สุนัขสายพันธุ์ ซอฟโค้ต วีเทน เทอร์เรียร์ (Soft-coated Wheaten Terrier)

          สำหรับสุนัขสายพันธุ์เทอร์เรียนั้นนับว่าเป็นสุนัขที่มีความสามารถเเละน่าสนใจอยู่หลายสายพันธุ์ โดยอย่าง ซอฟโค้ต วีเทน เทอร์เรียร์ ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งในสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยงเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย ถึงเเม้ว่ามันจะไม่ค่อยเป็นที่รู้จักมากนักก็ตาม เเต่ก็เป็นอีกหนึ่งในสุนัขที่มีความน่าสนใจในการนำมาเลี้ยง



          Soft-coated Wheaten Terrier นั้นมีลักษณะพิเศษคือไม่ผลัดขน แต่ต้องแปรงขนให้ทุกวันเพื่อป้องกันขนพันกัน สีขนเหมือนสีของข้าวสาลีที่แก่ จึงเป็นที่มาของชื่อพันธุ์ "วีเทน" ถ้ามีขนสีขาวหรือสีแดงแซมจะถือว่าไม่ได้มาตรฐาน ลูกสุนัขเกิดใหม่อาจมีแถบขนสีเข้มบางบริเวณ แต่ควรจะจางหายไปเมื่ออายุ 2 ปี ลักษณะขนที่มีสุขภาพดีจะหยักศกเล็กน้อย และห้อยปกคลุมร่างกายอย่างอิสระ

          โดยตามประวัติเเล้ว ซอฟโค้ต วีเทน เทอร์เรียร์ มีถิ่นกำเนิดไม่ทราบแน่นอน แต่พบมากในเขตเมืองเคอร์รี ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของสุนัขพันธุ์เคอร์รี บลู เทอร์เรียร์ และแถบเมืองคอร์ก ในประเทศไอร์แลนด์ แต่เชื่อว่าเป็นสุนัขพันธุ์เทอร์เรียร์ที่เก่าแก่ที่สุดในไอร์แลนด์ นอกจากใช้ต้อนฝูงวัวและจับหนูแล้ว ยังช่วยล่าตัวแบดเจอร์และนากด้วย โดยที่น่าสนใจก็คือพวกมันเป็นสุนัขที่ฝึกยากแต่เมื่อผ่านการฝึกแล้วจะใช้งานได้ดีมาก ปัจจุบันนั้นยังมีความนิยมเลี้ยงกันอย่างมากตามชนบทของไอร์เเลนด์ เเละเเพร่กระจายเข้าไปในไอร์เเลนด์เหนือ เเละอังกฤษอีกด้วย



          ส่วนทางด้านของลักษณะเเล้ว Soft-coated Wheaten Terrier ตัวผู้จะมีความสูงประมาณ 46-48 เซนติเมตร ส่วนตัวเมียจะมีความสูง 43-46 เซนติเมตร ส่วนทางด้านของน้ำหนักนั้นตัวผู้จะมีน้ำหนัก 16-18 กิโลกรัม เเละตัวเมียจะมีน้ำหนัก 14-16 กิโลกรัม โดยมีช่วงชีวิตเฉลี่ยอยู่ที่ 12 ถึง 15 ปี โดยมีขนบนหัวยาวปิดตา ส่วนริมฝีปากสีดำและปิดสนิท จมูกใหญ่สีดำ โดยใบหูรูปตัว V และพับหักลงมา ส่วนทางด้านของลำคอยาวปานกลางมีกล้ามเนื้อแข็งแรง ช่วงปากรูปสี่เหลี่ยม ขากรรไกรแข็งแรง ช่วงอกลึก ขาหลังใหญ่และแข็งแรง เท้ามีพละกำลังมากและมีเล็บเท้าสีดำ หางอยู่ค่อนข้างสูงตั้งชี้ขึ้น และนิยมตัดหาง ส่วนทางด้านของลักษณะนิสัยนั้นก็มีความเเสนรู้ ขี้เล่น เเละร่าเริงอีกทั้งยังซื่อสัตย์อีกด้วย

          ซอฟโค้ต วีเทน เทอร์เรียร์ นั้นยังมีความนิยมเลี้ยงกันเป็นอย่างมากอยู่ในประเทศไอร์เเลนด์ และเกาะบริเตนใหญ่ ส่วนทางด้านของในประเทศไทยนั้นเเทบจะไม่รู้จักสายพันธุ์นี้เลยก็ว่าได้ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงในประเทศไทย