แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Topics - ขายหมา

4501
ทำอย่างไรให้หมาเลิกจูงคุณ ไม่ใช่คุณจูงหมา



     เคยไหม เวลาคุณพาหมาออกไปเดินเล่นด้วยสายจูง แล้วโดนหมาลากไปลากมาตามแต่มันจะต้องการ นี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากสำหรับเจ้าของหมาหลายคน บ่อยครั้งที่เจ้าของหมาแทบจะลอยเป็นว่าวเมื่อโดนหมาของตัวเองลากไปตามทาง แต่พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ โดยเริ่มต้นจากตัวคุณก่อน

     เมื่อคุณเป็นเจ้าของหมา โดยเฉพาะหมาตัวใหญ่ที่แรงเยอะๆ คุณสามารถเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการพิจารณาว่า คำพูดไหนที่ทำให้หมาของคุณตื่นเต้น เช่น ไปเดินเล่นมั้ย? การพูดคำเหล่านี้จนติดปากมักเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่หมาของคุณยังเป็นลูกหมา และมีแนวโน้มที่จะสร้างความวุ่นวายก่อนออกไปเดินเล่นได้

     เคล็ดลับก็คือให้คุณใส่สายจูงให้หมาเงียบๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และแทนที่จะพามันออกไปเดินเล่นทันที ให้คุณพาหมาเดินไปมาในบ้านก่อนครู่หนึ่งทั้งๆ ที่ใส่สายจูงอยู่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ความตื่นเต้นก่อนออกไปเดินเล่นด้วยสายจูงของหมาลดลง


     เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการฝึกหมาให้เดินด้วยสายจูงอย่างสงบก็คือ ให้จูงหมาเหมือนกับว่าคุณกำลังขับรถอยู่ เมื่อคุณเป็นคนขับรถ คุณคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง หมาเป็นสัตว์ฝูง และพวกมันชอบทำตามที่ผู้นำของมันต้องการ ดังนั้น ถ้าหมาของคุณดึงหรือลากคุณ คุณก็ควรปล่อยสายจูงให้หย่อนเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หลอกล่อให้หมาไปในทิศทางตรงข้าม สั่งด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า “ไปได้แล้ว” หรือ “กลับมา” การหยุดเดินเป็นช่วงๆ ยกสายจูงขึ้นก่อนจะสั่งว่า “นั่ง” ก็ช่วยทำลายรูปแบบของการดึงเชือกจูงของหมาได้เช่นกัน และหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกับสบตาหมาของคุณด้วยแล้วละก็ มันจะทำให้หมาของคุณจะรู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

     นอกจากนี้ สิ่งที่คุณควรเรียนรู้และฝึกหมาให้ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การสอนให้หมาฉี่หรืออึตามที่คุณสั่ง ความต้องการขับถ่ายคือสิ่งที่ยิ่งเพิ่มความร้อนรน ทำให้หมาทั้งดึงและดมกลิ่นไปทั่วระหว่างเดินเล่น

4502
ทำอย่างไรให้หมาเลิกจูงคุณ ไม่ใช่คุณจูงหมา



     เคยไหม เวลาคุณพาหมาออกไปเดินเล่นด้วยสายจูง แล้วโดนหมาลากไปลากมาตามแต่มันจะต้องการ นี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากสำหรับเจ้าของหมาหลายคน บ่อยครั้งที่เจ้าของหมาแทบจะลอยเป็นว่าวเมื่อโดนหมาของตัวเองลากไปตามทาง แต่พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ โดยเริ่มต้นจากตัวคุณก่อน

     เมื่อคุณเป็นเจ้าของหมา โดยเฉพาะหมาตัวใหญ่ที่แรงเยอะๆ คุณสามารถเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการพิจารณาว่า คำพูดไหนที่ทำให้หมาของคุณตื่นเต้น เช่น ไปเดินเล่นมั้ย? การพูดคำเหล่านี้จนติดปากมักเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่หมาของคุณยังเป็นลูกหมา และมีแนวโน้มที่จะสร้างความวุ่นวายก่อนออกไปเดินเล่นได้

     เคล็ดลับก็คือให้คุณใส่สายจูงให้หมาเงียบๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และแทนที่จะพามันออกไปเดินเล่นทันที ให้คุณพาหมาเดินไปมาในบ้านก่อนครู่หนึ่งทั้งๆ ที่ใส่สายจูงอยู่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ความตื่นเต้นก่อนออกไปเดินเล่นด้วยสายจูงของหมาลดลง


     เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการฝึกหมาให้เดินด้วยสายจูงอย่างสงบก็คือ ให้จูงหมาเหมือนกับว่าคุณกำลังขับรถอยู่ เมื่อคุณเป็นคนขับรถ คุณคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง หมาเป็นสัตว์ฝูง และพวกมันชอบทำตามที่ผู้นำของมันต้องการ ดังนั้น ถ้าหมาของคุณดึงหรือลากคุณ คุณก็ควรปล่อยสายจูงให้หย่อนเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หลอกล่อให้หมาไปในทิศทางตรงข้าม สั่งด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า “ไปได้แล้ว” หรือ “กลับมา” การหยุดเดินเป็นช่วงๆ ยกสายจูงขึ้นก่อนจะสั่งว่า “นั่ง” ก็ช่วยทำลายรูปแบบของการดึงเชือกจูงของหมาได้เช่นกัน และหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกับสบตาหมาของคุณด้วยแล้วละก็ มันจะทำให้หมาของคุณจะรู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

     นอกจากนี้ สิ่งที่คุณควรเรียนรู้และฝึกหมาให้ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การสอนให้หมาฉี่หรืออึตามที่คุณสั่ง ความต้องการขับถ่ายคือสิ่งที่ยิ่งเพิ่มความร้อนรน ทำให้หมาทั้งดึงและดมกลิ่นไปทั่วระหว่างเดินเล่น

4503
ทำอย่างไรให้หมาเลิกจูงคุณ ไม่ใช่คุณจูงหมา



     เคยไหม เวลาคุณพาหมาออกไปเดินเล่นด้วยสายจูง แล้วโดนหมาลากไปลากมาตามแต่มันจะต้องการ นี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากสำหรับเจ้าของหมาหลายคน บ่อยครั้งที่เจ้าของหมาแทบจะลอยเป็นว่าวเมื่อโดนหมาของตัวเองลากไปตามทาง แต่พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ โดยเริ่มต้นจากตัวคุณก่อน

     เมื่อคุณเป็นเจ้าของหมา โดยเฉพาะหมาตัวใหญ่ที่แรงเยอะๆ คุณสามารถเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการพิจารณาว่า คำพูดไหนที่ทำให้หมาของคุณตื่นเต้น เช่น ไปเดินเล่นมั้ย? การพูดคำเหล่านี้จนติดปากมักเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่หมาของคุณยังเป็นลูกหมา และมีแนวโน้มที่จะสร้างความวุ่นวายก่อนออกไปเดินเล่นได้

     เคล็ดลับก็คือให้คุณใส่สายจูงให้หมาเงียบๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และแทนที่จะพามันออกไปเดินเล่นทันที ให้คุณพาหมาเดินไปมาในบ้านก่อนครู่หนึ่งทั้งๆ ที่ใส่สายจูงอยู่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ความตื่นเต้นก่อนออกไปเดินเล่นด้วยสายจูงของหมาลดลง


     เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการฝึกหมาให้เดินด้วยสายจูงอย่างสงบก็คือ ให้จูงหมาเหมือนกับว่าคุณกำลังขับรถอยู่ เมื่อคุณเป็นคนขับรถ คุณคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง หมาเป็นสัตว์ฝูง และพวกมันชอบทำตามที่ผู้นำของมันต้องการ ดังนั้น ถ้าหมาของคุณดึงหรือลากคุณ คุณก็ควรปล่อยสายจูงให้หย่อนเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หลอกล่อให้หมาไปในทิศทางตรงข้าม สั่งด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า “ไปได้แล้ว” หรือ “กลับมา” การหยุดเดินเป็นช่วงๆ ยกสายจูงขึ้นก่อนจะสั่งว่า “นั่ง” ก็ช่วยทำลายรูปแบบของการดึงเชือกจูงของหมาได้เช่นกัน และหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกับสบตาหมาของคุณด้วยแล้วละก็ มันจะทำให้หมาของคุณจะรู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

     นอกจากนี้ สิ่งที่คุณควรเรียนรู้และฝึกหมาให้ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การสอนให้หมาฉี่หรืออึตามที่คุณสั่ง ความต้องการขับถ่ายคือสิ่งที่ยิ่งเพิ่มความร้อนรน ทำให้หมาทั้งดึงและดมกลิ่นไปทั่วระหว่างเดินเล่น

4504
ทำอย่างไรให้หมาเลิกจูงคุณ ไม่ใช่คุณจูงหมา



     เคยไหม เวลาคุณพาหมาออกไปเดินเล่นด้วยสายจูง แล้วโดนหมาลากไปลากมาตามแต่มันจะต้องการ นี่เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยมาก และเป็นเรื่องที่น่ารำคาญมากสำหรับเจ้าของหมาหลายคน บ่อยครั้งที่เจ้าของหมาแทบจะลอยเป็นว่าวเมื่อโดนหมาของตัวเองลากไปตามทาง แต่พฤติกรรมนี้เป็นสิ่งที่สามารถจัดการได้ โดยเริ่มต้นจากตัวคุณก่อน

     เมื่อคุณเป็นเจ้าของหมา โดยเฉพาะหมาตัวใหญ่ที่แรงเยอะๆ คุณสามารถเริ่มต้นแก้ปัญหาด้วยการพิจารณาว่า คำพูดไหนที่ทำให้หมาของคุณตื่นเต้น เช่น ไปเดินเล่นมั้ย? การพูดคำเหล่านี้จนติดปากมักเริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่หมาของคุณยังเป็นลูกหมา และมีแนวโน้มที่จะสร้างความวุ่นวายก่อนออกไปเดินเล่นได้

     เคล็ดลับก็คือให้คุณใส่สายจูงให้หมาเงียบๆ ไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น และแทนที่จะพามันออกไปเดินเล่นทันที ให้คุณพาหมาเดินไปมาในบ้านก่อนครู่หนึ่งทั้งๆ ที่ใส่สายจูงอยู่ การทำแบบนี้จะช่วยให้ความตื่นเต้นก่อนออกไปเดินเล่นด้วยสายจูงของหมาลดลง


     เคล็ดลับที่สำคัญที่สุดในการฝึกหมาให้เดินด้วยสายจูงอย่างสงบก็คือ ให้จูงหมาเหมือนกับว่าคุณกำลังขับรถอยู่ เมื่อคุณเป็นคนขับรถ คุณคือคนที่ควบคุมทุกอย่าง หมาเป็นสัตว์ฝูง และพวกมันชอบทำตามที่ผู้นำของมันต้องการ ดังนั้น ถ้าหมาของคุณดึงหรือลากคุณ คุณก็ควรปล่อยสายจูงให้หย่อนเล็กน้อย แล้วค่อยๆ หลอกล่อให้หมาไปในทิศทางตรงข้าม สั่งด้วยน้ำเสียงที่ร่าเริงว่า “ไปได้แล้ว” หรือ “กลับมา” การหยุดเดินเป็นช่วงๆ ยกสายจูงขึ้นก่อนจะสั่งว่า “นั่ง” ก็ช่วยทำลายรูปแบบของการดึงเชือกจูงของหมาได้เช่นกัน และหากคุณทำสิ่งเหล่านี้ไปพร้อมกับสบตาหมาของคุณด้วยแล้วละก็ มันจะทำให้หมาของคุณจะรู้สึกดีขึ้นได้ด้วย

     นอกจากนี้ สิ่งที่คุณควรเรียนรู้และฝึกหมาให้ได้อีกอย่างหนึ่งก็คือ การสอนให้หมาฉี่หรืออึตามที่คุณสั่ง ความต้องการขับถ่ายคือสิ่งที่ยิ่งเพิ่มความร้อนรน ทำให้หมาทั้งดึงและดมกลิ่นไปทั่วระหว่างเดินเล่น

4505
มารู้จักชิบะ อินุ (Shiba Inu) : หมาหน้าแป้นจากแดนอาทิตย์อุทัย




     ชิบะอินุเป็นหมาขนหนาขนาดกะทัดรัด บางคนก็บอกว่ามันคือหมาพันธุ์อากิตะแบบย่อส่วน มันมีใบหน้าเรียว ดวงตาเล็กๆ สีเข้ม จมูกสีเข้ม ฟันเรียงตัวเป็นแนวกรรไกร และหูทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่ตั้งตรงอีก 1 คู่ หางของชิบะอินุเหมือนกับหมาของญี่ปุ่นอีกพันธุ์หนึ่งซึ่งก็คือ สปิตช์ หางของมันฟูยาวและม้วนเป็นวงกลมกลับมาอยู่บนหลังของมัน หรือบางครั้งก็ทอดเป็นเส้นโค้งที่นุ่มสลวย ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของชิบะอินุคือแต้มสีขาวหรือสีครีมที่บริเวณแก้ม ลำคอ ท้อง หน้าอก และข้างจมูก แต่บางตัวก็มีรอยแต้มเหล่านี้ถึงแค่ส่วนขาและปลายหาง

     อายุขัยโดยเฉลี่ยของชิบะอินุจะอยู่ที่ระหว่าง 12-15 ปี มันเป็นหมาที่มีระดับพลังงานปานกลางเหมือนกับขนาดตัวของมัน มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้โดยไม่มีปัญหา สีขนของชิบะอินุมีทั้งสีแดง แดงแซมดำ และสีดำกับรอยแต้มสีเข้ม



กว่าจะเป็นชิบะอินุ

     ชิบะอินุเป็นหมาพันธุ์เอเชียที่โดดเด่นมากพันธุ์หนึ่ง พวกมันถูกพาจากประเทศจีนมายังญี่ปุ่นเมื่อราว 2,000 ปีก่อน และเป็นหมา 1 ใน 6 สายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างเชาเชากับหมาท้องถิ่นของคิวชู มีรายงานว่าชื่อของมันตั้งตามสีแดงของใบไม้พุ่มในพื้นที่ที่มันออกล่า ซึ่งมีสีเหมือนกับสีขนของมัน ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า “ชิบะ” ในภาษาญี่ปุ่นมี 2 ความหมายด้วยกันก็คือ “เล็ก” และ “ป่าไม้พุ่ม” ในขณะที่ “อินุ” หมายถึงหมา
แต่เดิม ชิบะอินุได้รับการเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อล่านกหรือสัตว์ป่าขนาดเล็ก แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ พวกมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของหมาในฝันสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อน นอกจากความสามารถด้านการล่าสัตว์และการสะกดรอยแล้ว ชิบะอินุยังสามารถทำตามคำสั่งต่างๆ ได้อีกมากมายเมื่อได้รับการฝึก



นิสัยของชิบะอินุ

     ชิบะอินุเทียบได้กับหมาตัวใหญ่ที่ติดอยู่ในร่างขนาดเล็กกะทัดรัด เนื่องจากมันเป็นหมาที่กล้าหาญและท้าทายทุกอย่าง และชอบการผจญภัยอีกด้วย มันปกป้องพื้นที่ของมันและเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ชิบะอินุก็เป็นสายพันธุ์ที่น่ารักและอ่อนโยน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็กเล็กๆ พวกมันค่อนข้างสงวนท่าทีในช่วงแรก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ เจ้าของไม่ควรทิ้งชิบะอินุไว้กับสัตว์เล็กๆ เนื่องจากมันอาจเข้าจู่โจมได้ 



การออกกำลังกาย

     ชิบะอินุต้องการการออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น การเดินเล่นวันละ 20-30 นาทีดีต่อสุขภาพของมัน พวกมันเป็นสายพันธุ์ที่มีความตื่นตัวสูง แต่ก็ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรนัก และสามารถปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกายได้ทุกแบบ

ที่อยู่อาศัยและการดูแลรักษา

     ด้วยขนาดตัวของมัน ชิบะอินุสามารถอยู่ในพื้นที่แคบๆได้ หากได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามีสวนเล็กๆ หรือสวนขนาดปานกลางให้มัน มันก็จะชอบมาก ควรให้ชิบะอินุอาศัยอยู่กับเจ้าของ เนื่องจากมันจะนับตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ขนของชิบะอินุเหมาะกับทุกสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาว อีกทั้งยังหนาและแน่นมาก จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

ปัญหาด้านสุขภาพ

     แม้ว่าชิบะอินุจะเป็นสายพันธุ์ที่สุขภาพค่อนข้างดีและมีโรคทางพันธุกรรมน้อย แต่ก็มีโอกาสเป็นโรคสะโพกเลื่อนหรือเข่าหลุดได้เช่นกัน



4506
มารู้จักชิบะ อินุ (Shiba Inu) : หมาหน้าแป้นจากแดนอาทิตย์อุทัย




     ชิบะอินุเป็นหมาขนหนาขนาดกะทัดรัด บางคนก็บอกว่ามันคือหมาพันธุ์อากิตะแบบย่อส่วน มันมีใบหน้าเรียว ดวงตาเล็กๆ สีเข้ม จมูกสีเข้ม ฟันเรียงตัวเป็นแนวกรรไกร และหูทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่ตั้งตรงอีก 1 คู่ หางของชิบะอินุเหมือนกับหมาของญี่ปุ่นอีกพันธุ์หนึ่งซึ่งก็คือ สปิตช์ หางของมันฟูยาวและม้วนเป็นวงกลมกลับมาอยู่บนหลังของมัน หรือบางครั้งก็ทอดเป็นเส้นโค้งที่นุ่มสลวย ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของชิบะอินุคือแต้มสีขาวหรือสีครีมที่บริเวณแก้ม ลำคอ ท้อง หน้าอก และข้างจมูก แต่บางตัวก็มีรอยแต้มเหล่านี้ถึงแค่ส่วนขาและปลายหาง

     อายุขัยโดยเฉลี่ยของชิบะอินุจะอยู่ที่ระหว่าง 12-15 ปี มันเป็นหมาที่มีระดับพลังงานปานกลางเหมือนกับขนาดตัวของมัน มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้โดยไม่มีปัญหา สีขนของชิบะอินุมีทั้งสีแดง แดงแซมดำ และสีดำกับรอยแต้มสีเข้ม



กว่าจะเป็นชิบะอินุ

     ชิบะอินุเป็นหมาพันธุ์เอเชียที่โดดเด่นมากพันธุ์หนึ่ง พวกมันถูกพาจากประเทศจีนมายังญี่ปุ่นเมื่อราว 2,000 ปีก่อน และเป็นหมา 1 ใน 6 สายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างเชาเชากับหมาท้องถิ่นของคิวชู มีรายงานว่าชื่อของมันตั้งตามสีแดงของใบไม้พุ่มในพื้นที่ที่มันออกล่า ซึ่งมีสีเหมือนกับสีขนของมัน ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า “ชิบะ” ในภาษาญี่ปุ่นมี 2 ความหมายด้วยกันก็คือ “เล็ก” และ “ป่าไม้พุ่ม” ในขณะที่ “อินุ” หมายถึงหมา
แต่เดิม ชิบะอินุได้รับการเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อล่านกหรือสัตว์ป่าขนาดเล็ก แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ พวกมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของหมาในฝันสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อน นอกจากความสามารถด้านการล่าสัตว์และการสะกดรอยแล้ว ชิบะอินุยังสามารถทำตามคำสั่งต่างๆ ได้อีกมากมายเมื่อได้รับการฝึก



นิสัยของชิบะอินุ

     ชิบะอินุเทียบได้กับหมาตัวใหญ่ที่ติดอยู่ในร่างขนาดเล็กกะทัดรัด เนื่องจากมันเป็นหมาที่กล้าหาญและท้าทายทุกอย่าง และชอบการผจญภัยอีกด้วย มันปกป้องพื้นที่ของมันและเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ชิบะอินุก็เป็นสายพันธุ์ที่น่ารักและอ่อนโยน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็กเล็กๆ พวกมันค่อนข้างสงวนท่าทีในช่วงแรก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ เจ้าของไม่ควรทิ้งชิบะอินุไว้กับสัตว์เล็กๆ เนื่องจากมันอาจเข้าจู่โจมได้ 



การออกกำลังกาย

     ชิบะอินุต้องการการออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น การเดินเล่นวันละ 20-30 นาทีดีต่อสุขภาพของมัน พวกมันเป็นสายพันธุ์ที่มีความตื่นตัวสูง แต่ก็ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรนัก และสามารถปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกายได้ทุกแบบ

ที่อยู่อาศัยและการดูแลรักษา

     ด้วยขนาดตัวของมัน ชิบะอินุสามารถอยู่ในพื้นที่แคบๆได้ หากได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามีสวนเล็กๆ หรือสวนขนาดปานกลางให้มัน มันก็จะชอบมาก ควรให้ชิบะอินุอาศัยอยู่กับเจ้าของ เนื่องจากมันจะนับตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ขนของชิบะอินุเหมาะกับทุกสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาว อีกทั้งยังหนาและแน่นมาก จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

ปัญหาด้านสุขภาพ

     แม้ว่าชิบะอินุจะเป็นสายพันธุ์ที่สุขภาพค่อนข้างดีและมีโรคทางพันธุกรรมน้อย แต่ก็มีโอกาสเป็นโรคสะโพกเลื่อนหรือเข่าหลุดได้เช่นกัน



4507
มารู้จักชิบะ อินุ (Shiba Inu) : หมาหน้าแป้นจากแดนอาทิตย์อุทัย




     ชิบะอินุเป็นหมาขนหนาขนาดกะทัดรัด บางคนก็บอกว่ามันคือหมาพันธุ์อากิตะแบบย่อส่วน มันมีใบหน้าเรียว ดวงตาเล็กๆ สีเข้ม จมูกสีเข้ม ฟันเรียงตัวเป็นแนวกรรไกร และหูทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่ตั้งตรงอีก 1 คู่ หางของชิบะอินุเหมือนกับหมาของญี่ปุ่นอีกพันธุ์หนึ่งซึ่งก็คือ สปิตช์ หางของมันฟูยาวและม้วนเป็นวงกลมกลับมาอยู่บนหลังของมัน หรือบางครั้งก็ทอดเป็นเส้นโค้งที่นุ่มสลวย ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของชิบะอินุคือแต้มสีขาวหรือสีครีมที่บริเวณแก้ม ลำคอ ท้อง หน้าอก และข้างจมูก แต่บางตัวก็มีรอยแต้มเหล่านี้ถึงแค่ส่วนขาและปลายหาง

     อายุขัยโดยเฉลี่ยของชิบะอินุจะอยู่ที่ระหว่าง 12-15 ปี มันเป็นหมาที่มีระดับพลังงานปานกลางเหมือนกับขนาดตัวของมัน มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้โดยไม่มีปัญหา สีขนของชิบะอินุมีทั้งสีแดง แดงแซมดำ และสีดำกับรอยแต้มสีเข้ม



กว่าจะเป็นชิบะอินุ

     ชิบะอินุเป็นหมาพันธุ์เอเชียที่โดดเด่นมากพันธุ์หนึ่ง พวกมันถูกพาจากประเทศจีนมายังญี่ปุ่นเมื่อราว 2,000 ปีก่อน และเป็นหมา 1 ใน 6 สายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างเชาเชากับหมาท้องถิ่นของคิวชู มีรายงานว่าชื่อของมันตั้งตามสีแดงของใบไม้พุ่มในพื้นที่ที่มันออกล่า ซึ่งมีสีเหมือนกับสีขนของมัน ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า “ชิบะ” ในภาษาญี่ปุ่นมี 2 ความหมายด้วยกันก็คือ “เล็ก” และ “ป่าไม้พุ่ม” ในขณะที่ “อินุ” หมายถึงหมา
แต่เดิม ชิบะอินุได้รับการเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อล่านกหรือสัตว์ป่าขนาดเล็ก แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ พวกมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของหมาในฝันสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อน นอกจากความสามารถด้านการล่าสัตว์และการสะกดรอยแล้ว ชิบะอินุยังสามารถทำตามคำสั่งต่างๆ ได้อีกมากมายเมื่อได้รับการฝึก



นิสัยของชิบะอินุ

     ชิบะอินุเทียบได้กับหมาตัวใหญ่ที่ติดอยู่ในร่างขนาดเล็กกะทัดรัด เนื่องจากมันเป็นหมาที่กล้าหาญและท้าทายทุกอย่าง และชอบการผจญภัยอีกด้วย มันปกป้องพื้นที่ของมันและเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ชิบะอินุก็เป็นสายพันธุ์ที่น่ารักและอ่อนโยน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็กเล็กๆ พวกมันค่อนข้างสงวนท่าทีในช่วงแรก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ เจ้าของไม่ควรทิ้งชิบะอินุไว้กับสัตว์เล็กๆ เนื่องจากมันอาจเข้าจู่โจมได้ 



การออกกำลังกาย

     ชิบะอินุต้องการการออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น การเดินเล่นวันละ 20-30 นาทีดีต่อสุขภาพของมัน พวกมันเป็นสายพันธุ์ที่มีความตื่นตัวสูง แต่ก็ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรนัก และสามารถปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกายได้ทุกแบบ

ที่อยู่อาศัยและการดูแลรักษา

     ด้วยขนาดตัวของมัน ชิบะอินุสามารถอยู่ในพื้นที่แคบๆได้ หากได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามีสวนเล็กๆ หรือสวนขนาดปานกลางให้มัน มันก็จะชอบมาก ควรให้ชิบะอินุอาศัยอยู่กับเจ้าของ เนื่องจากมันจะนับตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ขนของชิบะอินุเหมาะกับทุกสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาว อีกทั้งยังหนาและแน่นมาก จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

ปัญหาด้านสุขภาพ

     แม้ว่าชิบะอินุจะเป็นสายพันธุ์ที่สุขภาพค่อนข้างดีและมีโรคทางพันธุกรรมน้อย แต่ก็มีโอกาสเป็นโรคสะโพกเลื่อนหรือเข่าหลุดได้เช่นกัน



4508
มารู้จักชิบะ อินุ (Shiba Inu) : หมาหน้าแป้นจากแดนอาทิตย์อุทัย




     ชิบะอินุเป็นหมาขนหนาขนาดกะทัดรัด บางคนก็บอกว่ามันคือหมาพันธุ์อากิตะแบบย่อส่วน มันมีใบหน้าเรียว ดวงตาเล็กๆ สีเข้ม จมูกสีเข้ม ฟันเรียงตัวเป็นแนวกรรไกร และหูทรงสามเหลี่ยมเล็กๆ ที่ตั้งตรงอีก 1 คู่ หางของชิบะอินุเหมือนกับหมาของญี่ปุ่นอีกพันธุ์หนึ่งซึ่งก็คือ สปิตช์ หางของมันฟูยาวและม้วนเป็นวงกลมกลับมาอยู่บนหลังของมัน หรือบางครั้งก็ทอดเป็นเส้นโค้งที่นุ่มสลวย ลักษณะพิเศษอีกอย่างหนึ่งของชิบะอินุคือแต้มสีขาวหรือสีครีมที่บริเวณแก้ม ลำคอ ท้อง หน้าอก และข้างจมูก แต่บางตัวก็มีรอยแต้มเหล่านี้ถึงแค่ส่วนขาและปลายหาง

     อายุขัยโดยเฉลี่ยของชิบะอินุจะอยู่ที่ระหว่าง 12-15 ปี มันเป็นหมาที่มีระดับพลังงานปานกลางเหมือนกับขนาดตัวของมัน มีความยืดหยุ่นสูงในเรื่องของที่อยู่อาศัย และสามารถอยู่ในพื้นที่จำกัดได้โดยไม่มีปัญหา สีขนของชิบะอินุมีทั้งสีแดง แดงแซมดำ และสีดำกับรอยแต้มสีเข้ม



กว่าจะเป็นชิบะอินุ

     ชิบะอินุเป็นหมาพันธุ์เอเชียที่โดดเด่นมากพันธุ์หนึ่ง พวกมันถูกพาจากประเทศจีนมายังญี่ปุ่นเมื่อราว 2,000 ปีก่อน และเป็นหมา 1 ใน 6 สายพันธุ์ที่เกิดจากการผสมพันธุ์ระหว่างเชาเชากับหมาท้องถิ่นของคิวชู มีรายงานว่าชื่อของมันตั้งตามสีแดงของใบไม้พุ่มในพื้นที่ที่มันออกล่า ซึ่งมีสีเหมือนกับสีขนของมัน ยิ่งไปกว่านั้น คำว่า “ชิบะ” ในภาษาญี่ปุ่นมี 2 ความหมายด้วยกันก็คือ “เล็ก” และ “ป่าไม้พุ่ม” ในขณะที่ “อินุ” หมายถึงหมา
แต่เดิม ชิบะอินุได้รับการเพาะพันธุ์ขึ้นเพื่อล่านกหรือสัตว์ป่าขนาดเล็ก แต่ในช่วงหลังๆ มานี้ พวกมันได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในฐานะของหมาในฝันสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อน นอกจากความสามารถด้านการล่าสัตว์และการสะกดรอยแล้ว ชิบะอินุยังสามารถทำตามคำสั่งต่างๆ ได้อีกมากมายเมื่อได้รับการฝึก



นิสัยของชิบะอินุ

     ชิบะอินุเทียบได้กับหมาตัวใหญ่ที่ติดอยู่ในร่างขนาดเล็กกะทัดรัด เนื่องจากมันเป็นหมาที่กล้าหาญและท้าทายทุกอย่าง และชอบการผจญภัยอีกด้วย มันปกป้องพื้นที่ของมันและเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ดี แต่ถึงอย่างนั้น ชิบะอินุก็เป็นสายพันธุ์ที่น่ารักและอ่อนโยน ทำให้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเลี้ยงเป็นเพื่อนเด็กเล็กๆ พวกมันค่อนข้างสงวนท่าทีในช่วงแรก โดยเฉพาะกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ เจ้าของไม่ควรทิ้งชิบะอินุไว้กับสัตว์เล็กๆ เนื่องจากมันอาจเข้าจู่โจมได้ 



การออกกำลังกาย

     ชิบะอินุต้องการการออกกำลังกายในระดับปานกลาง เช่น การเดินเล่นวันละ 20-30 นาทีดีต่อสุขภาพของมัน พวกมันเป็นสายพันธุ์ที่มีความตื่นตัวสูง แต่ก็ไม่ค่อยเรียกร้องอะไรนัก และสามารถปรับตัวให้เข้ากับการออกกำลังกายได้ทุกแบบ

ที่อยู่อาศัยและการดูแลรักษา

     ด้วยขนาดตัวของมัน ชิบะอินุสามารถอยู่ในพื้นที่แคบๆได้ หากได้รับการออกกำลังกายอย่างเพียงพอ แต่ถึงอย่างนั้นถ้ามีสวนเล็กๆ หรือสวนขนาดปานกลางให้มัน มันก็จะชอบมาก ควรให้ชิบะอินุอาศัยอยู่กับเจ้าของ เนื่องจากมันจะนับตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว
ขนของชิบะอินุเหมาะกับทุกสภาพอากาศทั้งร้อนและหนาว อีกทั้งยังหนาและแน่นมาก จึงทำให้ง่ายต่อการดูแลรักษาและทำความสะอาดเป็นอย่างยิ่ง

ปัญหาด้านสุขภาพ

     แม้ว่าชิบะอินุจะเป็นสายพันธุ์ที่สุขภาพค่อนข้างดีและมีโรคทางพันธุกรรมน้อย แต่ก็มีโอกาสเป็นโรคสะโพกเลื่อนหรือเข่าหลุดได้เช่นกัน



4509
5 สัญญาณโรคเหงือกในหมา

     มีแบคทีเรียมากมายอาศัยอยู่บนร่างกายของคนเรา และบนร่ายกายของหมาเราด้วย เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้ไปสะสมอยู่ที่เหงือกหมาในรูปแบบของคราบฟัน พวกมันก็สามารถทำให้เหงือกของหมามีปัญหาได้ ซึ่งปัญหาในช่องปากเหล่านี้ จะพบได้มากที่สุดในหมาที่โตเต็มที่แล้ว

     คนเลี้ยงหมาหลายคนเชื่อว่า คราบหินปูนสีน้ำตาลเคลือบอยู่บนฟันของหมา คือสาเหตุของการเกิดโรคเหงือก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นคราบแบคทีเรียต่างหากที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือก แต่คราบหินปูนก็ทำให้สามารถรู้ได้เช่นกันว่า แบคทีเรียจะไปซ่อนตัวเกาะกลุ่มกันที่ไหน



สัญญาณของโรคเหงือกในหมา

•   เหงือกอักเสบ อาการของเหงือกอักเสบ จะเริ่มแสดงอาการผ่านทางเหงือกที่บวมแดง
•   ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ก่อนจะเห็นว่าเหงือกของหมาบวมแดงจากโรคเหงือกอักเสบ เจ้าของหมาหลายคนมักจะรู้ก่อน และแทบจะในทันที ว่าลมหายใจของหมาของตัวเองมีกลิ่นเหม็น หลายคนคิดว่าการที่หมามีกลิ่นปากเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของกลิ่นปากในหมา คือโรคภายในช่องปาก
•   เหงือกร่น การที่เหงือกร่นออกจากฟันคือสัญญาณหนึ่งของโรคเหงือก ในกรณีที่โรคเริ่มมีอาการที่รุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อเหงือกจะถดถอย ทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้
•   เลือดออก หากเหงือกของหมาคุณมีเลือดออกขณะที่มันกินอาหาร ขณะที่คุณดูในปากของมัน หรือแปรงฟันให้มัน ก็เป็นสัญญาณที่บอกถึงโรคเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงได้เช่นกัน
•   ฟันหลุด สัญญาขั้นสุดท้ายของโรคเหงือกอักเสบ



การตรวจรักษาโรคเหงือกในหมา

     หากตรวจพบว่าหมาคุณเป็นโรคเหงือกอักเสบ และได้รับการรักษาก่อนที่เป็นขั้นรุนแรง เหงือกของหมาก็สามารถกลับมามีสภาพเป็นปกติเหมือนเดิมได้ เพราะแบคทีเรียถูกกำจัดออกไปก่อนที่มันจะแพร่กระจายและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

     แต่ถ้าหากโรคเหงือกอักเสบถูกปล่อยปละละเลยจนมีอาการในระดับที่รุนแรง นั่นก็หมายความว่า หมาของคุณอาจมีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หมาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมาที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 10 กิโลกรัม มักจะเป็นโรคเหงือกในระดับใดระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางพันธุกรรมของมันด้วย โดยโรคในช่องปากสามารถเริ่มมีอาการได้เมื่อหมาอายุ 18 เดือนเป็นต้นไป

     เมื่ออาการโรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น หมาของคุณก็จะเริ่มสูญเสียกระดูกและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบฟัน และสัตวแพทย์ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก เพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

     ปัญหาอื่นๆ ที่ตามมารวมถึงการแตกร้าวในกราม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากกระดูกกรามเปราะ การติดเชื้อในกระดูก มีรู (หรือรูทะลุ) ในโพรงจมูกเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหากับระบบการหายใจ นอกจากนี้ โรคในช่องปากที่ร้ายแรงยังส่งผลถึงหัวใจ ตับ และไตได้ด้วย

     วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเหงือกให้กับหมาของคุณก็คือ การแปรงฟันให้มัน คุณควรจะแปรงฟันให้หมาวันละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ 2 ครั้งต่อสัปดาห์  มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกให้หมาของคุณได้ แต่ก็ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ สิ่งสำคัญที่คุณควรจำไว้ให้ดีก็คือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยเสริมสุขภาพภายในช่องปากของหมาเท่านั้น มันไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้

     การได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน การทำความสะอาดฟันและขัดฟันโดยสัตวแพทย์จะมีการวางยาสลบด้วย  นอกเหนือไปจากการแปรงฟันเองที่บ้านแล้ว หมาขนาดเล็ก (น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม) ควรได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง ในขณะที่หมาพันธุ์ใหญ่ควรเข้ารับการทำความสะอาดฟันทุกๆ 2-3 ปี



4510
5 สัญญาณโรคเหงือกในหมา

     มีแบคทีเรียมากมายอาศัยอยู่บนร่างกายของคนเรา และบนร่ายกายของหมาเราด้วย เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้ไปสะสมอยู่ที่เหงือกหมาในรูปแบบของคราบฟัน พวกมันก็สามารถทำให้เหงือกของหมามีปัญหาได้ ซึ่งปัญหาในช่องปากเหล่านี้ จะพบได้มากที่สุดในหมาที่โตเต็มที่แล้ว

     คนเลี้ยงหมาหลายคนเชื่อว่า คราบหินปูนสีน้ำตาลเคลือบอยู่บนฟันของหมา คือสาเหตุของการเกิดโรคเหงือก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นคราบแบคทีเรียต่างหากที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือก แต่คราบหินปูนก็ทำให้สามารถรู้ได้เช่นกันว่า แบคทีเรียจะไปซ่อนตัวเกาะกลุ่มกันที่ไหน



สัญญาณของโรคเหงือกในหมา

•   เหงือกอักเสบ อาการของเหงือกอักเสบ จะเริ่มแสดงอาการผ่านทางเหงือกที่บวมแดง
•   ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ก่อนจะเห็นว่าเหงือกของหมาบวมแดงจากโรคเหงือกอักเสบ เจ้าของหมาหลายคนมักจะรู้ก่อน และแทบจะในทันที ว่าลมหายใจของหมาของตัวเองมีกลิ่นเหม็น หลายคนคิดว่าการที่หมามีกลิ่นปากเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของกลิ่นปากในหมา คือโรคภายในช่องปาก
•   เหงือกร่น การที่เหงือกร่นออกจากฟันคือสัญญาณหนึ่งของโรคเหงือก ในกรณีที่โรคเริ่มมีอาการที่รุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อเหงือกจะถดถอย ทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้
•   เลือดออก หากเหงือกของหมาคุณมีเลือดออกขณะที่มันกินอาหาร ขณะที่คุณดูในปากของมัน หรือแปรงฟันให้มัน ก็เป็นสัญญาณที่บอกถึงโรคเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงได้เช่นกัน
•   ฟันหลุด สัญญาขั้นสุดท้ายของโรคเหงือกอักเสบ



การตรวจรักษาโรคเหงือกในหมา

     หากตรวจพบว่าหมาคุณเป็นโรคเหงือกอักเสบ และได้รับการรักษาก่อนที่เป็นขั้นรุนแรง เหงือกของหมาก็สามารถกลับมามีสภาพเป็นปกติเหมือนเดิมได้ เพราะแบคทีเรียถูกกำจัดออกไปก่อนที่มันจะแพร่กระจายและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

     แต่ถ้าหากโรคเหงือกอักเสบถูกปล่อยปละละเลยจนมีอาการในระดับที่รุนแรง นั่นก็หมายความว่า หมาของคุณอาจมีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หมาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมาที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 10 กิโลกรัม มักจะเป็นโรคเหงือกในระดับใดระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางพันธุกรรมของมันด้วย โดยโรคในช่องปากสามารถเริ่มมีอาการได้เมื่อหมาอายุ 18 เดือนเป็นต้นไป

     เมื่ออาการโรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น หมาของคุณก็จะเริ่มสูญเสียกระดูกและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบฟัน และสัตวแพทย์ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก เพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

     ปัญหาอื่นๆ ที่ตามมารวมถึงการแตกร้าวในกราม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากกระดูกกรามเปราะ การติดเชื้อในกระดูก มีรู (หรือรูทะลุ) ในโพรงจมูกเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหากับระบบการหายใจ นอกจากนี้ โรคในช่องปากที่ร้ายแรงยังส่งผลถึงหัวใจ ตับ และไตได้ด้วย

     วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเหงือกให้กับหมาของคุณก็คือ การแปรงฟันให้มัน คุณควรจะแปรงฟันให้หมาวันละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ 2 ครั้งต่อสัปดาห์  มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกให้หมาของคุณได้ แต่ก็ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ สิ่งสำคัญที่คุณควรจำไว้ให้ดีก็คือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยเสริมสุขภาพภายในช่องปากของหมาเท่านั้น มันไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้

     การได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน การทำความสะอาดฟันและขัดฟันโดยสัตวแพทย์จะมีการวางยาสลบด้วย  นอกเหนือไปจากการแปรงฟันเองที่บ้านแล้ว หมาขนาดเล็ก (น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม) ควรได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง ในขณะที่หมาพันธุ์ใหญ่ควรเข้ารับการทำความสะอาดฟันทุกๆ 2-3 ปี



4511
5 สัญญาณโรคเหงือกในหมา

     มีแบคทีเรียมากมายอาศัยอยู่บนร่างกายของคนเรา และบนร่ายกายของหมาเราด้วย เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้ไปสะสมอยู่ที่เหงือกหมาในรูปแบบของคราบฟัน พวกมันก็สามารถทำให้เหงือกของหมามีปัญหาได้ ซึ่งปัญหาในช่องปากเหล่านี้ จะพบได้มากที่สุดในหมาที่โตเต็มที่แล้ว

     คนเลี้ยงหมาหลายคนเชื่อว่า คราบหินปูนสีน้ำตาลเคลือบอยู่บนฟันของหมา คือสาเหตุของการเกิดโรคเหงือก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นคราบแบคทีเรียต่างหากที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือก แต่คราบหินปูนก็ทำให้สามารถรู้ได้เช่นกันว่า แบคทีเรียจะไปซ่อนตัวเกาะกลุ่มกันที่ไหน



สัญญาณของโรคเหงือกในหมา

•   เหงือกอักเสบ อาการของเหงือกอักเสบ จะเริ่มแสดงอาการผ่านทางเหงือกที่บวมแดง
•   ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ก่อนจะเห็นว่าเหงือกของหมาบวมแดงจากโรคเหงือกอักเสบ เจ้าของหมาหลายคนมักจะรู้ก่อน และแทบจะในทันที ว่าลมหายใจของหมาของตัวเองมีกลิ่นเหม็น หลายคนคิดว่าการที่หมามีกลิ่นปากเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของกลิ่นปากในหมา คือโรคภายในช่องปาก
•   เหงือกร่น การที่เหงือกร่นออกจากฟันคือสัญญาณหนึ่งของโรคเหงือก ในกรณีที่โรคเริ่มมีอาการที่รุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อเหงือกจะถดถอย ทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้
•   เลือดออก หากเหงือกของหมาคุณมีเลือดออกขณะที่มันกินอาหาร ขณะที่คุณดูในปากของมัน หรือแปรงฟันให้มัน ก็เป็นสัญญาณที่บอกถึงโรคเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงได้เช่นกัน
•   ฟันหลุด สัญญาขั้นสุดท้ายของโรคเหงือกอักเสบ



การตรวจรักษาโรคเหงือกในหมา

     หากตรวจพบว่าหมาคุณเป็นโรคเหงือกอักเสบ และได้รับการรักษาก่อนที่เป็นขั้นรุนแรง เหงือกของหมาก็สามารถกลับมามีสภาพเป็นปกติเหมือนเดิมได้ เพราะแบคทีเรียถูกกำจัดออกไปก่อนที่มันจะแพร่กระจายและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

     แต่ถ้าหากโรคเหงือกอักเสบถูกปล่อยปละละเลยจนมีอาการในระดับที่รุนแรง นั่นก็หมายความว่า หมาของคุณอาจมีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หมาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมาที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 10 กิโลกรัม มักจะเป็นโรคเหงือกในระดับใดระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางพันธุกรรมของมันด้วย โดยโรคในช่องปากสามารถเริ่มมีอาการได้เมื่อหมาอายุ 18 เดือนเป็นต้นไป

     เมื่ออาการโรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น หมาของคุณก็จะเริ่มสูญเสียกระดูกและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบฟัน และสัตวแพทย์ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก เพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

     ปัญหาอื่นๆ ที่ตามมารวมถึงการแตกร้าวในกราม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากกระดูกกรามเปราะ การติดเชื้อในกระดูก มีรู (หรือรูทะลุ) ในโพรงจมูกเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหากับระบบการหายใจ นอกจากนี้ โรคในช่องปากที่ร้ายแรงยังส่งผลถึงหัวใจ ตับ และไตได้ด้วย

     วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเหงือกให้กับหมาของคุณก็คือ การแปรงฟันให้มัน คุณควรจะแปรงฟันให้หมาวันละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ 2 ครั้งต่อสัปดาห์  มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกให้หมาของคุณได้ แต่ก็ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ สิ่งสำคัญที่คุณควรจำไว้ให้ดีก็คือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยเสริมสุขภาพภายในช่องปากของหมาเท่านั้น มันไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้

     การได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน การทำความสะอาดฟันและขัดฟันโดยสัตวแพทย์จะมีการวางยาสลบด้วย  นอกเหนือไปจากการแปรงฟันเองที่บ้านแล้ว หมาขนาดเล็ก (น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม) ควรได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง ในขณะที่หมาพันธุ์ใหญ่ควรเข้ารับการทำความสะอาดฟันทุกๆ 2-3 ปี



4512
5 สัญญาณโรคเหงือกในหมา

     มีแบคทีเรียมากมายอาศัยอยู่บนร่างกายของคนเรา และบนร่ายกายของหมาเราด้วย เมื่อแบคทีเรียเหล่านี้ไปสะสมอยู่ที่เหงือกหมาในรูปแบบของคราบฟัน พวกมันก็สามารถทำให้เหงือกของหมามีปัญหาได้ ซึ่งปัญหาในช่องปากเหล่านี้ จะพบได้มากที่สุดในหมาที่โตเต็มที่แล้ว

     คนเลี้ยงหมาหลายคนเชื่อว่า คราบหินปูนสีน้ำตาลเคลือบอยู่บนฟันของหมา คือสาเหตุของการเกิดโรคเหงือก แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นคราบแบคทีเรียต่างหากที่เป็นสาเหตุของโรคเหงือก แต่คราบหินปูนก็ทำให้สามารถรู้ได้เช่นกันว่า แบคทีเรียจะไปซ่อนตัวเกาะกลุ่มกันที่ไหน



สัญญาณของโรคเหงือกในหมา

•   เหงือกอักเสบ อาการของเหงือกอักเสบ จะเริ่มแสดงอาการผ่านทางเหงือกที่บวมแดง
•   ลมหายใจมีกลิ่นเหม็น ก่อนจะเห็นว่าเหงือกของหมาบวมแดงจากโรคเหงือกอักเสบ เจ้าของหมาหลายคนมักจะรู้ก่อน และแทบจะในทันที ว่าลมหายใจของหมาของตัวเองมีกลิ่นเหม็น หลายคนคิดว่าการที่หมามีกลิ่นปากเป็นเรื่องปกติ แต่ส่วนใหญ่แล้วสาเหตุของกลิ่นปากในหมา คือโรคภายในช่องปาก
•   เหงือกร่น การที่เหงือกร่นออกจากฟันคือสัญญาณหนึ่งของโรคเหงือก ในกรณีที่โรคเริ่มมีอาการที่รุนแรงขึ้น เนื้อเยื่อเหงือกจะถดถอย ทำให้สามารถมองเห็นรากฟันได้
•   เลือดออก หากเหงือกของหมาคุณมีเลือดออกขณะที่มันกินอาหาร ขณะที่คุณดูในปากของมัน หรือแปรงฟันให้มัน ก็เป็นสัญญาณที่บอกถึงโรคเหงือกอักเสบขั้นรุนแรงได้เช่นกัน
•   ฟันหลุด สัญญาขั้นสุดท้ายของโรคเหงือกอักเสบ



การตรวจรักษาโรคเหงือกในหมา

     หากตรวจพบว่าหมาคุณเป็นโรคเหงือกอักเสบ และได้รับการรักษาก่อนที่เป็นขั้นรุนแรง เหงือกของหมาก็สามารถกลับมามีสภาพเป็นปกติเหมือนเดิมได้ เพราะแบคทีเรียถูกกำจัดออกไปก่อนที่มันจะแพร่กระจายและทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น

     แต่ถ้าหากโรคเหงือกอักเสบถูกปล่อยปละละเลยจนมีอาการในระดับที่รุนแรง นั่นก็หมายความว่า หมาของคุณอาจมีปัญหาสุขภาพที่ร้ายแรงได้ หมาส่วนใหญ่ โดยเฉพาะหมาที่มีน้ำหนักต่ำกว่า 10 กิโลกรัม มักจะเป็นโรคเหงือกในระดับใดระดับหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพทางพันธุกรรมของมันด้วย โดยโรคในช่องปากสามารถเริ่มมีอาการได้เมื่อหมาอายุ 18 เดือนเป็นต้นไป

     เมื่ออาการโรคเหงือกอักเสบรุนแรงขึ้น หมาของคุณก็จะเริ่มสูญเสียกระดูกและเนื้อเยื่อที่อยู่รอบฟัน และสัตวแพทย์ก็อาจจำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออก เพราะไม่สามารถแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว

     ปัญหาอื่นๆ ที่ตามมารวมถึงการแตกร้าวในกราม ซึ่งเป็นผลเนื่องมาจากกระดูกกรามเปราะ การติดเชื้อในกระดูก มีรู (หรือรูทะลุ) ในโพรงจมูกเกิดขึ้นจนทำให้เกิดปัญหากับระบบการหายใจ นอกจากนี้ โรคในช่องปากที่ร้ายแรงยังส่งผลถึงหัวใจ ตับ และไตได้ด้วย

     วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันโรคเหงือกให้กับหมาของคุณก็คือ การแปรงฟันให้มัน คุณควรจะแปรงฟันให้หมาวันละ 1 ครั้ง หรืออย่างน้อยที่สุดก็ 2 ครั้งต่อสัปดาห์  มีผลิตภัณฑ์มากมายที่ช่วยรักษาสุขภาพเหงือกให้หมาของคุณได้ แต่ก็ควรเลือกใช้ของที่มีคุณภาพได้มาตรฐานหรือได้รับการรับรองจากสัตวแพทย์ สิ่งสำคัญที่คุณควรจำไว้ให้ดีก็คือ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีไว้เพื่อช่วยเสริมสุขภาพภายในช่องปากของหมาเท่านั้น มันไม่สามารถทดแทนการแปรงฟันได้

     การได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์ก็เป็นเรื่องที่จำเป็นเช่นกัน การทำความสะอาดฟันและขัดฟันโดยสัตวแพทย์จะมีการวางยาสลบด้วย  นอกเหนือไปจากการแปรงฟันเองที่บ้านแล้ว หมาขนาดเล็ก (น้ำหนักน้อยกว่า 10 กิโลกรัม) ควรได้รับการทำความสะอาดฟันจากสัตวแพทย์อย่างน้อยปีละ1 ครั้ง ในขณะที่หมาพันธุ์ใหญ่ควรเข้ารับการทำความสะอาดฟันทุกๆ 2-3 ปี



4513
รู้จักไซบีเรียนฮัสกี้ : สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างที่คิด



     ดวงตาที่ดึงดูดใจ เสียงหอนที่โหยหวน และความทนทานที่ดูราวกับจะไร้ขีดจำกัด ไซบีเรียนฮัสกี้ คือ หมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความทรหดและอดทนต่อการทำงานหนักเป็นอย่างยิ่ง แต่หมาพันธุ์นี้ยังมีอะไรมากกว่าที่คุณมองเห็นได้จากภายนอกมากมายนัก จริงๆ แล้ว ไซบีเรียนฮัสกี้เองก็มีด้านที่อ่อนโยนเหมือนกัน มันเป็นหมาที่มีนิสัยอ่อนหวานและน่ารักขี้อ้อน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ไม่ธรรมดาเลย แต่หมาสายพันธุ์นี้ก็ยังมีอะไรที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นอีก

     ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาลากเลื่อนที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากชาวชุกชี ชนพื้นเมืองแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย ที่อาศัยอยู่ทางเหนือของช่องแคบเบริง จุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศรัสเซียและรัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หมาของชาวชุกชีถูกพาเข้ามาในอลาสก้าโดยนักค้าขนสัตว์ชาวรัสเซียที่ชื่อ วิลเลียม กูซาค เขาใช้พวกมันเป็นหมาลากเลื่อนในการแข่งขันลากเลื่อนหลายรายการ ชาวอลาสก้าที่สนใจหมาลากเลื่อนต่างก็เกิดความประทับใจต่อหมาของชาวชุกชีเป็นอย่างมากจนนำสายพันธุ์ไปพัฒนาต่อ และทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เราต่างก็รู้จักกันดีในทุกวันนี้ [url=http://www.marketdogs.com/b35/t486/]ไซบีเรียนฮัสกี้[/url]



    ไซบีเรียนฮัสกี้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่องมาจากหมาของชาวชุกชี ได้ทำงานเป็นหมาลากเลื่อนอยู่ทางเหนืออันห่างไกล และไม่ได้เป็นที่รู้จักของโลกภายนอกจนกระทั่งฤดูหนาวปี 1925 เมื่อโรคคอตีบระบาดในเมืองโนม เมืองทุรกันดานห่างไกลเมืองหนึ่งของอลาสก้า แม้ว่าจะมีเซรุ่มเพียงพอ แต่ด้วยสภาพวะอากาศที่หนาวจัด ทำให้การเดินทางขนส่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก และการเข้าถึงเมืองนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือจุดที่ไซบีเรียนฮัสกี้เข้ามามีบทบาท มีการจัดทีมลากเลื่อนเพื่อส่งต่อเซรุ่มเป็นทอดๆ จนสามารถนำยาช่วยชีวิตเหล่านี้ไปส่งให้กับชาวเมืองโนมได้ และไซบีเรียนฮัสกี้ก็กลายมาเป็นฮีโร่ของประเทศในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน



     เลออนฮาร์ด เซบปาลา คือหนึ่งในคนบังคับเลื่อนของทีมลากเลื่อนส่งเซรุ่มทีมนี้ และเป็นคนที่เดินทางในเส้นทางช่วงระยะที่ยาวที่สุด และมีสภาพการเดินทางที่เลวร้ายที่สุด เขาพาหมาของเขาออกเดินทางโชว์ตัวทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักหมาพันธุ์นี้ และรับคำท้ามากมายเพื่อแสดงศักยภาพของพวกมันในฐานะหมาลากเลื่อนนับครั้งไม่ถ้วน เซบปาลามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสายพันธุ์ของไซบีเรียนฮัสกี้ และเป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามตั้งมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้น จนกระทั่งมีการตั้ง Siberian Husky Club of America (SHCA) ในปี 1938
สำหรับปัจจุบัน เจ้าหมาสายพันธุ์ที่ทรหดอดทนต่อการทำงานนี้ ในมุมหนึ่งแล้ว พวกมันก็สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้านที่ดีได้ ไซบีเรียนฮัสกี้อยู่ที่อันดับที่ 16 ของการจัดอันดับสายพันธุ์หมายอดนิยมปี 2011 และหากคุณอยากรู้ว่าหมาพันธุ์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่ คุณก็ควรจะลองพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้

     เริ่มแรกเลยก็คือ หมาพวกนี้ต้องการการออกกำลังกาย สัญชาตญาณตามธรรมชาติของไซบีเรียนฮัสกี้ คือการวิ่ง และวิ่ง และวิ่ง การได้ออกกำลังกายทุกวันคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับพวกมัน และเจ้าของก็ควรเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ในบริเวณพื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด หรือมีสายจูงและอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา

     และก็เหมือนกับหมาทำงานส่วนใหญ่ ไซบีเรียนฮัสกี้จะมีความสุขมากที่สุดก็เมื่อมีงานให้พวกมันทำ หมาพวกนี้จะมีความสุขมากเมื่อได้ลากเลื่อน แต่การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งก็สามารถปรับพฤติกรรมของหมาพันธุ์นี้ได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

     หากคุณชอบหมาที่ฉลาดแต่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไซบีเรียนฮัสกี้จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี มันเป็นหมาที่ร่าเริงและอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ กระตือรือร้นและตื่นตัว ไซบีเรียนฮัสกี้ยังเป็นนักคิดอีกด้วย แต่พวกมันกลับฝึกสอนได้ไม่ง่ายนัก มีแต่ต้องทุ่มเทความอดทนและมุ่งมั่นในการฝึกเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น คุณจึงจะได้เป็นเจ้าของหมาที่ทั้งสง่างามและมีมารยาทดี



     นอกจากนี้ ไซบีเรียนฮัสกี้ยังไม่ใช่หมาที่ชอบอยู่เงียบๆ เท่าไรนัก มันขึ้นชื่อในเรื่องของเสียงหอนที่เหมือนกับเสียงหอนของหมาป่า แต่การบรรเลงดนตรีจากไซบีเรียนฮัสกี้ยังรวมไปถึงการเห่า และสิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการร้องเพลงอีกด้วย

     พวกมันต้องการการดูแลรักษาพอสมควร ไซบีเรียนฮัสกี้สามารถรักษาความสะอาดของตัวเองได้ค่อนข้างดี แต่ขนของพวกมันก็ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย หมาสายพันธุ์นี้มีขนหนาสองชั้น และต้องการการแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และมีการผลัดขนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

     อีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรใส่ใจก็คือเรื่องสุขภาพ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะถือว่าไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสายพันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก แต่ก็ยังมีประเด็นด้านสุขภาพที่น่าเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่องคือ โรคสะโพกเคลื่อน และโรคตาที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ สำหรับทั้ง 2 โรคนี้จะไม่น่าเป็นห่วงนักหากคุณซื้อไซบีเรียนฮัสกี้จากผู้เพาะพันธุ์ที่มีมารฐานและน่าเชื่อถือ เนื่องจากทั้งสองโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการเพาะพันธุ์อย่างระมัดระวัง

     ไซบีเบียนฮัสกี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นพันธุ์หมาที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันตอบสนองต่อเสียงเรียกจากสัญชาตญาณดึกดำบรรพ์ แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่น่ารักของคนเราอยู่เสมอ เป็นส่วนผสมที่ไม่เลวเลยทีเดียวใช่ไหม



4514
รู้จักไซบีเรียนฮัสกี้ : สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างที่คิด



     ดวงตาที่ดึงดูดใจ เสียงหอนที่โหยหวน และความทนทานที่ดูราวกับจะไร้ขีดจำกัด ไซบีเรียนฮัสกี้ คือ หมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความทรหดและอดทนต่อการทำงานหนักเป็นอย่างยิ่ง แต่หมาพันธุ์นี้ยังมีอะไรมากกว่าที่คุณมองเห็นได้จากภายนอกมากมายนัก จริงๆ แล้ว ไซบีเรียนฮัสกี้เองก็มีด้านที่อ่อนโยนเหมือนกัน มันเป็นหมาที่มีนิสัยอ่อนหวานและน่ารักขี้อ้อน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ไม่ธรรมดาเลย แต่หมาสายพันธุ์นี้ก็ยังมีอะไรที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นอีก

     ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาลากเลื่อนที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากชาวชุกชี ชนพื้นเมืองแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย ที่อาศัยอยู่ทางเหนือของช่องแคบเบริง จุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศรัสเซียและรัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หมาของชาวชุกชีถูกพาเข้ามาในอลาสก้าโดยนักค้าขนสัตว์ชาวรัสเซียที่ชื่อ วิลเลียม กูซาค เขาใช้พวกมันเป็นหมาลากเลื่อนในการแข่งขันลากเลื่อนหลายรายการ ชาวอลาสก้าที่สนใจหมาลากเลื่อนต่างก็เกิดความประทับใจต่อหมาของชาวชุกชีเป็นอย่างมากจนนำสายพันธุ์ไปพัฒนาต่อ และทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เราต่างก็รู้จักกันดีในทุกวันนี้ [url=http://www.marketdogs.com/b35/t486/]ไซบีเรียนฮัสกี้[/url]



    ไซบีเรียนฮัสกี้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่องมาจากหมาของชาวชุกชี ได้ทำงานเป็นหมาลากเลื่อนอยู่ทางเหนืออันห่างไกล และไม่ได้เป็นที่รู้จักของโลกภายนอกจนกระทั่งฤดูหนาวปี 1925 เมื่อโรคคอตีบระบาดในเมืองโนม เมืองทุรกันดานห่างไกลเมืองหนึ่งของอลาสก้า แม้ว่าจะมีเซรุ่มเพียงพอ แต่ด้วยสภาพวะอากาศที่หนาวจัด ทำให้การเดินทางขนส่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก และการเข้าถึงเมืองนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือจุดที่ไซบีเรียนฮัสกี้เข้ามามีบทบาท มีการจัดทีมลากเลื่อนเพื่อส่งต่อเซรุ่มเป็นทอดๆ จนสามารถนำยาช่วยชีวิตเหล่านี้ไปส่งให้กับชาวเมืองโนมได้ และไซบีเรียนฮัสกี้ก็กลายมาเป็นฮีโร่ของประเทศในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน



     เลออนฮาร์ด เซบปาลา คือหนึ่งในคนบังคับเลื่อนของทีมลากเลื่อนส่งเซรุ่มทีมนี้ และเป็นคนที่เดินทางในเส้นทางช่วงระยะที่ยาวที่สุด และมีสภาพการเดินทางที่เลวร้ายที่สุด เขาพาหมาของเขาออกเดินทางโชว์ตัวทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักหมาพันธุ์นี้ และรับคำท้ามากมายเพื่อแสดงศักยภาพของพวกมันในฐานะหมาลากเลื่อนนับครั้งไม่ถ้วน เซบปาลามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสายพันธุ์ของไซบีเรียนฮัสกี้ และเป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามตั้งมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้น จนกระทั่งมีการตั้ง Siberian Husky Club of America (SHCA) ในปี 1938
สำหรับปัจจุบัน เจ้าหมาสายพันธุ์ที่ทรหดอดทนต่อการทำงานนี้ ในมุมหนึ่งแล้ว พวกมันก็สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้านที่ดีได้ ไซบีเรียนฮัสกี้อยู่ที่อันดับที่ 16 ของการจัดอันดับสายพันธุ์หมายอดนิยมปี 2011 และหากคุณอยากรู้ว่าหมาพันธุ์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่ คุณก็ควรจะลองพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้

     เริ่มแรกเลยก็คือ หมาพวกนี้ต้องการการออกกำลังกาย สัญชาตญาณตามธรรมชาติของไซบีเรียนฮัสกี้ คือการวิ่ง และวิ่ง และวิ่ง การได้ออกกำลังกายทุกวันคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับพวกมัน และเจ้าของก็ควรเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ในบริเวณพื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด หรือมีสายจูงและอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา

     และก็เหมือนกับหมาทำงานส่วนใหญ่ ไซบีเรียนฮัสกี้จะมีความสุขมากที่สุดก็เมื่อมีงานให้พวกมันทำ หมาพวกนี้จะมีความสุขมากเมื่อได้ลากเลื่อน แต่การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งก็สามารถปรับพฤติกรรมของหมาพันธุ์นี้ได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

     หากคุณชอบหมาที่ฉลาดแต่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไซบีเรียนฮัสกี้จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี มันเป็นหมาที่ร่าเริงและอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ กระตือรือร้นและตื่นตัว ไซบีเรียนฮัสกี้ยังเป็นนักคิดอีกด้วย แต่พวกมันกลับฝึกสอนได้ไม่ง่ายนัก มีแต่ต้องทุ่มเทความอดทนและมุ่งมั่นในการฝึกเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น คุณจึงจะได้เป็นเจ้าของหมาที่ทั้งสง่างามและมีมารยาทดี



     นอกจากนี้ ไซบีเรียนฮัสกี้ยังไม่ใช่หมาที่ชอบอยู่เงียบๆ เท่าไรนัก มันขึ้นชื่อในเรื่องของเสียงหอนที่เหมือนกับเสียงหอนของหมาป่า แต่การบรรเลงดนตรีจากไซบีเรียนฮัสกี้ยังรวมไปถึงการเห่า และสิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการร้องเพลงอีกด้วย

     พวกมันต้องการการดูแลรักษาพอสมควร ไซบีเรียนฮัสกี้สามารถรักษาความสะอาดของตัวเองได้ค่อนข้างดี แต่ขนของพวกมันก็ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย หมาสายพันธุ์นี้มีขนหนาสองชั้น และต้องการการแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และมีการผลัดขนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

     อีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรใส่ใจก็คือเรื่องสุขภาพ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะถือว่าไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสายพันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก แต่ก็ยังมีประเด็นด้านสุขภาพที่น่าเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่องคือ โรคสะโพกเคลื่อน และโรคตาที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ สำหรับทั้ง 2 โรคนี้จะไม่น่าเป็นห่วงนักหากคุณซื้อไซบีเรียนฮัสกี้จากผู้เพาะพันธุ์ที่มีมารฐานและน่าเชื่อถือ เนื่องจากทั้งสองโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการเพาะพันธุ์อย่างระมัดระวัง

     ไซบีเบียนฮัสกี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นพันธุ์หมาที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันตอบสนองต่อเสียงเรียกจากสัญชาตญาณดึกดำบรรพ์ แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่น่ารักของคนเราอยู่เสมอ เป็นส่วนผสมที่ไม่เลวเลยทีเดียวใช่ไหม



4515
รู้จักไซบีเรียนฮัสกี้ : สิ่งที่เห็น อาจไม่เป็นอย่างที่คิด



     ดวงตาที่ดึงดูดใจ เสียงหอนที่โหยหวน และความทนทานที่ดูราวกับจะไร้ขีดจำกัด ไซบีเรียนฮัสกี้ คือ หมาที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสายพันธุ์ที่มีความทรหดและอดทนต่อการทำงานหนักเป็นอย่างยิ่ง แต่หมาพันธุ์นี้ยังมีอะไรมากกว่าที่คุณมองเห็นได้จากภายนอกมากมายนัก จริงๆ แล้ว ไซบีเรียนฮัสกี้เองก็มีด้านที่อ่อนโยนเหมือนกัน มันเป็นหมาที่มีนิสัยอ่อนหวานและน่ารักขี้อ้อน ซึ่งเป็นส่วนผสมที่ไม่ธรรมดาเลย แต่หมาสายพันธุ์นี้ก็ยังมีอะไรที่พิเศษยิ่งไปกว่านั้นอีก

     ไซบีเรียนฮัสกี้เป็นหมาลากเลื่อนที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์มาจากชาวชุกชี ชนพื้นเมืองแถบตะวันออกเฉียงเหนือของเอเชีย ที่อาศัยอยู่ทางเหนือของช่องแคบเบริง จุดเชื่อมต่อระหว่างประเทศรัสเซียและรัฐอลาสก้าของสหรัฐอเมริกา ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หมาของชาวชุกชีถูกพาเข้ามาในอลาสก้าโดยนักค้าขนสัตว์ชาวรัสเซียที่ชื่อ วิลเลียม กูซาค เขาใช้พวกมันเป็นหมาลากเลื่อนในการแข่งขันลากเลื่อนหลายรายการ ชาวอลาสก้าที่สนใจหมาลากเลื่อนต่างก็เกิดความประทับใจต่อหมาของชาวชุกชีเป็นอย่างมากจนนำสายพันธุ์ไปพัฒนาต่อ และทำให้เกิดเป็นสายพันธุ์ใหม่ที่เราต่างก็รู้จักกันดีในทุกวันนี้ [url=http://www.marketdogs.com/b35/t486/]ไซบีเรียนฮัสกี้[/url]



    ไซบีเรียนฮัสกี้ที่ได้รับการพัฒนาสายพันธุ์ต่อเนื่องมาจากหมาของชาวชุกชี ได้ทำงานเป็นหมาลากเลื่อนอยู่ทางเหนืออันห่างไกล และไม่ได้เป็นที่รู้จักของโลกภายนอกจนกระทั่งฤดูหนาวปี 1925 เมื่อโรคคอตีบระบาดในเมืองโนม เมืองทุรกันดานห่างไกลเมืองหนึ่งของอลาสก้า แม้ว่าจะมีเซรุ่มเพียงพอ แต่ด้วยสภาพวะอากาศที่หนาวจัด ทำให้การเดินทางขนส่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก และการเข้าถึงเมืองนี้ก็แทบเป็นไปไม่ได้เลย นี่คือจุดที่ไซบีเรียนฮัสกี้เข้ามามีบทบาท มีการจัดทีมลากเลื่อนเพื่อส่งต่อเซรุ่มเป็นทอดๆ จนสามารถนำยาช่วยชีวิตเหล่านี้ไปส่งให้กับชาวเมืองโนมได้ และไซบีเรียนฮัสกี้ก็กลายมาเป็นฮีโร่ของประเทศในเวลาเพียงชั่วข้ามคืน



     เลออนฮาร์ด เซบปาลา คือหนึ่งในคนบังคับเลื่อนของทีมลากเลื่อนส่งเซรุ่มทีมนี้ และเป็นคนที่เดินทางในเส้นทางช่วงระยะที่ยาวที่สุด และมีสภาพการเดินทางที่เลวร้ายที่สุด เขาพาหมาของเขาออกเดินทางโชว์ตัวทั่วสหรัฐอเมริกาเพื่อให้ทุกคนได้รู้จักหมาพันธุ์นี้ และรับคำท้ามากมายเพื่อแสดงศักยภาพของพวกมันในฐานะหมาลากเลื่อนนับครั้งไม่ถ้วน เซบปาลามีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาสายพันธุ์ของไซบีเรียนฮัสกี้ และเป็นหนึ่งในผู้ที่พยายามตั้งมาตรฐานสายพันธุ์ขึ้น จนกระทั่งมีการตั้ง Siberian Husky Club of America (SHCA) ในปี 1938
สำหรับปัจจุบัน เจ้าหมาสายพันธุ์ที่ทรหดอดทนต่อการทำงานนี้ ในมุมหนึ่งแล้ว พวกมันก็สามารถเป็นสัตว์เลี้ยงภายในบ้านที่ดีได้ ไซบีเรียนฮัสกี้อยู่ที่อันดับที่ 16 ของการจัดอันดับสายพันธุ์หมายอดนิยมปี 2011 และหากคุณอยากรู้ว่าหมาพันธุ์นี้เหมาะกับคุณหรือไม่ คุณก็ควรจะลองพิจารณาจากสิ่งต่อไปนี้

     เริ่มแรกเลยก็คือ หมาพวกนี้ต้องการการออกกำลังกาย สัญชาตญาณตามธรรมชาติของไซบีเรียนฮัสกี้ คือการวิ่ง และวิ่ง และวิ่ง การได้ออกกำลังกายทุกวันคือสิ่งที่จำเป็นอย่างมากสำหรับพวกมัน และเจ้าของก็ควรเลี้ยงไซบีเรียนฮัสกี้ในบริเวณพื้นที่ที่มีรั้วรอบขอบชิด หรือมีสายจูงและอยู่ในการควบคุมตลอดเวลา

     และก็เหมือนกับหมาทำงานส่วนใหญ่ ไซบีเรียนฮัสกี้จะมีความสุขมากที่สุดก็เมื่อมีงานให้พวกมันทำ หมาพวกนี้จะมีความสุขมากเมื่อได้ลากเลื่อน แต่การฝึกให้เชื่อฟังคำสั่งก็สามารถปรับพฤติกรรมของหมาพันธุ์นี้ได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจ

     หากคุณชอบหมาที่ฉลาดแต่มีความเป็นตัวของตัวเอง ไซบีเรียนฮัสกี้จะสามารถตอบโจทย์ของคุณได้เป็นอย่างดี มันเป็นหมาที่ร่าเริงและอยากรู้อยากเห็นโดยธรรมชาติ กระตือรือร้นและตื่นตัว ไซบีเรียนฮัสกี้ยังเป็นนักคิดอีกด้วย แต่พวกมันกลับฝึกสอนได้ไม่ง่ายนัก มีแต่ต้องทุ่มเทความอดทนและมุ่งมั่นในการฝึกเป็นอย่างยิ่งเท่านั้น คุณจึงจะได้เป็นเจ้าของหมาที่ทั้งสง่างามและมีมารยาทดี



     นอกจากนี้ ไซบีเรียนฮัสกี้ยังไม่ใช่หมาที่ชอบอยู่เงียบๆ เท่าไรนัก มันขึ้นชื่อในเรื่องของเสียงหอนที่เหมือนกับเสียงหอนของหมาป่า แต่การบรรเลงดนตรีจากไซบีเรียนฮัสกี้ยังรวมไปถึงการเห่า และสิ่งที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการร้องเพลงอีกด้วย

     พวกมันต้องการการดูแลรักษาพอสมควร ไซบีเรียนฮัสกี้สามารถรักษาความสะอาดของตัวเองได้ค่อนข้างดี แต่ขนของพวกมันก็ยังเป็นปัญหาอยู่ไม่น้อย หมาสายพันธุ์นี้มีขนหนาสองชั้น และต้องการการแปรงขนอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และมีการผลัดขนอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

     อีกเรื่องหนึ่งที่คุณควรใส่ใจก็คือเรื่องสุขภาพ แม้ว่าโดยทั่วไปแล้วจะถือว่าไซบีเรียนฮัสกี้เป็นสายพันธุ์ที่มีสุขภาพแข็งแรงดีมาก แต่ก็ยังมีประเด็นด้านสุขภาพที่น่าเป็นห่วงอยู่ 2 เรื่องคือ โรคสะโพกเคลื่อน และโรคตาที่สามารถถ่ายทอดทางพันธุ์กรรมได้ สำหรับทั้ง 2 โรคนี้จะไม่น่าเป็นห่วงนักหากคุณซื้อไซบีเรียนฮัสกี้จากผู้เพาะพันธุ์ที่มีมารฐานและน่าเชื่อถือ เนื่องจากทั้งสองโรคสามารถป้องกันได้ด้วยการเพาะพันธุ์อย่างระมัดระวัง

     ไซบีเบียนฮัสกี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นพันธุ์หมาที่ค่อนข้างพิเศษ พวกมันตอบสนองต่อเสียงเรียกจากสัญชาตญาณดึกดำบรรพ์ แต่ก็ยังคงเป็นเพื่อนที่น่ารักของคนเราอยู่เสมอ เป็นส่วนผสมที่ไม่เลวเลยทีเดียวใช่ไหม