แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ขายหมา

5026
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




5027
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




5028
ในประเทศรัสเซีย มีสุนัขตัวนึงชื่อ Shavi  มันถูกรถชนและปล่อยทิ้งให้ตายโดยคนขับ และไม่มีใครสนใจมันเลย จนมีผู้หญิงผ่านมาเจอมัน เธอคนนี้ชื่อนีน่า (Nina) เธอได้ช่วยเหลือมันและเอามันกลับไปดูแลที่บ้านของเธอ



   ในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา Shavi มันเป็นหมาข้างถนนซึ่งในช่วงฤดูหนาวของรัสเซียเป็นอะไรที่หนาวสุดๆเลยนะ  มันทั้งโดนคนตีและโดนรถชน ซึ่งไม่มีใครช่วยเหลือมันเลย จากการที่โดนรถชนนี่เองทำให้มันขาหักทั้ง 2 ข้าง

   มันเกือบจะหนาวตายก่อนที่นีน่าจะมาพบกับนีน่า และเธอได้พามันไปหาสัตวแพทย์ แล้วก็พามันไปรักษาต่อที่บ้านจนสุขภาพมันดีขึ้น ซึ่งเป็นเวลากว่า 6 เดือนแล้วมันก็กลับมาเดินได้อีกครั้ง และเธอยังฝึกมันให้เข้าใจคำสั่งพื้นฐานได้ด้วยนะ สั่งยืน สั่งนั่งได้ด้วย



   Shavi เป็นหมาที่น่ารักและฉลาดมากเรียนรู้ได้เร็ว แต่มันจะกลัวคนแปลกหน้าและรถยนต์ มันใช้เวลาอยู่นานกว่าจะคุ้นเคยกับคน แม้ว่าเธอจะรักมันและให้ความอบอุ่นกับ Shavi แต่เธอก็มีปัญหาสำหรับเธอคือ อพาร์ทเม้นของเธอมีขนาดเล็กเกินไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมว 3 ตัว และน้องหมาอีก 2 ตัว และต้องทำงานเลี้ยงครอบครัว ทำให้เธอต้องตัดสินใจหาบ้านใหม่ให้ Shavi เวลาผ่านไปก็มีครอบครัวที่จะอุปการะมันซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 289 กิโลเมตร ซึ่งมันมีห้องที่ใหญ่ และมีที่วิ่งเล่นกว้างมากๆ ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ Shavi นีน่าจึงตัดสินใจให้ครอบครัวใหม่อุปการะ Shavi



   แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากที่เดินทางมาถึงที่บ้านใหม่  Shavi หายไปหลังจากที่มันขุดหลุมภายใต้รั้วแล้วหนีออกมา เจ้าของใหม่พากันตื่นตระหนกและตามหา Shavi ยังงัยก็ไม่เจอ

   เกือบสองสัปดาห์ต่อมา นีน่าเดินอยู่ตามถนน เธอตกใจกับความรู้สึกของเธอเมื่อมีสิ่งบางบางอย่างมาเกาะขาของเธอ มันเป็น Shavi !!! นีน่าร้องออกมาอย่างตกใจ เธอร้องไห้จนน้ำตาเธอไหลไม่หยุด ไม่น่าที่จะเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางจากระยะทางไกลเป็นร้อยๆกิโลเพียงเพื่อพบเธอ เมื่อเธอโน้มตัวลง Shavi กระโดดลงไปในอ้อมแขนของเธอ



     ย้อนกลับไปตอนที่ Shavi ได้บ้านใหม่ ครอบครัวของนีน่าได้ย้ายไปอยู่อพาร์ทเม้นที่ใหญ่กว่าเดิมหลายเท่าตัว
"ฉันเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่น่าตื่นตาตื่นใจของสุนัข แต่ฉันไม่เคยคิดว่าสิ่งนี้จะเกิดขึ้นกับฉัน แม้ตอนนี้ฉันแทบจะไม่อยากเชื่อว่าสุนัขตัวนี้เดินทางเป็นระยะทางที่ยาวไกลเพื่อที่จะหาเราและที่สำคัญที่สุดคือมันหาฉันเจอ " นีน่ากล่าว

     Shavi ผอมซูบลงอย่างมาก เพราะเวลาเกือบ 2 สัปดาห์ที่ Shavi หนีออกมาจากบ้านหลังใหม่ของมัน
   "แน่นอนตอนนี้เธอยังคงอยู่กับฉัน ฉันไม่เคยคิดที่จะให้เพื่อนคนนี้ออกไปอีกครั้ง สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ซื่อสัตย์ที่สุดและมีความรักที่ไม่เคยลดลงเลยมันต่างจากมนุษย์เราที่ความรักมักจะจืดจางลงไปเรื่อยๆ "

   หลังจากที่เรื่องราวของเธอถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นหลายๆคนนำเสนอเพื่อช่วยนีน่าโดยการบริจาคเงินหรือสิ่งอื่นๆที่เธอจะต้องการ แต่เธอปฏิเสธอย่างสุภาพ

"ฉันรู้สึกได้ถึงความช่วยเหลือจากทุกๆคน ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจของฉัน! แต่ฉันไม่ต้องการเงินฉันไม่ได้ทำเช่นนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน ถ้าคุณอยากที่จะช่วยฉันขอให้คุณได้ช่วยสัตว์อีกจำนวนมากที่ยังรอความช่วยเหลือจากทุกๆคน สัตว์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ มีความรัก พวกเขาต้องการความรักและการดูแลของเรา. " นีน่ากล่าว




5029
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




5030
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




5031
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




5032
Dusty  เค้าถูก Tag รูปภาพของสุนัขจรจัดที่อยู่ในฟลอริดา ใกล้ๆบ้านร้างที่โดนไฟไหม้
     Dusty ขับรถออกไปยังที่ตามภาพที่มีคน tag เค้ามาทันที แต่ที่เค้าเห็นคือบ้านที่ว่างเปล่า เขาจึงตัดสินใจที่จะเรียกมัน เค้าคิดชื่อให้มันว่า Shelly ซึ่งก็ไม่เจอมัน เค้ากลับมาหามันครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่เคยเจมันเลย Dusty จึงคิดแผนใหม่ โดยการวางกับดักแล้วเอาอาหารมาล่อมัน ซึ่งเค้าคิดว่าน่าจะได้รับความสนใจจาก Shelly





     หลังจากวันที่เค้าวางกับดัก Dusty กับไปดู Shelly อีกครั้ง ในที่สุดเค้าก็เห็น Shelly อยู่ในกรงที่เค้าทำเหยื่อเพื่อล่อมันไว้ ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือโน้มน้าวให้ Shelly คุ้นเคยกับเค้า



     Shelly  มันระมัดระวังตัวอย่างมากและมันกลัวการถูกสัมผัส แต่ Dusty รู้ว่าเขาจะได้รับการไว้วางใจจากมันถ้าเค้ามอบความรักและความอบอุ่นให้มัน และเขาพยายามกระตุ้นให้ Shelly ออกมาจากกรง

     เกือบจะทันทีที่ Shelly ได้ออกจากกรงบุคลิกภาพของมันเปลี่ยนไป จากที่มันคำราม ขู่  แต่พอมันออกมา กลับมานอนตักของ Dusty ซะงั้น
เวลาผ่านไปแปปเดียวทำให้เจ้า Shelly กลับกลายเป็นสุนัขที่แสนรู้ ให้ความวางใจ ไม่ดื้อไม่ซน ซะงั้น ^^




     เพื่อจะทำให้เจ้า Shelly มีความสุขเค้าพามันกลับมาที่บ้าน ที่มันจะมีสวนให้วิ่งเล่น มีลานขนาดใหญ่หน้าบ้าน และที่สำคัญมีอ่างอาบน้ำให้มันด้วย ^^ ซึ่งมันได้อาบน้ำเป็นครั้งแรกในชีวิตของมันด้วยนะ



     Shelly ตอนนี้มันมีความสุขอย่างมากและมันมีเพื่อนใหม่ด้วยนะ ถ้าคนทั่วไปมาเจอมันจะไม่รู้เลยว่ามันเคยเป็นสุนัขจรจัดที่อาศัยอยู่ในบ้านร้างคนเดียว




5033
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





5034
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





5035
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





5036
ทุกมื้ออาหารน้องหมา  เช่นเดียวกับน้องหมาตัวอื่นๆในบ้าน พอเอาอาหารใส่ชามของมันปุ๊บ มันจะชอบคาบอาหารของมันออกไปกินบนพรม หรือบนโซฟาที่มันชอบนอน หรือไม่ก็บนรองเท้าทำงาน คำถามที่เกิดขึ้นคือ ทำไมมันไม่กินในชามของมัน ?? หรือมันเป็นสัญชาตญาณของมัน

     "เมื่อสุนัขอยู่ในป่ามันคือผู้ล่า มันจะลากชิ้นอาหารของมันออกไปเพื่อให้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับผู้นำหรือสุนัขจ่าฝูง ""การต่อสู้จะเห็นได้ชัดที่มีความเสี่ยงมากดังนั้นสัตว์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่เป็นสมาชิกในฝูงจะคาบอาหารออกมาเพื่อหลีกเลี่ยงการทะเลาะ" ดร. จูลี่ (Dr. Julie Albright-Keck) จากมหาวิทยาลัย University of Tennessee College of Veterinary Medicine กล่าว

     แต่สิ่งที่เกี่ยวกับน้องหมาที่มีอย่างใดอย่างหนึ่งคือจะแข่งกับใครในเมื่ออยู่ที่บ้าน   ซาร่าห์วิลสันผู้เชี่ยวชาญสุนัขและผู้เขียนร่วมของหนังสือมาแล้วทั้งเก้าเล่มเกี่ยวกับสุนัข เธอบอกว่า  "นี่ดูเหมือนจะเป็นแรงผลักดันที่จะใช้อาหารของพวกเขาไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบหรือความปลอดภัยมากขึ้นที่จะกินอยู่ในความสงบ  มันจะย้ายไปยังจุดที่การรับประทานอาหารที่เงียบสงบถ้ามันรู้สึกเครียด"

     " ปกติของมนุษย์หรือสุนัขก็เหมือนกันเมื่อเจอความเครียดเราทุกคนจะพยายามออกจากสถานการณ์นั้นไปหาที่สงบ หรือที่ๆไม่กดดัน"
Jonathan Klein เจ้าของโรงเรียนการฝึกอบรมสนัขใน Los Angeles ได้ให้ข้อมูลว่า พฤติกรรมนี้ยังสามารถมองได้อีกแง่มุมนึงคือการนำอาหารนั้นไม่เก็บไว้ในที่ที่ของเราหรือเรียกอีกว่าว่ารังนั่นเอง "เปรียบเหมือนกระรอกที่เก็บอาหารไว้ในรัง ยกเว้นว่าสุนัขส่วนใหญ่ที่กินจุ มันจะกินในชามหมดเกลี้ยงทันที" ไคลน์กล่าว



     ดร. ฮอลลี  (Dr. Holly Ahlgrim) จากโรงพยาบาลสัตว์ฉุกเฉินในพอร์ตแลนด์ DoveLewis Emergency Animal Hospital กล่าวว่าหรืออีกแง่มุมนึงสุนัขของคุณมีปัญหากับชามอาหาร ถ้าคุณกำลังให้อาหารสุนัขของคุณจากชามโลหะเป็นไปได้ว่าการทำเสียงกริ๊กเสียงที่สร้างขึ้นโดยอาหารที่ถูกผลักไปรอบ ๆ หรือป้ายห้อยคออาจจะระคายเคืองกับสุนัขของคุณ พวกเขาอาจจะเคี้ยวอาหารของพวกเขาอยู่ห่างจากชามเพื่อหลีกเลี่ยงเสียง
ในกรณีที่เธอบอกว่าคุณควรพิจารณาเปลี่ยนชามที่ทำจากวัสดุที่แตกต่างกันเช่น พลาสติก

ดร. ฮอลลี  ได้เสนอวิธีแก้ปัญหานี้ไว้ 2 อย่าง คือ

1. เลื่อนชามสุนัขไปยังสถานที่ที่เขาชอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรอยู่ห่างจากสุนัขตัวอื่นเพื่อมันจะได้รู้สึกปลอดภัย
2. ลองให้อาหารตรงที่มีคนอยู่เยอะๆให้มันมีสังคมหรือสุนัขบางตัวอาจจะชอบกินตอนที่มีคนอยู่เยอะๆ
สุดท้ายนี้ตราบใดที่พฤติกรรมของสุนัขของคุณไม่ได้ก้าวร้าวหรือก่อให้เกิดอันตรายใด ๆกับใครเพียงแค่โอบกอดเค้าให้ความรักกับเค้า แค่นี้มันก็มีความสุขแล้ว





5037
     ลูกสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound คู่นึงที่พบใน Scrublands ของสเปน มันถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างอดอยาก หนึ่งในนั้นมันตาบอด  แต่แม้ในความมืดมิดของมันก็ยังมีแสงสว่างโดยพี่ชายของมันเอง (ตัวที่ตาบอดเป็นน้องสาว)



   มันอาศัยอยู่พักพิงในมาดริด ซึ่งพี่ชายของมันจะเป็นคนนำในการค้นหาอาหาร ซึ่งหลังจากการเข้ารับการช่วยเหลือพวกมันน้องสาวมันถูกนำไปรักษาที่สัตวแพทย์ท้องถิ่น มันมีอาการติดเชื้อที่ตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มันตาบอด ซึ่งต่อมาเค้าตั้งชื่อให้พี่ชายมันว่า "Pisper" แล้วน้องสาวที่ตาบอดว่า "Blinder"



   ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีคนทำ โปสเตอร์ ของ Pisper และ Blinder ที่สื่อถึงความรักของพี่น้องคู่นึงที่ไม่แยกจากกันและช่วยกันเสมอมา ทำให้มันมีชื่อเสียงและโด่งดังทันที



   ตามสถิติทุกปี ในสเปน สนัขพันธุ์ล่าเนื้อ Forlorn Greyhound จะถูกทอดทิ้งปีล่ะ 50,000 ตัว เลวร้ายยิ่งกว่าถูกทอดทิ้งนั้นสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound  จำนวนมากจะถูกฆ่าเป็นประจำ ซึ่งนิตยสาร Vice magazine ได้ขนานนามว่า " Greyhound Holocaust "(หายนะสุนัขไล่เนื้อ)

"ถ้าสุนัขมันแก่เกินไปที่จะล่าหรือมีค่าจ่ายไม่พอจนถึงต้นฤดูล่าสัตว์ต่อไปแล้ว เจ้าของสุนัขอาจเลือกที่จะทิ้งพวกมันซะ"

   บางทีมันเป็นเสียงสะท้อนของความผูกพันธ์ของพี่และน้อง ซึ่ง Nacho Paunero ได้เขียนลงในเวปไซต์ Refugio ว่า
"มันเตือนเราอีกครั้งว่ามนุษย์มีจำนวนมากที่จะเรียนรู้จากสัตว์ที่อาศัยอยู่กับเราบนโลกใบนี้และพวกเขาสมควรได้รับความเคารพและความรักของเราเช่นเดียวกับการที่มันให้ความช่วยเหลือเราในสถานการณ์ต่างๆ " และหวังว่ามันคงยังเตือนให้พวกเราทุกคนมีความรักและความจงรักภักดีแม้จะมีน้อยที่สุดของหัวใจ



5038
     ลูกสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound คู่นึงที่พบใน Scrublands ของสเปน มันถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างอดอยาก หนึ่งในนั้นมันตาบอด  แต่แม้ในความมืดมิดของมันก็ยังมีแสงสว่างโดยพี่ชายของมันเอง (ตัวที่ตาบอดเป็นน้องสาว)



   มันอาศัยอยู่พักพิงในมาดริด ซึ่งพี่ชายของมันจะเป็นคนนำในการค้นหาอาหาร ซึ่งหลังจากการเข้ารับการช่วยเหลือพวกมันน้องสาวมันถูกนำไปรักษาที่สัตวแพทย์ท้องถิ่น มันมีอาการติดเชื้อที่ตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มันตาบอด ซึ่งต่อมาเค้าตั้งชื่อให้พี่ชายมันว่า "Pisper" แล้วน้องสาวที่ตาบอดว่า "Blinder"



   ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีคนทำ โปสเตอร์ ของ Pisper และ Blinder ที่สื่อถึงความรักของพี่น้องคู่นึงที่ไม่แยกจากกันและช่วยกันเสมอมา ทำให้มันมีชื่อเสียงและโด่งดังทันที



   ตามสถิติทุกปี ในสเปน สนัขพันธุ์ล่าเนื้อ Forlorn Greyhound จะถูกทอดทิ้งปีล่ะ 50,000 ตัว เลวร้ายยิ่งกว่าถูกทอดทิ้งนั้นสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound  จำนวนมากจะถูกฆ่าเป็นประจำ ซึ่งนิตยสาร Vice magazine ได้ขนานนามว่า " Greyhound Holocaust "(หายนะสุนัขไล่เนื้อ)

"ถ้าสุนัขมันแก่เกินไปที่จะล่าหรือมีค่าจ่ายไม่พอจนถึงต้นฤดูล่าสัตว์ต่อไปแล้ว เจ้าของสุนัขอาจเลือกที่จะทิ้งพวกมันซะ"

   บางทีมันเป็นเสียงสะท้อนของความผูกพันธ์ของพี่และน้อง ซึ่ง Nacho Paunero ได้เขียนลงในเวปไซต์ Refugio ว่า
"มันเตือนเราอีกครั้งว่ามนุษย์มีจำนวนมากที่จะเรียนรู้จากสัตว์ที่อาศัยอยู่กับเราบนโลกใบนี้และพวกเขาสมควรได้รับความเคารพและความรักของเราเช่นเดียวกับการที่มันให้ความช่วยเหลือเราในสถานการณ์ต่างๆ " และหวังว่ามันคงยังเตือนให้พวกเราทุกคนมีความรักและความจงรักภักดีแม้จะมีน้อยที่สุดของหัวใจ



5039
     ลูกสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound คู่นึงที่พบใน Scrublands ของสเปน มันถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างอดอยาก หนึ่งในนั้นมันตาบอด  แต่แม้ในความมืดมิดของมันก็ยังมีแสงสว่างโดยพี่ชายของมันเอง (ตัวที่ตาบอดเป็นน้องสาว)



   มันอาศัยอยู่พักพิงในมาดริด ซึ่งพี่ชายของมันจะเป็นคนนำในการค้นหาอาหาร ซึ่งหลังจากการเข้ารับการช่วยเหลือพวกมันน้องสาวมันถูกนำไปรักษาที่สัตวแพทย์ท้องถิ่น มันมีอาการติดเชื้อที่ตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มันตาบอด ซึ่งต่อมาเค้าตั้งชื่อให้พี่ชายมันว่า "Pisper" แล้วน้องสาวที่ตาบอดว่า "Blinder"



   ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีคนทำ โปสเตอร์ ของ Pisper และ Blinder ที่สื่อถึงความรักของพี่น้องคู่นึงที่ไม่แยกจากกันและช่วยกันเสมอมา ทำให้มันมีชื่อเสียงและโด่งดังทันที



   ตามสถิติทุกปี ในสเปน สนัขพันธุ์ล่าเนื้อ Forlorn Greyhound จะถูกทอดทิ้งปีล่ะ 50,000 ตัว เลวร้ายยิ่งกว่าถูกทอดทิ้งนั้นสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound  จำนวนมากจะถูกฆ่าเป็นประจำ ซึ่งนิตยสาร Vice magazine ได้ขนานนามว่า " Greyhound Holocaust "(หายนะสุนัขไล่เนื้อ)

"ถ้าสุนัขมันแก่เกินไปที่จะล่าหรือมีค่าจ่ายไม่พอจนถึงต้นฤดูล่าสัตว์ต่อไปแล้ว เจ้าของสุนัขอาจเลือกที่จะทิ้งพวกมันซะ"

   บางทีมันเป็นเสียงสะท้อนของความผูกพันธ์ของพี่และน้อง ซึ่ง Nacho Paunero ได้เขียนลงในเวปไซต์ Refugio ว่า
"มันเตือนเราอีกครั้งว่ามนุษย์มีจำนวนมากที่จะเรียนรู้จากสัตว์ที่อาศัยอยู่กับเราบนโลกใบนี้และพวกเขาสมควรได้รับความเคารพและความรักของเราเช่นเดียวกับการที่มันให้ความช่วยเหลือเราในสถานการณ์ต่างๆ " และหวังว่ามันคงยังเตือนให้พวกเราทุกคนมีความรักและความจงรักภักดีแม้จะมีน้อยที่สุดของหัวใจ



5040
     ลูกสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound คู่นึงที่พบใน Scrublands ของสเปน มันถูกทอดทิ้งให้อยู่อย่างอดอยาก หนึ่งในนั้นมันตาบอด  แต่แม้ในความมืดมิดของมันก็ยังมีแสงสว่างโดยพี่ชายของมันเอง (ตัวที่ตาบอดเป็นน้องสาว)



   มันอาศัยอยู่พักพิงในมาดริด ซึ่งพี่ชายของมันจะเป็นคนนำในการค้นหาอาหาร ซึ่งหลังจากการเข้ารับการช่วยเหลือพวกมันน้องสาวมันถูกนำไปรักษาที่สัตวแพทย์ท้องถิ่น มันมีอาการติดเชื้อที่ตา ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มันตาบอด ซึ่งต่อมาเค้าตั้งชื่อให้พี่ชายมันว่า "Pisper" แล้วน้องสาวที่ตาบอดว่า "Blinder"



   ซึ่งหลังจากนั้น ก็ได้มีคนทำ โปสเตอร์ ของ Pisper และ Blinder ที่สื่อถึงความรักของพี่น้องคู่นึงที่ไม่แยกจากกันและช่วยกันเสมอมา ทำให้มันมีชื่อเสียงและโด่งดังทันที



   ตามสถิติทุกปี ในสเปน สนัขพันธุ์ล่าเนื้อ Forlorn Greyhound จะถูกทอดทิ้งปีล่ะ 50,000 ตัว เลวร้ายยิ่งกว่าถูกทอดทิ้งนั้นสุนัขสายพันธุ์ Forlorn Greyhound  จำนวนมากจะถูกฆ่าเป็นประจำ ซึ่งนิตยสาร Vice magazine ได้ขนานนามว่า " Greyhound Holocaust "(หายนะสุนัขไล่เนื้อ)

"ถ้าสุนัขมันแก่เกินไปที่จะล่าหรือมีค่าจ่ายไม่พอจนถึงต้นฤดูล่าสัตว์ต่อไปแล้ว เจ้าของสุนัขอาจเลือกที่จะทิ้งพวกมันซะ"

   บางทีมันเป็นเสียงสะท้อนของความผูกพันธ์ของพี่และน้อง ซึ่ง Nacho Paunero ได้เขียนลงในเวปไซต์ Refugio ว่า
"มันเตือนเราอีกครั้งว่ามนุษย์มีจำนวนมากที่จะเรียนรู้จากสัตว์ที่อาศัยอยู่กับเราบนโลกใบนี้และพวกเขาสมควรได้รับความเคารพและความรักของเราเช่นเดียวกับการที่มันให้ความช่วยเหลือเราในสถานการณ์ต่างๆ " และหวังว่ามันคงยังเตือนให้พวกเราทุกคนมีความรักและความจงรักภักดีแม้จะมีน้อยที่สุดของหัวใจ