เรื่อง: โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันจัดงานรวมพลคนรักปั๊ก
 
 2536

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

My Name: ขายหมา ออฟไลน์
Administrator
เพศ: ชาย
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
10 ม.ค. 57, 16:16:05น.

          โรงพยาบาลสัตว์ตลิ่งชันจัดงานรวมพลคนรักปั๊ก เพื่อให้ความรู้แก่เจ้าของหมาปั๊ก  ซึ่งเป็นพันธุ์ที่สรีระของร่างกายเกิดโรคต่างๆ ได้ง่าย ในหัวข้อ   “เลี้ยงปั๊กอย่างไรให้ห่างไกลโรคผิวหนังขี้เรื้อน โรคเชื้อรา เชื้อยีสต์ในหูและโรคฮีทสโตก” ให้สามารถนำความรู้ไปปรับใช้ในการเลี้ยงหมาพันธุ์ปั๊กให้ห่างไกลโรค
     โดยโรคฮีทสโตก (Heatstroke) หรือภาวะช็อคจากความร้อน เกิดขึ้นเมื่อร่างกายของสุนัขมีอุณหภูมิสูงตั้งแต่ 41-44 องศาเซลเซียส จึงทำให้ร่างกายสูญเสียความสามารถในการระบายความร้อน ทำให้น้องหมามีอัตราการเสียชีวิตสูงถึง 36-50%   วิธีการป้องกัน คือ คอยสังเกตอาการของสุนัขบ่อยๆ หากเมื่อใดก็ตามที่สุนัขดูหอบมากกว่าปกติ นั่นเป็นสัญญาณเริ่มแรกของโรคฮีทสโตก เจ้าของต้องรีบให้สุนัขอยู่ในที่เย็น หลบแดด หาน้ำให้ทาน และรีบเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นเมื่อมีไข้ ตรวจสอบสถานที่ๆสุนัขอยู่ให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
      โรคติดเชื้อแบคทีเรีย ยีสต์ เชื้อรา แบคทีเรียจะมีอยู่ที่ตัวสุนัขเอง เนื่องจากปั๊กมีชั้นผิวหนังหนา มีการผลิตไขมันที่ผิวเยอะ โดยไขมันก็เป็นอาหารของเชื้อโรค จึงทำให้มีปัญหาโรคติดเชื้อได้ง่าย เมื่อเป็นโรคจะเกิดอาการตุ่มแดง ตุ่มหนอง ขนร่วง ผิวแดง มีรังแค คัน ส่วนเชื้อยีสต์ เชื้อราและไรในหูจะส่งผลให้เกิดการอักเสบของหลืบผิวหนัง และช่องหูอักเสบ เนื่องจากซอกหลืบผิวหนังนี้เป็นบริเวณที่อาหารถ่ายเทไม่สะดวกและอับชื้นง่าย สุนัขจะมีอาการคันมาก ขนร่วง ผิวแดง วิธีการดูแลต้องเช็ดทำความสะอาดทำให้ซอกหลืบแห้งอยู่เสมอและการคุมน้ำหนักจะลดการเกิดโรคนี้ได้
        สุดท้ายโรคขี้เรื้อนแห้งที่จะทำให้สุนัขจะมีอาการคันมาก ขนร่วงและสะเก็ดแห้งๆ มักเกาะอยู่บริเวณใบหูก่อน แล้วลามไปบริเวณอื่น หากตรวจพบเร็วการรักษาจะไม่ยุ่งยาก การใช้ยาฆ่าตัวไรเพียง 2 ครั้ง โดยมีระยะเวลาห่างกัน 2 สัปดาห์ก็สามารถตัดวงจรได้ ส่วนโรคขี้เรื้อนเปียกพบเชื้อได้ในผิวหนังปกติ แต่หากร่างกายอ่อนแอ ภูมิคุ้มกันต่ำหรือมีปัญหาโน้มนำจากโรคอื่น เช่น ภูมิแพ้ โรคฮอร์โมนต่างๆ ก็จะทำให้ขี้เรื้อนมีจำนวนมากขึ้นและก่อโรคได้ ทั้งนี้ การรักษาขี้เรื้อนเปียกนั้นค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลาในการรักษานาน ต้องใช้การรักษาหลายอย่างร่วมกันทั้งยาทานและยาภายนอก รวมถึงแชมพูยาด้วยและสุนัขอาจกลับมาเป็นใหม่ได้ จำเป็นต้องหมั่นตรวจดูแลปั๊กสม่ำเสมอ และการจัดสภาพสิ่งแวดล้อมให้ดีควบคู่ไปด้วยจะลดโอกาสการเกิดโรคของน้องหมา หรือหากพบความผิดปกติใดๆ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็วที่สุดเพราะหากมีอาการมากแล้วการรักษาจะยุ่งยาก ซับซ้อน ใช้เวลาในการรักษานาน
แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14 ธ.ค. 63, 11:44:09น. โดย ขายหมา

Tags: