สุนัขสายพันธุ์ นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์ (Norfolk Terrier)

          สุนัขเทอร์เรียร์ อีกหนึ่งสายพันธุ์ที่เป็นที่รู้จักเเละสนใจของเหล่าบรรดาผู้เลี้ยงสุนัขสายพันธุ์นี้กันอย่างมากมายอีกคือ นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์  ซึ่งเเม้ว่าพวกมันจะเป็นสุนัขที่มีลักษณะตัวเล็กเเต่ก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความน่าสนใจเเละความสามารถในการทำงานหลายต่อหลายอย่างเช่นกัน

          Norfolk Terrier นั้นเป็นสุนัขที่มีโครงร่างเล็ก เเละมีเสน่ห์ทำให้ผู้ที่ได้มาพบพวกมันต่างก็ต้องชื่นชอบ โดยพวกมันนั้นมีสายเลือดใกล้ชิดกับพันธุ์นอริช เทอร์เรียร์ แต่ใบหูจะพับไปด้านหน้า ขนชั้นนอกแข็งและชี้ ส่วนขนชั้นในขึ้นหนาแน่น ไม่นิยมแต้มขนสีขาว เป็นสุนัขที่มีความไวในการวิ่งสูงอีกหนึ่งสายพันธุ์ เเละเป็นสุนัขที่ได้รับความนิยมในการเลี้ยงอยู่ช่วงเวลาหนึ่งเลยก็ว่าได้



          ตามประวัติเเล้วกล่าวว่า นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์ ถือกำเนิดขึ้นในประเทศอังกฤษ เมื่อราวๆ ศตวรรษที่ 18 โดยเเต่เดิมนั้นสุนัขสายพันธุ์นอร์ฟอล์ก และสุนัขสายพันธุ์นอริช เทอร์เรียร์ จัดเป็นสุนัขพันธุ์เดียวกันจนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1964 จึงได้แยกพันธุ์และได้รับการปรับปรุงสายพันธุ์เพื่อใช้งานในฟาร์ม บริเวณเขตอีสต์แองเกลีย ของอังกฤษ โดยงานหลักของพวกมันนั้นก็คือการล่าหนู ซึ่งสามารถทำผลงานได้ดีเป็นอย่างยิ่ง จนกลายมาเป็นสุนัขอีกหนึ่งสายพันธุ์ประจำฟาร์มในเขตอีสต์แองเกลียเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันก็ยังคงมีความนิยมเลี้ยงพวกมันเอาไว้สำหรับการไล่หนูอยู่เช่นเดิม เเม้ว่าจะมีได้รับความนิยมในการเลี้ยงในบ้านเพิ่มมากขึ้นก็ตามที เเละมีเรื่องที่น่าสนใจว่ารอยแผลเป็นที่เกิดจากการใช้งานในสุนัขพันธุ์นี้ไม่ถือว่าผิดมาตรฐาน

          โดยทางด้านของ Norfolk Terrier นั้นมีช่วงชีวิตระหว่าง 12 ถึง 15 ปี โดยพวกมันนั้นมีส่วนสูงประมาณ 25-28 เซนติเมตร เเละมีน้ำหนักประมาณ 5-5.5 กิโลกรัม โดยพวกมันมีกะโหลกค่อนข้างกลมและกว้าง  หูปรกชี้ไปด้านหน้าชิดกับแก้ม ส่วนช่วงปากรูปทรงคล้ายลิ่มและแข็งแรง  เส้นขนบริเวณหัวไหล่ค่อนข้างหยาบและยาว  นิยมตัดหางให้สั้น โดยมีสีขนที่เป็นทั้งสีดำและน้ำตาลแทน, สีแดง, สี Wheaten, สี Grizzle ส่วนทางด้านของลักษณะนิสัยนั้นมีความตื่นตัว เเละเป็นมิตร อย่างยิ่ง



          นอร์ฟอล์ก เทอร์เรียร์ นั้นถือว่าเป็นสุนัขสายพันธุ์ที่มีการเลี้ยงกันเป็นอย่างมากในประเทศอังกฤษ เเต่ก็ไม่ได้รับความนิยมเลี้ยงในประเทศอื่นๆ เเต่อย่างใดมากนัก ยิ่งในประเทศไทยเเล้ว เเทบจะไม่รู้จักพวกมันเลยก็ว่าได้ ฉะนั้นเเล้วความนิยมในการเลี้ยงจึงไม่มี เเต่ก็นับว่าเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์ที่มีความน่าสนใจเเละน่าเลี้ยงเหมือนกัน