เรื่อง: นอร์เวย์ ‘แบน’ หมาบูลด็อก ไม่ใช่เพราะพวกมันอันตราย
 
 3119

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

My Name: dognews ออฟไลน์
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
23 มิ.ย. 65, 15:40:00น.


นอร์เวย์ ‘แบน’ หมาบูลด็อก ไม่ใช่เพราะพวกมันอันตราย แต่เพราะพวกมันโดนมนุษย์สร้างมาให้ ‘เจ็บป่วย’

ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงเกิดขึ้น? จริงๆ ถ้าย้อนไปดู ชื่อ ‘บูลด็อก’ จริงๆ ก็น่าจะเดาออกว่ามันคือหมาที่มีไว้ ‘กัดวัว’ ซึ่งสมัยก่อนเป็น ‘กีฬายอดฮิต’ ของคนอังกฤษ (คนอังกฤษสมัยก่อน ชอบดูหมากัดกับสัตว์ต่างๆ และในช่วงประมาณ 400 ปีก่อน มันฮิตพอๆ กับฟุตบอลในสมัยนี้) และหมาบูลด็อกก็คือหมาที่ถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อกัดวัวเพื่อความบันเทิงของมนุษย์โดยเฉพาะ

หมาบูลด็อกสมัยก่อน ขายาว แข็งแรงปราดเปรียวและหน้าไม่สั้นขนาดนี้ แต่ทุกวันนี้หมาหน้าตาแบบนี้ไม่มีอยู่แล้ว และพวกมันถูกเรียกว่าโอลด์อิงลิชบูลด็อก (Old English Bulldog) ซึ่งปรากฏอยู่ในรูปวาด

ซึ่งเอาจริงๆ ถ้าไปดูรูปร่างหน้าตาของหมาบูลด็อกเมื่อ 100 ปีก่อน มันก็จะหน้าตาคล้ายโอลด์อิงลิชบูลด็อก แต่สิ่งที่จะเห็นก็คือ หน้ามันสั้นลง พร้อมๆ กับขา

และ 100 ปีต่อมา มันก็หน้าสั้นและขาสั้นลงอีก เป็นบูลด็อกที่เรารู้จักกันทุกวันนี้ที่มีปัญหาสุขภาพสารพัด

สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ นักเพาะพันธุ์หมาพยายามจะเพาะพันธุ์หมาให้มีลักษณะภายนอกแบบ ‘อุดมคติ’ พันธุ์ไหนต้องการให้หน้าสั้นก็ต้องสั้นสุดๆ ขาสั้นก็ต้องสั้นสุดๆ ฯลฯ และผลระยะยาวก็คือหมาพันธุ์นั้นๆ ทั้งหน้าและขาก็ล้วนสั้นลงหมด ซึ่งหมาลักษณะแบบนี้ก็คือหมาที่จะไปประกวดได้รางวัล ไปขายได้ในราคาที่แพง มนุษย์เลยผลิตมันออกมา

ภาวะที่ว่ามันเกิดกับพวก ‘หมาพันธุ์แท้’ ทุกสายพันธุ์ มากน้อยต่างกัน แต่บูลด็อกนี่เป็นพันธุ์ที่แทบจะยอมรับกันในสากลว่าได้รับผลกระทบจากกระบวนการนี้หนักสุด

เรื่องที่เกิดขึ้นมันมีความหมิ่นเหม่กับการ ‘ทรมานสัตว์’ มากในมุมของนักสิทธิสัตว์ คือทุกคนรู้ถึงกระบวนการแบบนี้ ทุกคนรู้ว่าหมาที่ ‘พิการ’ มากขึ้นเรื่อยๆ ถูกเพาะมาเรื่อยๆ นี้ ล้วนเพื่อผลประโยชน์ของฟาร์มเพาะเลี้ยงและสมาคมหมาสายพันธุ์แท้ต่างๆ แต่ไม่มีใครพูดอะไร

...แต่ในที่สุดสมาคมพิทักษ์สัตว์ของนอร์เวย์ก็ได้ฟ้องร้องสมาคมบูลด็อกในนอร์เวย์พร้อมฟาร์มเพาะเลี้ยงจำนวนหนึ่งฐาน ‘ทรมานสัตว์’ โดยอ้างข้อกฎหมายสิทธิสัตว์ที่ว่า ฟาร์มเพาะสัตว์มีหน้าที่เพาะสัตว์ที่ ‘มีสุขภาพดี’ แต่การเพาะบูลด็อกพันธุ์แท้ที่ ‘สุขภาพดี’ คือสิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยด้วยเหตุผลที่เล่ามา มันเป็นเพราะมนุษย์มองความพิกลพิการที่สร้างปัญหาสุขภาพเป็นสิ่งที่น่ารักและสวยงาม

นี่น่าจะเป็นคดีแรกๆ ในโลกที่สมาคมสิทธิสัตว์พยายามจะแบนหมาบางสายพันธุ์ และผลก็เป็นไปด้วยดี การฟ้องร้องเริ่มในปี 2018 และในที่สุดปี 2022 ศาลที่กรุงออสโลก็ตัดสินออกมาแล้วว่า ทั้งสมาคมและนักเพาะพันธุ์บูลด็อกล้วนมีความผิดจริงฐานทรมานสัตว์ ในการเพาะพันธุ์หมาบูลด็อกออกมา (โดยจริงๆ สมาคมและนักเพาะเลี้ยงหมาพันธุ์คาวาเลียร์คิงชาร์ลส์สแปเนียล ก็โดนฟ้องพร้อมกัน และแพ้คดีไปพร้อมกัน)

สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ยิ่งใหญ่มาก และน่าจะเป็นชัยชนะของ ‘นักสิทธิสัตว์’ ระดับโลกเลยก็ว่าได้ และมันอาจทำให้นักสิทธิสัตว์ในประเทศอื่นๆ ทำการฟ้องร้องเพื่อจะแบนการเพาะพันธุ์หมาบางสายพันธุ์ที่มีลักษณะ ‘จงใจจะสร้างปัญหาสุขภาพในนามของความน่ารัก’

แน่นอน นี่ทำให้สวัสดิภาพของหมาดีขึ้น แต่เหล่า ‘คนรักหมา’ บางสายพันธุ์ก็อาจสะดุ้งว่าแบบนี้จะ ‘ห้ามเลี้ยง’ หรือไม่ คำตอบคือแม้แต่นอร์เวย์เขายังไม่ทำแบบนั้นเลย เพราะตัวไหนเกิดมาแล้วก็เลี้ยงไป คนเลี้ยงก็รักไป แต่ให้มันจบแค่นั้น แต่อย่าให้พวกนักค้าสัตว์เลี้ยงได้เพาะพันธุ์พวกมันมาขายโดยไม่คำนึงถึง ‘ปัญหาสุขภาพ’ ของพวกมันอีกเลย เพราะถ้าไม่มีกฎหมายห้าม หมาพวกนี้ก็ยังจะเกิดต่อไป และอีก 100 ปีข้างหน้า รูปร่างหน้ามันอาจผิดรูปและอายุสั้นลงไปกว่าตอนนี้ก็ได้

จริงๆ หมาพันธุ์แท้จำนวนไม่น้อยมันก็ไม่ได้มีปัญหาสุขภาพอะไรมากมาย และเหล่านักสิทธิสัตว์ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ลักษณะต่างๆ ของมันรวมๆ แล้วมี ‘ประโยชน์ใช้สอย’ ชัดเจน ไม่ใช่มีไปเพื่อความน่ารักแต่สร้างปัญหาสุขภาพ เพราะหมาที่ยังเพาะพันธุ์บนฐานประโยชน์ใช้สอย เขาจะมีความกังวลและใส่ใจด้านสุขภาพของพวกมันโดยพื้นฐาน (เช่น แม้ว่าสายพันธุ์อย่างโกลเด้นรีทรีฟเวอร์ และลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ สรีระมันอาจมีปัญหาเรื่องสะโพกเคลื่อนบ้างตอนแก่ แต่หน้าที่ของสายพันธุ์แท้พวกนี้รวมๆ ก็คือเป็นหมานำทาง หมาเพื่อการบำบัด ซึ่งนี่หมายถึงมันเป็นสายพันธุ์แท้ที่มีปัญหาสุขภาพเพียงนิดหน่อย แต่ลักษณะรวมๆ ของพวกมันมีประโยชน์กับมนุษย์มาก ดังนั้นปัญหาสุขภาพที่ว่ามันจึงควรจะเป็นสิ่งที่ยอมรับได้ เป็นต้น)

และสำหรับชะตากรรมของบูลด็อกเอง จริงๆ ทางฝั่งอเมริกา ก็มีการเพาะสายพันธุ์โอลด์อิงลิชบูลด็อก (Olde English Bulldogge – ออกเสียงเหมือน Old English Bulldog แต่จงใจสะกดไม่เหมือน) ขึ้นมา ซึ่งจริงๆ ก็คือการพยายามจะทำให้บูลด็อกกลับไปมีรูปร่างหน้าตาแบบดั้งเดิม คือมีความสมส่วนและมี ‘สุขภาพดี’ แบบในอดีต ไม่ใช่หมาอายุสั้นที่คลอดลูกเองไม่ได้อย่างในปัจจุบัน

ดังนั้นทางออกมันมีหลากหลาย และทั้งหมดเป็นไปเพื่อสวัสดิภาพของหมา ซึ่งคนที่เอาผลประโยชน์ของสัตว์เป็นที่ตั้งจริงๆ ก็น่าจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ เว้นแต่เราจะคิดว่าการเพาะพันธุ์สัตว์เพื่อตอบสนองความต้องการสัตว์เลี้ยงน่ารักของมนุษย์โดยไม่คำนึงถึงสุขภาพของพวกมัน เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว

Tags: