แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ขายหมา

4666
10 น้องหมาที่เกิดมาพร้อมกับ “หิมะ”

1. ซามอยด์ (Samoyed)
ต้นกำเนิดของ ซามอยด์ (Samoyed)  มาจากไซบีเรีย ได้มีการบันทึกการค้นพบครั้งแรกของสุนัขสายพันธุ์ ซามอยด์ (Samoyed)  โดยอาศัยอยู่ในไซบีเรีย โดยชนเผ่าซามอยด์ หลายศตวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้ใช้สุนัขเหล่านี้ในการลากเลื่อนสำหรับการย้ายจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่ และใช้สุนัขเหล่านี้ไปยังพื้นที่ที่ยากลำบากในธารน้ำแข็ง ซามอยด์ (Samoyed) เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก



2. เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)
ต้นกำเนิดของ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog) มาจากวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความทนทานและสามารถปรับตัวเข้ากับประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดีมาก ส่วนมากจะใช้งานในการคุมฝูงสัตว์และเป็นสุนัขเฝ้ายามของกองทัพโรมัน โดยได้รับความนิยมมากในกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



3. เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees)
แหล่งกำเนิดของ เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) จากเอเชียกลางและฝรั่งเศส มันได้รับการตั้งชื่อนี้เพราะมันถูกค้นพบในเทือกเขา Pyrenees มันถูกนำมาใช้ในการดูแลฝูงแกะ สุนัขสายพันธุ์นี้มีขนความหนา ทำให้ช่วยปกป้องร่างกายจากสภาพอากาศหนาวเย็น สายพันธุ์เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) ถูกนำไปที่อเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1824



4. นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland)
ต้นกำเนิดของ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) อยู่ที่แคนาดาและอังกฤษ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) มีขนที่หนาทำให้มันสามารถทนต่อสภาพประเทศที่หนาวเย็นได้ดี ในประเทศแคนาดาได้ใช้งานสุนัขเหล่านี้ในการขนส่งวัตถุ โดยธรรมชาติแล้ว นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่ร่าเริง และเชื่อง แม้ว่าตัวจะใหญ่มาก แต่นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่สุภาพ รักสงบ ซื่อสัตย์



5. เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
แหล่งกำเนิดของ  เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) ในสวิสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนจะเลี้ยงไว้ดูแลบ้านในภูเขา เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) เป็นสายพันธุ์ที่ทุกคนคิดว่าสูญพันธุ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่มันกลับถูกค้นพบในปี 1995 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดย American Kennel Club.



6. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
แหล่งกำเนิดของ ไซบีเรียน อัสกี นี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน (Siberian)" ได้มาจากดินแดนไซบีเรียนั่นเอง สุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเอซคิโมสามารถพบได้ตลอดซีกโลกด้านเหนือจากไซบีเรียถึงประเทศแคนาดา, มลรัฐอะแลสกา ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาใน อลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900



7. เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard)
แหล่งกำเนิดของ เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1 พันปี โดยในสมัยนั้น มีนักบุญที่ชื่อว่า Bernard ได้ทำการไล่ต้อนพวกโจรฮังการีที่มักสร้างความเดือดร้อน ด้วยการปล้น ฆ่า แต่เส้นทางในบริเวณนั้นที่สัญจรไปมามีอันตรายและความยากลำบากในการเดินทาง เป็นอย่างมาก ทั้งอากาศที่หนาวเย็น และอันตรายจากพายุหิมะและหิมะถล่ม ทำให้ นักเดินทางที่ใช้เส้นทางดังกล่าวโดนหิมะถล่มใส่และติดค้างอยู่ นักบุญ Bernard จึงได้นำสุนัข มาช่วยเหลือและฝึกฝน เนื่องจาก ประสาทการดมกลิ่นของเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นดีมากๆสามารถค้นหานักเดินทางที่ ประสบภัยอยู่ใต้หิมะได้แม้จะอยู่ต่ำลงไปหลายฟุตก็ตาม ต่อมาผู้คนจึงได้ชื่นชมและยกย่องว่าเป็น หมานักบุญ หรือ St. Bernard และเซนต์เบอร์นาร์ด ยังเป็นสุนัขประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย



8. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
แหล่งกำเนิดของ อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute) เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของโลกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว มีถิ่นกำเนิดตามชื่อของมันนั่นก็คือ แถบอลาสก้า ได้รับการตั้งชื่อตามชาวพื้นเมือง อินนุยท์ (Innuit) ที่มีชื่อว่า มาลามิว (Mahlamuts) ผู้ที่อาสัยอยู่แถบชายฝั่งโค เซบู เซาด์ (Kot – zebue sound) ในทางตะวันตกตอนบนอลาสก้า เป็นสายพันธุ์สุนัขที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งแดนน้ำแข็ง เจ้าถิ่นแห่งความหนาวเย็นตัวจริง



9. นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)
ต้นกำเนิดของ นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)  มีถิ่นกำเนิดในประเทศนอร์เวย์ คนเลี้ยง นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ จะไว้ใช้สำหรับการล่าสัตว์ในฤดูหนาวของสแกนดิเนเวี สุนัขเหล่านี้มีความภักดีและมีความต้านทานมากในสภาพอากาศหนาวเย็น



10. โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog)
ต้นกำเนิดของ โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog) ในประเทศอังกฤษ ขนของพวกเขาจะหนาและทนสภาพอากาศหนาวเย็น พวกเขาใช้งานโดยการดูแลฝูงวัว



4667
10 น้องหมาที่เกิดมาพร้อมกับ “หิมะ”

1. ซามอยด์ (Samoyed)
ต้นกำเนิดของ ซามอยด์ (Samoyed)  มาจากไซบีเรีย ได้มีการบันทึกการค้นพบครั้งแรกของสุนัขสายพันธุ์ ซามอยด์ (Samoyed)  โดยอาศัยอยู่ในไซบีเรีย โดยชนเผ่าซามอยด์ หลายศตวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้ใช้สุนัขเหล่านี้ในการลากเลื่อนสำหรับการย้ายจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่ และใช้สุนัขเหล่านี้ไปยังพื้นที่ที่ยากลำบากในธารน้ำแข็ง ซามอยด์ (Samoyed) เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก



2. เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)
ต้นกำเนิดของ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog) มาจากวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความทนทานและสามารถปรับตัวเข้ากับประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดีมาก ส่วนมากจะใช้งานในการคุมฝูงสัตว์และเป็นสุนัขเฝ้ายามของกองทัพโรมัน โดยได้รับความนิยมมากในกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



3. เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees)
แหล่งกำเนิดของ เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) จากเอเชียกลางและฝรั่งเศส มันได้รับการตั้งชื่อนี้เพราะมันถูกค้นพบในเทือกเขา Pyrenees มันถูกนำมาใช้ในการดูแลฝูงแกะ สุนัขสายพันธุ์นี้มีขนความหนา ทำให้ช่วยปกป้องร่างกายจากสภาพอากาศหนาวเย็น สายพันธุ์เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) ถูกนำไปที่อเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1824



4. นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland)
ต้นกำเนิดของ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) อยู่ที่แคนาดาและอังกฤษ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) มีขนที่หนาทำให้มันสามารถทนต่อสภาพประเทศที่หนาวเย็นได้ดี ในประเทศแคนาดาได้ใช้งานสุนัขเหล่านี้ในการขนส่งวัตถุ โดยธรรมชาติแล้ว นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่ร่าเริง และเชื่อง แม้ว่าตัวจะใหญ่มาก แต่นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่สุภาพ รักสงบ ซื่อสัตย์



5. เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
แหล่งกำเนิดของ  เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) ในสวิสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนจะเลี้ยงไว้ดูแลบ้านในภูเขา เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) เป็นสายพันธุ์ที่ทุกคนคิดว่าสูญพันธุ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่มันกลับถูกค้นพบในปี 1995 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดย American Kennel Club.



6. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
แหล่งกำเนิดของ ไซบีเรียน อัสกี นี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน (Siberian)" ได้มาจากดินแดนไซบีเรียนั่นเอง สุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเอซคิโมสามารถพบได้ตลอดซีกโลกด้านเหนือจากไซบีเรียถึงประเทศแคนาดา, มลรัฐอะแลสกา ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาใน อลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900



7. เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard)
แหล่งกำเนิดของ เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1 พันปี โดยในสมัยนั้น มีนักบุญที่ชื่อว่า Bernard ได้ทำการไล่ต้อนพวกโจรฮังการีที่มักสร้างความเดือดร้อน ด้วยการปล้น ฆ่า แต่เส้นทางในบริเวณนั้นที่สัญจรไปมามีอันตรายและความยากลำบากในการเดินทาง เป็นอย่างมาก ทั้งอากาศที่หนาวเย็น และอันตรายจากพายุหิมะและหิมะถล่ม ทำให้ นักเดินทางที่ใช้เส้นทางดังกล่าวโดนหิมะถล่มใส่และติดค้างอยู่ นักบุญ Bernard จึงได้นำสุนัข มาช่วยเหลือและฝึกฝน เนื่องจาก ประสาทการดมกลิ่นของเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นดีมากๆสามารถค้นหานักเดินทางที่ ประสบภัยอยู่ใต้หิมะได้แม้จะอยู่ต่ำลงไปหลายฟุตก็ตาม ต่อมาผู้คนจึงได้ชื่นชมและยกย่องว่าเป็น หมานักบุญ หรือ St. Bernard และเซนต์เบอร์นาร์ด ยังเป็นสุนัขประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย



8. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
แหล่งกำเนิดของ อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute) เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของโลกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว มีถิ่นกำเนิดตามชื่อของมันนั่นก็คือ แถบอลาสก้า ได้รับการตั้งชื่อตามชาวพื้นเมือง อินนุยท์ (Innuit) ที่มีชื่อว่า มาลามิว (Mahlamuts) ผู้ที่อาสัยอยู่แถบชายฝั่งโค เซบู เซาด์ (Kot – zebue sound) ในทางตะวันตกตอนบนอลาสก้า เป็นสายพันธุ์สุนัขที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งแดนน้ำแข็ง เจ้าถิ่นแห่งความหนาวเย็นตัวจริง



9. นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)
ต้นกำเนิดของ นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)  มีถิ่นกำเนิดในประเทศนอร์เวย์ คนเลี้ยง นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ จะไว้ใช้สำหรับการล่าสัตว์ในฤดูหนาวของสแกนดิเนเวี สุนัขเหล่านี้มีความภักดีและมีความต้านทานมากในสภาพอากาศหนาวเย็น



10. โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog)
ต้นกำเนิดของ โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog) ในประเทศอังกฤษ ขนของพวกเขาจะหนาและทนสภาพอากาศหนาวเย็น พวกเขาใช้งานโดยการดูแลฝูงวัว



4668
10 น้องหมาที่เกิดมาพร้อมกับ “หิมะ”

1. ซามอยด์ (Samoyed)
ต้นกำเนิดของ ซามอยด์ (Samoyed)  มาจากไซบีเรีย ได้มีการบันทึกการค้นพบครั้งแรกของสุนัขสายพันธุ์ ซามอยด์ (Samoyed)  โดยอาศัยอยู่ในไซบีเรีย โดยชนเผ่าซามอยด์ หลายศตวรรษที่ผ่านมา พวกเขาได้ใช้สุนัขเหล่านี้ในการลากเลื่อนสำหรับการย้ายจากสถานที่หนึ่งไปยังอีกที่ และใช้สุนัขเหล่านี้ไปยังพื้นที่ที่ยากลำบากในธารน้ำแข็ง ซามอยด์ (Samoyed) เป็นสายพันธุ์สุนัขใช้งานที่เก่าแก่ มีเชื้อสายใกล้กับสุนัขพื้นเมือง ซึ่งการผสมพันธุ์ร่วมกับหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก



2. เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog)
ต้นกำเนิดของ เบอร์นีส เมาน์เทนด็อก (Bernese Mountain Dog) มาจากวิตเซอร์แลนด์ พวกเขาเป็นสุนัขที่มีความทนทานและสามารถปรับตัวเข้ากับประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นได้ดีมาก ส่วนมากจะใช้งานในการคุมฝูงสัตว์และเป็นสุนัขเฝ้ายามของกองทัพโรมัน โดยได้รับความนิยมมากในกรุงเบิร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์



3. เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees)
แหล่งกำเนิดของ เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) จากเอเชียกลางและฝรั่งเศส มันได้รับการตั้งชื่อนี้เพราะมันถูกค้นพบในเทือกเขา Pyrenees มันถูกนำมาใช้ในการดูแลฝูงแกะ สุนัขสายพันธุ์นี้มีขนความหนา ทำให้ช่วยปกป้องร่างกายจากสภาพอากาศหนาวเย็น สายพันธุ์เกรท ไพรีนีส (Great Pyrenees) ถูกนำไปที่อเมริกาครั้งแรกเมื่อปี 1824



4. นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland)
ต้นกำเนิดของ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) อยู่ที่แคนาดาและอังกฤษ นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) มีขนที่หนาทำให้มันสามารถทนต่อสภาพประเทศที่หนาวเย็นได้ดี ในประเทศแคนาดาได้ใช้งานสุนัขเหล่านี้ในการขนส่งวัตถุ โดยธรรมชาติแล้ว นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่ร่าเริง และเชื่อง แม้ว่าตัวจะใหญ่มาก แต่นิวฟาวด์แลนด์ (Newfoundland) เป็นสุนัขที่สุภาพ รักสงบ ซื่อสัตย์



5. เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs)
แหล่งกำเนิดของ  เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) ในสวิสวิตเซอร์แลนด์ ผู้คนจะเลี้ยงไว้ดูแลบ้านในภูเขา เกรทเทอร์ สวิสส์ เมาน์เทนด๊อก (Greater Swiss Mountain Dogs) เป็นสายพันธุ์ที่ทุกคนคิดว่าสูญพันธุ์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 แต่มันกลับถูกค้นพบในปี 1995 และได้รับการยอมรับอย่างเป็นทางการโดย American Kennel Club.



6. ไซบีเรียน ฮัสกี้ (Siberian Husky)
แหล่งกำเนิดของ ไซบีเรียน อัสกี นี้มีต้นกำเนิดในตะวันออกของไซบีเรีย คำว่า “ฮัสกี้” ได้มาจากชื่อที่ใช้เรียกชาวอินนูอิต(Inuit) ส่วนคำว่า "ไซบีเรียน (Siberian)" ได้มาจากดินแดนไซบีเรียนั่นเอง สุนัขที่สืบเชื้อสายมาจากสุนัขเอซคิโมสามารถพบได้ตลอดซีกโลกด้านเหนือจากไซบีเรียถึงประเทศแคนาดา, มลรัฐอะแลสกา ต่อมาได้ถูกนำเข้ามาใน อลาสกาและแพร่พันธุ์เข้าสู่สหรัฐอเมริกาและประเทศแคนาดา จนพัฒนามาเป็นสุนัขลากเลื่อนเมื่อประมาณ ค.ศ.1900



7. เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard)
แหล่งกำเนิดของ เซนต์เบอร์นาร์ด (St. Bernard) มาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เซนต์เบอร์นาร์ดเป็นสุนัขที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานกว่า 1 พันปี โดยในสมัยนั้น มีนักบุญที่ชื่อว่า Bernard ได้ทำการไล่ต้อนพวกโจรฮังการีที่มักสร้างความเดือดร้อน ด้วยการปล้น ฆ่า แต่เส้นทางในบริเวณนั้นที่สัญจรไปมามีอันตรายและความยากลำบากในการเดินทาง เป็นอย่างมาก ทั้งอากาศที่หนาวเย็น และอันตรายจากพายุหิมะและหิมะถล่ม ทำให้ นักเดินทางที่ใช้เส้นทางดังกล่าวโดนหิมะถล่มใส่และติดค้างอยู่ นักบุญ Bernard จึงได้นำสุนัข มาช่วยเหลือและฝึกฝน เนื่องจาก ประสาทการดมกลิ่นของเซนต์เบอร์นาร์ดนั้นดีมากๆสามารถค้นหานักเดินทางที่ ประสบภัยอยู่ใต้หิมะได้แม้จะอยู่ต่ำลงไปหลายฟุตก็ตาม ต่อมาผู้คนจึงได้ชื่นชมและยกย่องว่าเป็น หมานักบุญ หรือ St. Bernard และเซนต์เบอร์นาร์ด ยังเป็นสุนัขประจำชาติสวิตเซอร์แลนด์อีกด้วย



8. อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute)
แหล่งกำเนิดของ อลาสกัน มาลามิวท์ (Alaskan Malamute) เป็นสายพันธุ์เก่าแก่ที่สุดของโลกสายพันธุ์หนึ่งเลยทีเดียว มีถิ่นกำเนิดตามชื่อของมันนั่นก็คือ แถบอลาสก้า ได้รับการตั้งชื่อตามชาวพื้นเมือง อินนุยท์ (Innuit) ที่มีชื่อว่า มาลามิว (Mahlamuts) ผู้ที่อาสัยอยู่แถบชายฝั่งโค เซบู เซาด์ (Kot – zebue sound) ในทางตะวันตกตอนบนอลาสก้า เป็นสายพันธุ์สุนัขที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งแดนน้ำแข็ง เจ้าถิ่นแห่งความหนาวเย็นตัวจริง



9. นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)
ต้นกำเนิดของ นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ (Norwegian elkhound)  มีถิ่นกำเนิดในประเทศนอร์เวย์ คนเลี้ยง นอร์วีเจียนเอลก์ฮาวด์ จะไว้ใช้สำหรับการล่าสัตว์ในฤดูหนาวของสแกนดิเนเวี สุนัขเหล่านี้มีความภักดีและมีความต้านทานมากในสภาพอากาศหนาวเย็น



10. โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog)
ต้นกำเนิดของ โอลด์อิงลิชชีปด็อก (Old English Sheepdog) ในประเทศอังกฤษ ขนของพวกเขาจะหนาและทนสภาพอากาศหนาวเย็น พวกเขาใช้งานโดยการดูแลฝูงวัว



4669
ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ เมื่อหมาของคุณไม่อยากอยู่ตัวเดียว
สำหรับหมาหรือสัตว์เลี้ยงบางตัวที่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากๆ นั้น การต้องอยู่ตามลำพังสามารถทำให้มันทรมานและมีพฤติกรรมที่สร้างความยุ่งยากให้คุณได้ แม้ว่าวิธีแก้จะไม่ง่ายนัก แต่ก็มีหลักพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้หมาของคุณอยู่ตัวเดียวได้อย่างสบายใจ



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของคืออะไร
หมาที่ชอบเห่า ทำลายข้าวของในบ้าน หรือแสดงความหงุดหงิดไม่พอใจก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน มักเป็นหมาที่ป่วยด้วยความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ บางตัวอาจไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน แต่ทำให้บ้านของคุณได้รับความเสียหาย แม้ว่ามันจะผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม หมาบางตัวที่เห่าเสียงดังตลอดเวลาจนทำให้เพื่อนบ้านรำคาญ ก็อาจมีสาเหตุมาจากความหดหู่และความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้เช่นกัน



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของเกิดจากอะไร
มีการสันนิษฐานกันว่า ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในยีน ดังนั้น แม้ว่าหมาของคุณจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีการเข้าสังคมอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังสามารถเกิดความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้ หมาที่ติดเจ้าของมากเป็นพิเศษและแทบจะไม่ต้องอยู่ตามลำพังเลยอาจมีอาการนี้ขั้นรุนแรง หากไม่เคยเรียนรู้เลยว่าต้องอยู่ตามลำพังอย่างไร
อย่าลืมว่า โดยพื้นฐานแล้วหมาเป็นสัตว์ฝูงที่ต้องการการเข้าสังคม มันไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ตามลำพังระหว่างที่คุณออกไปทำงาน หมาชอบอยู่เป็นฝูงโดยธรรมชาติ ดังนั้น วิถีชีวิตของหมายุคปัจจุบันจึงเรียกได้ว่าค่อนข้างผิดปกติ



จะรู้ได้อย่างไรว่าหมาของคุณมีอาการนี้หรือไม่
หากหมาของคุณเริ่มร้องคร่ำครวญ เดินตามคุณตลอดเวลา หรือเดินวนไปมาด้วยความกระวนกระวายเมื่อคุณทำท่าว่าจะออกจากบ้าน นั่นแปลว่าหมาของคุณไม่สบายใจที่คุณจะออกไปข้างนอก เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าข้าวของในบ้านเสียหาย หรือถูกกัดแทะ ถ้าอย่างนั้นหมาของคุณก็อาจมีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ ถ้าเพื่อนบ้านของคุณบอกว่าหมาของคุณเห่าหอนคร่ำครวญระหว่างที่คุณไม่อยู่ นี่ก็เป็นอาการบ่งชี้ว่าหมาของคุณกำลังเครียดและเกิดความกังวลได้เช่นกัน

การรักษาความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของในระดับเบา การใส่เสื้อให้หมาจะใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะกับหมาที่ชอบมานั่งใกล้ๆ หรือนั่งซบคุณ การทิ้งขนมขบเคี้ยวไว้ให้ก่อนออกจากบ้านก็สามารถช่วยได้เช่นกัน การได้กัดแทะจะช่วยลดความเครียดให้หมาได้
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของขั้นเรื้อรัง และมีทีท่าว่าอาการจะแย่ลงเรื่อยๆ หมาของคุณจะต้องการการรักษาอย่างเป็นทางการจากสัตวแพทย์ โดยการรักษานี้จะเน้นไปที่การใช้ยาช่วยลดความกระวนกระวาย และปรับให้สารเคมีในสมองกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งการรักษาในขั้นนี้ต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากสัตวแพทย์

ความกังวลที่เกิดขึ้นก่อนแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่เพิ่งเริ่มแสดงความกังวลก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของคุณเองสามารถช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ เช่น ถ้าหมาของคุณเริ่มเดินวนไปมาด้วยความกังวลเมื่อคุณหยิบกระเป๋าและกุญแจเตรียมออกจากบ้าน ให้คุณเดินกลับมานั่งในบ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกทันที การปรับการแสดงออกของตัวคุณเองให้ไม่ซ้ำกัน จะช่วยทำให้หมาคาดเดาพฤติกรรมของคุณได้น้อยลง
ระหว่างช่วงปรับพฤติกรรมให้หมาอยู่ตามลำพังได้ การไม่กระตุ้นให้เกิดความกังวลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยอาจลองใช้วิธีต่อไปนี้
-   หาคนอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านที่ว่างมาอยู่เป็นเพื่อนหมา
-   ฝากหมาไว้กับร้านหรือคลินิกที่รับฝากเลี้ยงหมา
-   หาเพื่อนเล่นให้หมาของคุณ อาจจะเป็นหมาตัวอื่นที่เล่นกับหมาของคุณเป็นประจำเมื่อคุณพามันไปเดินเล่น
-   รับหมามาเลี้ยงเพิ่ม

การฝึกให้อยู่ในกรง
ในบางกรณี สามารถฝึกหมาให้อยู่ในกรงสำหรับขนย้าย และให้กรงนั้นกลายเป็นที่ๆ ทันสามารถเข้าไปหลบภัยได้อย่างสบายใจ คุณอาจจะใช้ของเล่นหรือขนมที่หมาชอบเพื่อหลอกล่อให้มันเข้าไปอยู่ในกรง อย่าลืมเปิดประตูกรงทิ้งไว้ด้วย คอยให้รางวัลหรือชมเมื่อมันสามารถอยู่ในนั้นได้อย่างสงบ อาจต้องใช้เวลานานพอควรก่อนที่หมาจะชินกับกรง และในบางครั้ง การให้หมาอยู่ในกรงก็ทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน

4670
ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ เมื่อหมาของคุณไม่อยากอยู่ตัวเดียว
สำหรับหมาหรือสัตว์เลี้ยงบางตัวที่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากๆ นั้น การต้องอยู่ตามลำพังสามารถทำให้มันทรมานและมีพฤติกรรมที่สร้างความยุ่งยากให้คุณได้ แม้ว่าวิธีแก้จะไม่ง่ายนัก แต่ก็มีหลักพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้หมาของคุณอยู่ตัวเดียวได้อย่างสบายใจ



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของคืออะไร
หมาที่ชอบเห่า ทำลายข้าวของในบ้าน หรือแสดงความหงุดหงิดไม่พอใจก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน มักเป็นหมาที่ป่วยด้วยความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ บางตัวอาจไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน แต่ทำให้บ้านของคุณได้รับความเสียหาย แม้ว่ามันจะผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม หมาบางตัวที่เห่าเสียงดังตลอดเวลาจนทำให้เพื่อนบ้านรำคาญ ก็อาจมีสาเหตุมาจากความหดหู่และความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้เช่นกัน



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของเกิดจากอะไร
มีการสันนิษฐานกันว่า ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในยีน ดังนั้น แม้ว่าหมาของคุณจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีการเข้าสังคมอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังสามารถเกิดความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้ หมาที่ติดเจ้าของมากเป็นพิเศษและแทบจะไม่ต้องอยู่ตามลำพังเลยอาจมีอาการนี้ขั้นรุนแรง หากไม่เคยเรียนรู้เลยว่าต้องอยู่ตามลำพังอย่างไร
อย่าลืมว่า โดยพื้นฐานแล้วหมาเป็นสัตว์ฝูงที่ต้องการการเข้าสังคม มันไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ตามลำพังระหว่างที่คุณออกไปทำงาน หมาชอบอยู่เป็นฝูงโดยธรรมชาติ ดังนั้น วิถีชีวิตของหมายุคปัจจุบันจึงเรียกได้ว่าค่อนข้างผิดปกติ



จะรู้ได้อย่างไรว่าหมาของคุณมีอาการนี้หรือไม่
หากหมาของคุณเริ่มร้องคร่ำครวญ เดินตามคุณตลอดเวลา หรือเดินวนไปมาด้วยความกระวนกระวายเมื่อคุณทำท่าว่าจะออกจากบ้าน นั่นแปลว่าหมาของคุณไม่สบายใจที่คุณจะออกไปข้างนอก เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าข้าวของในบ้านเสียหาย หรือถูกกัดแทะ ถ้าอย่างนั้นหมาของคุณก็อาจมีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ ถ้าเพื่อนบ้านของคุณบอกว่าหมาของคุณเห่าหอนคร่ำครวญระหว่างที่คุณไม่อยู่ นี่ก็เป็นอาการบ่งชี้ว่าหมาของคุณกำลังเครียดและเกิดความกังวลได้เช่นกัน

การรักษาความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของในระดับเบา การใส่เสื้อให้หมาจะใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะกับหมาที่ชอบมานั่งใกล้ๆ หรือนั่งซบคุณ การทิ้งขนมขบเคี้ยวไว้ให้ก่อนออกจากบ้านก็สามารถช่วยได้เช่นกัน การได้กัดแทะจะช่วยลดความเครียดให้หมาได้
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของขั้นเรื้อรัง และมีทีท่าว่าอาการจะแย่ลงเรื่อยๆ หมาของคุณจะต้องการการรักษาอย่างเป็นทางการจากสัตวแพทย์ โดยการรักษานี้จะเน้นไปที่การใช้ยาช่วยลดความกระวนกระวาย และปรับให้สารเคมีในสมองกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งการรักษาในขั้นนี้ต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากสัตวแพทย์

ความกังวลที่เกิดขึ้นก่อนแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่เพิ่งเริ่มแสดงความกังวลก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของคุณเองสามารถช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ เช่น ถ้าหมาของคุณเริ่มเดินวนไปมาด้วยความกังวลเมื่อคุณหยิบกระเป๋าและกุญแจเตรียมออกจากบ้าน ให้คุณเดินกลับมานั่งในบ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกทันที การปรับการแสดงออกของตัวคุณเองให้ไม่ซ้ำกัน จะช่วยทำให้หมาคาดเดาพฤติกรรมของคุณได้น้อยลง
ระหว่างช่วงปรับพฤติกรรมให้หมาอยู่ตามลำพังได้ การไม่กระตุ้นให้เกิดความกังวลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยอาจลองใช้วิธีต่อไปนี้
-   หาคนอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านที่ว่างมาอยู่เป็นเพื่อนหมา
-   ฝากหมาไว้กับร้านหรือคลินิกที่รับฝากเลี้ยงหมา
-   หาเพื่อนเล่นให้หมาของคุณ อาจจะเป็นหมาตัวอื่นที่เล่นกับหมาของคุณเป็นประจำเมื่อคุณพามันไปเดินเล่น
-   รับหมามาเลี้ยงเพิ่ม

การฝึกให้อยู่ในกรง
ในบางกรณี สามารถฝึกหมาให้อยู่ในกรงสำหรับขนย้าย และให้กรงนั้นกลายเป็นที่ๆ ทันสามารถเข้าไปหลบภัยได้อย่างสบายใจ คุณอาจจะใช้ของเล่นหรือขนมที่หมาชอบเพื่อหลอกล่อให้มันเข้าไปอยู่ในกรง อย่าลืมเปิดประตูกรงทิ้งไว้ด้วย คอยให้รางวัลหรือชมเมื่อมันสามารถอยู่ในนั้นได้อย่างสงบ อาจต้องใช้เวลานานพอควรก่อนที่หมาจะชินกับกรง และในบางครั้ง การให้หมาอยู่ในกรงก็ทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน

4671
ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ เมื่อหมาของคุณไม่อยากอยู่ตัวเดียว
สำหรับหมาหรือสัตว์เลี้ยงบางตัวที่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากๆ นั้น การต้องอยู่ตามลำพังสามารถทำให้มันทรมานและมีพฤติกรรมที่สร้างความยุ่งยากให้คุณได้ แม้ว่าวิธีแก้จะไม่ง่ายนัก แต่ก็มีหลักพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้หมาของคุณอยู่ตัวเดียวได้อย่างสบายใจ



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของคืออะไร
หมาที่ชอบเห่า ทำลายข้าวของในบ้าน หรือแสดงความหงุดหงิดไม่พอใจก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน มักเป็นหมาที่ป่วยด้วยความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ บางตัวอาจไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน แต่ทำให้บ้านของคุณได้รับความเสียหาย แม้ว่ามันจะผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม หมาบางตัวที่เห่าเสียงดังตลอดเวลาจนทำให้เพื่อนบ้านรำคาญ ก็อาจมีสาเหตุมาจากความหดหู่และความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้เช่นกัน



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของเกิดจากอะไร
มีการสันนิษฐานกันว่า ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในยีน ดังนั้น แม้ว่าหมาของคุณจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีการเข้าสังคมอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังสามารถเกิดความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้ หมาที่ติดเจ้าของมากเป็นพิเศษและแทบจะไม่ต้องอยู่ตามลำพังเลยอาจมีอาการนี้ขั้นรุนแรง หากไม่เคยเรียนรู้เลยว่าต้องอยู่ตามลำพังอย่างไร
อย่าลืมว่า โดยพื้นฐานแล้วหมาเป็นสัตว์ฝูงที่ต้องการการเข้าสังคม มันไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ตามลำพังระหว่างที่คุณออกไปทำงาน หมาชอบอยู่เป็นฝูงโดยธรรมชาติ ดังนั้น วิถีชีวิตของหมายุคปัจจุบันจึงเรียกได้ว่าค่อนข้างผิดปกติ



จะรู้ได้อย่างไรว่าหมาของคุณมีอาการนี้หรือไม่
หากหมาของคุณเริ่มร้องคร่ำครวญ เดินตามคุณตลอดเวลา หรือเดินวนไปมาด้วยความกระวนกระวายเมื่อคุณทำท่าว่าจะออกจากบ้าน นั่นแปลว่าหมาของคุณไม่สบายใจที่คุณจะออกไปข้างนอก เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าข้าวของในบ้านเสียหาย หรือถูกกัดแทะ ถ้าอย่างนั้นหมาของคุณก็อาจมีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ ถ้าเพื่อนบ้านของคุณบอกว่าหมาของคุณเห่าหอนคร่ำครวญระหว่างที่คุณไม่อยู่ นี่ก็เป็นอาการบ่งชี้ว่าหมาของคุณกำลังเครียดและเกิดความกังวลได้เช่นกัน

การรักษาความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของในระดับเบา การใส่เสื้อให้หมาจะใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะกับหมาที่ชอบมานั่งใกล้ๆ หรือนั่งซบคุณ การทิ้งขนมขบเคี้ยวไว้ให้ก่อนออกจากบ้านก็สามารถช่วยได้เช่นกัน การได้กัดแทะจะช่วยลดความเครียดให้หมาได้
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของขั้นเรื้อรัง และมีทีท่าว่าอาการจะแย่ลงเรื่อยๆ หมาของคุณจะต้องการการรักษาอย่างเป็นทางการจากสัตวแพทย์ โดยการรักษานี้จะเน้นไปที่การใช้ยาช่วยลดความกระวนกระวาย และปรับให้สารเคมีในสมองกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งการรักษาในขั้นนี้ต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากสัตวแพทย์

ความกังวลที่เกิดขึ้นก่อนแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่เพิ่งเริ่มแสดงความกังวลก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของคุณเองสามารถช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ เช่น ถ้าหมาของคุณเริ่มเดินวนไปมาด้วยความกังวลเมื่อคุณหยิบกระเป๋าและกุญแจเตรียมออกจากบ้าน ให้คุณเดินกลับมานั่งในบ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกทันที การปรับการแสดงออกของตัวคุณเองให้ไม่ซ้ำกัน จะช่วยทำให้หมาคาดเดาพฤติกรรมของคุณได้น้อยลง
ระหว่างช่วงปรับพฤติกรรมให้หมาอยู่ตามลำพังได้ การไม่กระตุ้นให้เกิดความกังวลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยอาจลองใช้วิธีต่อไปนี้
-   หาคนอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านที่ว่างมาอยู่เป็นเพื่อนหมา
-   ฝากหมาไว้กับร้านหรือคลินิกที่รับฝากเลี้ยงหมา
-   หาเพื่อนเล่นให้หมาของคุณ อาจจะเป็นหมาตัวอื่นที่เล่นกับหมาของคุณเป็นประจำเมื่อคุณพามันไปเดินเล่น
-   รับหมามาเลี้ยงเพิ่ม

การฝึกให้อยู่ในกรง
ในบางกรณี สามารถฝึกหมาให้อยู่ในกรงสำหรับขนย้าย และให้กรงนั้นกลายเป็นที่ๆ ทันสามารถเข้าไปหลบภัยได้อย่างสบายใจ คุณอาจจะใช้ของเล่นหรือขนมที่หมาชอบเพื่อหลอกล่อให้มันเข้าไปอยู่ในกรง อย่าลืมเปิดประตูกรงทิ้งไว้ด้วย คอยให้รางวัลหรือชมเมื่อมันสามารถอยู่ในนั้นได้อย่างสงบ อาจต้องใช้เวลานานพอควรก่อนที่หมาจะชินกับกรง และในบางครั้ง การให้หมาอยู่ในกรงก็ทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน

4672
ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ เมื่อหมาของคุณไม่อยากอยู่ตัวเดียว
สำหรับหมาหรือสัตว์เลี้ยงบางตัวที่ใกล้ชิดกับเจ้าของมากๆ นั้น การต้องอยู่ตามลำพังสามารถทำให้มันทรมานและมีพฤติกรรมที่สร้างความยุ่งยากให้คุณได้ แม้ว่าวิธีแก้จะไม่ง่ายนัก แต่ก็มีหลักพื้นฐานบางอย่างที่ทำให้หมาของคุณอยู่ตัวเดียวได้อย่างสบายใจ



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของคืออะไร
หมาที่ชอบเห่า ทำลายข้าวของในบ้าน หรือแสดงความหงุดหงิดไม่พอใจก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน มักเป็นหมาที่ป่วยด้วยความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ บางตัวอาจไม่แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจน แต่ทำให้บ้านของคุณได้รับความเสียหาย แม้ว่ามันจะผ่านการฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม หมาบางตัวที่เห่าเสียงดังตลอดเวลาจนทำให้เพื่อนบ้านรำคาญ ก็อาจมีสาเหตุมาจากความหดหู่และความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้เช่นกัน



ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของเกิดจากอะไร
มีการสันนิษฐานกันว่า ความกังวลจากการแยกจากเจ้าของมีสาเหตุมาจากความผิดปกติในยีน ดังนั้น แม้ว่าหมาของคุณจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดี และมีการเข้าสังคมอย่างสม่ำเสมอ มันก็ยังสามารถเกิดความกังวลจากการแยกจากเจ้าของได้ หมาที่ติดเจ้าของมากเป็นพิเศษและแทบจะไม่ต้องอยู่ตามลำพังเลยอาจมีอาการนี้ขั้นรุนแรง หากไม่เคยเรียนรู้เลยว่าต้องอยู่ตามลำพังอย่างไร
อย่าลืมว่า โดยพื้นฐานแล้วหมาเป็นสัตว์ฝูงที่ต้องการการเข้าสังคม มันไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ตามลำพังระหว่างที่คุณออกไปทำงาน หมาชอบอยู่เป็นฝูงโดยธรรมชาติ ดังนั้น วิถีชีวิตของหมายุคปัจจุบันจึงเรียกได้ว่าค่อนข้างผิดปกติ



จะรู้ได้อย่างไรว่าหมาของคุณมีอาการนี้หรือไม่
หากหมาของคุณเริ่มร้องคร่ำครวญ เดินตามคุณตลอดเวลา หรือเดินวนไปมาด้วยความกระวนกระวายเมื่อคุณทำท่าว่าจะออกจากบ้าน นั่นแปลว่าหมาของคุณไม่สบายใจที่คุณจะออกไปข้างนอก เมื่อคุณกลับมาถึงบ้านแล้วพบว่าข้าวของในบ้านเสียหาย หรือถูกกัดแทะ ถ้าอย่างนั้นหมาของคุณก็อาจมีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ ถ้าเพื่อนบ้านของคุณบอกว่าหมาของคุณเห่าหอนคร่ำครวญระหว่างที่คุณไม่อยู่ นี่ก็เป็นอาการบ่งชี้ว่าหมาของคุณกำลังเครียดและเกิดความกังวลได้เช่นกัน

การรักษาความกังวลจากการแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของในระดับเบา การใส่เสื้อให้หมาจะใช้ได้ผลดี โดยเฉพาะกับหมาที่ชอบมานั่งใกล้ๆ หรือนั่งซบคุณ การทิ้งขนมขบเคี้ยวไว้ให้ก่อนออกจากบ้านก็สามารถช่วยได้เช่นกัน การได้กัดแทะจะช่วยลดความเครียดให้หมาได้
สำหรับหมาที่มีความกังวลจากการแยกจากเจ้าของขั้นเรื้อรัง และมีทีท่าว่าอาการจะแย่ลงเรื่อยๆ หมาของคุณจะต้องการการรักษาอย่างเป็นทางการจากสัตวแพทย์ โดยการรักษานี้จะเน้นไปที่การใช้ยาช่วยลดความกระวนกระวาย และปรับให้สารเคมีในสมองกลับมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งการรักษาในขั้นนี้ต้องได้รับคำแนะนำอย่างใกล้ชิดจากสัตวแพทย์

ความกังวลที่เกิดขึ้นก่อนแยกจากเจ้าของ
สำหรับหมาที่เพิ่งเริ่มแสดงความกังวลก่อนที่คุณจะออกจากบ้าน การปรับพฤติกรรมเล็กๆ น้อยๆ ของคุณเองสามารถช่วยแก้ปัญหาในเบื้องต้นได้ เช่น ถ้าหมาของคุณเริ่มเดินวนไปมาด้วยความกังวลเมื่อคุณหยิบกระเป๋าและกุญแจเตรียมออกจากบ้าน ให้คุณเดินกลับมานั่งในบ้านแทนที่จะออกไปข้างนอกทันที การปรับการแสดงออกของตัวคุณเองให้ไม่ซ้ำกัน จะช่วยทำให้หมาคาดเดาพฤติกรรมของคุณได้น้อยลง
ระหว่างช่วงปรับพฤติกรรมให้หมาอยู่ตามลำพังได้ การไม่กระตุ้นให้เกิดความกังวลเป็นเรื่องที่สำคัญมาก โดยอาจลองใช้วิธีต่อไปนี้
-   หาคนอื่น เช่น สมาชิกในครอบครัวหรือเพื่อนบ้านที่ว่างมาอยู่เป็นเพื่อนหมา
-   ฝากหมาไว้กับร้านหรือคลินิกที่รับฝากเลี้ยงหมา
-   หาเพื่อนเล่นให้หมาของคุณ อาจจะเป็นหมาตัวอื่นที่เล่นกับหมาของคุณเป็นประจำเมื่อคุณพามันไปเดินเล่น
-   รับหมามาเลี้ยงเพิ่ม

การฝึกให้อยู่ในกรง
ในบางกรณี สามารถฝึกหมาให้อยู่ในกรงสำหรับขนย้าย และให้กรงนั้นกลายเป็นที่ๆ ทันสามารถเข้าไปหลบภัยได้อย่างสบายใจ คุณอาจจะใช้ของเล่นหรือขนมที่หมาชอบเพื่อหลอกล่อให้มันเข้าไปอยู่ในกรง อย่าลืมเปิดประตูกรงทิ้งไว้ด้วย คอยให้รางวัลหรือชมเมื่อมันสามารถอยู่ในนั้นได้อย่างสงบ อาจต้องใช้เวลานานพอควรก่อนที่หมาจะชินกับกรง และในบางครั้ง การให้หมาอยู่ในกรงก็ทำให้อาการแย่ลงได้เช่นกัน

4673
10 พันธุ์หมาที่ราคาแพงที่สุดในโลก

หมา คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่บางครั้ง เพื่อนที่แสนดีนี้ก็มีค่าตัวแพงเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นหมาพันธุ์แท้มีเพดดรีกรีสายประกวดชั้นเลิศ มีปัจจัยมากมายที่ทำให้หมาตัวหนึ่งมีราคาแพงกว่าหมาตัวอื่นๆ ความหายากและความเป็นสายพันธุ์แท้ ที่สามารถทำให้ราคาหมาสูงลิบลิ่วได้ เช่น ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ขนทองที่ขายไปในราคาสองล้านดอลลาร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหมาที่มีราคาแพงมากที่สุดในปัจจุบัน ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้นั้น ก็ค่าตัวแพงไม่แพ้กันเลย



1. ฟาโรห์ ฮาวด์ (Egyptian Pharaoh Hound)
ฟาโรห์ ฮาวด์ เป็นหมาประจำชาติประเทศมอลตา มีราคาตั้งแต่ 3,000 – 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหมาที่มีรูปร่างหน้าตาดีที่สุด ร่างกายของมันมีสัดส่วนไขมันน้อยมาก และมีนิสัยชอบกระโดด แม้ว่าจะมีตำนานอันโด่งดังบอกเล่าว่า  ฟาโรห์ ฮาวด์ สืบเชื้อสายมาจาก เทเซม หมาล่าสัตว์ในยุคอียิปต์โบราณ แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับประเทศอียิปต์เลย ด้วยความฉลาดและนิสัยที่ติดจะดื้อในบางครั้ง ทำให้หมาพันธุ์นี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และจะเบื่อง่ายมากเมื่อต้องรับคำสั่งอย่างต่อเนื่อง



2. อะกิตะ (Akita)
อะกิตะ หมาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีขนาดตัวพอๆ กับพันธุ์สปิตซ์พันธุ์ใหญ่ แข็งแรง มีความเป็นผู้นำ และรักอิสระ มักจะเมินเฉยกับคนแปลกหน้า แต่แสดงความรักต่อคนในครอบครัวอย่างชัดเจน อะกิตะจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ล่ำสันบึกบึน แต่มันก็มีโรคประจำตัวบางอย่างและเปราะบางต่อยาบางชนิดด้วย



3. ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส (Chinese Crested Hairless)
ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส เป็นหมาพันธุ์เล็กที่มีขนชั้นเดียว เป็นหนึ่งในหมาพันธุ์หายาก ลำตัวของมันไม่มีขน จะมีขนอยู่ที่บริเวณศีรษะ หู และเท้าทั้ง 4 ข้างเท่านั้น ค่าตัวของมันอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าที่แปลกประหลาด


4. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiffs)
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีถิ่นกำเนิดมาจากทิเบต จีน เนปาล ลาดัก และเอเชียกลาง สายพันธุ์แสนแพงนี้สามารถมีค่าตัวได้ตั้งแต่ 5,000 – 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแม้ว่าหนึ่งใน ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะสร้างประวัติศาสตร์การเป็นหมาที่แพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัวที่สูงถึงสองล้านดอลลาร์ แต่โดยเฉลี่ยแล้วก็ยังไม่ถือว่าเป็นหมาพันธุ์ที่แพงที่สุดในโลก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ชอบนอนตอนกลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน เพื่อให้มันสามารถทำหน้าที่เฝ้ายามได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. แคนนาเดียน เอสกิโม (Canadian Eskimo Dog)
แคนนาเดียน เอสกิโม ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแกที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์แท้ที่หายากที่สุดของตระกูลหมาบ้าน มันเป็นหมาที่ทรงพลังและรักการออกกำลังกาย และเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีมากสายพันธุ์หนึ่งด้วย ค่าตัวของมันอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ


6. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)
เยอรมันเชพเพิร์ด ที่มีสนนราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ แต่เดิมได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อให้ปกป้องและไล่ต้อนฝูงแกะ แต่ในปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นสมาชิกครอบครัวที่แสนดี และยังเป็นสุนัขตำรวจ สุนัขสงคราม และสุนัขดมกลิ่นค้นหาสิ่งของที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยความสามารถอันเก่งกาจและเปี่ยมประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้ เยอรมันเชพเพิร์ดที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีสามารถมีราคาสูงลิบลิ่วได้



7. ซามอยด์ (Samoyed)
หมาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยเหล่าผู้เลี้ยงฝูงกวางเรนเดียร์เร่ร่อนเพื่อใช้ลากเลื่อน ปัจจุบัน ซามอยด์ได้กลายมาเป็นหมาพันธุ์หนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีราคาตั้งแต่ 6,500 – 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหมาที่มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น สามารถเข้าได้กับสมาชิกในครอบครัวทุกเพศทุกวัย และเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กเล็กๆ หรือคนแก่ได้อย่างดี มันสามารถช่างปกป้องจนเกินเหตุได้และค่อนข้างดื้อพอสมควร ดังนั้น การสอนให้หมาพันธุ์นี้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็กๆ และฝึกสอนอย่างจริงจังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง



8. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
ร็อตไวเลอร์ เป็นหมาบ้านพันธุ์ใหญ่ที่นิสัยดี รักสงบ ทุ่มเทเพื่อเจ้านาย และเชื่อฟังเป็นอย่างดี ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร และเลี้ยงเป็นเพื่อน มันอาจแสดงก้าวร้าวจนเกินเหตุกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่นๆ ได้ การสอนให้เข้าสังคมและฝึกอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหมาพันธุ์นี้ โดยราคาขั้นต่ำของร็อตไวเลอร์นั้นอยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ



9. โลเชน (Lowchen)
โลเชน มักเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Little Lion Dog หรือ ทอยด็อก เป็นหมาพันธุ์ที่หายากที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลกพันธุ์หนึ่ง ราคาเริ่มต้นของหมาพันธุ์นี้อยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ 


10. เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค (Czechoslovakian Vlcak)
เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค แทบไม่เป็นที่รู้จักในโลกนอกสาธารณรัฐเช็กเลย และเพิ่งจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเมื่อปี 1955 นี้เท่านั้น มักเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อก หรือ หมาป่าเชคโกสโลวัคเกี้ยน เนื่องจากเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างหมาป่าคาร์พาเธียน และ เยอรมันเชพเพิร์ด พันธุ์แท้ จึงทำให้หมาพันธุ์นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหมาป่า แต่มีนิสัยร่าเริง และกล้าหาญเหมือนกับเยอรมันเชพเพิร์ด นอกจากนี้ยังเป็นหมาที่ต้องการการเข้าสังคมและชอบอยู่เป็นฝูงเหมือนหมาป่า ซึ่งรวมถึงการอยู่ร่วมกับมนุษย์และสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจากยังมีสัญชาตญาณของความเป็นหมาป่าสูง จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนค่าตัวของเชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัคนั้นไม่มีการประเมินราคาอย่างเป็นทางการ   

4674
10 พันธุ์หมาที่ราคาแพงที่สุดในโลก

หมา คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่บางครั้ง เพื่อนที่แสนดีนี้ก็มีค่าตัวแพงเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นหมาพันธุ์แท้มีเพดดรีกรีสายประกวดชั้นเลิศ มีปัจจัยมากมายที่ทำให้หมาตัวหนึ่งมีราคาแพงกว่าหมาตัวอื่นๆ ความหายากและความเป็นสายพันธุ์แท้ ที่สามารถทำให้ราคาหมาสูงลิบลิ่วได้ เช่น ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ขนทองที่ขายไปในราคาสองล้านดอลลาร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหมาที่มีราคาแพงมากที่สุดในปัจจุบัน ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้นั้น ก็ค่าตัวแพงไม่แพ้กันเลย



1. ฟาโรห์ ฮาวด์ (Egyptian Pharaoh Hound)
ฟาโรห์ ฮาวด์ เป็นหมาประจำชาติประเทศมอลตา มีราคาตั้งแต่ 3,000 – 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหมาที่มีรูปร่างหน้าตาดีที่สุด ร่างกายของมันมีสัดส่วนไขมันน้อยมาก และมีนิสัยชอบกระโดด แม้ว่าจะมีตำนานอันโด่งดังบอกเล่าว่า  ฟาโรห์ ฮาวด์ สืบเชื้อสายมาจาก เทเซม หมาล่าสัตว์ในยุคอียิปต์โบราณ แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับประเทศอียิปต์เลย ด้วยความฉลาดและนิสัยที่ติดจะดื้อในบางครั้ง ทำให้หมาพันธุ์นี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และจะเบื่อง่ายมากเมื่อต้องรับคำสั่งอย่างต่อเนื่อง



2. อะกิตะ (Akita)
อะกิตะ หมาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีขนาดตัวพอๆ กับพันธุ์สปิตซ์พันธุ์ใหญ่ แข็งแรง มีความเป็นผู้นำ และรักอิสระ มักจะเมินเฉยกับคนแปลกหน้า แต่แสดงความรักต่อคนในครอบครัวอย่างชัดเจน อะกิตะจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ล่ำสันบึกบึน แต่มันก็มีโรคประจำตัวบางอย่างและเปราะบางต่อยาบางชนิดด้วย



3. ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส (Chinese Crested Hairless)
ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส เป็นหมาพันธุ์เล็กที่มีขนชั้นเดียว เป็นหนึ่งในหมาพันธุ์หายาก ลำตัวของมันไม่มีขน จะมีขนอยู่ที่บริเวณศีรษะ หู และเท้าทั้ง 4 ข้างเท่านั้น ค่าตัวของมันอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าที่แปลกประหลาด


4. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiffs)
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีถิ่นกำเนิดมาจากทิเบต จีน เนปาล ลาดัก และเอเชียกลาง สายพันธุ์แสนแพงนี้สามารถมีค่าตัวได้ตั้งแต่ 5,000 – 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแม้ว่าหนึ่งใน ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะสร้างประวัติศาสตร์การเป็นหมาที่แพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัวที่สูงถึงสองล้านดอลลาร์ แต่โดยเฉลี่ยแล้วก็ยังไม่ถือว่าเป็นหมาพันธุ์ที่แพงที่สุดในโลก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ชอบนอนตอนกลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน เพื่อให้มันสามารถทำหน้าที่เฝ้ายามได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. แคนนาเดียน เอสกิโม (Canadian Eskimo Dog)
แคนนาเดียน เอสกิโม ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแกที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์แท้ที่หายากที่สุดของตระกูลหมาบ้าน มันเป็นหมาที่ทรงพลังและรักการออกกำลังกาย และเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีมากสายพันธุ์หนึ่งด้วย ค่าตัวของมันอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ


6. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)
เยอรมันเชพเพิร์ด ที่มีสนนราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ แต่เดิมได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อให้ปกป้องและไล่ต้อนฝูงแกะ แต่ในปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นสมาชิกครอบครัวที่แสนดี และยังเป็นสุนัขตำรวจ สุนัขสงคราม และสุนัขดมกลิ่นค้นหาสิ่งของที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยความสามารถอันเก่งกาจและเปี่ยมประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้ เยอรมันเชพเพิร์ดที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีสามารถมีราคาสูงลิบลิ่วได้



7. ซามอยด์ (Samoyed)
หมาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยเหล่าผู้เลี้ยงฝูงกวางเรนเดียร์เร่ร่อนเพื่อใช้ลากเลื่อน ปัจจุบัน ซามอยด์ได้กลายมาเป็นหมาพันธุ์หนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีราคาตั้งแต่ 6,500 – 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหมาที่มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น สามารถเข้าได้กับสมาชิกในครอบครัวทุกเพศทุกวัย และเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กเล็กๆ หรือคนแก่ได้อย่างดี มันสามารถช่างปกป้องจนเกินเหตุได้และค่อนข้างดื้อพอสมควร ดังนั้น การสอนให้หมาพันธุ์นี้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็กๆ และฝึกสอนอย่างจริงจังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง



8. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
ร็อตไวเลอร์ เป็นหมาบ้านพันธุ์ใหญ่ที่นิสัยดี รักสงบ ทุ่มเทเพื่อเจ้านาย และเชื่อฟังเป็นอย่างดี ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร และเลี้ยงเป็นเพื่อน มันอาจแสดงก้าวร้าวจนเกินเหตุกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่นๆ ได้ การสอนให้เข้าสังคมและฝึกอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหมาพันธุ์นี้ โดยราคาขั้นต่ำของร็อตไวเลอร์นั้นอยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ



9. โลเชน (Lowchen)
โลเชน มักเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Little Lion Dog หรือ ทอยด็อก เป็นหมาพันธุ์ที่หายากที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลกพันธุ์หนึ่ง ราคาเริ่มต้นของหมาพันธุ์นี้อยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ 


10. เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค (Czechoslovakian Vlcak)
เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค แทบไม่เป็นที่รู้จักในโลกนอกสาธารณรัฐเช็กเลย และเพิ่งจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเมื่อปี 1955 นี้เท่านั้น มักเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อก หรือ หมาป่าเชคโกสโลวัคเกี้ยน เนื่องจากเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างหมาป่าคาร์พาเธียน และ เยอรมันเชพเพิร์ด พันธุ์แท้ จึงทำให้หมาพันธุ์นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหมาป่า แต่มีนิสัยร่าเริง และกล้าหาญเหมือนกับเยอรมันเชพเพิร์ด นอกจากนี้ยังเป็นหมาที่ต้องการการเข้าสังคมและชอบอยู่เป็นฝูงเหมือนหมาป่า ซึ่งรวมถึงการอยู่ร่วมกับมนุษย์และสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจากยังมีสัญชาตญาณของความเป็นหมาป่าสูง จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนค่าตัวของเชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัคนั้นไม่มีการประเมินราคาอย่างเป็นทางการ   

4675
10 พันธุ์หมาที่ราคาแพงที่สุดในโลก

หมา คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่บางครั้ง เพื่อนที่แสนดีนี้ก็มีค่าตัวแพงเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นหมาพันธุ์แท้มีเพดดรีกรีสายประกวดชั้นเลิศ มีปัจจัยมากมายที่ทำให้หมาตัวหนึ่งมีราคาแพงกว่าหมาตัวอื่นๆ ความหายากและความเป็นสายพันธุ์แท้ ที่สามารถทำให้ราคาหมาสูงลิบลิ่วได้ เช่น ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ขนทองที่ขายไปในราคาสองล้านดอลลาร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหมาที่มีราคาแพงมากที่สุดในปัจจุบัน ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้นั้น ก็ค่าตัวแพงไม่แพ้กันเลย



1. ฟาโรห์ ฮาวด์ (Egyptian Pharaoh Hound)
ฟาโรห์ ฮาวด์ เป็นหมาประจำชาติประเทศมอลตา มีราคาตั้งแต่ 3,000 – 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหมาที่มีรูปร่างหน้าตาดีที่สุด ร่างกายของมันมีสัดส่วนไขมันน้อยมาก และมีนิสัยชอบกระโดด แม้ว่าจะมีตำนานอันโด่งดังบอกเล่าว่า  ฟาโรห์ ฮาวด์ สืบเชื้อสายมาจาก เทเซม หมาล่าสัตว์ในยุคอียิปต์โบราณ แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับประเทศอียิปต์เลย ด้วยความฉลาดและนิสัยที่ติดจะดื้อในบางครั้ง ทำให้หมาพันธุ์นี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และจะเบื่อง่ายมากเมื่อต้องรับคำสั่งอย่างต่อเนื่อง



2. อะกิตะ (Akita)
อะกิตะ หมาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีขนาดตัวพอๆ กับพันธุ์สปิตซ์พันธุ์ใหญ่ แข็งแรง มีความเป็นผู้นำ และรักอิสระ มักจะเมินเฉยกับคนแปลกหน้า แต่แสดงความรักต่อคนในครอบครัวอย่างชัดเจน อะกิตะจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ล่ำสันบึกบึน แต่มันก็มีโรคประจำตัวบางอย่างและเปราะบางต่อยาบางชนิดด้วย



3. ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส (Chinese Crested Hairless)
ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส เป็นหมาพันธุ์เล็กที่มีขนชั้นเดียว เป็นหนึ่งในหมาพันธุ์หายาก ลำตัวของมันไม่มีขน จะมีขนอยู่ที่บริเวณศีรษะ หู และเท้าทั้ง 4 ข้างเท่านั้น ค่าตัวของมันอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าที่แปลกประหลาด


4. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiffs)
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีถิ่นกำเนิดมาจากทิเบต จีน เนปาล ลาดัก และเอเชียกลาง สายพันธุ์แสนแพงนี้สามารถมีค่าตัวได้ตั้งแต่ 5,000 – 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแม้ว่าหนึ่งใน ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะสร้างประวัติศาสตร์การเป็นหมาที่แพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัวที่สูงถึงสองล้านดอลลาร์ แต่โดยเฉลี่ยแล้วก็ยังไม่ถือว่าเป็นหมาพันธุ์ที่แพงที่สุดในโลก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ชอบนอนตอนกลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน เพื่อให้มันสามารถทำหน้าที่เฝ้ายามได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. แคนนาเดียน เอสกิโม (Canadian Eskimo Dog)
แคนนาเดียน เอสกิโม ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแกที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์แท้ที่หายากที่สุดของตระกูลหมาบ้าน มันเป็นหมาที่ทรงพลังและรักการออกกำลังกาย และเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีมากสายพันธุ์หนึ่งด้วย ค่าตัวของมันอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ


6. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)
เยอรมันเชพเพิร์ด ที่มีสนนราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ แต่เดิมได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อให้ปกป้องและไล่ต้อนฝูงแกะ แต่ในปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นสมาชิกครอบครัวที่แสนดี และยังเป็นสุนัขตำรวจ สุนัขสงคราม และสุนัขดมกลิ่นค้นหาสิ่งของที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยความสามารถอันเก่งกาจและเปี่ยมประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้ เยอรมันเชพเพิร์ดที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีสามารถมีราคาสูงลิบลิ่วได้



7. ซามอยด์ (Samoyed)
หมาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยเหล่าผู้เลี้ยงฝูงกวางเรนเดียร์เร่ร่อนเพื่อใช้ลากเลื่อน ปัจจุบัน ซามอยด์ได้กลายมาเป็นหมาพันธุ์หนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีราคาตั้งแต่ 6,500 – 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหมาที่มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น สามารถเข้าได้กับสมาชิกในครอบครัวทุกเพศทุกวัย และเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กเล็กๆ หรือคนแก่ได้อย่างดี มันสามารถช่างปกป้องจนเกินเหตุได้และค่อนข้างดื้อพอสมควร ดังนั้น การสอนให้หมาพันธุ์นี้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็กๆ และฝึกสอนอย่างจริงจังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง



8. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
ร็อตไวเลอร์ เป็นหมาบ้านพันธุ์ใหญ่ที่นิสัยดี รักสงบ ทุ่มเทเพื่อเจ้านาย และเชื่อฟังเป็นอย่างดี ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร และเลี้ยงเป็นเพื่อน มันอาจแสดงก้าวร้าวจนเกินเหตุกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่นๆ ได้ การสอนให้เข้าสังคมและฝึกอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหมาพันธุ์นี้ โดยราคาขั้นต่ำของร็อตไวเลอร์นั้นอยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ



9. โลเชน (Lowchen)
โลเชน มักเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Little Lion Dog หรือ ทอยด็อก เป็นหมาพันธุ์ที่หายากที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลกพันธุ์หนึ่ง ราคาเริ่มต้นของหมาพันธุ์นี้อยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ 


10. เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค (Czechoslovakian Vlcak)
เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค แทบไม่เป็นที่รู้จักในโลกนอกสาธารณรัฐเช็กเลย และเพิ่งจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเมื่อปี 1955 นี้เท่านั้น มักเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อก หรือ หมาป่าเชคโกสโลวัคเกี้ยน เนื่องจากเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างหมาป่าคาร์พาเธียน และ เยอรมันเชพเพิร์ด พันธุ์แท้ จึงทำให้หมาพันธุ์นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหมาป่า แต่มีนิสัยร่าเริง และกล้าหาญเหมือนกับเยอรมันเชพเพิร์ด นอกจากนี้ยังเป็นหมาที่ต้องการการเข้าสังคมและชอบอยู่เป็นฝูงเหมือนหมาป่า ซึ่งรวมถึงการอยู่ร่วมกับมนุษย์และสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจากยังมีสัญชาตญาณของความเป็นหมาป่าสูง จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนค่าตัวของเชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัคนั้นไม่มีการประเมินราคาอย่างเป็นทางการ   

4676
10 พันธุ์หมาที่ราคาแพงที่สุดในโลก

หมา คือเพื่อนที่ดีที่สุดของมนุษย์ แต่บางครั้ง เพื่อนที่แสนดีนี้ก็มีค่าตัวแพงเสียเหลือเกิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเป็นหมาพันธุ์แท้มีเพดดรีกรีสายประกวดชั้นเลิศ มีปัจจัยมากมายที่ทำให้หมาตัวหนึ่งมีราคาแพงกว่าหมาตัวอื่นๆ ความหายากและความเป็นสายพันธุ์แท้ ที่สามารถทำให้ราคาหมาสูงลิบลิ่วได้ เช่น ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ ขนทองที่ขายไปในราคาสองล้านดอลลาร์ ซึ่งถือได้ว่าเป็นหมาที่มีราคาแพงมากที่สุดในปัจจุบัน ส่วนสายพันธุ์อื่นๆ ที่นำมาฝากกันในวันนี้นั้น ก็ค่าตัวแพงไม่แพ้กันเลย



1. ฟาโรห์ ฮาวด์ (Egyptian Pharaoh Hound)
ฟาโรห์ ฮาวด์ เป็นหมาประจำชาติประเทศมอลตา มีราคาตั้งแต่ 3,000 – 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหมาที่มีรูปร่างหน้าตาดีที่สุด ร่างกายของมันมีสัดส่วนไขมันน้อยมาก และมีนิสัยชอบกระโดด แม้ว่าจะมีตำนานอันโด่งดังบอกเล่าว่า  ฟาโรห์ ฮาวด์ สืบเชื้อสายมาจาก เทเซม หมาล่าสัตว์ในยุคอียิปต์โบราณ แต่ในความเป็นจริงนั้น มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับประเทศอียิปต์เลย ด้วยความฉลาดและนิสัยที่ติดจะดื้อในบางครั้ง ทำให้หมาพันธุ์นี้มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และจะเบื่อง่ายมากเมื่อต้องรับคำสั่งอย่างต่อเนื่อง



2. อะกิตะ (Akita)
อะกิตะ หมาสัญชาติญี่ปุ่นที่มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 3,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ มีขนาดตัวพอๆ กับพันธุ์สปิตซ์พันธุ์ใหญ่ แข็งแรง มีความเป็นผู้นำ และรักอิสระ มักจะเมินเฉยกับคนแปลกหน้า แต่แสดงความรักต่อคนในครอบครัวอย่างชัดเจน อะกิตะจัดได้ว่าเป็นสายพันธุ์ที่ล่ำสันบึกบึน แต่มันก็มีโรคประจำตัวบางอย่างและเปราะบางต่อยาบางชนิดด้วย



3. ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส (Chinese Crested Hairless)
ไชนีส เครสต์ แฮร์เลส เป็นหมาพันธุ์เล็กที่มีขนชั้นเดียว เป็นหนึ่งในหมาพันธุ์หายาก ลำตัวของมันไม่มีขน จะมีขนอยู่ที่บริเวณศีรษะ หู และเท้าทั้ง 4 ข้างเท่านั้น ค่าตัวของมันอยู่ที่ประมาณ 5,000 ดอลลาร์ เนื่องจากมีรูปร่างหน้าที่แปลกประหลาด


4. ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ (Tibetan Mastiffs)
ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ มีถิ่นกำเนิดมาจากทิเบต จีน เนปาล ลาดัก และเอเชียกลาง สายพันธุ์แสนแพงนี้สามารถมีค่าตัวได้ตั้งแต่ 5,000 – 9,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และแม้ว่าหนึ่งใน ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ จะสร้างประวัติศาสตร์การเป็นหมาที่แพงที่สุดในโลกด้วยค่าตัวที่สูงถึงสองล้านดอลลาร์ แต่โดยเฉลี่ยแล้วก็ยังไม่ถือว่าเป็นหมาพันธุ์ที่แพงที่สุดในโลก ทิเบตัน มาสทิฟฟ์ชอบนอนตอนกลางวัน และตื่นในเวลากลางคืน เพื่อให้มันสามารถทำหน้าที่เฝ้ายามได้อย่างมีประสิทธิภาพ


5. แคนนาเดียน เอสกิโม (Canadian Eskimo Dog)
แคนนาเดียน เอสกิโม ถือว่าเป็นหนึ่งในสายพันธุ์ที่เก่าแกที่สุดสายพันธุ์หนึ่งของทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นหนึ่งในหมาพันธุ์แท้ที่หายากที่สุดของตระกูลหมาบ้าน มันเป็นหมาที่ทรงพลังและรักการออกกำลังกาย และเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดีมากสายพันธุ์หนึ่งด้วย ค่าตัวของมันอยู่ที่ 6,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ


6. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)
เยอรมันเชพเพิร์ด ที่มีสนนราคาขั้นต่ำอยู่ที่ 6,500 ดอลลาร์สหรัฐฯ นี้ แต่เดิมได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นเพื่อให้ปกป้องและไล่ต้อนฝูงแกะ แต่ในปัจจุบันมันได้กลายมาเป็นสมาชิกครอบครัวที่แสนดี และยังเป็นสุนัขตำรวจ สุนัขสงคราม และสุนัขดมกลิ่นค้นหาสิ่งของที่มีประสิทธิภาพอีกด้วย ด้วยความสามารถอันเก่งกาจและเปี่ยมประสิทธิภาพนี้เอง ทำให้ เยอรมันเชพเพิร์ดที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีสามารถมีราคาสูงลิบลิ่วได้



7. ซามอยด์ (Samoyed)
หมาที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นโดยเหล่าผู้เลี้ยงฝูงกวางเรนเดียร์เร่ร่อนเพื่อใช้ลากเลื่อน ปัจจุบัน ซามอยด์ได้กลายมาเป็นหมาพันธุ์หนึ่งที่มีราคาแพงที่สุดในโลก โดยมีราคาตั้งแต่ 6,500 – 12,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นหมาที่มีนิสัยน่ารักและขี้เล่น สามารถเข้าได้กับสมาชิกในครอบครัวทุกเพศทุกวัย และเป็นเพื่อนเล่นกับเด็กเล็กๆ หรือคนแก่ได้อย่างดี มันสามารถช่างปกป้องจนเกินเหตุได้และค่อนข้างดื้อพอสมควร ดังนั้น การสอนให้หมาพันธุ์นี้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็กๆ และฝึกสอนอย่างจริงจังจึงเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง



8. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)
ร็อตไวเลอร์ เป็นหมาบ้านพันธุ์ใหญ่ที่นิสัยดี รักสงบ ทุ่มเทเพื่อเจ้านาย และเชื่อฟังเป็นอย่างดี ปัจจุบันนิยมใช้เป็นสุนัขตำรวจ สุนัขทหาร และเลี้ยงเป็นเพื่อน มันอาจแสดงก้าวร้าวจนเกินเหตุกับคนแปลกหน้าและสัตว์ตัวอื่นๆ ได้ การสอนให้เข้าสังคมและฝึกอย่างจริงจังตั้งแต่ยังเล็กเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับหมาพันธุ์นี้ โดยราคาขั้นต่ำของร็อตไวเลอร์นั้นอยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ



9. โลเชน (Lowchen)
โลเชน มักเป็นที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่า Little Lion Dog หรือ ทอยด็อก เป็นหมาพันธุ์ที่หายากที่สุดและมีเอกลักษณ์ที่สุดในโลกพันธุ์หนึ่ง ราคาเริ่มต้นของหมาพันธุ์นี้อยู่ที่ 7,000 ดอลลาร์สหรัฐ 


10. เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค (Czechoslovakian Vlcak)
เชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัค แทบไม่เป็นที่รู้จักในโลกนอกสาธารณรัฐเช็กเลย และเพิ่งจะได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ขึ้นมาเมื่อปี 1955 นี้เท่านั้น มักเรียกกันในอีกชื่อหนึ่งว่า เชคโกสโลวัคเกี้ยน วูล์ฟด็อก หรือ หมาป่าเชคโกสโลวัคเกี้ยน เนื่องจากเป็นการผสมพันธุ์ระหว่างหมาป่าคาร์พาเธียน และ เยอรมันเชพเพิร์ด พันธุ์แท้ จึงทำให้หมาพันธุ์นี้มีรูปร่างหน้าตาเหมือนหมาป่า แต่มีนิสัยร่าเริง และกล้าหาญเหมือนกับเยอรมันเชพเพิร์ด นอกจากนี้ยังเป็นหมาที่ต้องการการเข้าสังคมและชอบอยู่เป็นฝูงเหมือนหมาป่า ซึ่งรวมถึงการอยู่ร่วมกับมนุษย์และสัตว์ชนิดอื่นๆ ด้วย แต่เนื่องจากยังมีสัญชาตญาณของความเป็นหมาป่าสูง จึงจำเป็นต้องได้รับการฝึกให้เข้าสังคมตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนค่าตัวของเชคโกสโลวัคเกี้ยน วัลชัคนั้นไม่มีการประเมินราคาอย่างเป็นทางการ   

4677
     วันนี้เราจะมาดูนิสัยของหมาที่ชอบเล่นโคลน หรือเล่นเปรอะเปื้อนว่าเป็นเพราะอะไรทำไมมันถึงชอบเล่นโคลน หรือเพิ่งพาไปอาบน้ำเสดใหม่ๆต้องไปลงโคลน หรือถูตัวไปกับพื้น เพื่อให้ตัวเลอะ ที่จริงเเล้วสาเหตุมันมาจากกลิ่นตัวของสุนัขที่มันเปลี่ยนไปนั่นเอง

     ดร. สแตยเลย์ โคเรน นักจิตวิทยาชาวสหรัฐอเมริกา ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขมาร่วม 10 ปี และเป็นผู้เขียนวารสาร และ หนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาได้กล่าวว่า

     รสนิยมเรื่องกลิ่นของหมานั้น แต่ล่ะตัวก็มีกลิ่นที่ตัวเองชอบแตกต่างกันไปไม่เหมือนกับคนเรา ซึ่งบางกลิ่นคนเราอาจจะบอกว่าหอม ชอบ แต่มันไม่ใช่กับหมา  เพราะธรรมชาติของหมาพวกมันสืบทอดพันธุกรรมมาจากหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก ซึ่งสัญชาตญาณของมันจะเป็นตัวบอกพวกมันว่า กลิ่นไหนคือกลิ่นที่ชอบแล้วหมาตัวอื่นๆ ให้การยอมรับ โดยสาเหตุที่กลิ่นที่ติดตัวมามีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างมากก็เพราะ“กลิ่น” เพราะกลิ่น การแสดงตัวตนของสุนัข ว่ามาจากไหน บริเวณใด เพราะจะบ่งบอกได้ว่าบริเวณนั้นๆ มีพืชพันธุ์หรือสัตว์อื่นอยู่หรือไม่ ก็มาจากกลิ่นที่ติดมากับตัวของน้องหมาเองนั่นแหละ และเป็นเสมือนการแสดงตัวตนของหมาตัวนั้นๆ นั่นเอง

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นน้องหมาวิ่งเล่นโคลน เกลือกกลิ้ง ถูไถตัวกับพื้น  เพื่อขจัดกลิ่นแปลกที่ลบล้างกลิ่นประจำตัวของพวกเขา ซึ่งกลิ่นที่แปลกปลอมนี้ก็จะส่งผลให้พวกน้องหมามีความรู้สึกหวั่นระแวงและไม่มั่นใจจนรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วอาจจะต้องใช้เวลากันสักหน่อย เวลาที่น้องหมาเจอหมาที่แปลกหน้าอันดับแรกของมันคือการดมพิสูจน์กลิ่นของอีกตัวก่อนว่ามาจากแถวไหนเพราะการดมสามารถช่วยระบุตัวตนพวกเขาได้เป็นอย่างดี 

1. เต็มที่เลยลูก ได้ประสบการณ์ไปเต็มๆ


2. หน้าตาบ่งบอกถึงความสนุกมากๆ


3. เจ้าของมาเจอนี่ ไม่รู้เลยนะว่าเป็นหมาของตัวเอง


4. เปื้อนไม่พอ มาลงที่นอนอีกโอ้ย มิ๊จะบ้าตาย


5. ยังดีนะยังพอมองออกอยู่บ้าง


6. เลอะหมด ทั้งบ้าน ทั้งตัว

7. ไม่มีสำนึก


8. สนุกของมันล่ะ


9. เย็นสบายไหมลูก


10. สุดท้ายนี่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นไรเเล้วล่ะ มันคือความซนของมันล้วนๆ



4678
     วันนี้เราจะมาดูนิสัยของหมาที่ชอบเล่นโคลน หรือเล่นเปรอะเปื้อนว่าเป็นเพราะอะไรทำไมมันถึงชอบเล่นโคลน หรือเพิ่งพาไปอาบน้ำเสดใหม่ๆต้องไปลงโคลน หรือถูตัวไปกับพื้น เพื่อให้ตัวเลอะ ที่จริงเเล้วสาเหตุมันมาจากกลิ่นตัวของสุนัขที่มันเปลี่ยนไปนั่นเอง

     ดร. สแตยเลย์ โคเรน นักจิตวิทยาชาวสหรัฐอเมริกา ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขมาร่วม 10 ปี และเป็นผู้เขียนวารสาร และ หนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาได้กล่าวว่า

     รสนิยมเรื่องกลิ่นของหมานั้น แต่ล่ะตัวก็มีกลิ่นที่ตัวเองชอบแตกต่างกันไปไม่เหมือนกับคนเรา ซึ่งบางกลิ่นคนเราอาจจะบอกว่าหอม ชอบ แต่มันไม่ใช่กับหมา  เพราะธรรมชาติของหมาพวกมันสืบทอดพันธุกรรมมาจากหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก ซึ่งสัญชาตญาณของมันจะเป็นตัวบอกพวกมันว่า กลิ่นไหนคือกลิ่นที่ชอบแล้วหมาตัวอื่นๆ ให้การยอมรับ โดยสาเหตุที่กลิ่นที่ติดตัวมามีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างมากก็เพราะ“กลิ่น” เพราะกลิ่น การแสดงตัวตนของสุนัข ว่ามาจากไหน บริเวณใด เพราะจะบ่งบอกได้ว่าบริเวณนั้นๆ มีพืชพันธุ์หรือสัตว์อื่นอยู่หรือไม่ ก็มาจากกลิ่นที่ติดมากับตัวของน้องหมาเองนั่นแหละ และเป็นเสมือนการแสดงตัวตนของหมาตัวนั้นๆ นั่นเอง

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นน้องหมาวิ่งเล่นโคลน เกลือกกลิ้ง ถูไถตัวกับพื้น  เพื่อขจัดกลิ่นแปลกที่ลบล้างกลิ่นประจำตัวของพวกเขา ซึ่งกลิ่นที่แปลกปลอมนี้ก็จะส่งผลให้พวกน้องหมามีความรู้สึกหวั่นระแวงและไม่มั่นใจจนรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วอาจจะต้องใช้เวลากันสักหน่อย เวลาที่น้องหมาเจอหมาที่แปลกหน้าอันดับแรกของมันคือการดมพิสูจน์กลิ่นของอีกตัวก่อนว่ามาจากแถวไหนเพราะการดมสามารถช่วยระบุตัวตนพวกเขาได้เป็นอย่างดี 

1. เต็มที่เลยลูก ได้ประสบการณ์ไปเต็มๆ


2. หน้าตาบ่งบอกถึงความสนุกมากๆ


3. เจ้าของมาเจอนี่ ไม่รู้เลยนะว่าเป็นหมาของตัวเอง


4. เปื้อนไม่พอ มาลงที่นอนอีกโอ้ย มิ๊จะบ้าตาย


5. ยังดีนะยังพอมองออกอยู่บ้าง


6. เลอะหมด ทั้งบ้าน ทั้งตัว

7. ไม่มีสำนึก


8. สนุกของมันล่ะ


9. เย็นสบายไหมลูก


10. สุดท้ายนี่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นไรเเล้วล่ะ มันคือความซนของมันล้วนๆ



4679
     วันนี้เราจะมาดูนิสัยของหมาที่ชอบเล่นโคลน หรือเล่นเปรอะเปื้อนว่าเป็นเพราะอะไรทำไมมันถึงชอบเล่นโคลน หรือเพิ่งพาไปอาบน้ำเสดใหม่ๆต้องไปลงโคลน หรือถูตัวไปกับพื้น เพื่อให้ตัวเลอะ ที่จริงเเล้วสาเหตุมันมาจากกลิ่นตัวของสุนัขที่มันเปลี่ยนไปนั่นเอง

     ดร. สแตยเลย์ โคเรน นักจิตวิทยาชาวสหรัฐอเมริกา ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขมาร่วม 10 ปี และเป็นผู้เขียนวารสาร และ หนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาได้กล่าวว่า

     รสนิยมเรื่องกลิ่นของหมานั้น แต่ล่ะตัวก็มีกลิ่นที่ตัวเองชอบแตกต่างกันไปไม่เหมือนกับคนเรา ซึ่งบางกลิ่นคนเราอาจจะบอกว่าหอม ชอบ แต่มันไม่ใช่กับหมา  เพราะธรรมชาติของหมาพวกมันสืบทอดพันธุกรรมมาจากหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก ซึ่งสัญชาตญาณของมันจะเป็นตัวบอกพวกมันว่า กลิ่นไหนคือกลิ่นที่ชอบแล้วหมาตัวอื่นๆ ให้การยอมรับ โดยสาเหตุที่กลิ่นที่ติดตัวมามีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างมากก็เพราะ“กลิ่น” เพราะกลิ่น การแสดงตัวตนของสุนัข ว่ามาจากไหน บริเวณใด เพราะจะบ่งบอกได้ว่าบริเวณนั้นๆ มีพืชพันธุ์หรือสัตว์อื่นอยู่หรือไม่ ก็มาจากกลิ่นที่ติดมากับตัวของน้องหมาเองนั่นแหละ และเป็นเสมือนการแสดงตัวตนของหมาตัวนั้นๆ นั่นเอง

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นน้องหมาวิ่งเล่นโคลน เกลือกกลิ้ง ถูไถตัวกับพื้น  เพื่อขจัดกลิ่นแปลกที่ลบล้างกลิ่นประจำตัวของพวกเขา ซึ่งกลิ่นที่แปลกปลอมนี้ก็จะส่งผลให้พวกน้องหมามีความรู้สึกหวั่นระแวงและไม่มั่นใจจนรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วอาจจะต้องใช้เวลากันสักหน่อย เวลาที่น้องหมาเจอหมาที่แปลกหน้าอันดับแรกของมันคือการดมพิสูจน์กลิ่นของอีกตัวก่อนว่ามาจากแถวไหนเพราะการดมสามารถช่วยระบุตัวตนพวกเขาได้เป็นอย่างดี 

1. เต็มที่เลยลูก ได้ประสบการณ์ไปเต็มๆ


2. หน้าตาบ่งบอกถึงความสนุกมากๆ


3. เจ้าของมาเจอนี่ ไม่รู้เลยนะว่าเป็นหมาของตัวเอง


4. เปื้อนไม่พอ มาลงที่นอนอีกโอ้ย มิ๊จะบ้าตาย


5. ยังดีนะยังพอมองออกอยู่บ้าง


6. เลอะหมด ทั้งบ้าน ทั้งตัว

7. ไม่มีสำนึก


8. สนุกของมันล่ะ


9. เย็นสบายไหมลูก


10. สุดท้ายนี่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นไรเเล้วล่ะ มันคือความซนของมันล้วนๆ



4680
     วันนี้เราจะมาดูนิสัยของหมาที่ชอบเล่นโคลน หรือเล่นเปรอะเปื้อนว่าเป็นเพราะอะไรทำไมมันถึงชอบเล่นโคลน หรือเพิ่งพาไปอาบน้ำเสดใหม่ๆต้องไปลงโคลน หรือถูตัวไปกับพื้น เพื่อให้ตัวเลอะ ที่จริงเเล้วสาเหตุมันมาจากกลิ่นตัวของสุนัขที่มันเปลี่ยนไปนั่นเอง

     ดร. สแตยเลย์ โคเรน นักจิตวิทยาชาวสหรัฐอเมริกา ที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมสุนัขมาร่วม 10 ปี และเป็นผู้เขียนวารสาร และ หนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยาได้กล่าวว่า

     รสนิยมเรื่องกลิ่นของหมานั้น แต่ล่ะตัวก็มีกลิ่นที่ตัวเองชอบแตกต่างกันไปไม่เหมือนกับคนเรา ซึ่งบางกลิ่นคนเราอาจจะบอกว่าหอม ชอบ แต่มันไม่ใช่กับหมา  เพราะธรรมชาติของหมาพวกมันสืบทอดพันธุกรรมมาจากหมาป่าหรือสุนัขจิ้งจอก ซึ่งสัญชาตญาณของมันจะเป็นตัวบอกพวกมันว่า กลิ่นไหนคือกลิ่นที่ชอบแล้วหมาตัวอื่นๆ ให้การยอมรับ โดยสาเหตุที่กลิ่นที่ติดตัวมามีความสำคัญต่อพวกเขาเป็นอย่างมากก็เพราะ“กลิ่น” เพราะกลิ่น การแสดงตัวตนของสุนัข ว่ามาจากไหน บริเวณใด เพราะจะบ่งบอกได้ว่าบริเวณนั้นๆ มีพืชพันธุ์หรือสัตว์อื่นอยู่หรือไม่ ก็มาจากกลิ่นที่ติดมากับตัวของน้องหมาเองนั่นแหละ และเป็นเสมือนการแสดงตัวตนของหมาตัวนั้นๆ นั่นเอง

     ด้วยเหตุนี้เอง จึงไม่น่าแปลกที่เราจะเห็นน้องหมาวิ่งเล่นโคลน เกลือกกลิ้ง ถูไถตัวกับพื้น  เพื่อขจัดกลิ่นแปลกที่ลบล้างกลิ่นประจำตัวของพวกเขา ซึ่งกลิ่นที่แปลกปลอมนี้ก็จะส่งผลให้พวกน้องหมามีความรู้สึกหวั่นระแวงและไม่มั่นใจจนรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเอง แล้วอาจจะต้องใช้เวลากันสักหน่อย เวลาที่น้องหมาเจอหมาที่แปลกหน้าอันดับแรกของมันคือการดมพิสูจน์กลิ่นของอีกตัวก่อนว่ามาจากแถวไหนเพราะการดมสามารถช่วยระบุตัวตนพวกเขาได้เป็นอย่างดี 

1. เต็มที่เลยลูก ได้ประสบการณ์ไปเต็มๆ


2. หน้าตาบ่งบอกถึงความสนุกมากๆ


3. เจ้าของมาเจอนี่ ไม่รู้เลยนะว่าเป็นหมาของตัวเอง


4. เปื้อนไม่พอ มาลงที่นอนอีกโอ้ย มิ๊จะบ้าตาย


5. ยังดีนะยังพอมองออกอยู่บ้าง


6. เลอะหมด ทั้งบ้าน ทั้งตัว

7. ไม่มีสำนึก


8. สนุกของมันล่ะ


9. เย็นสบายไหมลูก


10. สุดท้ายนี่ไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องกลิ่นไรเเล้วล่ะ มันคือความซนของมันล้วนๆ