เจ้าของน้องแมวเช็กหน่อย แมวเหมียวของเรามีอาการเหล่านี้รึเปล่า

โรคไรขี้เรื้อนแห้งในแมว มีสาเหตุมาจาก ตัวไร Notodres cati แต่อย่างไรก็ดี ตัวไร scabiei ก็มีรายงานว่าเป็นสาเหตุให้เกิดโรคนี้ในแมวได้ แต่พบได้น้อย ส่วนมากจะพบในสุนัข

แมวที่ป่วยเป็นโรคไรขี้เรื้อนแห้ง จะมีอาการเหล่านี้
🔎 ขนร่วง
🔎 ผิวหนังอักเสบ
🔎 มีเม็ดตุ่ม
🔎 มีสะเก็ดรังแค
โดยจะพบได้ตามใบหน้า จมูก หู โดยเฉพาะบริเวณขอบใบหูจะพบสะเก็ด การอักเสบ และขอบหูหนาตัว อาจลุกลามไปทั่วตัว ไม่ว่าจะเป็นขา ฝ่าเท้า จนถึงหาง โดยแมวอาจจะมีอาการคันรวมด้วย

นอกจากนี้แมวที่ป่วยมักมีสภาพร่างกายซูบผอม ร่างกายอ่อนแอ ซึ่งมักจะพบในลูกแมว หรือแมวที่เลี้ยงรวมกันหนาแน่นจนเกิดความเครียดหรือมีภูมิคุ้มกันต่ำ มักติดจากแมวสู่แมวโดยเฉพาะในแมวจรจัด

การวินิจฉัยจะใช้การขูดตรวจผิวหนัง เพื่อตรวจหาตัวไรดังกล่าว แล้วส่องหาผ่านทางกล้องโทรทรรศน์ หรือทำการทดสอบอาการคัน โดยการขยี้ที่ปลายใบหู (pinna-pedal reflex) หากแมวที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคไรขี้เรื้อนแห้ง จะยกขาข้างเดียวกับหูที่ขยี้ขึ้นมาเกาหูเช่นกัน

ส่วนการรักษานั้น  จะใช้ยาหยอดหลังคอชนิดเดียวกับที่ใช้หยอดเพื่อป้องกันเห็บ หมัด ไรในหู และพยาธิหนอนหัวใจในแมว นอกจากนี้อาจมีการให้ยาอื่น ๆ ร่วมด้วย ขึ้นอยู่กับอาการของแมวแต่ละตัว และอาจจะมีการนัดมาหยอดยาซ้ำ โดยอาการแมวจะเริ่มดีขึ้นภายใน 3-4 สัปดาห์ หลังจากที่เริ่มการรักษา

⚠ อย่างไรก็ดีไรขี้เรื้อนแห้งนี้ สามารถติดต่อสู่คนได้ โดยติดต่อจากการสัมผัสตัวน้องแมวที่ป่วยโดยตรง หรือติดต่อจากข้าวของเครื่องใช้ของแมว หรือวัสดุสิ่งของต่างๆ ผ้าปูเตียงที่ใช้ร่วมกับคน ⚠

👨‍⚕ ดังนั้นการกำจัดไรขี้เรื้อนแห้งนั้น นอกจากให้ยากับแมวตัวแมวแล้ว จึงจำเป็นต้องกำจัดและทำความสะอาดตามสิ่งแวดล้อม อุปกรณ์ที่แมวใช้ เบาะ ที่นอนต่างๆ เจ้าของต้องทำการดูดฝุ่น ทำความสะอาดด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ติดสู่คนเลี้ยงหรือแมวตัวอื่น ๆ ได้ต่อไป