สุนัขสายพันธุ์ เลอร์เชอร์ (Lurcher) ตั้งเเต่อดีตนั้นมนุษย์เป็นผู้ที่นำสุนัขเข้ามาช่วยงานในหลายๆ ด้าน เเละหนึ่งในนั้นก็คือการล่าสัตว์ซึ่งเป็นงานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เเละหนึ่งในสุนัขสำหรับการล่าสัตว์ที่น่าสนใจก็คือ
เลอร์เชอร์ ที่มีความโดดเด่นเเละมีความสามารถสูงเป็นอย่างยิ่ง จนได้รับการยอมรับกันอย่างมาก เเม้ว่าพวกมันจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงเเละได้รับความนิยมในการเลี้ยงอย่างมากมายนักก็ตามที
โดยสุนัขสายพันธุ์อย่าง
Lurcher นั้นเป็นสุนัขที่มีความเเปลกเป็นอย่างยิ่ง เเละอาจมีลักษณะภายนอกหลากหลาย เนื่องจากไม่ค่อยเข้มงวดในการคัดเลือกพันธุ์หรือกำหนดมาตรฐานพันธุ์ แต่ก็เป็นสุนัขที่มีรูปร่างสมส่วนมีขนหยาบและชี้ออกคล้ายเส้นลวด ซึ่งเกิดจากการผสมพันธุ์กับสุนัขที่ใช้ล่ากวาง นับว่าเป็นสุนัขสำหรับการล่าสัตว์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
โดยจุดกำเนิดของสุนัขสายพันธุ์
เลอร์เชอร์ นั้นเริ่มตั้งเเต่ช่วงศตวรรษที่ 16 ในดินเเดนของเกาะไอร์แลนด์เเละเกาะบริเตนใหญ่ โดยว่ากันว่าชาวยิวซีในไอร์แลนด์ได้พัฒนาผสมพันธุ์สุนัขคอลลีกับพันธุ์เกรย์ฮาวนด์ และสายพันธุ์อื่นๆ เพื่อให้ได้สุนัขที่วิ่งเร็วและตอบสนองไว โดยนำพวกมันมาใช้ในการล่ากระต่ายป่า ซึ่งพวกมันก็สามารถทำผลงานได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ เเละเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงไว้สำหรับการล่าสัตว์อยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยทีเดียว โดยพวกมันนั้นจะมีขนสีดำช่วยพรางตัวสุนัขในขณะล่าสัตว์เวลากลางคืนได้ดี ปัจจุบันก็ยังมีการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้กันอย่างกว้างขวางในประเทศไอร์เเลนด์
สำหรับลักษณะของสุนัขสายพันธุ์
Lurcher นั้นมีความน่าสนใจตรงที่ โดยพวกมันมีส่วนสูงเฉลี่ย 69-76 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของน้ำหนักนั้นก็อยู่ที่ 27-32 กิโลกรัม โดยพวกมันมีตามีหัวยาวและแคบ ส่วนทางด้านของแววตานั้นมีความฉลาด สดใส โดยมีใบหูค่อนข้างเล็ก ส่วนทางด้านของช่วงคอยาวโค้งกลมและมีกล้ามเนื้อแข็งแรง โดยมีช่วงอกลึกและแข็งแรง ส่วนลำตัวยาว เเละมีขาหลังแข็งแรง ในขณะที่บั้นท้ายแข็งแรงมาก เเละข้อนิ้วเท้างอมาก ส่วนอุ้งเท้านั้นมีความหนา ส่วนทางด้านของลักษณะนิสัยนั้นพวกมันมีความสงบเสงี่ยม เเละสามารถตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว เป็นอย่างมากเลยทีเดียว
ความนิยมในการเลี้ยงสุนัขสายพันธุ์อย่าง
เลอร์เชอร์ นั้นมีความนิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมากในประเทศไอร์เเลนด์ เเละบางส่วนของประเทศอังกฤษ ส่วนในประเทศอื่นๆ นั้นไม่มีความนิยมเลี้ยงกันเเต่อย่างใด รวมทั้งในประเทศไทยที่ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักเเละไม่มีความนิยมเลี้ยงอีกด้วย