เรื่อง: โรคพยาธิเม็ดเลือดในน้องหมา
 
 5466

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

My Name: ขายหมา ออฟไลน์
Administrator
เพศ: ชาย
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
  • ดูรายละเอียด
13 ม.ค. 57, 23:09:55น.


         โรคพยาธิเม็ดเลือดในน้องหมา จะมี 2 ระยะคือ แบบเฉียบพลัน และเรื้อรังแบบเฉียบพลัน น้องหมาจะมีไข้สูง ซึม เบื่ออาหาร น้องหมาบางตัวอาจพบว่าเลือดกำเดาไหล   พบจุดเลือดออกตามตัว ในน้องหมาที่แข็งแรงร่างกายอาจพัฒนาภูมิคุ้มกันมาทำลายเชื้อเอง แต่ถ้าภูมิคุ้มกันไม่ดี พอเชื้อพยาธิเม็ดเลือดจะพัฒนาเข้าสู่อาการแบบเรื้อรัง ซึ่งจะมีอาการรุนแรงตั้งแต่ ซึม มีไข้สูง เลือดกำเดาไหลมาก ปัสสาวะเป็นเลือด หายใจลำบาก จนถึงไขกระดูกทำงานบกพร่องค่ะ ภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง ทำให้โลหิตจาง เม็ดเลือดขาวและเกล็ดเลือดต่ำ ไตวาย ตับอักเสบเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และนำไปสู่การเสียชีวิตได้ซึ่งอันตรายมากเลยนะค่ะ

Eabesia spp. จะอยู่ในเม็ดเลือดแดง และพบว่าในน้องหมาตัวเล็กจะแสดงอาการรุนแรงกว่าน้องหมาตัวโต อาการที่พบบ่อยจะมี ไข้สูง โลหิตจาง ซึม เบื่ออาหาร ในรายที่รุนแรง บริเวณเยื่อเมือก ใบหู จะซีดเหลือง ฉี่เป็นส้ม แดง หรือน้ำตาล เนื่องจากมีการแตกของเม็ดเลือดแดง ตับ ม้ามโต น้องหมาบางตัวอาจมีอาการทางประสาท

 Hepatozoon spp. ชนิดนี้เกิดจากน้องหมากินเห็บเข้าไป อาการที่แสดงออกมักไม่ชัดเจนมีอาการ เจ็บปวด กล้ามเนื้อ มีน้ำมูก น้ำตา ท้องเสีย เบื่ออาหาร กินน้ำมาก ปัสสาวะมาก ปอดผิดปกติ นอกจากนี้ hepatozoon ยังถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกขณะตั้งครรภ์ได้อีกด้วย

วิธีการรักษา โรคพยาธิเม็ดเลือดในน้องหมา
- ถ้าสังเกตุพบน้องหมามีอาการข้างต้นควรไปพบสัตวแพทย์ทันทีค่ะ สัตวแพทย์จะให้ยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือด ร่วมกับการรักษาตามอาการ เพื่อควบคุมภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น
สำหรับการรักษาก็จะแยกไปตามชนิดของเชื้อ หากน้องหมาป่วยด้วยเชื้อออร์ลิเชียสัตวแพทย์ก็จะฉีดยาหรือจ่ายยาในกลุ่ม tetracycline ให้ป้อนกินติดต่อกันอย่างน้อย 21-28 วัน ร่วมกับการรักษาตามอาการ หากมีภาวะโลหิตจางก็ต้องให้ยาบำรุงเลือดหรือถ่ายเลือดให้ ด้วยเป็นต้น
- ถ้าป่วยด้วยเชื้อบาบิเซียและเฮปปาโตซูน จะรักษาด้วยการฉีดยา เช่น กลุ่ม aromatic diamidine (Imidocarb) สองครั้ง โดยฉีดห่างกัน 14 วัน แต่ยานี้เป็นสารเคมีซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ไอ น้ำลายไหล จึงจำเป็นต้องให้ร่วมกับในกลุ่ม anticolinergic เพื่อลดผลข้างเคียงดังกล่าว
             แต่ไม่ว่าจะติดเชื้อชนิดใดก็ตาม หลังจากการรักษา ก็ควรจะต้องมีการตรวจเลือดซ้ำ เพื่อตรวจร่างรายเป็นระยะ ๆ ซึ่งโรคพยาธิในเม็ดเลือดนี้ บางเชื้อ เช่น เฮปาโตซูนอาจไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เนื่องจากเชื้อสามารถซ่อนตัวอยู่ในตับ ม้าม และต่อมน้ำเหลืองได้ เมื่อน้องหมาที่เคยเป็นโรคนี้อ่อนแอลง ก็อาจจะกลับมาป่วยได้อีก

             และสิ่งสำคัญสุดเมื่อใดที่น้องหมายังมีเห็บอยู่ น้องหมาก็พร้อมที่จะกลับติดเชื้อและป่วยได้ใหม่อีกครั้งเช่นกัน ควรป้อนยาให้ครบตามที่คุณหมอจัดให้ เพราะมีเจ้าของบางท่านที่มักจะหยุดป้อนยาเมื่อน้องหมามีอาการดีขึ้น ซึ่งทำให้การรักษาไม่ได้ประสิทธิภาพ และโรคอาจพัฒนาเป็นแบบเรื้อรังในที่สุด

             วิธีการป้องกันที่จะไม่ให้เกิดโรคนี้กับน้องหมาของเราที่ดีที่สุดก็คือ  การจำกัดเห็บรักษาความสะอาดน้องหมา ให้ยาฆ่าเห็บสม่ำเสมอและควรให้บริเวณกรงหรือที่อยู่ของน้องหมาสะอาดไม่เป็นแหล่งเพาะเห็บ และหากน้องหมามีอาการเป็นไข้ ซึม เบื่ออาหาร สงสัยจะเป็นโรคพยาธิเม็ดเลือดควรรีบพามาหาหมอโดยเร็วค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะค่ะ ^^ Marketdogs

แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19 ส.ค. 61, 15:00:29น. โดย ขายหมา

Tags: