถให้คำแนะนำได้ว่า อาหารแบบใดจึงจะเหมาะสมกับลักษณะ รูปแบบการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของหมาของคุณ



3. หมาของฉัน (พฤติกรรมแปลกๆ) แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อย่าเหมาเอาเองว่า การที่หมาของคุณหายใจหอบเสียงดังหลังออกกำลังกาย หรือการที่หมาของคุณมีอาการคันทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างออกเป็นเรื่องปกติ การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงประจำปีคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณควรจะถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับข้อสงสัยใดๆ ก็ตามที่คุณสังเกตเห็นในสัตว์เลี้ยงของคุณในช่วงปีที่ผ่านมา จดรายการสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เมื่อคุณไปพบสัตวแพทย์ เขาหรือเธอจะได้รู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สิ่งที่จดนั้นรวมไปถึงเวลาที่เกิดอาการครั้งแรก และความถี่ที่อาการปรากฏขึ้นด้วย



4. หมาของฉันได้รับวัคซีนครบถ้วนหรือไม่?
การเช็คให้แน่ใจว่าหมาของคุณได้รับวัคซีนและยาต่างๆ ตามที่ควรจะได้รับว่าครบถ้วนหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่บางครั้งก็ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย



5. หมาของฉันต้องการการแปรงฟันหรือไม่?
โรคในช่องปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงทั่วไป หมาที่อายุเกิน 3 ปีราว 80% มักจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับช่องปากในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา โรคเล็กน้อยเหล่านี้อาจจะนำไปสูงปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับไต ตับ หรือแม้แต่หัวใจ ลองถามสัตวแพทย์ดูว่าหมาของคุณต้องการการทำความสะอาดช่องปากหรือไม่เสียตั้งแต่ก่อนจะเกิดปัญหา



6. หมาของฉันต้องการการเจาะเลือดตรวจหรือไม่?
การเจาะเลือดตรวจสามารถช่วยกลั่นกรองปัญหาสุขภาพได้มากมาย เช่น โรคตับ โรคเบากวาน มะเร็ง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่รักษาให้หายได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สัตวแพทย์มีผลเปรียบเทียบสำหรับการดูแลสุขภาพหมาในระยะยาวอีกด้วย



7. หมาของฉันควรใช้ยาฆ่าเห็บ/หมัดแบบใด?
เห็บและหมัดไม่เพียงแต่น่ารังเกียจ พวกมันยังเป็นเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงต่างๆ มาสู่ตัวคุณ และสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย โชคดีที่ปัจจุบันเรามีทางเลือกมากมายในการฆ่าและป้องกันเห็บ/หมัดเหล่านี้ ลองถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ในการกำจัดเห็บ/หมัดดู และถามว่าวิธีใดจึงจะเหมาะกับหมาของคุณที่สุด


8. ก้อนเนื้อ/ ปุ่มเนื้อเหล่านี้คืออะไร?
การที่หมามีก้อนเนื้อหรือปุ่มเนื้อปรากฏขึ้นเมื่อมันอายุมากขึ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่ผิดปกติก็สามารถเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงมะเร็งได้ ชี้ให้สัตวแพทย์ดูรอยบุ๋ม ปุ่มเนื้อ หรือก้อนเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนๆ สัตวแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่า หมาของคุณต้องการการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็งหรือไม่

9. หมาของฉันต้องการการตรวจลำไส้หรือไม่?
สัตวแพทย์แต่ละคนจะมีวิธีในการทำงานที่ต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ พวกเขาจะไม่ตรวจลำไส้ให้หมาของคุณนอกเสียจากว่าคุณจะเป็นฝ่ายร้องขอเอง การตรวจลำไส้นั้นเป็นการตรวจเพื่อหาสัญญาณของมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วพอ

10. ช่วยอธิบายรายละเอียดในใบเสร็จให้หน่อยได้ไหม?
เพียงแค่คุณถามดีๆ และมีมารยาท สัตวแพทย์ก็พร้อมจะอธิบายให้คุณฟังว่า ในการตรวจแต่ละครั้ง และกระบวนการทำงานแต่ละอย่างนั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าไร อย่างไร อะไรบ้าง บางอย่างอาจจะดูแพง แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคุณไปได้อีกนานๆ


4560
10 คำถามที่คุณควรถามสัตวแพทย์
การพาหมาไปหาหมอเพื่อตรวจร่างกายสามารถสร้างความเครียดและเป็นเรื่องที่น่าหงุดหงิดของใครหลายต่อหลายคนได้ และอารมณ์ด้านลบเหล่านี้ก็อาจไม่ได้เกิดจากตัวสัตวแพทย์เองเลย เพียงแต่เจ้าของหมาแมวทั้งหลายไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร หรือควรถามอะไร เมื่อพาสัตว์เลี้ยงของตนไปพบสัตวแพทย์เท่านั้นเอง และนี่คือคำถามพื้นฐานที่เจ้าของหมาแมวควรรู้เอาไว้เมื่อพาสัตว์เลี้ยงไปพบกับสัตวแพทย์



1. น้ำหนักหมาของฉันอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานหรือไม่?
สัตว์เลี้ยงจำนวนมากมีปัญหาเรื่องน้ำหนักเกิน แต่ปัญหาที่แย่ยิ่งกว่าก็คือ เจ้าของมักปฏิเสธว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด ลองถามสัตวแพทย์ที่คุณไปพบดูสิว่า สัตว์เลี้ยงของคุณมีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมสำหรับสายพันธุ์ ขนาดตัว และส่วนสูงของมันหรือไม่ หากมีปัญหาจริง คุณก็สามารถปรึกษาสัตวแพทย์เพื่อแก้ไขได้ทันที คำถามนี้สามารถใช้ได้ในกรณีที่คุณคิดว่าหมาของคุณมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานได้เช่นกัน แม้ว่าจะไม่พบบ่อยนักก็ตาม



2. มีอาหารที่เหมาะสมกับหมาของฉันมากกว่านี้หรือไม่?
สุขภาพที่ดีเริ่มต้นจากการได้รับสารอาหารอย่างเหมาะสม และคนที่คุณควรจะถามว่าอาหารแบบใดเหมาะกับหมาของคุณก็ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นสัตวแพทย์ เมื่อสัตวแพทย์ประเมินสุขภาพของหมาของคุณแล้ว พวกเขาก็สามารถให้คำแนะนำได้ว่า อาหารแบบใดจึงจะเหมาะสมกับลักษณะ รูปแบบการใช้ชีวิต และปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อสุขภาพของหมาของคุณ



3. หมาของฉัน (พฤติกรรมแปลกๆ) แบบนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่?
อย่าเหมาเอาเองว่า การที่หมาของคุณหายใจหอบเสียงดังหลังออกกำลังกาย หรือการที่หมาของคุณมีอาการคันทุกครั้งหลังกลับมาจากข้างออกเป็นเรื่องปกติ การตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยงประจำปีคือช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่คุณควรจะถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับข้อสงสัยใดๆ ก็ตามที่คุณสังเกตเห็นในสัตว์เลี้ยงของคุณในช่วงปีที่ผ่านมา จดรายการสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ เมื่อคุณไปพบสัตวแพทย์ เขาหรือเธอจะได้รู้ทันทีว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ สิ่งที่จดนั้นรวมไปถึงเวลาที่เกิดอาการครั้งแรก และความถี่ที่อาการปรากฏขึ้นด้วย



4. หมาของฉันได้รับวัคซีนครบถ้วนหรือไม่?
การเช็คให้แน่ใจว่าหมาของคุณได้รับวัคซีนและยาต่างๆ ตามที่ควรจะได้รับว่าครบถ้วนหรือไม่ ไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่อย่างใด และเป็นเรื่องที่บางครั้งก็ถูกมองข้ามไปอย่างง่ายดาย



5. หมาของฉันต้องการการแปรงฟันหรือไม่?
โรคในช่องปากเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในสัตว์เลี้ยงทั่วไป หมาที่อายุเกิน 3 ปีราว 80% มักจะป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับช่องปากในระดับใดระดับหนึ่ง ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา โรคเล็กน้อยเหล่านี้อาจจะนำไปสูงปัญหาทางสุขภาพที่ร้ายแรงยิ่งขึ้นได้ เช่น โรคที่เกี่ยวกับไต ตับ หรือแม้แต่หัวใจ ลองถามสัตวแพทย์ดูว่าหมาของคุณต้องการการทำความสะอาดช่องปากหรือไม่เสียตั้งแต่ก่อนจะเกิดปัญหา



6. หมาของฉันต้องการการเจาะเลือดตรวจหรือไม่?
การเจาะเลือดตรวจสามารถช่วยกลั่นกรองปัญหาสุขภาพได้มากมาย เช่น โรคตับ โรคเบากวาน มะเร็ง และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่รักษาให้หายได้หากตรวจพบในระยะเริ่มต้น การตรวจเลือดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้สัตวแพทย์มีผลเปรียบเทียบสำหรับการดูแลสุขภาพหมาในระยะยาวอีกด้วย



7. หมาของฉันควรใช้ยาฆ่าเห็บ/หมัดแบบใด?
เห็บและหมัดไม่เพียงแต่น่ารังเกียจ พวกมันยังเป็นเป็นพาหะนำโรคร้ายแรงต่างๆ มาสู่ตัวคุณ และสัตว์เลี้ยงของคุณด้วย โชคดีที่ปัจจุบันเรามีทางเลือกมากมายในการฆ่าและป้องกันเห็บ/หมัดเหล่านี้ ลองถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับวิธีการต่างๆ ในการกำจัดเห็บ/หมัดดู และถามว่าวิธีใดจึงจะเหมาะกับหมาของคุณที่สุด


8. ก้อนเนื้อ/ ปุ่มเนื้อเหล่านี้คืออะไร?
การที่หมามีก้อนเนื้อหรือปุ่มเนื้อปรากฏขึ้นเมื่อมันอายุมากขึ้นไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนแปลงทางผิวหนังที่ผิดปกติก็สามารถเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงมะเร็งได้ ชี้ให้สัตวแพทย์ดูรอยบุ๋ม ปุ่มเนื้อ หรือก้อนเนื้อที่เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนๆ สัตวแพทย์จะเป็นคนพิจารณาว่า หมาของคุณต้องการการตรวจชิ้นเนื้อเพื่อตรวจหามะเร็งหรือไม่

9. หมาของฉันต้องการการตรวจลำไส้หรือไม่?
สัตวแพทย์แต่ละคนจะมีวิธีในการทำงานที่ต่างกันไป แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ พวกเขาจะไม่ตรวจลำไส้ให้หมาของคุณนอกเสียจากว่าคุณจะเป็นฝ่ายร้องขอเอง การตรวจลำไส้นั้นเป็นการตรวจเพื่อหาสัญญาณของมะเร็งลำไส้และมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งสามารถรักษาให้หายได้หากตรวจพบเร็วพอ

10. ช่วยอธิบายรายละเอียดในใบเสร็จให้หน่อยได้ไหม?
เพียงแค่คุณถามดีๆ และมีมารยาท สัตวแพทย์ก็พร้อมจะอธิบายให้คุณฟังว่า ในการตรวจแต่ละครั้ง และกระบวนการทำงานแต่ละอย่างนั้นมีค่าใช้จ่ายเท่าไร อย่างไร อะไรบ้าง บางอย่างอาจจะดูแพง แต่ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดี และใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับคุณไปได้อีกนานๆ