แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

4531
อัพเดตข่าวหมา / 5 สุดยอดหมานักแสดง
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 59, 18:06:03น. »
5 สุดยอดหมานักแสดง

หนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ คือต้นกำเนิดอันไม่มีที่สิ้นสุดของสัตว์ที่พูดได้ เต้นรำได้ และร้องเพลงได้ แม้ว่าบ่อยครั้งที่การแสดงเหล่านี้จะได้รับการเติมกราฟฟิค หรือเพิ่มเทคนิคพิเศษต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เรื่องมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีสัตว์จำนวนมากที่สามารถเล่นตามบทบาทของตัวเองได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ 60-80 นักแสดงสี่ขาเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจได้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี CG ต่างๆ เสียอีก และสัตว์นักแสดงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นหมา ซึ่งหมาเหล่านี้สามารถได้มากกว่าแค่คำสั่งง่ายๆ อย่างนั่ง หมอบ หรือรอ หมาบางตัวสามารถแสดงได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้ดาราหลายคนต้องอายเลยทีเดียว



1. Spike
สไปค์ หมาพันธุ์ลาบราดอร์สีเหลือง ที่รับบทเป็น Old Yeller ในหนังดิสนีย์ชื่อเดียวกันนี้ หากคุณไม่เคยชมหนังเรื่องนี้มาก่อนก็ควรลองไปหามาดูสักครั้ง Frank Weatherwax  ครูฝึกสอนสัตว์ที่มีชื่อเสียงได้ไปรับสไปค์มาจากศูนย์สงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่ง นอกจาก Old Yeller แล้ว สไปค์ยังปรากฏตัวในหนังอีกหลายเรื่อง เช่น movies A Dog of Flanders, The She-Creature และ The Silent Call และยังได้ออกทีวีในหลายๆ รายการ ซึ่งรวมถึง The Mickey Mouse Club ตอนหนึ่งด้วย



2. Terry
เทอร์รี่เป็นหมาพันธุ์เทอร์เรียที่โด่งดังมาจากการรับบทเป็น Toto ในหนังเรื่อง The Wizard of Oz และยังได้เล่นหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Bright Eyes และ Tortilla Flat ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่มันเล่น ในเครดิตหนังต่างๆ แทบจะไม่มีการพูดถึงเทอร์รี่ด้วยชื่อจริงของมันเลย รวมถึงใน The Wizard of Oz ที่มีชื่อขึ้นในเครดิตท้ายเรื่องว่า Toto  ซึ่งใน The Wizard of Oz นี้เองที่เท้าของเทอร์รี่แตก เพราะโดนหนึ่งในนักแสดงที่เล่นเป็นทหารของราชินีผู้ชั่วร้ายในเรื่องเหยียบเท้า



3. Pal
พอลเป็นหมานักแสดงสำรองในหนังเรื่อง Lassie Comes Home ของ MGM ในปี 1943 แม้ว่าพอลจะต้องสูญเสียชื่อในฐานะของนักแสดงนำให้กับคอลลี่ตัวเมียสายประกวดอีกตัวหนึ่ง แต่ในการถ่ายทำนั้น พอลคือนักแสดงนำตัวจริง แม้จะมีสาเหตุอันซับซ้อนมากมายที่ทำให้พอลไม่ได้รับการเอ่ยชื่อ แต่พอลก็ได้พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นตามบทให้ผ่านได้ภายในครั้งเดียวอย่างน่ามหัศจรรย์ พอลยังได้รับบทนำในหนังเรื่องอื่นๆ อีก 7 เรื่อง เจ้าของและครูฝึกของพอล คือ Rudd Weatherwax โดยมีพี่ชายของเขา Frank  Weatherwax ครูฝึกสัตว์ชื่อดังคอยให้ความช่วย เมื่อ MGM เลิกทำหนังซีรีย์แลซซี่ ทางบริษัทยังคงติดหนี้ค่าตัวของพอลกับ Rudd อยู่ และตกลงยกลิขสิทธิ์แลซซี่ให้เขาเป็นการชดเชย ทำให้ซีรีย์แลซซี่ได้โลดแล่นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์อย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1957 ถึง 1973



4. Rin Tin Tin
รินตินตินตัวจริงเป็นเยอรมันเชพเพิร์ดสีเข้มที่มีทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง Lee Duncan เป็นเจ้าของและครูฝึก เขาพาหมาตัวนี้กลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง และสอนให้มันทำตามคำสั่งต่างๆ โดยหวังว่ามันจะสามารถเป็นดาราหมาได้ในวันหนึ่ง รินตินตินมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี 1920 และ 1930 หนังที่รินตินตินเล่นสร้างรายได้มหาศาลให้กับ Warner Brothers และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ช่วยบริษัทเอาไว้จากการปัญหาทางการเงิน รินตินตินยังรับบทเป็น Rinty ในภาพยนตร์ซีรีย์ และรับบทเป็น  Scotty ในเรื่อง Tiger Rose ซึ่งฉายในปี 1930 อีกด้วย นอกจากนี้ รินตินตินยังมีรายการวิทยุเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1930 และเมื่อรินตินตินตายในปี 1932 ลูกของมันก็เข้ามารับช่วงต่อทั้งในรายการวิทยุและการแสดง



5. Higgins
ฮิกกินส์คือสุดยอดทีมหมานักแสดง มันได้รับบทบาทที่หลากหลายยิ่งกว่านักแสดงมนุษย์หลายคนเสียอีก โดยบทบาทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ บทบาทในฐานะของนักแสดงนำในหนังเรื่อง Benji ฮิกกินส์ได้ปรากฏตัวในหนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย พวกมันได้รับการฝึกโดย Frank Inn ซึ่งเป็นผู้ฝึกสัตว์ที่ใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Beverly Hillbillies และ Green Acres

ฮิกกินส์เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักแสดอย่างเรียบง่ายเหมือนกับสัตว์นักแสดงตัวอื่นๆ ในบทของหมาพันธุ์ผสมในสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง Frank Inn ถือว่าฮิกกินส์เป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของเขา มันไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้นับร้อยคำสั่งเท่านั้น มันเป็นได้มากกว่าแค่หมาที่ถูกฝึกมาอย่างดีตัวหนึ่ง ฮิกกินส์สามารถแสดงอารมณ์ต่างๆ ตามบทบาทได้ มันแสดงความหวาดกลัว ความสนใจ เสียใจ หรือเบื่อเมื่อผู้กำกับต้องการ มันยังสามารถจามหรือหาวตามบทได้อีกด้วย ฮิกกินส์สามารถเล่นได้ทั้งหนังรักโรแมนติก หนังตลก และหนังบู๊แอคชั่นล้างผลาญเมื่อต้องการ


4532
อัพเดตข่าวหมา / 5 สุดยอดหมานักแสดง
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 59, 18:06:03น. »
5 สุดยอดหมานักแสดง

หนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ คือต้นกำเนิดอันไม่มีที่สิ้นสุดของสัตว์ที่พูดได้ เต้นรำได้ และร้องเพลงได้ แม้ว่าบ่อยครั้งที่การแสดงเหล่านี้จะได้รับการเติมกราฟฟิค หรือเพิ่มเทคนิคพิเศษต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เรื่องมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีสัตว์จำนวนมากที่สามารถเล่นตามบทบาทของตัวเองได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ 60-80 นักแสดงสี่ขาเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจได้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี CG ต่างๆ เสียอีก และสัตว์นักแสดงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นหมา ซึ่งหมาเหล่านี้สามารถได้มากกว่าแค่คำสั่งง่ายๆ อย่างนั่ง หมอบ หรือรอ หมาบางตัวสามารถแสดงได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้ดาราหลายคนต้องอายเลยทีเดียว



1. Spike
สไปค์ หมาพันธุ์ลาบราดอร์สีเหลือง ที่รับบทเป็น Old Yeller ในหนังดิสนีย์ชื่อเดียวกันนี้ หากคุณไม่เคยชมหนังเรื่องนี้มาก่อนก็ควรลองไปหามาดูสักครั้ง Frank Weatherwax  ครูฝึกสอนสัตว์ที่มีชื่อเสียงได้ไปรับสไปค์มาจากศูนย์สงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่ง นอกจาก Old Yeller แล้ว สไปค์ยังปรากฏตัวในหนังอีกหลายเรื่อง เช่น movies A Dog of Flanders, The She-Creature และ The Silent Call และยังได้ออกทีวีในหลายๆ รายการ ซึ่งรวมถึง The Mickey Mouse Club ตอนหนึ่งด้วย



2. Terry
เทอร์รี่เป็นหมาพันธุ์เทอร์เรียที่โด่งดังมาจากการรับบทเป็น Toto ในหนังเรื่อง The Wizard of Oz และยังได้เล่นหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Bright Eyes และ Tortilla Flat ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่มันเล่น ในเครดิตหนังต่างๆ แทบจะไม่มีการพูดถึงเทอร์รี่ด้วยชื่อจริงของมันเลย รวมถึงใน The Wizard of Oz ที่มีชื่อขึ้นในเครดิตท้ายเรื่องว่า Toto  ซึ่งใน The Wizard of Oz นี้เองที่เท้าของเทอร์รี่แตก เพราะโดนหนึ่งในนักแสดงที่เล่นเป็นทหารของราชินีผู้ชั่วร้ายในเรื่องเหยียบเท้า



3. Pal
พอลเป็นหมานักแสดงสำรองในหนังเรื่อง Lassie Comes Home ของ MGM ในปี 1943 แม้ว่าพอลจะต้องสูญเสียชื่อในฐานะของนักแสดงนำให้กับคอลลี่ตัวเมียสายประกวดอีกตัวหนึ่ง แต่ในการถ่ายทำนั้น พอลคือนักแสดงนำตัวจริง แม้จะมีสาเหตุอันซับซ้อนมากมายที่ทำให้พอลไม่ได้รับการเอ่ยชื่อ แต่พอลก็ได้พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นตามบทให้ผ่านได้ภายในครั้งเดียวอย่างน่ามหัศจรรย์ พอลยังได้รับบทนำในหนังเรื่องอื่นๆ อีก 7 เรื่อง เจ้าของและครูฝึกของพอล คือ Rudd Weatherwax โดยมีพี่ชายของเขา Frank  Weatherwax ครูฝึกสัตว์ชื่อดังคอยให้ความช่วย เมื่อ MGM เลิกทำหนังซีรีย์แลซซี่ ทางบริษัทยังคงติดหนี้ค่าตัวของพอลกับ Rudd อยู่ และตกลงยกลิขสิทธิ์แลซซี่ให้เขาเป็นการชดเชย ทำให้ซีรีย์แลซซี่ได้โลดแล่นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์อย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1957 ถึง 1973



4. Rin Tin Tin
รินตินตินตัวจริงเป็นเยอรมันเชพเพิร์ดสีเข้มที่มีทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง Lee Duncan เป็นเจ้าของและครูฝึก เขาพาหมาตัวนี้กลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง และสอนให้มันทำตามคำสั่งต่างๆ โดยหวังว่ามันจะสามารถเป็นดาราหมาได้ในวันหนึ่ง รินตินตินมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี 1920 และ 1930 หนังที่รินตินตินเล่นสร้างรายได้มหาศาลให้กับ Warner Brothers และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ช่วยบริษัทเอาไว้จากการปัญหาทางการเงิน รินตินตินยังรับบทเป็น Rinty ในภาพยนตร์ซีรีย์ และรับบทเป็น  Scotty ในเรื่อง Tiger Rose ซึ่งฉายในปี 1930 อีกด้วย นอกจากนี้ รินตินตินยังมีรายการวิทยุเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1930 และเมื่อรินตินตินตายในปี 1932 ลูกของมันก็เข้ามารับช่วงต่อทั้งในรายการวิทยุและการแสดง



5. Higgins
ฮิกกินส์คือสุดยอดทีมหมานักแสดง มันได้รับบทบาทที่หลากหลายยิ่งกว่านักแสดงมนุษย์หลายคนเสียอีก โดยบทบาทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ บทบาทในฐานะของนักแสดงนำในหนังเรื่อง Benji ฮิกกินส์ได้ปรากฏตัวในหนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย พวกมันได้รับการฝึกโดย Frank Inn ซึ่งเป็นผู้ฝึกสัตว์ที่ใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Beverly Hillbillies และ Green Acres

ฮิกกินส์เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักแสดอย่างเรียบง่ายเหมือนกับสัตว์นักแสดงตัวอื่นๆ ในบทของหมาพันธุ์ผสมในสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง Frank Inn ถือว่าฮิกกินส์เป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของเขา มันไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้นับร้อยคำสั่งเท่านั้น มันเป็นได้มากกว่าแค่หมาที่ถูกฝึกมาอย่างดีตัวหนึ่ง ฮิกกินส์สามารถแสดงอารมณ์ต่างๆ ตามบทบาทได้ มันแสดงความหวาดกลัว ความสนใจ เสียใจ หรือเบื่อเมื่อผู้กำกับต้องการ มันยังสามารถจามหรือหาวตามบทได้อีกด้วย ฮิกกินส์สามารถเล่นได้ทั้งหนังรักโรแมนติก หนังตลก และหนังบู๊แอคชั่นล้างผลาญเมื่อต้องการ


4533
10 หมาทายาทมหาเศรษฐีที่รวยกว่าคุณ
หมาของเจ้าของที่ร่ำรวยนั้นอยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนธรรมดาเดินกินทั่วไปบางคนเสียอีก และนี่ก็ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นกันขำๆ เท่านั้น คนที่รักหมาจริงๆ จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้าสี่ขาสุดที่รักของตน ยิ่งไปว่านั้น หมายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ซื่อสัตย์ และไว้ใจได้เสมอ ทำให้ใครหลายคนไว้ใจหมาเสียยิ่งกว่าคน แล้วก็ตัดสินใจยกทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของตนให้มันไปเสียเลย และนี่คือ 10 มหาเศรษฐีที่เลือกหมามาเป็นทายาทรับมรดกจำนวนมหาศาลของตนเอง



1. Gail Posner
Gail Posner เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และ Conchita ก็คือ ชิวาว่า ตัวน้อย และเป็นศูนย์กลางจักรวาลของเธอมาตลอด เกลไม่เคยลังเลที่จะเอาอกเอาใจสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอด้วยความรักอันหรูหราอย่างเช่น ปลอกคอคาร์เทียมูลค่า 15,000 ดอลลาร์ เจ้าหมาที่แสนโชคดีตัวนี้มีห้องนอนและห้องอาบน้ำเป็นของตัวเอง และได้รับการปรนเปรอด้วยการพาไปเข้าสปาอาทิตย์ละครั้ง แถมยังได้ออกไปทานมื้อเที่ยงสุดหรูกับเจ้านายของมันอยู่เสมอด้วย เมื่อเกลเสียชีวิตลงด้วยอายุ 67 ปี เธอทำให้ลูกชายของเธอประหลาดใจด้วยการยกเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์  และบ้านพักริมชายหาดในไมอามี่มูลค่า 8.3 ล้านดอลลาร์ให้หมาตัวโปรดของเธอ



2. Leona Helmsley
Leona Helmsley เป็นนักธุรกิจสาวชาวอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความโมโหร้าย เธอเป็นเจ้าของเครือข่ายโรงแรม Helmsley ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปลายยุค 80 และแม้ว่าคนทั้งโลกจะจดจำเธอในฐานะของผู้หญิงขี้โมโห แต่เธอก็เป็นเจ้านายผู้แสนดีที่รักใคร่ Trouble หมาของเธออย่างยิ่ง เมื่อลีโอน่าเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 87 ปี เธอตัดญาติหลายคนออกจากกองมรดก ซึ่งรวมถึงหลานแท้ๆ ของเธอเองด้วย แต่กลับระบุเอาไว้ในพินัยกรรมว่า Trouble ได้รับเงินจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ และทำให้มันกลายเป็นหมาที่ถูกเกลียดที่สุดในโลกแทบจะในทันที
เจ้าหมาที่น่าสงสารถูกขู่เอาชีวิตเกือบตลอดชีวิต และแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ลดจำนวนเงินมรดกจาก 12 ล้านให้เหลือ 2 ล้านในภายหลัง แต่เงินจำนวนนี้ก็เพียงพอให้มันใช้ชีวิตอย่างหรูหราแบบหมาๆ ได้ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายรายปีนั้นรวมถึงค่ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงจำนวน 1,000,000 ดอลลาร์ ค่าดูแลตัดแต่งขน 8,000 ดอลลาร์ และค่าอาหาร 1,200 ดอลลาร์ และครูฝึกของ Trouble นั้นก็ได้รับเงินเดือนสูงถึง 60,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว



3. Nora Hardwell
Nora Hardwell เป็นแม่ม่ายผู้โดดเดียวที่ใช้ชีวิตตามลำพังกับหมา 2 ตัวของเธอ Tina และ Kate เธอทนความคิดที่ว่าหมาของเธอจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ตามยถากรรมหลังจากที่เธอตายไม่ได้ และทิ้งเงินไว้ให้พวกมัน 1 ล้านดอลลาร์ โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนในพินัยกรรมว่า เป็นค่าดูแลหมาทุกตัวที่เธอได้เป็นเจ้าของก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนาน 21 ปีหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว หรือจนกว่าหมาตัวสุดท้ายของเธอจะตาย

หลังจากที่นอร่าเสียชีวิต เพื่อนสี่ขาอันเป็นที่รักของเธอก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม พร้อมสวนขนาด 4 เอเคอร์ และเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์สำหรับการดูแลความเป็นอยู่ของมัน เธอได้ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าหมาของเธอจะไม่ขาดอะไรเมื่อเธอจากไป นอกจากสัมผัสด้วยความรักจากตัวเธอเอง



4. Sidney Altman
Sidney Altman เป็นนักธุรกิจผู้เก่งกาจที่ทำเงินได้มหาศาล เขามีคนรักชื่อ Marie Dana ตอนที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 60 ปี ทุกคนก็คิดว่าเขาจะมอบเงินส่วนใหญ่ให้กับเธอ แต่เรื่องราวกลับตาลปัดเมื่อพินัยกรรมเปิดเผยว่า เขามอบบ้านมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ให้กับ Samantha หมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่เป็นรักแรกและรักแท้ของเขา นอกจากบ้านและที่ดินแล้ว ซาแมนธ่ายังได้รับเงิน 350,000 ดอลลาร์ และบ้านพักสุดหรูใน Beverly Hills อีก 1 หลัง

ส่วนดาน่านั้นได้รับเงินค่าจ้างรายปีเพียง 60,000 ดอลลาร์ และเธอจะได้รับเงินก้อนนี้ก็ต่อเมื่อเป็นคนดูแลซาแมนธ่าอีกด้วย มันจะน่าแปลกใจอะไรถ้าดาน่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงวิ่งไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบ้าน ในฐานะคนรักของผู้เสียชีวิต และควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าหมาตัวหนึ่ง



5. Lee Alexander McQueen
นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังชาวอังกฤษ Lee Alexander McQueen ฆ่าตัวตายเมื่อเขาอายุได้ 42 ปี ในจดหมายสั่งเสียของเขาเขียนไว้ว่า “ดูแลหมาของผมด้วย” ข้อความนี้ไม่ได้เป็นแค่คำพูดที่แสดงความรักต่อหมาของเขาอย่างลอยๆ McQueen ได้เขียนพินัยกรรมเพื่อยกทรัพย์สินให้กับ บูลล์เทอร์เรียร์ ที่เขารักยิ่งทั้ง 3 ตัว Juice, Minter และ Callum แต่ละตัวได้รับเงิน 82,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลพวกมันตราบสิ้นอายุขัย ความรักสัตว์ของเขายังเผื่อแผ่ไปถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ Battersea Dogs and Cats Home และองค์กรการกุศล Blue Cross Animal Welfare Charity ที่ละ 165,000 ดอลลาร์ด้วย



6. Majel Barrett Roddenberry
Majel Barrett Roddenberry ภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Star Trek อย่าง Gene Roddenberry ระบุในพินัยกรรมของเธอว่า เธอต้องการมอบเงิน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับเหล่าหมาที่เธอเลี้ยงเอาไว้ หมาเหล่านี้ยังได้อาศัยอยู่ในบ้านพักหรูหราจนกว่าพวกมันจะตายด้วย แต่เจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยของพวกมันก็ยังไม่พอใจนัก และแบ่งเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์ให้กับลูกจ้างที่เลือกที่จะอยู่กับหมาของเธอและคอยดูแลพวกมัน



7. Eleanor Ritchey
Eleanor Ritchey คือทายาทของ Quaker State Refining Corporation แน่นอนว่า เธอรวยมาก ตอนเอเลนอร์ยังเด็ก เธอเป็นคนเงียบๆ และไม่ชอบเข้าสังคมนัก คนที่เธอสนิทด้วยที่สุดคือแม่ของเธอเอง เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิตจึงทำให้เธอทุกข์ทรมานอย่างมาก และหันจิตใจที่บอบช้ำไปพึ่งพาหมา

เธอรับหมาจรจัดมาเลี้ยง และไม่ได้รับเลี้ยงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่อเอเลนอร์ตาย มีหมาอยู่ในความดูแลเธอทั้งหมด 150 ตัว และเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ความตายของตัวเธอเองมาทำให้เพื่อนรักของเธอต้องกลายเป็นหมาไร้บ้านอีกครั้ง เอเลนอร์ทิ้งเงินราว 12 ล้านดอลลาร์เอาไว้สำหรับดูแลหมาของเธอโดยเฉพาะ และเมื่อหมาตัวสุดท้ายของเธอตาย เงินที่เหลือก็ถูกส่งต่อให้กับ Auburn University Research Fund เพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับโรคต่างๆ ของสัตว์ต่อไป



8. Karlotta Liebenstein
Karlotta Liebenstein เป็นเคาท์เตสชาวเยอรมันที่รักสัตว์เลี้ยงของเธออย่างยิ่ง มันเป็น เยอรมัน เชพเพิร์ด สายพันธุ์ดีที่ชื่อว่า  Gunther III ในพินัยกรรมของเธอ เคาท์เตสก็ไม่ได้ละเลยมันแม้แต่น้อย กุนท์เธ่อร์ที่ 3 ได้รับเงิน 80 ล้านดอลลาร์ และเนื่องจากไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขอย่าง “จนกว่ามันจะตาย” เอาไว้ เมื่อกุนท์เธ่อร์ที่ 3 ตาย เงินที่เหลือจึงตกเป็นของลูกผู้โชคดีของมัน กุนท์เธ่อร์ที่ 4
เหล่าผู้ดูแลและผู้จัดการที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลหมาตัวนี้ฉลาดมากทีเดียว เพราะแทนที่จะใช้เงินมรดกไปเรื่อยๆ พวกเขาได้นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม ส่งผลให้ในปัจจุบัน สินทรัพย์ของกุนท์เธ่อร์ที่ 4 มีมูลค่าอย่างน้อย 372 ล้านดอลลาร์ มันยังเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรูหราหลายหลัง และใช้ชีวิตอย่างหรูหราเยี่ยงราชา มีคนรับใช้ส่วนตัว มีรถลีมูนซีนพร้อมคนขับ และมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมันโดยเฉพาะ



9. Anne E. Dier
Anne E. Dier รักและไว้ใจ Fannie หมาของเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อคิดถึงว่าสามีของเธอได้ทอดทิ้งเธอไป ทำให้เธอต้องหันมาพึ่งพาการปลอบโยนและเพื่อนร่วมชีวิตที่เธอต้องการเป็นอย่างยิ่งจากหมาของเธอแทน ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ถูกฆาตกรรมโดยสามีของเธอในปี 1909 แต่แอนนี่ผู้ชาญฉลาดก็ได้วางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่า หมาของเธอจะไม่กลายเป็นหมาข้างถนนเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอมอบบ้านพักมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง และให้ทั้งสองเป็นผู้ดูแลแฟนนี่ ซึ่งแม้จะคิดถึงเจ้านายของมันเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี



10. Diana Myburgh
บารอนเนส Diana Myburgh เป็นคนที่รักหมามาก เธอเลี้ยงหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Jason อยู่แล้วในตอนที่รับหมาจรจัดอย่าง Jasper เข้ามาดูแล แต่เธอก็แทบไม่มีเวลาได้เอาอกเอาใจเพื่อนใหม่ตัวนี้เลย เนื่องจากเธอเสียชีวิตลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่รับแจสเปอร์เข้าบ้าน

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยคนนี้ก็วางแผนอนาคตให้เพื่อนสี่ขาทั้ง 2 ตัวเอาไว้แล้ว เธอมอบเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ให้หมาแต่ละตัว เพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตของมันจะไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ปรากฏว่าแจสเปอร์ได้รับเงิน 25,000 ปอนด์ในส่วนของเจสันเพิ่มด้วยหลังจากที่เพื่อนของมันตายลง มันได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านพักของบารอนเนสต่อไป และ Sir Benjamin Slade ลูกเขยของบารอนเนสก็เป็นผู้ดูแลจัดการเงินของแจสเปอร์ เขานำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในตลาดหุ้น และว่ากันว่าทำให้สินทรัพย์ของเจ้าหมาตัวนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว


4534
10 หมาทายาทมหาเศรษฐีที่รวยกว่าคุณ
หมาของเจ้าของที่ร่ำรวยนั้นอยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนธรรมดาเดินกินทั่วไปบางคนเสียอีก และนี่ก็ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นกันขำๆ เท่านั้น คนที่รักหมาจริงๆ จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้าสี่ขาสุดที่รักของตน ยิ่งไปว่านั้น หมายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ซื่อสัตย์ และไว้ใจได้เสมอ ทำให้ใครหลายคนไว้ใจหมาเสียยิ่งกว่าคน แล้วก็ตัดสินใจยกทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของตนให้มันไปเสียเลย และนี่คือ 10 มหาเศรษฐีที่เลือกหมามาเป็นทายาทรับมรดกจำนวนมหาศาลของตนเอง



1. Gail Posner
Gail Posner เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และ Conchita ก็คือ ชิวาว่า ตัวน้อย และเป็นศูนย์กลางจักรวาลของเธอมาตลอด เกลไม่เคยลังเลที่จะเอาอกเอาใจสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอด้วยความรักอันหรูหราอย่างเช่น ปลอกคอคาร์เทียมูลค่า 15,000 ดอลลาร์ เจ้าหมาที่แสนโชคดีตัวนี้มีห้องนอนและห้องอาบน้ำเป็นของตัวเอง และได้รับการปรนเปรอด้วยการพาไปเข้าสปาอาทิตย์ละครั้ง แถมยังได้ออกไปทานมื้อเที่ยงสุดหรูกับเจ้านายของมันอยู่เสมอด้วย เมื่อเกลเสียชีวิตลงด้วยอายุ 67 ปี เธอทำให้ลูกชายของเธอประหลาดใจด้วยการยกเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์  และบ้านพักริมชายหาดในไมอามี่มูลค่า 8.3 ล้านดอลลาร์ให้หมาตัวโปรดของเธอ



2. Leona Helmsley
Leona Helmsley เป็นนักธุรกิจสาวชาวอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความโมโหร้าย เธอเป็นเจ้าของเครือข่ายโรงแรม Helmsley ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปลายยุค 80 และแม้ว่าคนทั้งโลกจะจดจำเธอในฐานะของผู้หญิงขี้โมโห แต่เธอก็เป็นเจ้านายผู้แสนดีที่รักใคร่ Trouble หมาของเธออย่างยิ่ง เมื่อลีโอน่าเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 87 ปี เธอตัดญาติหลายคนออกจากกองมรดก ซึ่งรวมถึงหลานแท้ๆ ของเธอเองด้วย แต่กลับระบุเอาไว้ในพินัยกรรมว่า Trouble ได้รับเงินจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ และทำให้มันกลายเป็นหมาที่ถูกเกลียดที่สุดในโลกแทบจะในทันที
เจ้าหมาที่น่าสงสารถูกขู่เอาชีวิตเกือบตลอดชีวิต และแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ลดจำนวนเงินมรดกจาก 12 ล้านให้เหลือ 2 ล้านในภายหลัง แต่เงินจำนวนนี้ก็เพียงพอให้มันใช้ชีวิตอย่างหรูหราแบบหมาๆ ได้ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายรายปีนั้นรวมถึงค่ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงจำนวน 1,000,000 ดอลลาร์ ค่าดูแลตัดแต่งขน 8,000 ดอลลาร์ และค่าอาหาร 1,200 ดอลลาร์ และครูฝึกของ Trouble นั้นก็ได้รับเงินเดือนสูงถึง 60,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว



3. Nora Hardwell
Nora Hardwell เป็นแม่ม่ายผู้โดดเดียวที่ใช้ชีวิตตามลำพังกับหมา 2 ตัวของเธอ Tina และ Kate เธอทนความคิดที่ว่าหมาของเธอจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ตามยถากรรมหลังจากที่เธอตายไม่ได้ และทิ้งเงินไว้ให้พวกมัน 1 ล้านดอลลาร์ โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนในพินัยกรรมว่า เป็นค่าดูแลหมาทุกตัวที่เธอได้เป็นเจ้าของก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนาน 21 ปีหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว หรือจนกว่าหมาตัวสุดท้ายของเธอจะตาย

หลังจากที่นอร่าเสียชีวิต เพื่อนสี่ขาอันเป็นที่รักของเธอก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม พร้อมสวนขนาด 4 เอเคอร์ และเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์สำหรับการดูแลความเป็นอยู่ของมัน เธอได้ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าหมาของเธอจะไม่ขาดอะไรเมื่อเธอจากไป นอกจากสัมผัสด้วยความรักจากตัวเธอเอง



4. Sidney Altman
Sidney Altman เป็นนักธุรกิจผู้เก่งกาจที่ทำเงินได้มหาศาล เขามีคนรักชื่อ Marie Dana ตอนที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 60 ปี ทุกคนก็คิดว่าเขาจะมอบเงินส่วนใหญ่ให้กับเธอ แต่เรื่องราวกลับตาลปัดเมื่อพินัยกรรมเปิดเผยว่า เขามอบบ้านมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ให้กับ Samantha หมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่เป็นรักแรกและรักแท้ของเขา นอกจากบ้านและที่ดินแล้ว ซาแมนธ่ายังได้รับเงิน 350,000 ดอลลาร์ และบ้านพักสุดหรูใน Beverly Hills อีก 1 หลัง

ส่วนดาน่านั้นได้รับเงินค่าจ้างรายปีเพียง 60,000 ดอลลาร์ และเธอจะได้รับเงินก้อนนี้ก็ต่อเมื่อเป็นคนดูแลซาแมนธ่าอีกด้วย มันจะน่าแปลกใจอะไรถ้าดาน่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงวิ่งไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบ้าน ในฐานะคนรักของผู้เสียชีวิต และควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าหมาตัวหนึ่ง



5. Lee Alexander McQueen
นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังชาวอังกฤษ Lee Alexander McQueen ฆ่าตัวตายเมื่อเขาอายุได้ 42 ปี ในจดหมายสั่งเสียของเขาเขียนไว้ว่า “ดูแลหมาของผมด้วย” ข้อความนี้ไม่ได้เป็นแค่คำพูดที่แสดงความรักต่อหมาของเขาอย่างลอยๆ McQueen ได้เขียนพินัยกรรมเพื่อยกทรัพย์สินให้กับ บูลล์เทอร์เรียร์ ที่เขารักยิ่งทั้ง 3 ตัว Juice, Minter และ Callum แต่ละตัวได้รับเงิน 82,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลพวกมันตราบสิ้นอายุขัย ความรักสัตว์ของเขายังเผื่อแผ่ไปถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ Battersea Dogs and Cats Home และองค์กรการกุศล Blue Cross Animal Welfare Charity ที่ละ 165,000 ดอลลาร์ด้วย



6. Majel Barrett Roddenberry
Majel Barrett Roddenberry ภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Star Trek อย่าง Gene Roddenberry ระบุในพินัยกรรมของเธอว่า เธอต้องการมอบเงิน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับเหล่าหมาที่เธอเลี้ยงเอาไว้ หมาเหล่านี้ยังได้อาศัยอยู่ในบ้านพักหรูหราจนกว่าพวกมันจะตายด้วย แต่เจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยของพวกมันก็ยังไม่พอใจนัก และแบ่งเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์ให้กับลูกจ้างที่เลือกที่จะอยู่กับหมาของเธอและคอยดูแลพวกมัน



7. Eleanor Ritchey
Eleanor Ritchey คือทายาทของ Quaker State Refining Corporation แน่นอนว่า เธอรวยมาก ตอนเอเลนอร์ยังเด็ก เธอเป็นคนเงียบๆ และไม่ชอบเข้าสังคมนัก คนที่เธอสนิทด้วยที่สุดคือแม่ของเธอเอง เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิตจึงทำให้เธอทุกข์ทรมานอย่างมาก และหันจิตใจที่บอบช้ำไปพึ่งพาหมา

เธอรับหมาจรจัดมาเลี้ยง และไม่ได้รับเลี้ยงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่อเอเลนอร์ตาย มีหมาอยู่ในความดูแลเธอทั้งหมด 150 ตัว และเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ความตายของตัวเธอเองมาทำให้เพื่อนรักของเธอต้องกลายเป็นหมาไร้บ้านอีกครั้ง เอเลนอร์ทิ้งเงินราว 12 ล้านดอลลาร์เอาไว้สำหรับดูแลหมาของเธอโดยเฉพาะ และเมื่อหมาตัวสุดท้ายของเธอตาย เงินที่เหลือก็ถูกส่งต่อให้กับ Auburn University Research Fund เพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับโรคต่างๆ ของสัตว์ต่อไป



8. Karlotta Liebenstein
Karlotta Liebenstein เป็นเคาท์เตสชาวเยอรมันที่รักสัตว์เลี้ยงของเธออย่างยิ่ง มันเป็น เยอรมัน เชพเพิร์ด สายพันธุ์ดีที่ชื่อว่า  Gunther III ในพินัยกรรมของเธอ เคาท์เตสก็ไม่ได้ละเลยมันแม้แต่น้อย กุนท์เธ่อร์ที่ 3 ได้รับเงิน 80 ล้านดอลลาร์ และเนื่องจากไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขอย่าง “จนกว่ามันจะตาย” เอาไว้ เมื่อกุนท์เธ่อร์ที่ 3 ตาย เงินที่เหลือจึงตกเป็นของลูกผู้โชคดีของมัน กุนท์เธ่อร์ที่ 4
เหล่าผู้ดูแลและผู้จัดการที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลหมาตัวนี้ฉลาดมากทีเดียว เพราะแทนที่จะใช้เงินมรดกไปเรื่อยๆ พวกเขาได้นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม ส่งผลให้ในปัจจุบัน สินทรัพย์ของกุนท์เธ่อร์ที่ 4 มีมูลค่าอย่างน้อย 372 ล้านดอลลาร์ มันยังเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรูหราหลายหลัง และใช้ชีวิตอย่างหรูหราเยี่ยงราชา มีคนรับใช้ส่วนตัว มีรถลีมูนซีนพร้อมคนขับ และมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมันโดยเฉพาะ



9. Anne E. Dier
Anne E. Dier รักและไว้ใจ Fannie หมาของเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อคิดถึงว่าสามีของเธอได้ทอดทิ้งเธอไป ทำให้เธอต้องหันมาพึ่งพาการปลอบโยนและเพื่อนร่วมชีวิตที่เธอต้องการเป็นอย่างยิ่งจากหมาของเธอแทน ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ถูกฆาตกรรมโดยสามีของเธอในปี 1909 แต่แอนนี่ผู้ชาญฉลาดก็ได้วางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่า หมาของเธอจะไม่กลายเป็นหมาข้างถนนเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอมอบบ้านพักมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง และให้ทั้งสองเป็นผู้ดูแลแฟนนี่ ซึ่งแม้จะคิดถึงเจ้านายของมันเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี



10. Diana Myburgh
บารอนเนส Diana Myburgh เป็นคนที่รักหมามาก เธอเลี้ยงหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Jason อยู่แล้วในตอนที่รับหมาจรจัดอย่าง Jasper เข้ามาดูแล แต่เธอก็แทบไม่มีเวลาได้เอาอกเอาใจเพื่อนใหม่ตัวนี้เลย เนื่องจากเธอเสียชีวิตลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่รับแจสเปอร์เข้าบ้าน

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยคนนี้ก็วางแผนอนาคตให้เพื่อนสี่ขาทั้ง 2 ตัวเอาไว้แล้ว เธอมอบเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ให้หมาแต่ละตัว เพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตของมันจะไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ปรากฏว่าแจสเปอร์ได้รับเงิน 25,000 ปอนด์ในส่วนของเจสันเพิ่มด้วยหลังจากที่เพื่อนของมันตายลง มันได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านพักของบารอนเนสต่อไป และ Sir Benjamin Slade ลูกเขยของบารอนเนสก็เป็นผู้ดูแลจัดการเงินของแจสเปอร์ เขานำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในตลาดหุ้น และว่ากันว่าทำให้สินทรัพย์ของเจ้าหมาตัวนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว


4535
10 หมาทายาทมหาเศรษฐีที่รวยกว่าคุณ
หมาของเจ้าของที่ร่ำรวยนั้นอยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนธรรมดาเดินกินทั่วไปบางคนเสียอีก และนี่ก็ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นกันขำๆ เท่านั้น คนที่รักหมาจริงๆ จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้าสี่ขาสุดที่รักของตน ยิ่งไปว่านั้น หมายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ซื่อสัตย์ และไว้ใจได้เสมอ ทำให้ใครหลายคนไว้ใจหมาเสียยิ่งกว่าคน แล้วก็ตัดสินใจยกทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของตนให้มันไปเสียเลย และนี่คือ 10 มหาเศรษฐีที่เลือกหมามาเป็นทายาทรับมรดกจำนวนมหาศาลของตนเอง



1. Gail Posner
Gail Posner เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และ Conchita ก็คือ ชิวาว่า ตัวน้อย และเป็นศูนย์กลางจักรวาลของเธอมาตลอด เกลไม่เคยลังเลที่จะเอาอกเอาใจสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอด้วยความรักอันหรูหราอย่างเช่น ปลอกคอคาร์เทียมูลค่า 15,000 ดอลลาร์ เจ้าหมาที่แสนโชคดีตัวนี้มีห้องนอนและห้องอาบน้ำเป็นของตัวเอง และได้รับการปรนเปรอด้วยการพาไปเข้าสปาอาทิตย์ละครั้ง แถมยังได้ออกไปทานมื้อเที่ยงสุดหรูกับเจ้านายของมันอยู่เสมอด้วย เมื่อเกลเสียชีวิตลงด้วยอายุ 67 ปี เธอทำให้ลูกชายของเธอประหลาดใจด้วยการยกเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์  และบ้านพักริมชายหาดในไมอามี่มูลค่า 8.3 ล้านดอลลาร์ให้หมาตัวโปรดของเธอ



2. Leona Helmsley
Leona Helmsley เป็นนักธุรกิจสาวชาวอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความโมโหร้าย เธอเป็นเจ้าของเครือข่ายโรงแรม Helmsley ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปลายยุค 80 และแม้ว่าคนทั้งโลกจะจดจำเธอในฐานะของผู้หญิงขี้โมโห แต่เธอก็เป็นเจ้านายผู้แสนดีที่รักใคร่ Trouble หมาของเธออย่างยิ่ง เมื่อลีโอน่าเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 87 ปี เธอตัดญาติหลายคนออกจากกองมรดก ซึ่งรวมถึงหลานแท้ๆ ของเธอเองด้วย แต่กลับระบุเอาไว้ในพินัยกรรมว่า Trouble ได้รับเงินจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ และทำให้มันกลายเป็นหมาที่ถูกเกลียดที่สุดในโลกแทบจะในทันที
เจ้าหมาที่น่าสงสารถูกขู่เอาชีวิตเกือบตลอดชีวิต และแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ลดจำนวนเงินมรดกจาก 12 ล้านให้เหลือ 2 ล้านในภายหลัง แต่เงินจำนวนนี้ก็เพียงพอให้มันใช้ชีวิตอย่างหรูหราแบบหมาๆ ได้ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายรายปีนั้นรวมถึงค่ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงจำนวน 1,000,000 ดอลลาร์ ค่าดูแลตัดแต่งขน 8,000 ดอลลาร์ และค่าอาหาร 1,200 ดอลลาร์ และครูฝึกของ Trouble นั้นก็ได้รับเงินเดือนสูงถึง 60,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว



3. Nora Hardwell
Nora Hardwell เป็นแม่ม่ายผู้โดดเดียวที่ใช้ชีวิตตามลำพังกับหมา 2 ตัวของเธอ Tina และ Kate เธอทนความคิดที่ว่าหมาของเธอจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ตามยถากรรมหลังจากที่เธอตายไม่ได้ และทิ้งเงินไว้ให้พวกมัน 1 ล้านดอลลาร์ โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนในพินัยกรรมว่า เป็นค่าดูแลหมาทุกตัวที่เธอได้เป็นเจ้าของก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนาน 21 ปีหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว หรือจนกว่าหมาตัวสุดท้ายของเธอจะตาย

หลังจากที่นอร่าเสียชีวิต เพื่อนสี่ขาอันเป็นที่รักของเธอก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม พร้อมสวนขนาด 4 เอเคอร์ และเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์สำหรับการดูแลความเป็นอยู่ของมัน เธอได้ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าหมาของเธอจะไม่ขาดอะไรเมื่อเธอจากไป นอกจากสัมผัสด้วยความรักจากตัวเธอเอง



4. Sidney Altman
Sidney Altman เป็นนักธุรกิจผู้เก่งกาจที่ทำเงินได้มหาศาล เขามีคนรักชื่อ Marie Dana ตอนที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 60 ปี ทุกคนก็คิดว่าเขาจะมอบเงินส่วนใหญ่ให้กับเธอ แต่เรื่องราวกลับตาลปัดเมื่อพินัยกรรมเปิดเผยว่า เขามอบบ้านมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ให้กับ Samantha หมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่เป็นรักแรกและรักแท้ของเขา นอกจากบ้านและที่ดินแล้ว ซาแมนธ่ายังได้รับเงิน 350,000 ดอลลาร์ และบ้านพักสุดหรูใน Beverly Hills อีก 1 หลัง

ส่วนดาน่านั้นได้รับเงินค่าจ้างรายปีเพียง 60,000 ดอลลาร์ และเธอจะได้รับเงินก้อนนี้ก็ต่อเมื่อเป็นคนดูแลซาแมนธ่าอีกด้วย มันจะน่าแปลกใจอะไรถ้าดาน่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงวิ่งไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบ้าน ในฐานะคนรักของผู้เสียชีวิต และควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าหมาตัวหนึ่ง



5. Lee Alexander McQueen
นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังชาวอังกฤษ Lee Alexander McQueen ฆ่าตัวตายเมื่อเขาอายุได้ 42 ปี ในจดหมายสั่งเสียของเขาเขียนไว้ว่า “ดูแลหมาของผมด้วย” ข้อความนี้ไม่ได้เป็นแค่คำพูดที่แสดงความรักต่อหมาของเขาอย่างลอยๆ McQueen ได้เขียนพินัยกรรมเพื่อยกทรัพย์สินให้กับ บูลล์เทอร์เรียร์ ที่เขารักยิ่งทั้ง 3 ตัว Juice, Minter และ Callum แต่ละตัวได้รับเงิน 82,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลพวกมันตราบสิ้นอายุขัย ความรักสัตว์ของเขายังเผื่อแผ่ไปถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ Battersea Dogs and Cats Home และองค์กรการกุศล Blue Cross Animal Welfare Charity ที่ละ 165,000 ดอลลาร์ด้วย



6. Majel Barrett Roddenberry
Majel Barrett Roddenberry ภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Star Trek อย่าง Gene Roddenberry ระบุในพินัยกรรมของเธอว่า เธอต้องการมอบเงิน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับเหล่าหมาที่เธอเลี้ยงเอาไว้ หมาเหล่านี้ยังได้อาศัยอยู่ในบ้านพักหรูหราจนกว่าพวกมันจะตายด้วย แต่เจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยของพวกมันก็ยังไม่พอใจนัก และแบ่งเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์ให้กับลูกจ้างที่เลือกที่จะอยู่กับหมาของเธอและคอยดูแลพวกมัน



7. Eleanor Ritchey
Eleanor Ritchey คือทายาทของ Quaker State Refining Corporation แน่นอนว่า เธอรวยมาก ตอนเอเลนอร์ยังเด็ก เธอเป็นคนเงียบๆ และไม่ชอบเข้าสังคมนัก คนที่เธอสนิทด้วยที่สุดคือแม่ของเธอเอง เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิตจึงทำให้เธอทุกข์ทรมานอย่างมาก และหันจิตใจที่บอบช้ำไปพึ่งพาหมา

เธอรับหมาจรจัดมาเลี้ยง และไม่ได้รับเลี้ยงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่อเอเลนอร์ตาย มีหมาอยู่ในความดูแลเธอทั้งหมด 150 ตัว และเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ความตายของตัวเธอเองมาทำให้เพื่อนรักของเธอต้องกลายเป็นหมาไร้บ้านอีกครั้ง เอเลนอร์ทิ้งเงินราว 12 ล้านดอลลาร์เอาไว้สำหรับดูแลหมาของเธอโดยเฉพาะ และเมื่อหมาตัวสุดท้ายของเธอตาย เงินที่เหลือก็ถูกส่งต่อให้กับ Auburn University Research Fund เพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับโรคต่างๆ ของสัตว์ต่อไป



8. Karlotta Liebenstein
Karlotta Liebenstein เป็นเคาท์เตสชาวเยอรมันที่รักสัตว์เลี้ยงของเธออย่างยิ่ง มันเป็น เยอรมัน เชพเพิร์ด สายพันธุ์ดีที่ชื่อว่า  Gunther III ในพินัยกรรมของเธอ เคาท์เตสก็ไม่ได้ละเลยมันแม้แต่น้อย กุนท์เธ่อร์ที่ 3 ได้รับเงิน 80 ล้านดอลลาร์ และเนื่องจากไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขอย่าง “จนกว่ามันจะตาย” เอาไว้ เมื่อกุนท์เธ่อร์ที่ 3 ตาย เงินที่เหลือจึงตกเป็นของลูกผู้โชคดีของมัน กุนท์เธ่อร์ที่ 4
เหล่าผู้ดูแลและผู้จัดการที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลหมาตัวนี้ฉลาดมากทีเดียว เพราะแทนที่จะใช้เงินมรดกไปเรื่อยๆ พวกเขาได้นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม ส่งผลให้ในปัจจุบัน สินทรัพย์ของกุนท์เธ่อร์ที่ 4 มีมูลค่าอย่างน้อย 372 ล้านดอลลาร์ มันยังเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรูหราหลายหลัง และใช้ชีวิตอย่างหรูหราเยี่ยงราชา มีคนรับใช้ส่วนตัว มีรถลีมูนซีนพร้อมคนขับ และมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมันโดยเฉพาะ



9. Anne E. Dier
Anne E. Dier รักและไว้ใจ Fannie หมาของเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อคิดถึงว่าสามีของเธอได้ทอดทิ้งเธอไป ทำให้เธอต้องหันมาพึ่งพาการปลอบโยนและเพื่อนร่วมชีวิตที่เธอต้องการเป็นอย่างยิ่งจากหมาของเธอแทน ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ถูกฆาตกรรมโดยสามีของเธอในปี 1909 แต่แอนนี่ผู้ชาญฉลาดก็ได้วางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่า หมาของเธอจะไม่กลายเป็นหมาข้างถนนเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอมอบบ้านพักมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง และให้ทั้งสองเป็นผู้ดูแลแฟนนี่ ซึ่งแม้จะคิดถึงเจ้านายของมันเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี



10. Diana Myburgh
บารอนเนส Diana Myburgh เป็นคนที่รักหมามาก เธอเลี้ยงหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Jason อยู่แล้วในตอนที่รับหมาจรจัดอย่าง Jasper เข้ามาดูแล แต่เธอก็แทบไม่มีเวลาได้เอาอกเอาใจเพื่อนใหม่ตัวนี้เลย เนื่องจากเธอเสียชีวิตลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่รับแจสเปอร์เข้าบ้าน

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยคนนี้ก็วางแผนอนาคตให้เพื่อนสี่ขาทั้ง 2 ตัวเอาไว้แล้ว เธอมอบเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ให้หมาแต่ละตัว เพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตของมันจะไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ปรากฏว่าแจสเปอร์ได้รับเงิน 25,000 ปอนด์ในส่วนของเจสันเพิ่มด้วยหลังจากที่เพื่อนของมันตายลง มันได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านพักของบารอนเนสต่อไป และ Sir Benjamin Slade ลูกเขยของบารอนเนสก็เป็นผู้ดูแลจัดการเงินของแจสเปอร์ เขานำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในตลาดหุ้น และว่ากันว่าทำให้สินทรัพย์ของเจ้าหมาตัวนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว


4536
10 หมาทายาทมหาเศรษฐีที่รวยกว่าคุณ
หมาของเจ้าของที่ร่ำรวยนั้นอยู่ดีกินดียิ่งกว่าคนธรรมดาเดินกินทั่วไปบางคนเสียอีก และนี่ก็ไม่ใช่แค่คำพูดล้อเล่นกันขำๆ เท่านั้น คนที่รักหมาจริงๆ จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อเจ้าสี่ขาสุดที่รักของตน ยิ่งไปว่านั้น หมายังเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ซื่อสัตย์ และไว้ใจได้เสมอ ทำให้ใครหลายคนไว้ใจหมาเสียยิ่งกว่าคน แล้วก็ตัดสินใจยกทรัพย์สินมรดกทั้งหมดของตนให้มันไปเสียเลย และนี่คือ 10 มหาเศรษฐีที่เลือกหมามาเป็นทายาทรับมรดกจำนวนมหาศาลของตนเอง



1. Gail Posner
Gail Posner เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย และ Conchita ก็คือ ชิวาว่า ตัวน้อย และเป็นศูนย์กลางจักรวาลของเธอมาตลอด เกลไม่เคยลังเลที่จะเอาอกเอาใจสัตว์เลี้ยงตัวน้อยของเธอด้วยความรักอันหรูหราอย่างเช่น ปลอกคอคาร์เทียมูลค่า 15,000 ดอลลาร์ เจ้าหมาที่แสนโชคดีตัวนี้มีห้องนอนและห้องอาบน้ำเป็นของตัวเอง และได้รับการปรนเปรอด้วยการพาไปเข้าสปาอาทิตย์ละครั้ง แถมยังได้ออกไปทานมื้อเที่ยงสุดหรูกับเจ้านายของมันอยู่เสมอด้วย เมื่อเกลเสียชีวิตลงด้วยอายุ 67 ปี เธอทำให้ลูกชายของเธอประหลาดใจด้วยการยกเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์  และบ้านพักริมชายหาดในไมอามี่มูลค่า 8.3 ล้านดอลลาร์ให้หมาตัวโปรดของเธอ



2. Leona Helmsley
Leona Helmsley เป็นนักธุรกิจสาวชาวอเมริกันที่ขึ้นชื่อเรื่องความโมโหร้าย เธอเป็นเจ้าของเครือข่ายโรงแรม Helmsley ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปลายยุค 80 และแม้ว่าคนทั้งโลกจะจดจำเธอในฐานะของผู้หญิงขี้โมโห แต่เธอก็เป็นเจ้านายผู้แสนดีที่รักใคร่ Trouble หมาของเธออย่างยิ่ง เมื่อลีโอน่าเสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 87 ปี เธอตัดญาติหลายคนออกจากกองมรดก ซึ่งรวมถึงหลานแท้ๆ ของเธอเองด้วย แต่กลับระบุเอาไว้ในพินัยกรรมว่า Trouble ได้รับเงินจำนวน 12 ล้านดอลลาร์ และทำให้มันกลายเป็นหมาที่ถูกเกลียดที่สุดในโลกแทบจะในทันที
เจ้าหมาที่น่าสงสารถูกขู่เอาชีวิตเกือบตลอดชีวิต และแม้ว่าศาลจะตัดสินให้ลดจำนวนเงินมรดกจาก 12 ล้านให้เหลือ 2 ล้านในภายหลัง แต่เงินจำนวนนี้ก็เพียงพอให้มันใช้ชีวิตอย่างหรูหราแบบหมาๆ ได้ยาวนานถึง 10 ปี ซึ่งค่าใช้จ่ายรายปีนั้นรวมถึงค่ารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงจำนวน 1,000,000 ดอลลาร์ ค่าดูแลตัดแต่งขน 8,000 ดอลลาร์ และค่าอาหาร 1,200 ดอลลาร์ และครูฝึกของ Trouble นั้นก็ได้รับเงินเดือนสูงถึง 60,000 ดอลลาร์เลยทีเดียว



3. Nora Hardwell
Nora Hardwell เป็นแม่ม่ายผู้โดดเดียวที่ใช้ชีวิตตามลำพังกับหมา 2 ตัวของเธอ Tina และ Kate เธอทนความคิดที่ว่าหมาของเธอจะต้องถูกทิ้งให้อยู่ตามยถากรรมหลังจากที่เธอตายไม่ได้ และทิ้งเงินไว้ให้พวกมัน 1 ล้านดอลลาร์ โดยระบุเอาไว้อย่างชัดเจนในพินัยกรรมว่า เป็นค่าดูแลหมาทุกตัวที่เธอได้เป็นเจ้าของก่อนที่เธอจะเสียชีวิตนาน 21 ปีหลังจากที่เธอเสียชีวิตแล้ว หรือจนกว่าหมาตัวสุดท้ายของเธอจะตาย

หลังจากที่นอร่าเสียชีวิต เพื่อนสี่ขาอันเป็นที่รักของเธอก็ได้อาศัยอยู่ในบ้านหลังเดิม พร้อมสวนขนาด 4 เอเคอร์ และเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์สำหรับการดูแลความเป็นอยู่ของมัน เธอได้ทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าหมาของเธอจะไม่ขาดอะไรเมื่อเธอจากไป นอกจากสัมผัสด้วยความรักจากตัวเธอเอง



4. Sidney Altman
Sidney Altman เป็นนักธุรกิจผู้เก่งกาจที่ทำเงินได้มหาศาล เขามีคนรักชื่อ Marie Dana ตอนที่เขาเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 60 ปี ทุกคนก็คิดว่าเขาจะมอบเงินส่วนใหญ่ให้กับเธอ แต่เรื่องราวกลับตาลปัดเมื่อพินัยกรรมเปิดเผยว่า เขามอบบ้านมูลค่า 6 ล้านดอลลาร์ให้กับ Samantha หมาพันธุ์ค็อกเกอร์ สแปเนียล ที่เป็นรักแรกและรักแท้ของเขา นอกจากบ้านและที่ดินแล้ว ซาแมนธ่ายังได้รับเงิน 350,000 ดอลลาร์ และบ้านพักสุดหรูใน Beverly Hills อีก 1 หลัง

ส่วนดาน่านั้นได้รับเงินค่าจ้างรายปีเพียง 60,000 ดอลลาร์ และเธอจะได้รับเงินก้อนนี้ก็ต่อเมื่อเป็นคนดูแลซาแมนธ่าอีกด้วย มันจะน่าแปลกใจอะไรถ้าดาน่าจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงวิ่งไปฟ้องศาลเพื่อเรียกร้องสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของบ้าน ในฐานะคนรักของผู้เสียชีวิต และควรจะได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่าหมาตัวหนึ่ง



5. Lee Alexander McQueen
นักออกแบบเสื้อผ้าชื่อดังชาวอังกฤษ Lee Alexander McQueen ฆ่าตัวตายเมื่อเขาอายุได้ 42 ปี ในจดหมายสั่งเสียของเขาเขียนไว้ว่า “ดูแลหมาของผมด้วย” ข้อความนี้ไม่ได้เป็นแค่คำพูดที่แสดงความรักต่อหมาของเขาอย่างลอยๆ McQueen ได้เขียนพินัยกรรมเพื่อยกทรัพย์สินให้กับ บูลล์เทอร์เรียร์ ที่เขารักยิ่งทั้ง 3 ตัว Juice, Minter และ Callum แต่ละตัวได้รับเงิน 82,000 ดอลลาร์เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลพวกมันตราบสิ้นอายุขัย ความรักสัตว์ของเขายังเผื่อแผ่ไปถึงสถานสงเคราะห์สัตว์ Battersea Dogs and Cats Home และองค์กรการกุศล Blue Cross Animal Welfare Charity ที่ละ 165,000 ดอลลาร์ด้วย



6. Majel Barrett Roddenberry
Majel Barrett Roddenberry ภรรยาของผู้สร้างภาพยนตร์เรื่อง Star Trek อย่าง Gene Roddenberry ระบุในพินัยกรรมของเธอว่า เธอต้องการมอบเงิน 4 ล้านดอลลาร์ให้กับเหล่าหมาที่เธอเลี้ยงเอาไว้ หมาเหล่านี้ยังได้อาศัยอยู่ในบ้านพักหรูหราจนกว่าพวกมันจะตายด้วย แต่เจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยของพวกมันก็ยังไม่พอใจนัก และแบ่งเงินอีก 1 ล้านดอลลาร์ให้กับลูกจ้างที่เลือกที่จะอยู่กับหมาของเธอและคอยดูแลพวกมัน



7. Eleanor Ritchey
Eleanor Ritchey คือทายาทของ Quaker State Refining Corporation แน่นอนว่า เธอรวยมาก ตอนเอเลนอร์ยังเด็ก เธอเป็นคนเงียบๆ และไม่ชอบเข้าสังคมนัก คนที่เธอสนิทด้วยที่สุดคือแม่ของเธอเอง เมื่อแม่ของเธอเสียชีวิตจึงทำให้เธอทุกข์ทรมานอย่างมาก และหันจิตใจที่บอบช้ำไปพึ่งพาหมา

เธอรับหมาจรจัดมาเลี้ยง และไม่ได้รับเลี้ยงแค่ 2-3 ตัวเท่านั้น เมื่อเอเลนอร์ตาย มีหมาอยู่ในความดูแลเธอทั้งหมด 150 ตัว และเธอก็ไม่ได้ปล่อยให้ความตายของตัวเธอเองมาทำให้เพื่อนรักของเธอต้องกลายเป็นหมาไร้บ้านอีกครั้ง เอเลนอร์ทิ้งเงินราว 12 ล้านดอลลาร์เอาไว้สำหรับดูแลหมาของเธอโดยเฉพาะ และเมื่อหมาตัวสุดท้ายของเธอตาย เงินที่เหลือก็ถูกส่งต่อให้กับ Auburn University Research Fund เพื่อใช้ในการวิจัยเกี่ยวกับโรคต่างๆ ของสัตว์ต่อไป



8. Karlotta Liebenstein
Karlotta Liebenstein เป็นเคาท์เตสชาวเยอรมันที่รักสัตว์เลี้ยงของเธออย่างยิ่ง มันเป็น เยอรมัน เชพเพิร์ด สายพันธุ์ดีที่ชื่อว่า  Gunther III ในพินัยกรรมของเธอ เคาท์เตสก็ไม่ได้ละเลยมันแม้แต่น้อย กุนท์เธ่อร์ที่ 3 ได้รับเงิน 80 ล้านดอลลาร์ และเนื่องจากไม่ได้มีการระบุเงื่อนไขอย่าง “จนกว่ามันจะตาย” เอาไว้ เมื่อกุนท์เธ่อร์ที่ 3 ตาย เงินที่เหลือจึงตกเป็นของลูกผู้โชคดีของมัน กุนท์เธ่อร์ที่ 4
เหล่าผู้ดูแลและผู้จัดการที่ได้รับความไว้วางใจให้ดูแลหมาตัวนี้ฉลาดมากทีเดียว เพราะแทนที่จะใช้เงินมรดกไปเรื่อยๆ พวกเขาได้นำเงินส่วนหนึ่งไปลงทุนเพิ่ม ส่งผลให้ในปัจจุบัน สินทรัพย์ของกุนท์เธ่อร์ที่ 4 มีมูลค่าอย่างน้อย 372 ล้านดอลลาร์ มันยังเป็นเจ้าของบ้านพักตากอากาศหรูหราหลายหลัง และใช้ชีวิตอย่างหรูหราเยี่ยงราชา มีคนรับใช้ส่วนตัว มีรถลีมูนซีนพร้อมคนขับ และมีสระว่ายน้ำที่สร้างขึ้นเป็นพิเศษเพื่อมันโดยเฉพาะ



9. Anne E. Dier
Anne E. Dier รักและไว้ใจ Fannie หมาของเธอมากกว่าอะไรทั้งหมดในโลกใบนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจแต่อย่างใด เมื่อคิดถึงว่าสามีของเธอได้ทอดทิ้งเธอไป ทำให้เธอต้องหันมาพึ่งพาการปลอบโยนและเพื่อนร่วมชีวิตที่เธอต้องการเป็นอย่างยิ่งจากหมาของเธอแทน ผู้หญิงที่น่าสงสารคนนี้ถูกฆาตกรรมโดยสามีของเธอในปี 1909 แต่แอนนี่ผู้ชาญฉลาดก็ได้วางแผนอย่างรัดกุมเพื่อให้แน่ใจว่า หมาของเธอจะไม่กลายเป็นหมาข้างถนนเมื่อเธอจากโลกนี้ไป เธอมอบบ้านพักมูลค่า 25,000 ดอลลาร์ให้กับสามีภรรยาคู่หนึ่ง และให้ทั้งสองเป็นผู้ดูแลแฟนนี่ ซึ่งแม้จะคิดถึงเจ้านายของมันเป็นอย่างยิ่ง แต่ก็ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี



10. Diana Myburgh
บารอนเนส Diana Myburgh เป็นคนที่รักหมามาก เธอเลี้ยงหมาตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Jason อยู่แล้วในตอนที่รับหมาจรจัดอย่าง Jasper เข้ามาดูแล แต่เธอก็แทบไม่มีเวลาได้เอาอกเอาใจเพื่อนใหม่ตัวนี้เลย เนื่องจากเธอเสียชีวิตลงภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากที่รับแจสเปอร์เข้าบ้าน

แต่ถึงอย่างนั้นเจ้านายผู้เป็นห่วงเป็นใยคนนี้ก็วางแผนอนาคตให้เพื่อนสี่ขาทั้ง 2 ตัวเอาไว้แล้ว เธอมอบเงินจำนวน 25,000 ปอนด์ให้หมาแต่ละตัว เพื่อให้แน่ใจว่าชีวิตของมันจะไม่ต้องเผชิญกับความยากลำบาก แต่ปรากฏว่าแจสเปอร์ได้รับเงิน 25,000 ปอนด์ในส่วนของเจสันเพิ่มด้วยหลังจากที่เพื่อนของมันตายลง มันได้รับอนุญาตให้อยู่ในบ้านพักของบารอนเนสต่อไป และ Sir Benjamin Slade ลูกเขยของบารอนเนสก็เป็นผู้ดูแลจัดการเงินของแจสเปอร์ เขานำเงินก้อนนี้ไปลงทุนในตลาดหุ้น และว่ากันว่าทำให้สินทรัพย์ของเจ้าหมาตัวนี้เพิ่มขึ้นอีก 3 เท่าตัว


4537
15 ภาพเปรียบเทียบ แมวน้ำ VS น้องหมา
แม้ว่าสุนัขและแมวน้ำ ที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน แต่ทั้งสองมันมีความน่ารักมากๆ ที่เหมือนกันและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน และมีคนชอบตั้งฉายาของแมวน้ำ ว่า Puppies of the ocean (น้องหมาในมหาสมุทร) ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหมือนจริงๆ เราลองไปดูภาพต่อไปนี้เลยค่ะ

1.   ยิ้มเหมือนกันเปะ


2.   ท่านอนเปะๆ


3.   แม้กระทั่งในน้ำ


4.   ชำเรืองตา 55


5.   มีคาบของเหมือนกันด้วยนะ

6.   นอนอืดๆๆๆ


7.   หิมะเหรอไม่ใช่อุปสรรคในการนอนเลย


8.   สลับแค่อยู่บนกะล่าง อิอิ


9.   สบายๆ ชิลๆ


10.   อันนี้เหมือนจะต่างกันล่ะ 555


11.   แบ๋วได้อีก


12.   ขาวๆ กลมๆ เหมือนกันเลย


13.   ทักทายเพื่อนๆ


14.   เปะ


15.   คันๆๆๆๆ



4538
15 ภาพเปรียบเทียบ แมวน้ำ VS น้องหมา
แม้ว่าสุนัขและแมวน้ำ ที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน แต่ทั้งสองมันมีความน่ารักมากๆ ที่เหมือนกันและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน และมีคนชอบตั้งฉายาของแมวน้ำ ว่า Puppies of the ocean (น้องหมาในมหาสมุทร) ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหมือนจริงๆ เราลองไปดูภาพต่อไปนี้เลยค่ะ

1.   ยิ้มเหมือนกันเปะ


2.   ท่านอนเปะๆ


3.   แม้กระทั่งในน้ำ


4.   ชำเรืองตา 55


5.   มีคาบของเหมือนกันด้วยนะ

6.   นอนอืดๆๆๆ


7.   หิมะเหรอไม่ใช่อุปสรรคในการนอนเลย


8.   สลับแค่อยู่บนกะล่าง อิอิ


9.   สบายๆ ชิลๆ


10.   อันนี้เหมือนจะต่างกันล่ะ 555


11.   แบ๋วได้อีก


12.   ขาวๆ กลมๆ เหมือนกันเลย


13.   ทักทายเพื่อนๆ


14.   เปะ


15.   คันๆๆๆๆ



4539
15 ภาพเปรียบเทียบ แมวน้ำ VS น้องหมา
แม้ว่าสุนัขและแมวน้ำ ที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน แต่ทั้งสองมันมีความน่ารักมากๆ ที่เหมือนกันและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน และมีคนชอบตั้งฉายาของแมวน้ำ ว่า Puppies of the ocean (น้องหมาในมหาสมุทร) ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหมือนจริงๆ เราลองไปดูภาพต่อไปนี้เลยค่ะ

1.   ยิ้มเหมือนกันเปะ


2.   ท่านอนเปะๆ


3.   แม้กระทั่งในน้ำ


4.   ชำเรืองตา 55


5.   มีคาบของเหมือนกันด้วยนะ

6.   นอนอืดๆๆๆ


7.   หิมะเหรอไม่ใช่อุปสรรคในการนอนเลย


8.   สลับแค่อยู่บนกะล่าง อิอิ


9.   สบายๆ ชิลๆ


10.   อันนี้เหมือนจะต่างกันล่ะ 555


11.   แบ๋วได้อีก


12.   ขาวๆ กลมๆ เหมือนกันเลย


13.   ทักทายเพื่อนๆ


14.   เปะ


15.   คันๆๆๆๆ



4540
15 ภาพเปรียบเทียบ แมวน้ำ VS น้องหมา
แม้ว่าสุนัขและแมวน้ำ ที่อยู่อาศัยจะแตกต่างกัน แต่ทั้งสองมันมีความน่ารักมากๆ ที่เหมือนกันและเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนกัน และมีคนชอบตั้งฉายาของแมวน้ำ ว่า Puppies of the ocean (น้องหมาในมหาสมุทร) ถ้าคุณไม่เชื่อว่ามันเหมือนจริงๆ เราลองไปดูภาพต่อไปนี้เลยค่ะ

1.   ยิ้มเหมือนกันเปะ


2.   ท่านอนเปะๆ


3.   แม้กระทั่งในน้ำ


4.   ชำเรืองตา 55


5.   มีคาบของเหมือนกันด้วยนะ

6.   นอนอืดๆๆๆ


7.   หิมะเหรอไม่ใช่อุปสรรคในการนอนเลย


8.   สลับแค่อยู่บนกะล่าง อิอิ


9.   สบายๆ ชิลๆ


10.   อันนี้เหมือนจะต่างกันล่ะ 555


11.   แบ๋วได้อีก


12.   ขาวๆ กลมๆ เหมือนกันเลย


13.   ทักทายเพื่อนๆ


14.   เปะ


15.   คันๆๆๆๆ



4541
12 ภาพสุนัขที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยช่างภาพที่มีพรสวรรค์มากชาวโปแลนด์ชื่อ Alicja Zmyslowska ภาพของเธอแสดงอารมณ์ของสุนัขแต่ล่ะตัวได้ดีมากๆ เธออายุเพียง 20 ปี เราไปดูกันค่ะ ว่าแต่ละภาพจะสวยงามขนาดไหน

1.   ช่างภาพบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นจากเมื่อเธอได้กล้อง DSLR ครั้งแรกของเธอ เธอเริ่มชอบการถ่ายรูปสุนัข


2.   เธอกล่าวว่า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือได้ถ่ายภาพสุนัขและมันก็ได้เป็นจริงในปี 2006


3.   Kiara คือสุนัขตัวแรกที่เธอถ่ายรูป “ ในที่สุดก็มาถึงที่บ้านของฉันและเปลี่ยนชีวิตของฉัน จากจุดเริ่มต้นที่เธอได้ทำให้ภาพของเธอกับกล้องขนาดเล็กหรือกล้อง DSLR ที่ยืมมาจากพี่ชายของเธอ


4.   หนึ่งปีต่อมาเธอได้มีกล้อง DSLR อันแรกเป็นของตัวเอง และทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น Kiara สุนัขของเธอนั่นเองที่เป็นแบบให้เธอ


5.   “ ฉันมีไม่กี่แห่งที่ฉันมักจะไปถ่ายภาพ ที่ที่ฉันเลือกจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่มันจะถ่ายทอดอารมณ์ของสุนัขของฉันได้เป็นอย่างดี ”


6.   สำหรับถ่าย พอร์ตเทรต (ภาพบุคคล) ป่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับสุนัขในการเคลื่อนไหวมาก ฉันชอบจะถ่ายในที่กว้างๆ เช่นทุ่งหญ้า


7.   เธอยอมรับเลยว่าการทำงานถ่ายภาพกับสุนัข เป็นอะไรที่สนุกมากกว่าการทำงานกับคนซะอีก


8.   เธอยังเสริมอีกว่าการทำงานกับสุนัข นั้นมันเป็นมิตรกับเรามากๆทำให้เรายิ่งชอบกับการทำงาน


9.   ฉันจะชอบบอกเพื่อนของฉันว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากในการถ่ายภาพกับสุนัข


10.    แต่บางครั้งมันเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันถ่ายภาพของสุนัขจรจัด  เพื่อจะสื่อภาพให้สุนัขนั้นน่าสงสารมันมักจะไม่ตอบสนอง  พวกเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉัน แต่มันก็คุ้มค่า


11.   คุณจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าสุนัขเหล่านี้มีหลายอารมณ์มากในภาพนี้


12.   Such an amazing work, good job Alicja Zmyslowska!!!


4542
12 ภาพสุนัขที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยช่างภาพที่มีพรสวรรค์มากชาวโปแลนด์ชื่อ Alicja Zmyslowska ภาพของเธอแสดงอารมณ์ของสุนัขแต่ล่ะตัวได้ดีมากๆ เธออายุเพียง 20 ปี เราไปดูกันค่ะ ว่าแต่ละภาพจะสวยงามขนาดไหน

1.   ช่างภาพบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นจากเมื่อเธอได้กล้อง DSLR ครั้งแรกของเธอ เธอเริ่มชอบการถ่ายรูปสุนัข


2.   เธอกล่าวว่า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือได้ถ่ายภาพสุนัขและมันก็ได้เป็นจริงในปี 2006


3.   Kiara คือสุนัขตัวแรกที่เธอถ่ายรูป “ ในที่สุดก็มาถึงที่บ้านของฉันและเปลี่ยนชีวิตของฉัน จากจุดเริ่มต้นที่เธอได้ทำให้ภาพของเธอกับกล้องขนาดเล็กหรือกล้อง DSLR ที่ยืมมาจากพี่ชายของเธอ


4.   หนึ่งปีต่อมาเธอได้มีกล้อง DSLR อันแรกเป็นของตัวเอง และทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น Kiara สุนัขของเธอนั่นเองที่เป็นแบบให้เธอ


5.   “ ฉันมีไม่กี่แห่งที่ฉันมักจะไปถ่ายภาพ ที่ที่ฉันเลือกจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่มันจะถ่ายทอดอารมณ์ของสุนัขของฉันได้เป็นอย่างดี ”


6.   สำหรับถ่าย พอร์ตเทรต (ภาพบุคคล) ป่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับสุนัขในการเคลื่อนไหวมาก ฉันชอบจะถ่ายในที่กว้างๆ เช่นทุ่งหญ้า


7.   เธอยอมรับเลยว่าการทำงานถ่ายภาพกับสุนัข เป็นอะไรที่สนุกมากกว่าการทำงานกับคนซะอีก


8.   เธอยังเสริมอีกว่าการทำงานกับสุนัข นั้นมันเป็นมิตรกับเรามากๆทำให้เรายิ่งชอบกับการทำงาน


9.   ฉันจะชอบบอกเพื่อนของฉันว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากในการถ่ายภาพกับสุนัข


10.    แต่บางครั้งมันเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันถ่ายภาพของสุนัขจรจัด  เพื่อจะสื่อภาพให้สุนัขนั้นน่าสงสารมันมักจะไม่ตอบสนอง  พวกเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉัน แต่มันก็คุ้มค่า


11.   คุณจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าสุนัขเหล่านี้มีหลายอารมณ์มากในภาพนี้


12.   Such an amazing work, good job Alicja Zmyslowska!!!


4543
12 ภาพสุนัขที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยช่างภาพที่มีพรสวรรค์มากชาวโปแลนด์ชื่อ Alicja Zmyslowska ภาพของเธอแสดงอารมณ์ของสุนัขแต่ล่ะตัวได้ดีมากๆ เธออายุเพียง 20 ปี เราไปดูกันค่ะ ว่าแต่ละภาพจะสวยงามขนาดไหน

1.   ช่างภาพบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นจากเมื่อเธอได้กล้อง DSLR ครั้งแรกของเธอ เธอเริ่มชอบการถ่ายรูปสุนัข


2.   เธอกล่าวว่า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือได้ถ่ายภาพสุนัขและมันก็ได้เป็นจริงในปี 2006


3.   Kiara คือสุนัขตัวแรกที่เธอถ่ายรูป “ ในที่สุดก็มาถึงที่บ้านของฉันและเปลี่ยนชีวิตของฉัน จากจุดเริ่มต้นที่เธอได้ทำให้ภาพของเธอกับกล้องขนาดเล็กหรือกล้อง DSLR ที่ยืมมาจากพี่ชายของเธอ


4.   หนึ่งปีต่อมาเธอได้มีกล้อง DSLR อันแรกเป็นของตัวเอง และทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น Kiara สุนัขของเธอนั่นเองที่เป็นแบบให้เธอ


5.   “ ฉันมีไม่กี่แห่งที่ฉันมักจะไปถ่ายภาพ ที่ที่ฉันเลือกจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่มันจะถ่ายทอดอารมณ์ของสุนัขของฉันได้เป็นอย่างดี ”


6.   สำหรับถ่าย พอร์ตเทรต (ภาพบุคคล) ป่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับสุนัขในการเคลื่อนไหวมาก ฉันชอบจะถ่ายในที่กว้างๆ เช่นทุ่งหญ้า


7.   เธอยอมรับเลยว่าการทำงานถ่ายภาพกับสุนัข เป็นอะไรที่สนุกมากกว่าการทำงานกับคนซะอีก


8.   เธอยังเสริมอีกว่าการทำงานกับสุนัข นั้นมันเป็นมิตรกับเรามากๆทำให้เรายิ่งชอบกับการทำงาน


9.   ฉันจะชอบบอกเพื่อนของฉันว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากในการถ่ายภาพกับสุนัข


10.    แต่บางครั้งมันเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันถ่ายภาพของสุนัขจรจัด  เพื่อจะสื่อภาพให้สุนัขนั้นน่าสงสารมันมักจะไม่ตอบสนอง  พวกเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉัน แต่มันก็คุ้มค่า


11.   คุณจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าสุนัขเหล่านี้มีหลายอารมณ์มากในภาพนี้


12.   Such an amazing work, good job Alicja Zmyslowska!!!


4544
12 ภาพสุนัขที่น่าตื่นตาตื่นใจ โดยช่างภาพที่มีพรสวรรค์มากชาวโปแลนด์ชื่อ Alicja Zmyslowska ภาพของเธอแสดงอารมณ์ของสุนัขแต่ล่ะตัวได้ดีมากๆ เธออายุเพียง 20 ปี เราไปดูกันค่ะ ว่าแต่ละภาพจะสวยงามขนาดไหน

1.   ช่างภาพบอกว่าเรื่องทั้งหมดนี้เริ่มขึ้นจากเมื่อเธอได้กล้อง DSLR ครั้งแรกของเธอ เธอเริ่มชอบการถ่ายรูปสุนัข


2.   เธอกล่าวว่า ความฝันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอคือได้ถ่ายภาพสุนัขและมันก็ได้เป็นจริงในปี 2006


3.   Kiara คือสุนัขตัวแรกที่เธอถ่ายรูป “ ในที่สุดก็มาถึงที่บ้านของฉันและเปลี่ยนชีวิตของฉัน จากจุดเริ่มต้นที่เธอได้ทำให้ภาพของเธอกับกล้องขนาดเล็กหรือกล้อง DSLR ที่ยืมมาจากพี่ชายของเธอ


4.   หนึ่งปีต่อมาเธอได้มีกล้อง DSLR อันแรกเป็นของตัวเอง และทุกอย่างเริ่มต้นขึ้น Kiara สุนัขของเธอนั่นเองที่เป็นแบบให้เธอ


5.   “ ฉันมีไม่กี่แห่งที่ฉันมักจะไปถ่ายภาพ ที่ที่ฉันเลือกจะขึ้นอยู่กับฤดูกาลและสภาพอากาศ ที่มันจะถ่ายทอดอารมณ์ของสุนัขของฉันได้เป็นอย่างดี ”


6.   สำหรับถ่าย พอร์ตเทรต (ภาพบุคคล) ป่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สำหรับสุนัขในการเคลื่อนไหวมาก ฉันชอบจะถ่ายในที่กว้างๆ เช่นทุ่งหญ้า


7.   เธอยอมรับเลยว่าการทำงานถ่ายภาพกับสุนัข เป็นอะไรที่สนุกมากกว่าการทำงานกับคนซะอีก


8.   เธอยังเสริมอีกว่าการทำงานกับสุนัข นั้นมันเป็นมิตรกับเรามากๆทำให้เรายิ่งชอบกับการทำงาน


9.   ฉันจะชอบบอกเพื่อนของฉันว่ามันเป็นเรื่องง่ายมากในการถ่ายภาพกับสุนัข


10.    แต่บางครั้งมันเป็นเรื่องยากมาก ตัวอย่างเช่น เมื่อฉันถ่ายภาพของสุนัขจรจัด  เพื่อจะสื่อภาพให้สุนัขนั้นน่าสงสารมันมักจะไม่ตอบสนอง  พวกเขาจะไม่ทำในสิ่งที่เราต้องการ มันเป็นสิ่งที่ยากสำหรับฉัน แต่มันก็คุ้มค่า


11.   คุณจะสามารถเห็นได้ชัดเจนว่าสุนัขเหล่านี้มีหลายอารมณ์มากในภาพนี้


12.   Such an amazing work, good job Alicja Zmyslowska!!!


4545
5 สัญญาณที่บอกว่า หมาของคุณกำลังเครียด!
หมาของคุณมีพฤติกรรมที่แปลกไปจากเดิมหรือเปล่า มีความเป็นไปได้ว่ามันอาจจะกำลังรู้สึกวิตกกังวลหรือหดหู่มากๆ อยู่ก็ได้ ความเครียดในหมาพบได้บ่อยกว่าที่คุณคิด ยิ่งไปกว่านั้น ความเครียดสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพหมาได้ด้วย และนี่คือ 5 สัญญาณของความเครียดและความวิตกกังวลที่พบได้บ่อย เพื่อให้คุณรู้ได้สังเกตและพาหมาของคุณไปรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที


1. ท้องเสีย ท้องผูก หรือมีปัญหาเรื่องระบบย่อยอาหารอื่นๆ 
แม้ว่าอาการเหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วยหรืออาหารที่หมากินมากกว่า แต่อาการท้องเสียและท้องผูกก็สามารถเกิดจากความเครียดได้ด้วย หากคุณพบว่าอาการท้องเสียหรือท้องผูก หรือปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหารที่หมาของคุณเป็นดูรุนแรงกว่าปกติ ให้รีบไปปรึกษาสัตวแพทย์โดยด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นติดต่อกันนานเกิน 24 ชั่วโมง หรือเมื่อท้องเสียแบบมีเลือดปน เลือดในอาเจียนและ/หรืออึคือตัวบ่งชี้ถึงความเจ็บป่วยที่เกิดจากอาหาร



2. มีความอยากอาหารลดลง 
หมาไม่มีความคิดเรื่องการลดน้ำหนักเหมือนกับคนเรา ดังนั้น การที่จู่ๆ หมาของคุณก็ไม่สนใจอาหารหรือหยุดกินอาหารไปเลยจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่คุณต้องไปปรึกษาสัตวแพทย์ มันอาจจะมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือภาวะทางสุขภาพที่ยังไม่แสดงอาการก็ได้ ซึ่งรวมไปถึงอาการเบื่ออาหารที่ทำให้หมาของคุณปฏิเสธการกินอาหารโดยสิ้นเชิง และปริมาณอาหารที่มันกินก็น้อยลงจนทำให้น้ำหนักลดลงมาก



3. แยกตัวไปอยู่ตามลำพัง
หมาหลายตัวชอบอยู่ตามลำพังในบางครั้ง แต่ถึงอย่างนั้น หมาที่ชอบแยกตัวจากสัตว์เลี้ยงอื่นๆ หรือคนในบ้านอยู่เสมอก็อาจมีสาเหตุมาจากความวิตกกังวลหรือเจ็บป่วย สัตวแพทย์สามารถช่วยคุณระบุสาเหตุของพฤติกรรมแปลกๆ นี้ได้



4. นอนมากขึ้น
เจ้าของหมาทุกคนน่าจะคุ้นเคยกับเวลานอนของหมาตัวเองเป็นอย่างดี ลองปรึกษาสัตวแพทย์เมื่อหมาของคุณนอนมากกว่าปกติ หรือดูเซื่องซึมจนผิดสังเกต อาการเซื่องซึมมักเป็นอาการแสดงแรกเมื่อหมาป่วย บาดเจ็บ หรือทรมานด้วยสาเหตุบางอย่าง และยังเป็นอาการแสดงของโรคต่างๆ ซึ่งรวมถึงโรคเบาหวาน ปัญหาเกี่ยวกับหัวใจและตับ เนื้องอก ท้องเสีย อาการขาดน้ำอย่างรุนแรง ภาวะฮอร์โมนไทรอยด์ทำงานต่ำ โลหิตจาง และถูกวางยาพิษ



5. แสดงความก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่น
พฤติกรรมก้าวร้าวต่อคนหรือสัตว์อื่นก็สามารถเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความเครียดหรือความเจ็บป่วยในหมาได้เช่นกัน ควรรีบปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนอาการเลวร้ายลง สัญญาณของความก้าวร้าวมักมาพร้อมกับสีหน้าและท่าทางที่แสดงความหวาดกลัว และท่าทางยอมแพ้ โดยการรักษาพฤติกรรมก้าวร้าวต้องใช้เทคนิคการจัดการพฤติกรรมเพื่อช่วยเหลือหมาที่มีความวิตกกังวลและโกรธ การนำอุปกรณ์อย่างตะกร้อครอบปากมาใช้เสริม จะสามารถช่วยป้องกันการบาดเจ็บของคน สัตว์อื่น และแม้แต่ตัวหมาเองได้   

เมื่อหมาเครียดควรทำอย่างไร?
หากพฤติกรรมของหมาคุณเปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน ให้รีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันทีเพื่อตรวจหาอาการเจ็บป่วยที่อาจซ่อนอยู่ รวมถึงคำแนะนำสำหรับลดระดับความเครียดของหมา แต่โดยปกติแล้ว คุณสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้ตามวิธีการดังนี้   
 
เล่นหรือออกกำลังกายกับหมาอย่างสม่ำเสมอ –  กิจกรรมที่ได้ออกแรงสามารถช่วยลดความเครียดของหมาได้เป็นอย่างดี

สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้มัน – กันพื้นที่บ้านส่วนหนึ่งให้หมาของคุณใช้หลบจากเหตุการณ์ที่ทำให้มันเครียด เช่น เมื่อมีพายุฝนฟ้าคะนอง หรือจัดงานเลี้ยงที่มีเสียงดัง หาของที่หมาชอบเตรียมไว้ให้และแวะไปดูมันบ่อยๆ หรืออยู่กับมันจนกว่าเหตุการณ์ที่ทำให้หมาเครียดจะผ่านพ้นไป หากทำได้ การที่คุณอยู่กับหมาคือสิ่งที่ทำให้หมาของคุณสบายใจได้มากที่สุดแล้ว

เลือกอาหารหมาที่มีคุณภาพ – อาหารคือส่วนประกอบสำคัญของสุขภาพ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับสภาวะของแต่ละช่วงอายุและรูปแบบการใช้ชีวิตของหมา อาจเป็นสาเหตุที่นำไปสู่ความวิตกกังวลและความเครียดที่มองไม่เห็นได้