แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - ขายหมา

4411
ตรวจสอบ 10 สิ่งนี้ว่าคุณเป็นคนที่รักหมามากแค่ไหน

     คนที่เลี้ยงสุนัขจะคิดว่าสุนัขคือส่วนหนึ่งของครอบครัว มันเป็นไปตามธรรมชาติจากความรักและผูกพันธุ์ ซึ่งคนที่ไม่ได้เลี้ยงอาจจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องทำถึงเพียงนี้เลยเหรอกับแค่หมา แต่จากประสบการณ์การเลี้ยงหมามา คนที่บอกว่าไม่ชอบหรือเกียจหมา แต่ถ้าได้อยู่ร่วมกันกับมัน อาจจะเป็นคนที่บอกว่าไม่ชอบหมาซะอีก ที่รักหมาตัวนั้นยิ่งกว่าคนที่ชอบก็เป็นได้ วันนี้เราจะมาเช็คกันว่า 10 สิ่งนี้ มีแต่คนที่ชอบหมาเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าทำไปทำไม เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง

1.   ถ่ายรูปคู่กับคนรัก หรือถ่ายรูปครอบครัว ต้องมีหมา



2.   ต้องเสียตังให้ช่างวาดรูป หรือถ่ายรูปหมาไปอัดกรอบ



3.   รูปในมือถือมีแต่รูปหมาทั้ง Albums



4.   ต้องมีเก้าอี้ประจำไว้ให้นาง โดยที่ใครมานั่งไม่ได้



5.   นอนด้วยกันทู๊กกคืน



6.   เป็นห่วงหมามากกว่าคนในบ้าน


7.   ฉลองวันเกิดให้กับหมา



8.   พาหมาไปเที่ยว (ประเด็นหลัก คนอื่นแค่ติดตามไป)



9.   หมาต้องกินดีไว้ก่อน คนไว้ทีหลัง



10.    ถ่ายพรีเวดดิ้ง ต้องมีนู๋ด้วย ^^





4412
ตรวจสอบ 10 สิ่งนี้ว่าคุณเป็นคนที่รักหมามากแค่ไหน

     คนที่เลี้ยงสุนัขจะคิดว่าสุนัขคือส่วนหนึ่งของครอบครัว มันเป็นไปตามธรรมชาติจากความรักและผูกพันธุ์ ซึ่งคนที่ไม่ได้เลี้ยงอาจจะไม่เข้าใจ ว่าทำไมต้องทำถึงเพียงนี้เลยเหรอกับแค่หมา แต่จากประสบการณ์การเลี้ยงหมามา คนที่บอกว่าไม่ชอบหรือเกียจหมา แต่ถ้าได้อยู่ร่วมกันกับมัน อาจจะเป็นคนที่บอกว่าไม่ชอบหมาซะอีก ที่รักหมาตัวนั้นยิ่งกว่าคนที่ชอบก็เป็นได้ วันนี้เราจะมาเช็คกันว่า 10 สิ่งนี้ มีแต่คนที่ชอบหมาเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าทำไปทำไม เรามาดูกันค่ะว่ามีอะไรกันบ้าง

1.   ถ่ายรูปคู่กับคนรัก หรือถ่ายรูปครอบครัว ต้องมีหมา



2.   ต้องเสียตังให้ช่างวาดรูป หรือถ่ายรูปหมาไปอัดกรอบ



3.   รูปในมือถือมีแต่รูปหมาทั้ง Albums



4.   ต้องมีเก้าอี้ประจำไว้ให้นาง โดยที่ใครมานั่งไม่ได้



5.   นอนด้วยกันทู๊กกคืน



6.   เป็นห่วงหมามากกว่าคนในบ้าน


7.   ฉลองวันเกิดให้กับหมา



8.   พาหมาไปเที่ยว (ประเด็นหลัก คนอื่นแค่ติดตามไป)



9.   หมาต้องกินดีไว้ก่อน คนไว้ทีหลัง



10.    ถ่ายพรีเวดดิ้ง ต้องมีนู๋ด้วย ^^





4413
7 สัญญาณหมาป่วยที่ห้ามรอเด็ดขาด

     ในช่วงเวลาที่เงินขาดมือ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของหมาหาวิธีประหยัดก็คือ การลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหมา ปัญหาก็คือ การทำแบบนี้อาจจะรวมถึงการไม่ยอมพาหมาไปตรวจโรคด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าการตรวจโรคนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่ คนส่วนใหญ่คิดว่าจำเป็นต้องรีบพาหมาไปหาหมอก็ต่อเมื่อหมาของตนเป็นลม มีเลือดออก มีอาการบวม เดินไม่ได้ หรือบาดเจ็บ แต่สำหรับโรคอื่นๆ ที่ไม่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจนล่ะ? คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อไรคือเวลาที่คุณจำเป็นต้องพาหมาของคุณไปหาหมอจริงๆ นี่คือตัวอย่างของสัญญาณบ่งชี้โรคที่พบได้ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้กับหมาของคุณ และเป็นสัญญาณที่คุณห้ามมองข้ามหรือละเลยเป็นอันขาด



1. หายใจลำบาก

     เมื่อหมาของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการหายใจ คุณจำเป็นต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ในทันที เนื่องจากแมวและหมาเล็กๆ มีระบบทางเดินหายใจขนาดเล็ก ปัญหาการหายใจแค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่สถานการณ์แห่งความเป็นความตายได้ ถ้าหมาหรือแมวของคุณไอ หอบมากกว่าปกติ เหนื่อยง่าย หรือจู่ๆ ก็หายใจเสียงดัง มันก็ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ทันทีเช่นกัน โรคหัวใจและโรคปอด การติดเชื้อ มีสิ่งอุดตันภายในร่างกาย และสาเหตุต่างๆ มากมายสามารถทำให้เกิดปัญหาการหายใจอย่างฉับพลันได้ทั้งนั้น

2. ท้องเสีย

     หมาที่มีอาการท้องเสียอย่างต่อเนื่องเกิน 1 วันควรได้รับการตรวจวินิจฉันจากสัตวแพทย์ หมาและแมวมีขนาดตัวที่เล็กกว่าคนมาก พวกมันจึงสามารถมีอาการขาดน้ำได้เร็วกว่าพวกเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครชอบทำความสะอาดพรมหรือผ้าปูที่นอนที่สกปรกหรอก จริงมั้ย ถ้าหมาของคุณถ่ายเรี่ยราดอย่างควบคุมไม่ได้นานเกิน 1 วัน คุณควรรีบพามันได้หาสัตวแพทย์เพื่อแก้ปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะได้รับการรักษาที่ไม่ซับซ้อนอะไรนัก และอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว



3. อาเจียน

     การอาเจียนหลังจากกินขยะเข้าไปเป็นเรื่องปกติ การอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และการอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 ชั่วโมงคือกรณีฉุกเฉิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหมาของคุณอาเจียนมากกว่า 3 ครั้งภายใน 1 วัน มันก็ควรจะไปพบและรับการตรวจจากสัตวแพทย์ได้แล้ว มีสาเหตุมากมายที่ทำให้หมาและแมวอาเจียน โชคดีที่ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรเสี่ยงให้เพื่อนรักของคุณต้องทรมานจากลำไส้อุดตัน การติดเชื้อ ตับอ่อนอักเสบ โรคตับหรือไต ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านี้ ยิ่งคุณพาหมาของคุณไปตรวจวินิจฉัยโรคและรับการรักษาเร็วขึ้นเท่าไร การรักษาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเท่านั้น แถมยังเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อยลงด้วย

4. กินน้ำหรือฉี่มากขึ้นอย่างฉับพลัน

     การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินน้ำหรือการฉี่สามารถระบุได้ยากว่ามีปัญหาจากอะไร หากคุณสังเกตเห็นว่าหมาของคุณยืนเฝ้าชามน้ำของมันอยู่ตลอดเวลา หรือขอออกไปฉี่บ่อยๆ คุณก็ควรพามันไปหาสัตวแพทย์ อาการแสดงโรคลักษณะนี้อาจมีความเกี่ยวโยงถึงโรคเบาหวาน โรคตับหรือไต การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือไต กินสิ่งที่มีพิษเข้าไป โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมายได้

5. ไม่กินอาหารต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง

     หมาจะมีความอยากกินอาหารอยู่เสมอ นอกเสียจากว่ามีสิ่งผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้น เมื่อหมาไม่กินอาหารต่อเนื่องกัน 2 วัน คุณก็ควรเริ่มกังวลได้แล้ว การเลื่อนการรักษาออกไปหมายถึงการที่หมาของคุณมีอาการขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้นหรือซับซ้อนขึ้นได้ การที่หมาของคุณไม่อยากกินอาหารเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก และควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

6. ถ่ายสีเข้มหรือถ่ายเป็นเลือด

     อึสีเข้มหรืออึที่มีเลือดปนมักเกี่ยวโยงกับปัญหาการแยกเลือดออกจาก เลือดสีแดงสดมักจะมาพร้อมกับปัญหาลำไส้ใหญ่บวมหรือปัญหาเกี่ยวกับทวารหนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณก็ควรพาหมาของคุณไปตรวจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในอึหมา ไม่ว่าจะเป็นมีแผลเลือดออก พยาธิในลำไส้ วัตถุแปลกปลอม หรือสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ต่างก็ทำให้อึของหมามีสีเข้มหรือมีเลือดปนได้ และมันควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย

7. ฉี่หรืออึไม่ออก

     หมาที่อึหรือฉี่ยาก หรือไม่ออกเลย กำลังตกอยู่ในอันตราย ความเสี่ยงเรื่องของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเสียหาย ไตล้มเหลว เลือดเป็นพิษ ชัก หรืออาการร้ายแรงอื่นๆ แล้ว ทำให้หมาของคุณควรได้รับการรักษาพยาบาลในทันที หมาหลายตัวเริ่มจากแค่มีปัญหาอึหรือฉี่ยาก ก่อนที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถอึหรือฉี่ออกได้เลยอย่างฉับพลัน หมาตัวผู้ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของท่อปัสสาวะอักเสบอีกด้วย



     ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่อาการแสดงโรคที่ควรได้รับการรักษาทันทีทั้งหมด มันเป็นเพียงสิ่งที่เหล่าสัตวแพทย์ต้องการให้เจ้าของหมาทั้งหลายสังเกตเห็น และรีบนำหมามาส่งให้พวกเขาเท่านั้น หมาจำนวนมากต้องทนทรมานโดยไม่จำเป็น หรือทนรับการรักษาที่มีขั้นตอนวุ่นวายเพราะได้รับการรักษาช้า อาการแสดงโรคทั้ง 7 อย่างนี้คือไกด์ไลน์ที่จะช่วยเตือนให้เจ้าของหมาทั้งหลายได้ระวัง และรับมือกับสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเหมาะสม เพราะพวกมันบอกคุณไม่ได้ว่าพวกมันเป็นอะไร หรือพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของจะให้ความสนใจกับสัญญาณเตือนของโรคที่ร้ายแรงเหล่านี้หรือไม่  เท่านั้นเอง

4414
7 สัญญาณหมาป่วยที่ห้ามรอเด็ดขาด

     ในช่วงเวลาที่เงินขาดมือ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของหมาหาวิธีประหยัดก็คือ การลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหมา ปัญหาก็คือ การทำแบบนี้อาจจะรวมถึงการไม่ยอมพาหมาไปตรวจโรคด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าการตรวจโรคนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่ คนส่วนใหญ่คิดว่าจำเป็นต้องรีบพาหมาไปหาหมอก็ต่อเมื่อหมาของตนเป็นลม มีเลือดออก มีอาการบวม เดินไม่ได้ หรือบาดเจ็บ แต่สำหรับโรคอื่นๆ ที่ไม่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจนล่ะ? คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อไรคือเวลาที่คุณจำเป็นต้องพาหมาของคุณไปหาหมอจริงๆ นี่คือตัวอย่างของสัญญาณบ่งชี้โรคที่พบได้ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้กับหมาของคุณ และเป็นสัญญาณที่คุณห้ามมองข้ามหรือละเลยเป็นอันขาด



1. หายใจลำบาก

     เมื่อหมาของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการหายใจ คุณจำเป็นต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ในทันที เนื่องจากแมวและหมาเล็กๆ มีระบบทางเดินหายใจขนาดเล็ก ปัญหาการหายใจแค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่สถานการณ์แห่งความเป็นความตายได้ ถ้าหมาหรือแมวของคุณไอ หอบมากกว่าปกติ เหนื่อยง่าย หรือจู่ๆ ก็หายใจเสียงดัง มันก็ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ทันทีเช่นกัน โรคหัวใจและโรคปอด การติดเชื้อ มีสิ่งอุดตันภายในร่างกาย และสาเหตุต่างๆ มากมายสามารถทำให้เกิดปัญหาการหายใจอย่างฉับพลันได้ทั้งนั้น

2. ท้องเสีย

     หมาที่มีอาการท้องเสียอย่างต่อเนื่องเกิน 1 วันควรได้รับการตรวจวินิจฉันจากสัตวแพทย์ หมาและแมวมีขนาดตัวที่เล็กกว่าคนมาก พวกมันจึงสามารถมีอาการขาดน้ำได้เร็วกว่าพวกเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครชอบทำความสะอาดพรมหรือผ้าปูที่นอนที่สกปรกหรอก จริงมั้ย ถ้าหมาของคุณถ่ายเรี่ยราดอย่างควบคุมไม่ได้นานเกิน 1 วัน คุณควรรีบพามันได้หาสัตวแพทย์เพื่อแก้ปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะได้รับการรักษาที่ไม่ซับซ้อนอะไรนัก และอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว



3. อาเจียน

     การอาเจียนหลังจากกินขยะเข้าไปเป็นเรื่องปกติ การอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และการอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 ชั่วโมงคือกรณีฉุกเฉิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหมาของคุณอาเจียนมากกว่า 3 ครั้งภายใน 1 วัน มันก็ควรจะไปพบและรับการตรวจจากสัตวแพทย์ได้แล้ว มีสาเหตุมากมายที่ทำให้หมาและแมวอาเจียน โชคดีที่ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรเสี่ยงให้เพื่อนรักของคุณต้องทรมานจากลำไส้อุดตัน การติดเชื้อ ตับอ่อนอักเสบ โรคตับหรือไต ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านี้ ยิ่งคุณพาหมาของคุณไปตรวจวินิจฉัยโรคและรับการรักษาเร็วขึ้นเท่าไร การรักษาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเท่านั้น แถมยังเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อยลงด้วย

4. กินน้ำหรือฉี่มากขึ้นอย่างฉับพลัน

     การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินน้ำหรือการฉี่สามารถระบุได้ยากว่ามีปัญหาจากอะไร หากคุณสังเกตเห็นว่าหมาของคุณยืนเฝ้าชามน้ำของมันอยู่ตลอดเวลา หรือขอออกไปฉี่บ่อยๆ คุณก็ควรพามันไปหาสัตวแพทย์ อาการแสดงโรคลักษณะนี้อาจมีความเกี่ยวโยงถึงโรคเบาหวาน โรคตับหรือไต การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือไต กินสิ่งที่มีพิษเข้าไป โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมายได้

5. ไม่กินอาหารต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง

     หมาจะมีความอยากกินอาหารอยู่เสมอ นอกเสียจากว่ามีสิ่งผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้น เมื่อหมาไม่กินอาหารต่อเนื่องกัน 2 วัน คุณก็ควรเริ่มกังวลได้แล้ว การเลื่อนการรักษาออกไปหมายถึงการที่หมาของคุณมีอาการขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้นหรือซับซ้อนขึ้นได้ การที่หมาของคุณไม่อยากกินอาหารเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก และควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

6. ถ่ายสีเข้มหรือถ่ายเป็นเลือด

     อึสีเข้มหรืออึที่มีเลือดปนมักเกี่ยวโยงกับปัญหาการแยกเลือดออกจาก เลือดสีแดงสดมักจะมาพร้อมกับปัญหาลำไส้ใหญ่บวมหรือปัญหาเกี่ยวกับทวารหนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณก็ควรพาหมาของคุณไปตรวจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในอึหมา ไม่ว่าจะเป็นมีแผลเลือดออก พยาธิในลำไส้ วัตถุแปลกปลอม หรือสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ต่างก็ทำให้อึของหมามีสีเข้มหรือมีเลือดปนได้ และมันควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย

7. ฉี่หรืออึไม่ออก

     หมาที่อึหรือฉี่ยาก หรือไม่ออกเลย กำลังตกอยู่ในอันตราย ความเสี่ยงเรื่องของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเสียหาย ไตล้มเหลว เลือดเป็นพิษ ชัก หรืออาการร้ายแรงอื่นๆ แล้ว ทำให้หมาของคุณควรได้รับการรักษาพยาบาลในทันที หมาหลายตัวเริ่มจากแค่มีปัญหาอึหรือฉี่ยาก ก่อนที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถอึหรือฉี่ออกได้เลยอย่างฉับพลัน หมาตัวผู้ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของท่อปัสสาวะอักเสบอีกด้วย



     ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่อาการแสดงโรคที่ควรได้รับการรักษาทันทีทั้งหมด มันเป็นเพียงสิ่งที่เหล่าสัตวแพทย์ต้องการให้เจ้าของหมาทั้งหลายสังเกตเห็น และรีบนำหมามาส่งให้พวกเขาเท่านั้น หมาจำนวนมากต้องทนทรมานโดยไม่จำเป็น หรือทนรับการรักษาที่มีขั้นตอนวุ่นวายเพราะได้รับการรักษาช้า อาการแสดงโรคทั้ง 7 อย่างนี้คือไกด์ไลน์ที่จะช่วยเตือนให้เจ้าของหมาทั้งหลายได้ระวัง และรับมือกับสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเหมาะสม เพราะพวกมันบอกคุณไม่ได้ว่าพวกมันเป็นอะไร หรือพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของจะให้ความสนใจกับสัญญาณเตือนของโรคที่ร้ายแรงเหล่านี้หรือไม่  เท่านั้นเอง

4415
7 สัญญาณหมาป่วยที่ห้ามรอเด็ดขาด

     ในช่วงเวลาที่เงินขาดมือ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของหมาหาวิธีประหยัดก็คือ การลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหมา ปัญหาก็คือ การทำแบบนี้อาจจะรวมถึงการไม่ยอมพาหมาไปตรวจโรคด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าการตรวจโรคนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่ คนส่วนใหญ่คิดว่าจำเป็นต้องรีบพาหมาไปหาหมอก็ต่อเมื่อหมาของตนเป็นลม มีเลือดออก มีอาการบวม เดินไม่ได้ หรือบาดเจ็บ แต่สำหรับโรคอื่นๆ ที่ไม่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจนล่ะ? คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อไรคือเวลาที่คุณจำเป็นต้องพาหมาของคุณไปหาหมอจริงๆ นี่คือตัวอย่างของสัญญาณบ่งชี้โรคที่พบได้ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้กับหมาของคุณ และเป็นสัญญาณที่คุณห้ามมองข้ามหรือละเลยเป็นอันขาด



1. หายใจลำบาก

     เมื่อหมาของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการหายใจ คุณจำเป็นต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ในทันที เนื่องจากแมวและหมาเล็กๆ มีระบบทางเดินหายใจขนาดเล็ก ปัญหาการหายใจแค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่สถานการณ์แห่งความเป็นความตายได้ ถ้าหมาหรือแมวของคุณไอ หอบมากกว่าปกติ เหนื่อยง่าย หรือจู่ๆ ก็หายใจเสียงดัง มันก็ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ทันทีเช่นกัน โรคหัวใจและโรคปอด การติดเชื้อ มีสิ่งอุดตันภายในร่างกาย และสาเหตุต่างๆ มากมายสามารถทำให้เกิดปัญหาการหายใจอย่างฉับพลันได้ทั้งนั้น

2. ท้องเสีย

     หมาที่มีอาการท้องเสียอย่างต่อเนื่องเกิน 1 วันควรได้รับการตรวจวินิจฉันจากสัตวแพทย์ หมาและแมวมีขนาดตัวที่เล็กกว่าคนมาก พวกมันจึงสามารถมีอาการขาดน้ำได้เร็วกว่าพวกเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครชอบทำความสะอาดพรมหรือผ้าปูที่นอนที่สกปรกหรอก จริงมั้ย ถ้าหมาของคุณถ่ายเรี่ยราดอย่างควบคุมไม่ได้นานเกิน 1 วัน คุณควรรีบพามันได้หาสัตวแพทย์เพื่อแก้ปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะได้รับการรักษาที่ไม่ซับซ้อนอะไรนัก และอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว



3. อาเจียน

     การอาเจียนหลังจากกินขยะเข้าไปเป็นเรื่องปกติ การอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และการอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 ชั่วโมงคือกรณีฉุกเฉิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหมาของคุณอาเจียนมากกว่า 3 ครั้งภายใน 1 วัน มันก็ควรจะไปพบและรับการตรวจจากสัตวแพทย์ได้แล้ว มีสาเหตุมากมายที่ทำให้หมาและแมวอาเจียน โชคดีที่ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรเสี่ยงให้เพื่อนรักของคุณต้องทรมานจากลำไส้อุดตัน การติดเชื้อ ตับอ่อนอักเสบ โรคตับหรือไต ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านี้ ยิ่งคุณพาหมาของคุณไปตรวจวินิจฉัยโรคและรับการรักษาเร็วขึ้นเท่าไร การรักษาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเท่านั้น แถมยังเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อยลงด้วย

4. กินน้ำหรือฉี่มากขึ้นอย่างฉับพลัน

     การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินน้ำหรือการฉี่สามารถระบุได้ยากว่ามีปัญหาจากอะไร หากคุณสังเกตเห็นว่าหมาของคุณยืนเฝ้าชามน้ำของมันอยู่ตลอดเวลา หรือขอออกไปฉี่บ่อยๆ คุณก็ควรพามันไปหาสัตวแพทย์ อาการแสดงโรคลักษณะนี้อาจมีความเกี่ยวโยงถึงโรคเบาหวาน โรคตับหรือไต การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือไต กินสิ่งที่มีพิษเข้าไป โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมายได้

5. ไม่กินอาหารต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง

     หมาจะมีความอยากกินอาหารอยู่เสมอ นอกเสียจากว่ามีสิ่งผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้น เมื่อหมาไม่กินอาหารต่อเนื่องกัน 2 วัน คุณก็ควรเริ่มกังวลได้แล้ว การเลื่อนการรักษาออกไปหมายถึงการที่หมาของคุณมีอาการขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้นหรือซับซ้อนขึ้นได้ การที่หมาของคุณไม่อยากกินอาหารเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก และควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

6. ถ่ายสีเข้มหรือถ่ายเป็นเลือด

     อึสีเข้มหรืออึที่มีเลือดปนมักเกี่ยวโยงกับปัญหาการแยกเลือดออกจาก เลือดสีแดงสดมักจะมาพร้อมกับปัญหาลำไส้ใหญ่บวมหรือปัญหาเกี่ยวกับทวารหนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณก็ควรพาหมาของคุณไปตรวจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในอึหมา ไม่ว่าจะเป็นมีแผลเลือดออก พยาธิในลำไส้ วัตถุแปลกปลอม หรือสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ต่างก็ทำให้อึของหมามีสีเข้มหรือมีเลือดปนได้ และมันควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย

7. ฉี่หรืออึไม่ออก

     หมาที่อึหรือฉี่ยาก หรือไม่ออกเลย กำลังตกอยู่ในอันตราย ความเสี่ยงเรื่องของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเสียหาย ไตล้มเหลว เลือดเป็นพิษ ชัก หรืออาการร้ายแรงอื่นๆ แล้ว ทำให้หมาของคุณควรได้รับการรักษาพยาบาลในทันที หมาหลายตัวเริ่มจากแค่มีปัญหาอึหรือฉี่ยาก ก่อนที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถอึหรือฉี่ออกได้เลยอย่างฉับพลัน หมาตัวผู้ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของท่อปัสสาวะอักเสบอีกด้วย



     ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่อาการแสดงโรคที่ควรได้รับการรักษาทันทีทั้งหมด มันเป็นเพียงสิ่งที่เหล่าสัตวแพทย์ต้องการให้เจ้าของหมาทั้งหลายสังเกตเห็น และรีบนำหมามาส่งให้พวกเขาเท่านั้น หมาจำนวนมากต้องทนทรมานโดยไม่จำเป็น หรือทนรับการรักษาที่มีขั้นตอนวุ่นวายเพราะได้รับการรักษาช้า อาการแสดงโรคทั้ง 7 อย่างนี้คือไกด์ไลน์ที่จะช่วยเตือนให้เจ้าของหมาทั้งหลายได้ระวัง และรับมือกับสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเหมาะสม เพราะพวกมันบอกคุณไม่ได้ว่าพวกมันเป็นอะไร หรือพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของจะให้ความสนใจกับสัญญาณเตือนของโรคที่ร้ายแรงเหล่านี้หรือไม่  เท่านั้นเอง

4416
7 สัญญาณหมาป่วยที่ห้ามรอเด็ดขาด

     ในช่วงเวลาที่เงินขาดมือ สิ่งหนึ่งที่เจ้าของหมาหาวิธีประหยัดก็คือ การลดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับหมา ปัญหาก็คือ การทำแบบนี้อาจจะรวมถึงการไม่ยอมพาหมาไปตรวจโรคด้วย เพราะไม่แน่ใจว่าการตรวจโรคนั้นจำเป็นจริงๆ หรือไม่ คนส่วนใหญ่คิดว่าจำเป็นต้องรีบพาหมาไปหาหมอก็ต่อเมื่อหมาของตนเป็นลม มีเลือดออก มีอาการบวม เดินไม่ได้ หรือบาดเจ็บ แต่สำหรับโรคอื่นๆ ที่ไม่มีการแสดงอาการอย่างชัดเจนล่ะ? คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า เมื่อไรคือเวลาที่คุณจำเป็นต้องพาหมาของคุณไปหาหมอจริงๆ นี่คือตัวอย่างของสัญญาณบ่งชี้โรคที่พบได้ทั่วไปที่อาจเกิดขึ้นได้กับหมาของคุณ และเป็นสัญญาณที่คุณห้ามมองข้ามหรือละเลยเป็นอันขาด



1. หายใจลำบาก

     เมื่อหมาของคุณมีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการหายใจ คุณจำเป็นต้องพามันไปหาสัตวแพทย์ในทันที เนื่องจากแมวและหมาเล็กๆ มีระบบทางเดินหายใจขนาดเล็ก ปัญหาการหายใจแค่เพียงเล็กน้อยก็สามารถนำไปสู่สถานการณ์แห่งความเป็นความตายได้ ถ้าหมาหรือแมวของคุณไอ หอบมากกว่าปกติ เหนื่อยง่าย หรือจู่ๆ ก็หายใจเสียงดัง มันก็ควรได้รับการตรวจจากสัตวแพทย์ทันทีเช่นกัน โรคหัวใจและโรคปอด การติดเชื้อ มีสิ่งอุดตันภายในร่างกาย และสาเหตุต่างๆ มากมายสามารถทำให้เกิดปัญหาการหายใจอย่างฉับพลันได้ทั้งนั้น

2. ท้องเสีย

     หมาที่มีอาการท้องเสียอย่างต่อเนื่องเกิน 1 วันควรได้รับการตรวจวินิจฉันจากสัตวแพทย์ หมาและแมวมีขนาดตัวที่เล็กกว่าคนมาก พวกมันจึงสามารถมีอาการขาดน้ำได้เร็วกว่าพวกเราด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ไม่มีใครชอบทำความสะอาดพรมหรือผ้าปูที่นอนที่สกปรกหรอก จริงมั้ย ถ้าหมาของคุณถ่ายเรี่ยราดอย่างควบคุมไม่ได้นานเกิน 1 วัน คุณควรรีบพามันได้หาสัตวแพทย์เพื่อแก้ปัญหาเสียแต่เนิ่นๆ ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะได้รับการรักษาที่ไม่ซับซ้อนอะไรนัก และอาการดีขึ้นอย่างรวดเร็ว



3. อาเจียน

     การอาเจียนหลังจากกินขยะเข้าไปเป็นเรื่องปกติ การอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 วันเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง และการอาเจียน 3 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 1 ชั่วโมงคือกรณีฉุกเฉิน โดยทั่วไปแล้ว ถ้าหมาของคุณอาเจียนมากกว่า 3 ครั้งภายใน 1 วัน มันก็ควรจะไปพบและรับการตรวจจากสัตวแพทย์ได้แล้ว มีสาเหตุมากมายที่ทำให้หมาและแมวอาเจียน โชคดีที่ว่าสาเหตุส่วนใหญ่มันไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ถึงอย่างนั้น คุณก็ไม่ควรเสี่ยงให้เพื่อนรักของคุณต้องทรมานจากลำไส้อุดตัน การติดเชื้อ ตับอ่อนอักเสบ โรคตับหรือไต ระดับฮอร์โมนผิดปกติ หรืออะไรที่เลวร้ายกว่านี้ ยิ่งคุณพาหมาของคุณไปตรวจวินิจฉัยโรคและรับการรักษาเร็วขึ้นเท่าไร การรักษาก็ยิ่งมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นเท่านั้น แถมยังเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาน้อยลงด้วย

4. กินน้ำหรือฉี่มากขึ้นอย่างฉับพลัน

     การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินน้ำหรือการฉี่สามารถระบุได้ยากว่ามีปัญหาจากอะไร หากคุณสังเกตเห็นว่าหมาของคุณยืนเฝ้าชามน้ำของมันอยู่ตลอดเวลา หรือขอออกไปฉี่บ่อยๆ คุณก็ควรพามันไปหาสัตวแพทย์ อาการแสดงโรคลักษณะนี้อาจมีความเกี่ยวโยงถึงโรคเบาหวาน โรคตับหรือไต การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะหรือไต กินสิ่งที่มีพิษเข้าไป โรคเกี่ยวกับฮอร์โมน และอื่นๆ อีกมากมายได้

5. ไม่กินอาหารต่อเนื่องนาน 48 ชั่วโมง

     หมาจะมีความอยากกินอาหารอยู่เสมอ นอกเสียจากว่ามีสิ่งผิดปกติร้ายแรงเกิดขึ้น เมื่อหมาไม่กินอาหารต่อเนื่องกัน 2 วัน คุณก็ควรเริ่มกังวลได้แล้ว การเลื่อนการรักษาออกไปหมายถึงการที่หมาของคุณมีอาการขาดสารอาหารมากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะทำให้การรักษาใช้เวลานานขึ้นหรือซับซ้อนขึ้นได้ การที่หมาของคุณไม่อยากกินอาหารเป็นเรื่องที่ร้ายแรงอย่างมาก และควรได้รับการรักษาโดยเร็วที่สุด

6. ถ่ายสีเข้มหรือถ่ายเป็นเลือด

     อึสีเข้มหรืออึที่มีเลือดปนมักเกี่ยวโยงกับปัญหาการแยกเลือดออกจาก เลือดสีแดงสดมักจะมาพร้อมกับปัญหาลำไส้ใหญ่บวมหรือปัญหาเกี่ยวกับทวารหนัก แต่ไม่ว่าจะเป็นแบบไหน คุณก็ควรพาหมาของคุณไปตรวจเมื่อเห็นการเปลี่ยนแปลงในอึหมา ไม่ว่าจะเป็นมีแผลเลือดออก พยาธิในลำไส้ วัตถุแปลกปลอม หรือสาเหตุอื่นๆ อีกมากมาย ต่างก็ทำให้อึของหมามีสีเข้มหรือมีเลือดปนได้ และมันควรได้รับการรักษาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วย

7. ฉี่หรืออึไม่ออก

     หมาที่อึหรือฉี่ยาก หรือไม่ออกเลย กำลังตกอยู่ในอันตราย ความเสี่ยงเรื่องของกระเพาะปัสสาวะหรือท่อปัสสาวะเสียหาย ไตล้มเหลว เลือดเป็นพิษ ชัก หรืออาการร้ายแรงอื่นๆ แล้ว ทำให้หมาของคุณควรได้รับการรักษาพยาบาลในทันที หมาหลายตัวเริ่มจากแค่มีปัญหาอึหรือฉี่ยาก ก่อนที่จู่ๆ ก็ไม่สามารถอึหรือฉี่ออกได้เลยอย่างฉับพลัน หมาตัวผู้ยังมีความเสี่ยงในเรื่องของท่อปัสสาวะอักเสบอีกด้วย



     ทั้งหมดนี้ยังไม่ใช่อาการแสดงโรคที่ควรได้รับการรักษาทันทีทั้งหมด มันเป็นเพียงสิ่งที่เหล่าสัตวแพทย์ต้องการให้เจ้าของหมาทั้งหลายสังเกตเห็น และรีบนำหมามาส่งให้พวกเขาเท่านั้น หมาจำนวนมากต้องทนทรมานโดยไม่จำเป็น หรือทนรับการรักษาที่มีขั้นตอนวุ่นวายเพราะได้รับการรักษาช้า อาการแสดงโรคทั้ง 7 อย่างนี้คือไกด์ไลน์ที่จะช่วยเตือนให้เจ้าของหมาทั้งหลายได้ระวัง และรับมือกับสัตว์เลี้ยงของตนอย่างเหมาะสม เพราะพวกมันบอกคุณไม่ได้ว่าพวกมันเป็นอะไร หรือพวกมันกำลังรู้สึกอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของจะให้ความสนใจกับสัญญาณเตือนของโรคที่ร้ายแรงเหล่านี้หรือไม่  เท่านั้นเอง

4417
     เพียงไม่กี่วันก่อนที่งานประจำปี Yulin Dog Meat Festival เทศกาลกินเนื้อสุนัข ของชาวจีน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยชีวิตของสุนัข 29 ตัวและแมวอีก 5 ตัว จากการถูกทรมานและรอเอาไปใช้ในงานเทศกาลกินเนื้อสุนัข



     องค์กร Humane Society International (HSI) ได้ช่วยชีวิตน้องหมาและน้องแมวออกมาออกมาได้อย่างปลอดภัย สภาพของของสุนัขแต่ล่ะตัวจะถูกยัดไว้ในกรงที้มีแต่คววามสกปรก และพบว่าสุนัขบางตัวยังมีปลอกคออีกด้วย นั่นหมายถึงการไปขโมยสุนัขที่มีเจ้าของมา

     "การปรากฏตัวของตำรวจใน Yulin ในขณะนี้ทำให้มีบรรยากาศที่ตึงเครียดมากจึงเป็นเรื่องยากในการช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้" ปีเตอร์หลี่, ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย HSI กล่าวว่าในการแถลง "การบริโภคสุนัขและแมวเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขที่มีอายุมาก และเป็นที่น่าตกใจว่าสัตว์เหล่านี้จะถูกตีให้ตายและก็นำมาบริโภค"



     แม้จะมีการประท้วงทั้งในและต่างประเทศซึ่งมีคนร่วมลงชื่อมากกว่า 11 ล้านลายเซ็น ของเทศกาล Yulin ซึ่งเริ่มเทศกาลตั้งแต่วันที่  21 มิถุนายน สัตว์เหล่านี้จะถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล



     เทศกาลนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเลย ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยเป็นการตลาดของผู้ประกอบการค้าเนื้อสุนัขที่มองหาเพื่อลู่ทางเพื่อเพิ่มยอดขายในเมือง Yulin ที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และจะจัดในเดือนมิถุนายนเป็นการสร้างความเชื่อให้ดูว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นเรื่องปกติ

     ที่น่ากลัวมากที่สุดคือวิธีการกิน มีความเชื่อว่า สัตว์ที่นำมากินนั้นต้องทำให้ตายแบบทรมานมากที่สุด เพราะมันจะทำให้เนื้อนุ่มมากขึ้นนั่นเอง เช่น การรัดคอให้ค่อยๆตาย หรือ การต้มทั้งๆที่มีชีวิต





4418
     เพียงไม่กี่วันก่อนที่งานประจำปี Yulin Dog Meat Festival เทศกาลกินเนื้อสุนัข ของชาวจีน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยชีวิตของสุนัข 29 ตัวและแมวอีก 5 ตัว จากการถูกทรมานและรอเอาไปใช้ในงานเทศกาลกินเนื้อสุนัข



     องค์กร Humane Society International (HSI) ได้ช่วยชีวิตน้องหมาและน้องแมวออกมาออกมาได้อย่างปลอดภัย สภาพของของสุนัขแต่ล่ะตัวจะถูกยัดไว้ในกรงที้มีแต่คววามสกปรก และพบว่าสุนัขบางตัวยังมีปลอกคออีกด้วย นั่นหมายถึงการไปขโมยสุนัขที่มีเจ้าของมา

     "การปรากฏตัวของตำรวจใน Yulin ในขณะนี้ทำให้มีบรรยากาศที่ตึงเครียดมากจึงเป็นเรื่องยากในการช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้" ปีเตอร์หลี่, ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย HSI กล่าวว่าในการแถลง "การบริโภคสุนัขและแมวเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขที่มีอายุมาก และเป็นที่น่าตกใจว่าสัตว์เหล่านี้จะถูกตีให้ตายและก็นำมาบริโภค"



     แม้จะมีการประท้วงทั้งในและต่างประเทศซึ่งมีคนร่วมลงชื่อมากกว่า 11 ล้านลายเซ็น ของเทศกาล Yulin ซึ่งเริ่มเทศกาลตั้งแต่วันที่  21 มิถุนายน สัตว์เหล่านี้จะถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล



     เทศกาลนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเลย ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยเป็นการตลาดของผู้ประกอบการค้าเนื้อสุนัขที่มองหาเพื่อลู่ทางเพื่อเพิ่มยอดขายในเมือง Yulin ที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และจะจัดในเดือนมิถุนายนเป็นการสร้างความเชื่อให้ดูว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นเรื่องปกติ

     ที่น่ากลัวมากที่สุดคือวิธีการกิน มีความเชื่อว่า สัตว์ที่นำมากินนั้นต้องทำให้ตายแบบทรมานมากที่สุด เพราะมันจะทำให้เนื้อนุ่มมากขึ้นนั่นเอง เช่น การรัดคอให้ค่อยๆตาย หรือ การต้มทั้งๆที่มีชีวิต





4419
     เพียงไม่กี่วันก่อนที่งานประจำปี Yulin Dog Meat Festival เทศกาลกินเนื้อสุนัข ของชาวจีน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยชีวิตของสุนัข 29 ตัวและแมวอีก 5 ตัว จากการถูกทรมานและรอเอาไปใช้ในงานเทศกาลกินเนื้อสุนัข



     องค์กร Humane Society International (HSI) ได้ช่วยชีวิตน้องหมาและน้องแมวออกมาออกมาได้อย่างปลอดภัย สภาพของของสุนัขแต่ล่ะตัวจะถูกยัดไว้ในกรงที้มีแต่คววามสกปรก และพบว่าสุนัขบางตัวยังมีปลอกคออีกด้วย นั่นหมายถึงการไปขโมยสุนัขที่มีเจ้าของมา

     "การปรากฏตัวของตำรวจใน Yulin ในขณะนี้ทำให้มีบรรยากาศที่ตึงเครียดมากจึงเป็นเรื่องยากในการช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้" ปีเตอร์หลี่, ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย HSI กล่าวว่าในการแถลง "การบริโภคสุนัขและแมวเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขที่มีอายุมาก และเป็นที่น่าตกใจว่าสัตว์เหล่านี้จะถูกตีให้ตายและก็นำมาบริโภค"



     แม้จะมีการประท้วงทั้งในและต่างประเทศซึ่งมีคนร่วมลงชื่อมากกว่า 11 ล้านลายเซ็น ของเทศกาล Yulin ซึ่งเริ่มเทศกาลตั้งแต่วันที่  21 มิถุนายน สัตว์เหล่านี้จะถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล



     เทศกาลนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเลย ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยเป็นการตลาดของผู้ประกอบการค้าเนื้อสุนัขที่มองหาเพื่อลู่ทางเพื่อเพิ่มยอดขายในเมือง Yulin ที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และจะจัดในเดือนมิถุนายนเป็นการสร้างความเชื่อให้ดูว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นเรื่องปกติ

     ที่น่ากลัวมากที่สุดคือวิธีการกิน มีความเชื่อว่า สัตว์ที่นำมากินนั้นต้องทำให้ตายแบบทรมานมากที่สุด เพราะมันจะทำให้เนื้อนุ่มมากขึ้นนั่นเอง เช่น การรัดคอให้ค่อยๆตาย หรือ การต้มทั้งๆที่มีชีวิต





4420
     เพียงไม่กี่วันก่อนที่งานประจำปี Yulin Dog Meat Festival เทศกาลกินเนื้อสุนัข ของชาวจีน เจ้าหน้าที่ได้ช่วยชีวิตของสุนัข 29 ตัวและแมวอีก 5 ตัว จากการถูกทรมานและรอเอาไปใช้ในงานเทศกาลกินเนื้อสุนัข



     องค์กร Humane Society International (HSI) ได้ช่วยชีวิตน้องหมาและน้องแมวออกมาออกมาได้อย่างปลอดภัย สภาพของของสุนัขแต่ล่ะตัวจะถูกยัดไว้ในกรงที้มีแต่คววามสกปรก และพบว่าสุนัขบางตัวยังมีปลอกคออีกด้วย นั่นหมายถึงการไปขโมยสุนัขที่มีเจ้าของมา

     "การปรากฏตัวของตำรวจใน Yulin ในขณะนี้ทำให้มีบรรยากาศที่ตึงเครียดมากจึงเป็นเรื่องยากในการช่วยชีวิตสัตว์เหล่านี้" ปีเตอร์หลี่, ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบาย HSI กล่าวว่าในการแถลง "การบริโภคสุนัขและแมวเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขที่มีอายุมาก และเป็นที่น่าตกใจว่าสัตว์เหล่านี้จะถูกตีให้ตายและก็นำมาบริโภค"



     แม้จะมีการประท้วงทั้งในและต่างประเทศซึ่งมีคนร่วมลงชื่อมากกว่า 11 ล้านลายเซ็น ของเทศกาล Yulin ซึ่งเริ่มเทศกาลตั้งแต่วันที่  21 มิถุนายน สัตว์เหล่านี้จะถูกฆ่าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อเฉลิมฉลองเทศกาล



     เทศกาลนี้ไม่ได้มีความสำคัญทางวัฒนธรรมเลย ก่อตั้งขึ้นในปี 2010 โดยเป็นการตลาดของผู้ประกอบการค้าเนื้อสุนัขที่มองหาเพื่อลู่ทางเพื่อเพิ่มยอดขายในเมือง Yulin ที่ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และจะจัดในเดือนมิถุนายนเป็นการสร้างความเชื่อให้ดูว่าการบริโภคเนื้อสุนัขเป็นเรื่องปกติ

     ที่น่ากลัวมากที่สุดคือวิธีการกิน มีความเชื่อว่า สัตว์ที่นำมากินนั้นต้องทำให้ตายแบบทรมานมากที่สุด เพราะมันจะทำให้เนื้อนุ่มมากขึ้นนั่นเอง เช่น การรัดคอให้ค่อยๆตาย หรือ การต้มทั้งๆที่มีชีวิต





4421
รู้จักโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ : หมาฉลาดแสนสวย

     ฉลาด ว่าง่าย และน่ารัก เมื่อนึกถึงศูนย์รวมความรื่นเริงในรูปแบบของหมาแล้ว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) จะไม่มีทางหลุดโผในใจคุณอย่างแน่นอน แน่นอนละว่าหมาทุกตัวมีความน่ารักในแบบของมันเอง แต่โกลเด้นก็ยังเด่นเกินใครอยู่ดี มีบางสิ่งในก้อนขนสีทองพลิ้วไสว อุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยน หางตั้งสูง และหูพับห้อยนุ่มนิ่ม ที่สามารถละลายหัวใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย


 
     หากคุณโชคดีได้เจ้าหมาน้อยน่ารักพันธุ์นี้มาเลี้ยง คุณก็แน่ใจได้เลยว่าเมื่อมันโตขึ้น โกลเด้นจะไม่มีทางโดดเด่นสะดุดตาน้อยลงอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะสง่างาม หน้าตาดี และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่โกลเด้นก็ชอบเรียงร้องความสนใจและอยากให้คุณลูบตัวมันด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอ แววตาของมันไม่เคยขาดความรักอันมั่นคงและความทุ่มเทที่มีให้กับคุณเลย จมูกและปากนิ่มๆ ของมันก็มักจะยกขึ้นยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ โกลเด้นจำนวนมากมีนิสัยที่น่ารักน่าเอ็นดูที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธมันได้ อย่างการนั่งซบขาของคนแปลกหน้าเบาๆ เพื่อร้องขอความรักและการลูบอย่างอ่อนโยน

     ความสวยงามและความน่ารักน่าเอ็นดูนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเป็นหมาโง่ทึ่มๆ เจ้ายักษ์ที่แสนอ่อนโยนเหล่านี้ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อให้ทำงาน มีความฉลาดมากพอๆ กับความอดทน มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มีการเก็บรักษาเอาไว้ที่สก็อตแลนด์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ได้เปิดเผยว่า โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว โดยเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างรีทรีฟเวอร์ขนบางสีอ่อน กับหมาโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยจุดประสงค์เริ่มแรกในการเกิดมาของพวกมันก็คือ การไปคาบเหยื่อที่อยู่ในน้ำ โดยที่ปากนุ่มๆ ของพวกมันไม่งับหรือกัดเหยื่อเหล่านั้นด้วย โกลเด้นบางตัวยังคงทำงานเป็นหมาคาบเหยื่อหรืองานที่คล้ายกันในปัจจุบัน แต่สำหรับชีวิตในเมืองแล้ว พวกมันมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำครอบครัวที่ได้รับการเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เกิดมาเพื่อทำให้คนรอบข้างมันพอใจ ยักษ์นิสัยอ่อนโยนที่มีน้ำหนักระหว่าง 30-36 กิโลกรัมเหล่านี้มีความอดทนต่อเด็กๆ สูงมาก และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสร้างรอยยิ้มให้เจ้าของ พวกมันเป็นหมาที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างมาก และเป็นหมานำทางคนตาบอดและหมาช่วยเหลือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกด้วย ความอดทนอันไม่มีที่สิ้นสุดและความแข็งแรงของพวกมันทำให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นหมาทำงานในอุดมคติ ในขณะที่หมาพันธุ์อื่นๆ อ่อนไหวมากเกินไป อยู่ไม่สุข หรือมีพลังงานมากเกินไปสำหรับความรับผิดชอบในหลายๆ งาน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะทำหน้าที่ในการให้บริการของมันด้วยความมั่นใจและไม่วอกแวก พวกมันหวังผลตอนแทนอันน้อยนิดอย่างคำชมนิดหน่อยหรือขนมชิ้นเล็กๆ เท่านั้น



     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) ที่ไม่ได้ทำงานมักจะมีความสุขอยู่กับการนอนขี้เกียจไปทั่วบ้านโดยไม่บ่นว่าอะไร ตราบเท่าที่พวกมันได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มันเป็นหมาที่ดูแลง่ายและทำตัวสมกับชื่อของมัน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไปเก็บอะไรก็ตามที่คุณปาให้พวกมันวิ่งไปเก็บกลับมา ไม่ว่าจะบนดินหรือในน้ำ เพียงแต่ว่าคุณไม่ควรคาดหวังให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เฝ้าบ้านให้คุณ พวกมันอาจจะเห่าเมื่อมีเสียงหรือเห็นสิ่งแปลกปลอมบ้าง แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะทำร้ายผู้บุกรุกบ้านของคุณด้วยน้ำลายเปียกๆ มากกว่าจะขับไล่คนเหล่านั้นอย่างดุร้าย

     หมาที่สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สมอง และนิสัยพันธุ์นี้ไม่ได้ไร้ข้อบกพร่องไปเสียทีเดียว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็เหมือนกับหมาสายพันธุ์ยอดนิยมพันธุ์อื่นๆ พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการเพาะพันธุ์อย่างไม่เหมาะสม ภูมิแพ้ผิวหนัง ปัญหาเรื่องสายตา โรคอ้วน และโรคสะโพกเลื่อน ทั้งหมดนี้คือปัญหาพบได้บ่อยในโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ก็คือ ให้พวกมันกินอาหารที่มีคุณภาพที่ช่วยให้หมาของคุณเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในทันที แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่หมาของคุณจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



     โดยมาตรฐานแล้ว ขนของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือสีเกือบบลอนด์ และสีออกแดงจนเกือบเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นสีขนของพวกมันก็หลากหลายจนน่าทึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากคุณไม่คิดจะนำหมาของคุณเข้าร่วมงานประกวดหรือโชว์ตัว นอกจากนี้ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์บางตัวก็ขนหนามากกว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของมัน ซึ่งหมายถึงการดูแลและตกแต่งขนที่มากขึ้นด้วย
การได้เป็นเจ้าของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกับหมาของคุณจะมีความผูกพันกันในทันที หมาส่วนใหญ่ต้องการการเข้าสังคมและการออกกำลังกาย โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เบื่อหน่ายสามารถทำล้ายล้างของภายในบ้านได้หายนะมากเท่าๆ กับบอร์เดอร์คอลลี่ที่กำลังเครียด การมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมันแล้ว การทิ้งโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้อยู่ตามลำพังเพียงตัวเดียวนั้นแทบเป็นไปไม่ได้

     สำหรับการฝึกรับคำสั่งนั้น ยิ่งคุณเริ่มฝึกให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เชื่อฟังได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อทั้งคุณและหมาของคุณที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณชมมันว่า “เด็กดี” เร็วขึ้นเท่านั้น และไม่ว่าคุณรักหรือให้ความสนใจกับมันมากแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็พร้อมที่จะตอบแทนให้คุณมากกว่านั้น 10 เท่า




4422
รู้จักโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ : หมาฉลาดแสนสวย

     ฉลาด ว่าง่าย และน่ารัก เมื่อนึกถึงศูนย์รวมความรื่นเริงในรูปแบบของหมาแล้ว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) จะไม่มีทางหลุดโผในใจคุณอย่างแน่นอน แน่นอนละว่าหมาทุกตัวมีความน่ารักในแบบของมันเอง แต่โกลเด้นก็ยังเด่นเกินใครอยู่ดี มีบางสิ่งในก้อนขนสีทองพลิ้วไสว อุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยน หางตั้งสูง และหูพับห้อยนุ่มนิ่ม ที่สามารถละลายหัวใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย


 
     หากคุณโชคดีได้เจ้าหมาน้อยน่ารักพันธุ์นี้มาเลี้ยง คุณก็แน่ใจได้เลยว่าเมื่อมันโตขึ้น โกลเด้นจะไม่มีทางโดดเด่นสะดุดตาน้อยลงอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะสง่างาม หน้าตาดี และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่โกลเด้นก็ชอบเรียงร้องความสนใจและอยากให้คุณลูบตัวมันด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอ แววตาของมันไม่เคยขาดความรักอันมั่นคงและความทุ่มเทที่มีให้กับคุณเลย จมูกและปากนิ่มๆ ของมันก็มักจะยกขึ้นยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ โกลเด้นจำนวนมากมีนิสัยที่น่ารักน่าเอ็นดูที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธมันได้ อย่างการนั่งซบขาของคนแปลกหน้าเบาๆ เพื่อร้องขอความรักและการลูบอย่างอ่อนโยน

     ความสวยงามและความน่ารักน่าเอ็นดูนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเป็นหมาโง่ทึ่มๆ เจ้ายักษ์ที่แสนอ่อนโยนเหล่านี้ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อให้ทำงาน มีความฉลาดมากพอๆ กับความอดทน มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มีการเก็บรักษาเอาไว้ที่สก็อตแลนด์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ได้เปิดเผยว่า โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว โดยเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างรีทรีฟเวอร์ขนบางสีอ่อน กับหมาโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยจุดประสงค์เริ่มแรกในการเกิดมาของพวกมันก็คือ การไปคาบเหยื่อที่อยู่ในน้ำ โดยที่ปากนุ่มๆ ของพวกมันไม่งับหรือกัดเหยื่อเหล่านั้นด้วย โกลเด้นบางตัวยังคงทำงานเป็นหมาคาบเหยื่อหรืองานที่คล้ายกันในปัจจุบัน แต่สำหรับชีวิตในเมืองแล้ว พวกมันมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำครอบครัวที่ได้รับการเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เกิดมาเพื่อทำให้คนรอบข้างมันพอใจ ยักษ์นิสัยอ่อนโยนที่มีน้ำหนักระหว่าง 30-36 กิโลกรัมเหล่านี้มีความอดทนต่อเด็กๆ สูงมาก และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสร้างรอยยิ้มให้เจ้าของ พวกมันเป็นหมาที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างมาก และเป็นหมานำทางคนตาบอดและหมาช่วยเหลือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกด้วย ความอดทนอันไม่มีที่สิ้นสุดและความแข็งแรงของพวกมันทำให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นหมาทำงานในอุดมคติ ในขณะที่หมาพันธุ์อื่นๆ อ่อนไหวมากเกินไป อยู่ไม่สุข หรือมีพลังงานมากเกินไปสำหรับความรับผิดชอบในหลายๆ งาน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะทำหน้าที่ในการให้บริการของมันด้วยความมั่นใจและไม่วอกแวก พวกมันหวังผลตอนแทนอันน้อยนิดอย่างคำชมนิดหน่อยหรือขนมชิ้นเล็กๆ เท่านั้น



     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) ที่ไม่ได้ทำงานมักจะมีความสุขอยู่กับการนอนขี้เกียจไปทั่วบ้านโดยไม่บ่นว่าอะไร ตราบเท่าที่พวกมันได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มันเป็นหมาที่ดูแลง่ายและทำตัวสมกับชื่อของมัน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไปเก็บอะไรก็ตามที่คุณปาให้พวกมันวิ่งไปเก็บกลับมา ไม่ว่าจะบนดินหรือในน้ำ เพียงแต่ว่าคุณไม่ควรคาดหวังให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เฝ้าบ้านให้คุณ พวกมันอาจจะเห่าเมื่อมีเสียงหรือเห็นสิ่งแปลกปลอมบ้าง แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะทำร้ายผู้บุกรุกบ้านของคุณด้วยน้ำลายเปียกๆ มากกว่าจะขับไล่คนเหล่านั้นอย่างดุร้าย

     หมาที่สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สมอง และนิสัยพันธุ์นี้ไม่ได้ไร้ข้อบกพร่องไปเสียทีเดียว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็เหมือนกับหมาสายพันธุ์ยอดนิยมพันธุ์อื่นๆ พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการเพาะพันธุ์อย่างไม่เหมาะสม ภูมิแพ้ผิวหนัง ปัญหาเรื่องสายตา โรคอ้วน และโรคสะโพกเลื่อน ทั้งหมดนี้คือปัญหาพบได้บ่อยในโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ก็คือ ให้พวกมันกินอาหารที่มีคุณภาพที่ช่วยให้หมาของคุณเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในทันที แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่หมาของคุณจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



     โดยมาตรฐานแล้ว ขนของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือสีเกือบบลอนด์ และสีออกแดงจนเกือบเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นสีขนของพวกมันก็หลากหลายจนน่าทึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากคุณไม่คิดจะนำหมาของคุณเข้าร่วมงานประกวดหรือโชว์ตัว นอกจากนี้ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์บางตัวก็ขนหนามากกว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของมัน ซึ่งหมายถึงการดูแลและตกแต่งขนที่มากขึ้นด้วย
การได้เป็นเจ้าของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกับหมาของคุณจะมีความผูกพันกันในทันที หมาส่วนใหญ่ต้องการการเข้าสังคมและการออกกำลังกาย โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เบื่อหน่ายสามารถทำล้ายล้างของภายในบ้านได้หายนะมากเท่าๆ กับบอร์เดอร์คอลลี่ที่กำลังเครียด การมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมันแล้ว การทิ้งโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้อยู่ตามลำพังเพียงตัวเดียวนั้นแทบเป็นไปไม่ได้

     สำหรับการฝึกรับคำสั่งนั้น ยิ่งคุณเริ่มฝึกให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เชื่อฟังได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อทั้งคุณและหมาของคุณที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณชมมันว่า “เด็กดี” เร็วขึ้นเท่านั้น และไม่ว่าคุณรักหรือให้ความสนใจกับมันมากแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็พร้อมที่จะตอบแทนให้คุณมากกว่านั้น 10 เท่า




4423
รู้จักโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ : หมาฉลาดแสนสวย

     ฉลาด ว่าง่าย และน่ารัก เมื่อนึกถึงศูนย์รวมความรื่นเริงในรูปแบบของหมาแล้ว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) จะไม่มีทางหลุดโผในใจคุณอย่างแน่นอน แน่นอนละว่าหมาทุกตัวมีความน่ารักในแบบของมันเอง แต่โกลเด้นก็ยังเด่นเกินใครอยู่ดี มีบางสิ่งในก้อนขนสีทองพลิ้วไสว อุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยน หางตั้งสูง และหูพับห้อยนุ่มนิ่ม ที่สามารถละลายหัวใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย


 
     หากคุณโชคดีได้เจ้าหมาน้อยน่ารักพันธุ์นี้มาเลี้ยง คุณก็แน่ใจได้เลยว่าเมื่อมันโตขึ้น โกลเด้นจะไม่มีทางโดดเด่นสะดุดตาน้อยลงอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะสง่างาม หน้าตาดี และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่โกลเด้นก็ชอบเรียงร้องความสนใจและอยากให้คุณลูบตัวมันด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอ แววตาของมันไม่เคยขาดความรักอันมั่นคงและความทุ่มเทที่มีให้กับคุณเลย จมูกและปากนิ่มๆ ของมันก็มักจะยกขึ้นยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ โกลเด้นจำนวนมากมีนิสัยที่น่ารักน่าเอ็นดูที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธมันได้ อย่างการนั่งซบขาของคนแปลกหน้าเบาๆ เพื่อร้องขอความรักและการลูบอย่างอ่อนโยน

     ความสวยงามและความน่ารักน่าเอ็นดูนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเป็นหมาโง่ทึ่มๆ เจ้ายักษ์ที่แสนอ่อนโยนเหล่านี้ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อให้ทำงาน มีความฉลาดมากพอๆ กับความอดทน มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มีการเก็บรักษาเอาไว้ที่สก็อตแลนด์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ได้เปิดเผยว่า โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว โดยเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างรีทรีฟเวอร์ขนบางสีอ่อน กับหมาโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยจุดประสงค์เริ่มแรกในการเกิดมาของพวกมันก็คือ การไปคาบเหยื่อที่อยู่ในน้ำ โดยที่ปากนุ่มๆ ของพวกมันไม่งับหรือกัดเหยื่อเหล่านั้นด้วย โกลเด้นบางตัวยังคงทำงานเป็นหมาคาบเหยื่อหรืองานที่คล้ายกันในปัจจุบัน แต่สำหรับชีวิตในเมืองแล้ว พวกมันมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำครอบครัวที่ได้รับการเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เกิดมาเพื่อทำให้คนรอบข้างมันพอใจ ยักษ์นิสัยอ่อนโยนที่มีน้ำหนักระหว่าง 30-36 กิโลกรัมเหล่านี้มีความอดทนต่อเด็กๆ สูงมาก และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสร้างรอยยิ้มให้เจ้าของ พวกมันเป็นหมาที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างมาก และเป็นหมานำทางคนตาบอดและหมาช่วยเหลือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกด้วย ความอดทนอันไม่มีที่สิ้นสุดและความแข็งแรงของพวกมันทำให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นหมาทำงานในอุดมคติ ในขณะที่หมาพันธุ์อื่นๆ อ่อนไหวมากเกินไป อยู่ไม่สุข หรือมีพลังงานมากเกินไปสำหรับความรับผิดชอบในหลายๆ งาน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะทำหน้าที่ในการให้บริการของมันด้วยความมั่นใจและไม่วอกแวก พวกมันหวังผลตอนแทนอันน้อยนิดอย่างคำชมนิดหน่อยหรือขนมชิ้นเล็กๆ เท่านั้น



     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) ที่ไม่ได้ทำงานมักจะมีความสุขอยู่กับการนอนขี้เกียจไปทั่วบ้านโดยไม่บ่นว่าอะไร ตราบเท่าที่พวกมันได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มันเป็นหมาที่ดูแลง่ายและทำตัวสมกับชื่อของมัน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไปเก็บอะไรก็ตามที่คุณปาให้พวกมันวิ่งไปเก็บกลับมา ไม่ว่าจะบนดินหรือในน้ำ เพียงแต่ว่าคุณไม่ควรคาดหวังให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เฝ้าบ้านให้คุณ พวกมันอาจจะเห่าเมื่อมีเสียงหรือเห็นสิ่งแปลกปลอมบ้าง แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะทำร้ายผู้บุกรุกบ้านของคุณด้วยน้ำลายเปียกๆ มากกว่าจะขับไล่คนเหล่านั้นอย่างดุร้าย

     หมาที่สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สมอง และนิสัยพันธุ์นี้ไม่ได้ไร้ข้อบกพร่องไปเสียทีเดียว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็เหมือนกับหมาสายพันธุ์ยอดนิยมพันธุ์อื่นๆ พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการเพาะพันธุ์อย่างไม่เหมาะสม ภูมิแพ้ผิวหนัง ปัญหาเรื่องสายตา โรคอ้วน และโรคสะโพกเลื่อน ทั้งหมดนี้คือปัญหาพบได้บ่อยในโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ก็คือ ให้พวกมันกินอาหารที่มีคุณภาพที่ช่วยให้หมาของคุณเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในทันที แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่หมาของคุณจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



     โดยมาตรฐานแล้ว ขนของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือสีเกือบบลอนด์ และสีออกแดงจนเกือบเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นสีขนของพวกมันก็หลากหลายจนน่าทึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากคุณไม่คิดจะนำหมาของคุณเข้าร่วมงานประกวดหรือโชว์ตัว นอกจากนี้ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์บางตัวก็ขนหนามากกว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของมัน ซึ่งหมายถึงการดูแลและตกแต่งขนที่มากขึ้นด้วย
การได้เป็นเจ้าของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกับหมาของคุณจะมีความผูกพันกันในทันที หมาส่วนใหญ่ต้องการการเข้าสังคมและการออกกำลังกาย โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เบื่อหน่ายสามารถทำล้ายล้างของภายในบ้านได้หายนะมากเท่าๆ กับบอร์เดอร์คอลลี่ที่กำลังเครียด การมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมันแล้ว การทิ้งโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้อยู่ตามลำพังเพียงตัวเดียวนั้นแทบเป็นไปไม่ได้

     สำหรับการฝึกรับคำสั่งนั้น ยิ่งคุณเริ่มฝึกให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เชื่อฟังได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อทั้งคุณและหมาของคุณที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณชมมันว่า “เด็กดี” เร็วขึ้นเท่านั้น และไม่ว่าคุณรักหรือให้ความสนใจกับมันมากแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็พร้อมที่จะตอบแทนให้คุณมากกว่านั้น 10 เท่า




4424
รู้จักโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ : หมาฉลาดแสนสวย

     ฉลาด ว่าง่าย และน่ารัก เมื่อนึกถึงศูนย์รวมความรื่นเริงในรูปแบบของหมาแล้ว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) จะไม่มีทางหลุดโผในใจคุณอย่างแน่นอน แน่นอนละว่าหมาทุกตัวมีความน่ารักในแบบของมันเอง แต่โกลเด้นก็ยังเด่นเกินใครอยู่ดี มีบางสิ่งในก้อนขนสีทองพลิ้วไสว อุ้งเท้าใหญ่ยักษ์ ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนโยน หางตั้งสูง และหูพับห้อยนุ่มนิ่ม ที่สามารถละลายหัวใจของทุกคนได้อย่างง่ายดาย


 
     หากคุณโชคดีได้เจ้าหมาน้อยน่ารักพันธุ์นี้มาเลี้ยง คุณก็แน่ใจได้เลยว่าเมื่อมันโตขึ้น โกลเด้นจะไม่มีทางโดดเด่นสะดุดตาน้อยลงอย่างแน่นอน แม้ว่ามันจะสง่างาม หน้าตาดี และมีความมั่นใจในตัวเอง แต่โกลเด้นก็ชอบเรียงร้องความสนใจและอยากให้คุณลูบตัวมันด้วยความเอ็นดูอยู่เสมอ แววตาของมันไม่เคยขาดความรักอันมั่นคงและความทุ่มเทที่มีให้กับคุณเลย จมูกและปากนิ่มๆ ของมันก็มักจะยกขึ้นยิ้มอย่างสดใสอยู่เสมอ โกลเด้นจำนวนมากมีนิสัยที่น่ารักน่าเอ็นดูที่ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถปฏิเสธมันได้ อย่างการนั่งซบขาของคนแปลกหน้าเบาๆ เพื่อร้องขอความรักและการลูบอย่างอ่อนโยน

     ความสวยงามและความน่ารักน่าเอ็นดูนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกมันจะเป็นหมาโง่ทึ่มๆ เจ้ายักษ์ที่แสนอ่อนโยนเหล่านี้ได้รับการเพาะพันธุ์มาเพื่อให้ทำงาน มีความฉลาดมากพอๆ กับความอดทน มีบันทึกทางประวัติศาสตร์ที่มีการเก็บรักษาเอาไว้ที่สก็อตแลนด์ตั้งแต่ช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ได้เปิดเผยว่า โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาตั้งแต่ช่วงนั้นแล้ว โดยเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างรีทรีฟเวอร์ขนบางสีอ่อน กับหมาโบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว โดยจุดประสงค์เริ่มแรกในการเกิดมาของพวกมันก็คือ การไปคาบเหยื่อที่อยู่ในน้ำ โดยที่ปากนุ่มๆ ของพวกมันไม่งับหรือกัดเหยื่อเหล่านั้นด้วย โกลเด้นบางตัวยังคงทำงานเป็นหมาคาบเหยื่อหรืองานที่คล้ายกันในปัจจุบัน แต่สำหรับชีวิตในเมืองแล้ว พวกมันมักจะเป็นสัตว์เลี้ยงประจำครอบครัวที่ได้รับการเอาอกเอาใจอย่างเต็มที่ อย่างไม่ต้องสงสัยเลย

     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) เกิดมาเพื่อทำให้คนรอบข้างมันพอใจ ยักษ์นิสัยอ่อนโยนที่มีน้ำหนักระหว่าง 30-36 กิโลกรัมเหล่านี้มีความอดทนต่อเด็กๆ สูงมาก และไม่ต้องการอะไรมากไปกว่าการสร้างรอยยิ้มให้เจ้าของ พวกมันเป็นหมาที่เชื่อฟังคำสั่งอย่างมาก และเป็นหมานำทางคนตาบอดและหมาช่วยเหลือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอีกด้วย ความอดทนอันไม่มีที่สิ้นสุดและความแข็งแรงของพวกมันทำให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เป็นหมาทำงานในอุดมคติ ในขณะที่หมาพันธุ์อื่นๆ อ่อนไหวมากเกินไป อยู่ไม่สุข หรือมีพลังงานมากเกินไปสำหรับความรับผิดชอบในหลายๆ งาน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะทำหน้าที่ในการให้บริการของมันด้วยความมั่นใจและไม่วอกแวก พวกมันหวังผลตอนแทนอันน้อยนิดอย่างคำชมนิดหน่อยหรือขนมชิ้นเล็กๆ เท่านั้น



     โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ (Golden Retriever) ที่ไม่ได้ทำงานมักจะมีความสุขอยู่กับการนอนขี้เกียจไปทั่วบ้านโดยไม่บ่นว่าอะไร ตราบเท่าที่พวกมันได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ มันเป็นหมาที่ดูแลง่ายและทำตัวสมกับชื่อของมัน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์จะไปเก็บอะไรก็ตามที่คุณปาให้พวกมันวิ่งไปเก็บกลับมา ไม่ว่าจะบนดินหรือในน้ำ เพียงแต่ว่าคุณไม่ควรคาดหวังให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เฝ้าบ้านให้คุณ พวกมันอาจจะเห่าเมื่อมีเสียงหรือเห็นสิ่งแปลกปลอมบ้าง แต่มันก็มีแนวโน้มที่จะทำร้ายผู้บุกรุกบ้านของคุณด้วยน้ำลายเปียกๆ มากกว่าจะขับไล่คนเหล่านั้นอย่างดุร้าย

     หมาที่สมบูรณ์พร้อมด้วยรูปร่างหน้าตา สมอง และนิสัยพันธุ์นี้ไม่ได้ไร้ข้อบกพร่องไปเสียทีเดียว โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็เหมือนกับหมาสายพันธุ์ยอดนิยมพันธุ์อื่นๆ พวกมันมีแนวโน้มที่จะมีปัญหาด้านสุขภาพมากมาย ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมีสาเหตุมาจากการเพาะพันธุ์อย่างไม่เหมาะสม ภูมิแพ้ผิวหนัง ปัญหาเรื่องสายตา โรคอ้วน และโรคสะโพกเลื่อน ทั้งหมดนี้คือปัญหาพบได้บ่อยในโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ ซึ่งสามารถทำให้เจ้าของต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลได้ไม่น้อยเลยทีเดียว วิธีที่ดีที่สุดในการหลีกเลี่ยงปัญหาเหล่านี้ก็คือ ให้พวกมันกินอาหารที่มีคุณภาพที่ช่วยให้หมาของคุณเติบโตขึ้นอย่างแข็งแรงที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แน่นอนว่าวิธีนี้จะทำให้คุณมีค่าใช้จ่ายเพิ่มมากขึ้นในทันที แต่มันก็คุ้มค่ากับการที่หมาของคุณจะมีความสุขและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว



     โดยมาตรฐานแล้ว ขนของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 สี คือสีเกือบบลอนด์ และสีออกแดงจนเกือบเป็นสีน้ำตาลเข้ม แต่ถึงอย่างนั้นสีขนของพวกมันก็หลากหลายจนน่าทึ่ง ซึ่งก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรหากคุณไม่คิดจะนำหมาของคุณเข้าร่วมงานประกวดหรือโชว์ตัว นอกจากนี้ โกลเด้นรีทรีฟเวอร์บางตัวก็ขนหนามากกว่าเพื่อนร่วมสายพันธุ์ของมัน ซึ่งหมายถึงการดูแลและตกแต่งขนที่มากขึ้นด้วย
การได้เป็นเจ้าของโกลเด้นรีทรีฟเวอร์นั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณกับหมาของคุณจะมีความผูกพันกันในทันที หมาส่วนใหญ่ต้องการการเข้าสังคมและการออกกำลังกาย โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ที่เบื่อหน่ายสามารถทำล้ายล้างของภายในบ้านได้หายนะมากเท่าๆ กับบอร์เดอร์คอลลี่ที่กำลังเครียด การมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับคนก็เป็นสิ่งที่สำคัญมากเช่นกัน แต่ด้วยหน้าตาที่น่ารักน่าเอ็นดูของมันแล้ว การทิ้งโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ให้อยู่ตามลำพังเพียงตัวเดียวนั้นแทบเป็นไปไม่ได้

     สำหรับการฝึกรับคำสั่งนั้น ยิ่งคุณเริ่มฝึกให้โกลเด้นรีทรีฟเวอร์เชื่อฟังได้เร็วเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลดีต่อทั้งคุณและหมาของคุณที่พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คุณชมมันว่า “เด็กดี” เร็วขึ้นเท่านั้น และไม่ว่าคุณรักหรือให้ความสนใจกับมันมากแค่ไหน โกลเด้นรีทรีฟเวอร์ก็พร้อมที่จะตอบแทนให้คุณมากกว่านั้น 10 เท่า




4425
อัพเดตข่าวหมา / 10 ภาพหมาที่ Fail สุดๆ
« เมื่อ: 22 มิ.ย. 59, 16:50:14น. »
10 ภาพหมาที่  Fail สุดๆ

มันคือ 10 ภาพที่ Fail ของน้องหมา ที่ผิดปกติจากหมาอื่นที่ควรจะเป็น เราไปดูกันเลยค่ะ ว่าตลกโปกฮาขนาดไหน

1. พนักงานคิดตัง เพิ่งเข้าทำงานใหม่ ^^



2. ระวังหมาดุ



3. เค้าป่าวทำไรน้าาา



4. เยอะไปไหมลูก


5. ยิ่งกว่าโยคะ



6. ท่านอนสุดยอดมากลูก


7. เอิ่ม เล่นเหมือนหมาตัวอื่นให้มี๊หน่อยไม่ได้เหรอ



8. เดินลงแบบธรรมดาก็ได้ลูก


9. เล่นโยนบอลกันลูก T^T



10. เข็ดไปอีกนาน