ความแตกต่างระหว่าง อเมริกันพิทบลู กับ อเมริกันบูลลี่ ( American Pitbull and American Bully )
ประวัติของสุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูล ในช่วงศตวรรษที่19 ผู้ที่นิยมสุนัขในประเทศอังกฤษ ไอร์แลนด์ และสก๊อตแลนด์ ได้เริ่มที่จะผสมข้ามสายพันธุ์ระหว่างบูลด๊อก กับ สุนัขเทอร์เรีย ที่กล้าหาญ ที่สุด และดีที่สุดเข้าด้วยกัน ผลจากการผสมข้ามสายนี้ จึงได้เป็นสุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย (Bull-and-Terrier) หรือพวกมันก็คืออเมริกันพิทบูลนั่นเอง เพื่อต้องการที่ จะได้สุนัขที่มีลักษณะเป็นเลิศในการล่าเหยื่อ ของสุนัขพันธุ์เทอร์เรีย กับ ความแข็งแกร่ง แล ะความปราดเปรียวที่เหมือนกับสุนัขพันธุ์บูลด๊อก ผลที่ออกมานั้น คือ สุนัขที่ประกอบไป ด้วยความเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ แข็งแรง ทรหด อดทน และอ่อนโยนกับคนที่มันรัก และในช่วงศตวรรษที่ 19 นี้เองได้มีการอพยพถิ่นฐาน ปรากฏว่ามีคนได้นำสุนัข บูล แอนด์ เทอร์เรีย นี้ไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้คนที่เป็นเกษตรกรและเจ้าของฟาร์มจึงได้มองเห็นความสามารถ ของสุนัขพันธุ์ อเมริกันพิทบูลและได้ใช้มันในการปกป้องทรัพย์สินและเป็นสุนัขที่ใช้สำหรับการไล่ล่า ต้อนฝูง วัว หมู รวมทั้งเลี้ยงเอาไว้เป็นเพื่อนสมาชิกในครอบครัว ปัจจุบันสุนัขพันธุ์อเมริกัน พิทบูลแสดงความสามารถได้ในหลากหลายด้านด้วยกัน อย่างเช่นการฝึกให้ เชื่อฟังคำสั่ง ความสามารถในการสะกดรอย เป็นสุนัขอารักขา และอีกความสามารถที่เด่นของสายพันธุ์นี้คือ การลากน้ำหนัก ยูไนเต็ด เคนนัล คลับ (ยูเคซี) เป็นผู้ขึ้นทะเบียนสุนัขพันธุ์อเมริกันพิทบูลเป็นรายแรก โดยที่ ซี แซท เบ็นเน็ทท์เป็น ผู้ก่อตั้งยูไนเต็ด เคนนัล คลับ(ยูเคซี) เขาได้มอบหมายให้ ยูเคซี เป็นผู้ที่จดทะเบียนเป็นรายแรกโดยการนำพิทบูลของตนเองมากำหนดเป็นมาตรฐาน ภายใต้ชื่อ เบ็นเน็ทท์ ริง ในปี 1898
ประวัติของสุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ อเมริกันบูลลี่ก็ คือ การผสมพันธุ์ระหว่าง บลูด๊อก กับ พิทบลู นั่นเองแล้วพัฒนาให้มีความเป็นมิตรและอ่อนโยนมากขึ้น รวมไปถึงพัฒนาให้มีความดุน้อยลง เพื่อให้เข้ากับคนได้ง่ายขึ้น อเมริกันบูลลี่มีขนาดโครงสร้างใหญ่ รูปร่างอ้วน เตี้ย ล่ำ กะโหลกใหญ่ ฉลาดหลักแหลม เป็นมิตร ขี้เล่น จนเป็นที่นิยมแพร่หลายของหมู่คนรักสุนัขในอเมริกา จึงมีการตั้งสมาคม ABKC ซึ่งเป็นสำนักงานจดทะเบียนสำหรับสุนัขอเมริกันบูลลี่ทั่วโลก
สำหรับอเมริกันบูลลี่แล้ว การออกกำลังกายก็เป็นเรื่องสำคัญทีเดียวแต่ก็ไม่หนักเท่ากับอเมริกันพิทบูล เพราะอเมริกันบูลลี่มันมีพละกำลังที่เยอะพอสมควร และอาจจะมีอารมณ์หงุดหงิดบ้าง(เพราะยังมีสายเลือดพิทบูลอยู่บ้าง) แต่ไม่รุนแรง การออกกำลังกายที่เหมาะกับบูลลี่อาจเป็นเพียงแค่การพาเขาไปวิ่งออกกำลังกายหรือการพาเขาไปเดินเล่น เป็นประจำ นั่นเองครับ
ถ้าเจอสุนัขแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นพิทบูล หรือ บูลลี่ ถ้าเราเห็นพิทบูลตัวเท่าหมาไทยหรือใหญ่กว่า คือสายโชว์ เอาไว้ประกวด ถ้าเราเห็น พิทบูล ผอมเพรียวแต่มีกล้าม คือสายกัด เอาไว้ใช้ใน game dog ถ้าเราเห็น พิทบูล ตัวเตี้ยๆ ล่ำๆนั้นคือ บูลลี่
สุนัขจะดุ ไม่ดุ อยู่ที่คนเลี้ยงนะครับ สายพันธุ์เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้นที่จะเป็นสิ่งที่บ่งชี้ได้ว่าสุนัขจะดุหรือไม่ แต่ปัจจัยที่สำคัญกว่าสายพันธุ์ก็คือการเลี้ยงดู เพราะการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง และการให้ความรักและการเอาใจใส่จากผู้เลี้ยงอย่างเพียงพอ จะทำให้เขาเป็นสุนัขที่มีสุขภาพจิตดีและอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าของครับ