แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

4516
10 สายพันธุ์หมาที่ฝึกได้ยากที่สุดในโลก
     ไม่ใช่ทุกคนที่ต้องการหมาฉลาด การเป็นหมาโง่ไม่ผิด การเลี้ยงหมาโง่ยิ่งไม่ผิด มันขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรจากหมาตัวนั้นด้วย ถ้าคุณกำลังมองหาหมาที่จะมาอยู่เป็นเพื่อนนั่งเล่นกับคุณตลอดทั้งวัน ถ้าอย่างนั้นปล่อยให้มันฉลาดน้อยหน่อยจะเป็นไรไป เพราะบางครั้งพฤติกรรมโง่ๆ ของพวกมันก็สามารถทำให้เรายิ้มออกมาได้ แต่ถ้าหากว่าคุณกำลังมองหาหมาที่สามารถช่วยงานคุณได้ เช่น ช่วยต้อนสัตว์ คุณก็จะต้องการหมาที่ฉลาดและเชื่อฟังคำสั่งสักหน่อย และอาจจะอยากเลี่ยงสายพันธุ์ต่อไปนี้ เพราะคุณอาจจะต้องประสาทเสียเป็นอย่างมาก กว่าจะฝึกให้มันมาช่วยคุณทำงานได้จริงๆ



1. บาสเซ็ต ฮาวด์ (Basset Hound)
บาสเซ็ต ฮาวด์ (Basset Hound) มีหน้าตาที่ดูง่วงตลอดเวลากับหูที่ยาวลากพื้น หมาพันธุ์นี้มีประสาทการดมกลิ่นที่ฉับไว และสามารถจับกลิ่นที่หมาส่วนใหญ่จับไม่ได้ แม้ว่ามันจะเป็นหมาที่ฉลาดน้อย แต่มันก็เป็นหมาที่อ่อนโยนมากและรักเจ้านายของมันเป็นอย่างยิ่ง บาสเซ็ต ฮาวด์ ไม่ใช่หมาฉลาด แต่มันใจเย็นมากและอยู่ร่วมกับคนได้เป็นอย่างดี และแม้ว่าการนั่งให้มัน “นั่ง” อาจจะยากไปสักหน่อย แต่หมาสายพันธุ์นี้ก็เหมาะกับคนที่กำลังมองหาหมาที่มีพฤติกรรมที่เรียบร้อยนุ่มนวล



2. บีเกิล (Beagle)
บีเกิล (Beagle) เป็นหมาที่น่ารักน่ากอด แต่มันก็สามารถทำให้คุณหมดเรี่ยวหมดแรงได้ โดยเฉพาะเมื่อคุณพยายามจะสั่งสอนให้มันทำตามคำสั่ง อันที่จริงแล้วบีเกิลไม่ได้โง่เลย เพียงแต่มันเป็นหมาที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง ซึ่งทำให้การฝึกมันนั้นยากกว่าหมาพันธุ์อื่นๆ บีเกิลเป็นหมาที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง มันสามารถเข้ากันได้ดีกับเด็กๆ และหมาพันธุ์อื่น แต่เข้ากันไม่ได้เลยกับแมว...



3. มาสทิฟฟ์ (Mastiff)
หมาตัวใหญ่จำเป็นต้องมีสมองขนาดใหญ่ด้วยหรือไม่? ไม่เสมอไป มาสทิฟฟ์ (Mastiff) คือ หมาหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหมาที่ดื้อเอามากๆ มาสทิฟฟ์สามารถมีน้ำหนักได้ถึง 58-60 กิโลกรัม แม้ว่ามันสามารถทำหน้าที่เป็นหมาผู้พิทักษ์ได้เป็นอย่างดี การฝึกมาสทิฟฟ์ก็จำเป็นต้องทำในเรื่องบางอย่างที่เฉพาะเจาะจงเพื่อให้มันรับคำสั่งได้ ถ้าหากคุณอยากจะฝึกมาสทิฟฟ์ คุณก็จำเป็นต้องมีประสบการณ์ในการฝึกหมาอยู่บ้าง คุณต้องพูดกับมันเบาๆ ด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน เพราะว่าเจ้าหมายักษ์ตัวนี้อ่อนไหวเป็นอย่างยิ่ง สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งในการฝึกมาสทิฟฟ์ก็คือ ระยะเวลาในการฝึกแต่ละครั้งนั้นต้องสั้นและสนุกสนาน



4. ปักกิ่ง (Pekingese)
ปักกิ่ง (Pekingese) เป็นหมาอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ฝึกได้ยากมาก มันเป็นหมาที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง รักอิสระ และชอบแสดงอำนาจเป็นอย่างยิ่ง การฝึกปักกิ่งไม่ต่างอะไรกับการสั่งสอนเด็กที่ดื้อมากๆ คนหนึ่ง การจะฝึกหมาพันธุ์นี้ให้สำเร็จคุณต้องมั่นคงและมีความสม่ำเสมอมากๆ และแม้ว่ามันจะจัดอยู่ในกลุ่มหมาที่มีขนาดเล็กถึงขนาดกลาง แต่ปักกิ่งเป็นหมาเฝ้ายามที่ยอดเยี่ยม พวกมันภักดีต่อเจ้าของเป็นมาก แต่ก็ดื้อมากเช่นกัน



5. บลัดฮาวด์ (Bloodhound)
บลัดฮาวด์ (Bloodhound) เป็นหมาที่ขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการดมกลิ่น มันสามารถตามรอยกลิ่นได้อย่างแม่นยำ แม้ว่าต้นกลิ่นจะหายไปแล้วนานหลายร้อยชั่วโมง การฝึกบลัดฮาวด์จะต้องมั่งคง หนักแน่น และใช้ความอดทนสูงเป็นอย่างยิ่ง พวกมันเป็นหมาที่มีความเป็นตัวของตัวเองและหัวแข็ง ดังนั้นแม้ว่ามันจะสามารถตามรอยกลิ่นได้เป็นอย่างดี แต่มันก็อาจจะไม่ตามคำสั่งของคุณเท่าไรนัก



6. บอร์ซอย (Borzoi)
หากคุณเคยเลี้ยงแมวมาก่อน คุณจะสามารถเข้าใจบอร์ซอย (Borzoi) ได้ดี หมาพันธุ์นี้นิสัยเหมือนแมวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องความเป็นตัวของตัวเอง และความคิดอันแสนอิสระเสรีของมัน หมาพันธุ์นี้ไม่เป็นที่นิยมนัก แต่คนที่เลี้ยงก็มีความสุขกับความน่าเอ็นดูที่มันมอบให้ บอร์ซอยเป็นหมาที่ติดสตันท์บ่อยมาก และโดยทั่วไปแล้วมักจะเป็นห่วงตัวเองมากกว่าเจ้านาย เป็นไปได้ว่าคุณอาจจะได้เห็นหมาพันธุ์นี้เลียขนทำความสะอาดตัวเอง การฝึกบอร์ซอยจำเป็นต้องใช้เวลาที่ยาวนานและพรที่ประทานจากสวรรค์ และแม้ว่ามันจะฝึกการรับคำสั่งได้ยากมาก บอร์ซอยก็เป็นหมาที่มีความภักดีสูง และน่ารักน่าเอ็นดู



7. เชา เชา (Chow Chow)
เชา เชา (Chow Chow) เป็นหมาอีกพันธุ์หนึ่งที่มีนิสัยเหมือนแมว มันเป็นหมาที่ชอบเรียกร้องความสนใจ โดยเฉพาะกับคนหน้าใหม่ที่มาเยี่ยมบ้าน มันเป็นหมาขี้อิจฉาและต้องการเป็นศูนย์กลางของความสนใจจากทุกคน เจ้าของเชาเชาจะต้องหนักแน่นและมีความมุ่งมั่นสูง หมาพันธุ์นี้ชอบแสดงอำนาจและสามารถกดขี่เจ้าของได้ ถ้าหากว่าเจ้าของจิตใจไม่หนักแน่นพอ และจริงๆ แล้วเชาเชาไม่ได้โง่ แต่มันเป็นหมาที่ฝึกได้ยากมากๆ เพราะบุคลิกและนิสัยตามธรรมชาติของมันเอง ซึ่งคุณต้องไม่ลืมว่า ดื้อ ไม่ได้แปลว่าโง่



8. บูลด็อก (Bulldog)
บูลด็อก (Bulldog) เป็นหมาหนึ่งในสายพันธุ์ที่อ่อนโยนและน่ารักที่สุดที่คุณจะสามารถพบได้ มันเป็นหมาที่กล้าหาญ และมีความคิดเป็นของตัวเอง การฝึกบูลด็อกจำเป็นต้องใช้เวลาและความอดทน มันเป็นหมาที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าหน้าตาของบูลด็อกอาจจะไม่ได้สวยงามในสายตาของใครหลายคน มันก็เป็นหมาที่น่ารักน่าเอ็นดูที่ต้องการเวลาจากคุณเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเวลาสำหรับฝึกมัน



9. บาเซ็นจิ (Basenji)
บาเซ็นจิ (Basenji) เป็นสายพันธุ์ที่ไม่ค่อยมีคนรู้จักนัก แต่มันเป็นหมาที่มีเอกลักษณ์เป็นอย่างยิ่ง บางครั้งเสียงของมันก็เหมือนกับเสียงของคน โดยเฉพาะเสียงหัวเราะหรือร้องไห้ หมาเป็นนี้ก็เป็นอีกสายพันธุ์ที่มีนิสัยเหมือนแมว มันสามารถใช้เวลาเป็นชั่วโมงๆ หมดไปกับการเลียแต่งขน เหมือนแมว หลังจากนั้นก็นั่งเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนแมว  บาเซนจิเป็นหมาเจ้าอารมณ์และเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้การฝึกหมาพันธุ์นี้ไม่ง่ายเลย



10. อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound)
อัฟกัน ฮาวนด์ (Afghan Hound) เป็นหมาหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก พวกมันอยู่มาตั้งแต่ยุคโบราณ และนิสัยของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปมากนัก พวกมันเป็นหมาขี้อ้อนที่ชอบอยู่กับเจ้านาย มันเป็นหมาที่ขี้ตกใจและไม่มีการแสดงอำนาจอะไรนัก แต่แม้ว่ามันจะไม่ได้พยายามแย่งอำนาจคุณ อัฟกัน ฮาวนด์ก็เป็นหมาที่มีความเชื่อฟังต่ำมาก มันมีนิสัยเหมือนแมว และชอบทำตามใจตัวเองมากกว่าจะเชื่อฟังเจ้านาย

4517
ให้ทายว่านี่คือสุนัขจิ้งจอกหรือสายพันธุ์อะไร

     ถ้าคุณคิดว่าน้องหมาที่น่ารักตัวนี้เป็นสุนัขจิ้งจอก ให้คุณคิดอีกครั้ง หรือมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทไฟใน Pokémon เง้อไปกันใหญ่ หรือเป็นหมาป่า จากไอคอน Mozilla Firefox มั่วกันไปใหญ่แล้ว กลับมาความจริงมันคือ Pomsky นั่นเอง หรือใครยังไม่รู้ลองกลับไปอ่านกรุทู้ก่อนได้ค่ะ [url=https://www.marketdogs.com/b2/pomskies/]Pomsky[/url]  มันมีชื่อเรียกว่า Mya และมันก็อาจจะเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดที่เราเคยเห็นมา

     หากคุณยังคงสงสัยว่า Pomsky คืออะไร มันคือการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไซบีเรียนฮัสกี้ กับ ปอมเมอเรเนียน Mya ปรากฏตัวครั้งแรกโดยมีคนโพสรูปบน Reddit และผู้คนต่างหลงรักกับดวงตาสีฟ้าของมัน และสีสันที่สดใสของมันที่เหมือนจิ้งจอก
Mya อาศัยอยู่กับ Dave LASIO ในเซาท์ฟลอริดา ทุกคนสามารถติดตาม  Mya ได้ที่ Instagram@ myathepomsky













4518
ให้ทายว่านี่คือสุนัขจิ้งจอกหรือสายพันธุ์อะไร

     ถ้าคุณคิดว่าน้องหมาที่น่ารักตัวนี้เป็นสุนัขจิ้งจอก ให้คุณคิดอีกครั้ง หรือมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทไฟใน Pokémon เง้อไปกันใหญ่ หรือเป็นหมาป่า จากไอคอน Mozilla Firefox มั่วกันไปใหญ่แล้ว กลับมาความจริงมันคือ Pomsky นั่นเอง หรือใครยังไม่รู้ลองกลับไปอ่านกรุทู้ก่อนได้ค่ะ [url=https://www.marketdogs.com/b2/pomskies/]Pomsky[/url]  มันมีชื่อเรียกว่า Mya และมันก็อาจจะเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดที่เราเคยเห็นมา

     หากคุณยังคงสงสัยว่า Pomsky คืออะไร มันคือการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไซบีเรียนฮัสกี้ กับ ปอมเมอเรเนียน Mya ปรากฏตัวครั้งแรกโดยมีคนโพสรูปบน Reddit และผู้คนต่างหลงรักกับดวงตาสีฟ้าของมัน และสีสันที่สดใสของมันที่เหมือนจิ้งจอก
Mya อาศัยอยู่กับ Dave LASIO ในเซาท์ฟลอริดา ทุกคนสามารถติดตาม  Mya ได้ที่ Instagram@ myathepomsky













4519
ให้ทายว่านี่คือสุนัขจิ้งจอกหรือสายพันธุ์อะไร

     ถ้าคุณคิดว่าน้องหมาที่น่ารักตัวนี้เป็นสุนัขจิ้งจอก ให้คุณคิดอีกครั้ง หรือมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทไฟใน Pokémon เง้อไปกันใหญ่ หรือเป็นหมาป่า จากไอคอน Mozilla Firefox มั่วกันไปใหญ่แล้ว กลับมาความจริงมันคือ Pomsky นั่นเอง หรือใครยังไม่รู้ลองกลับไปอ่านกรุทู้ก่อนได้ค่ะ [url=https://www.marketdogs.com/b2/pomskies/]Pomsky[/url]  มันมีชื่อเรียกว่า Mya และมันก็อาจจะเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดที่เราเคยเห็นมา

     หากคุณยังคงสงสัยว่า Pomsky คืออะไร มันคือการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไซบีเรียนฮัสกี้ กับ ปอมเมอเรเนียน Mya ปรากฏตัวครั้งแรกโดยมีคนโพสรูปบน Reddit และผู้คนต่างหลงรักกับดวงตาสีฟ้าของมัน และสีสันที่สดใสของมันที่เหมือนจิ้งจอก
Mya อาศัยอยู่กับ Dave LASIO ในเซาท์ฟลอริดา ทุกคนสามารถติดตาม  Mya ได้ที่ Instagram@ myathepomsky













4520
ให้ทายว่านี่คือสุนัขจิ้งจอกหรือสายพันธุ์อะไร

     ถ้าคุณคิดว่าน้องหมาที่น่ารักตัวนี้เป็นสุนัขจิ้งจอก ให้คุณคิดอีกครั้ง หรือมันเป็นมอนสเตอร์ประเภทไฟใน Pokémon เง้อไปกันใหญ่ หรือเป็นหมาป่า จากไอคอน Mozilla Firefox มั่วกันไปใหญ่แล้ว กลับมาความจริงมันคือ Pomsky นั่นเอง หรือใครยังไม่รู้ลองกลับไปอ่านกรุทู้ก่อนได้ค่ะ [url=https://www.marketdogs.com/b2/pomskies/]Pomsky[/url]  มันมีชื่อเรียกว่า Mya และมันก็อาจจะเป็นสุนัขที่น่ารักที่สุดที่เราเคยเห็นมา

     หากคุณยังคงสงสัยว่า Pomsky คืออะไร มันคือการผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างไซบีเรียนฮัสกี้ กับ ปอมเมอเรเนียน Mya ปรากฏตัวครั้งแรกโดยมีคนโพสรูปบน Reddit และผู้คนต่างหลงรักกับดวงตาสีฟ้าของมัน และสีสันที่สดใสของมันที่เหมือนจิ้งจอก
Mya อาศัยอยู่กับ Dave LASIO ในเซาท์ฟลอริดา ทุกคนสามารถติดตาม  Mya ได้ที่ Instagram@ myathepomsky













4521
วิธีฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เมื่อมีการรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน การฝึกขับถ่ายเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณตั้งใจจะให้หมาของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านของคุณด้วยแล้ว อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นหมาที่โตแล้วหรือว่าลูกหมา ต่างก็มีโอกาสในการทำบ้านของคุณเลอะเทอะได้ทั้งนั้น และแม้ว่าเราจะสามารถฝึกหมาในเรื่องนี้ได้ การสอนให้หมาออกไปขับถ่ายนอกบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและเวลาเป็นอย่างมาก มากกว่าที่คุณจะทำใจเตรียมรับเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการฝึกนั้นทำโดยไม่มีการชี้นำที่ดี วันนี้เราจึงนำเทคนิคการฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางมาบอกกัน



การฝึกการขับถ่ายให้ลูกหมามีหลัก 4 อย่าง คือ

1. คุณต้องอยู่กับลูกหมาตลอดเวลาระหว่างช่วงฝึกการขับถ่าย
หากคุณไม่สามารถคอยดูแลสังเกตลูกหมาอย่างใกล้ชิดและจริงจังได้ คุณอาจจะเลือกใช้กรงหรือห้องน้ำช่วยในการฝึก

2. ให้รางวัลที่เหมาะสม และเป็นรางวัลที่ลูกหมาต้องการ
ส่วนใหญ่มักจะเป็นขนม เนื่องจากหมาส่วนใหญ่มักไม่สนใจนัก หากรางวัลเป็นเพียงคำชมหรือการชวนเล่นเท่านั้น พกขนมติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อที่คุณจะได้สามารถให้รางวัลมันได้ในทันทีหลังจากที่มันทำธุระเสร็จแล้ว

3. พาลูกหมาออกไปอึทุกๆ 1 ชั่วโมง
การทำซ้ำๆ และทำอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ยิ่งคุณสามารถให้รางวัลกับพฤติกรรมที่เหมาะสมได้บ่อยเท่าไร ลูกหมาของคุณก็จะเข้าใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น หากครั้งสุดท้ายที่ลูกหมาได้รับรางวัลจากการถ่ายได้ถูกที่คือเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ใช้ในการฝึกก็จะนานขึ้นไปอีก

4. อดทนให้มาก ทำอย่างสม่ำเสมอ และพยายามอย่าลงโทษ
การลงโทษหมาหลังจากเกิดความผิดพลาดขึ้น ไม่ได้สอนอะไรให้ลูกหมาเลยนอกจากความหวาดกลัว หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ให้ปล่อยผ่านไป และพยายามพาลูกหมาของคุณออกไปอึข้างนอกให้บ่อยขึ้นแทน



จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหมาต้องการเข้าห้องน้ำ
ลูกหมาต้องการไปเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าหมาที่โตเต็มที่แล้วมาก พวกมันมีกระเพาะปัสสาวะที่เล็กกว่า และไม่มีสัญชาตญาณในการอั้นฉี่/อึ หมาที่โตกว่ามักจะไปเข้าห้องน้ำหลังจากตื่นนอน 10-20 นาทีหลังกินอาหาร ดื่มน้ำ และเล่น และบางครั้งก็เมื่อออกไปข้างนอก อย่าเหมาเอาเองว่า หมาของคุณรู้ว่าควรทำธุระให้เรียบร้อยเมื่อมันอยู่นอกบ้าน จนกว่ามันจะเรียนรู้เรื่องนี้แล้วจริงๆ



ในการฝึกขับถ่าย ถ้าเป็นหมาที่โตแล้ว คุณอาจต้องพามันออกไปข้างนอกทุกๆ 2 ชั่วโมง ขณะที่สำหรับลูกหมานั้น คุณต้องพามันออกไปทุก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันความผิดพลาด สัญญาณเตือนช่วงแรกที่บอกว่าหมาปวดฉี่หรือปวดอึก็คือ การเดินดมพื้นวนเป็นวงกลม การจะรู้ได้ว่าหมาอยากไปเข้าห้องตอนไหนจะง่ายกว่ามาก หากคุณสังเกตมันอย่างใกล้ชิด หรือเมื่อหมาอยู่กับคุณตลอดเวลานั่นเอง

4522
วิธีฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เมื่อมีการรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน การฝึกขับถ่ายเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณตั้งใจจะให้หมาของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านของคุณด้วยแล้ว อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นหมาที่โตแล้วหรือว่าลูกหมา ต่างก็มีโอกาสในการทำบ้านของคุณเลอะเทอะได้ทั้งนั้น และแม้ว่าเราจะสามารถฝึกหมาในเรื่องนี้ได้ การสอนให้หมาออกไปขับถ่ายนอกบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและเวลาเป็นอย่างมาก มากกว่าที่คุณจะทำใจเตรียมรับเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการฝึกนั้นทำโดยไม่มีการชี้นำที่ดี วันนี้เราจึงนำเทคนิคการฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางมาบอกกัน



การฝึกการขับถ่ายให้ลูกหมามีหลัก 4 อย่าง คือ

1. คุณต้องอยู่กับลูกหมาตลอดเวลาระหว่างช่วงฝึกการขับถ่าย
หากคุณไม่สามารถคอยดูแลสังเกตลูกหมาอย่างใกล้ชิดและจริงจังได้ คุณอาจจะเลือกใช้กรงหรือห้องน้ำช่วยในการฝึก

2. ให้รางวัลที่เหมาะสม และเป็นรางวัลที่ลูกหมาต้องการ
ส่วนใหญ่มักจะเป็นขนม เนื่องจากหมาส่วนใหญ่มักไม่สนใจนัก หากรางวัลเป็นเพียงคำชมหรือการชวนเล่นเท่านั้น พกขนมติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อที่คุณจะได้สามารถให้รางวัลมันได้ในทันทีหลังจากที่มันทำธุระเสร็จแล้ว

3. พาลูกหมาออกไปอึทุกๆ 1 ชั่วโมง
การทำซ้ำๆ และทำอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ยิ่งคุณสามารถให้รางวัลกับพฤติกรรมที่เหมาะสมได้บ่อยเท่าไร ลูกหมาของคุณก็จะเข้าใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น หากครั้งสุดท้ายที่ลูกหมาได้รับรางวัลจากการถ่ายได้ถูกที่คือเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ใช้ในการฝึกก็จะนานขึ้นไปอีก

4. อดทนให้มาก ทำอย่างสม่ำเสมอ และพยายามอย่าลงโทษ
การลงโทษหมาหลังจากเกิดความผิดพลาดขึ้น ไม่ได้สอนอะไรให้ลูกหมาเลยนอกจากความหวาดกลัว หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ให้ปล่อยผ่านไป และพยายามพาลูกหมาของคุณออกไปอึข้างนอกให้บ่อยขึ้นแทน



จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหมาต้องการเข้าห้องน้ำ
ลูกหมาต้องการไปเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าหมาที่โตเต็มที่แล้วมาก พวกมันมีกระเพาะปัสสาวะที่เล็กกว่า และไม่มีสัญชาตญาณในการอั้นฉี่/อึ หมาที่โตกว่ามักจะไปเข้าห้องน้ำหลังจากตื่นนอน 10-20 นาทีหลังกินอาหาร ดื่มน้ำ และเล่น และบางครั้งก็เมื่อออกไปข้างนอก อย่าเหมาเอาเองว่า หมาของคุณรู้ว่าควรทำธุระให้เรียบร้อยเมื่อมันอยู่นอกบ้าน จนกว่ามันจะเรียนรู้เรื่องนี้แล้วจริงๆ



ในการฝึกขับถ่าย ถ้าเป็นหมาที่โตแล้ว คุณอาจต้องพามันออกไปข้างนอกทุกๆ 2 ชั่วโมง ขณะที่สำหรับลูกหมานั้น คุณต้องพามันออกไปทุก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันความผิดพลาด สัญญาณเตือนช่วงแรกที่บอกว่าหมาปวดฉี่หรือปวดอึก็คือ การเดินดมพื้นวนเป็นวงกลม การจะรู้ได้ว่าหมาอยากไปเข้าห้องตอนไหนจะง่ายกว่ามาก หากคุณสังเกตมันอย่างใกล้ชิด หรือเมื่อหมาอยู่กับคุณตลอดเวลานั่นเอง

4523
วิธีฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เมื่อมีการรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน การฝึกขับถ่ายเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณตั้งใจจะให้หมาของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านของคุณด้วยแล้ว อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นหมาที่โตแล้วหรือว่าลูกหมา ต่างก็มีโอกาสในการทำบ้านของคุณเลอะเทอะได้ทั้งนั้น และแม้ว่าเราจะสามารถฝึกหมาในเรื่องนี้ได้ การสอนให้หมาออกไปขับถ่ายนอกบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและเวลาเป็นอย่างมาก มากกว่าที่คุณจะทำใจเตรียมรับเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการฝึกนั้นทำโดยไม่มีการชี้นำที่ดี วันนี้เราจึงนำเทคนิคการฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางมาบอกกัน



การฝึกการขับถ่ายให้ลูกหมามีหลัก 4 อย่าง คือ

1. คุณต้องอยู่กับลูกหมาตลอดเวลาระหว่างช่วงฝึกการขับถ่าย
หากคุณไม่สามารถคอยดูแลสังเกตลูกหมาอย่างใกล้ชิดและจริงจังได้ คุณอาจจะเลือกใช้กรงหรือห้องน้ำช่วยในการฝึก

2. ให้รางวัลที่เหมาะสม และเป็นรางวัลที่ลูกหมาต้องการ
ส่วนใหญ่มักจะเป็นขนม เนื่องจากหมาส่วนใหญ่มักไม่สนใจนัก หากรางวัลเป็นเพียงคำชมหรือการชวนเล่นเท่านั้น พกขนมติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อที่คุณจะได้สามารถให้รางวัลมันได้ในทันทีหลังจากที่มันทำธุระเสร็จแล้ว

3. พาลูกหมาออกไปอึทุกๆ 1 ชั่วโมง
การทำซ้ำๆ และทำอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ยิ่งคุณสามารถให้รางวัลกับพฤติกรรมที่เหมาะสมได้บ่อยเท่าไร ลูกหมาของคุณก็จะเข้าใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น หากครั้งสุดท้ายที่ลูกหมาได้รับรางวัลจากการถ่ายได้ถูกที่คือเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ใช้ในการฝึกก็จะนานขึ้นไปอีก

4. อดทนให้มาก ทำอย่างสม่ำเสมอ และพยายามอย่าลงโทษ
การลงโทษหมาหลังจากเกิดความผิดพลาดขึ้น ไม่ได้สอนอะไรให้ลูกหมาเลยนอกจากความหวาดกลัว หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ให้ปล่อยผ่านไป และพยายามพาลูกหมาของคุณออกไปอึข้างนอกให้บ่อยขึ้นแทน



จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหมาต้องการเข้าห้องน้ำ
ลูกหมาต้องการไปเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าหมาที่โตเต็มที่แล้วมาก พวกมันมีกระเพาะปัสสาวะที่เล็กกว่า และไม่มีสัญชาตญาณในการอั้นฉี่/อึ หมาที่โตกว่ามักจะไปเข้าห้องน้ำหลังจากตื่นนอน 10-20 นาทีหลังกินอาหาร ดื่มน้ำ และเล่น และบางครั้งก็เมื่อออกไปข้างนอก อย่าเหมาเอาเองว่า หมาของคุณรู้ว่าควรทำธุระให้เรียบร้อยเมื่อมันอยู่นอกบ้าน จนกว่ามันจะเรียนรู้เรื่องนี้แล้วจริงๆ



ในการฝึกขับถ่าย ถ้าเป็นหมาที่โตแล้ว คุณอาจต้องพามันออกไปข้างนอกทุกๆ 2 ชั่วโมง ขณะที่สำหรับลูกหมานั้น คุณต้องพามันออกไปทุก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันความผิดพลาด สัญญาณเตือนช่วงแรกที่บอกว่าหมาปวดฉี่หรือปวดอึก็คือ การเดินดมพื้นวนเป็นวงกลม การจะรู้ได้ว่าหมาอยากไปเข้าห้องตอนไหนจะง่ายกว่ามาก หากคุณสังเกตมันอย่างใกล้ชิด หรือเมื่อหมาอยู่กับคุณตลอดเวลานั่นเอง

4524
วิธีฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทาง
เมื่อมีการรับสมาชิกใหม่เข้าบ้าน การฝึกขับถ่ายเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะเมื่อคุณตั้งใจจะให้หมาของคุณใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในบ้านของคุณด้วยแล้ว อันที่จริง ไม่ว่าจะเป็นหมาที่โตแล้วหรือว่าลูกหมา ต่างก็มีโอกาสในการทำบ้านของคุณเลอะเทอะได้ทั้งนั้น และแม้ว่าเราจะสามารถฝึกหมาในเรื่องนี้ได้ การสอนให้หมาออกไปขับถ่ายนอกบ้านก็เป็นเรื่องที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและเวลาเป็นอย่างมาก มากกว่าที่คุณจะทำใจเตรียมรับเอาไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการฝึกนั้นทำโดยไม่มีการชี้นำที่ดี วันนี้เราจึงนำเทคนิคการฝึกลูกหมาให้ขับถ่ายเป็นที่เป็นทางมาบอกกัน



การฝึกการขับถ่ายให้ลูกหมามีหลัก 4 อย่าง คือ

1. คุณต้องอยู่กับลูกหมาตลอดเวลาระหว่างช่วงฝึกการขับถ่าย
หากคุณไม่สามารถคอยดูแลสังเกตลูกหมาอย่างใกล้ชิดและจริงจังได้ คุณอาจจะเลือกใช้กรงหรือห้องน้ำช่วยในการฝึก

2. ให้รางวัลที่เหมาะสม และเป็นรางวัลที่ลูกหมาต้องการ
ส่วนใหญ่มักจะเป็นขนม เนื่องจากหมาส่วนใหญ่มักไม่สนใจนัก หากรางวัลเป็นเพียงคำชมหรือการชวนเล่นเท่านั้น พกขนมติดตัวไว้ตลอดเวลาเพื่อที่คุณจะได้สามารถให้รางวัลมันได้ในทันทีหลังจากที่มันทำธุระเสร็จแล้ว

3. พาลูกหมาออกไปอึทุกๆ 1 ชั่วโมง
การทำซ้ำๆ และทำอย่างสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญ ยิ่งคุณสามารถให้รางวัลกับพฤติกรรมที่เหมาะสมได้บ่อยเท่าไร ลูกหมาของคุณก็จะเข้าใจได้เร็วขึ้นเท่านั้น หากครั้งสุดท้ายที่ลูกหมาได้รับรางวัลจากการถ่ายได้ถูกที่คือเมื่อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ช่วงเวลาที่ใช้ในการฝึกก็จะนานขึ้นไปอีก

4. อดทนให้มาก ทำอย่างสม่ำเสมอ และพยายามอย่าลงโทษ
การลงโทษหมาหลังจากเกิดความผิดพลาดขึ้น ไม่ได้สอนอะไรให้ลูกหมาเลยนอกจากความหวาดกลัว หากมีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ให้ปล่อยผ่านไป และพยายามพาลูกหมาของคุณออกไปอึข้างนอกให้บ่อยขึ้นแทน



จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกหมาต้องการเข้าห้องน้ำ
ลูกหมาต้องการไปเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าหมาที่โตเต็มที่แล้วมาก พวกมันมีกระเพาะปัสสาวะที่เล็กกว่า และไม่มีสัญชาตญาณในการอั้นฉี่/อึ หมาที่โตกว่ามักจะไปเข้าห้องน้ำหลังจากตื่นนอน 10-20 นาทีหลังกินอาหาร ดื่มน้ำ และเล่น และบางครั้งก็เมื่อออกไปข้างนอก อย่าเหมาเอาเองว่า หมาของคุณรู้ว่าควรทำธุระให้เรียบร้อยเมื่อมันอยู่นอกบ้าน จนกว่ามันจะเรียนรู้เรื่องนี้แล้วจริงๆ



ในการฝึกขับถ่าย ถ้าเป็นหมาที่โตแล้ว คุณอาจต้องพามันออกไปข้างนอกทุกๆ 2 ชั่วโมง ขณะที่สำหรับลูกหมานั้น คุณต้องพามันออกไปทุก 1 ชั่วโมงเพื่อป้องกันความผิดพลาด สัญญาณเตือนช่วงแรกที่บอกว่าหมาปวดฉี่หรือปวดอึก็คือ การเดินดมพื้นวนเป็นวงกลม การจะรู้ได้ว่าหมาอยากไปเข้าห้องตอนไหนจะง่ายกว่ามาก หากคุณสังเกตมันอย่างใกล้ชิด หรือเมื่อหมาอยู่กับคุณตลอดเวลานั่นเอง

4525
รู้ได้อย่างไรว่าอาหารหมาที่ซื้อมาคุ้มค่าคุ้มราคา
การอยากประหยัดเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่การเปลี่ยนอาหารหมาไปใช้ยี่ห้อที่ราคาถูกลง แต่คุณภาพก็ด้อยลงด้วยนั้นสมเหตุสมผลแล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลย หมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ และมันก็ควรจะได้รับในสิ่งที่ทำให้มันมีร่างกายแข็งแรงและอยู่กับคุณไปได้นานๆ ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่หมาของคุณกินอยู่นั้น คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายออกไปจริงๆ ซึ่งความคุ้มค่าที่ว่านี้คุณสามารถพิจารณาได้จาก


1. อาหารของหมาคุณมีสารอาหารควบถ้วนหรือไม่
     สัตว์ทุกชนิดต้องการน้ำ พลังงานจากโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรด กรดไขมันที่สำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อันที่จริงแล้ว ถ้าอาหารที่คุณให้หมากินอยู่มีสารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม มันก็ควรจะมีสารอาหารที่ครบถ้วน

     แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ สารอาหารที่หมาของคุณได้รับยังต้องมีความสมดุลอีกด้วย สารอาหารที่สมดุลมีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงาน หากร่างกายคุณได้รับคาร์โบไฮเดรดน้อย ได้รับโปรตีนมาก โปรตีนบางส่วนก็จะถูกใช้ในการสร้างกลูโคสเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ความสมดุลแบบนี้เองที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสมดุลเรื่องอาหารที่หมาของคุณควรได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในสัตว์เลี้ยงมาเป็นผู้เลือกส่วนผสมอาหารอย่างระมัดระวัง
 


2. อาหารของหมาคุณคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารสำหรับสัตว์หรือไม่
     การคิดค้นสูตรอาหารที่หมาของคุณกินไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตอาหารหมาที่มีคุณภาพจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะมาทำงาน เพื่อให้ส่วนผสมหลักของอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีความสมดุล ซึ่งส่วนผสมหลักที่ว่านี้อาจมีได้ถึง 50 ชนิดเลยทีเดียว นอกจากนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญยังต้องดูแลเรื่องสารอาหารเสริมและแร่ธาตุที่ช่วยให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดีด้วย



3. อาหารของหมาคุณผ่านการทดลองให้อาหารหรือเปล่า
     การทดลองให้อาหารคือมาตรฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารที่ผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนนี้จะถูกนำไปให้สัตว์เลี้ยงกินตามกระบวนการขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้อย่างเข้มงวด เพื่อดูว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นให้สารอาหารต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างเหมาะสมหรือไม่

4. อาหารของหมาคุณผลิตด้วยขั้นตอนที่มีการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวดหรือเปล่า
     คุณภาพและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง บางบริษัทอาจจะมีความเข้มงวดในเรื่องนี้มากกว่าบริษัทอื่นๆ เช่น อาหารหมาที่ผลิตในโรงงานอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะมีการยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ แล้วจึงค่อยส่งอาหารเหล่านี้ออกไปวางจำหน่าย
 


5. อาหารของหมาคุณเหมาะกับหมาของคุณหรือไม่
     ความเหมาะสมที่ว่านี้หมายถึงอายุ สายพันธุ์ กิจกรรมที่ทำ น้ำหนัก และสภาวะสุขภาพของหมาของคุณ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับหมาของคุณอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดี เช่น อาหารหมาที่เหมาะสำหรับหมา “ทุกช่วงอายุ” แม้ว่าจะผ่านมาตรฐานการผลิตเป็นอย่างดี แต่ถ้าให้หมาที่โตเต็มที่หรือหมาแก่กิน พวกมันก็อาจจะได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไป และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

     ความหลากหลายของอาหารหมาที่วางขายในปัจจุบันอาจทำให้คุณสับสนงุนงงได้ คุณอาจจะลองสุ่มเลือกอาหารหมาสัก 2-3 แบบแล้วนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยบอกได้ว่าอาหารที่คุณเลือกมานั้น เหมาะสำหรับหมาของคุณหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรลืมก็คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารหมาตั้งแต่แรก จะสามารถช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้มากทีเดียว


4526
รู้ได้อย่างไรว่าอาหารหมาที่ซื้อมาคุ้มค่าคุ้มราคา
การอยากประหยัดเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่การเปลี่ยนอาหารหมาไปใช้ยี่ห้อที่ราคาถูกลง แต่คุณภาพก็ด้อยลงด้วยนั้นสมเหตุสมผลแล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลย หมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ และมันก็ควรจะได้รับในสิ่งที่ทำให้มันมีร่างกายแข็งแรงและอยู่กับคุณไปได้นานๆ ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่หมาของคุณกินอยู่นั้น คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายออกไปจริงๆ ซึ่งความคุ้มค่าที่ว่านี้คุณสามารถพิจารณาได้จาก


1. อาหารของหมาคุณมีสารอาหารควบถ้วนหรือไม่
     สัตว์ทุกชนิดต้องการน้ำ พลังงานจากโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรด กรดไขมันที่สำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อันที่จริงแล้ว ถ้าอาหารที่คุณให้หมากินอยู่มีสารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม มันก็ควรจะมีสารอาหารที่ครบถ้วน

     แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ สารอาหารที่หมาของคุณได้รับยังต้องมีความสมดุลอีกด้วย สารอาหารที่สมดุลมีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงาน หากร่างกายคุณได้รับคาร์โบไฮเดรดน้อย ได้รับโปรตีนมาก โปรตีนบางส่วนก็จะถูกใช้ในการสร้างกลูโคสเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ความสมดุลแบบนี้เองที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสมดุลเรื่องอาหารที่หมาของคุณควรได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในสัตว์เลี้ยงมาเป็นผู้เลือกส่วนผสมอาหารอย่างระมัดระวัง
 


2. อาหารของหมาคุณคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารสำหรับสัตว์หรือไม่
     การคิดค้นสูตรอาหารที่หมาของคุณกินไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตอาหารหมาที่มีคุณภาพจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะมาทำงาน เพื่อให้ส่วนผสมหลักของอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีความสมดุล ซึ่งส่วนผสมหลักที่ว่านี้อาจมีได้ถึง 50 ชนิดเลยทีเดียว นอกจากนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญยังต้องดูแลเรื่องสารอาหารเสริมและแร่ธาตุที่ช่วยให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดีด้วย



3. อาหารของหมาคุณผ่านการทดลองให้อาหารหรือเปล่า
     การทดลองให้อาหารคือมาตรฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารที่ผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนนี้จะถูกนำไปให้สัตว์เลี้ยงกินตามกระบวนการขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้อย่างเข้มงวด เพื่อดูว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นให้สารอาหารต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างเหมาะสมหรือไม่

4. อาหารของหมาคุณผลิตด้วยขั้นตอนที่มีการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวดหรือเปล่า
     คุณภาพและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง บางบริษัทอาจจะมีความเข้มงวดในเรื่องนี้มากกว่าบริษัทอื่นๆ เช่น อาหารหมาที่ผลิตในโรงงานอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะมีการยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ แล้วจึงค่อยส่งอาหารเหล่านี้ออกไปวางจำหน่าย
 


5. อาหารของหมาคุณเหมาะกับหมาของคุณหรือไม่
     ความเหมาะสมที่ว่านี้หมายถึงอายุ สายพันธุ์ กิจกรรมที่ทำ น้ำหนัก และสภาวะสุขภาพของหมาของคุณ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับหมาของคุณอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดี เช่น อาหารหมาที่เหมาะสำหรับหมา “ทุกช่วงอายุ” แม้ว่าจะผ่านมาตรฐานการผลิตเป็นอย่างดี แต่ถ้าให้หมาที่โตเต็มที่หรือหมาแก่กิน พวกมันก็อาจจะได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไป และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

     ความหลากหลายของอาหารหมาที่วางขายในปัจจุบันอาจทำให้คุณสับสนงุนงงได้ คุณอาจจะลองสุ่มเลือกอาหารหมาสัก 2-3 แบบแล้วนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยบอกได้ว่าอาหารที่คุณเลือกมานั้น เหมาะสำหรับหมาของคุณหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรลืมก็คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารหมาตั้งแต่แรก จะสามารถช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้มากทีเดียว


4527
รู้ได้อย่างไรว่าอาหารหมาที่ซื้อมาคุ้มค่าคุ้มราคา
การอยากประหยัดเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่การเปลี่ยนอาหารหมาไปใช้ยี่ห้อที่ราคาถูกลง แต่คุณภาพก็ด้อยลงด้วยนั้นสมเหตุสมผลแล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลย หมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ และมันก็ควรจะได้รับในสิ่งที่ทำให้มันมีร่างกายแข็งแรงและอยู่กับคุณไปได้นานๆ ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่หมาของคุณกินอยู่นั้น คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายออกไปจริงๆ ซึ่งความคุ้มค่าที่ว่านี้คุณสามารถพิจารณาได้จาก


1. อาหารของหมาคุณมีสารอาหารควบถ้วนหรือไม่
     สัตว์ทุกชนิดต้องการน้ำ พลังงานจากโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรด กรดไขมันที่สำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อันที่จริงแล้ว ถ้าอาหารที่คุณให้หมากินอยู่มีสารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม มันก็ควรจะมีสารอาหารที่ครบถ้วน

     แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ สารอาหารที่หมาของคุณได้รับยังต้องมีความสมดุลอีกด้วย สารอาหารที่สมดุลมีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงาน หากร่างกายคุณได้รับคาร์โบไฮเดรดน้อย ได้รับโปรตีนมาก โปรตีนบางส่วนก็จะถูกใช้ในการสร้างกลูโคสเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ความสมดุลแบบนี้เองที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสมดุลเรื่องอาหารที่หมาของคุณควรได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในสัตว์เลี้ยงมาเป็นผู้เลือกส่วนผสมอาหารอย่างระมัดระวัง
 


2. อาหารของหมาคุณคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารสำหรับสัตว์หรือไม่
     การคิดค้นสูตรอาหารที่หมาของคุณกินไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตอาหารหมาที่มีคุณภาพจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะมาทำงาน เพื่อให้ส่วนผสมหลักของอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีความสมดุล ซึ่งส่วนผสมหลักที่ว่านี้อาจมีได้ถึง 50 ชนิดเลยทีเดียว นอกจากนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญยังต้องดูแลเรื่องสารอาหารเสริมและแร่ธาตุที่ช่วยให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดีด้วย



3. อาหารของหมาคุณผ่านการทดลองให้อาหารหรือเปล่า
     การทดลองให้อาหารคือมาตรฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารที่ผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนนี้จะถูกนำไปให้สัตว์เลี้ยงกินตามกระบวนการขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้อย่างเข้มงวด เพื่อดูว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นให้สารอาหารต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างเหมาะสมหรือไม่

4. อาหารของหมาคุณผลิตด้วยขั้นตอนที่มีการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวดหรือเปล่า
     คุณภาพและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง บางบริษัทอาจจะมีความเข้มงวดในเรื่องนี้มากกว่าบริษัทอื่นๆ เช่น อาหารหมาที่ผลิตในโรงงานอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะมีการยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ แล้วจึงค่อยส่งอาหารเหล่านี้ออกไปวางจำหน่าย
 


5. อาหารของหมาคุณเหมาะกับหมาของคุณหรือไม่
     ความเหมาะสมที่ว่านี้หมายถึงอายุ สายพันธุ์ กิจกรรมที่ทำ น้ำหนัก และสภาวะสุขภาพของหมาของคุณ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับหมาของคุณอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดี เช่น อาหารหมาที่เหมาะสำหรับหมา “ทุกช่วงอายุ” แม้ว่าจะผ่านมาตรฐานการผลิตเป็นอย่างดี แต่ถ้าให้หมาที่โตเต็มที่หรือหมาแก่กิน พวกมันก็อาจจะได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไป และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

     ความหลากหลายของอาหารหมาที่วางขายในปัจจุบันอาจทำให้คุณสับสนงุนงงได้ คุณอาจจะลองสุ่มเลือกอาหารหมาสัก 2-3 แบบแล้วนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยบอกได้ว่าอาหารที่คุณเลือกมานั้น เหมาะสำหรับหมาของคุณหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรลืมก็คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารหมาตั้งแต่แรก จะสามารถช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้มากทีเดียว


4528
รู้ได้อย่างไรว่าอาหารหมาที่ซื้อมาคุ้มค่าคุ้มราคา
การอยากประหยัดเงินไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร แต่การเปลี่ยนอาหารหมาไปใช้ยี่ห้อที่ราคาถูกลง แต่คุณภาพก็ด้อยลงด้วยนั้นสมเหตุสมผลแล้วหรือไม่ คำตอบคือ ไม่เลย หมาเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของคุณ และมันก็ควรจะได้รับในสิ่งที่ทำให้มันมีร่างกายแข็งแรงและอยู่กับคุณไปได้นานๆ ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าอาหารที่หมาของคุณกินอยู่นั้น คุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายออกไปจริงๆ ซึ่งความคุ้มค่าที่ว่านี้คุณสามารถพิจารณาได้จาก


1. อาหารของหมาคุณมีสารอาหารควบถ้วนหรือไม่
     สัตว์ทุกชนิดต้องการน้ำ พลังงานจากโปรตีน ไขมัน หรือคาร์โบไฮเดรด กรดไขมันที่สำคัญ วิตามิน และแร่ธาตุต่างๆ อันที่จริงแล้ว ถ้าอาหารที่คุณให้หมากินอยู่มีสารอาหารต่างๆ ในปริมาณที่เหมาะสม มันก็ควรจะมีสารอาหารที่ครบถ้วน

     แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ สารอาหารที่หมาของคุณได้รับยังต้องมีความสมดุลอีกด้วย สารอาหารที่สมดุลมีความสำคัญต่อระบบเผาผลาญพลังงาน หากร่างกายคุณได้รับคาร์โบไฮเดรดน้อย ได้รับโปรตีนมาก โปรตีนบางส่วนก็จะถูกใช้ในการสร้างกลูโคสเพื่อนำมาเป็นพลังงาน ความสมดุลแบบนี้เองที่ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสมดุลเรื่องอาหารที่หมาของคุณควรได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง จึงเป็นเหตุผลให้บริษัทผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงชั้นนำจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารในสัตว์เลี้ยงมาเป็นผู้เลือกส่วนผสมอาหารอย่างระมัดระวัง
 


2. อาหารของหมาคุณคิดค้นสูตรโดยผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารสำหรับสัตว์หรือไม่
     การคิดค้นสูตรอาหารที่หมาของคุณกินไม่ใช่เรื่องง่าย ผู้ผลิตอาหารหมาที่มีคุณภาพจะจ้างผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะมาทำงาน เพื่อให้ส่วนผสมหลักของอาหารได้อย่างเหมาะสมและมีความสมดุล ซึ่งส่วนผสมหลักที่ว่านี้อาจมีได้ถึง 50 ชนิดเลยทีเดียว นอกจากนี้ เหล่าผู้เชี่ยวชาญยังต้องดูแลเรื่องสารอาหารเสริมและแร่ธาตุที่ช่วยให้หมาของคุณมีสุขภาพที่ดีด้วย



3. อาหารของหมาคุณผ่านการทดลองให้อาหารหรือเปล่า
     การทดลองให้อาหารคือมาตรฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งของการผลิตอาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง อาหารที่ผ่านการตรวจสอบในขั้นตอนนี้จะถูกนำไปให้สัตว์เลี้ยงกินตามกระบวนการขั้นตอนและเงื่อนไขที่กำหนดเอาไว้อย่างเข้มงวด เพื่อดูว่าอาหารแต่ละชนิดนั้นให้สารอาหารต่อสัตว์เลี้ยงของคุณอย่างเหมาะสมหรือไม่

4. อาหารของหมาคุณผลิตด้วยขั้นตอนที่มีการควบคุมมาตรฐานอย่างเข้มงวดหรือเปล่า
     คุณภาพและความปลอดภัยคือสิ่งสำคัญสำหรับผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยง บางบริษัทอาจจะมีความเข้มงวดในเรื่องนี้มากกว่าบริษัทอื่นๆ เช่น อาหารหมาที่ผลิตในโรงงานอาจถูกเก็บไว้จนกว่าจะมีการยืนยันผลการทดสอบคุณภาพ แล้วจึงค่อยส่งอาหารเหล่านี้ออกไปวางจำหน่าย
 


5. อาหารของหมาคุณเหมาะกับหมาของคุณหรือไม่
     ความเหมาะสมที่ว่านี้หมายถึงอายุ สายพันธุ์ กิจกรรมที่ทำ น้ำหนัก และสภาวะสุขภาพของหมาของคุณ การให้อาหารที่ไม่เหมาะสมกับหมาของคุณอาจให้ผลเสียมากกว่าผลดี เช่น อาหารหมาที่เหมาะสำหรับหมา “ทุกช่วงอายุ” แม้ว่าจะผ่านมาตรฐานการผลิตเป็นอย่างดี แต่ถ้าให้หมาที่โตเต็มที่หรือหมาแก่กิน พวกมันก็อาจจะได้รับสารอาหารบางชนิดมากเกินไป และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

     ความหลากหลายของอาหารหมาที่วางขายในปัจจุบันอาจทำให้คุณสับสนงุนงงได้ คุณอาจจะลองสุ่มเลือกอาหารหมาสัก 2-3 แบบแล้วนำไปปรึกษาสัตวแพทย์ ซึ่งสามารถช่วยบอกได้ว่าอาหารที่คุณเลือกมานั้น เหมาะสำหรับหมาของคุณหรือไม่ สิ่งสำคัญที่สุดที่คุณไม่ควรลืมก็คือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของอาหารหมาตั้งแต่แรก จะสามารถช่วยประหยัดค่ารักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตได้มากทีเดียว


4529
อัพเดตข่าวหมา / 5 สุดยอดหมานักแสดง
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 59, 18:06:03น. »
5 สุดยอดหมานักแสดง

หนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ คือต้นกำเนิดอันไม่มีที่สิ้นสุดของสัตว์ที่พูดได้ เต้นรำได้ และร้องเพลงได้ แม้ว่าบ่อยครั้งที่การแสดงเหล่านี้จะได้รับการเติมกราฟฟิค หรือเพิ่มเทคนิคพิเศษต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เรื่องมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีสัตว์จำนวนมากที่สามารถเล่นตามบทบาทของตัวเองได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ 60-80 นักแสดงสี่ขาเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจได้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี CG ต่างๆ เสียอีก และสัตว์นักแสดงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นหมา ซึ่งหมาเหล่านี้สามารถได้มากกว่าแค่คำสั่งง่ายๆ อย่างนั่ง หมอบ หรือรอ หมาบางตัวสามารถแสดงได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้ดาราหลายคนต้องอายเลยทีเดียว



1. Spike
สไปค์ หมาพันธุ์ลาบราดอร์สีเหลือง ที่รับบทเป็น Old Yeller ในหนังดิสนีย์ชื่อเดียวกันนี้ หากคุณไม่เคยชมหนังเรื่องนี้มาก่อนก็ควรลองไปหามาดูสักครั้ง Frank Weatherwax  ครูฝึกสอนสัตว์ที่มีชื่อเสียงได้ไปรับสไปค์มาจากศูนย์สงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่ง นอกจาก Old Yeller แล้ว สไปค์ยังปรากฏตัวในหนังอีกหลายเรื่อง เช่น movies A Dog of Flanders, The She-Creature และ The Silent Call และยังได้ออกทีวีในหลายๆ รายการ ซึ่งรวมถึง The Mickey Mouse Club ตอนหนึ่งด้วย



2. Terry
เทอร์รี่เป็นหมาพันธุ์เทอร์เรียที่โด่งดังมาจากการรับบทเป็น Toto ในหนังเรื่อง The Wizard of Oz และยังได้เล่นหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Bright Eyes และ Tortilla Flat ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่มันเล่น ในเครดิตหนังต่างๆ แทบจะไม่มีการพูดถึงเทอร์รี่ด้วยชื่อจริงของมันเลย รวมถึงใน The Wizard of Oz ที่มีชื่อขึ้นในเครดิตท้ายเรื่องว่า Toto  ซึ่งใน The Wizard of Oz นี้เองที่เท้าของเทอร์รี่แตก เพราะโดนหนึ่งในนักแสดงที่เล่นเป็นทหารของราชินีผู้ชั่วร้ายในเรื่องเหยียบเท้า



3. Pal
พอลเป็นหมานักแสดงสำรองในหนังเรื่อง Lassie Comes Home ของ MGM ในปี 1943 แม้ว่าพอลจะต้องสูญเสียชื่อในฐานะของนักแสดงนำให้กับคอลลี่ตัวเมียสายประกวดอีกตัวหนึ่ง แต่ในการถ่ายทำนั้น พอลคือนักแสดงนำตัวจริง แม้จะมีสาเหตุอันซับซ้อนมากมายที่ทำให้พอลไม่ได้รับการเอ่ยชื่อ แต่พอลก็ได้พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นตามบทให้ผ่านได้ภายในครั้งเดียวอย่างน่ามหัศจรรย์ พอลยังได้รับบทนำในหนังเรื่องอื่นๆ อีก 7 เรื่อง เจ้าของและครูฝึกของพอล คือ Rudd Weatherwax โดยมีพี่ชายของเขา Frank  Weatherwax ครูฝึกสัตว์ชื่อดังคอยให้ความช่วย เมื่อ MGM เลิกทำหนังซีรีย์แลซซี่ ทางบริษัทยังคงติดหนี้ค่าตัวของพอลกับ Rudd อยู่ และตกลงยกลิขสิทธิ์แลซซี่ให้เขาเป็นการชดเชย ทำให้ซีรีย์แลซซี่ได้โลดแล่นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์อย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1957 ถึง 1973



4. Rin Tin Tin
รินตินตินตัวจริงเป็นเยอรมันเชพเพิร์ดสีเข้มที่มีทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง Lee Duncan เป็นเจ้าของและครูฝึก เขาพาหมาตัวนี้กลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง และสอนให้มันทำตามคำสั่งต่างๆ โดยหวังว่ามันจะสามารถเป็นดาราหมาได้ในวันหนึ่ง รินตินตินมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี 1920 และ 1930 หนังที่รินตินตินเล่นสร้างรายได้มหาศาลให้กับ Warner Brothers และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ช่วยบริษัทเอาไว้จากการปัญหาทางการเงิน รินตินตินยังรับบทเป็น Rinty ในภาพยนตร์ซีรีย์ และรับบทเป็น  Scotty ในเรื่อง Tiger Rose ซึ่งฉายในปี 1930 อีกด้วย นอกจากนี้ รินตินตินยังมีรายการวิทยุเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1930 และเมื่อรินตินตินตายในปี 1932 ลูกของมันก็เข้ามารับช่วงต่อทั้งในรายการวิทยุและการแสดง



5. Higgins
ฮิกกินส์คือสุดยอดทีมหมานักแสดง มันได้รับบทบาทที่หลากหลายยิ่งกว่านักแสดงมนุษย์หลายคนเสียอีก โดยบทบาทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ บทบาทในฐานะของนักแสดงนำในหนังเรื่อง Benji ฮิกกินส์ได้ปรากฏตัวในหนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย พวกมันได้รับการฝึกโดย Frank Inn ซึ่งเป็นผู้ฝึกสัตว์ที่ใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Beverly Hillbillies และ Green Acres

ฮิกกินส์เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักแสดอย่างเรียบง่ายเหมือนกับสัตว์นักแสดงตัวอื่นๆ ในบทของหมาพันธุ์ผสมในสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง Frank Inn ถือว่าฮิกกินส์เป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของเขา มันไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้นับร้อยคำสั่งเท่านั้น มันเป็นได้มากกว่าแค่หมาที่ถูกฝึกมาอย่างดีตัวหนึ่ง ฮิกกินส์สามารถแสดงอารมณ์ต่างๆ ตามบทบาทได้ มันแสดงความหวาดกลัว ความสนใจ เสียใจ หรือเบื่อเมื่อผู้กำกับต้องการ มันยังสามารถจามหรือหาวตามบทได้อีกด้วย ฮิกกินส์สามารถเล่นได้ทั้งหนังรักโรแมนติก หนังตลก และหนังบู๊แอคชั่นล้างผลาญเมื่อต้องการ


4530
อัพเดตข่าวหมา / 5 สุดยอดหมานักแสดง
« เมื่อ: 04 มิ.ย. 59, 18:06:03น. »
5 สุดยอดหมานักแสดง

หนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ คือต้นกำเนิดอันไม่มีที่สิ้นสุดของสัตว์ที่พูดได้ เต้นรำได้ และร้องเพลงได้ แม้ว่าบ่อยครั้งที่การแสดงเหล่านี้จะได้รับการเติมกราฟฟิค หรือเพิ่มเทคนิคพิเศษต่างๆ เข้าไปเพื่อให้เรื่องมีความตื่นเต้นน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังมีสัตว์จำนวนมากที่สามารถเล่นตามบทบาทของตัวเองได้อย่างโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงทศวรรษที่ 60-80 นักแสดงสี่ขาเหล่านี้สามารถทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจได้ตั้งแต่ก่อนที่จะมี CG ต่างๆ เสียอีก และสัตว์นักแสดงเหล่านี้ส่วนใหญ่จะเป็นหมา ซึ่งหมาเหล่านี้สามารถได้มากกว่าแค่คำสั่งง่ายๆ อย่างนั่ง หมอบ หรือรอ หมาบางตัวสามารถแสดงได้ดีและมีชื่อเสียงโด่งดังจนทำให้ดาราหลายคนต้องอายเลยทีเดียว



1. Spike
สไปค์ หมาพันธุ์ลาบราดอร์สีเหลือง ที่รับบทเป็น Old Yeller ในหนังดิสนีย์ชื่อเดียวกันนี้ หากคุณไม่เคยชมหนังเรื่องนี้มาก่อนก็ควรลองไปหามาดูสักครั้ง Frank Weatherwax  ครูฝึกสอนสัตว์ที่มีชื่อเสียงได้ไปรับสไปค์มาจากศูนย์สงเคราะห์สัตว์แห่งหนึ่ง นอกจาก Old Yeller แล้ว สไปค์ยังปรากฏตัวในหนังอีกหลายเรื่อง เช่น movies A Dog of Flanders, The She-Creature และ The Silent Call และยังได้ออกทีวีในหลายๆ รายการ ซึ่งรวมถึง The Mickey Mouse Club ตอนหนึ่งด้วย



2. Terry
เทอร์รี่เป็นหมาพันธุ์เทอร์เรียที่โด่งดังมาจากการรับบทเป็น Toto ในหนังเรื่อง The Wizard of Oz และยังได้เล่นหนังอีกหลายเรื่อง เช่น Bright Eyes และ Tortilla Flat ซึ่งเป็นหนังเรื่องสุดท้ายที่มันเล่น ในเครดิตหนังต่างๆ แทบจะไม่มีการพูดถึงเทอร์รี่ด้วยชื่อจริงของมันเลย รวมถึงใน The Wizard of Oz ที่มีชื่อขึ้นในเครดิตท้ายเรื่องว่า Toto  ซึ่งใน The Wizard of Oz นี้เองที่เท้าของเทอร์รี่แตก เพราะโดนหนึ่งในนักแสดงที่เล่นเป็นทหารของราชินีผู้ชั่วร้ายในเรื่องเหยียบเท้า



3. Pal
พอลเป็นหมานักแสดงสำรองในหนังเรื่อง Lassie Comes Home ของ MGM ในปี 1943 แม้ว่าพอลจะต้องสูญเสียชื่อในฐานะของนักแสดงนำให้กับคอลลี่ตัวเมียสายประกวดอีกตัวหนึ่ง แต่ในการถ่ายทำนั้น พอลคือนักแสดงนำตัวจริง แม้จะมีสาเหตุอันซับซ้อนมากมายที่ทำให้พอลไม่ได้รับการเอ่ยชื่อ แต่พอลก็ได้พิสูจน์แล้วว่า มันเป็นนักแสดงที่สามารถเล่นตามบทให้ผ่านได้ภายในครั้งเดียวอย่างน่ามหัศจรรย์ พอลยังได้รับบทนำในหนังเรื่องอื่นๆ อีก 7 เรื่อง เจ้าของและครูฝึกของพอล คือ Rudd Weatherwax โดยมีพี่ชายของเขา Frank  Weatherwax ครูฝึกสัตว์ชื่อดังคอยให้ความช่วย เมื่อ MGM เลิกทำหนังซีรีย์แลซซี่ ทางบริษัทยังคงติดหนี้ค่าตัวของพอลกับ Rudd อยู่ และตกลงยกลิขสิทธิ์แลซซี่ให้เขาเป็นการชดเชย ทำให้ซีรีย์แลซซี่ได้โลดแล่นอยู่บนหน้าจอโทรทัศน์อย่างยาวนานตั้งแต่ปี 1957 ถึง 1973



4. Rin Tin Tin
รินตินตินตัวจริงเป็นเยอรมันเชพเพิร์ดสีเข้มที่มีทหารผ่านศึกสงครามโลกครั้งที่ 1 อย่าง Lee Duncan เป็นเจ้าของและครูฝึก เขาพาหมาตัวนี้กลับมาจากฝรั่งเศสเมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลง และสอนให้มันทำตามคำสั่งต่างๆ โดยหวังว่ามันจะสามารถเป็นดาราหมาได้ในวันหนึ่ง รินตินตินมีชื่อเสียงโด่งดังในช่วงปี 1920 และ 1930 หนังที่รินตินตินเล่นสร้างรายได้มหาศาลให้กับ Warner Brothers และได้ชื่อว่าเป็นผู้ที่ช่วยบริษัทเอาไว้จากการปัญหาทางการเงิน รินตินตินยังรับบทเป็น Rinty ในภาพยนตร์ซีรีย์ และรับบทเป็น  Scotty ในเรื่อง Tiger Rose ซึ่งฉายในปี 1930 อีกด้วย นอกจากนี้ รินตินตินยังมีรายการวิทยุเป็นของตัวเองตั้งแต่ปี 1930 และเมื่อรินตินตินตายในปี 1932 ลูกของมันก็เข้ามารับช่วงต่อทั้งในรายการวิทยุและการแสดง



5. Higgins
ฮิกกินส์คือสุดยอดทีมหมานักแสดง มันได้รับบทบาทที่หลากหลายยิ่งกว่านักแสดงมนุษย์หลายคนเสียอีก โดยบทบาทที่เป็นที่รู้จักกันมากที่สุดก็คือ บทบาทในฐานะของนักแสดงนำในหนังเรื่อง Benji ฮิกกินส์ได้ปรากฏตัวในหนังและรายการโทรทัศน์ต่างๆ มากมาย พวกมันได้รับการฝึกโดย Frank Inn ซึ่งเป็นผู้ฝึกสัตว์ที่ใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง The Beverly Hillbillies และ Green Acres

ฮิกกินส์เริ่มต้นชีวิตการเป็นนักแสดอย่างเรียบง่ายเหมือนกับสัตว์นักแสดงตัวอื่นๆ ในบทของหมาพันธุ์ผสมในสถานรับเลี้ยงสัตว์แห่งหนึ่ง Frank Inn ถือว่าฮิกกินส์เป็นนักเรียนที่ดีที่สุดของเขา มันไม่เพียงแต่สามารถเรียนรู้คำสั่งได้นับร้อยคำสั่งเท่านั้น มันเป็นได้มากกว่าแค่หมาที่ถูกฝึกมาอย่างดีตัวหนึ่ง ฮิกกินส์สามารถแสดงอารมณ์ต่างๆ ตามบทบาทได้ มันแสดงความหวาดกลัว ความสนใจ เสียใจ หรือเบื่อเมื่อผู้กำกับต้องการ มันยังสามารถจามหรือหาวตามบทได้อีกด้วย ฮิกกินส์สามารถเล่นได้ทั้งหนังรักโรแมนติก หนังตลก และหนังบู๊แอคชั่นล้างผลาญเมื่อต้องการ