ตลาดซื้อขายหมาทุกสายพันธุ์ รูปหมาน่ารักและคลิปหมาน่ารัก

พูดคุย แนะนำ ทั่วไป => โรคที่มักพบ => ข้อความที่เริ่มโดย: ขายหมา ที่ 18 เม.ย. 64, 21:33:24น.

หัวข้อ: โรคแพ้น้ำลายหมัดในสุนัขและแมว
เริ่มหัวข้อโดย: ขายหมา ที่ 18 เม.ย. 64, 21:33:24น.
โรคแพ้น้ำลายหมัดในสุนัขและแมว

   หมัดในสุนัขและแมว สามารถทำให้เกิดอาการแพ้และแสดงการคันได้เป็นวันๆหลังจากการกัดเพียง 1 ครั้ง หรือบางครั้งมองไม่เห็นตัวหมัด แต่หมัดอาจจะปล่อยขี้หมัดซึ่งมีลักษณะสีดำๆ เป็นฝุ่นผงๆอยู่บนตัวน้องหมาน้องแมว เพราะฉะนั้นถ้าน้องหมาของเราเริ่มมีอาการคันมากเป็นพิเศษ แต่ไม่เห็นความผิดปกติอื่นๆ อาจจะต้องนึกถึงโรคนี้ไว้ด้วย

(https://pic.marketdogs.com/images/2021/04/18/_210418_4.jpg)

ความน่ากลัวของหมัด

   หมัดจัดเป็นกลุ่มแมลง มีลักษณะตัวเล็กสีดำ และวิ่งเร็วๆ บางครั้งอาจจะพบเพียงขี้หมัด (flea dirt) บนตัวสัตว์หรือบนสิ่งแวดล้อม หมัดมีขา 3 คู่ โดยขาคู่หลังแข็งแรงมาก สามารถกระโดได้สูงถึง 18 เซนติเมตร จึงสามารถติดต่อระหว่างสิ่งแวดล้อม คน และสัตว์เลี้ยงได้ หมัดจะอาศัยอยู่บนสิ่งแวดล้อม อย่างเช่น ดิน พรม หรือที่นอนของสัตว์เลี้ยง และจะขึ้นมากินเลือดสุนัขและแมว (Host) และสามารถขึ้นตัวคนได้ด้วย (accidental host) โดยสามารถมีอายุได้ถึง 2 ปี ขึ้นกับสภาพแวดล้อม แต่โดยเฉลี่ยมีชิวีตที่ประมาณ 2 เดือน

หมัดสามารถกินเลือดสัตว์เลี้ยงและทำให้เกิดภาวะโลหิตจางได้ หากติดหมัดเป็นจำนวนมาก ถ้าสุนัขหรือแมวเผลอกินหมัดเข้าไปโดยบังเอิญ อาจจะเพราะกัดแทะร่างกายเพราะคันมาก อาจจะมีโอกาสติดพยาธิที่มากับหมัดได้ด้วย และบางตัวมีอาการแพ้น้ำลายหมัดรุนแรง

อาการแพ้น้ำลายหมัดในสุนัขและแมว
 
   มักจะมีอาการคันมากบริเวณหลัง หรือท้ายลำตัว บางรายอาจจะเกากัดแทะจนเป็นแผลเกิดการอักเสบติดเชื้อตามมา นอกจากอาการคันรุนแรงแล้ว อาจจะพบว่ามีขนร่วง หรือขนบริเวณหลังและท้ายลำตัวบางลง ผิวหนังเป็นสีแดง หรือหนาตัวมากกว่าปกติ

การรักษาโรคแพ้น้ำลายหมัดในสุนัขและแมว

   สัตวแพทย์จะวินิจฉัยโดยดูจากอาการร่วมกับการพบตัวหมัดหรือขี้หมัดบนตัวสุนัข หรืออาจจะส่งตรวจภูมิแพ้ร่วมด้วย จากนั้นจะต้องให้ยาเพื่อรักษาอาการติดหมัด ซึ่งมีทั้งรูปแบบยากิน ยาหยอดหลัง (ควรป้องกันต่อเนื่องหลังจากหายแล้ว) และจำเป็นต้องรักษาอาการแพ้ร่วมด้วย โดยมากถ้ามีการแพ้รุนแรงและคันมาก จะพิจารณาให้ยาลดอักเสบชนิดที่เป็นสเตียรอยด์ในช่วงแรกทั้งรูปแบบกินและแบบทาที่ผิวหนังเพื่อลดอาการคัน ถ้าน้องหมาหรือน้องแมวเกาบริเวณที่แพ้มากจนเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อน สัตวแพทย์จะพิจารณาให้ยาฆ่าเชื้อแบคทีเรียแบบกินร่วมด้วย และสัตว์เลี้ยงควรได้รับการถ่ายพยาธิทางเดินอาหารทุกครั้งถ้ามีการพบหมัดบนตัว ระยะเวลาในการรักษาอาจจะใช้เวลา 2-4 สัปดาห์ขึ้นกับความรุนแรง

พาน้องไปรักษาแล้วอย่าลืมวิธีกำจัดหมัดในสิ่งแวดล้อม

   อย่าคิดว่าการพาน้องหมาน้องแมวไปรักษาแล้วจะหมดหน้าที่ของเรา สิ่งที่สำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งคือการกำจัดแหล่งที่อยู่ของหมัดภายในบ้าน การพบหมัดบนตัวสัตว์ 1 ตัว หมายถึงยังมีหมัดอยู่ในบ้านเราอีกหลายร้อยตัว

-   ทำความสะอาดที่นอนสัตว์เลี้ยงทุกสัปดาห์ เนื่องจากไข่หมัดและตัวอ่อนของหมัดเล็กมากจนไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ที่นอนที่ดูสะอาด อาจจะเป็นรังโรคของหมัดอยู่
-   ใช้เครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดพื้น พรม เฟอร์นิเจอร์ และผ้าม่านหลังจากดูดฝุ่นเสร็จควรทิ้งถุงดูดฝุ่นโดยห่อให้มิดชิดเพื่อป้องกันไข่หมัด และตัวอ่อนของหมัดหลุดรอดออกมา
-   ทำความสะอาดด้วยการถูพื้นในบริเวณที่สุนัขนอนเป็นประจำ
-   ควรเรียกบริษัทกำจัดปลวกที่ดูแลที่อยู่อาศัยของเราเข้ามาพ่นยาอย่างน้อยทุก 3 – 6 เดือน
      

แหล่งที่มา
https://vcahospitals.com/know-your-pet/allergy-flea-allergy-dermatitis-in-dogs
https://dermnetnz.org/topics/flea-bite/
https://www.comfortis.com/flea-life-cycle